Fleek On Fleek Thailand
✨ Style Your Life, Live Your Best
🧘‍♀️ Health • Beauty • Mindfulness
💫 For People who live with style

Amazing Boy Thailand เปิดตัวยิ่งใหญ่รายการเฟ้นหาศิลปินชายคู่ดูโอ้ ครั้งแรกในเมืองไทยภายใต้ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและบันเ...
18/09/2025

Amazing Boy Thailand เปิดตัวยิ่งใหญ่
รายการเฟ้นหาศิลปินชายคู่ดูโอ้ ครั้งแรกในเมืองไทย
ภายใต้ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและบันเทิงจีน-ไทย

Amazing Boy Thailand รายการวาไรตี้น้องใหม่ เฟ้นหาศิลปินชายคู่ดูโอ้รายการแรกของประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและบันเทิงอันแน่นแฟ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย ที่ผลิตโดย Mango TV ร่วมกับพันธมิตรไทย-จีน อย่าง One 31, Handsome Entertainment และ Mandarin Film โดยใช้มาตรฐานการผลิตรายการวาไรตี้ของจีนที่มีความชำนาญ ผสมผสานกับรูปแบบที่สร้างสรรค์ มุ่งมั่นสร้างผลงานต้นแบบที่สะท้อน “รสนิยมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” และวางรากฐานอุตสาหกรรมสร้างศิลปินข้ามพรมแดน ตลอดจนเป็นต้นแบบของความร่วมมือด้านบันเทิงข้ามชาติรูปแบบใหม่
รายการ Amazing Boy Thailand จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ ล้อบบี้อาคาร GMM Grammy ในงานนอกจากจะเปิดตัวรายการขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ยังเปิดตัวทีมงานผู้ผลิตรายการ อาทิ คุณอัลเลน ฟาง Managing Director แมงโก้ทีวี คุณโอวหยาง โปรดิวเซอร์ และพันธมิตร คุณเดียว วรตั้งตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด พร้อมเปิดตัวทีมผู้เชี่ยวชาญในการสร้างความฝันของเด็กๆ ในรายการ เริ่มจาก 4 ซุปเปอร์เมนเทอร์สุดฮอตอย่าง บี้ ธรรศภาคย์ ซี, เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร, ฝ้าย พีรญา มะลิซ้อน และ นนกุล ชานน สันตินธรกุล
ทีมที่ปรึกษาพิเศษฝั่งไทย ปั๋ง ประกาศิต โบสุวรรณ และ อาจารย์ฟู จากแมนดาริน และทีมครูเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญสุดพิเศษที่จะมาดูแลเด็กๆ ทุกคนอย่างใกล้ชิดในช่วงรอบชิงของรายการ ทั้ง
ทีม Voice Trainer ที่นำโดย ครูคิง พิเชษฐ์ บัวขำ หรือ ครูคิง เดอะวอยซ์ ที่เคยสอน Super Mentor บี้ ร่วมกับทีมจะมาช่วยฝึกเรื่องเสียงและเทคนิคการร้องเพลงให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถโชว์ความสามารถด้านเสียงร้องได้เต็มที่ โดยมาเป็นทีม มีทั้ง ครูต่อรัก / ครูนก และครูเดียร์
ทีม Music Director – ครูจุ๊บ ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ หรือ ครูจุ๊บ เดอะรู๊บ จะคอยช่วยจัดเรียงดนตรี วางโครงสร้างเพลง และให้คำปรึกษาด้านการแสดงบนเวที
ทีม Dance Trainer – ครูเบล สุภัชญา ลัทธิโสภณกุล หรือ ครูเบล ไชน่าดอล์ จะช่วยฝึกท่าเต้น การเคลื่อนไหว รวมถึงการแสดงออกบนเวที ให้ผู้เข้าแข่งขันเปล่งประกายและทรงพลังที่สุด


โดยงานนี้แม้จะมีโชว์สดบนเวทีเบาๆ จากเหล่าซุปเปอร์เมนเทอร์ และหนุ่มหล่อที่ผ่านการออดิชั่นมาแล้วบางส่วน แต่ก็สามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับและผู้ชมที่มาร่วมงานกันอย่างลั่นล้อบบี้เลยทีเดียว

แฟนๆ สามารถติดตามชมความสนุกของรายการ Amazing Boy Thailand ได้ในวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ เวลา 22.30 – 23.30 น. ทางช่อง One 31 และติดตามอัพเดทข้อมูล และความสนุกเพิ่มเติมได้ทาง TikTok: .amazingboy / Youtube: -official

ฟีเวอร์ไม่มีแผ่ว! เปิดพลัง Matcha ไอเท็มคู่ใจของคนรักสุขภาพ   #ชาเขียวมัทฉะ    #เครื่องดื่มสุขภาพ  #ไลฟ์สไตล์สุขภาพดีถ้า...
16/09/2025

ฟีเวอร์ไม่มีแผ่ว! เปิดพลัง Matcha ไอเท็มคู่ใจของคนรักสุขภาพ
#ชาเขียวมัทฉะ #เครื่องดื่มสุขภาพ #ไลฟ์สไตล์สุขภาพดี

ถ้าให้พูดถึงเครื่องดื่มที่มาแรงไม่เคยตกเทรนด์ หนึ่งในนั้นต้องมี #มัทฉะ อย่างแน่นอน! นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในคาเฟ่แล้ว มัทฉะยังกลายเป็นไอเท็มคู่ใจของคนรักสุขภาพ เพราะไม่ได้ให้แค่ความสดชื่น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยประโยชน์ที่สายเฮลท์ตี้ต้องร้องว้าว!

ทำไมมัทฉะถึงฮิตขนาดนี้?

พลังบูสต์สมอง: ในมัทฉะมีสาร L-Theanine ที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายแต่ยังคงตื่นตัว ไม่เหมือนอาการใจสั่นที่มาจากกาแฟ เหมาะมากสำหรับวัยทำงานที่ต้องการสมาธิ!

สารต้านอนุมูลอิสระสูงปรี๊ด: มัทฉะมีสาร EGCG ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 137 เท่า! ช่วยชะลอวัยและปกป้องร่างกายจากมลภาวะต่างๆ

ช่วยระบบเผาผลาญ: มีงานวิจัยพบว่าการดื่มมัทฉะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

มัทฉะในชีวิตประจำวัน

ทุกวันนี้มัทฉะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแก้วเครื่องดื่ม แต่ยังถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่างๆ ที่หลากหลาย เช่น:

Matcha Latte: เมนูสุดคลาสสิกที่ดื่มง่าย ถูกใจทุกคน

Matcha Croissant: ครัวซองต์ไส้มัทฉะเข้มข้น หอมนัวลงตัว

Matcha Tiramisu: ขนมหวานที่รวมความขมละมุนของมัทฉะเข้ากับความนุ่มฟูของครีม

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในโหมดทำงานหรือพักผ่อน มัทฉะก็เป็นคำตอบที่ลงตัวเสมอ!

แล้วคุณล่ะ...มีเมนูมัทฉะแก้วโปรดเป็นอะไร? มาแชร์กันได้เลย!

#สุขภาพดีเริ่มต้นที่การกิน #เมนูสุขภาพ #ชาเขียว #มัทฉะเข้มข้น

 #เตือนภัยวัยทำงาน! แค่ก้มเก็บของก็เสี่ยงบาดเจ็บ? 5 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณยกของได้ถูกวิธี! #สุขภาพดี  #ออฟฟิศซินโดร...
15/09/2025

#เตือนภัยวัยทำงาน! แค่ก้มเก็บของก็เสี่ยงบาดเจ็บ? 5 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณยกของได้ถูกวิธี!
#สุขภาพดี #ออฟฟิศซินโดรม #คนทำงาน #สุขภาพหลัง #ยกของ #ป้องกันอาการบาดเจ็บ

เคยไหมที่แค่ก้มเก็บของ ก้มหยิบกระเป๋าช้อปปิ้ง หรือแค่ขยับกระถางต้นไม้ แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกปวดแปลบที่หลัง? นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะเรากำลัง "ยกของผิดวิธี" อยู่ต่างหาก!

การยกของคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่การทำผิดวิธีซ้ำๆ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนจำนวนมากมีอาการปวดหลังเรื้อรัง หรือบาดเจ็บที่หัวไหล่และหัวเข่าได้

ทำไมเราถึงเจ็บตัวง่ายขึ้น?

แพทย์หญิง Deepali Misra-Sharp ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสตรีอธิบายว่า สาเหตุหลักมาจาก "พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง" ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะทำพลาดบ่อยๆ คือ:

ก้มจากเอว: แทนที่จะใช้กำลังจากขา

บิดตัวขณะยกของ: ทำให้หลังต้องรับน้ำหนักมากเกินไป

ยกของที่หนักเกินไป: ทำให้กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น

แล้วต้องทำยังไงให้ถูกวิธี?

เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บได้แล้ว!

ตั้งสติก่อนยก: ใช้เวลาสักครู่ในการประเมินสิ่งของที่จะยก และวางแผนว่าจะยกอย่างไร

ใช้กำลังจากขา: งอเข่าและสะโพกเพื่อหยิบของ แล้วใช้กำลังจากกล้ามเนื้อต้นขาและก้นในการดันตัวขึ้น

ชิดลำตัวเข้าไว้: พยายามยกสิ่งของให้ชิดลำตัวมากที่สุด เพราะยิ่งห่างจากตัวมากเท่าไหร่ ของก็จะยิ่งหนักมากขึ้นเท่านั้น

อย่าบิดตัว: หากต้องการหัน ให้ใช้การขยับเท้าเพื่อเปลี่ยนทิศทางของร่างกายทั้งตัว

อย่ารีบ: ค่อยๆ วางสิ่งของลงช้าๆ อย่าปล่อยกระแทกลงไป

การมีร่างกายที่แข็งแรงและยืดหยุ่นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ลองเพิ่มการออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core) และกล้ามเนื้อขา เช่น #โยคะ #พิลาทิส หรือการทำ เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับมือกับทุกการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันก็ช่วยได้ค่ะ

#สุขภาพหลัง #ปวดหลัง #เคล็ดลับสุขภาพ #วัยทำงาน #สุขภาพกาย #ดูแลตัวเอง

วัยเลข 3, 4 ต้องรู้! ทำไมอายุยิ่งเยอะ "ยิ่งอ้วนง่าย"? แล้วจะแก้นิสัย "อ้วนลงพุง" ได้ยังไง? #สุขภาพดี  #อ้วนลงพุง  #วัยทำ...
14/09/2025

วัยเลข 3, 4 ต้องรู้! ทำไมอายุยิ่งเยอะ "ยิ่งอ้วนง่าย"? แล้วจะแก้นิสัย "อ้วนลงพุง" ได้ยังไง?
#สุขภาพดี #อ้วนลงพุง #วัยทำงาน #ลดน้ำหนัก #เมตาบอลิซึม #ดูแลตัวเอง

เคยสังเกตไหมว่าทำไมพออายุเข้าเลข 3 หรือ 4 แล้วน้ำหนักถึงเพิ่มขึ้นง่ายจัง? ทั้งที่กินเท่าเดิม ออกกำลังกายก็เหมือนเดิม แต่ทำไมเสื้อผ้าถึงเริ่มคับ?

นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณคิดไปเอง! อาการนี้เรียกว่า "Middle-Age Spread" หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "อ้วนลงพุง" ซึ่งเป็นผลตามธรรมชาติของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย

สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม:

ระบบเผาผลาญช้าลง: ยิ่งเราอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญ (Metabolism) ก็จะทำงานช้าลง แต่ความอยากอาหารไม่ได้ลดลง ทำให้กินเท่าเดิมแต่น้ำหนักเพิ่ม

มวลกล้ามเนื้อลดลง: ร่างกายจะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และเปลี่ยนเป็นไขมันแทน โดยเฉพาะไขมันที่สะสมรอบอวัยวะภายใน

ไลฟ์สไตล์ไม่แอคทีฟ: การนั่งทำงานนานๆ หรือการมีกิจกรรมเคลื่อนไหวในแต่ละวันน้อยลง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

แล้วจะทำยังไงดี?

เพื่อให้ห่างไกลจากภาวะอ้วนลงพุง เราต้องปรับพฤติกรรมบางอย่าง

ปรับการกิน: เมื่อระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เราต้องลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันลง แต่ยังต้องครบถ้วนด้วยสารอาหารที่จำเป็น

ลอง Intermittent Fasting (IF): การจำกัดเวลาการกินอาหารในแต่ละวันให้สั้นลง เช่น กินแค่ 8 ชั่วโมงต่อวัน และอีก 16 ชั่วโมงที่เหลือเป็นการงดอาหาร อาจช่วยให้กินน้อยลงและดีต่อระบบเผาผลาญ

เคลื่อนไหวให้มากขึ้น: ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมทุกวัน แต่แค่ลุกขึ้นเดินบ่อยๆ หรือเปลี่ยนมาใช้โต๊ะยืนทำงานบ้าง ก็ช่วยได้มากแล้ว

การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้คุณรักษาหุ่นให้ฟิต และสุขภาพให้แข็งแรงไปได้อีกนานครับ!

#ลดความอ้วน #ชีวิตดี #สุขภาพดี #เมตาบอลิซึม #ดูแลตัวเอง

เขย่าวงการคนทำหนัง! FUJIFILM GFX ETERNA 55 กล้อง Cinema ระดับเทพ ที่ใครก็ต้องจับตามอง!     #กล้องภาพยนตร์  #เทคโนโลยีภาพ...
13/09/2025

เขย่าวงการคนทำหนัง! FUJIFILM GFX ETERNA 55 กล้อง Cinema ระดับเทพ ที่ใครก็ต้องจับตามอง!
#กล้องภาพยนตร์ #เทคโนโลยีภาพยนตร์ #คอนเทนต์ครีเอเตอร์

ถ้าคุณเป็นคนทำหนังหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่กำลังมองหาเครื่องมืออัปเกรดงานสร้างแบบก้าวกระโดด เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะ กำลังจะเขย่าวงการด้วยการเปิดตัวกล้อง Cinema รุ่นใหม่ล่าสุด "FUJIFILM GFX ETERNA 55" ที่จะมาเปลี่ยนทุกนิยามของการสร้างภาพยนตร์

ทำไม GFX ETERNA 55 ถึงเป็นที่จับตามอง?

เซนเซอร์ Medium Format ตัวท็อป: มาพร้อมเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่า Full Frame ทั่วไปถึง 1.7 เท่า ให้ภาพที่คมชัดระดับ 102 ล้านพิกเซล เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวเล็กแต่สเปคจัดเต็ม: ตัวกล้องมีน้ำหนักเบาแค่ 2 กก. แต่รวมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างหน่วยประมวลผล X-Processor 5 และฟีเจอร์ Film Simulation เอกลักษณ์ของฟูจิฟิล์ม ที่ให้โทนสีภาพยนตร์แบบที่มืออาชีพเลือกใช้

เลนส์คู่หูสุดปัง: เปิดตัวพร้อมกับเลนส์ Cinema Power Zoom ตัวแรกในซีรีส์ GF ที่มีมอเตอร์ในตัว ทำให้การซูมและการโฟกัสเป็นไปอย่างลื่นไหลและแม่นยำ

รองรับทุกงานสร้างสรรค์: ไม่ว่าจะเป็นงานภาพยนตร์, สารคดี, มิวสิกวิดีโอ หรือคอนเทนต์ออนไลน์ กล้องรุ่นนี้รองรับฟอร์แมตการถ่ายภาพยนตร์ถึง 5 รูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของครีเอเตอร์ยุคใหม่อย่างครอบคลุม

นี่คือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างภาพยนตร์อย่างแท้จริง และเป็นการตอกย้ำว่า ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์กล้องถ่ายภาพ แต่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีภาพที่แท้ทรู!

#กล้องใหม่ #คนรักหนัง #อุปกรณ์ทำหนัง

ติ่งทาร์ตไข่มีเฮ! GrabFood เผยยอดขายพุ่ง 80% พร้อมเปิดตัว 4 รสชาติใหม่สุดปัง! #ทาร์ตไข่      #เมนูใหม่  #อร่อยบอกต่อ  #ร...
12/09/2025

ติ่งทาร์ตไข่มีเฮ! GrabFood เผยยอดขายพุ่ง 80% พร้อมเปิดตัว 4 รสชาติใหม่สุดปัง!
#ทาร์ตไข่ #เมนูใหม่ #อร่อยบอกต่อ #รีวิวของกิน

ใครเป็นสาวก #ทาร์ตไข่ ยกมือขึ้น! เพราะล่าสุด GrabFood ออกมาประกาศข่าวดีว่า "ทาร์ตไข่" ขึ้นแท่นเมนูเบเกอรี่สุดฮิตบนแพลตฟอร์มแล้ว โดยยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 80% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 และร้านค้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า! บอกเลยว่ากระแส #ทาร์ตไข่ฟีเวอร์ ยังคงมาแรงไม่หยุดจริงๆ

เพื่อฉลองความสำเร็จนี้ GrabFood จับมือกับ YOLK แบรนด์ทาร์ตไข่สเปเชียลตี้ชื่อดัง สร้างสรรค์โปรเจกต์สุดพิเศษ "Proudly, Made in Thailand" ที่รวมตัว 4 แบรนด์ไทยสุดฮิตมารังสรรค์ทาร์ตไข่รสชาติใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ!

4 รสชาติใหม่สุดว้าว! ที่ต้องรีบไปลอง:

ทาร์ตไข่ซุปทรัฟเฟิลชีสน้ำผึ้ง จาก โอ้กะจู๋

ทาร์ตไข่กาแฟเดอร์ตี้โมจินมสด จาก โรงคั่วกาแฟทรงวาด

ทาร์ตไข่สังขยาใบเตยน้ำตาลโตนด จาก แก้วบูทีค

ทาร์ตไข่ครีมชีสเจลลี่องุ่น จาก เจี้ยนชา

บอกเลยว่าแต่ละรสชาติคือการรวมตัวของความอร่อยที่ลงตัว! ใครไม่อยากตกเทรนด์รีบสั่งมาลองได้เลย ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น! ย้ำอีกครั้งว่าสั่งได้เฉพาะที่ Grab เท่านั้นนะ!

#เมนูอร่อย #ของหวาน #ของกินGrab #ของอร่อยบอกต่อ #ของดีต้องลอง

กอดกันดีไหม? กอดได้กอดดี หรือควรเว้นระยะห่างดีนะ? Free Therapy เปิดความลับของการกอดที่คุณไม่เคยรู้ #กอด  #พลังกอด  #สัมผ...
12/09/2025

กอดกันดีไหม? กอดได้กอดดี หรือควรเว้นระยะห่างดีนะ? Free Therapy เปิดความลับของการกอดที่คุณไม่เคยรู้
#กอด #พลังกอด #สัมผัสบำบัด #โซเชียลไมด์ #สุขภาพกายใจ

เคยไหมที่คุณอยากกอดใครสักคนเพื่อแสดงความรัก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะโอเคไหม? หรือในทางกลับกัน คุณอาจไม่ใช่คนชอบกอดแต่ก็ต้องฝืนเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี? เรื่องเล็กๆ อย่าง "การกอด" กลับเป็นเรื่องใหญ่ที่คนวัย 30+ อย่างเราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือ

เมื่อการกอดมีประโยชน์...

นักจิตบำบัด Anna Mathur บอกว่า การกอด มีประโยชน์มากมายหากเป็นความต้องการที่ตรงกัน:

ลดความเครียด: การกอดช่วยให้ร่างกายหลั่ง #ฮอร์โมนแห่งความสุข อย่าง Oxytocin, Serotonin และ Dopamine ออกมา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: การสัมผัสช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น

ลดความโดดเดี่ยว: การกอดอย่างจริงใจช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเชื่อมโยงกับผู้อื่น

แต่ทำไมบางคนถึงไม่ชอบกอด?

สำหรับบางคน การกอดอาจให้ผลตรงกันข้าม เพราะมันจะกลายเป็นความเครียดทันที หากเกิดจากความรู้สึกถูกบังคับหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย

ประสบการณ์ในวัยเด็ก: หากเคยถูกบังคับให้กอดใครในวัยเด็ก อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจเมื่อโตขึ้น

ความแตกต่างทางระบบประสาท: ผู้ที่มีความบกพร่องทางระบบประสาท เช่น ออทิสติก อาจมีปัญหากับการสัมผัสทางร่างกาย

วัฒนธรรม: แต่ละวัฒนธรรมมีขอบเขตและวิธีแสดงความรักที่ไม่เหมือนกัน

ข้อควรรู้สำหรับนักกอดและคนไม่ชอบกอด

ถ้าคุณเป็นนักกอด:

สังเกตภาษากายของอีกฝ่ายว่าเขาเปิดรับหรือไม่

อย่าดึงรั้งไว้นานเกินไป หากรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มจะถอย

ถามด้วยความสุภาพว่า "คุณเป็นคนชอบกอดไหม?" เพื่อความแน่ใจ

ถ้าคุณไม่ชอบกอด:

สร้างกฎส่วนตัว (Party Line): หากเห็นว่ามีคนกำลังจะเดินเข้ามากอด ให้ยื่นมือออกไปแล้วพูดอย่างสุภาพว่า "ฉันไม่ใช่คนชอบกอดนะ แต่ดีใจที่ได้เจอคุณ"

มีทางเลือกอื่น: ยิ้มกว้างๆ ให้คำชมเชย หรือจับมืออย่างอบอุ่น ก็เป็นการแสดงความรู้สึกดีๆ ได้เหมือนกัน

อย่ายอม: การยอมให้คนอื่นเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคุณไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ และอย่ารู้สึกผิดที่จะปฏิเสธ

จำไว้ว่า: การปฏิเสธที่จะกอดไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันคือความชอบและขอบเขตส่วนตัวของแต่ละคน การทำความเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกันจะทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและสบายใจมากกว่าการฝืนกอดอย่างแน่นอน

   EM DISTRICT ร่วมกับ แสนสิริ ครีเอทโปรเจกต์ “IMAGINE SUKHUMVIT” �รวบรวม 88 ผลงาน ศิลปินหลากหลายเจเนอเรชั่นไว้ใจกลางสุข...
11/09/2025


EM DISTRICT ร่วมกับ แสนสิริ ครีเอทโปรเจกต์ “IMAGINE SUKHUMVIT” �รวบรวม 88 ผลงาน ศิลปินหลากหลายเจเนอเรชั่นไว้ใจกลางสุขุมวิท

“เอ็ม ดิสทริค” (เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์) ผู้นำ Art District ย่าน�สุขุมวิท ร่วมกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ อันดับ 1 ของไทย สร้างปรากฏการณ์ศิลปะครั้งยิ่งใหญ่ในงาน “EM DISTRICT EMPRESSION 2025: IMAGINE SUKHUMVIT – THE ART PEOPLE MEET-UP” เนรมิตศูนย์การค้าให้เป็นอาร์ตเอ็กซิบิชั่นสุดพิเศษ ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนวงการศิลปะและครีเอทิฟคอมมูนิตี้ จัดแสดงผลงานจาก 88 ศิลปินที่ได้รับคัดเลือก ผ่านการแสดงผลงานศิลปะทั่วพื้นที่ศูนย์การค้า สะท้อนให้เห็นว่าสุขุมวิทไม่เพียงเป็นย่านเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ แต่ยังเป็น “ผืนผ้าใบ” ผืนสำคัญที่รวบรวมไอเดียแห่งความสร้างสรรค์ร่วมสมัยอีกแห่งของกรุงเทพมหานครไว้อีกด้วย พร้อมชวนเหล่าศิลปินหน้าใหม่มาร่วมพูดคุย Creative Talk ในประเด็นการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์และศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์
สุธาวดี ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด เอ็ม ดิสทริค กล่าวว่า “เอ็ม ดิสทริค �ให้ความสำคัญกับ ‘ศิลปะและงานดีไซน์’ มาโดยตลอด เราได้หลอมรวมความคิดสร้างสรรค์เข้ากับวิสัยทัศน์ เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่สะท้อนตัวตนทางศิลปะออกมาอย่างแท้จริง ผ่านการทำงานร่วมกับศิลปินระดับโลกและศิลปินชั้นนำของไทย เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ของเราให้กลายเป็น Art District ใจกลางกรุงเทพ ที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และผู้คนสามารถเข้าถึงศิลปะได้อย่างใกล้ชิด ในปีนี้ เราร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมจัดงาน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568” หรือ “Bangkok Design Week 2025” โดยเปิดพื้นที่ให้กับนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพใน Academic Program ถือเป็นการจุดประกายพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของ�การส่งเสริมครีเอทีฟคอมมูนิตี้อย่างแท้จริง โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้จัดแสดงผลงานทั่วศูนย์การค้า �เอ็ม ดิสทริค มุ่งหน้าสนับสนุนงานออกแบบและงานศิลปะในทุกมิติ เพื่อยกระดับย่านสุขุมวิทให้เป็นศูนย์กลางแห่ง แรงบันดาลใจด้านดีไซน์และศิลปะของกรุงเทพ รวมถึงเป็นหมุดหมายแห่งอาร์ตเดสทิเนชั่น ให้กับผู้ที่หลงใหลในงานศิลป์และดีไซน์จากทั่วทุกมุมโลกได้มาเยือน
เอ็ม ดิสทริค ถือเป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่เป็น Art District ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้เรียนรู้และเข้าถึงงานศิลปะ จึงเป็นที่มาของโครงการ EMPRESSION ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Imagine Sukhumvit” โดยมีคุณไซม่อน นิโคลัส พิลลาร์ด (Simon Nicolas Pillard) หนึ่งในคีย์แมนผู้ผลักดันงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับชีวิตผู้คนให้เกิดขึ้นจริง และกลายเป็นกระแสในแวดวงศิลปะ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม”
โดย ไซม่อน นิโคลัส พิลลาร์ด (Simon Nicolas Pillard) ครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ ของ ART IN THE MALL ได้ย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีก่อนว่า “เราเริ่มต้นโปรเจกต์ ART IN THE MALL ด้วยเป้าหมายที่จะให้เอ็ม ดิสทริค เป็นอาร์ตคอมมูนิตี้ จากจุดเริ่มต้นด้วยการนำเสนอผ่านอินสตาแกรมที่เน้นโชว์การตกแต่งทั่วไป แต่เรามีการทวิสต์คอนเทนต์ให้เห็นเบื้องหลังการทำงาน เพื่อคอนเน็คกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ �จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่หลายและเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย สอดคล้องกับ EMPRESSION งานที่เราทำมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นการเนรมิตพื้นที่ต่างๆ ในศูนย์การค้าให้กลายเป็นอาร์ตเอ็กซิบิชั่น โดยอยากเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมอย่างเปิดกว้างมากขึ้น จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ “Imagine Sukhumvit” �ให้ทุกคนได้นำเสนอไอเดีย มุมมองสุขุมวิทในแบบของตน ซึ่งมีศิลปินให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ส่งผลงานมาร่วมกว่า 400 ชิ้น และเราได้คัดเลือกมาทั้งหมด 88 ผลงาน เพื่อนำมาจัดแสดงทั่วทุกพื้นที่ของศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์”
“ผลงานที่ถูกคัดเลือกมาทั้ง 88 ชิ้นนั้น มีหลากหลายรูปแบบอย่างไม่ปิดกั้น ทั้งจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทย อาทิ Juli Baker and Summer () นักวาดภาพที่โดดเด่นด้วยสีสันและลายเส้น, Tikkywow () ศิลปินกราฟิกที่เน้นการใช้สีอย่างมีสไตล์ และ Sleepybeee ( ) นักวาดภาพที่มีเอกลักษณ์ด้วยลายเส้นพลิ้วไหว รวมทั้งการเปิดโอกาสจากพลังคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เยาวชนอายุเพียง 10 ขวบ, ผลงานจากเด็กๆ โรงเรียนรุ่งอรุณที่ร่วมมือกันทำ หรือจะเป็นงานที่สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคเฉพาะอย่างการใช้สิ่วตอกลงบนกระดาษ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การจัดแสดงงานศิลปะ แต่เป็นการสร้างสรรค์คอมมูนิตี้ที่เปิดรับทุกคนอย่างเท่าเทียม ทั้งศิลปินที่ต้องการแสดงผลงาน และผู้คนทั่วไปที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เราอยากให้เขาเหล่านั้นรู้สึกภูมิใจ ที่สิ่งที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น ได้ไปอยู่ข้างๆ ผลงานของศิลปินรุ่นใหญ่ที่เขาชื่นชม” ไซม่อน กล่าวสรุป
ด้าน วทัญญู ตันติวงศ์ Vice President of Aesthetics & Interior Design จากแสนสิริ กล่าวถึงการร่วมมือกับเอ็ม ดิสทริค ในครั้งนี้ว่า “แสนสิริรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจกต์ Imagine Sukhumvit ในครั้งนี้ ในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์และ Design Leader ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เรามุ่งสร้าง "Arts of Living Experience" โดยเชื่อว่าศิลปะคือหัวใจสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้คน ในครั้งนี้ เราได้นำ 5 ศิลปินครีเอเตอร์ จากโปรเจกต์ ARTIZEN มาร่วมแสดงผลงาน โดย ARTIZEN มาจากแนวคิด SANSIRI Lighting New Possibilities เป็นโครงการที่นำเสนอพื้นที่แห่งโอกาสและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ร่วมเอ็มพาวเวอร์ New Talent รุ่นใหม่ และสนับสนุนให้พวกเขามีโอกาสได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ การร่วมมือกับเอ็ม ดิสทริค ครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าการแสดงงานศิลปะ แต่เป็นการสร้างคอมมูนิตี้ที่เต็มไปด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้างพื้นที่และโอกาสให้กับศิลปิน และร่วมกันขับเคลื่อน Creative Economy ของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
มากไปกว่านั้น ยังมีศิลปินผู้ออกแบบผลงานในโปรเจกต์ IMAGINE SUKHUMVIT มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ภายในงาน ได้แก่ วิภาลักษณ์ ศิริพลานนท์ () ศิลปินกราฟิกดีไซน์และนักวาดภาพประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว, สุธาทิพย์ อุปสุข () ศิลปินที่โดดเด่นด้วยสไตล์ภาพประกอบที่สนุก สดใส และร่วมสมัย และ ณัฐธีร์ โชติระวีธนาศิริ () ศิลปินนักวาดภาพประกอบผู้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ปรัชญา อิชิโกะ อิชิเอะ โดยศิลปินทั้ง 3 ท่านได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน พร้อมบอกเล่าถึงบทบาทในฐานะศิลปินกับการตีความศิลปะต่อผู้คนและเมืองในแบบของตนเอง รวมถึงหนึ่งใน ARTIZEN จาก SANSIRI ปภาวี ไวทยานนท์ () ศิลปินที่เชี่ยวชาญด้าน Visual Art มาร่วมแชร์แรงบันดาลใจและบทบาทของศิลปินกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัย และความสนุกให้กับงานศิลปะในเมือง
งานครั้งนี้ ไม่เพียงตอกย้ำการเป็น Art District ใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความตั้งใจในการเป็นพื้นที่ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับทุกคน และความมุ่งมั่นที่จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ แลกเปลี่ยนความคิด และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อยืนยันว่า เอ็ม ดิสทริค คือบ้านของครีเอทีฟคอมมูนิตี้ ที่ศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ชีวิต ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลงตัว
ผู้สนใจสามารถร่วมชมผลงานศิลปะในงาน “EM DISTRICT EMPRESSION 2025: IMAGINE SUKHUMVIT – THE ART PEOPLE MEET-UP” ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และบีทีเอสสกายวอล์ค และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Emporium Emquartier และ Emsphere at EM District หรือ LINE และ IG: artinthemall

ASMR Spa: กระแสใหม่ที่ทำให้การผ่อนคลายไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!จากคลิปในโลกออนไลน์  สู่สปาสุดล้ำ: เมื่อ ASMR กลายเป็นเทรนด์...
11/09/2025

ASMR Spa: กระแสใหม่ที่ทำให้การผ่อนคลายไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
จากคลิปในโลกออนไลน์ สู่สปาสุดล้ำ: เมื่อ ASMR กลายเป็นเทรนด์ Wellness ที่ต้องลอง!
เคยไหม...ที่ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ เสียงเคาะเบาๆ หรือเสียงลูบไล้ที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งทั่วร่างกาย นั่นแหละคืออาการของ ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response) ที่เคยโด่งดังอยู่แต่ในโลกออนไลน์ แต่ตอนนี้มันกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริงในรูปแบบของ "สปา ASMR"
ASMR คืออะไรกันแน่?

นักจิตวิทยา Giulia Poerio อธิบายว่า ASMR คือความรู้สึก "ขนลุก" ที่เริ่มต้นจากหนังศีรษะและค่อยๆ ไล่ลงมาตามร่างกาย พร้อมความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเหมือนอยู่ในภวังค์ ซึ่งเกิดจากสิ่งกระตุ้นเฉพาะทาง เช่น เสียงกระซิบ เสียงเคาะ หรือการสัมผัสเบาๆ
จากเดิมที่เราต้องพึ่งพาคลิปวิดีโอเพื่อสัมผัสประสบการณ์นี้ ฟังเพลินๆ ดูเพลิน นั่นแหละความผ่อนคลายที่อธิบายไม่ถูก และนี่คือที่มาของ WhisperWave สปา ASMR ในนิวยอร์ก ที่ได้นำประสบการณ์นี้มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง โดยเป้นการดูแลร่างกายที่เน้นการสัมผัสที่อ่อนโยนและนุ่มนวลอย่างแท้จริง
สัมผัสที่อ่อนโยน...ดีต่อใจและกายอย่างไร?
การสัมผัสที่นุ่มนวลไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันส่งผลต่อระบบประสาทของเราอย่างน่าทึ่ง
ลดความเครียด: การสัมผัสเบาๆ จะกระตุ้นเส้นประสาทพิเศษที่เรียกว่า C-tactile afferents ซึ่งเป็นเหมือน "เซ็นเซอร์ความรู้สึกดี" ที่จะส่งสัญญาณตรงไปยังสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ และทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน หรือ "ฮอร์โมนแห่งความรัก" ออกมา
ผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง: ผลวิจัยพบว่าเมื่อได้รับ ASMR หัวใจจะเต้นช้าลงและรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
เชื่อมโยงกับสัญชาตญาณ: นักจิตวิทยาหลายคน เชื่อว่าการกระตุ้นด้วยเสียงและการสัมผัสแบบนี้เป็นการแตะเข้าถึงสัญชาตญาณดั้งเดิมของมนุษย์ที่ต้องการความปลอดภัยและการผูกพัน ซึ่งคล้ายคลึงกับการปลอบประโลมทารกของพ่อแม่
เมื่อโลกออนไลน์ไม่พอ...และเรากำลังโหยหาการสัมผัส

การที่สปา ASMR เริ่มได้รับความนิยม สะท้อนให้เห็นว่าในยุคดิจิทัลที่เราอยู่ห่างไกลกันมากขึ้น และเต็มไปด้วยความเครียด เราอาจกำลังโหยหาการสัมผัสที่อ่อนโยนและความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คลิปวิดีโอไม่สามารถให้ได้

ASMR Spa ให้บริการอะไร?
เป็นการให้นอนบนผ้าไหมนุ่มๆ ในห้องไฟเบา และ ให้ therapist ใช้แปรงนุ่มๆ ลูบคอ ไหล่ หนังศีรษะ หรือ กระซิบเล่านิทานเบาๆ ข้างหู และใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น tuning fork, ที่ขูดหลังขนาดเล็ก และแน่นอนว่า ASMR SPA นี้ ยังไม่ได้เข้ามาที่เมืองไทยค่ะ อย่างไรคงต้องอดใจรอว่าจะมีใคร มาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆนี้ ให้พวกเราได้ผ่อนคลายกัน

#สุขภาพจิต #ไลฟ์สไตล์

ร่วมฉลองบูติคใหม่ล่าสุด PAÑPURI Sensorial Boutique Siam Centerพื้นที่ความหอมที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Purpl...
10/09/2025

ร่วมฉลองบูติคใหม่ล่าสุด PAÑPURI Sensorial Boutique Siam Center

พื้นที่ความหอมที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Purple Grove” ความงาม และสีสันจากธรรมชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ดอกกล้วย บูติกนี้ถูกออกแบบด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และเหล็กในเฉดสีม่วงหม่นและน้ำตาลเข้ม ถ่ายทอดความงาม และความหอมอันลุ่มลึกและผ่อนคลาย ณ ร้าน PAÑPURI Siam Center ชั้น 1




Sober Travel เทรนด์ใหม่ที่มาแรง! ไปเที่ยวแบบไม่ดื่ม...แล้วชีวิตดีขึ้นยังไง?🧳เมื่อพูดถึงการไปเที่ยว หลายคนอาจนึกถึงภาพการ...
10/09/2025

Sober Travel เทรนด์ใหม่ที่มาแรง! ไปเที่ยวแบบไม่ดื่ม...แล้วชีวิตดีขึ้นยังไง?

🧳เมื่อพูดถึงการไปเที่ยว หลายคนอาจนึกถึงภาพการจิบค็อกเทลริมชายหาด หรือจิบไวน์ในบรรยากาศสุดโรแมนติก แต่เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายเฮลท์ตี้คือ "Sober Travel" หรือการเที่ยวแบบไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่ใช่แค่สำหรับคนที่ไม่ดื่มอยู่แล้ว แต่รวมถึงคนที่อยากลองพักตับในวันพักผ่อนด้วย
ทำไมต้องงดแอลกอฮอล์ในวันพักผ่อน?
นักออกแบบเครื่องประดับชาวนิวยอร์ก ท่านหนึ่งที่เลือกเดินทางคนเดียวมาประเทศไทยแบบงดดื่มแอลกอฮอล์ตลอดทริป เธอกล่าวว่า การเดินทางแบบปลอดแอลกอฮอล์ทำให้เธอมีพลังงานเต็มที่ที่จะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น พายเรือคายัค และเล่นโยคะยามพระอาทิตย์ตกดิน โดยไม่ต้องมานั่งเสียเวลากับอาการเมาค้าง
ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว แต่ผลสำรวจจาก Expedia พบว่า 40% ของนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะจองทริปที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และเหตุผลที่คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจกับเทรนด์นี้คือ:
ฟื้นฟูความงามจากภายใน: แอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดน้ำ แห้ง และหมองคล้ำ การงดดื่มช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส และลดอาการบวมที่ใบหน้า
พักผ่อนได้อย่างเต็มที่: แอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ การไม่ดื่มทำให้ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และตื่นมาพร้อมความสดชื่นในเช้าวันใหม่
มีเวลาทำกิจกรรมมากขึ้น: ไม่มีอาการเมาค้างมากวนใจ ทำให้คุณมีเวลาออกกำลังกาย สำรวจสถานที่ใหม่ๆ หรือแม้แต่เข้าร่วมเวิร์กช็อปต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้มีนักเขียนฟรีแลนซ์อีกท่าน ที่ลองเดินทางแบบ Sober Travel เธอกล่าวว่า "ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องไปพักผ่อนหลังจากพักผ่อนมาแล้ว" เพราะการงดดื่มช่วยให้เธอรู้สึกมีพลังงาน และมีเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น
ไม่ต้องกลัวว่าจะกร่อย! ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมทั่วโลกเริ่มปรับตัวเพื่อรองรับเทรนด์นี้มากขึ้น หลายแห่งมีเมนู "ม็อกเทล" (Mocktail) ที่สร้างสรรค์และอร่อยไม่แพ้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้คุณสามารถสนุกกับบรรยากาศโดยไม่ต้องดื่มแอลกอฮอล์
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่มหรือไม่ก็ตาม การลอง อาจเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความสุขของการเดินทางในแบบที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากกว่าที่เคย

#พักตับ #ท่องเที่ยว #สุขภาพดี

✨ มาแล้วจ้าวันนี้ Fleek จะพาพวกเราไปรู้จักกับแอปสุดคิวท์ Focus Friend by Hank Green — เพื่อน “ถั่ว” ที่จะช่วยให้คุณโฟกัส...
09/09/2025

✨ มาแล้วจ้าวันนี้ Fleek จะพาพวกเราไปรู้จักกับแอปสุดคิวท์ Focus Friend by Hank Green — เพื่อน “ถั่ว” ที่จะช่วยให้คุณโฟกัสได้ดีขึ้น แบบไม่รู้ตัว
ใครเคยใช้แอป Pomodoro หรือ Forest ที่ทำให้คุณอยู่ห่างจากโซเชียลมีเดียบ้าง? แต่ Focus Friend ได้พลิกโฉมการช่วยโฟกัสในรูปแบบใหม่ ด้วยน้อง “ถั่ว” ตัวน้อยที่จะช่วยให้คุณตั้งใจทำงานหรือเรียนได้จริง ๆ… แบบไม่เหงาเลย!
"Focus Friend" คือแอปพลิเคชันสุดปั่นที่พัฒนาโดย Hank Green นักวิทยาศาสตร์และนักสร้างคอนเทนต์ชื่อดังที่หลายคนรู้จักดีจาก YouTube แอปนี้ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันจับเวลาทำงานแบบทั่วไป แต่ยังมาพร้อมกับการบิลต์อินมินิเกมและตัวละครสุดน่ารัก ที่จะช่วยให้คุณมีสมาธิจดจ่อกับงานได้มากขึ้น
วิธีใช้ง่าย ๆ แต่ได้ผลเยอะ:
เลือกน้องถั่วให้เรียบร้อย — ตั้งชื่อก็ได้นะ (เช่น Garbanzo, Susan Bean Anthony ฯลฯ)
ตั้งเวลาโฟกัส — ถ้าคุณหยิบมือถือขึ้นก่อนเวลาเสร็จ น้องถั่วจะ “เสียใจ” แล้วคุณก็พลาดรางวัล (ถุงเท้าหรือผ้าพันคอ)
ทำเต็มเวลา — ถั่วจะทอผ้าผลิตรางวัลให้คุณ แล้วคุณสามารถไปตกแต่งห้อง “ถั่ว” น้อยของคุณให้เก๋ไก๋ตามใจชอบ
ทำไมมันถึง “ปัง”?
แอพลิเคชั่นนี้ ใส่ใจผู้ใช้ยุค ADHD — แอปนี้ถูกออกแบบให้รองรับการจัดการสมาธิ และใช้กลเม็ด “จูงใจด้วยความรู้สึกผิด” เมื่อถั่วเสียใจ
ได้รับความนิยมสูง — แอปพุ่งขึ้นอันดับ 1 ใน App Store และติด Top บน Google Play ด้วยความคิวท์และแนวคิดตรงใจคนยุคนี้
อีกทั้งยังไม่มีโฆษณา และ ไม่มีการเก็บข้อมูล — ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนติดตามหรือมีเสียงโฆษณากวนใจ
Focus Friend By Hank Green
เพิ่มสีสันให้ชีวิต — ผู้ใช้หลายคนเล่าว่า น้องถั่วช่วยให้โฟกัสง่ายขึ้น และรู้สึกได้ว่าทำงานมีเป้าหมายมากขึ้น เช่น เชื่อมต่อกับงานบ้าน การอ่าน หรือใช้เวลากับลูกอย่างมีคุณภาพ
ทำไม Focus Friend ถึงเป็นแอปที่คุณต้องลอง?
ไม่ใช่แค่จับเวลา แต่คือการสร้างมิตรภาพ: แอปนี้ไม่ได้มีแค่การจับเวลาทำงาน แต่ยังสร้างความรู้สึกเหมือนมีเพื่อนมาทำงานด้วย เพราะในแอปจะมีตัวละคร AI ที่ชื่อว่า "Buddy" คอยกระตุ้นและให้กำลังใจคุณในระหว่างการทำงาน
มีตัวเลือกให้คุณเลือกโฟกัส: คุณสามารถเลือกโหมดการทำงานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโหมด "Deep Focus" สำหรับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง หรือโหมด "Just One Thing" ที่เหมาะกับการทำภารกิจเล็ก ๆ ให้สำเร็จ
เพิ่มความสนุกด้วย "ตัวละครป่วน": ถ้าคุณรู้สึกเบื่อหน่ายในระหว่างการทำงาน แอปนี้มีตัวละครแอนิเมชั่นสุดกวนที่โผล่มาทำเรื่องตลกและสร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณ ทำให้การโฟกัสไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
สร้างแรงบันดาลใจจากความสำเร็จ: เมื่อคุณทำภารกิจสำเร็จ คุณจะได้รับการสะสมคะแนน และปลดล็อกตัวละครใหม่ ๆ ทำให้คุณรู้สึกสนุกและมีแรงบันดาลใจในการทำงานครั้งต่อไป
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่ต้องอ่านหนังสือหนัก หรือคนทำงานที่ต้องสู้กับกองเอกสาร "Focus Friend" คือคำตอบที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นความท้าทายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน
ลองดาวน์โหลดมาเล่นกันดูสิคะ! แล้วคุณจะพบว่าการมีสมาธิจดจ่อกับงานไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป แล้วจะเห็นว่า Focus Friend คือแอปที่ช่วยให้คุณรู้สึกห่างไกลจากโซเชียล
ถึงเวลาที่เราต้องมีถั่วกันแล้ว แล้วมาเล่าให้ฟังว่า “ถั่ว” ช่วยคุณโฟกัสแบบไหนบ้างนะคะ!

ที่อยู่

Sugarplum Co. , Ltd
Bangkok
10600

เบอร์โทรศัพท์

+66919262697

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Fleekผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์