28/11/2024
หลังจากที่อัตราการเคลมค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นมาก
จนอาจทำให้ธุรกิจประกันมีการปรับแผนประกันสุขภาพในอนาคตเป็นแบบมี Co-payment
และแบบ มี Deductable นั้น
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าแล้วไอแบบมี Co-payment กับมี Deductable นั่นมันเป็นยังไง
✨️ Deductable คือ "ความรับผิดส่วนแรก"
ที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกเองก่อนในอัตราคงที่ตามแผนที่กำหนดไว้
ตัวอย่าง เช่น ซื้อแผนประกันสุขภาพแบบมี deductable 30,000 บาทต่อครั้ง
💙 เมื่อมีการเข้ารับการรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในแต่ละครั้ง ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรกให้ครบ 30,000 บาทในทุกๆ ครั้งก่อนเสมอ หลังจากนั้นค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือบริษัทประกันจึงจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป
💙 สมมติเข้าผ่าตัดก้อนที่มดลูก ค่ารักษา 300,000 บาท
- ผู้เอาประกันจะต้องจ่าย 30,000 บาท
- บริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ 270,000 บาท
✨️ Co-payment คือ "ส่วนร่วมจ่าย"
ที่ผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกัน โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ตามที่กำหนดไว้
ตัวอย่าง เช่น แผนประกันสุขภาพแบบมี Co-payment 20%
💙 เมื่อมีการเข้ารับการรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ที่ 300,000 บาท
ผู้เอาประกันก็จะต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาในครั้งนั้น ๆ 20% ของค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด
นั่นก็คือ
- ผู้เอาประกันจ่าย 20% ของ 300,000 บาท = 60,000 บาท
- บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาอีก 80% ที่เหลือ = 240,0000 บาท
ในปัจจุบันแผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่มีอยู่ทั่วไป ยังไม่มีการปรับมาเป็นแบบ Co-payment
แต่เนื่องจากอัตราการเคลมที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ในอนาคตอาจจะมีการปรับแผนประกันสุขภาพแบบมีส่วนร่วมจ่าย หรือ Co-payment นะคะ
🔥🔥 ดังนั้น ลูกค้าเดิม ต้องรักษากรมธรรม์ประกันสุขภาพที่มีไว้ให้ดีๆ ไม่ขาดต่ออายุ
และลูกค้าใหม่ควรรีบทำให้เร็วที่สุด ก่อนจะมีการปรับแผนเร็วๆนี้ค่าา 🔥🔥