20/02/2023
ทฤษฎีต้มกบกำลังดำเนินการอย่างเรื่อยๆ
ที่สำคัญคือกบสูงอายุหรือ Generation X Y จะไม่ค่อยรู้สึกเพราะน้ำยังเพิ่งเริ่มอุ่นๆเบาๆสบายๆ และใกล้เปลี่ยนผ่านสู่รุ่นต่อไปแต่รุ่นนี้แหละที่เป็นผู้ก่อปัญหาภาวะโลกร้อนโดยทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ
ปัญหาที่เริ่มเห็นชัดมากขึ้นและหมดทางแก้หากไม่ช่วยกันของทุกรุ่นจะไปตกที่ลูก หลาน เหลน และอาจจะไม่มีรุ่นถัดไปที่อยู่อย่างปกติสุขได้อีกเลยเพราะกว่าจะถึงจุดเดือดที่หมดหนทางหนีแล้วนั้น คือรุ่น Generation Z and Alfa และหลังจากนั้น
#ภาวะโลกร้อนหนักกว่าที่เราคิด
รายงานเตือน! โลกกำลังตกอยู่ใน ‘วังวนแห่งหายนะ’ ของสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งไปเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง และมันก็กลับมาเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง วนซ้ำเติมมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น นักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้มีการจัดการอย่างเร่งด่วน
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากสถาบันต่าง ๆ เช่น Oregon State University, Exeter University และ Potsdam Institute for Climate Impact Research ในเยอรมนี ได้ศึกษาสภาพอากาศเพื่อระบุ 41 ลูป (Loop) ที่กำลังเกิดขึ้น
ในจำนวนนี้ พวกเขาพบว่ามี 27 สิ่งกำลังทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสูญเสียผืนป่า พื้นที่แห้งแล้ง และการละลายของน้ำแข็งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง กระบวนการนี้ยิ่งซ้ำเติมวังวนให้เกิดผลรุ่นแรงกว่าเดิม ขณะที่มีเพียง 7 สิ่งเท่านั้นที่ช่วยชะลอวิกฤตสภาพอากาศ
ยกตัวอย่างเช่นน้ำแข็งอาร์กติก อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นทำให้น้ำแข็งในทะเลละลาย และทำให้น้ำทะเลด้านบนใสขึ้นจนเห็นสีเข้มที่อยู่ข้างล่าง เนื่องจากพื้นผิวสีเข้มดูดซับความร้อนได้มากกว่า น้ำในมหาสมุทรจึงอุ่นขึ้นและน้ำแข็งละลายมากขึ้นที่จะกลับไปทำให้ผิวน้ำใสและมหาสมุทรอุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก
และรายงานได้เน้นย้ำอีกว่าผลวังวนหายนะนี้สามารถส่งผลกระทบทางอ้อมต่อกันและกันให้มากขึ้นไปอีก ชี้ให้เห็นว่าทุกสิ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้นเชื่อมโยงกัน ซึ่งสามารถเร่งผลกระทบของวิกฤตสภาพอากาศได้ ตัวอย่างเช่น มลพิษจากภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งที่เคยปกคลุมบนพื้นดินละลาย กลายเป็นพื้นดินที่แห้งแล้งและร้อนขึ้น
เมื่อร้อนและแห้ง มันก็กลายเป็นที่ที่เหมาะกับการเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นและลุกลามเร็วขึ้น โดยไฟป่าที่เกิดก็จะไปเพิ่มมลพิษให้กับโลกร้อน ที่จะยิ่งวนกลับมาละลายน้ำแข็งให้มากขึ้นและก็สร้างโอกาสเกิดไฟป่าขึ้น วนอยู่ในลูปแห่งหายนะ
สิ่งสำคัญคือต้อง “พยายามรับมืออย่างเข้มแข็งกับวังวนเหล่านี้” ทิม เลนตัน ประธานสาขา Climate Change and Earth System Science แห่งมหาวิทยาลัย Exeter และหนึ่งในผู้เขียนงานวิจัย กล่าวกับ CNN
รายงานเรียกร้องให้มีการลดมลพิษจากภาวะโลกร้อนอย่าง "ทันทีและมหาศาล" รวมถึงการวิจัยที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวังวนหายนะของสภาพอากาศ ทั้งนี้ยังได้เสนอแนะแนวทาง 2 ข้อคือ 1. การวิจัยสภาพภูมิอากาศ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่วิทยาศาสตร์ระบบของโลกแบบบูรณาการ เพื่อที่จะอธิบายถึงปฏิสัมพันธ์ทางชีวภาพ สังคม และอื่นๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อสภาพอากาศ
2. นโยบายด้านสภาพอากาศควรปฏิบัติตามแผนที่มีเป้าหมายทะเยอทะยานมากขึ้นในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาจรวมถึงการใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยธรรมชาติเพื่อแยกคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศมากขึ้น เช่นแหล่งกักเก็บคาร์บอนธรรมชาติขนาดใหญ่หรือป่าไม้
“มันสายเกินไปที่จะป้องกันความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ถ้าเราดำเนินการอย่างมีเป้าหมายรวดเร็วโดยให้ความสำคัญกับความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์และความยุติธรรมทางสังคม ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะจำกัดอันตราย” รายงานระบุ
ที่มา
One Earth : Many risky feedback loops amplify the need for climate action
CNN : Nearly 30 dangerous feedback loops could permanently shift the Earth’s climate, scientists say
The Guardian : World risks descending into a climate ‘doom loop’, warn thinktanks
Phys.org : Scientists warn that many dangerous feedback loops make climate action more urgent
Photo : Mike Jurgensen (Flickr), Mike Newbry (Unsplash)