Thailand Motorcycle News

  • Home
  • Thailand Motorcycle News

Thailand Motorcycle News ข่าวสารจักรยานยนต์ทั่วโลก🌏
UP | Thailand Motorcycle News

Honda Monkey 125 Baja: ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่ม?[ข่าวเด็ด!] แฟน ๆ มินิโมโตเตรียมเฮ! หลังจาก Honda ประสบความสำเร็จอย่างล้น...
15/07/2025

Honda Monkey 125 Baja: ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่ม?

[ข่าวเด็ด!] แฟน ๆ มินิโมโตเตรียมเฮ! หลังจาก Honda ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับรถซีรีส์ 125 ซีซี และ 50 ซีซี ในตำนานมาแล้ว 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Monkey 125, Super Cub C125, CT125 Hunter Cub และ Dax 125 ล่าสุดมีกระแสข่าวลือหนาหูว่า "รุ่นที่ 5" กำลังจะตามมา และที่น่าจับตาที่สุดคือการนำ "Monkey Baja" กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง!

ทีมงาน Young Machine Scoop ได้รับข้อมูลจากหลายแหล่งว่า Honda กำลังสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ "รุ่นต่อไป" ของซีรีส์นี้ แม้จะยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่การรื้อฟื้น Monkey Baja ซึ่งโดดเด่นด้วย ไฟหน้าคู่ อันเป็นเอกลักษณ์ และรูปลักษณ์ที่พร้อมลุยแบบออฟโรด ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Monkey 125 ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในตลาด

Monkey Baja ใหม่ จะเป็นอย่างไร?
หาก Honda ใช้แพลตฟอร์มของ Monkey 125 เพื่อลดต้นทุนการพัฒนา แล้วนำงบประมาณที่ประหยัดได้ไปลงทุนกับ ยางขนาดใหญ่ขึ้น และ ช่วงล่างที่มีระยะยุบตัวยาวขึ้น จะทำให้ Monkey Baja ใหม่มีสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือกว่า Hunter Cub ก็เป็นไปได้ หรือแม้กระทั่งการนำส่วนท้ายของ Grom และช่วงล่างแบบโมโนช็อกมาใช้ ก็อาจทำให้มันกลายเป็นสุดยอดรถออฟโรดขนาดเล็ก!

แนวคิดในการสร้าง Monkey รุ่นใหม่ที่มี "ขายาวและล้อใหญ่" คล้ายกับ Mighty Dax ที่เคยพัฒนามาจาก Dax รุ่นเก่า ก็ดูจะเป็นไปได้สูงถึง 60% เลยทีเดียว! นี่คือสัญญาณที่บอกว่า Honda กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะต่อยอดความสำเร็จของซีรีส์ Monkey ให้ก้าวไปอีกขั้น

●文:ヤングマシン編集部 ●CG:SRD
เรียบเรียงและตัดต่อภาพใหม่โดย:Thailand Motorcycle News

#มินิโมโต #รถมอเตอร์ไซค์ #ข่าวรถใหม่ #จักรยานยนต์

Picasso Engineering จากสวิตเซอร์แลนด์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเปิดตัว Picasso OMT 450C รถแข่ง Flat Track ที่มาพร้อมนวั...
15/07/2025

Picasso Engineering จากสวิตเซอร์แลนด์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเปิดตัว Picasso OMT 450C

รถแข่ง Flat Track ที่มาพร้อมนวัตกรรมเฟรมคาร์บอนไฟเบอร์สุดล้ำ และขุมพลังจากเครื่องยนต์ Honda CRF 450 ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่ "ไร้ขอบเขต" โดยไม่ยึดติดกับวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์แบบเดิม
OMT 450C เปิดตัวครั้งแรกในงาน Heveningham Concours ที่สหราชอาณาจักร และได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ ความแข็งแกร่ง และการตอบสนองที่เป็นเลิศ จนผู้ที่ได้สัมผัสต่างยกให้ว่า "เหนือความคาดหมาย" Picasso Engineering ไม่เพียงแค่ปรับจูนแรงม้า แต่ยังให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การโค้งงอของเฟรม พลวัตการยึดเกาะ ไปจนถึงการตอบสนองของผู้ขับขี่ โดยมีแนวคิด "ไม่ประนีประนอม" เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา
รถคันนี้ยังได้รับรางวัล "Special Award" จาก Heveningham Concours และเตรียมลงสนามแข่ง FIM Flat Track World Championship ในปีนี้ ที่สาธารณรัฐเช็กและฮังการี ก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันเต็มรูปแบบในปี 2026
ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก OMT 450C จะไม่หยุดอยู่แค่ในสนามแข่ง Picasso Engineering ประกาศแผนจะเปิดตัว OMT 450C เวอร์ชันสำหรับขับขี่บนถนน ในปี 2026 เพื่อให้ผู้สนใจทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์สุดยอดแห่งสมรรถนะและความเบา สเตฟาโน ปิกัสโซ ผู้ก่อตั้ง Picasso Engineering กล่าวว่าเป้าหมายของพวกเขาคือ "ท้าทายทุกความเป็นไปได้ตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่มีข้อจำกัดหรือการประนีประนอมใด ๆ" และ Flat Track คือบทพิสูจน์ที่แท้จริงของความเชื่อมั่นนี้

Thailand Motorcycle News

#อนาคตของมอเตอร์ไซค์

"รถบ้านสองล้อ": นวัตกรรมสุดล้ำ...ที่ยังต้องลุ้น!บริษัทจากจีนได้ยื่นจดสิทธิบัตร "รถบ้านสองล้อ" แนวคิดใหม่ที่ผสมผสานมอเตอร...
15/07/2025

"รถบ้านสองล้อ": นวัตกรรมสุดล้ำ...ที่ยังต้องลุ้น!
บริษัทจากจีนได้ยื่นจดสิทธิบัตร "รถบ้านสองล้อ"

แนวคิดใหม่ที่ผสมผสานมอเตอร์ไซค์เข้ากับรถบ้านขนาดเล็ก โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Honda PCX 150 แม้จะเป็นการออกแบบที่น่าสนใจ แต่ก็ยังมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะกลายเป็นยานพาหนะสำหรับการผจญภัยในอนาคต

ห้องพักสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง?
"รถบ้านสองล้อ" มาพร้อมกับพื้นที่ขนาดเล็กด้านหลังรถจักรยานยนต์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องโดยสารย่อส่วน ถึงแม้จะดูโปร่ง แต่พื้นที่นี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ใช้นอน แต่คาดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับ เด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ มาตรการความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเรื่องเข็มขัดนิรภัยหรือการป้องกันอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน

ปัญหาเรื่องน้ำหนักและสมรรถนะ
หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของรถบ้านสองล้อคือ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จากพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งส่งผลให้ การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น และ เสถียรภาพในการขับขี่ลดลง นอกจากนี้ ระบบยึดหรือการจอดรถที่เฉพาะเจาะจงก็ยังไม่ชัดเจน ทำให้การใช้งานไม่สะดวก
ในด้านสมรรถนะ คาดว่ารถจะใช้เครื่องยนต์สูบเดียวสี่จังหวะของ Honda PCX 150 ที่มีแรงม้าประมาณ 15 แรงม้า ทำให้ ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่ก็หมายความว่ารถคันนี้ ไม่เหมาะกับการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกล

อนาคตและเวอร์ชันไฟฟ้า
เอกสารสิทธิบัตรยังระบุว่าอาจมี เวอร์ชันไฟฟ้า ในอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าจับตา แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม

สรุป: เหมาะกับการผจญภัยหรือไม่?
แม้ว่า "รถบ้านสองล้อ" จะเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่และน่าสนใจ แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับ ความท้าทายหลายประการ ทั้งเรื่องพื้นที่จำกัด ความปลอดภัย น้ำหนัก และสมรรถนะ หากปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขในอนาคต "รถบ้านสองล้อ" อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการตั้งแคมป์และการผจญภัยได้จริง

By.Motorrad.de
Thailand Motorcycle News

#รถบ้านสองล้อ #มอเตอร์ไซค์แคมป์ปิ้ง #นวัตกรรมยานยนต์ #รถบ้านจิ๋ว #การเดินทาง

"รถบ้านสองล้อ": นวัตกรรมสุดล้ำ...ที่ยังต้องลุ้น!บริษัทจากจีนได้ยื่นจดสิทธิบัตร "รถบ้านสองล้อ" แนวคิดใหม่ที่ผสมผสานมอเตอร...
15/07/2025

"รถบ้านสองล้อ": นวัตกรรมสุดล้ำ...ที่ยังต้องลุ้น!
บริษัทจากจีนได้ยื่นจดสิทธิบัตร "รถบ้านสองล้อ"

แนวคิดใหม่ที่ผสมผสานมอเตอร์ไซค์เข้ากับรถบ้านขนาดเล็ก โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Honda PCX 150 แม้จะเป็นการออกแบบที่น่าสนใจ แต่ก็ยังมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะกลายเป็นยานพาหนะสำหรับการผจญภัยในอนาคต

ห้องพักสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง?
"รถบ้านสองล้อ" มาพร้อมกับพื้นที่ขนาดเล็กด้านหลังรถจักรยานยนต์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องโดยสารย่อส่วน ถึงแม้จะดูโปร่ง แต่พื้นที่นี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ใช้นอน แต่คาดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับ เด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ มาตรการความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเรื่องเข็มขัดนิรภัยหรือการป้องกันอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน

ปัญหาเรื่องน้ำหนักและสมรรถนะ
หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของรถบ้านสองล้อคือ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จากพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งส่งผลให้ การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น และ เสถียรภาพในการขับขี่ลดลง นอกจากนี้ ระบบยึดหรือการจอดรถที่เฉพาะเจาะจงก็ยังไม่ชัดเจน ทำให้การใช้งานไม่สะดวก
ในด้านสมรรถนะ คาดว่ารถจะใช้เครื่องยนต์สูบเดียวสี่จังหวะของ Honda PCX 150 ที่มีแรงม้าประมาณ 15 แรงม้า ทำให้ ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่ก็หมายความว่ารถคันนี้ ไม่เหมาะกับการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกล

อนาคตและเวอร์ชันไฟฟ้า
เอกสารสิทธิบัตรยังระบุว่าอาจมี เวอร์ชันไฟฟ้า ในอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าจับตา แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม

สรุป: เหมาะกับการผจญภัยหรือไม่?
แม้ว่า "รถบ้านสองล้อ" จะเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่และน่าสนใจ แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับ ความท้าทายหลายประการ ทั้งเรื่องพื้นที่จำกัด ความปลอดภัย น้ำหนัก และสมรรถนะ หากปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขในอนาคต "รถบ้านสองล้อ" อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการตั้งแคมป์และการผจญภัยได้จริง

By.Motorrad.de
Thailand Motorcycle News

#รถบ้านสองล้อ #มอเตอร์ไซค์แคมป์ปิ้ง #นวัตกรรมยานยนต์ #รถบ้านจิ๋ว #การเดินทาง

Yamaha XSR900 Abarth: เมื่อคาเฟ่เรเซอร์คลาสสิก ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ปี2017Yamaha Motorcycles ร่วมกับ Abarth แบรนด์รถยนต์...
15/07/2025

Yamaha XSR900 Abarth: เมื่อคาเฟ่เรเซอร์คลาสสิก ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ปี2017

Yamaha Motorcycles ร่วมกับ Abarth แบรนด์รถยนต์แข่งชื่อดังจากอิตาลี เปิดตัว XSR900 Abarth รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่ผสานสไตล์คาเฟ่เรเซอร์สุดคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยีและสมรรถนะอันทรงพลังของ Yamaha ได้อย่างลงตัว

Yamaha ประสบความสำเร็จอย่างมากกับซีรีส์ Sport Heritage ที่นำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้แรงบันดาลใจจากอดีต แต่มาพร้อมเทคโนโลยีปัจจุบัน XSR900 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง ด้วยดีไซน์คลาสสิกที่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เพื่อตอบรับกระแสการแต่งรถที่ได้รับความนิยม Yamaha ได้สร้างสรรค์รถรุ่นพิเศษมากมาย รวมถึงการร่วมงานกับผู้สร้างรถชื่อดังอย่าง Shinya Kimura และ Roland Sands เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ขับขี่
XSR900 Abarth: ความร่วมมือครั้งแรกที่น่าจับตา
สำหรับปี 2017 นี้ Yamaha ได้จับมือกับ Abarth เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างสรรค์ Café Racer ที่ผลิตจากโรงงานในจำนวนจำกัด XSR900 Abarth โดดเด่นด้วยชุดสีที่สะดุดตา และการเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ

หัวใจหลักของรถรุ่นนี้คือ เครื่องยนต์ 3 สูบ 850 ซีซี อันทรงพลังของ Yamaha ที่ให้แรงบิดเต็มพิกัดในทุกรอบเครื่องยนต์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ

ดีไซน์และสมรรถนะที่เหนือกว่า
XSR900 Abarth ถ่ายทอดจิตวิญญาณของคาเฟ่เรเซอร์อย่างแท้จริง ด้วย ท่านั่งแบบ Café Racer ที่เน้นความกะทัดรัดและคล่องตัว มาพร้อม แฮนด์บาร์แบบคลิปออนทรง Swallow และ เบาะนั่งเดี่ยวแบบเรซซิ่ง ที่ให้ตำแหน่งการขับขี่แบบสปอร์ต ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ของ XSR900 Abarth ได้แรงบันดาลใจจากรถพิเศษและรถไฮบริดยุค 1960 ที่เหล่า "ร็อกเกอร์" สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความเร็วและสไตล์ กระจังหน้าดีไซน์ย้อนยุคของ Abarth ตัดกับ โครงสร้างคาร์บอนไฮเทค และ เบาะนั่งเดี่ยวหุ้มหนังกลับสุดเท่ สะท้อนคุณภาพระดับพรีเมียมของรถคันนี้
เพื่อความเบาและเน้น DNA สปอร์ต บังโคลนหน้าและครอบเบาะทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟท้ายแบบบูรณาการและที่ยึดป้ายทะเบียนน้ำหนักเบา

XSR900 Abarth ยังคงยึดมั่นในปรัชญา "ต้องการความเร็ว" ด้วย ท่อไอเสียไทเทเนียม Akrapovič แบบเต็มระบบ พร้อมท่อพักไอเสียไทเทเนียมแบบสวมคู่ ที่ไม่เพียงเพิ่มสมรรถนะ แต่ยังให้เสียงที่ดุดันและรูปลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

เอกลักษณ์เฉพาะตัวและความพิเศษ
ด้วย โลโก้ Abarth บนถังเชื้อเพลิง บังโคลนหน้าคาร์บอน และครอบเบาะคาร์บอน ชุดสี เทา/แดง อันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนจิตวิญญาณของยุคที่ผ่านมาและเข้ากันได้อย่างลงตัวกับสไตล์คาเฟ่เรเซอร์ย้อนยุค

XSR900 Abarth เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแรงบันดาลใจจากยุค 60 เทคโนโลยีญี่ปุ่นล้ำสมัย และดีไซน์สไตล์อิตาลี ทำให้รถคันนี้เป็นรุ่นที่พิเศษอย่างแท้จริง

การผลิต XSR900 Abarth มีจำนวนจำกัดเพียง 695 คันทั่วโลก โดยแต่ละคันจะมี แผ่นโลหะอลูมิเนียมพร้อมหมายเลขการผลิต เพื่อยืนยันความพิเศษและความเป็นเจ้าของ

คุณสมบัติเด่นของ Yamaha XSR900 Abarth:
* เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 850 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว
* ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control System) และ Assist & Slipper Clutch
* โทนสีเทา/แดงสุดพิเศษจาก Abarth
* แฮนด์แบบคลิปออน Swallow เพื่อตำแหน่งการขับขี่แบบสปอร์ต
* เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนังกลับและเย็บตะเข็บสีแดง
* ครอบเบาะคาร์บอนน้ำหนักเบาและบังโคลนหน้าคาร์บอน
* ท่อไอเสีย Akrapovič แบบเต็มใบพร้อมท่อสลิปออนไทเทเนียมคู่
* ที่ยึดป้ายทะเบียนแบบสปอร์ต
* ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 695 คัน แต่ละคันมีแผ่นโลหะหมายเลขอะลูมิเนียม
* โลโก้ Abarth บนถังน้ำมัน บังโคลนหน้าคาร์บอน และครอบเบาะ
* สี: อาบาร์ธ เทา/แดง
* วางจำหน่าย: เมษายน 2560 ที่ผ่านมา



Thailand Motorcycle News

Yamaha เตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฮบริด "FZ-X Hybrid" ในอินเดีย!บริษัท India Yamaha Motor Pvt. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Y...
15/07/2025

Yamaha เตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฮบริด "FZ-X Hybrid" ในอินเดีย!

บริษัท India Yamaha Motor Pvt. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Yamaha Motor ได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศเตรียมเปิดตัว "FZ-X Hybrid" มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดอินเดีย ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฮบริดอย่างเต็มตัวสำหรับยามาฮ่าในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์

FZ-X Hybrid: เน็กเก็ตครอสโอเวอร์ดีไซน์เรโทรล้ำสมัย

FZ-X Hybrid ยังคงเอกลักษณ์ของตระกูล FZ-X ที่มาพร้อมดีไซน์แบบ นีโอเรโทร หรือย้อนยุคแต่แฝงความทันสมัย ตัวรถเป็นสไตล์ เน็กเก็ตครอสโอเวอร์น้ำหนักเบา ที่ดูแข็งแกร่ง ติดตั้งเครื่องยนต์แบบสูบเดียวขนาด 149 ซีซี ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือเส้นทางผจญภัยเล็กๆ

ฟังก์ชันอัจฉริยะเพื่อประสิทธิภาพและสิ่งแวดล้อม
หัวใจสำคัญของ FZ-X Hybrid คือการนำระบบ Smart Motor Generator (SMG) ที่เคยใช้ในรถสกู๊ตเตอร์มาปรับใช้ พร้อมเพิ่มฟังก์ชัน ระบบหยุด-สตาร์ทอัตโนมัติ (Auto Start-Stop) เข้ามา ทำให้รถสามารถรีสตาร์ทได้ง่ายเพียงแค่ใช้คลัตช์ ระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษได้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ FZ-X Hybrid ยังมาพร้อมกับ:
* ระบบช่วงล่างแบบโมโนครอส น้ำหนักเบา ให้การดูดซับแรงกระแทกและความเสถียรในการเบรกที่ดีเยี่ยม
* มาตรวัด LCD สี ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
* รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20 ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ผสมไบโอเอทานอล 20% แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม

ตัวรถยังถูกออกแบบให้ดูดุดันและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการเสริม ฝาครอบถังน้ำมันโลหะ, บังโคลนหน้า, ช่องดักลม และ ฝาครอบใต้ท้องรถ ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นครอสโอเวอร์อย่างชัดเจน

Thailand Motorcycle News

#มอเตอร์ไซค์ไฮบริด #ยามาฮ่า #มอเตอร์ไซค์ #รถจักรยานยนต์

Honda Hunter Cub: จากมอเตอร์ไซค์อเมริกันสู่ตำนานออฟโรดHonda Hunter Cub หรือ "ฮันเตอร์คับ" คือมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานที่มีจ...
15/07/2025

Honda Hunter Cub: จากมอเตอร์ไซค์อเมริกันสู่ตำนานออฟโรด

Honda Hunter Cub หรือ "ฮันเตอร์คับ" คือมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานที่มีจุดเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในการบุกตะลุย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังของ Hunter Cub ตั้งแต่การถือกำเนิดจนถึงการเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

จุดเริ่มต้นในอเมริกา: เมื่อ Super Cub กลายเป็น Hunter Cub

เรื่องราวของ Hunter Cub เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Honda เข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาในปี 1959 แรกเริ่ม Honda ประสบปัญหาในการทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ แต่ "Super Cub" หรือที่ชาวอเมริกันเรียกว่า "Honda 50" กลับกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Honda ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด Honda ได้วางตำแหน่ง Super Cub ในฐานะ "เพื่อนคู่ใจ" สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การตกปลาและการล่าสัตว์ การปรับแต่ง Super Cub ให้มีสมรรถนะออฟโรดที่เหนือกว่า ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นที่ต้องการของนักผจญภัย และนี่คือจุดกำเนิดของ "Hunter Cub C105H" (รุ่นปี 1963) มอเตอร์ไซค์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการล่าสัตว์โดยเฉพาะ

"Hunting with Honda": ภาพยนตร์ที่สร้างตำนาน
ในปี 1962 American Honda ได้สร้างภาพยนตร์สั้นชื่อ "Hunting with Honda" เพื่อนำเสนอเรื่องราวของพนักงานออฟฟิศที่หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงไปล่ากวางในป่าใหญ่โดยใช้ Honda 50 ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงการผจญภัยครั้งใหม่ แต่ยังอธิบายว่าทำไม Honda 50 ถึงได้รับฉายาว่า "Hunter Cub"

ในภาพยนตร์ Honda 50 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบุกตะลุยภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า เนินเขา แม่น้ำเล็กๆ หรือแม้กระทั่งหิมะ ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่าง น้ำหนักเบา การควบคุมที่ง่ายด้วย คลัตช์อัตโนมัติ และ เกียร์ต่ำพิเศษ ทำให้ Hunter Cub สามารถพิชิตเส้นทางออฟโรดที่ยากลำบากได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้นักล่าขยายขอบเขตการสำรวจได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

Hunter Cub ในญี่ปุ่นและ CT125 Hunter Cub ในปัจจุบัน

แม้ว่า Hunter Cub จะถือกำเนิดในอเมริกา แต่ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการนำเสนอ Hunter Cub 55 ในช่วงสั้นๆ ในปี 1961 และต่อมาในปี 1968 ก็มี CT90 Trail 90 ออกสู่ตลาดส่งออก อย่างไรก็ตาม ความนิยมของ Hunter Cub ในญี่ปุ่นยังไม่เทียบเท่ากับในอเมริกา จนกระทั่งในปี 1981 CT110 ได้ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับแนวคิดของการขับขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติ

ปัจจุบัน CT125 Hunter Cub ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยยังคงสืบทอดจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและความสนุกสนานในการขับขี่จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ Hunter Cub ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอิสระและการออกเดินทางสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริง

ข้อมูลจำเพาะของ Honda "HUNTER CUB C105H" (รุ่นปี 1963)
* ประเภทเครื่องยนต์: ระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ สูบเดียว OHV
* ปริมาตรกระบอกสูบทั้งหมด: 54 ซีซี
* กำลังสูงสุด: 5 แรงม้า ที่ 9500 รอบต่อนาที
* น้ำหนักรถ (แห้ง): 73 กิโลกรัม

【取材協力】
ホンダコレクションホール(栃木県/モビリティリゾートもてぎ内)
※2023年12月以前に撮影
Thailand Motorcycle News

#มอเตอร์ไซค์ออฟโรด #ตำนานมอเตอร์ไซค์ #การผจญภัย #มอเตอร์ไซค์ในตำนาน

ตำแหน่งการขับขี่ที่แตกต่างสร้างบุคลิกที่แตกต่าง!  CB1000F Concept, Z900RS และ KATANA写真:南 孝幸、赤松 孝Thailand Motorcycle News...
15/07/2025

ตำแหน่งการขับขี่ที่แตกต่างสร้างบุคลิกที่แตกต่าง! CB1000F Concept, Z900RS และ KATANA

写真:南 孝幸、赤松 孝
Thailand Motorcycle News

การกลับมาของตำนาน: Wayne Rainey ขี่ Yamaha XSR900 GP ครั้งแรกในรอบ 34 ปีที่ Laguna Seca!เวย์น เรนีย์ นักบิดระดับโลกผู้ยิ...
15/07/2025

การกลับมาของตำนาน: Wayne Rainey ขี่ Yamaha XSR900 GP ครั้งแรกในรอบ 34 ปีที่ Laguna Seca!

เวย์น เรนีย์ นักบิดระดับโลกผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย ได้สร้างความประทับใจให้แฟน ๆ อีกครั้งด้วยการกลับมาลงสนามที่ Laguna Seca เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี! ในงาน MotoAmerica รอบที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2025 เรนีย์ได้นำขบวนพาเหรดรอบสนามด้วย Yamaha XSR900GP รุ่นพิเศษ ที่ถูกดัดแปลงมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่แฟน ๆ รอคอย
เส้นทางตำนานของ Wayne Rainey

Wayne Rainey เกิดในปี 1960 และถือเป็นหนึ่งในนักแข่งมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นที่สุดของอเมริกา เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการคว้าแชมป์ AMA Superbike Championship ในปี 1983 และ 1987 ก่อนจะก้าวสู่สังเวียน World GP รุ่น 500 ซีซี ในปี 1988 กับทีม Roberts ด้วยรถ YZR500

ในช่วงเวลาที่ขับเคี่ยวกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Kevin Schwantz เรนีย์ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์โลก 500 ซีซี 3 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1990-1992 อย่างไรก็ตาม อาชีพนักบิดของเขาต้องยุติลงในปี 1993 จากอุบัติเหตุระหว่างฤดูกาล หลังจากนั้น เขาก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการด้วยการนำทีมแข่งของตัวเอง และปลุกปั้นนักแข่งดาวรุ่งหลายคน เช่น Tetsuya Harada และ Norifumi Abe

XSR900GP รุ่นพิเศษ: รถคู่ใจตำนาน
การกลับมาครั้งนี้ของ Rainey ที่ Laguna Seca เป็นการหวนรำลึกถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเขาในการแข่งขัน US Grand Prix ปี 1991 ซึ่งครั้งนั้นเขาคว้าทั้งตำแหน่งโพลโพซิชันและคว้าชัยชนะอันน่าประทับใจ ทิ้งห่างอันดับสองถึง 6.9 วินาที สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก
ในวันนั้น มีนักแข่งระดับตำนานหลายท่านมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Kenny Roberts, Eddie Lawson และ Freddie Spencer แต่จุดสนใจทั้งหมดกลับอยู่ที่ Rainey ผู้ขับขี่ XSR900GP โดยมี "King" Kenny Roberts ขี่ MT-09SP ตามมาด้านหลัง สร้างความประทับใจและความทรงจำดี ๆ ให้กับแฟน ๆ อย่างล้นหลาม

Yamaha XSR900GP คันพิเศษ ที่ Rainey ขี่นั้น เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Yamaha Motor EU และ Yamaha Motor US ตัวรถมาพร้อมหมายเลข "2" เพื่อเป็นเกียรติแก่ปี 1990 ที่เขาคว้าแชมป์ GP 500 ซีซี ครั้งแรก โดดเด่นด้วยเฟรม สวิงอาร์ม และช่วงล่างสีดำสนิท ตัดกับสี Marlboro ที่ชวนให้นึกถึง YZR500 สุดคลาสสิก

สิ่งที่ทำให้รถคันนี้พิเศษยิ่งกว่าคือ ระบบ "Y-AMT" ที่ถูกติดตั้งมาเป็นพิเศษ กลไกนี้ช่วยให้ Rainey สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือซ้ายโดยไม่จำเป็นต้องใช้คลัตช์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เขาสามารถกลับมาขับขี่ได้อีกครั้ง แม้จะไม่มีแป้นเหยียบและแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้ายก็ตาม

นอกจากนี้ XSR900GP คันนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมแท้จาก Yamaha เช่น ครอบเบาะและครอบใต้ท้องรถ ท่อไอเสียจาก Akrapovic และแผ่นรองขนาดใหญ่ที่ถังน้ำมันซึ่งสั่งทำพิเศษโดย Saddleman เพื่อช่วยยึดผู้ขับขี่ไว้กับที่
Rainey ยังได้ร่วมแสดงในวิดีโอโปรโมต XSR900GP และ Yamaha ได้มอบ XSR900GP รุ่นพิเศษนี้ให้กับเขาเพื่อเป็นการยกย่องเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่
การปรากฏตัวครั้งนี้ นับเป็นการนำขบวนพาเหรดครั้งแรกของ Rainey ในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เขาขี่ YZR500 ในงาน Goodwood Festival of Speed ปี 2022 ซึ่งในครั้งนั้น YZR ของเขาได้รับการปรับแต่งให้เปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์บนแฮนด์ แต่สำหรับครั้งนี้ เทคโนโลยี Y-AMT ที่ล้ำสมัยของ Yamaha ได้เปิดโอกาสให้ตำนานท่านนี้กลับมาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อีกครั้ง

แม้ว่า XSR900GP ที่วางจำหน่ายทั่วไปจะไม่ได้ติดตั้งระบบ Y-AMT มาให้ แต่ก็คงจะดีไม่น้อยหากในอนาคต Yamaha จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับรุ่นอื่น ๆ อย่าง MT-09 และ Tracer 9GT+ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

Thailand Motorcycle News

 Yamaha TW200: ตำนานที่ไม่เคยตายกับ 38 ปีบนเส้นทางออฟโรดรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha TW200 คือหนึ่งในโมเดลหายากจากผู้ผลิตญี่ปุ่น...
15/07/2025


Yamaha TW200: ตำนานที่ไม่เคยตายกับ 38 ปีบนเส้นทางออฟโรด

รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha TW200 คือหนึ่งในโมเดลหายากจากผู้ผลิตญี่ปุ่นที่ยังคงโลดแล่นอยู่บนท้องถนนในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ แม้ว่าในญี่ปุ่น TW200 จะเลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2008 แต่รถรุ่นนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะ "รถเทรลไบค์" ที่แท้จริง
กำเนิด TW: จาก Trail Way สู่ Street Custom

TW ย่อมาจาก "Trail Way" ซึ่งสะท้อนถึงวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของรถคันนี้ที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยและการเดินทางในเส้นทางทุรกันดาร ด้วย ยาง Balloon Tire ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษทั้งล้อหน้าและหลัง ทำให้ TW200 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด เครื่องยนต์ขนาด 196 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ สูบเดียว พร้อมคาร์บูเรเตอร์ที่มีระบบชดเชยระดับความสูง ยิ่งเสริมความทนทานในทุกสภาพเส้นทาง

จุดเปลี่ยนสู่กระแส Street Custom
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 TW200 ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มนักแต่งรถที่เรียกว่า "Street Custom" ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ยิ่งไปกว่านั้น ความนิยมยังพุ่งสูงสุดเมื่อ TW200 ได้ปรากฏในละครโทรทัศน์ยอดนิยมเรื่อง "Beautiful Life" ในปี 2000 ทำให้เกิดกระแส "Tiidavers" หรือผู้ขับขี่ TW ขึ้นมาในสังคมมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น ยามาฮ่าเองก็ตอบรับกระแสนี้ด้วยการเปิดตัว TW200E ในปี 2000 ที่มาพร้อมไฟหน้าทรงกลม ดิสก์เบรกหน้า และยางลายกระดองเต่าที่เหมาะกับการขับขี่บนถนนมากขึ้น

ทำไม TW200 จึงยังขายดีในอเมริกาเหนือ?
ในขณะที่ TW200 ในญี่ปุ่นถูกปรับโฉมให้กลายเป็น Street Bike ที่มีสไตล์เฉพาะตัว แต่ในอเมริกาเหนือ TW200 ยังคงรักษารูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานแบบออฟโรดดั้งเดิมไว้ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีป่าไม้และเส้นทางธรรมชาติมากมาย TW200 ที่มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด ขับขี่ง่าย และราคาไม่แพง จึงกลายเป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการขี่ผ่านทุ่งนาและภูเขาได้อย่างสนุกสนาน

แม้จะผ่านมาเกือบ 4 ทศวรรษ แต่ TW200 รุ่นปี 2026 ก็ยังคงใช้กลไกพื้นฐานเดียวกับ TW200E ปี 2000 โดยที่เครื่องยนต์ยังคงขนาด 196 ซีซีเท่าเดิม มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น คาร์บูเรเตอร์ที่ปรับปรุงใหม่ และการติดตั้งถังถ่านเพื่อลดการปล่อยมลพิษ

เสน่ห์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
ความพิเศษของ TW200 คือการคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้เกือบทั้งหมด สังเกตได้จาก มาตรวัดความเร็วที่มีตัวเลข "55" สลักเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกฎหมายจำกัดความเร็วสูงสุดในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1975-1987 แม้ว่าข้อจำกัดนี้จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ TW200 ก็ยังคงเก็บรายละเอียดทางประวัติศาสตร์นี้ไว้ แสดงให้เห็นถึงความยาวนานของโมเดลนี้

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งรถสไตล์ดุดัน หรือการขับขี่แบบออฟโรด TW200 ก็ยังคงเป็นที่รักและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายอย่างแท้จริง สะท้อนถึงอิสระและความสุขในการขับขี่ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลจำเพาะ Yamaha TW200 (รุ่นจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา):
* ปริมาตรกระบอกสูบรวม: 196cc
* ประเภทเครื่องยนต์: ระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว สูบเดียว
* ความสูงเบาะ: 790 มม.
* น้ำหนักรถ: 126 กก.
* ราคาท้องถิ่น: 4,999 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 183,000 บาทไทย ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2568)

Thailand Motorcycle News

#รถมอเตอร์ไซค์ #มอเตอร์ไซค์หายาก #รถออฟโรด #ตำนานที่ไม่เคยตาย

Yamaha TW200: ตำนานที่ไม่เคยตายกับ 38 ปีบนเส้นทางออฟโรดรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha TW200 คือหนึ่งในโมเดลหายากจากผู้ผลิตญี่ปุ่นท...
15/07/2025

Yamaha TW200: ตำนานที่ไม่เคยตายกับ 38 ปีบนเส้นทางออฟโรด

รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha TW200 คือหนึ่งในโมเดลหายากจากผู้ผลิตญี่ปุ่นที่ยังคงโลดแล่นอยู่บนท้องถนนในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ แม้ว่าในญี่ปุ่น TW200 จะเลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2008 แต่รถรุ่นนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะ "รถเทรลไบค์" ที่แท้จริง
กำเนิด TW: จาก Trail Way สู่ Street Custom

TW ย่อมาจาก "Trail Way" ซึ่งสะท้อนถึงวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของรถคันนี้ที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยและการเดินทางในเส้นทางทุรกันดาร ด้วย ยาง Balloon Tire ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษทั้งล้อหน้าและหลัง ทำให้ TW200 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด เครื่องยนต์ขนาด 196 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ สูบเดียว พร้อมคาร์บูเรเตอร์ที่มีระบบชดเชยระดับความสูง ยิ่งเสริมความทนทานในทุกสภาพเส้นทาง

จุดเปลี่ยนสู่กระแส Street Custom
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 TW200 ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มนักแต่งรถที่เรียกว่า "Street Custom" ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ยิ่งไปกว่านั้น ความนิยมยังพุ่งสูงสุดเมื่อ TW200 ได้ปรากฏในละครโทรทัศน์ยอดนิยมเรื่อง "Beautiful Life" ในปี 2000 ทำให้เกิดกระแส "Tiidavers" หรือผู้ขับขี่ TW ขึ้นมาในสังคมมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น ยามาฮ่าเองก็ตอบรับกระแสนี้ด้วยการเปิดตัว TW200E ในปี 2000 ที่มาพร้อมไฟหน้าทรงกลม ดิสก์เบรกหน้า และยางลายกระดองเต่าที่เหมาะกับการขับขี่บนถนนมากขึ้น

ทำไม TW200 จึงยังขายดีในอเมริกาเหนือ?
ในขณะที่ TW200 ในญี่ปุ่นถูกปรับโฉมให้กลายเป็น Street Bike ที่มีสไตล์เฉพาะตัว แต่ในอเมริกาเหนือ TW200 ยังคงรักษารูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานแบบออฟโรดดั้งเดิมไว้ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีป่าไม้และเส้นทางธรรมชาติมากมาย TW200 ที่มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด ขับขี่ง่าย และราคาไม่แพง จึงกลายเป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการขี่ผ่านทุ่งนาและภูเขาได้อย่างสนุกสนาน

แม้จะผ่านมาเกือบ 4 ทศวรรษ แต่ TW200 รุ่นปี 2026 ก็ยังคงใช้กลไกพื้นฐานเดียวกับ TW200E ปี 2000 โดยที่เครื่องยนต์ยังคงขนาด 196 ซีซีเท่าเดิม มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น คาร์บูเรเตอร์ที่ปรับปรุงใหม่ และการติดตั้งถังถ่านเพื่อลดการปล่อยมลพิษ

เสน่ห์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
ความพิเศษของ TW200 คือการคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้เกือบทั้งหมด สังเกตได้จาก มาตรวัดความเร็วที่มีตัวเลข "55" สลักเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกฎหมายจำกัดความเร็วสูงสุดในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1975-1987 แม้ว่าข้อจำกัดนี้จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ TW200 ก็ยังคงเก็บรายละเอียดทางประวัติศาสตร์นี้ไว้ แสดงให้เห็นถึงความยาวนานของโมเดลนี้

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งรถสไตล์ดุดัน หรือการขับขี่แบบออฟโรด TW200 ก็ยังคงเป็นที่รักและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายอย่างแท้จริง สะท้อนถึงอิสระและความสุขในการขับขี่ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลจำเพาะ Yamaha TW200 (รุ่นจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา):
* ปริมาตรกระบอกสูบรวม: 196cc
* ประเภทเครื่องยนต์: ระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว สูบเดียว
* ความสูงเบาะ: 790 มม.
* น้ำหนักรถ: 126 กก.
* ราคาท้องถิ่น: 4,999 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 183,000 บาทไทย ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2568)

Thailand Motorcycle News

#รถมอเตอร์ไซค์ #มอเตอร์ไซค์หายาก #รถออฟโรด #ตำนานที่ไม่เคยตาย

Suzuki RF400R / RF400RV: บิ๊กไบค์พันธุ์สปอร์ต-ทัวริ่ง (ปี 1993-1999)Suzuki RF400R โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ที่ราวกับเป...
15/07/2025

Suzuki RF400R / RF400RV: บิ๊กไบค์พันธุ์สปอร์ต-ทัวริ่ง (ปี 1993-1999)

Suzuki RF400R โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ที่ราวกับเป็น บิ๊กไบค์ อย่างแท้จริง! มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถือกำเนิดขึ้นจากวิสัยทัศน์อันทะเยอทะยานของซูซูกิ ที่ต้องการ ปฏิวัติวงการมอเตอร์ไซค์ ด้วยการสร้างสรรค์รถที่ผสานทั้งความเป็น ทัวริ่งไบค์และซูเปอร์สปอร์ต เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

จุดเริ่มต้นและแนวคิด
ก่อนปี 1990 ซูซูกิได้เปิดตัว GSX600F สู่ตลาดต่างประเทศ โดยเน้นกลุ่ม สปอร์ตทัวเรอร์ เนื่องจากในยุโรป ผู้ขับขี่เริ่มนิยมรถบิ๊กไบค์สำหรับการเดินทางไกลบนทางหลวง และความต้องการรถขนาดกลาง 600 ซีซี ที่เข้าถึงง่ายก็เพิ่มขึ้น RF600R จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดใหม่นี้ ด้วยโครงสร้างที่โดดเด่นและน่าดึงดูด
สำหรับ RF400R ซึ่งเป็นรุ่น 400 ซีซี สำหรับตลาดในประเทศนั้น ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวพร้อมกับ RF600R ในปี 1993 โดยยึดแนวคิดหลักคือ:
* เครื่องยนต์ 600 ซีซี (สำหรับ RF600R) ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ (พัฒนาต่อยอดจาก GSX600F ที่ใช้เครื่องยนต์ 750 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำมัน)
* โครงสร้างแผ่นเหล็ก ที่เน้นความเบาและความแข็งแรงสูง แม้ตัวถังจะใหญ่
* ดีไซน์ล้ำสมัย ดึงดูดสายตา ด้วยช่องระบายอากาศที่ช่วยเรื่องแอโรไดนามิกและการระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม

สมรรถนะและการออกแบบ
RF400R ใช้เครื่องยนต์พื้นฐานจากตระกูล BANDIT ขนาด 398 ซีซี ปรับแต่งเพื่อเน้น แรงบิดในรอบกลาง ให้กำลังสูงสุด 53 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 3.8 กก.-ม. ที่ 9,500 รอบต่อนาที ระบบระบายความร้อนมีการออกแบบเป็นพิเศษ ทั้งหม้อกรองน้ำมันระบายความร้อนด้วยน้ำและหม้อน้ำทรงโค้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เฟรมรถ ทำจากแผ่นเหล็กกล้าอัดขึ้นรูป พ่นสีเดียวกับตัวรถ ทำให้ดูเป็นชิ้นเดียว และมีน้ำหนักอยู่ที่ 185 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเหมาะสมสำหรับรถสไตล์นี้ แม้จะให้ความรู้สึกเหมือนบิ๊กไบค์

ห้องโดยสาร มีการบุซับในและช่องเก็บของพร้อมฝาปิด ซึ่งเป็นรายละเอียดที่หรูหราและหาได้ยากในรถคลาส 400 ซีซี

จุดเด่นของ RF400R คือความหลากหลายในการใช้งาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งการขับขี่แบบทัวร์ริ่ง และยังสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของการขับขี่แบบสปอร์ตเหมือนรถซูเปอร์สปอร์ต ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักขี่ที่มีประสบการณ์อีกด้วย
การพัฒนาเพิ่มเติม: เครื่องยนต์ VC
เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลังของเครื่องยนต์ 400 ซีซี ซูซูกิจึงได้นำ เครื่องยนต์ VC (Variable Valve Control) ที่ใช้ในซีรีส์ BANDIT มาปรับใช้กับ RF400R ตั้งแต่ปี 1995 กลไก VC เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย โดยมีแคมสองชุดในแต่ละกระบอกสูบ: ชุดหนึ่งสำหรับรอบต่ำ (ยกวาล์วต่ำ) และอีกชุดสำหรับรอบสูง (ยกวาล์วสูง) ซึ่งจะสลับการทำงานตามรอบเครื่องยนต์ แตกต่างจากระบบ 2-4 วาล์วของคู่แข่ง โดยฝาครอบแคมคู่ DOHC ถูกพ่นสีแดงเพื่อความโดดเด่น ถือเป็นดีไซน์ที่หรูหราและมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ใหญ่

แม้ว่าซีรีส์ RF จะมีรุ่น 900 ซีซี และยังคงมีดีไซน์ที่โดดเด่นให้เห็นในตลาดญี่ปุ่น แต่ RF400R และ RF400RV ก็ยังคงผลิตต่อเนื่องมาจนถึงปี 1999 โดยเชื่อว่ายังคงมีความต้องการจากผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวรุ่นนี้

Thailand Motorcycle News

#บิ๊กไบค์ #ซูซูกิ

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Thailand Motorcycle News posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Thailand Motorcycle News:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share