
10/07/2025
เมื่อญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ปลาดิบ !
ชวนส่อง สายพันธุ์แอปเปิ้ลญี่ปุ่น ลูกโต หอม หวาน 🎌🍏🍎
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนที่ชอบเดินซูเปอร์มาร์เก็ต ก็น่าจะพอเห็นซุ้มผลไม้อย่าง Apple ที่อย่างในตอนนี้ก็คงจะเห็นเป็นทางฝั่งนิวซีแลนด์กับฝั่งญี่ปุ่น
ทีนี้ ๆ พวกแอปเปิ้ลฝั่งญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ตัวผลจะค่อนข้างใหญ่เลย แล้วก็ถ้าไม่นับสายพันธุ์ฟูจิเนี่ย ก็จะเห็นเป็นพวก โอริน (Orin) ชินาโนะโกลด์ (Shinano Gold) เมเก็ตสึ (Meigetsu) ที่จะออกเป็นสีเขียวหรือสีเหลือนวลเนอะ
แอปเปิ้ลเขียวในหัวของเราจะค่อนข้างออกเปรี้ยวนำ แต่ของญี่ปุ่นเนี่ย ส่วนใหญ่จะไม่ได้เปรี้ยวเท่าไร จะเป็นหวานนำเลยดีกว่า (แต่อย่างแอปเปิ้ลโอริน ที่เขาว่ามันหวานไร้เปรี้ยว แต่สำหรับเรา มันยังแอบติดเปรี้ยวปลายลิ้นอยู่นะ กำลังสงสัยว่า หรือเป็นที่ลิ้นเรามีปัญหา 🤣)
ไม่เป็นไร ช่างเรื่องลิ้นของเราไปก่อน เอาเป็นว่าวันนี้พวกเรา InfoStory ขอมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับแอปเปิ้ลญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ อ่านกันสบาย ๆ ดีกว่า !
**ปล. คำว่า “แอปเปิ้ล” จะสะกดให้ถูกคือ “แอปเปิล” ไม่มีไม้โทนะคร้าบบบ
แต่เพื่อให้อ่านแล้ว มันไม่ขัดแย้งกันเสียงในหัวของเพื่อน ๆ (หรือเพื่อนๆที่ใช้ Ai อ่านให้ มันก็จะไม่ออกเสียงแปร่ง ๆ 5555)
— — — — — — — — — — — — — — —
[ แอปเปิ้ล กับ ชาวญี่ปุ่น ไปรู้จักกันมาตอนไหนนะ ? 🎎🍎 ]
สำหรับเราแล้ว พอนึกถึงแอปเปิ้ล จะนึกถึงการเป็นผลไม้ของชาวตะวันตกหรือไม่ก็ทางฝั่งออสเตรเลียเสียมากกว่า ทีนี้ เราเลยเกิดคำถามเนิร์ด ๆ อันนี้ขึ้นมาในหัวนะแหละ 555
ก่อนยุคเมจิ (1868-1912) ญี่ปุ่นรู้จักแอปเปิ้ลเพียงในฐานะพืชป่าขนาดเล็กที่มีรสเปรี้ยวและฝาด เรียกว่า "วะริงโกะ" ((和林檎) ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในการบริโภคมากนัก เพราะลูกเล็กมาก เท่านิ้วมือ
เรานั่งค้นหาต้นตอไกลขึ้นไปอีกก็พบว่า น่าจะเป็นผลไม้ที่นำเข้ามาจากจีน หมายถึงเขานำต้นแอปเปิ้ลมาปลูกนะ ไม่ใช่เอาแค่ตัวผลมาขาย 🤣
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นหันมาสนใจ “แอปเปิ้ล” แบบจริงจังเลยก็ในยุคเมจินี่ละ
ในปี ค.ศ. 1871 รัฐบาลเมจิสั่งนำเข้าแอปเปิ้ลตะวันตก 75 สายพันธุ์จากสหรัฐฯ เพื่อทดลองปลูกทั่วประเทศ แน่นอนว่าเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่ค่อนข้างหนาวเย็นทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
ทีนี้ก็สบายเลย เพราะถือว่าเกษตรกรชาวญี่ปุ่นตอนบนก็ได้พืชเศรษฐกิจใหม่ไปอีกตัว เพราะในช่วงนั้นเนี่ย รัฐบาลเมจิพยายามผลักดันเรื่องการปลูกข้าว แต่ก็ล้มเหลว เพราะสภาพอากาศหนาวเย็น
ในช่วงแรก แอปเปิ้ลเหล่านี้ถูกเรียกว่า "แอปเปิ้ลตะวันตก" เพื่อแยกความแตกต่างจาก "Wa-ringo" แต่เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นจากคุณภาพและขนาด ทำให้ในไม่ช้าก็เข้ามาแทนที่ตลาดทั้งหมดและเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "แอปเปิ้ล" เท่านั้น
ไม่กี่ปีถัดมา มิชชันนารีอเมริกันนาม จอห์น อิง (John Ing) ถือผลแอปเปิ้ลลูกโตมาที่งานคริสต์มาสเมืองฮิโรซากิ — เมล็ดจากผลนั้นถูกเพาะจนกลายเป็นพันธุ์ “อินโด” (Indo) ซึ่งหวานและใหญ่กว่าวะริงโกะหลายเท่า
(คหสต. เออ เห็นไม๊ จริงด้วย ! คือเราไม่ได้คิดไปเองว่า แอปเปิ้ลมันเหมือนมีกลิ่นอายของฝรั่งตะวันตก 🤣 เอ…หรือเพราะเราตั้งใจดันทุรังในการค้นหาเรื่องนี้เฉพาะ มันเลยเจอคำตอบนี้กันนะ ก็น่าคิด ก็อ่านหูไว้หูละกันนะเพื่อน ๆ 🥲)
แม้ว่าการปลูกแอปเปิ้ลจะเริ่มต้นที่โตเกียวและฮอกไกโด แต่จังหวัดที่กลายเป็น "แผ่นดินแห่งพันธสัญญา" ของแอปเปิ้ลอย่างแท้จริงคือ อาโอโมริ (Aomori)
ทีนี้ เลยมาถึงคำถามที่เราก็สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมจังหวัด "อาโอโมริ" เป็นแหล่งผลิตแอปเปิ้ลมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ?
จังหวัดอาโอโมริ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ก็อยู่ใต้ฮอกไกโดมานิดเดียว
✅ อุณหภูมิของกลางวันและกลางคืนที่ต่างกันสูง ตัวผลเก็บน้ำตาลนั้นได้ดี ทำให้แอปเปิ้ลชาติหวานจัดฉ่ำน้ำพิเศษ
✅ ดินมาจากภูเขาไฟร่วน + แหล่งน้ำสะอาด
อันที่จริงแล้ว เราคิดว่าที่ญี่ปุ่นเนี่ย ส่วนใหญ่สภาพแวดล้อมของการเกษตรน่าจะคล้าย ๆ กัน (ยกเว้นทางฝั่งเกาะคิวชู หรือถ้าไปทางเกาะโอกินาว่านี่ เหมือนไทยเลยละ 🤣) แต่อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้จังหวัดอาโอโมริโดดเด่นเรื่องของแอปเปิ้ล… ก็ไปอ่านกันต่อเล้ยยยยยย ! (เอ้า มันลีลาจังละวะอิเพจจนี้ 555)
ทีนี้เรารู้เกี่ยวกับปัจจัยทางกายภาพ ซึ่งคือสภาพแวดล้อมและธรรมชาติไปแล้ว
มาถึงเรื่องราวปัจจัยทางจิตใจอย่าง “จิตวิญญาณจปปาริ (じょっぱり)” กันบ้าง
เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า เกษตรกรชาวอาโอโมริยุคแรก ๆ ที่ปลูกแอปเปิ้ลเนี่ย ก็คือเหล่าซามูไรที่ถูกบังคับให้เลิกจับดาบ (เพราะหมดยุคแล้วตั้งแต่หมดยุคเอโดะไป) หันมาจับเสียมกันแทน
คอนเซ็ปต์ “จปปาริ (じょっぱり)” เป็นคำที่หมายถึงจิตวิญญาณของชาวอาโอโมริที่มีความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร และความมุ่งมั่น (ซึ่งเรียกว่า "Joppari" ในภาษาถิ่นอาโอโมริ) ในการผลิตแอปเปิ้ลแสนอร่อยให้กับผู้คนทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จังหวัดนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเพาะปลูกแอปเปิ้ล (เออ จริงๆถ้ามองว่าเป็นการตลาดเนี่ย ก็ถือว่า ครบเครื่อง 👍✨)
มากกว่านั้นเรื่องกายเรื่องใจ เรามองว่าอีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ เรื่องของ Supply chain & logistics management
คือพอหลาย ๆ เหตุผลด้านบนมันสนับสนุนตัวแอปเปิ้ลจากจังหวัดอาโอโมริแล้วเนี่ย คือมันมี Story พร้อมแล้ว หลาย ๆ บริษัทพวกนี้ก็มาตั้งโรงงาน เซตระบบขนส่งกันในจังหวัดนี้เลย ควบคุมคุณภาพได้ดี มันก็เลยง่ายขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง จึงไม่ได้แค่ส่งขายภายในประเทศ แต่พร้อมส่งออกไปทั่วโลก
แล้วไม่ได้มีแค่แอปเปิ้ลนะ แต่ผลิตภัณฑ์อย่าง พายแอปเปิ้ล ก็ถูกผลักดันโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเช่นกัน
ที่มากไปกว่าแค่ของกินก็คือ วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง “ริงโกะมุสุเมะ" (Ringomusume) ที่แปลว่า "ธิดาแอปเปิ้ล" ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะใช้ชื่อตามสายพันธุ์แอปเปิ้ลต่างๆ เพื่อโปรโมตผลผลิตของจังหวัดนั่นเองง ไม่รู้มีใครทันวงนี้ในรุ่นแรก ๆ บ้างไหม ? ถ้าทันก็คือ เราเป็นเด็ก gen Y เหมือนกันคร้าบ 🤣)
นอกจากจังหวัดอาโอโมริแล้ว จังหวัดที่ปลูกและส่งออกรองลงมาก็จังหวัดนากาโน่และอิวาเตะ ! นั่นเอง (แถวๆ นากาโน่ เราไปเที่ยวมาก็มีฟาร์มที่ทำพายแอปเปิ้ลอร่อย ๆ เยอะเลย)
💡แล้วเพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ?
“แอปเปิ้ลฟูจิ” ที่เราคุ้นเคยกัน ไม่ได้กำเนิดจากต้นแอปเปิ้ลในบริเวณภูเขาไฟฟูจินะ 🤚👋
อาจเรียกได้ว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสายพันธุ์แอปเปิ้ลของญี่ปุ่น ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองฟูจิซากิ จังหวัดอาโอโมริ นั่นเอง ! (มันเลยเป็นฟูจิ ที่หมายถึงเมืองฟูจิซากิ น่ะนะ)
แอปเปิ้ลฟูจิ ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1939 ณ สถานีวิจัยพืชสวนโทโฮคุ ในเมืองฟูจิซากิ ซึ่งนักปรับปรุงพันธุ์ได้ประสบความสำเร็จในการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแอปเปิ้ลอเมริกันสองชนิดคือ Red Delicious (เพื่อความกรอบและสีสัน) และ Ralls Janet (เพื่อความหวานและความสามารถในการเก็บรักษา) ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบของจังหวัดอาโอโมริ จึงได้ออกมาเป็นแอปเปิ้ลสีชมพู กรอบ หวาน ฉ่ำน้ำที่เราคุ้นเคยกันนี่เอง
— — — — — — —
#แอปเปิ้ลญี่ปุ่น #แอปเปิ้ล #แอปเปิล
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
- บทความ Japanese Apples: A Look at What Makes Them So Special จากเว็บ Japanlivingguide
- บทความ All About Japanese Apples: Why This Ordinary Yet Special Fruit Is So Loved In Japan จากเว็บ Japanese Taste
- บทความ Enjoy the variet จากเว็บ aomori-apple
- บทความ Top 6 Japanese Apples จากเว็บ TasteAtlas
- บทความ How Former Samurai and Farmers Cultivated the First Japanese Apples จากเว็บ AtlasObscura
- บทความ Aomori Is the Story of Apples and People จากเว็บ aomori-tourism