Fleek Fleek is a modern lifestyle for well being publication in thailand :)

Jim Thompson เขย่าวงการอีกครั้ง! เผยโฉม "Mandarin Collar Polo" ไอเทมที่น้อยแต่มาก สที่ทุกคนต้องมี!นาทีนี้คงไม่มีใครไม่พู...
28/06/2025

Jim Thompson เขย่าวงการอีกครั้ง! เผยโฉม "Mandarin Collar Polo" ไอเทมที่น้อยแต่มาก สที่ทุกคนต้องมี!
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่พูดถึง Jim Thompson แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับตำนานที่ปีนี้เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดกับการเปิดตัวที่เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งด้วย Mandarin Collar Polo Shirt เสื้อโปโลคอจีนสำหรับสุภาพบุรุษ ที่ผสมผสานความคลาสสิกเหนือกาลเวลาเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว!
นี่ไม่ใช่แค่เสื้อโปโลธรรมดา แต่คือไอเทมที่สะท้อนแนวคิด “Anywhere, Anyone, Anytime” ที่ Jim Thompson ตั้งใจครีเอทขึ้นมาอย่างเข้าใจชีวิตจริงของผู้ชายทุกสไตล์ ให้กลายเป็นเสื้อตัวโปรดที่คุณหยิบใส่ได้ตั้งแต่วันสบายๆ จนถึงวันประชุมสำคัญ เพราะชีวิตที่ดี คือชีวิตที่ลื่นไหลไปกับทุกจังหวะ ไม่ต้องพยายาม!
Mandarin Collar Polo : สิ่งแรกที่สะดุดตาและทำให้เสื้อโปโลคอจีนตัวนี้แตกต่าง คือ ดีเทลขอบคอเสื้อที่ทำจากผ้าไหม เติมความสนุกขี้เล่นและลูกเล่นที่กำลังดีให้กับเสื้อโปโลสีพื้นเรียบเท่ การผสานผ้าไหมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jim Thompson เข้ากับเสื้อโปโลคลาสสิกนี้ ทำให้เสื้อตัวนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ “น้อยแต่มาก” อย่างแท้จริง
คุณนันท์นภัส เวโรจนวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Jim Thompson เผยว่า "เราอยากให้ Mandarin Collar Polo ตอบโจทย์ทุกโอกาส ทุกที่ และทุกช่วงเวลาจริงๆ ค่ะ เรานำเสื้อโปโลคลาสสิกมาตีความใหม่ โดยเติมความพิเศษด้วยผ้าไหมลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่ขอบคอเสื้อ ทำให้เสื้อตัวนี้เป็นไอเทมที่ผู้ชายทุกคนควรมีติดตู้ สามารถสร้างสรรค์ได้ทั้งลุคสบายๆ ในวันพักผ่อน ไปจนถึงลุคทางการในวันที่มีประชุมสำคัญได้เลยค่ะ"
นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว Mandarin Collar Polo ยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพเยี่ยมอย่าง ผ้าคอตตอนปิเก้ 100% ที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ใส่สบายได้ตลอดทั้งวัน มีให้เลือก 5 ไซซ์ ใน 5 สีคลาสสิก ได้แก่ ดำ กรมท่า เทา เหลือง และขาว นอกจากขอบคอเสื้อผ้าไหมแล้ว ยังแอบซ่อน ลวดลายช้างแบบมินิมอล ที่เป็นอีกหนึ่งทวิสต์เล็กๆ เพิ่มความสนุกสนาน ปิดท้ายด้วยดีเทลผ่าชายเสื้อด้านข้างเพื่อความคล่องตัว และโลโก้ Jim Thompson ที่อกซ้ายและบนกระดุม ยิ่งเพิ่มความประณีตให้กับทุกรายละเอียด
5 หนุ่ม 5 สไตล์: พิสูจน์แล้วว่า "ใส่ได้ไม่จำกัด!"
Jim Thompson ตอกย้ำคอนเซปต์ "Anywhere, Anyone, Anytime" ด้วยแคมเปญสุดพิเศษที่ชวน 5 หนุ่มคนดัง 5 สไตล์ มาถ่ายทอดลุคที่ตอบโจทย์ชีวิตและการทำงานของแต่ละคนได้อย่างลงตัว โดยไม่ต้องพยายาม:
โก้-วศิน อัศวนฤนาท (นักแสดง/พิธีกร): ในลุคพร้อมทำงานที่ Workpoint Studio กับเสื้อโปโลคอจีนสีขาว เติมสไตล์ด้วยผ้าพันคอ โก้เผยว่า "ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างขอบคอเสื้อผ้าไหมนี่แหละที่ทำให้เราโดดเด่นบนหน้าจอ ชอบมากครับ"
หมอตั้ม นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข (เชฟ/คุณหมอ): ในลุคสบายๆ ขณะเตรียมเมนูใหม่ในครัวที่คอนโด หมอตั้มคอนเฟิร์มว่า "ผ้านุ่มลื่นใส่สบายมาก จะใส่อยู่บ้าน ไปทำงาน หรือเที่ยวก็ได้ ได้ทุกโอกาสจริง ๆ ครับ"
พอล สิริสันต์ (นักธุรกิจดนตรี/บันเทิง): กับลุควันทำงานที่ 'Such A Small World' คอมมูนิตี้สเปซแห่งใหม่ที่พอลก่อตั้ง พอลบอกว่า "เสื้อโปโลนี้ใส่ได้ทุกวันจริง ๆ ครับ จะประชุมงาน กินข้าวกับครอบครัว ไปเจอเพื่อนๆ ทาง Jim Thompson ดีไซน์มาได้ตอบโจทย์มาก"
เจย์ สเป็นเซอร์ (นักธุรกิจ/ผู้บริหาร Woof Pack Projects): ในลุคสมาร์ทแคชชวลกับเสื้อโปโลสีเทาที่แกลเลอรี่ เจย์ชื่นชมว่า "ผมชอบทรงของเสื้อโปโลตัวนี้ ใส่แล้วสมาร์ท ดีเทลผ่าชายเสื้อด้านข้างก็ทำให้ใส่สบายครับ"
โมส-กษิดิ์เดช ถนอมสิน (ผู้ก่อตั้ง Puppy Yoga BKK): ในลุคคลีนๆ สบายตาที่สตูดิโอโยคะสุนัข โมสเผยว่า "ใส่เสื้อตัวนี้แล้วรู้สึกว่าพร้อมออกไปไหนก็ได้ทั้งวันครับ จะอยู่ที่สตูดิโอ หรือออกไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อน แค่เปลี่ยนกางเกงก็ได้หลายลุคมากเลยครับ”
นี่คือสิ่งที่ Jim Thompson Mandarin Collar Polo มอบให้คุณ: ความเนี้ยบ ความเท่ และสไตล์ที่ไร้ขีดจำกัด ในไอเทมเดียวที่ตอบโจทย์ชีวิตที่สมดุลและมีคุณภาพในแบบฉบับของคุณ! ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เสื้อตัวนี้พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มความ Fleek ในทุกวันของคุณ

พบกับ Jim Thompson Mandarin Collar Polo Shirt ได้แล้ววันนี้! แล้วคุณจะรู้ว่าคำว่า "น้อยแต่มาก" เป็นอย่างไร!

ในวันที่เราวุ่นวายกับทุกอย่าง  #นอนคือสิ่งแรกที่ถูกลด ละ เลื่อนออกไปแต่จริง ๆ แล้ว “การนอนหลับ” ไม่ใช่ของแถม  #มันคือสิ่...
27/06/2025

ในวันที่เราวุ่นวายกับทุกอย่าง #นอนคือสิ่งแรกที่ถูกลด ละ เลื่อนออกไป
แต่จริง ๆ แล้ว “การนอนหลับ” ไม่ใช่ของแถม #มันคือสิ่งจำเป็นระดับเซลล์

เพราะตอนที่เราหลับ ร่างกายไม่ได้พัก — มันกำลังซ่อมแซม

💡 Growth Hormone หลั่งออกมาตอนเราหลับลึก
💡 Melatonin ช่วยลดอักเสบ ฟื้นฟูสมองและผิว
💡 ระบบเผาผลาญ ทำงานได้เต็มที่เฉพาะตอนที่เราพักจริง ๆ

Fleek เลยอยากชวนมาเปลี่ยน Mindset ใหม่เรื่อง #การนอน ว่า Sleep is your quiet reset

#ยิ่งนอนดี = #ยิ่งดูดี

✔️ ผิวใสขึ้นเพราะเซลล์ผิวฟื้นตัว
✔️ อารมณ์ดีขึ้นเพราะฮอร์โมนสมดุล
✔️ หิวน้อยลง น้ำหนักนิ่ง สมองนิ่ง

ชวนให้ลองนอนอย่างตั้งใจอีกครั้ง

☁️ ปิดจอมือถือก่อนนอน 1 ชม.
🕯 หรี่ไฟให้นุ่มลง
🎵 เปิดเพลงเบา ๆ หรือเสียงฝน
📖 อ่านหนังสือแทนการเลื่อนฟีด
🛏 เตียงไว้สำหรับ “พัก” ไม่ใช่ “ทำทุกอย่าง”

Sleep is the luxury of those who love themselves slowly, but deeply.

การนอนคือการเลือกรักตัวเองในจังหวะที่ไม่เร่งรีบ
เพราะไม่ต้องรีบเก่ง รีบสวย รีบสำเร็จ
แค่เริ่มจากการนอนให้ลึก และหลับให้ดีคืนนี้ก่อนก็พอ

25/06/2025

กล้องครึ่งเฟรมที่เล่าเรื่องได้เต็มอารมณ์: FUJIFILM เปิดโลกสร้างสรรค์กับงาน “Half the Size, Twice the Story” ชวนสัมผัส X half กล้องไซซ์จิ๋ว สไตล์ฟิล์มที่คนรุ่นใหม่ห้ามพลาด
📍 The Corner House Bangkok, 25–29 มิ.ย. 68 เข้าฟรี มีของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟหากคุณเป็นคนรักกล้อง ชอบถ่ายภาพ หรือกำลังอินกับกล้องฟิล์มดิจิทัลยุคใหม่ “X half” จาก Fujifilm อาจเป็นชื่อที่คุณเคยเห็นผ่านตาในฟีด Instagram หรือ TikTok ช่วงนี้ เพราะดีไซน์กะทัดรัด ฟังก์ชันวินเทจจัดเต็ม และโหมด 2-in-1 ที่ทำให้การถ่ายภาพครึ่งเฟรมสนุกกว่าที่เคยล่าสุด Fujifilm (ประเทศไทย) ชวนคุณมารู้จักและลองเล่น X half อย่างจุใจในอีเวนต์ “Half the Size, Twice the Story” ที่จัดขึ้นครั้งแรก ณ The Corner House Bangkok วันที่ 25–29 มิถุนายนนี้
งานนี้ไม่ใช่แค่เปิดตัวกล้องใหม่ แต่เป็นพื้นที่ที่รวมเอาความสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ไว้ด้วยกันอย่างกลมกล่อม4 โซนสำหรับสายคอนเทนต์ที่รักความวินเทจ
1. Get to Know X halfเปิดประสบการณ์แรกกับกล้อง X half ที่โซนโชว์เคสพร้อมให้ลองเล่นจริง ฟีเจอร์เด็ดอย่าง Film Simulation และ X Filter ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูวินเทจแบบไม่ต้องแต่งเพิ่ม พร้อมชมผลงานจากแคมเปญ “Fujifilm X-Creator” ที่สะท้อนตัวตนผ่านภาพถ่ายได้อย่างเท่ไม่เหมือนใคร

2. Experience Half Frameฟีเจอร์ 2-in-1 ของ X half ทำให้ภาพถ่าย 2 ช็อตรวมเป็นเฟรมเดียวได้อย่างมีสไตล์ พร้อมแอป “X half” ที่ช่วยปรับโทน เปลี่ยนเลย์เอาต์ หรือจะเล่าเรื่องในมุมมองของคุณเองก็ยังได้ สนุกและยืดหยุ่นกว่าที่คิด!

3. Analog to Digitalยกกลิ่นอายกล้องฟิล์มยุค 90s มาให้สัมผัสแบบเต็มอารมณ์ จำลองประสบการณ์ถ่ายแบบอนาล็อกด้วยโหมด Film Camera ต้องถ่ายให้ครบก่อนถึงจะ "ล้างฟิล์ม" ในแอป แล้วดูผลลัพธ์เป็น Contact Sheet แบบดิจิทัล เหมือนได้รอล้างฟิล์มจริง ๆ

4. Give & Shareถ่ายเสร็จแล้วไม่ต้องเก็บไว้ดูคนเดียว! ปรินต์ภาพออกมาเป็น Instax Mini เพื่อแชร์ให้เพื่อน หรือเก็บไว้เป็นของขวัญแทนความทรงจำดี ๆ ที่ได้จากอีเวนต์นี้ทำไมคนรุ่นใหม่ควรไป?เพราะ X half ไม่ใช่แค่กล้อง แต่เป็นเครื่องมือเล่าเรื่องที่ทันยุค ทันสมัย แถมยังถ่ายสนุกไม่แพ้มือถือ ถ้าคุณกำลังหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพ หรือต้องการคอนเทนต์เก๋ ๆ ลง Instagram, งานนี้แหละคือพื้นที่ของคุณ
🗓 วันที่: 25 – 29 มิถุนายน 2568🕙 เวลา: 10.00 – 20.00 น.📍 สถานที่: The Corner House Bangkok, เจริญกรุง🎟 เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย🎁 รับของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในงาน
อย่าปล่อยให้สตอรี่ของคุณจบแค่ภาพเดียวกล้องครึ่งเฟรมอย่าง X half อาจเล็กแค่ครึ่งมือ แต่พลังของมันสามารถสร้างเรื่องราวที่ใหญ่กว่าภาพถ่ายเดี่ยว ๆ เสียอีก📸 ไปลองของจริงที่งาน “Half the Size, Twice the Story” แล้วคุณจะรู้ว่า ภาพดี ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องใหญ่

#กล้องฟิล์มดิจิทัล #งานถ่ายรูปสายฟิล์ม #กล้องฟูจิฟิล์มใหม่ #อีเวนต์กล้องกรุงเทพ #เจนวายสายกล้อง #กล้องคอมแพค2025

  50 ปี สัมพันธ์จีน–ไทย:  เพื่อนบ้านที่เชื่อมด้วยภูเขาและสายน้ำ หุ้นส่วนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ และญาติมิตรที่...
23/06/2025

50 ปี สัมพันธ์จีน–ไทย: เพื่อนบ้านที่เชื่อมด้วยภูเขาและสายน้ำ หุ้นส่วนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ และญาติมิตรที่มีชะตาร่วมกันทางสายเลือด
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 (50 ปีที่แล้ว) นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันมายาวนานในระดับประชาชนและภาคเอกชน เมื่อ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ตัดสินใจเยือนกรุงปักกิ่ง เพื่อเจรจากับนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล นำไปสู่ข้อตกลงในการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐไทยและจีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะเปิดสถานเอกอัครราชทูตในประเทศของตน และเริ่มต้นกระบวนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ และได้กลายมาเป็นรากฐานของความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ขยายตัวต่อเนื่องตลอดห้าทศวรรษต่อมา
เพื่อนบ้านที่เชื่อมด้วยภูเขาและสายน้ำ
ไทยและจีนคือเพื่อนบ้านที่แม้จะมีพรมแดนคั่นกลางด้วยภูเขาและสายน้ำ แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาอย่างยาวนาน ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาตินี้ย้อนกลับไปนับพันปี ตั้งแต่การค้าทางเรือในสมัยโบราณ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมผ่านเส้นทางการค้า การอพยพของชาวจีนโพ้นทะเลที่มาตั้งรกรากในไทย และการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่หล่อหลอมทั้งสองสังคมอย่างแนบแน่น ชาวจีนในไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และครอบครัว ความเข้าใจและความคุ้นเคยในระดับประชาชนจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มั่นคงและยั่งยืน
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการในปี 1975 เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟนอยู่แล้วได้รับการยกระดับไปสู่อีกขั้น ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ไทยและจีนได้ร่วมมือกันในหลากหลายมิติ ทั้งในระดับรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยมีการแลกเปลี่ยนคณะ ผู้นำ นักธุรกิจ นักศึกษา และศิลปินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระดับที่นานาชาติยกย่องว่าเป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
หุ้นส่วนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนได้ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้กรอบโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative – BRI) ที่ริเริ่มโดยจีนในปี 2013 โครงการ BRI ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงภูมิภาคผ่านโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสในการลงทุน การค้าการบริการ และการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
จีนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 บริษัทจีนจำนวนมาก เช่น BYD, CATL, Huawei, และ Alibaba ได้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงานสะอาด และโลจิสติกส์ นอกจากนี้ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ที่เชื่อมโยงจากหนองคาย–นครราชสีมา–กรุงเทพฯ และเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟในลาวและจีน ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายเศรษฐกิจใหม่ที่ทั้งสองประเทศร่วมกันผลักดันอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ส่วนด้านการลงทุนโดยตรงจากจีนในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มีมูลค่าสะสมหลายหมื่นล้านบาท โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างการจ้างงานให้กับคนไทยในระดับช่างฝีมือ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพแข่งขันในเวทีโลกมากขึ้น
ส่วนบทบาทของฝ่ายไทยเอง ก็ไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายรองรับอย่างเดียว โดยประเทศไทยนั้น มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาและขยายอิทธิพลของจีนในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรม และความร่วมมือระดับภูมิภาค เริ่มตั้งแต่ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ซึ่งเป็นบริษัทไทยบริษัทแรก ที่เข้าสู่ตลาดจีน ภายหลังจากการเปิดประเทศในปี 1978 โดยได้รับอนุญาตให้ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น และเป็นนักลงทุนต่างชาติเจ้าแรกที่จดทะเบียนโครงการในพื้นที่นั้น
ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนขยายถึงภาคอวกาศ เมื่อไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับจีนในการวิจัยสันติภาพในอวกาศ รวมถึงโครงการศึกษาภายนอกโลก ไทยร่วมพัฒนาเครื่องตรวจวัดอวกาศที่จีนเลือกใช้กับยาน Chang’e‑7 ซึ่งจะสำรวจขั้วใต้ดวงจันทร์ในปี 2026 ความร่วมมือนี้เปิดประตูให้ไทยเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูง และเสริมสร้างความร่วมมือด้านการสื่อสารข้อมูล เทรนนิ่งบุคลากร และด้านวิจัยอวกาศในระดับสากล
ญาติมิตรที่มีชะตาร่วมกันทางสายเลือด
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงด้านภูมิรัฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังลึกซึ้งถึงระดับสายสัมพันธ์ทางสายเลือด มีรากฐานยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่การค้าทางเรือในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ซึ่งได้เชื่อมโยงทั้งสองประเทศให้มีความใกล้ชิด ขณะที่ชาวจีนจำนวนมากอพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยอย่างกลมกลืน
ในปัจจุบัน มีประชากรไทยเชื้อสายจีนกว่า 10 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 14% ของประชากรไทยทั้งหมด เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในทุกมิติของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การศึกษา การเมือง และวัฒนธรรม บุคคลสำคัญในไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายคนก็มีเชื้อสายจีน ไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง นายกรัฐมนตรี นักวิชาการ ศิลปิน หรือนักธุรกิจ
ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากยังคงรักษาความผูกพันกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมผ่านการพูดภาษาจีน การเข้าร่วมเทศกาล เช่น ตรุษจีน เชงเม้ง และสารทจีน ตลอดจนการศึกษาต่อในประเทศจีน การมีสายสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ทำให้เกิดเครือข่ายสังคมที่เอื้อต่อการขยายความร่วมมือในระดับประชาชนสู่ประชาชน (people-to-people ties) อย่างแน่นแฟ้น
มูลนิธิ สมาคม และหอการค้าของชาวไทยเชื้อสายจีนยังมีบทบาทเป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนจีนกับไทย เป็นเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุน การแลกเปลี่ยนการศึกษา และการพัฒนาท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานที่สำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างทุนทางสังคมระหว่างสองประเทศให้มีพลวัตและความยืดหยุ่นท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สู่ชะตาร่วมกันในอนาคต
คำว่า "ชะตาร่วม" (命运共同体) ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ใช้ในการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่จีนร่วมมือด้วย ได้สะท้อนความจริงของความสัมพันธ์ไทย–จีนในปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง ทั้งสองประเทศไม่เพียงแต่ร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ยังร่วมรับมือกับความท้าทายระดับภูมิภาคและโลก ทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับจีน เรามิได้เพียงย้อนรำลึกถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ หากแต่ยังได้มองเห็นเส้นทางแห่งอนาคตที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ทั้งสองประเทศพร้อมจะสานต่อความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ๆ ทั้งในมิติของเทคโนโลยีดิจิทัล เศรษฐกิจเขียว การศึกษา และนวัตกรรม ด้วยความเชื่อมั่นในมิตรภาพที่หยั่งรากลึก ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และความปรารถนาร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้น
50 ปีที่ผ่านมา คือบทพิสูจน์ของการเดินร่วมฝ่าฝนลมแห่งประวัติศาสตร์ แต่เส้นทางข้างหน้าคือการเฉลิมฉลองความร่วมมือที่จะยั่งยืนและดียิ่งขึ้น ไทยและจีนจะยังคงเป็นเพื่อนบ้านที่เข้าใจกัน หุ้นส่วนที่เติบโตไปด้วยกัน และญาติมิตรที่ร่วมสร้างโลกที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป

📣 เตรียมฟินกับ "TASTES of ASAI" ป๊อปอัพสตรีทฟู้ดทั่วเอเชีย ที่อาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์! 🥢โรงแรมอาศัย (ASAI) ในเครือดุสิต...
20/06/2025

📣 เตรียมฟินกับ "TASTES of ASAI" ป๊อปอัพสตรีทฟู้ดทั่วเอเชีย ที่อาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์! 🥢
โรงแรมอาศัย (ASAI) ในเครือดุสิตธานี ชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์อาหารสุดพิเศษกับซีรีส์ป๊อปอัพ "TASTES of ASAI" ที่จะยกขบวนสตรีทฟู้ดรสเด็ดจากทั่วเอเชียมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ เริ่มเดือนมิถุนายนนี้!

พบกับความอร่อยสไตล์ 'Glocal' (Global + Local) ที่ผสานเสน่ห์ท้องถิ่นเข้ากับกลิ่นอายสากล พร้อมปลุกทุกประสาทสัมผัสของคุณให้ตื่นตัว!

🌟 ไฮไลต์เดือนมิถุนายนนี้: เชฟรอย อึ้ง จากสิงคโปร์!

🗓️ วันที่ 19-22 มิถุนายน 2568 นี้ ห้ามพลาด! พบกับ เชฟรอย อึ้ง (Chef Roy Ng) จากโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า สิงคโปร์ ที่จะมาเนรมิตเมนูพิเศษสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ ให้คุณได้ลิ้มลองที่ แจม แจม อีทเทอรีย์ แอนด์ บาร์ (JAM JAM Eatery & Bar) ห้องอาหารหลักของโรงแรมอาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาอิ่มอร่อยกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้ที่นี่!

📍 โรงแรมอาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์
🔗 สำรองที่นั่งและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: TASTES of ASAI – Jam Jam Eatery & Bar

#สตรีทฟู้ด #ไชน่าทาวน์ #กรุงเทพ #ป๊อปอัพ #อาหารเอเชีย

เมื่อสถาปนิกอยากมี 'ดีเจ' ประจำทีม: ถอดรหัส 'เสียงของพื้นที่' ที่กำหนดจังหวะชีวิตของเรา!เคยไหม...ที่ก้าวเท้าเข้าไปในพื้น...
17/06/2025

เมื่อสถาปนิกอยากมี 'ดีเจ' ประจำทีม: ถอดรหัส 'เสียงของพื้นที่' ที่กำหนดจังหวะชีวิตของเรา!
เคยไหม...ที่ก้าวเท้าเข้าไปในพื้นที่หนึ่ง แล้วสัมผัสได้ถึง 'บางอย่าง' ที่ไม่ใช่แค่รูปทรงหรือสีสัน? เหมือนมีคลื่นพลังงานบางเบาที่โอบล้อม กำหนดความรู้สึก อารมณ์ และแม้กระทั่งจังหวะของวัน...
นั่นอาจเป็นเพราะ 'เสียง' และ 'สถาปัตยกรรม' กำลังเต้นรำไปพร้อมกัน และบางที...สถาปนิกที่ดีที่สุดในโลก อาจต้องมี 'ดีเจ' ประจำทีม!
สถาปนิกบางคน มักจะรู้สึกว่าตัวเองได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงมากกว่าปรมาจารย์ด้านการก่อสร้างเสียอีก ในขณะที่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ อย่างแฟชั่น ต่างมั่นใจในความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเสียงดนตรี แต่ในโลกของสถาปัตยกรรม...ความเชื่อมโยงนี้กลับยังพร่ามัว ทั้งที่ประสาทสัมผัสในการมองเห็นและการได้ยินของเรา ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ทางกายภาพที่เราอยู่
มันคือความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่พื้นที่หรืออาคารหนึ่ง สามารถหล่อหลอมการรับรู้บทเพลงของเรา และในทางกลับกัน...บทเพลงก็สามารถส่งอิทธิพลต่อการที่เราชื่นชมการออกแบบได้เช่นกัน
บทเพลงที่เปลี่ยน 'อารมณ์' ของพื้นที่ บางครั้ง การจับคู่ระหว่างสถาปัตยกรรมและเสียงดนตรีที่กินใจที่สุด ไม่ได้เกิดจากการเสริมฟังก์ชันของพื้นที่ แต่คือการสร้าง 'ความขัดแย้ง' ที่งดงาม
เสียงที่ถักทอ 'ความสมดุล' ของการใช้ชีวิต
สำหรับพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Workspaces) มักใช้แนวทางที่ต่างออกไป เสียงดนตรีพื้นหลังที่แผ่วเบา คือสิ่งจำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงาน เราจึงต้องมั่นใจว่ามันจะกลมกลืนกับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้จริงและโทนสีอบอุ่นต่างๆ อย่างเห็นชัดที่สุดคือการนั่งทำงานในร้านกาแฟที่เปิดเพลงเพราะๆ มันทำให้บรรยากาศมันลงตัวไปหมด
แน่นอนว่า ท้ายที่สุดแล้ว การออกแบบที่ดีที่สุด คือการสร้างสรรค์ 'ประสบการณ์' ที่เหนือความคาดหมาย ให้ทุกพื้นที่ที่เราก้าวเข้าไปได้ 'บรรเลง' เรื่องราวของมันเอง...ผ่านรูปทรง แสง เงา และที่สำคัญคือ 'เสียง' ที่มองไม่เห็น...แต่รู้สึกได้ด้วยหัวใจ

#สถาปัตยกรรม #ดนตรีบำบัด #ออกแบบชีวิต #สร้างสรรค์พื้นที่ #ความสุขในทุกมุม

ถึงวันจันทร์แล้วหรอ? ง่วงชะมัด! ลอง 'แฮก' วันที่น่าเบื่อ ให้เป็นจังหวะ 'เริ่มต้นใหม่' ดูไหม?สารภาพมาซะดีๆ... ใครเป็นบ้าง...
16/06/2025

ถึงวันจันทร์แล้วหรอ? ง่วงชะมัด! ลอง 'แฮก' วันที่น่าเบื่อ ให้เป็นจังหวะ 'เริ่มต้นใหม่' ดูไหม?
สารภาพมาซะดีๆ... ใครเป็นบ้าง? 🙋‍♀️🙋‍♂️
เสียงนาฬิกาปลุกในเช้าวันจันทร์ คือสัญญาณแห่งการสิ้นสุดของอิสรภาพ และจุดเริ่มต้นของวงจรความจริงจังที่มาพร้อมกับกองงานเท่าภูเขาไฟฟูจิที่กำลังคุกรุ่น! 🌋
จากเมื่อคืนที่ยังนอนดูซีรีส์เพลินๆ กินข้าวหมูกรอบฉ่ำๆ ไม่ต้องคิดอะไร... พอเสียงนาฬิกาจู่โจมเท่านั้นแหละ ความง่วง ความเบื่อ ความรู้สึกที่อยากจะกลับไปซุกผ้าห่มก็ถาโถมเข้าใส่ทันที! มันเป็นเรื่องธรรมดาโลกแตกใช่ไหมล่ะ?
แต่เคยคิดไหมว่า...วันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อนี้ อาจไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด... หรือจริงๆ แล้ว 'มัน' ไม่ได้แย่ แต่เป็น 'เรา' ต่างหากที่ทำให้มันแย่ลง? ลองเปลี่ยนมุมมองดูไหม? แทนที่จะมองวันจันทร์เป็น 'จุดสิ้นสุดของความสุข' ลองมองให้เป็น 'จุดเริ่มต้นของจังหวะใหม่' ที่เราสามารถกำหนดได้!
'แฮก' วันจันทร์ ให้ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด!

1. เปลี่ยน 'กิจวัตร' เป็น 'พิธีกรรมเล็กๆ':
แทนที่จะตื่นมาลากสังขารไปชงกาแฟ ลองเปลี่ยนมันให้เป็น 'พิธี' ยามเช้าของคุณ เลือกแก้วโปรด เปิดเพลงที่ชอบ จิบกาแฟอย่างช้าๆ สูดกลิ่นหอมๆ ให้สมองได้ตื่นอย่างละมุน ไม่ใช่การกระชากตัวเองให้ตื่น! ☕️🎶

2. ตั้งเป้า 'ชัยชนะเล็กๆ' แค่อย่างเดียว:
อย่าเพิ่งเปิดลิสต์งานยาวเป็นหางว่าว! ในวันจันทร์ ลองโฟกัสแค่ 'หนึ่งงานเล็กๆ' ที่ทำแล้วสำเร็จได้ง่ายๆ อาจจะเป็นส่งอีเมลสำคัญหนึ่งฉบับ จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย หรือเคลียร์งานที่ค้างจากสัปดาห์ก่อนให้เสร็จ แค่นั้นก็สร้าง 'ความรู้สึกชนะ' ให้กับตัวเองได้แล้ว! 🏆

3. อนุญาตให้ตัวเอง 'ไม่เพอร์เฟกต์':
วันจันทร์ไม่ใช่เวทีประกวดความสดใสหรือประสิทธิภาพสูงสุด! บางวันมันก็แค่วันจันทร์ที่ง่วงๆ เบื่อๆ แค่ยอมรับมัน และทำเท่าที่ไหว ให้ได้งานที่ 'พอใช้ได้' ก็พอ การกดดันตัวเองมากเกินไปจะยิ่งทำให้เราเกลียดวันจันทร์มากขึ้น

4. มองหา 'รางวัลเล็กๆ' ตอนท้ายวัน:
ในเมื่อวันจันทร์คือจุดเริ่มต้น ทำไมเราไม่วาง 'รางวัล' เล็กๆ ไว้ให้ตัวเองล่ะ? อาจจะเป็นการดูซีรีส์เรื่องโปรดสักตอน สั่งข้าวเย็นเดลิเวอรี่อร่อยๆ อ่านหนังสือดีๆ ก่อนนอน หรือโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อเม้าท์มอยเรื่องเหนื่อยๆ แค่นี้ก็เป็นแรงผลักให้เราผ่านวันไปได้แล้ว! 🎁

5. เปิดใจให้ 'ความเป็นไปได้':
วันจันทร์คือหน้ากระดาษเปล่าที่เราจะเขียนเรื่องราวตลอดสัปดาห์นี้ลงไป ลองเปิดใจให้สิ่งใหม่ๆ ให้โอกาสตัวเองในการเรียนรู้ หรือลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง ใครจะรู้...วันจันทร์นี้อาจมีเรื่องดีๆ รออยู่ก็ได้! ✨
สุดท้ายแล้ว...วันจันทร์ก็ยังคงเป็นวันจันทร์ แต่เราอาจไม่จำเป็นต้องให้มันเป็น 'วันจันทร์อันแสนน่าเบื่อ' อีกต่อไป ลองเปลี่ยน 'เกียร์' เปลี่ยน 'จังหวะ' และเปลี่ยน 'มุมมอง' ของตัวเองดูสิ
เพราะบางที...เราอาจจะไม่ได้เปลี่ยนวันจันทร์...แต่เราเปลี่ยน 'เรา' ที่มองวันจันทร์ ได้!
แล้วคุณล่ะ? มี 'แฮก' วันจันทร์ในแบบของคุณยังไงบ้าง? มาแชร์กันได้เลย! 👇

#มนุษย์เงินเดือน #ชีวิตทำงาน #เริ่มสัปดาห์ #ทำงานวนไป #ปรับMindset #พลังบวก

9 ปีบนเส้นทางที่ไม่เคยหยุดนิ่ง  #ดุสิตธานี ชวนมอง 'ธุรกิจ' ที่ถูก 'ปลดล็อคมูลค่า' ในแบบของตัวเอง!ในโลกที่ชีวิตคือการเดิน...
15/06/2025

9 ปีบนเส้นทางที่ไม่เคยหยุดนิ่ง #ดุสิตธานี ชวนมอง 'ธุรกิจ' ที่ถูก 'ปลดล็อคมูลค่า' ในแบบของตัวเอง!
ในโลกที่ชีวิตคือการเดินทาง และทุกก้าวมีความหมาย... ลองมองย้อนกลับไป 9 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์ไทยระดับตำนานอย่าง #ดุสิตธานี เพราะไม่ใช่แค่ตัวเลขทางธุรกิจ แต่คือเรื่องราวของการสร้างสรรค์ การเผชิญหน้า และการเติบโตที่น่าสนใจ
ดุสิตธานีเปรียบการเดินทาง 9 ปีนี้เป็น 3 ช่วง:
✨ ช่วงสร้างฐาน (2559-2561): เหมือนช่วงเวลาของการ #จัดระเบียบชีวิต #สร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างทีม สร้างวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาทักษะ และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เหมือนเราค่อยๆ วางอิฐก้อนแรกของบ้านในฝันให้มั่นคงที่สุด
✨ ช่วง Take Off (2562-2565): นี่คือช่วงเวลาของการ #ทะยานสู่ฟ้า #ขยายปีก เหมือนช่วงที่เราเริ่มออกเดินทาง ออกไปเจอโลกภายนอก ขยายธุรกิจ โรงแรมใหม่ๆ โครงการใหญ่ๆ อย่าง ก็เริ่มก่อร่างสร้างตัว แม้จะต้องเจอพายุใหญ่กลางทางอย่างโควิด-19 แต่ดุสิตธานีก็แสดงให้เห็นถึง #ความยืดหยุ่น และ #หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาองค์กร และเดินหน้าต่อไปโดยไม่ลดทอนคุณภาพ!
✨ ช่วง (2566-2568): และนี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุด! เหมือนที่เรากำลัง #เก็บเกี่ยวผลลัพธ์ จากการลงแรง ลงใจ ลงเวลาไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา! ดุสิตธานีกำลังจะได้เห็นผลตอบแทนจากการลงทุนมหาศาล ทั้งจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี และที่สำคัญคือการทยอยโอนโครงการที่พักอาศัยอย่าง Dusit Residences และ Dusit Parkside ที่ขายไปแล้วเกือบ 90% ของโครงการ! นี่คือการ #ปลดล็อคมูลค่า ที่แท้จริง ที่จะทำให้ดุสิตพร้อมกลับมา #สร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน
หากไม่ได้มีแค่โรงแรมเท่านั้น ธุรกิจอาหารอย่าง #ดุสิตฟู้ดส์ ก็เติบโตอย่างน่าจับตา และเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตอีกด้วย!
เรื่องราวของดุสิตธานีตลอด 9 ปีนี้ สอนให้เราเห็นว่า #ความสำเร็จ ไม่ได้มาง่ายๆ แต่มาจาก #วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน #ความมุ่งมั่น และ #การปรับตัวที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเจอความท้าทายแค่ไหน ก็พร้อมจะก้าวผ่านไปได้เสมอ และยังคงยึดมั่นใน "ความเป็นไทย" ที่พร้อมจะส่งมอบ "บริการอันอบอุ่น" สู่สายตาคนทั่วโลก
มองดุสิตธานีในวันนี้ ไม่ใช่แค่แบรนด์โรงแรม แต่คือสัญลักษณ์ของการเติบโตที่ไม่ยอมแพ้ พร้อมที่จะ "ปลดล็อคมูลค่า" ให้กับธุรกิจและสังคม ซึ่งธุรกิจจะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่เรื่องของผู้บริหาร แต่ ธุรกิจ เป็นธุระของคนในองค์กร ความแข็งแรงนี้ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมงานทุกคน คือเบื้องหลังตลอด 9ปี แห่งความหมายนี้ และ มุ่งหน้าสู่แนวคิดที่ไม่หยุดนิ่งของดุสิตธานีต่อไป มาร่วมติดตามและเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าสนใจนี้กันนะคะ!
#เส้นทางความสำเร็จ

กลับมาแล้ว กับศิลปะที่จะเติมเต็มจินตนาการของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ
12/06/2025

กลับมาแล้ว กับศิลปะที่จะเติมเต็มจินตนาการของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ

ตัวแทนจำหน่ายบัตรแบบครบวงจรเต็มรูปแบบอันดับ 1 ของเมืองไทยที่รวม บริการ ขายตั๋ว จองตั๋ว คอนเสริ์ต การแสดง ก...

เฉิงตู: เมืองที่กำลังหายใจในจังหวะใหม่… ชวนออกเดินทางไปค้นพบ 'ความสุขที่ลงตัว' ที่ Dusit Hotel AG Park!ในยุคที่ความเร่งร...
11/06/2025

เฉิงตู: เมืองที่กำลังหายใจในจังหวะใหม่… ชวนออกเดินทางไปค้นพบ 'ความสุขที่ลงตัว' ที่ Dusit Hotel AG Park!
ในยุคที่ความเร่งรีบเข้าครอบงำหัวใจผู้คน การแสวงหา "จังหวะชีวิต" ที่สมดุล คือสิ่งที่เราต่างโหยหา และหากการเดินทางคือส่วนหนึ่งของการค้นหาตัวเอง... อยากชวนคุณปักหมุดไปยังเมืองที่กำลังก้าวเดินอย่างน่าสนใจอย่าง #เฉิงตู เมืองที่ไม่ใช่แค่แพนด้าและหม้อไฟรสจัดจ้าน แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความสงบและวิถีชีวิตที่ลุ่มลึกกว่าที่คุณคิด
“ดุสิตโฮเทล เอจี พาร์ค เฉิงตู” (Dusit Hotel AG Park, Chengdu) โรงแรมใหม่แกะกล่องจากกลุ่มดุสิตธานี ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักหรูหรา แต่คือ "ปลายทาง" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มองหา #สุขภาวะ การเชื่อมโยงกับ #วัฒนธรรมท้องถิ่น และการได้สัมผัส #วิถีชีวิตอย่างยั่งยืน อย่างแท้จริง
ก้าวสู่โอเอซิสในใจกลางอุทยานเกษตรกรรมเทียนฝู
ลองจินตนาการถึงเช้าวันใหม่ที่คุณตื่นขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยไร่ชาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา และฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่ทอดยาวราวผืนพรมธรรมชาติ นี่คือภาพที่คุณจะเห็นได้ที่ Dusit Hotel AG Park ซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง "อุทยานเกษตรกรรมเทียนฝู" ไม่น่าแปลกใจที่ มร. ลุค ลู่ กรรมการผู้จัดการโรงแรม จะมั่นใจว่าที่นี่จะตอบโจทย์นักเดินทางจากทั่วโลก เพราะมันคือการผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสงบทางธรรมชาติได้อย่างลงตัว
สิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษ คือการนำเสนอ #เอกลักษณ์แห่งการบริการแบบไทย อันเปี่ยมด้วย #ไมตรีจิต ผสานเข้ากับเสน่ห์ของธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของมณฑลเสฉวน ทำให้การพักผ่อนที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การหยุดพัก แต่คือการหลอมรวมจิตวิญญาณเข้ากับสิ่งรอบตัวอย่างกลมกลืน
สัมผัสประสบการณ์แห่งการเชื่อมโยง โรงแรมแห่งนี้รังสรรค์ห้องพักดีไซน์ร่วมสมัย 241 ห้อง และวิลล่าหรูส่วนตัว 7 หลัง ให้เป็น #โอเอซิสแห่งความผ่อนคลาย ที่ที่ความสุข สุขภาวะ และวัฒนธรรมท้องถิ่นหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ มันสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของดุสิตธานี ในการยกระดับการบริการแบบไทยให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง
ที่นี่ คุณสามารถเลือกเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ทอดตัวผ่านไร่ชา หรือเข้าร่วมเวิร์กช็อปงานฝีมือที่สะท้อนภูมิปัญญาของชุมชนท้องถิ่น การเยี่ยมชมศูนย์แสดงนิทรรศการหลักของอุทยานฯ และเขตสาธิตการฟื้นฟูชนบท ล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างความทรงจำอันล้ำค่าให้กับครอบครัว คู่รัก และนักเดินทางที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มร. ลุค ลู่ ย้ำว่า ที่นี่คือ "พื้นที่ที่ผู้คนสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน และสร้างความทรงจำร่วมกับครอบครัวในบรรยากาศที่เงียบสงบและมีความหมายอย่างแท้จริง"
และแน่นอนว่าเรื่องของอาหารก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยห้องอาหาร ‘ฮาเวส’ ที่มาในคอนเซปต์ ให้คุณได้ลิ้มรสวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มท้องถิ่น และห้องอาหารจีนสุดหรู ‘เดอะวิว’ ที่พร้อมมอบประสบการณ์อาหารจีนชั้นเลิศ
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดุสิตโฮเทล เอจี พาร์ค เฉิงตู ได้จัด #เทศกาลอาหารไทย ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 โดยได้รับเกียรติจากเชฟชื่อดังจากประเทศไทยอย่าง เชฟวรพจน์ ‘คริสเตียน’ คาลูวาแอร์ต และเชฟวัชรพล ‘จ๋า’ ยงบรรทม มาร่วมรังสรรค์เมนูต้นตำรับที่เราคุ้นเคยและคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวานไก่ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย หรือข้าวเหนียวมะม่วง นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ลิ้มรสความคุ้นเคยท่ามกลางบรรยากาศใหม่ๆ ในอีกมุมหนึ่งของโลก
หากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่มากกว่าแค่การพักผ่อน หากคุณปรารถนาที่จะสัมผัส "วิถีชีวิต" ที่ช้าลง ได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง พร้อมได้รับบริการอันอบอุ่นในแบบไทยๆ... คืออีกหนึ่งหมุดหมายที่คุณไม่ควรมองข้าม
ลองเปิดใจให้เฉิงตูในมุมใหม่ๆ แล้วมาค้นพบความสุขที่ลงตัวในจังหวะของชีวิตที่คุณเลือกเองได้ที่นี่...

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่: www.dusit.com/dusit-hotel-ag-park

#เที่ยวจีน #โรงแรมเฉิงตู
#เฉิงตู #เที่ยวจีน #ธรรมชาติบำบัด #ชีวิตที่ลงตัว

เมื่อชีวิต 'เร่งรีบ' คือ 'จังหวะใหม่' ที่เราเลือกได้... กับพลังปั่นที่ตามทันทุก Passion!ในโลกที่เวลาดูเหมือนจะเดินเร็วกว...
10/06/2025

เมื่อชีวิต 'เร่งรีบ' คือ 'จังหวะใหม่' ที่เราเลือกได้... กับพลังปั่นที่ตามทันทุก Passion!
ในโลกที่เวลาดูเหมือนจะเดินเร็วกว่าปกติ ทุกนาทีคือโอกาส ทุกจังหวะคือความท้าทาย และทุก Passion ต้องการการตอบสนองที่ฉับไว เรามักมองหา #ตัวช่วย ที่จะพาเราไปข้างหน้าได้โดยไม่ทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง...
และในวันนี้ ได้พบกับ "ผู้เล่นใหม่" ที่พร้อมจะเข้ามาเปลี่ยนนิยามของการใช้ชีวิตแบบ "เต็มสปีด" ให้ลงตัวกว่าที่เคย นั่นคือ Ninja Blast™ เครื่องปั่นพกพาไร้สายจากแบรนด์ Ninja ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีว่าเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา
สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาคือดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และ #ไร้สาย คือหัวใจสำคัญที่ทำให้แตกต่าง เพราะนี่ไม่ใช่แค่เครื่องปั่น แต่คือส่วนหนึ่งของ #ไลฟ์สไตล์ ที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวอย่างแท้จริง
พลังปั่นที่ไม่ยอมแพ้ทุกขีดจำกัด
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "เครื่องปั่นพกพาจะทรงพลังแค่ไหนกันเชียว?" แต่ Ninja Blast™ ได้ท้าทายสมมติฐานนั้น ด้วยเทคโนโลยี BlastBlade™ ใบมีดสเตนเลสที่แข็งแกร่งเกินตัว มันพิสูจน์ให้เห็นว่าขนาดไม่สำคัญเท่าประสิทธิภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ หรือผลไม้แช่แข็งที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ก็ถูกปั่นจนเนียนละเอียดได้อย่างง่ายดายในความจุ 470 มล. นี่คือคำตอบสำหรับวันที่เร่งรีบ ที่เราอยากได้สมูทตี้สดชื่นยามเช้าก่อนเข้า #ประชุม หรือมิลค์เชคเนียนนุ่มเติมพลังหลัง #ออกกำลังกาย
"ทุกอย่างเป็นไปได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส" ประโยคนี้จาก ไม่ได้เกินจริง เพราะมันคือการย่อโลกของเมนูเครื่องดื่มที่คุณอยากสร้างสรรค์มาไว้ในกำมือ ไม่ว่าจะเป็นสมูทตี้เขียวเพื่อสุขภาพ น้ำสลัดโฮมเมดรสจัดจ้านสำหรับมื้อกลางวัน หรือแม้แต่โปรตีนเชคหลังยิม การออกแบบที่ไร้สายทำให้ไม่มีข้อจำกัดของปลั๊กไฟอีกต่อไป เราสามารถสร้างสรรค์เมนูโปรดได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ
ออกแบบมาเพื่อชีวิตที่ 'ไม่หยุดนิ่ง' นอกเหนือจากพลังปั่น สิ่งที่ทำให้ Ninja Blast™ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่คือ "ความเข้าใจ" ในรายละเอียดของไลฟ์สไตล์
#แบตเตอรี่อึด : ปั่นได้สูงสุด 10 ครั้งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน หรือตลอดทริปสั้นๆ
#สะดวกต่อการเดินทาง : ฐานมอเตอร์ที่ออกแบบมาให้วางพอดีกับช่องวางแก้วในรถยนต์ ทำให้การพกพาไปไหนมาไหนเป็นเรื่องง่ายและเป็นธรรมชาติ
#ทำความสะอาดง่าย : ไม่ต้องกังวลเรื่องการล้าง เพราะภาชนะปั่นที่ปลอดสาร BPA สามารถเข้าเครื่องล้างจานได้ หรือจะใช้ระบบล้างตัวเองด้วยการปั่นน้ำและน้ำยาล้างจานเพียง 30 วินาที ก็สะอาดพร้อมใช้ นี่คือฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนที่มีเวลาน้อยอย่างแท้จริง
ไม่ว่าวันของคุณจะเริ่มต้นด้วยการวิ่งออกกำลังกาย ตามมาด้วยการประชุมมาราธอน หรือปิดท้ายด้วยการเล่นสนุกกับลูกๆ ในสวนสาธารณะ Ninja Blast™ คือเพื่อนร่วมทางที่ทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่าง "เต็มสปีด" โดยไม่ต้องประนีประนอมเรื่องคุณภาพและสุขภาพ มันคือเครื่องมือที่ช่วยให้เรา "กำหนดจังหวะ" ของตัวเองได้ในวันที่ชีวิตดูเหมือนจะกำหนดจังหวะของเรา
การมีเครื่องปั่นพกพาดีๆ สักเครื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่คือการลงทุนในสุขภาพที่ดี และการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับทุกสิ่งอย่างมีพลังและสดชื่นอยู่เสมอ

Ninja Blast™ มีให้เลือกถึง 4 สี ที่เว็บไซต์ sharkninja.co.th และ powerbuy.co.th หรือช่องทาง SharkNinja Official Store ใน Lazada และ Shopee ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษอยู่ด้วย ลองเข้าไปดูรายละเอียดกันได้เลย!

#สุขภาพดีสร้างได้ ู่ใจ #คนรักสุขภาพ #วิถีคนเมือง #เครื่องปั่นพกพา #ไลฟ์สไตล์คนเมือง #ชีวิตเต็มสปีด #สุขภาพดีเริ่มที่มือ #ของมันต้องมี

ที่อยู่

Sugarplum Co. , Ltd
Bangkok
10600

เบอร์โทรศัพท์

+66919262697

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Fleekผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์