Post News1 รู้ทันข่าวทุกเวลากับ Postnews 1

สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย จัดสัมมนานานาชาติ “นวัตกรรมการศึกษาอัจฉริยะด้วยภูมิปัญญาประดิษฐ์”สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่...
18/09/2025

สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย จัดสัมมนานานาชาติ “นวัตกรรมการศึกษาอัจฉริยะด้วยภูมิปัญญาประดิษฐ์”

สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย ร่วมกับสื่อ ‘เพรสเดลิมิเร่อร์’ โครงการเขียวกระจ่างใจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และศูนย์แลกเปลี่ยนการศึกษา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจีน-ไทย จัดสัมมนานานาชาติ “นวัตกรรมการศึกษาอัจฉริยะด้วยภูมิปัญญาประดิษฐ์” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการศึกษา เน้นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไฮไลท์ดึงกูรูบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศมาร่วมถ่ายทอดพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างใกล้ชิด

นายสุชาติ มาลาล้ำ ผู้อำนวยการสถาบันปัญญาอัจริยะแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
วันที่ 19 กันยายน 2568 สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และศูนย์แลกเปลี่ยนการศึกษา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจีน-ไทย จัดสัมมนานานาชาติ “นวัตกรรมการศึกษาอัจฉริยะด้วยภูมิปัญญาประดิษฐ์” วัตถุประสงคเพื่อแลกเปลี่ยนองค์๕วามรู้และแนวทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการศึกษา เน้นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

โดยการจัดงานดังกล่าวภายในงานจะได้พบกับการบรรยายความรู้ด้านต่างๆจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษา ตลอดจนการเปิดตัวผลงานและแพลตฟอร์ม AI ล่าสุดจากบริษัทชั้นนำ อาทิ Yuguang Technology และ Digital Human Technology รวมถึงการนำเสนอจากผู้แทนประเทศไทย

การจัดประชุมครั้งนี้เริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. และจะสิ้นสุดด้วยกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมจากทั้งสองฝ่ายจึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างจีน-ไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

สำหรับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ในครั้งนี้ มีหัวข้อสำคัญ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและเทคโนโลยีไทย-จีนช่วยสำรวจเส้นทางและวิธีการใหม่ๆสำหรับการศึกษานานาชาติด้าน AI โดย Pro.Dr.Qing Zhou Directer of STETTEC Sino-Thai Educational and Technologyical Exchange Center นายกังวู (Mr.Gang Wu) ผู็อำนวยการบริษัท เซินเจิ้น อีเหลียน เทคโนโลยี จำกัด

นาย Wenxiong Zhang ผู้อำนวยการบริษัท เซี่ยงไฮ้ โยวซิน เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ที่จะมาแนะนำการใช้งาน YOCO AI Digital Human เปิดยุคใหม่ของการผลิตไมโครคอร์สจำนวนมาก Mr. Mengqing Zhang จาก Yuguang Tongchen Technology ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Yuguang Tongchen Technoligy เป็นต้น

ในส่วนวิทยากรจากประเทศไทย ประกอบไปด้วย ศาตราจารย์ ดบ.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการอำนวยการ สถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย กล่าวถึงจริยธรรม AI คุณสุชาติ มาล้ำ ผู้อำนวยการสถาบันปัญญาอัจฉริยะแห่งประเทศไทย กล่าวถึง อนาคตของ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล เป็นต้น

สถาบันฯจึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการสัมมนานานาชาติ “นวัตกรรมการศึกษาอัจฉริยะด้วยภูมิปัญญาประดิษฐ์” ครั้งนี้พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมบุณฑริก ชั้น 3 อาคารฝึกประสบการณ์วิชาชีพพระนครแกรนด์วิว มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยพร้อมเพรียงกัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการอำนวยการ โทร. 091-826-2551

กทพ.เปิดว๊าบ!! ทางด่วน เชื่อมสมุย-ขนอม-ดอนสัก“สุรเชษฐ์” ผู้ว่ากทพ. นำคณะผู้บริหารพร้อมสื่อมวลชนลงพื้นที่นครศรีธรรมราช-สุ...
15/09/2025

กทพ.เปิดว๊าบ!! ทางด่วน เชื่อมสมุย-ขนอม-ดอนสัก

“สุรเชษฐ์” ผู้ว่ากทพ. นำคณะผู้บริหารพร้อมสื่อมวลชนลงพื้นที่นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี เผยความคืบหน้าแผนพัฒนาโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย คาดลงทุน 5.5 หมื่นล้านหนุนการเดินทาง–ท่องเที่ยวภาคใต้พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นำกรรมการบอร์ดกทพ. พร้อมสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสำรวจและติดตามความคืบหน้าการศึกษาแนวสายทาง “โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบคมนาคม เชื่อมโยงเกาะสมุย กับแผ่นดินใหญ่ให้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้

โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย มีระยะทางประมาณ 37.41 กิโลเมตร มูลค่าลงทุนราว 55,000 ล้านบาท รูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วยสะพานหลักแบบ Cable-stayed สะพานรองแบบ Extradosed และสะพานทั่วไป เพื่อรองรับการเดินทางจากแผ่นดินใหญ่สู่เกาะสมุยโดยตรง ลดข้อจำกัดในการเดินทางทางเรือที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

“โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย” นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ กทพ. ที่มุ่งมั่นพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคใต้ ทั้งยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กทพ. ที่จะเป็นองค์กรนวัตกรรมเพื่อการเดินทางและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เล็งดึงกปภ.-กฟภ. บูรณาการหวังเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

นายสุรเชษฐ์กล่าวต่อว่าหากสามารถรวบรวมหน่วยงานระบบสาธารณูปโภคอย่างไฟฟ้า -ประปามาร่วมกับโครงการน่าจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แล้วยังช่วยให้เกิดความคุ้มค่ากับการพัฒนาโครงการนี้ คาดว่าปลายปีนี้จะมีการลงนามความร่วมมือร่วมกันหลายหน่่วยเพื่อบูรณการทำงานเนื่องจากสะพานดังกล่าวนี้หากมองเฉพาะความคุ้มค่าลงทุนด้านเดียวจะไม่คุ้มค่า แต่หากมองหลายด้านทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ยกระดับการคมนาคมขนส่งควบคู่กันไปด้วยจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อีกทั้งเกาะสมุยสร้างรายได้ให้กับประเทศควรจะมีการเพิ่มขีดความสามารถในหลายด้าน นอกจากนั้นรัฐควรสนับสนุนงบประมาณเพราะเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ

จัดระบบเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งรองรับ

นอกเหนือจากการออกแบบให้มีเรสแอเรียไว้ช่วงกลางสะพานแล้ว กทพ.ยังให้ความสำคัญด้านการออกแบบโครงการจากที่เวนคืนในจุดขึ้น-ลงโครงการไว้แล้วยังจัดให้มีพื้นที่ทางด้านเศรษฐกิจซึ่งสามารถเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางรองรับเอาไว้ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจร โดยฝั่งดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานียังเป็นการพัฒนาเส้นทางใหม่ในระบบโครงข่ายเส้นทางเชื่อมโยง เช่นเดียวกับฝั่งขนอม จ.นครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ปัจจัยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะเป็นตัวชี้วัดว่าทำหรือไม่ทำ ทางด่วนเส้นทางนี้จัดอยู่ในแผนการพัฒนาทางด่วนในอนาคตเร่งด่วน 11 โครงการ จัดว่าเป็นสะพานข้ามทะเลแห่งแรกที่ยาวที่สุดในประเทศไทยปัจจุบัน โดยตามผลศึกษาโครงการคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2572 หาก MOU ร่วมบูรณาการหน่วยงานเพิ่มเติมจะช่วยให้ตัวเลขผลการศึกษาทางเศรษฐกิจเป็นตัวเลขที่จูงใจให้รัฐบาลสนับสนุน ในส่วนค่าผ่านทางคงใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน

“จะต้องเอาพื้นที่จะเวนคืนทั้งพื้นที่เอกชน พื้นที่ของรัฐเข้าสู่กระบวนการเพื่อขออนุญาตต่อไป พื้นที่ฝั่งสมุยจะเวนคืนไม่มาก เพราะสามารถเชื่อมกับถนนสายย่อยของทล.-ทช.ได้เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายได้มากขึ้น จัดเป็นโครงการที่จะเป็นหัวหอกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ ประการหนึ่งนั้นหากโครงการฯ นี้แล้วเสร็จจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยกระทันหัน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากเกาะมาสู่แผ่นดินใหญ่ เพิ่มขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว กระจายโอกาสการลงทุนและการจ้างงานในพื้นที่ ตลอดจนสร้างการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน” นายสุรเชษฐ์ กล่าวในท้ายที่สุด

สวส. จัดประชุมประจำปี 2568เผยแผนเชิงรุก “สมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม” เริ่มแล้ว!!!  การจัดประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมประ...
11/09/2025

สวส. จัดประชุมประจำปี 2568
เผยแผนเชิงรุก “สมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม”

เริ่มแล้ว!!! การจัดประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมประจำปี 2568 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) มอบรางวัล 4 วิสาหกิจเพื่อสังคมดีเด่น ไฮไลต์ดึง ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ประธานกลุ่มวงษ์พาณิชย์ กรุ๊ป โมเดลวิสาหกิจเพื่อสังคม มาเผยแนวโน้มการเติบโตของการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมคีย์โน้ตอีกหลายราย

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) โดยนายอัครพล ลีลาจินดามัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมประจำปี 2568 “Social Enterprise Ecosystem Forum 2025" รวมพลังวิสาหกิจเพื่อสังคมขับเคลื่อนอนาคตไทยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมเบญจพัชร ชั้น 2 อาคารเอนกประสงค์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน 2568

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ว่าเพื่อให้วิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้มีส่วนได้เสีย ร่วมระดมความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าพัฒนาสังคมและชุมชนเพื่อความยั่งยืน และกำหนดกรอบวาระการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2569 ที่จะมีแผนการขยายความร่วมมือและเครือข่ายใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวอีกว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 มาตรา 75 กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นประจำทุกปี

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้การประชุมได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Driving Sustainable Impact Together ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางสังคมสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน” โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน รวมถึงมุ่งสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ และขยายเครือข่ายของวิสาหกิจเพื่อสังคมทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นกลไกลสำคัญของการประกอบธุรกิจในการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

”ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกและของไทยที่กำลังได้รับผลกระทบประเทศไทยย่อมต้องปรับตัว เช่นเดียวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันทั่วโลก ปัญหาการส่งออกยังเป็นปัญหาหลัก ตลอดจนปัญหาด้านการท่องเที่ยว ล่าสุดปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว เช่นเดียวกับเศรษฐกิจสีเทายังแก้ไม่ได้ คำถามที่ว่าธุรกิจเพื่อสังคมสามารถตอบสนองทิศทางเศรษฐกิจของโลกหรือไม่นั้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากของไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ยังมั่นใจว่าสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ พร้อมกับมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้อย่างธุรกิจระบบ AI ธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคมไม่เพียงแต่สร้างรายได้ สร้างงาน สร้างศักยภาพให้กับชุมชน การไปถึงเป้าหมายไม่สามารถเดินไปเพียงคนเดียวได้สำเร็จ จำเป็นต้องเรียนรู้ร่วมกันทุกภาคส่วน วันนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่จะได้ร่วมกันกำหนดทิศทางสร้างความร่วมมือเพื่อให้วิสาหกิจเพื่อสังคมของไทยเติบโตอย่างมีศักยภาพอย่างยั่งยืน“

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวต่อว่านอกจากนั้นการประชุมในปีนี้ สวส. เปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้าร่วม โดยจัดประชุมทั้งออนไซต์และออนไลน์ที่มุ่งเน้นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วม รวมถึงกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการบรรยายพิเศษในหัวข้อ ดังนี้
1. “โมเดลวิสาหกิจเพื่อสังคมคือการเติบโตของการสร้างเศรษฐกิจ หมุนเวียนกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดย ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ผู้ก่อตั้งประธานบริหารกลุ่มวงษ์ พาณิชย์ กรุ๊ป

2. “เชื่อมตลาดสร้างผลกระทบขยายพลังวิสาหกิจเพื่อสังคม” โดย นายสมประสงค์ พยัคฑพันธ์ รองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

3. “อาสาชาวนามหานคร … Destination of Sustainability โดยนายวรเกียรติ สุจิวโรดม ผู้ก่อตั้งอาสาชาวนามหานคร และการบรรยายหัวข้อ “เปิดโลก สิทธิประโยชน์วิสาหกิจเพื่อสังคมบทเรียนจากนานาชาติ” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประพิน นุชเปี่ยม รองคณบดี ฝ่ายวิชาการและกิจการนานาชาติ คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

นอกจากนี้ยังได้เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ “เส้นทางสู่ Green Production ของวิสาหกิจเพื่อสังคม” เสวนา “บ่มเพาะธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อสังคม : สร้างการเปลี่ยนแปลงทั่วไทย” และเสวนา “มหาวิทยาลัยกับบทบาทใหม่ ในการจุดประกายการขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม” รวมถึงการออกบูธและจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม และจากผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมกว่า 40 หน่วยงาน

สำหรับวันที่สอง (12 กันยายน 2568) จะเป็นการสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และพิจารณาประเด็นการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568 พร้อมกับมีการเสวนาหัวข้อเชื่อมคุณค่ากับกลไก สร้างโมเดลผลกระทบที่เติบโตไปกับธุรกิจ พร้อมกับการสรุปมติการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568 จึงเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและความร่วมมือในการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ สามารถติดตามมติการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568 Social Enterprise Ecosystem Forum 2025 ได้ทางเว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) www.osep.or.th หรือทาง Facebook Fanpage สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

เขตห้วยขวาง ระดมจิตอาสาจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ตค.68เขตห้วยขวาง ประชุมหน่วยงานที่้เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุง...
09/09/2025

เขตห้วยขวาง ระดมจิตอาสาจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ตค.68

เขตห้วยขวาง ประชุมหน่วยงานที่้เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์รอบคอนโดไลฟ์ อโศกและปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนกำแพงเพชร 7 ให้สะอาด เรียบร้อยสวยงาม ระดมจิตอาสาพระราชทานเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเดือนตุลาคม 2568

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง เป็นประธานการประชุมเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์รอบคอนโดไลฟ์ อโศก และถนนกำแพงเพชร 7 โดยมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณา ดังนี้
- ขอให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอแนวทางการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบคอนโดไลฟ์ อโศก และถนนกำแพงเพชร 7 เขตห้วยขวาง ให้สะอาด เรียบร้อย และสวยงาม เช่น การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง การติดตั้งป้ายจราจร การปรับปรุงผิวการจราจรและปลูกต้นไม้ประดับริมถนนกำแพงเพชร 7 เป็นต้น
- ขอให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอแนวทางการดูแลรักษาพื้นที่ หลังจากที่มีการปรับปรุงภูมิทัศน์แล้ว
- ขอให้แต่ละหน่วยงานกำหนดวัน เวลา และรูปแบบการจัดกิจกรรม
- ที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเดือนตุลาคม 2568 ประกอบด้วย การปลูกต้นต้อยติ่งในกระถางบริเวณหน้าคอนโดไลฟ์ อโศก และปลูกต้นชะแมบทอง (ต้นทองนพเก้า) จำนวน 150 ต้น บริเวณไหล่ทางถนนกำแพงเพชร 7

โดยการนี้ นายอุกฤษฏ์ องตระกูล นายธำรงศักดิ์ หิตะโกวิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตฯ หัวหน้าฝ่ายทุกฝ่าย ประธานคณะขับเคลื่อนฯ (คคพ.เขตห้วยขวาง) ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง ผู้แทนสำนักการโยธา ผู้แทนสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ผู้แทนนิติบุคคลอาคารชุดคอนโดไลฟ์ อโศก ผู้แทนเจ้าของร่วมอาคารชุดคอนโดไลฟ์ อโศก เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมประชาอุทิศ ชั้น 4 สำนักงานเขตห้วยขวาง

TSB คว้ารางวัลใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025บริษัท ไทย สมายล์ บัส (TSB) คว้ารางวัลใหญ...
23/08/2025

TSB คว้ารางวัลใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025

บริษัท ไทย สมายล์ บัส (TSB) คว้ารางวัลใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 ในสาขารางวัล Corporate Excellence Award – องค์กรยอดเยี่ยมในกลุ่มธุรกิจขนส่งมวลชน สะท้อนความแข็งแกร่งสอดรับกับทิศทางพลังงานสะอาดแห่งอนาคต

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท ที่สะท้อนถึงพันธกิจในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีมาตรฐานระดับโลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ซึ่งรางวัลนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความทุ่มเทของทีมงานทุกคน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นพัฒนาระบบขนส่งของไทยด้วยพลังงานสะอาด นวัตกรรมดิจิทัล และแนวทางที่ยั่งยืนต่อไป

โดยในปีนี้ TSB ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลเกียรติยศระดับภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ รางวัล Corporate Excellence Award หรือรางวัลองค์กรยอดเยี่ยมในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมขนส่งสาธารณะ ถือเป็นหนึ่งรางวัลสำคัญที่มอบให้กับองค์กรดีเด่นที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กร ที่สอดคล้องกับเทรนด์การเติบโตของโลก ทั้งด้านความยั่งยืนตามแนวคิด ESG (Environment, Social, และ Governance)

สำหรับก้าวต่อไป ไทยสมายล์บัสมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายระบบขนส่งสีเขียว และพัฒนาโซลูชันการเดินทางที่บูรณาการ เพื่อสนับสนุนเส้นทางของประเทศไทยสู่การเป็นประเทศคาร์บอนนิวทรัลในอนาคต พร้อมสร้างสังคมที่เดินหน้าด้วยความรับผิดชอบ นวัตกรรม และความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ งานประกาศรางวัล APEA 2025 จัดขึ้น ณ โรงแรมโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 โดย Enterprise Asia องค์กรอิสระชั้นนำที่ไม่แสวงหากำไร มุ่งสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพของภาคธุรกิจ และการรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการคัดเลือกองค์กรชั้นนำจากกว่า 16 ประเทศในภูมิภาคที่มีความเป็นเลิศด้านต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของแต่ละองค์กรที่ได้รับรางวัลไปสู่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก

“บางปะแก้ว-แยกประชาอุทิศ”พลิกโฉมรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพื่อการพัฒนาเมืองขณะนี้มีความคืบหน้าตามลำดับสำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ล่าส...
23/08/2025

“บางปะแก้ว-แยกประชาอุทิศ”
พลิกโฉมรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพื่อการพัฒนาเมือง

ขณะนี้มีความคืบหน้าตามลำดับสำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ล่าสุดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้รับบัญชาจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมให้เร่งขับเคลื่อนโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายที่จะเริ่มเปิดให้มีการลงทะเบียน 25 สิงหาคม2568 นี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าว www.Thaimotnews.com ได้ลงพื้นที่สัญญา 5 ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ(ถนนกาญจนาภิเษก) สัญญา 5 โซนพื้นที่สถานีบางปะแก้ว-สถานีสามแยกประชาอุทิศ ซึ่งเป็น 2 สถานีที่จะเชื่อมกับถนนพระราม 2 โดย 2 สถานีดังกล่าวมีความโดดเด่นนอกเหนือจากจะเป็นสถานีเชื่อมโยงกับถนนพระราม 2 แล้วยังน่าจับตาด้านการเติบโตของเมืองจากปัจจัยบวกของอานิสงส์ FAR (Floor to Area Ratio) หรืออัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน หรือการใช้ประโยชน์รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าและพื้นที่เชิงพาณิชย์ TOD นั่นเอง

อานิสงส์ FAR สู่การเติบโตของพื้นที่เมืองเพื่อการอยู่อาศัย

สำหรับสถานีบางปะแก้วตั้งอยู่ถัดไปจากสถานีดาวคะนอง เลยจากสถานีบางปะแก้วจะเป็นสถานีสามแยกประชาอุทิศ ซึ่ง 2 สถานีดังกล่าวจะเห็นภาพการก่อสร้างนับจากสถานีดาวคะนองยังเห็นการขึ้นเสาตอม่อช่วงก่อนเข้าถึงสถานีบางปะแก้ว แต่ช่วงแยกเข้าสู่ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นพื้นที่การก่อสร้างช่วงที่ยากและมีข้อจำกัดด้านพื้นที่นั้นจะพบว่ามีการก่อสร้างคานทางวิ่งแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ทันที เช่นเดียวกับแนวเส้นทางวิ่งเชื่อมไปถึงสถานีสามแยกประชาอุทิศก็สร้างเสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้อีกเช่นกัน

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีบางปะแก้ว -สถานีสามแยกประชาอุทิศนั้นพบว่ามีการก่อสร้างคานสถานีเสร็จเรียบร้อยพร้อมก่อสร้างตัวสถานีทั้ง 2 ในด้านต่างๆ เพื่อให้พร้อมใช้งานทั้งพื้นที่รอใช้บริการรถไฟฟ้า พื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ตลอดจนเส้นทางขึ้น-ลงสถานี โดยสภาพพื้นที่ปัจจุบันช่วง 2 สถานีดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเมืองรองรับไว้แล้ว มีพื้นที่ว่างตลอดจนพื้นที่อาคารเก่าที่สามารถนำมาปรับปรุงพัฒนาด้านที่อยู่อาศํย ด้านการพัฒนาเมืองแนวสูงหรือเพื่อการพาณิชย์อื่นๆโดยเฉพาะพื้นที่รอบๆสถานีที่ได้รับสิทธิ์ตามที่ FAR กำหนดไว้ อีกทั้งมีศูนย์การค้าชั้นนำ อาคารเพื่อการอยู่อาศัยแนวสูงนำร่องไปบ้างแล้วในปัจจุบัน

เผยราคาประเมินที่ดินทยอยขยับเพิ่มต่อเนื่อง

ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวถึงราคาประเมินที่ดินในโซนพื้นที่นี้ว่าจะทยอยปรับราคาจากเดิมราคาราว 1 แสนบาทต่อตารางวาเป็นไม่เกิน 3 แสนบาทต่อตารางวา ด้านการปรับเปลี่ยนของพื้นที่จะยังอยู่ในกรอบด้านการพัฒนาเมืองที่อยู่อาศัยและค้าปลีกแต่คงต้องจับตาว่าหากเปิดใช้ทางด่วนเชื่อมถึงพระประแดง ถนนกาญจนาภิเษก ไปสิ้นสุดที่ย่านครุในพร้อมเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงครบถ้วนสมบูรณ์แล้วจะเห็นภาพการพัฒนาพื้นที่ต่างๆได้อย่างไรต่อไป

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) เริ่มต้นที่สถานีเตาปูน เชื่อมต่อกับสายสีม่วงเดิม ผ่านใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยโครงสร้างใต้ดิน เช่น ถนนทหาร, ถนนสามเสน, ถนนมหาไชย ก่อนลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเข้าฝั่งธนบุรี ผ่านถนนประชาธิปก, ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แล้วเปลี่ยนเป็นโครงสร้างยกระดับย่านดาวคะนองไปตามถนนสุขสวัสดิ์ สิ้นสุดที่สถานีครุใน จังหวัดสมุทรปราการ มีระยะทางรวมประมาณ 23.63 กิโลเมตร มีสถานี 17 สถานี แบ่งเป็น สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2572 โดยจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่) ที่สถานีเตาปูน

“มนพร” เปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Nakhon Phanom Trade Fair” “มนพร” เปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Nakhon Phanom Trade Fa...
23/08/2025

“มนพร” เปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Nakhon Phanom Trade Fair”

“มนพร” เปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Nakhon Phanom Trade Fair” ชูนครพนมมีโครงข่ายคมนาคมที่ครบถ้วน ผลักดันศักยภาพเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สร้างโอกาสการค้า การลงทุน

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าจังหวัดนครพนม “Nakhon Phanom Trade Fair” เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ขยายช่องทางการตลาดสินค้าท้องถิ่น เป็นโอกาสสำคัญในการแสดงศักยภาพของนครพนมให้ปรากฏต่อสายตาภาครัฐ ภาคเอกชน นักลงทุน นักท่องเที่ยวและประชาชน โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 24 สิงหาคม 2568 ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

นางมนพร กล่าวว่า นครพนมเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพโดดเด่น ด้วยทำเลที่ตั้งบนแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East–West Economic Corridor) ทำให้มีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และเป็นประตูการค้าสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบกับจังหวัดนครพนมมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่ครบถ้วน ด้วยสนามบินที่รองรับเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ วันละ 6 เที่ยวบิน เส้นทาง R12 ที่เชื่อมต่อประเทศไทยกับ ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) และโครงการรถไฟรางคู่ บ้านไผ่ - นครพนม ทำให้การเชื่อมต่อด้านโลจิสติกส์มีความสะดวกและรวดเร็ว

นอกจากนี้ จังหวัดนครพนมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติภูลังกา องค์พระยาศรีสัตนาคราช ที่ตั้งอยู่บริเวณลานพนมนาคาที่มีทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำโขง และพระธาตุพนม พร้อมด้วยประเพณีวัฒนธรรมที่งดงาม จังหวัดนครพนมจึงเป็นเมืองรองที่ผสมผสานความงดงามทางธรรมชาติ ประเพณีและวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน และเป็นจุดหมายปลายทางของการเป็น “Restination” เมืองที่ผู้คนอยากมาพักผ่อน ท่องเที่ยว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเยือนตลอดทั้งปี

ดังนั้นด้วยศักยภาพเหล่านี้ จังหวัดนครพนมจึงตั้งเป้าหมายการการพัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่ และเป็นประตูเศรษฐกิจสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจท้องถิ่น ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว ขยายโอกาสทางการค้า และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ร่วมแสดงความยินดีรฟม.ครบรอบ 33 ปี       นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแสดงความยินดีในวาระครบรอ...
21/08/2025

ร่วมแสดงความยินดีรฟม.ครบรอบ 33 ปี

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแสดงความยินดีในวาระครบรอบ 33 ปี วันคล้ายวันก่อตั้งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และตรวจราชการติดตามการดำเนินงานของ รฟม. โดยมีนายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะ โดยนายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ในฐานะประธานกรรมการ รฟม. นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการ รฟม. ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ณ สำนักงาน รฟม.

DMT คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ปี 2568 ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน สะท้อนการเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี      บริษัท ทางยกระดับดอนเ...
20/08/2025

DMT คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ปี 2568 ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน สะท้อนการเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ได้รับการประเมิน AGM Checklist ปี 2568 เต็ม 100 คะแนน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 (พ.ศ. 2565 - 2568) จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย จากการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผลประเมินดังกล่าวอยู่ในระดับ “ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง” ซึ่งเป็นเกณฑ์สูงสุดของการประเมิน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่ DMT ได้รักษามาตรฐานการจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทั้งความชัดเจนของข้อมูล ความโปร่งใสของกระบวนการลงคะแนนเสียง และการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สามารถเป็นต้นแบบในวงการธุรกิจไทย

สวส.แถลงการจัดงาน Social Enterprise Ecosystem Forum 2025  (ประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568) เมื่อวันที่ 15 ส...
15/08/2025

สวส.แถลงการจัดงาน Social Enterprise Ecosystem Forum 2025 (ประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568)

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ณ อาคารเอนกประสงค์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) นายธนาวุฒิ ศุภางคะรัตน์ หัวหน้าส่วนส่งเสริมและยกระดับวิสาหกิจเพื่อสังคม เลขานุการการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันติ เติมประเสริฐสกุล รองอธิการบดีฝ่ายการคลังและทรัพย์สิน รักษาการแทนคณบดีคณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมแถลงข่าว ‘การจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2568 (Social Enterprise Ecosystem Forum 2025)’

โดยในปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด Driving Sustainable Impact Together กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน 2568 ณ ห้องเบญจพัชร ชั้น 2 อาคารเอนกประสงค์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) ผู้สนใจสามารถติดตามรับชมได้ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่าน page สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.)

12 สค. รฟม.ชวนลูกๆพาคุณแม่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 4 สายรฟม. และผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้า MRT 4 สาย ชวนลูกๆ พาคุณแม่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี! ในว...
07/08/2025

12 สค. รฟม.ชวนลูกๆพาคุณแม่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 4 สาย

รฟม. และผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้า MRT 4 สาย ชวนลูกๆ พาคุณแม่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี! ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568

นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และถือเป็นวันแม่แห่งชาติด้วยนั้น รฟม. ได้ร่วมกับผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานคร (รถไฟฟ้า MRT) ทั้ง 4 สาย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) และ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (MRT สายสีเหลือง) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู จัดกิจกรรมพิเศษยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 4 สาย สำหรับคุณแม่ที่เดินทางพร้อมลูก ในวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพียงคุณแม่แสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสาร เพื่อรับคูปองหรือบัตรโดยสารรถไฟฟ้าฟรีได้ทุกสถานี ตลอดระยะเวลาการเปิดให้บริการ โดยลูกชำระค่าโดยสารปกติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ รอบเส้นทางรถไฟฟ้า MRT ตลอดจนเป็นการส่งเสริมสร้างความผูกพันในสถาบันครอบครัว

สอบถามรายละเอียดและติดตามข้อมูลการให้บริการรถไฟฟ้า MRT เพิ่มเติม ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
- MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0 2624 5200 page และ X : BEM Bangkok Expressway and Metro และ Instagram : mrt_bangkok หรือ โมบายแอปพลิเคชัน: Bangkok MRT
- MRT สายสีเหลือง ได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง MRT Yellow Line Call Center โทร. 0 2617 6111 Line Official: page: MRTYellowLine เว็บไซต์: www.ebm.co.th หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่โมบายแอปพลิเคชัน: ‘The SKYTRAINs’
- MRT สายสีชมพู ได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู MRT Pink Line Call Center โทร.
0 2617 6111 Line Official: page: MRTPinkLine เว็บไซต์: www.nbm.co.th หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่โมบายแอปพลิเคชัน: ‘The SKYTRAINs’

ก.แรงงานเปิด “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ สร้างโอกาสอาชีพคนไทย”กระทรวงแรงงานสนองนโยบายรัฐบาล เปิดงาน “มหกรรมรับงานและอาชีพ...
07/08/2025

ก.แรงงานเปิด “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ สร้างโอกาสอาชีพคนไทย”

กระทรวงแรงงานสนองนโยบายรัฐบาล เปิดงาน “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ เพื่อคนไทยมีอาชีพ มีรายได้” ดันอาชีพอิสระ สร้างโอกาสอาชีพคนไทย เผยมีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านเข้าร่วมจำนวน 43 กลุ่ม พร้อมการสาธิตอาชีพอิสระ 6 อาชีพ ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ช่วง 7-8 สค.นี้ที่กระทรวงแรงงาน กรุงเทพฯ

วันที่ 7 สิงหาคม 2568 นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ เพื่อคนไทยมีอาชีพ มีรายได้” ณ บริเวณชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมีนายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน

นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จัดงาน “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ เพื่อคนไทยมีอาชีพ มีรายได้” เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ธุรกิจแฟรนไชส์ และ Food Truck ได้นำผลงานมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อเพิ่มรายได้และเปิดตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งเป็นเวทีเชื่อมโยงกับผู้จ้างงาน ซึ่งจะนำไปสู่การมีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม และส่งเสริมการสร้างโอกาสทางอาชีพ

โดยการจัดงานในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ ซึ่งกระทรวงแรงงานพร้อมผลักดันให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

”กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านที่มีความเข้มแข็งเป็น Best Practices ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ชนะเลิศเหล่านี้จัดว่าเปผ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตที่สามารถยกระดับต่อยอดได้ กระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางานได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการจดทะเบียนและสนับสนุนด้านวิชาการเพิ่มองค์ความรู้ให้สามารถพัฒนาต่อยอดในระดับที่สูงขึ้นต่อไป“

ด้านนายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นภารกิจเชิงรุกในการส่งเสริมอาชีพอิสระและการรวมกลุ่มของผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตชิ้นงานและเข้าถึงโอกาสในการจ้างงาน ภายในงานมีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านเข้าร่วมจำนวน 43 กลุ่ม พร้อมการสาธิตอาชีพอิสระ 6 อาชีพ และแฟรนไชส์อีก 5 อาชีพ รวมถึงมีผู้จ้างงานที่เปิดรับงานไปทำที่บ้าน 2 ราย

”กิจกรรมครั้งนี้ยังได้มอบรางวัลผู้นำกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านที่มีความเข้มแข็งเป็น Best Practices ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ชนะเลิศและแรงบันดาลใจจากผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ประสบความสำเร็จซึ่งล้วนนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาจนได้รับรางวัลอย่างน่าภาคภูมิใจอีกด้วย“

สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ได้แก่ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน อาทิ กลุ่มหัตถกรรม ใยตาลสทิงพระ จ.สงขลา กลุ่มผ้าปาเต๊ะ จ.ลพบุรี และกลุ่มประดิษฐ์เครื่องหนังบ้านศรีลังกา จ.ลำปาง การสาธิตอาชีพอิสระ อาทิ การทำกาแฟ Slow bar การเพ้นท์เล็บ การทำวาฟเฟิล การสอนแต่งหน้า การทำเกี๊ยวหมูเด้ง การประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์ม “คนทำงานอิสระ” เพื่อเชื่อมโยงผู้ว่าจ้างกับผู้รับงาน และการเสวนาจากกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านที่เป็น Best Practices พร้อมการมอบรางวัลให้แก่กลุ่มที่มีความเข้มแข็งโดดเด่น

นอกจากนี้ภายในงานยังมีร้านธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ และ Food Truck ที่มาจำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม 5 ร้าน อาทิ ร้าน Hako Soft Cream ร้าน Chinocha (เครื่องดื่ม) ร้านไวกิ้งเป็ดย่าง ร้านสุกี้นายพัน และร้านเฮียนพหมูนุ่ม รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ผู้สนใจเริ่มต้นอาชีพอิสระ

โดยงาน “มหกรรมรับงานและอาชีพอิสระ เพื่อคนไทยมีอาชีพ มีรายได้” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้สามารถติดตาม Live สด การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านได้ทางเพจ Facebook : กรมการจัดหางาน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือ สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

ที่อยู่

1/130 ถนนพหลโยธิน 54/2 แขวงสายไหม เขตสายไหม
Bangkok
10220

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Post News1ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์