E news today สื่อธุรกิจ การตลาด ไลฟ์สไตล์ และบันเทิง

“Mariah Carey: The Celebration of MIMI – Live in Bangkok”มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนตัวจริง กระแสตอบรับแรงไม่ห...
26/09/2025

“Mariah Carey: The Celebration of MIMI – Live in Bangkok”
มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนตัวจริง

กระแสตอบรับแรงไม่หยุดสำหรับการกลับมาของ Diva ตลอดกาล Mariah Carey ที่เตรียมระเบิดพลังเสียงในคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ “Mariah Carey: The Celebration of MIMI – Live in Bangkok” วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยการสนับสนุนจาก เบนซ์ธนบุรี ผู้นำธุรกิจยานยนต์ที่ไม่เคยทำอะไรธรรมดา พร้อมสานต่อพันธกิจแห่งการ “ให้” ผ่านโครงการ We Belong Together ร่วมสมทบทุนให้กับ 5 หน่วยงานทางการแพทย์ของไทย

พิเศษสำหรับแฟนตัวจริง! ผู้ซื้อบัตรราคา 20,000 บาท จะได้รับ Collector’s Privilege สุดลิมิเต็ด ที่จัดทำขึ้นเพื่องานครั้งนี้โดยเฉพาะและไม่มีวางขายที่ไหน ประกอบด้วย:
กระเป๋าสะพายใสสีชมพู Mariah in Bangkok
สายคล้องบัตรพิเศษ The Celebration of Mimi
โปสเตอร์รูป Mariah ลิมิเต็ดเอดิชัน 1 แบบ (สุ่มจาก 4 แบบ)
CD อัลบั้ม Here for It All ที่ไม่มีขายในเมืองไทย
และชิ้นไฮไลต์… เข็มกลัดผีเสื้อฝังเพชรแท้ ออกแบบและดีไซน์จาก Jubilee Diamond สัญลักษณ์แห่ง Diva ตลอดกาล

ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับผู้ซื้อบัตรราคา 15,000 บาท และ 12,000 บาท รับโปสเตอร์ลิมิเต็ด 1 แบบ (สุ่มจาก 4 แบบ) คอนเสิร์ตครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การได้ฟังเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง Hero, We Belong Together, Fantasy, Obsessed, Touch My Body แต่ยังเป็นโอกาสพิเศษในการเก็บสะสมความทรงจำที่จับต้องได้ พร้อมมีส่วนร่วมในการทำบุญครั้งใหญ่ให้กับสังคม

🎤 นี่คือโอกาสครั้งเดียว ที่จะได้ทั้งประสบการณ์คอนเสิร์ตจากศิลปินผู้เป็นตำนาน และของสะสมสุด Rare ที่ไม่มีวันหาได้อีก
บัตรคอนเสิร์ตมีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ www.thaiticketmajor.com โทร. 02-262-3456 และเคาน์เตอร์ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ราคาบัตร 3,500 / 5,000 / 6,500 / 7,500 / 9,000 / 12,000 / 15,000 / 20,000 บาท

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดีย คลินิกฯจึงขอออกแถลงการณ์ ณ วันที่ 22 กันยายน 2568 (พร้อมแนบแถลงการณ์ฉบับลายลักษณ...
25/09/2025

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดีย คลินิกฯจึงขอออกแถลงการณ์ ณ วันที่ 22 กันยายน 2568 (พร้อมแนบแถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษรตามที่ปรากฏนี้)

แถลงการณ์ชี้แจงความจริง
จากกรณีพาดพิงทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆของบุคคล(อินฟลูเลนเซอร์ท่านหนึ่ง)ซึ่งสร้างผลกระทบให้เกิดความเข้าใจผิดบิดเบือนความจริงทำให้ทางแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) เสียหายโดยอยู่ระหว่างดำเนินคดีอาญาและอื่นๆ ซึ่งศาลฯมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีมีมูลไปแล้ว 1 คดีจากการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายก่อนนี้ แต่กลับให้ข้อมูลเท็จบิดเบือนทำให้แบรนด์คลินิกตลอดจนผู้เกี่ยวข้องและบริษัทฯเดือดร้อนเสียหายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายมุ่งหมายหาประโยชน์มิชอบจากการกระทำดังกล่าว
จึงขอออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันปฏิเสธข้อมูลเท็จดังกล่าวทั้งสิ้น พร้อมขอชี้แจงความบริสุทธิ์ในครั้งนี้ เนื่องจากช่วงปี 2566 ขณะยังเป็นแบรนด์คลินิกเดิมนั้นบุคคลดังกล่าวซึ่งร่วมก่อตั้งนั้นเกิดปัญหาจากปัญหาส่วนของตัวบุคคลดังกล่าวเองจนเป็นข่าวเสียหายของบุคคลนั้น (ซึ่งสามารถตรวจสอบข่าวได้ตามที่ปรากฎทางโซเชียลมีเดียต่างๆ) จากเหตุดังกล่าวมีผู้คนต่างๆเข้าใจผิดทำให้ยอดขายตกลูกค้าไม่มาใช้บริการเนื่องจากความเสื่อมเสียชื่อเสียงดังกล่าวของบุคคลดังกล่าว ซึ่งส่งผลชัดเจนในสาขาที่เกิดขึ้นทำให้ยอดตกต่ำรายได้หดหายเงินไม่พอกับค่าใช้ต่างๆ จนสุดท้ายต้องปิดกิจการสาขาบางสาขา ต่อมาบุคคลดังกล่าวจึงเสนอขายหุ้นให้ทั้งหมดผู้ถือหุ้นที่เหลือพร้อมทั้งลาออกจากการเป็นกรรมการในขณะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นนั้นซึ่งขณะนั้นบริษัทฯและกิจการไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีนักตลอดจนเกิดสภาวะปัญหาต่างๆตามที่เรียนข้างต้น จึงยุติกิจการ พริมยา คลินิก แบรนด์คลินิกเดิม (ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากทางหน่วยงานราชการต่างๆ)
โดยผู้ถือหุ้นและกรรมการเดิมที่ซื้อหุ้นจากบุคคลนั้นแล้ว จึงรีบเข้าแก้วิกฤติปัญหาก่อตั้งสร้างแบรนด์ใหม่ในนามแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) จนถึงปัจจุบันและมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกิจการเครือร่วมพันธมิตรธุรกิจดูแลแบรนด์ดังกล่าวร่วมกันเพื่อดูแลลูกค้าในแต่ละสาขา โดยไม่มีบุคคลดังกล่าวร่วมก่อตั้งหรือแก้ไขเผชิญวิกฤตปัญหาตลอดจนไม่ได้ร่วมบริหารแต่อย่างใด นอกจากนี้บุคคลดังกล่าวได้พยายามกระทำการให้ทางแบรนด์คลินิกรวมถึงผู้เกี่ยวข้องตลอดจนทีมบริหารเดือดร้อนเสียหายหลายครั้งรวมถึงแจ้งเท็จต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้มีการเข้าชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานแล้ว ตลอดจนต่อมาถูกกระทำการต่างๆหลายครั้งให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก จนไม่อาจวางเฉยได้จึงฟ้องคดีต่อศาลตามที่แถลงการณ์ข้างต้น และได้รับความเมตตาสถิตซึ่งความยุติธรรมในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีคำสั่งประทับรับฟ้องขณะนี้มีผลออกมาแล้ว 1 คดีให้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง (เนื่องจากที่เป็นคดีความระหว่างกันในขณะนี้ จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆทั้งหมดได้เนื่องจากจะเป็นการก้าวล่วงฯและไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมในหลายๆคดี)
ดังนี้จึงขอแถลงการณ์เพื่อชี้แจงป้องกันความเสียหายซึ่งอาจเกิดขึ้นลุกลามจากความเท็จที่บิดเบือนทั้งสิ้น รวมถึงหลักฐานเอกสารต่างๆที่บุคคลดังกล่าวนำสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ อีกทั้งหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเอกสารคลินิกก็ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นและแตกต่างกับเอกสารฉบับจริงรวมถึงที่นำส่งศาลในการสืบพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอย่างเป็นพิรุธ ทางคลินิกขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกแต่อย่างใด และเหตุที่ออกแถลงการณ์เบื้องต้นนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์พร้อมย้ำเตือนไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือหลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าว ในการนี้ขอสงวนสิทธิดำเนินคดีตามกฎหมายต่อความเสียหายอันพึงมีทั้งสิ้นทั้งปวง และขอความเห็นใจอย่าฟังความข้างเดียว (พร้อมทั้งข้อมูลตรวจสอบที่อ้างถึงตามแถลงการณ์นี้นั้นประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ต่างกับที่ปรากฏอ้างฝ่ายเดียวที่อยู่ในโชเชียลขณะนี้) ทางคลินิกฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเข้าใจในมุมมองของทุกฝ่ายและรับข้อมูลอย่างมีสติเพื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดี พร้อมขอฝากข้อคิดที่ยึดถือมั่นของคลินิกต่อเหตุการณ์นี้ในเรื่องความจริงคือ “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ”

 #เอศุภชัย เปิดตลาด “A fair” อร่อยเกรดเอ วันที่ 26 กันยายน ถึง 5ตุลาคม ที่เทอร์มินัล21 พระราม 3มาอีกแล้ว เอ ศุภชัย ศรีวิ...
25/09/2025

#เอศุภชัย เปิดตลาด “A fair” อร่อยเกรดเอ
วันที่ 26 กันยายน ถึง 5ตุลาคม ที่เทอร์มินัล21 พระราม 3

มาอีกแล้ว เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดคนเก่ง นักทำอาหารคนเก่ง เชิญร่วมเปิดตลาด “A fair อร่อยเกรดเอ by A Supachai” คราวนี้จัดกันที่ EVENT SPACE , LG FLOOR Terminal21 RAMA3 ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 5 ตุลาคมนี้ โดยครั้งนี้จัดเต็มมากๆสำหรับชาวพระราม3 ขนอาหารอร่อยเกรดเอ มาให้ช็อป ให้ชิมกันแบบเต็มที่ ราคาจับต้องได้ พร้อมกิจกรรมบันเทิงมากมาย มีศิลปินนักร้อง นักแสดงมาร่วมงานมากมาย อาทิ กัน นภัทร,เด่นคุณ งามเนตร, เคน ภูภูมิ, จิณ จิณณะ, แฟรงค์ ธนัตถ์ศรัณย์, ปุยฝ้าย ณัฏฐพัชร์, ฟีฟ่า เปรมอนันต์, น้ำเพชร อิสรีย์, ยุ่น ภูษณุ, นิวชุน, ปิงลี่ เฟมัส, เกมเพลย์ กาญจน์ปพน, ปอนด์ คุณพัทธ, นิว ชุณวรรณ, บูม ฐานัตถ์, เอิร์ธ กันตโชติ, ก๊อต คณิศรและ ซันนี่ วรรณรัตน์ เป็นต้น

ใครที่เป็นสายกิน สายติ่งศิลปิน รับรองไม่ผิดหวัง มาเปิดตลาดใหม่”เอ แฟร์ อร่อยเกรดเอ”กับพี่เอ ศุภชัย เจอกันวันที่ 26 กันยายนถึง 5 ตุลาคม ที่เทอร์มินัล 21 พระราม3 มีกิจกรรมสนุกและอาหารอร่อยทุกวัน

SPMS EST ฉลองครบรอบ 25 ปี เปิดตัว “เบียร์ ใบหยก” แบรนด์แอมบาสเดอร์ฟิล์มกรองแสง 3M พร้อมยกระดับประสบการณ์ด้วยเครือข่าย 3M...
24/09/2025

SPMS EST ฉลองครบรอบ 25 ปี เปิดตัว “เบียร์ ใบหยก” แบรนด์แอมบาสเดอร์ฟิล์มกรองแสง 3M พร้อมยกระดับประสบการณ์ด้วยเครือข่าย 3M PRO SHOP

ผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 3M รายเดียวในประเทศไทย ชู “3M PRO SHOP” ร้านค้าที่ได้รับรองมาตรฐานจาก 3M ครบวงจร: ฟิล์มกรองแสง ฟิล์มใสกันรอย สติ๊กเกอร์เปลี่ยนสี และ น้ำยา หรือผลิตภัณฑ์ เคลือบเซรามิก

กรุงเทพฯ, 20 กันยายน 2568 — บริษัท เอส พี มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ (2001) จำกัด และ บริษัท อี เอส ที (2014) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง 3M อย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี แห่งความสำเร็จ พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ “คุณเบียร์ ใบหยก” ผู้บริหารนิวเจนแห่งตระกูลใบหยก ตอกย้ำภาพลักษณ์ฟิล์มกรองแสงรายแรก และเป็นแบรนด์คุณภาพระดับโลกที่ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้ายุคใหม่ โดยมี หมวย–ดร.อริสรา กำธรเจริญ ทำหน้าที่พิธีกร ณ RARIN Bangkok Riverside Venue
ยกระดับบริการด้วยเครือข่าย 3M PRO SHOP
SPMS EST เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วย “3M PRO SHOP” ร้านค้าที่ได้รับรองมาตรฐานสูงสุดจาก 3M สำหรับการติดตั้งฟิล์ม3M และผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์แบบครบวงจร ครอบคลุม:
• ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3M Automotive Window Film
• ฟิล์มใสกันรอย 3M Paint Protection Film
• สติ๊กเกอร์สีตกแต่ง/เปลี่ยนสีรถยนต์ 3M Car Wrap Film
• บริการเคลือบเซรามิก 3M Ceramic Coating
3M PRO SHOP มุ่งสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วเครือข่าย ด้วยช่างเทคนิคที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐาน 3M กระบวนการติดตั้งพิถีพิถัน การใช้ผลิตภัณฑ์วัสดุแท้ของ 3M เครื่องมือและแพตเทิร์นตัดเฉพาะรุ่นรถ ห้องติดตั้งที่ควบคุมความสะอาด รวมถึงการออกใบรับประกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความอุ่นใจของบริการหลังการขาย
คุณปรีดา ขจรโกวิทย์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ (Founder & Chairman) กลุ่มบริษัท SPMS EST เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะฟิล์มกรองแสง 3M ที่เราได้รับสิทธิ์จำหน่ายรายเดียวในประเทศไทยในปี 2020 และสามารถขยายฐานลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมรถยนต์ ร้านคาร์แคร์ ร้านประดับยนต์ ร้านติดฟิล์ม หรือดีลเลอร์รายใหญ่ ซึ่งปัจจุบัน เรามีดีลเลอร์หรือตัวแทน มากกว่า 500 ราย พร้อมทั้งทีมงานมืออาชีพกว่า 25 ปีในสายยานยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจของบริการที่เหนือความคาดหมาย”

คุณธนกฤต ขจรโกวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท SPMS EST (Group CEO) กล่าวว่า “การเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเราอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การสื่อสารและขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ เรามีแผนการประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจนตลอดทั้งปี โดยจะเน้นสร้างการรับรู้และขยายกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อดิจิทัล ทั้งโซเชียลมีเดียและสื่อข่าวสารที่ครอบคลุม ตลอดจนการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค”
ขอกล่าวเสริมถึงบทบาทของ 3M PRO SHOP ว่า “3M PRO SHOP คือจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักรถที่ต้องการงานติดตั้งคุณภาพตามมาตรฐาน 3M ครบ จบ ในที่เดียว ทั้งฟิล์มกรองแสง ฟิล์มใสกันรอย สติ๊กเกอร์เปลี่ยนสี และ เคลือบเซรามิก เราเชื่อว่าการยกระดับมาตรฐานหน้าร้านและคุณภาพการให้บริการ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน”

ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ที่เปิดตัว/ตอกย้ำในงาน
3M Crystalline: ด้วยเอกสิทธิ์ เฉพาะของ 3M เนื้อฟิล์มบางมากกว่ากระดาษโพสต์อิท®-โน๊ต โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Multilayer Optical Film “200 ชั้น” ที่ถูกออกแบบให้ทำงานประสานกันอย่างแม่นยำ ช่วยในการกรองแสงได้อย่างยอดเยี่ยม และป้องกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมคงความใส ชัด และสวยหรูในทุกมุมมอง ด้วยความใสที่ “เห็นชัด” ดีต่อทัศนวิสัยในการขับขี่

3M Ceramic Ultra Clear: ฟิล์มเซรามิคแท้ ที่ใช้เทคโนโลยีเซรามิคโมเลกุลระดับนาโนที่ล้ำสมัยด้วยนวัตกรรมของ 3M ออกแบบให้มีโทนสีเทาฟ้า ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามแต่ยังมีประโยชน์ ด้วยคุณสมบัติ Glare Reduction ช่วยให้การขับขี่สบายตามากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่มีแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ หรือไฟหน้ารถคันอื่น อีกทั้งยังมีความเข้มหลายระดับให้เลือก ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกระดับความเข้มที่เหมาะกับความต้องการ และสภาพการใช้งานของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่มีแสงจ้ามาก หรือการเดินทางไกลที่ต้องเผชิญกับสภาพแสงที่หลากหลาย
3M Paint Protection Film Series (PPF): ยกระดับการดูแลรถด้วยฟิล์มใสกันรอยจาก 3M ที่ออกแบบมาเฉพาะ พร้อมกาวคุณภาพสูงจาก 3M ที่แนบสนิท ผิวเนียนกลืนไปกับสีรถ ลอกออกไม่ทิ้งคราบ ไม่ทำลายสีผิวรถปกป้องอย่างรอบด้านโดยไม่สูญเสียความเงางามหรือการมองเห็นรายละเอียดของสีและผิวตัวถัง ไล่น้ำเป็นเม็ดกลม และยังสามารถคืนสภาพเมื่อเกิดรอยขีดข่วน ด้วยเทคโนโลยี Self-Healing

3M Ceramic Coating: บริการเคลือบเซรามิก 3M ใน PRO SHOP ช่วยยกระดับการดูแลผิวสีรถ ให้ความเงางาม ง่ายต่อการเช็ดล้างด้วยคุณสมบัติ Hydrophobic ลดการเกาะตัวของคราบน้ำ คราบสกปรก และช่วยลดการเกิดคราบฝังแน่นจากการใช้งานประจำวัน ทั้งยังเอื้อต่อการดูแลรักษาในระยะยาวเมื่อทำงานร่วมกับฟิล์มใสกันรอย 3M PPF
3M PRO SHOP (โปรช็อป) — มาตรฐานหน้าร้านรับรองโดย 3M
เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการที่ครบและมั่นใจในคุณภาพ SPMS EST เดินหน้าขยายและสนับสนุนเครือข่าย “3M PRO SHOP” ซึ่งเป็นร้านค้าที่ได้รับรองมาตรฐานจาก 3M สำหรับงานติดตั้งและดูแลรถยนต์แบบครบวงจร โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
บริการที่ครอบคลุมใน 3M PRO SHOP
• ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3M ครบทุกรุ่น
• ฟิล์มใสกันรอย 3M Paint Protection Film (PPF) สำหรับชิ้นส่วนสำคัญและทั้งคัน
• สติ๊กเกอร์ฟิล์มสีตกแต่ง/เปลี่ยนสีรถยนต์ (Wrap) เพื่อปรับโฉมและปกป้องผิวรถ
• เคลือบเซรามิก 3M Ceramic Coating บริการเคลือบเพื่อเพิ่มความเงางามและการปกป้อง
มาตรฐานและกระบวนการติดตั้ง
• ช่างเทคนิคผ่านการอบรมและทดสอบตามมาตรฐาน 3M
• ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ 3M เครื่องมือเฉพาะทาง และแพตเทิร์นดิจิทัลตามรุ่นรถ
• ห้องติดตั้งควบคุมความสะอาด ลดฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมขณะทำงาน
• การตรวจรับงานเป็นขั้นตอน พร้อมคำแนะนำการดูแลรักษาและเอกสารรับประกัน
วิธีเข้าถึงบริการและข้อมูลเพิ่มเติม
• ค้นหา 3M PRO SHOP ใกล้คุณและตรวจสอบบริการได้ที่: https://spms-est.com

เกี่ยวกับบริษัท เอส พี มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ (2001) จำกัด และ บริษัท อี เอส ที (2014) จำกัด
SPMS และ EST เป็นผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 3M รายเดียวในประเทศไทย และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ 3M อย่างเป็นทางการ บริษัทมุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและยกระดับมาตรฐานการบริการด้วยเครือข่ายคู่ค้าทั่วประเทศ ครอบคลุมโชว์รูมรถยนต์ ร้านคาร์แคร์ ร้านประดับยนต์ ร้านติดฟิล์ม และดีลเลอร์รายใหญ่ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์

E NEWS TODAY : WEBSITE
https://e-newstoday.com/5463

E NEWS TODAY : YOUTUBE
https://youtu.be/ECBBpTbotLg?si=56Elw74w5RkVNFy7

NIA มอบรางวัล Prime Minister Award 2025 เชิดชูเกียรติสตาร์ตอัป ผู้พัฒนานวัตกรรม และพันธมิตรนานาชาติกรุงเทพฯ / 22 กันยายน...
23/09/2025

NIA มอบรางวัล Prime Minister Award 2025
เชิดชูเกียรติสตาร์ตอัป ผู้พัฒนานวัตกรรม และพันธมิตรนานาชาติ

กรุงเทพฯ / 22 กันยายน 2568 – สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีมอบรางวัล Prime Minister Award 2025 เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการสตาร์ตอัป ผู้พัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับโลก โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีและประธานในพิธี ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญและมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมนวัตกรรมและสตาร์ตอัป เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล โดยเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมทั้งยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น "ชาตินวัตกรรม" โดยมอบหมายให้ NIA เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานผ่านกลไกและมาตรการที่เป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการฐานระบบนวัตกรรมและสตาร์ตอัป ด้วยกลไก 4G ได้แก่ “Groom – Grant – Growth - Global” ที่มุ่งสร้างระบบนิเวศที่เข้มแข็ง เพื่อบ่มเพาะ พัฒนา สนับสนุนเงินทุน เร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรม และเชื่อมโยงสู่ตลาดระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา และได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากทุกหน่วยงานอย่างดียิ่ง และเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเชิดชูผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมของประเทศ NIA จึงจัดมอบรางวัล Prime Minister Award ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นที่ที่ 9”

“รางวัล Prime Minister Award ถือเป็นเวทีสูงสุดในการเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการและองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก เพื่อให้สตาร์ตอัปไทยก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแรงและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคต แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) Prime Minister Award: National Startup 2025 เพื่อยกย่องหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลที่ส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมของประเทศ มีผลงานและนวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ 2) Prime Minister Award: Innovation for Sustainability เพื่อเชิดชูเกียรติหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจและกิจกรรมบนพื้นฐานของการรักษาสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงการใช้พลังงานและทรัพยากร โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน และสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ และ 3) Prime Minister Award: Global Innovation Partnership เพื่อประกาศเกียรติคุณหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมของประเทศไทย” ดร. กริชผกา กล่าวเพิ่มเติม

ผู้ที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 13 ราย ดังนี้
รางวัล Prime Minister Award: National Startup 2025

สาขา Startup of the Year
1. Finnomena – แพลตฟอร์มการลงทุนกองทุนรวมที่ช่วยบริหารเป้าหมายทางการเงินระยะยาวของนักลงทุน โดยแนะนำพอร์ตตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทน สามารถติดตามผลแบบเรียลไทม์ และปรับแผนได้ทันที ได้รับการระดมทุนระดับ Series B+ มูลค่า 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สาขา Global Tech Startup of the Year
2. บริษัท จับจ่าย คอร์ปอเรชั่น จำกัด – ผู้พัฒนาซอฟแวร์ด้านการศึกษาภายใต้แบรนด์ School Bright ระบบบริหารจัดการโรงเรียนแบบครบวงจร ครอบคลุมงานทะเบียน การเงิน บุคลากร และผลการเรียน ใช้งานง่าย รองรับทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ ได้รับทุนสนับสนุนจาก Microsoft และ AWS พร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สาขา Evangelist of the Year
3. นายคมสันต์ แซ่ลี – ผู้ก่อตั้ง Flash Express ยูนิคอร์นรายแรกของไทย มูลค่ากิจการกว่า 30,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจสู่หลายแขนง ทั้งสินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ และซอฟต์แวร์ เป็นแรงบันดาลใจให้ซีรีส์ “Mad Unicorn” ทาง Netflix

สาขา Investor of the Year
4. A2D Ventures – บริษัท VC และแพลตฟอร์มการลงทุนระยะเริ่มต้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงทุนในสตาร์ตอัปศักยภาพสูง เช่น UniFAHS (46 ล้านบาท) และ SLEEK EV (ร่วมลงทุนกับ ORZON และ January Capital)

สาขา Best Brotherhood of the Year
5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) – ส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ตอัป ผ่านกองทุน VC “ORZON Ventures” และการลงทุนแบบ Venture Builder เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ด้านพลังงานและเทคโนโลยี มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตในอนาคต

สาขา Best of Contributor in Human Capital Development (จำนวน 2 หน่วยงาน)
6. สถาบัน iNT มหาวิทยาลัยมหิดล – ผลักดันผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์และการสร้างนวัตกรรมตอบโจทย์สังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
7. True Digital Park – ศูนย์กลางสตาร์ตอัปและเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ให้บริการพื้นที่ทำงานครบวงจร สนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศสตาร์ตอัปทั้งในและต่างประเทศ

รางวัล Prime Minister Award: Innovation for Sustainability
8. กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม – หน่วยงานหลักด้านการจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของประเทศ เน้นการสร้างเศรษฐกิจสีเขียว คาร์บอนต่ำ และการพัฒนาความรู้เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม
9. เซ็นทรัลพัฒนา – ผู้พัฒนาศูนย์การค้าแนวคิด “ศูนย์กลางการใช้ชีวิตและชุมชน” ผสานกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างประสบการณ์แห่งความสุขระดับโลกควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม
10. INNOPOWER – บริษัทที่ก่อตั้งโดย กฟผ. และพันธมิตร พัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด ผ่านการลงทุนใน VC, Venture Builder และการสร้าง Strategic Partnership เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้าและความยั่งยืน
11. มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ – ดำเนินงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น โครงการดอยตุง การสร้างเศรษฐกิจชุมชน การจัดการน้ำและป่าไม้ โดยใช้ Nature - Based Solutions และการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ

รางวัล Prime Minister Award: Global Innovation Partnership
12. Y&Archer (เกาหลีใต้) – บริษัท Accelerator ชั้นนำ สนับสนุนและลงทุนในสตาร์ตอัปไทย เชื่อมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและเกาหลีใต้ โดยมีสำนักงานประจำในประเทศไทย
13. Vienna Business Agency (ออสเตรีย) – หน่วยงานสนับสนุนการลงทุนและธุรกิจ ร่วมกับ NIA จัดโครงการ Vienna Startup Package เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปจากทั่วโลกได้มีโอกาสสำรวจตลาดในยุโรปและเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรสำคัญ


E NEWS TODAY : WEBSITE
https://e-newstoday.com/5446

E NEWS TODAY : YOUTUBE
https://youtu.be/WoMTfNeebdE?si=hEpCKLv5_VMVcBxc

23/09/2025

ตลกตกงานแล้วนะ! คอปเตอร์ - คิมม่อน ชวนหลอนปนฮาใน หนังเลี้ยงรุ่น

#เลี้ยงรุ่น #หนังไทย #คอปเตอร์คิมม่อน #คิมม่อน #คอปเตอร์

23/09/2025

ไม่ดูถือว่าพลาด!! คอปเตอร์ - คิมม่อน จิ้นเวอร์ ใน หนังเลี้ยงรุ่น

#เลี้ยงรุ่น #หนังไทย #คอปเตอร์คิมม่อน #คิมม่อน #คอปเตอร์

"ธงเขียว" บุกนนทบุรี! กรมการค้าภายในผนึกกำลังพันธมิตร ลดราคาปุ๋ย-เคมีเกษตรสูงสุด 200 บาท/กระสอบ             ช่วยเกษตรกรล...
23/09/2025

"ธงเขียว" บุกนนทบุรี! กรมการค้าภายในผนึกกำลังพันธมิตร ลดราคาปุ๋ย-เคมีเกษตรสูงสุด 200 บาท/กระสอบ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต

นนทบุรี – กรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก จัดงาน "ธงเขียวราคาประหยัด"ที่ สหกรณ์การเกษตรไทรน้อย จำกัด อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2568 เวลา 09.00-16.00 น. มุ่งมั่นช่วยเหลือเกษตรกรให้เข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็นในราคาที่เป็นธรรม พร้อมบรรเทาภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

การจัดงานในครั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ผนึกกำลังกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย, สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย, สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร, ผู้ผลิตปุ๋ยและเคมีเกษตร รวมถึงห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้จริง

ไฮไลต์สำคัญภายในงาน คือการจำหน่าย ปุ๋ยเคมี 6 สูตรหลัก ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในพืชเศรษฐกิจ เช่น นาข้าว พืชไร่ และไม้ผล ได้แก่ สูตร 46-0-0, 16-20-0 , 15-15-15, 16-16-16, 16-8-8 และ 18-8-8 ซึ่งจะจำหน่ายในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 200 บาทต่อกระสอบ นอกจากนี้ยังมีการมอบ คูปองส่วนลดมูลค่า 50 บาท สำหรับใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสารเคมีเกษตรอื่นๆ เช่น ยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

งาน "ธงเขียวราคาประหยัด" ไม่ได้เป็นเพียงการลดภาระค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นการส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยการจัดงานในแต่ละพื้นที่ได้คำนึงถึงความต้องการและชนิดพืชที่ปลูกในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดประโยชน์สูงสุด
ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานและใช้สิทธิประโยชน์นี้ตามวันและเวลาดังกล่าว เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลผลิตทางการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

E NEWS TODAY : WEBSITE
https://e-newstoday.com/5454

E NEWS TODAY : YOUTUBE
https://youtu.be/L_hOzUICvLE?si=FYxymt2Sy5f9Y9_L

23/09/2025

"ธงเขียว" บุกนนทบุรี! กรมการค้าภายในผนึกกำลังพันธมิตร ลดราคาปุ๋ย-เคมีเกษตรสูงสุด 200 บาท/กระสอบ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต

นนทบุรี – กรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก จัดงาน "ธงเขียวราคาประหยัด"ที่ สหกรณ์การเกษตรไทรน้อย จำกัด อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2568 เวลา 09.00-16.00 น. มุ่งมั่นช่วยเหลือเกษตรกรให้เข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็นในราคาที่เป็นธรรม พร้อมบรรเทาภาระต้นทุนที่สูงขึ้น
การจัดงานในครั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ผนึกกำลังกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย, สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย, สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร, ผู้ผลิตปุ๋ยและเคมีเกษตร รวมถึงห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้จริง
ไฮไลต์สำคัญภายในงาน คือการจำหน่าย ปุ๋ยเคมี 6 สูตรหลัก ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในพืชเศรษฐกิจ เช่น นาข้าว พืชไร่ และไม้ผล ได้แก่ สูตร 46-0-0, 16-20-0 , 15-15-15, 16-16-16, 16-8-8 และ 18-8-8 ซึ่งจะจำหน่ายในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 200 บาทต่อกระสอบ นอกจากนี้ยังมีการมอบ คูปองส่วนลดมูลค่า 50 บาท สำหรับใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสารเคมีเกษตรอื่นๆ เช่น ยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
งาน "ธงเขียวราคาประหยัด" ไม่ได้เป็นเพียงการลดภาระค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นการส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยการจัดงานในแต่ละพื้นที่ได้คำนึงถึงความต้องการและชนิดพืชที่ปลูกในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดประโยชน์สูงสุด
ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานและใช้สิทธิประโยชน์นี้ตามวันและเวลาดังกล่าว เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลผลิตทางการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ทส. รวมพลังภาคีเครือข่าย เตรียมจัดประชุม TCAC 2025เร่งยกระดับ ขับเคลื่อนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศสู่การปฏิบัติจริง วันจันท...
22/09/2025

ทส. รวมพลังภาคีเครือข่าย เตรียมจัดประชุม TCAC 2025
เร่งยกระดับ ขับเคลื่อนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศสู่การปฏิบัติจริง

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่าย แถลงข่าวการจัดประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 4 หรือ Thailand Climate Action Conference: TCAC 2025 ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ร่วมพลิกวิกฤตโลกเดือด (Inspiring Climate Solutions for All)” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ประธานแถลงข่าว ร่วมกับ ดร.นภัส พันธ์พงษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซัสเทนอะบิลิตี้ เอ็กซ์โป จำกัด ดร.บุญทวี บุญให้ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคุณกานต์รวี ศรีแสงทรัพย์ แกนนำเยาวชน โครงการ Local Conference of Youth (LCOY) Thailand ณ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน การรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อร่วมกันนำวิสัยทัศน์และนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลอย่างแท้จริง สำหรับประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนในการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้วางแนวทางการดำเนินงานเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศ ครอบคลุมทั้งการจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ การสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมสีเขียว การสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ตลอดจนการเสริมศักยภาพการปรับตัวของชุมชนและระบบนิเวศ รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน”
“ภายใต้แนวทางดังกล่าว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน จึงได้การจัดประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 4 หรือ Thailand Climate Action Conference: TCAC 2025 เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการรวมพลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ได้กำหนดไว้ การประชุมครั้งนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือจากระดับนโยบายสู่การปฏิบัติจริงในพื้นที่ พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายนำเสนอผลสำเร็จ แนวปฏิบัติที่ดี และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การนำเสนอในเวทีนานาชาติ อันจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกัน ตลอดจนเพิ่มพลังความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทยอย่างมีประสิทธิผล”

Thailand Climate Action Conference: TCAC 2025 การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ร่วมพลิกวิกฤตโลกเดือด (Inspiring Climate Solutions for All)” ที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดเวทีแห่งการแลกเปลี่ยน
องค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมทั้งเปลี่ยนวิกฤตสภาพภูมิอากาศให้เป็นโอกาสในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ ได้แก่
 การเสวนา/บรรยายระดับนโยบาย วิชาการ เวทีเฉพาะด้าน อาทิ พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประชุม COP30 การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้านภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านเทคโลยีสู่สังคมที่ยั่งยืน Climate Finance การจัดการความเสี่ยงด้านภูมิอากาศในเมือง แนวทางการปรับตัวต่อภัยพิบัติ การสร้างความรู้ความเข้าและการเตรียมความพร้อมสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงเวทีที่ให้เยาวชนมาแสดงพลังในการแก้ปัญหาโลกเดือด

 การนำเสนอวิสัยทัศน์จากผู้นำระดับนานาชาติ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และเยาวชน โดยในวันพิธีเปิดงาน วันที่ 29 กันยายน 2568 ได้รับเกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดประชุม และปาฐกถาพิเศษ

 การจัดแสดงนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด 7 C ภายในงาน SX Sustainability Expo (SX) นำเสนอการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ในการแก้ปัญหา การตั้งรับ การปรับตัว และสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนวัตกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจัดมุม “Climate Clinic” มุมเพื่อการพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อแก้ปัญหาโลกเดือด รวมกว่า 10 หัวข้อ ตลอดระยะเวลา 10 วัน ตั้งแต่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568

การประชุม TCAC 2025 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน จากทุกภาคส่วนหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ คณะทูต ตลอดจนภาคประชาชนและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการรับรู้และความตระหนักรู้ของสาธารณชนต่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนผลักดันความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งบูรณาการองค์ความรู้และนวัตกรรมสู่การพัฒนาระดับพื้นที่และระดับประเทศ รวมถึงการสร้างความร่วมมือใหม่ร่วมกับภาคี โดยส่งเสริมให้ภาคีสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของชุมชนในพื้นที่ เสริมพลังชุนชนให้มีความเข้มแข็งในการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสามารถในรับมือจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นับจุดเริ่มต้นของการขยายความร่วมมือลงสู่การปฏิบัติในพื้นที่จริง ซึ่งการประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพและความก้าวหน้าของประเทศไทย ตลอดจนเชื่อมโยงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อพลิกวิกฤตโลกร้อนให้เป็นโอกาสในการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่อนาคตที่มั่นคงและปลอดภัยของประเทศและประชาคมโลก

เตรียมพบกับงานประชุม TCAC 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ท่านที่สนใจเข้าร่วมการประชุมสามารถ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ page กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ page TCAC และโอกาสนี้ขอเชิญทุกท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย Net Zero และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ร่วมพลิกวิกฤตโลกเดือดไปด้วยกัน”

E NEWS TODAY : WEBSITE
https://e-newstoday.com/5440

E NEWS TODAY : YOUTUBE
https://youtu.be/E-gGAvdv-Gc?si=DyqdHCz7p5mgex5l

ปตท.สผ. เดินหน้าโครงการ PTTEP Teenergy ปีที่ 10 ชวนเยาวชนร่วมประกวดไอเดียการอนุรักษ์ท้องทะเล ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท...
21/09/2025

ปตท.สผ. เดินหน้าโครงการ PTTEP Teenergy ปีที่ 10 ชวนเยาวชนร่วมประกวดไอเดียการอนุรักษ์ท้องทะเล ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท

ปตท.สผ. ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เดินหน้าโครงการ PTTEP Teenergy เป็นปีที่ 10 เชิญชวนเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ร่วมการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4 เฟ้นหาไอเดียในการดูแลสิ่งแวดล้อม ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท พร้อมรับฟังการเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จุดประกายแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์

นางสุศมา ปิตากุลดิลก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนและบริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ.ได้ดำเนินโครงการ PTTEP Teenergy ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม โดยในวันนี้ (19 กันยายน 2568) ได้เปิดตัว “โครงการการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4” ขึ้นภายใต้แนวคิด “ทะเลเพื่อชีวิต“ (Ocean for Life) เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาจากทั่วประเทศ นำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมเพื่อดูแลท้องทะเลไทย ชิงเงินรางวัลรวม 1,050,000 บาท

ในโอกาสนี้ มีการเสวนาในหัวข้อ “THE NEXT WAVE – คลื่นลูกใหม่เพื่อทะเลไทย” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมอนุรักษ์ท้องทะเล โดยมี ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ อาย – กมลเนตร เรืองศรี นักแสดงและนักเดินทางผู้หลงใหลในธรรมชาติ เจ้าของเพจ “กอมอนอ” ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์และ ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมถึง แนวทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โครงการ PTTEP Teenergy ได้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ของทั้งเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งให้น้อง ๆ ได้ลงมือทำกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวนมากกว่า 1,000 คน ทั้งรูปแบบกิจกรรมค่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และกิจกรรมการประกวดนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลซึ่งมีน้อง ๆ ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดมากกว่า 260 ผลงาน และหลายผลงานสามารถต่อยอดไปสู่การใช้งานจริงในการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยอย่างเป็นรูปธรรม เช่น แอปพลิเคชันระบบการแจ้งเตือนการตรวจจับการลอกคราบปูโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำหน้าที่บันทึกผลการลอกคราบและส่งการแจ้งเตือนให้กับผู้ดูแลฟาร์มเพาะเลี้ยงปู แอปพลิเคชันเพื่อนประมง ที่ช่วยให้ชาวประมงเข้าถึงข้อมูลทางทะเลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทุ่นเก็บขยะระดับผิวน้ำและใต้น้ำ ช่วยลดปริมาณขยะในแหล่งน้ำและทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช้อนที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากสารสกัดสาหร่ายช่วยลดปริมาณขยะอาหาร ผลงานเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทย ซึ่ง ปตท.สผ. ภาคภูมิใจและพร้อมให้การสนับสนุนโอกาสในการสร้างสรรค์และลงมือทำจริงด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง” นางสุศมา กล่าว

ผู้สนใจเข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4 สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งผลงานได้ที่ https://www.eventsonlinecenter.com/pttep_teenergy/ ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม – 25 ธันวาคม 2568 หรือติดตามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ทาง PTTEP CSR

ปตท.สผ. ดำเนินโครงการ PTTEP Teenergy ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 10 เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่เด็กและเยาวชน โดยตั้งแต่ปี 2557 – 2563 ดำเนินโครงการในรูปแบบกิจกรรมค่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในกลุ่มเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และต่อมาในปี 2564 ได้สานต่อความสำเร็จโครงการฯ ขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่กลุ่มนิสิต นักศึกษา โดยพัฒนารูปแบบจากกิจกรรมค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นการประกวดนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

E NEWS TODAY : WEBSITE
https://e-newstoday.com/5432

E NEWS TODAY : YOUTUBE
https://youtu.be/4eYZ0GfCfxg?si=EAuxSVxcaEngLHGY

ที่อยู่

89/307 ซ. ช่างอากาศอุทิศ5 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง
Bangkok
10210

เบอร์โทรศัพท์

+66819452539

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ E news todayผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง E news today:

แชร์