ยักษ์ลงทุน

ยักษ์ลงทุน นำเสนอทุกเรื่องราวเศรษฐกิจและการลงทุน

พ.ร.บ. ถูกจริง! แจกจริง! พร้อมแจกแสตมป์จัดหนัก”     ทิพยประกันภัย จับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ขาย พ.ร.บ. “ถูกจริง! แจกจริง...
29/09/2025

พ.ร.บ. ถูกจริง! แจกจริง! พร้อมแจกแสตมป์จัดหนัก”

ทิพยประกันภัย จับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ขาย พ.ร.บ. “ถูกจริง! แจกจริง! เพื่อส่งสริมให้ผู้ใช้รถเข้าถึงความคุ้มครองในราคาที่คุ้มค่า โดยสามารถซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ รถกระบะ และรถตู้ รับประกันโดยทิพยประกันภัย ได้ที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 499 บาท (จากปกติเริ่มต้น 645.21 บาท)

พร้อมสิทธิพิเศษรับแสตมป์จัดหนักมูลค่า 21 บาท สำหรับสมาชิก ALL member ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 23 พฤศจิกายน 2568 นี้

#ทิพยประกันภัย #เคาน์เตอร์เซอร์วิส #เซเว่นอีเลฟเว่น #พรบ. #แสตมป์เซเว่น

ในช่วงต้นปี 2568 การประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าโดยสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกปั่นป่วนรุนแรง ปัจจุบันสถานการณ์ต่...
29/09/2025

ในช่วงต้นปี 2568 การประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าโดยสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกปั่นป่วนรุนแรง ปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายลง หลังมีการบรรลุข้อตกลงและการประกาศอัตราภาษีที่ชัดเจนและไม่ได้สูงเหมือนครั้งแรกที่ประกาศ บวกกับศรษฐกิจต่างๆ ได้แรงส่งจากการเร่งส่งออกล่วงหน้า (Front loading) ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ทำให้ภาวะเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด จึงเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้สินทรัพย์การลงทุนฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องโดยมีหลายดัชนีทำสถิติสูงสุดใหม่

ท่ามกลางความหวังว่าFed จะลดดอกเบี้ยมากขึ้น และผลกระทบจากการขึ้นภาษียังไม่ชัดเจน บลจ.กรุงไทย มองว่าเศรษฐกิจยังคงอาจจะชะลอลงในช่วงถัดไปจากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ การเร่งส่งออกล่วงหน้าแทนการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่จะชะลอลง การที่ Fed มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยมากขึ้น รวมถึงยุโรปที่คาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่สูงขึ้นก็ดูลดลงไป

อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวนี้ก็จะไม่มีความรุนแรงจนทำให้เศรษฐกิจหดตัวลง จึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น โดยมองว่าความโดดเด่นของหุ้นกลุ่มเทคฯ ยังคงมีอยู่ แต่อาจกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นๆ ที่มีการเติบโตที่ชัดเจน

#บลจ. #กรุงไทย #กองทุน #กองทุนหุ้นไทย

กสิกรไทย ร่วมมือ เอ็มทีเอส โกล์ด (แม่ทองสุก) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ออมทองด้วยสกุลเงินบาทผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้เป็นที่แรก ...
25/09/2025

กสิกรไทย ร่วมมือ เอ็มทีเอส โกล์ด (แม่ทองสุก) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ออมทองด้วยสกุลเงินบาทผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้เป็นที่แรก ให้ลูกค้าออมง่ายไปได้อีกผ่าน K PLUS

ธนาคารกสิกรไทย ร่วมมือ กลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ (แม่ทองสุก) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ออมทองคำออนไลน์ด้วยสกุลเงินบาทผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้เป็นที่แรก เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงการออมทองคำเพื่อสะสมทรัพย์ได้ง่ายขึ้นผ่าน K PLUS พร้อมมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย โดยเริ่มต้นการออมขั้นต่ำเพียง 500 บาท และไม่มีค่าธรรมเนียม...(อ่านต่อในคอมเมนต์)
#กสิกรไทย #เอ็มทีเอสโกล์ด #แม่ทองสุก #ออมทอง #ยักษ์ลงทุน

โลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผลให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค นั่นคือ “Consumer Paradox Mindsets” หรือความคิดและพ...
25/09/2025

โลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผลให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค นั่นคือ “Consumer Paradox Mindsets” หรือความคิดและพฤติกรรมที่ย้อนแย้งกันในตัวผู้บริโภค แล้วจะมีวิธีรับมือและปรับตัวอย่างไร ไปหาคำตอบกัน?

“From Paradox to Profit”
VML Thailand นำเสนอกลยุทธ์เปลี่ยนความย้อนแย้งของผู้บริโภค
เป็นโอกาสทองทางธุรกิจด้วย No Leak Solution™

เมื่อแบรนด์ต่างเผชิญสถานการณ์ Drop-off จาก Consideration สู่ Purchase สูงถึง 50-75% ทำให้แบรนด์ไม่โตตามเป้า และสูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง 35-55% VML เอเยนซีผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเปิดเผยผลวิจัยใหม่ล่าสุด เกี่ยวกับความย้อนแย้งในใจผู้บริโภคไทยที่มีผลต่อการตลาด พร้อมนำเสนอ No Leak Solution™ โซลูชันครบวงจรสำหรับการปิดรอยรั่วและสร้างโอกาสใหม่ทางการตลาดในทุก Consumer Journey

ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ กระแสโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนแปลงค่านิยม และการดิสรัปชันของเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ได้ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค นั่นคือ “Consumer Paradox Mindsets” หรือความคิดและพฤติกรรมที่ย้อนแย้งกันในตัวผู้บริโภค

VML Thailand เอเยนซีผู้นำด้านการให้โซลูชันความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล และเทคโนโลยีอย่างครบถ้วน ได้ทำการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ โดยนำผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคจากงานวิจัย “The Future 100” และ “Future Shopper” ของ VML ที่จัดทำอย่างต่อเนื่องทั่วโลกมากว่าสิบปี ร่วมกับการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกจำนวนกว่า 45,000 คน พร้อมตรวจเช็คความสอดคล้องกับข้อมูลจากพาร์ทเนอร์บริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง Kantar, Global Web Index และ Euromonitor มาร่วมวิเคราะห์ เพื่อถอดรหัสความเข้าใจพฤติกรรมที่ย้อนแย้งของผู้บริโภค ซึ่งทำให้เกิดความสับสนลังเลในการตัดสินใจทำอะไรต่างๆ จนนักการตลาดต้องเสียโอกาสในการขายไป พร้อมนำเสนอมุมมองแนวคิดเบื้องต้นที่เสมือนกุญแจในการปลดล็อกความย้อนแย้งในใจ เพื่อไขสู่โอกาสในการทำตลาดใหม่ๆ กับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน

ปรากฏการณ์ Consumer Paradox ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการตลาดไทย
ผลการวิจัยเผยให้เห็นถึง 4 มิติสำคัญที่เป็นตัวอย่างของความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
The Spending Paradox: Willing to Spend vs. Power to Spend คือความย้อนแย้งใน “ความอยากจ่าย” กับ “กำลังในการจ่าย” แม้จะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ Gen Z กลับมีความอยากที่จะใช้จ่ายในหลายหมวดหมู่สินค้าและโซลูชันมากกว่าทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ทำให้กว่า 70% ต้องมองหาแบรนด์ทางเลือกที่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตาม เกือบครึ่งของผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีความอยากเก็บเงินและลงทุนเพื่ออนาคต ในขณะที่กลุ่ม Gen X ถึง Baby Boomer ที่มีฐานะดีกว่ากลับเน้นประหยัดกับค่าปัจจัยพื้นฐาน แต่ยังแอบเปิดใจให้กับสินค้าโซลูชันด้านสุขภาพและการแสวงหาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนาน
The Relationship Paradox: Need to Disconnect vs. Drive to Reconnect คือความย้อนแย้งใน
“การอยากเชื่อมต่อ”กับ “อยากหยุดเชื่อมต่อ” ถึงแม้ว่าคนไทยกว่า 90% สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียตลอดเวลา แต่ผู้บริโภคชาวไทยเกือบ 80% กำลังพิจารณาเรื่อง “การควบคุมปริมาณข้อมูล” เช่น การเลิกติดตาม หรือบล็อกโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม ขณะที่ 71% เริ่มรู้สึกเอียนเทคโนโลยีและต้องการอิสระ ทำให้คนไทยกว่าหนึ่งในสามหรือประมาณ 38% หันมาสนใจกิจกรรมในโลกจริงเพื่อสุขภาพจิตที่ดี อย่างไรก็ตามพวกเขายังมองเทคโนโลยีในแง่ดีมากกว่าแง่ไม่ดี และเชื่อว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้คนและโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้นได้
The Belief Paradox: Demand for Real vs. Crave for Wow คือความย้อนแย้งใน “ความต้องการความซื่อสัตย์จริงใจ”กับ “ความโหยหาความตื่นเต้นเซอร์ไพรส์เร้าใจ” จากผลการวิจัยล่าสุดของ VML กับผู้บริโภคไทยพบว่า ความเชื่อมั่นในบุคคล แบรนด์ และอินฟลูเอนเซอร์กำลังถูกท้าทายจากความไม่เชื่อใจของผู้บริโภค เนื่องจากข่าวด้านลบและข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย โดยคนไทยกว่า 80% กังวลเรื่องข่าวปลอม ขณะที่ความเชื่อมั่นใน AI กลับสูงเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ผู้บริโภคเรียกร้องความจริงและความซื่อสัตย์เป็นคุณค่าสูงสุด โดยต้องการแบรนด์ที่จริงใจ 64% และน่าเชื่อถือ 70% อย่างไรก็ตาม การเป็นเพียงแบรนด์ที่จริงใจและน่าเชื่อถืออาจไม่เพียงพอ เพราะผู้บริโภคกว่า 73% ยังต้องการแบรนด์ที่บันเทิง ดึงดูดทุกโสตประสาทสัมผัส และสร้างความ “ว้าว” ด้วย ถึงจะเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น และเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภค
The Health & Wellness Paradox: Fear of Aging vs. Joy of Aging คือความย้อนแย้งใน “ความกลัวแก่” กับ “ความสุขสนุกของชีวิตในวัยหลังเกษียณ” เนื่องจากสุขภาพกายและใจเป็นหนึ่งในสองคุณค่าสูงสุดทั้งในหมู่คนไทยและทั่วโลก หมวดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจึงเป็นอันดับต้นๆ ที่คนไทยยินดีจ่ายเงินเพิ่ม และกว่า 70% กำลังดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต และจิตวิญญาณอย่างจริงจัง สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ผู้ที่กลัวความแก่ชรามากที่สุดกลับเป็นคนรุ่นใหม่ Gen Z ซึ่งมองว่าการดูแลรูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องลงทุนมากกว่าคนรุ่นอื่น ในทางกลับกัน กลุ่ม Baby Boomer ซึ่งเป็นผู้สูงวัยที่สุดกลับเป็นกลุ่มที่กลัวความแก่น้อยที่สุด โดย 90% เชื่อว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” และกว่า 50% คิดว่าชีวิตและการใช้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้หลังอายุ 60 ปี

สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน* ที่ทำให้แบรนด์ไม่โตตามเป้าหมาย
คุณแจมมี่ – ปรัตถจริยา ชลายนเดชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VML Thailand กล่าวว่า “สถานการณ์ตลาดปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ขาด Awareness แต่กลับประสบปัญหาใหญ่หลวงจากการขาด Effective Push-through สู่ Conversion และ Retention โดยมีอัตราการ Drop-off จาก Consideration สู่ Purchase สูงถึง 50-75% ในทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้แบรนด์สูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง 35-55% จากรอยรั่วเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ค่าโฆษณาที่แพงขึ้น 2.5-3.5 เท่า กลับเพิ่ม Conversion ได้เพียง 5-10% เท่านั้น ข้อมูลเชิงลึกชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 8-12% แต่ความคาดหวังจากคุณภาพของสินค้ากลับสูงขึ้น 15-20% ขณะที่ต้นทุนสื่อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง 15-25% และ Cost per acquisition สูงขึ้นถึง 25-45% นอกจากนี้ 68% ของลูกค้าพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใน 1 คลิกหากเจอ Customer Experience, User Experience หรือ Offer ที่ดีกว่า และ 72% ของคู่แข่งใช้ AI ในการ Optimize Funnel เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2567”

“ทุกการ Drop-off คือรายได้ที่สูญเสียไป เราจะหยุดการรั่วไหลนี้และเปลี่ยนให้เป็นการเติบโต และนอกจากนั้นเรามาทำความเข้าใจความย้อนแย้งในใจผู้บริโภค เพื่อดึงมุมเหล่านี้มาสร้างความอยากลองอยากมีประสบการณ์กับแบรนด์ อยากเปิดใจลอง เพื่อนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางการตลาด” ปรัตถจริยา กล่าวต่อ “VML Thailand ตระหนักดีว่าในปี 2568-2569 ตลาดจะยิ่งท้าทายขึ้น ผู้บริโภคมีความอดทนน้อยลง และความภักดีต่อแบรนด์เปราะบางลงอย่างมาก แบรนด์ที่จะชนะคือแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น สร้างความผูกพันทางอารมณ์ และขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริง”

เปิดตัว NO LEAK SOLUTION™ โซลูชันปฏิวัติการตลาดยุคใหม่ด้วยความท้าทายเหล่านี้ VML Thailand จึงเปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุด No Leak Solution™ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของตลาดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการอุดรอยรั่วตลอดเส้นทางของผู้บริโภคเพื่อเปลี่ยนทุกการสูญเสียให้เป็นโอกาสในการเติบโตของรายได้ ไปจนถึงการเปิดโอกาสทางการตลาดในมุมใหม่ๆ เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าในมุมที่อาจไม่ได้นึกถึงก่อนหน้านี้ เพื่อนำไปสู่โอกาสของยอดขายใหม่ๆ

NO LEAK SOLUTION™ ของ VML Thailand คือคำตอบที่แตกต่าง โดยก้าวข้ามการสร้างแคมเปญไปสู่การออกแบบประสบการณ์แบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ที่จะยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มคุณค่าตลอดเส้นทางของผู้บริโภค และปรับปรุงการค้าให้เหมาะสมเพื่อความได้เปรียบในอนาคต โซลูชันนี้ถูกออกแบบมาบนฐานความเข้าใจ Consumer Paradox Mindsets โดยการรับรู้และยอมรับความย้อนแย้งที่ซับซ้อนในใจผู้บริโภคยุคใหม่ แล้วนำความเข้าใจนั้นมาแปลงเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ตอบสนองทั้งสองด้านของความต้องการที่ขัดแย้งกัน เช่น การสร้างประสบการณ์ Phygital ที่ผสานโลกดิจิทัลและโลกจริง การพัฒนา Real Showmanship ที่ผสานความจริงใจกับความตื่นตาตื่นใจ การสร้างความเชื่อและคุณค่าร่วมกันที่ตอบโจทย์ทั้งความอยากจ่ายและขีดจำกัดในการจ่าย และการเปลี่ยนมุมมองเรื่องวัยให้เป็น Empowering Journey ในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 5 โซลูชันหลักที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพรายได้สูงสุดและขับเคลื่อนเส้นทาง End-to-End แบบไร้รอยรั่ว เพื่อ Conversion และ Retention สูงสุด

5 โซลูชันหลักของ NO LEAK SOLUTION™
NO LEAK ECOSYSTEM™ ระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบเพื่อป้องกันการรั่วไหลในทุก Consumer Journey
ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์คือ การที่ลูกค้าหลุดและรายได้หายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น Awareness ดี แต่ยอดขายไม่พุ่ง ลูกค้าเดินเข้าร้านแล้วกลับไปซื้อบนเว็บไซต์อื่น หรือลูกค้าเพิ่มของลงตะกร้าแต่ไม่ซื้อ นี่คือ “รูรั่ว” ที่เกิดจากจุดบอดใน Customer Journey และ Communication ที่นำไปสู่การหลุดออกจากแบรนด์

No Leak Ecosystem คือโซลูชันที่มาแก้ปัญหานี้โดยตรงด้วย “Leak Discovery Framework” เปรียบเสมือน “เครื่องตรวจโรค” สำหรับแบรนด์ ผ่านการใช้ข้อมูลมหาศาลมาช่วยส่องดูพฤติกรรมลูกค้าและแพลตฟอร์มของแบรนด์แบบทะลุปรุโปร่ง โดยการร่วมมือระหว่าง Brand Strategist และ CX Strategist เพื่อระบุจุดที่ลูกค้ากำลังจะหลุดมือไปหรือไม่พึงพอใจ

จุดเด่นของโซลูชันนี้ ประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยเทคนิคขั้นสูงเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า การระบุจุดรั่วไหลที่แม่นยำในการค้นหา “จุดวิกฤต” ที่นำไปสู่การลดลงของลูกค้า แนวทางแก้ไขที่วัดผลได้โดยนำเสนอโซลูชันที่ปฏิบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ช่วยรักษาฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ และสร้างการเติบโตที่มั่นคง ในระยะยาว

ACQUISITION AND RETENTION TECH TOOL เครื่องมือเทคโนโลยีที่ช่วยในการดึงดูดและรักษาลูกค้า
Acquisition & Retention Tools คือโซลูชันดิจิทัลแบบกะทัดรัดที่สร้างแคมเปญจูงใจอย่างง่ายดาย เพื่อดึงดูด แปลงเป็นยอดขาย และรักษาลูกค้า พร้อมลดต้นทุนเทคโนโลยีและการบริหารจัดการแคมเปญ สามารถเชื่อมต่อ Customer Journey ทั้ง Online และ Offline ทั้งยังเริ่มใช้งานได้ในระยะเวลาสั้น

เครื่องมือนี้สามารถอุด “รอยรั่ว” ตลอด Funnel และรองรับแคมเปญหลายรูปแบบ เช่น คูปองดิจิทัล การแนะนำเพื่อน Gamification และ Loyalty Tier พร้อมจัดเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ที่แบรนด์จะได้รับ รวมถึงการลด Leak และเพิ่มยอดขาย ROI ที่คาดการณ์ได้ภายใต้กรอบต้นทุนที่คุ้มค่าและทำซ้ำได้ แคมเปญออกสู่ตลาดได้เร็วและลดความซับซ้อนการปฏิบัติงาน การสร้างความผูกพันและการบอกต่อที่นำไปสู่การซื้อซ้ำ และรองรับการขยายแคมเปญหลายตลาดและหลายช่องทาง ทำให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ตลอดเส้นทางการซื้อ

PRODUCTION การผลิตเนื้อหาและแคมเปญที่มีประสิทธิภาพในวงกว้างProduction คือโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตชิ้นงานโฆษณาในจำนวนหลักพันในเวลาไม่นาน โดยใช้ระบบการผลิตที่ผสานเทคโนโลยี AI ที่หลากหลาย รวมถึง WPP Open AI และระบบอัตโนมัติขั้นสูงกับความคิดสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลายและตรงใจผู้บริโภคได้ในจำนวนมากและรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน โซลูชันนี้ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาแบบ Data Driven การผลิตวิดีโอ กราฟิก และเนื้อหาดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม เซกเมนต์ลูกค้า และช่วงเวลาต่างๆ ด้วยระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง และ Scalable Architecture

ผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคือ การลดเวลาในการ Go-to-market ได้มากถึง 60-70% การลดต้นทุนการผลิตเนื้อหาโดยรวม 40-50% ความสามารถในการทดสอบและปรับปรุงเนื้อหาแบบ Real-time ผ่านระบบ A/B Testing อัตโนมัติ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในทุกจุดสัมผัส ส่งผลให้เกิดการสร้างความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการ Convert ได้ดียิ่งขึ้น

4. INFLUENVER™ กลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ด้วย Paradox Mindset x เทคโนโลยี เปลี่ยน KOL Campaign ให้เป็น CREATIVE KOL Campaign ที่มีอิมแพ็คINFLUENVER™ คือการปฏิวัติ Influencer Marketing โดยใช้ Paradox Mindset มาเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการคิดการเลือก และการทำงานร่วมกับ KOL การเลือก KOL ส่วนใหญ่จะมองเพียงแค่จำนวนผู้ติดตาม อัตราการมีส่วนร่วม และความเข้ากันได้กับสินค้า แต่ที่แท้จริงแล้วมี Magic ที่ทรงพลังกว่าซ่อนอยู่ในความย้อนแย้งของตัวบุคคล Paradox Mindset จึงสร้างข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในการทำ KOL Campaign ให้กับแบรนด์ผ่าน Authentic Storytelling ที่ทำให้เรื่องเล่ามีความเป็นจริงและธรรมชาติ การเข้าถึง Untapped Audiences หรือกลุ่มเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ Viral Potential ที่สร้างกระแสการพูดถึงและการแชร์อย่างเป็นธรรมชาติ และ Cultural Relevance เพราะความย้อนแย้งตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่มากกว่าความสมบูรณ์แบบ

INFLUENVER™ แก้ไขความท้าทายของแบรนด์ในการทำ KOL Marketing ด้วยกลยุทธ์และไอเดียงาน KOL ที่สร้างสรรค์ โดยทีม Strategy และ Creative Think Tank ของ VML Thailand ที่ได้รับรางวัล Creative Agency of the Year ติดต่อกัน 5 ปีซ้อนทำงานแคมเปญไอเดีย “คมชัด” พร้อมกลยุทธ์การทำ KOL Selection ผ่าน PARADOX MATCHING กับ Product และ Campaign ทำให้ KOL ที่เลือกมีความ “สดใหม่” และสร้างผลลัพธ์ที่ดี การทำงานที่ราบรื่นด้วยระบบ Project Management Platform ที่เชื่อมต่อทุกฝ่าย ให้ทุกกระบวนการทำงาน “ง่าย” และการวัด Campaign Performance ด้วย VML RADAR™ ระบบ AI-powered Analytics ให้ทุกแคมเปญ “วัดผลได้” ตรงจุด เปลี่ยน KOL Campaign ให้เป็น CREATIVE KOL Campaign ที่มีอิมแพ็ค

GROWTH SPARK จุดประกายไอเดียใหม่ๆ สุดปังในการขาย และขยายโอกาสการเติบโตให้แบรนด์Growth Spark คือโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้ค้นหาโอกาสใหม่ๆ ทางการตลาดให้ธุรกิจและแบรนด์ แล้วนำมาพัฒนาเป็น แผนกลยุทธ์ทางการสื่อสารทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ ผ่านอินไซต์เรื่องความย้อนแย้งในใจของผู้บริโภคและแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของ Brand Paradox Thinking รวมทั้งยังสามารถนำมารังสรรค์เป็นแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมหรือตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคด้วยไอเดียครีเอทีฟสุดปังที่พร้อมสร้างสรรค์ได้ทันทีแบบควิกวิน (Quick-win Solution)

Growth Spark มีจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการนำเทรนด์และข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับแบรนด์และผู้บริโภคทั่วโลกจาก Future 100 Trends, Future Shoppers, และ Brand Asset Valuator (BAV) มาผสานกับเครื่องมือ AI ทางการตลาดสุดล้ำอย่าง WPP Open AI ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทในเครือ มาใช้ในการค้นหาอินไซต์ใหม่ๆ ของกลุ่มผู้บริโภคที่เราสนใจและนำมาช่วยพัฒนาไอเดียแนวคิดเชิงกลยุทธ์แบบ Brand Paradox Thinking โดยทีม Strategists ชั้นนำที่มีประสบการณ์มากมายจากหลากหลายอุตสาหกรรม ผสานการทำงานร่วมกันกับทีม Award-winning Creative ที่เข้าประชันแข่งขันกันเพื่อหาไอเดียสุดปังในการรังสรรค์เป็นแคมเปญกระตุ้นยอดขายแบบควิกวิน โดยแบ่งโซลูชันออกเป็น 3 แพ็กเกจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าได้แก่ 1) Brand Spark Workshop เพื่อพัฒนาแผนกลยุทธ์การขาย และขยายโอกาสในการเติบโตให้แบรนด์ไปยังตลาดและกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ผ่านการเบรนสตอร์ม ทำเวิร์คช็อปร่วมกันกับลูกค้า ผสานการใช้เครื่องมือ WPP Open AI ในการร่วมสร้างสรรค์ไอเดียแบบ Real-time 2) Creative Spark with Quick-win Solution โดยทีมครีเอทีฟมือรางวัลที่ใช้เวลาคิดสร้างสรรค์ไอเดียสุดปังทางการตลาดมากมายภายในเวลาอันสั้น และ 3) Growth Spark Solution (Brand Spark Workshop + Creative Spark Solution) ซึ่งรวมจุดเด่นของทั้งสองแพ็กเกจในราคาและเวลาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

อนาคตของการตลาดไทยในยุค Paradox
จากผลวิจัยที่นำเสนอ เราได้เห็นถึง 4 มิติแห่งความย้อนแย้งของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างชัดเจน ความย้อนแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงอุปสรรค แต่หากนำมาพลิกมุมมองแบบ Brand Paradox Thinking ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่จะสูญเสียลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งโอกาสใหม่ๆ อันไร้ขีดจำกัดสำหรับแบรนด์ที่จะสร้างความเชื่อมโยงได้อย่างลึกซึ้งและยั่งยืน VML มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยให้แบรนด์ก้าวข้ามความท้าทายในยุคดิจิทัล และเปลี่ยนทุกการรั่วไหลให้เป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ติดต่อ VML วันนี้ เพื่อค้นพบว่า NO LEAK SOLUTION™ จะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร

เปิดเบื้องหลัง “ธนชาตประกันภัย” คว้า 3 รางวัลใหญ่แห่งปี สะท้อนแนวคิด “วิชินี โอรพันธ์” ที่แตกต่างและลงมือทำจริง..( อ่านต...
25/09/2025

เปิดเบื้องหลัง “ธนชาตประกันภัย” คว้า 3 รางวัลใหญ่แห่งปี สะท้อนแนวคิด “วิชินี โอรพันธ์” ที่แตกต่างและลงมือทำจริง..( อ่านต่อในคอมเมนต์
#ธนชาต #ประกันภัย #ยักษ์ลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) ร่วมกับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) สถาบันการเงินระดับโลกจากสว...
24/09/2025

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) ร่วมกับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) สถาบันการเงินระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์
จัดงานสัมมนา “Decoding Global Sustainability Practices: The
Implications for Thailand” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับฟังแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนของโลกและสำรวจความพร้อมของไทยในการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล

#บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน #กสิกรไทย Odier #ลอมบาร์ด โอเดียร์ #ยักษ์ลงทุน

กรุงเทพประกันชีวิต คว้ารางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด The Best Contact Center of the Year พร้อมรางวัลระดับองค์กรอีก 4 รางวัล ...
16/09/2025

กรุงเทพประกันชีวิต คว้ารางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด The Best Contact Center of the Year พร้อมรางวัลระดับองค์กรอีก 4 รางวัล จากเวที TCCTA Contact Center Awards 2025...(อ่านต่อในคอมเมนต์)
#กรุงเทพประกันชีวิต #ประกันชีวิต
#ยักษ์ลงทุน

ยังน่ากลัว!! คดีอาชญากรรมออนไลน์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้นและพบว่าช่วงอายุ 25 ปี–40 ปี ประสบภัยไซเบอร์มาก...
10/09/2025

ยังน่ากลัว!! คดีอาชญากรรมออนไลน์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้นและพบว่าช่วงอายุ 25 ปี–40 ปี ประสบภัยไซเบอร์มากที่สุด 70% เป็นผู้หญิงกว่า 60%

ล่าสุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสังคมไทยเคทีซี สนธิกำลังกองบังคับการปราบปรามฯ เปิดวงเสวนา “รู้ทันภัยไซเบอร์” รับมือความท้าทายยุค AI

เคทีซีร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้ามาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค จัดเสวนา KTC FIT Talk ครั้งที่ 20 “รู้ทันภัยไซเบอร์: ปกป้องตัวตนและเงินในโลกดิจิทัล” วิเคราะห์พัฒนาการภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่กำลังรุนแรงและซับซ้อนจากฟิชชิ่ง (Phishing) และคอลเซ็นเตอร์ สู่การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Agentic AI ในการโจมตีธุรกรรมการเงิน พร้อมแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนและสื่อมวลชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้แก่สังคมไทย

พันตำรวจเอกสุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามฯ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสถิติและแนวโน้มการเกิดภัยออนไลน์ว่า “คดีอาชญากรรมออนไลน์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่การหลอกลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงล่อใจ การปลอมแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนของจริง ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) และ Deepfake การสร้างเสียงหรือวิดีโอปลอมเพื่อหลอกให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่รู้จัก ส่งผลให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกเพศ ทุกวัยและทุกอาชีพ จากข้อมูลเชิงสถิติพบว่าช่วงอายุ 25 ปี – 40 ปี ประสบภัยไซเบอร์มากที่สุด 70% เป็นผู้หญิงกว่า 60% โดยช่องทางออนไลน์ที่ถูกมิจฉาชีพเข้าสวมรอยหรือแทรกแซงในธุรกรรมการเงินมากที่สุด คือ โซเชียลมีเดีย ประมาณ 80%”

“การบังคับใช้กฎหมายเพื่อตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องเสริมด้วยมาตรการเชิงป้องกันและการสร้างความรู้ควบคู่กัน เพราะการสื่อสารเชิงรุกคือหัวใจสำคัญ ต้องเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยที่รวดเร็ว เข้าถึงง่ายและใช้ภาษาที่ประชาชนเข้าใจ ไม่ว่าจะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือการรณรงค์ในพื้นที่จริง การแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุสามารถช่วยลดความสูญเสียได้มหาศาล โดยการรับมือกับภัยออนไลน์ต้องอาศัยความร่วมมือแบบบูรณาการ ในส่วนของภาครัฐ อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเร่งผลักดันกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอาชญากรรมไซเบอร์ ขณะที่สถาบันการเงินก็เริ่มแชร์รูปแบบของภัยทุจริตต่างๆ (Fraud Trend) ร่วมกันผ่านสมาคมธนาคารไทย และกลุ่มคณะทำงานป้องกันการทุจริต (Fraud Working Group-FWG) ส่วนภาคเอกชนด้านเทคโนโลยี เช่น ผู้ให้บริการโทรคมนาคมหรือแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย ได้เข้ามามีบทบาทในการสกัดกั้นเบอร์มิจฉาชีพและเว็บไซต์ปลอม ในขณะที่สื่อมวลชนยังสามารถช่วยเป็นแนวหน้าในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและผ่านการตรวจสอบแล้ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันข้อมูลแก่สังคม เมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนามาตรการ และการสื่อสารความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ ก็จะช่วยสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแรง และทำให้มิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทาย คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลยังไม่เป็นระบบกลาง 100% และการตอบสนองต่อภัยใหม่ๆ ยังต้องใช้เวลาประสานงานหลายฝ่าย”

นายไรวินทร์ วรวงษ์สถิตย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานควบคุมงานปฏิบัติการและปฏิบัติการร้านค้า “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยมุมมองต่อพัฒนาการภัยไซเบอร์ว่า “ภัยการเงินที่พบมากในอดีตคือการขโมยบัตรเครดิตหรือหมายเลขบัตร ต่อมาพัฒนาเป็นฟิชชิ่ง (Phishing) ผ่านอีเมลและ SMS ที่แนบลิงก์หลอกลวง ปัจจุบันโลกออนไลน์ได้เห็นเทคโนโลยี Deepfake ทั้งเสียงและวิดีโอที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่ากำลังติดต่อกับเจ้าหน้าที่จริง และเมื่อเข้าสู่ยุค Generative AI ก็ยิ่งน่ากังวล เพราะสามารถสร้างข้อความ ภาพ และวิดีโอปลอมได้ทันที แม้ยังเป็นการฉ้อโกงแบบ Reactive ที่ต้องมีคนสั่งงาน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือการมาถึงของ Agentic AI ที่สามารถคิด วางแผนและโจมตีได้เองแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น ‘Shop Smart Agent’ ที่เปิดร้านค้าออนไลน์ปลอม หลอกเก็บข้อมูลบัตรเครดิต ก่อนนำไปใช้ทำธุรกรรมอัตโนมัติในหลายประเทศ สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าภัยการเงินกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

“ข้อมูลล่าสุดพบว่ากว่า 86% ของความเสียหายจากภัยไซเบอร์มาจาก Data Compromise โดยข้อมูลบัตรถูกนำไปใช้ทำธุรกรรมที่ต่างประเทศ ขณะเดียวกันกลโกงแบบเดิมอย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือ SMS ปลอมก็ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยหลอกเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชี รวมไปถึงการหลอกลวงให้มีการลงทุน ผ่านการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและธนาคาร จุดที่น่าห่วงที่สุดคือ ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค โดยเฉพาะรหัส OTP กำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญของมิจฉาชีพ เราจึงอยากย้ำว่าทุกครั้งที่ได้รับข้อความแปลกๆ ต้องหยุดตรวจสอบก่อนทันที ไม่ควรรีบกดลิงก์หรือให้ข้อมูลโดยไม่ยืนยัน แนวทางป้องกันที่สามารถทำได้ทันทีคือ การไม่เปิดเผยรหัส CVV และ OTP ให้กับผู้ใดเด็ดขาด การตั้งวงเงินผ่าน Mobile Banking การเปิดการแจ้งเตือนทุกธุรกรรม รวมถึงเลือกใช้บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล (KTC Digital Card) ที่มี Dynamic CVV เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของธุรกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพราะหากเผลอคลิกลิงก์หรือกรอกข้อมูลไปแล้ว ต้องรีบอายัดบัตรและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที ทั้งนี้ ธนาคารจะไม่มีการส่งลิงก์แนบใน SMS เพื่อให้กรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างเด็ดขาด หากพบข้อความลักษณะดังกล่าวต้องติดต่อ Call Center โดยตรงเพื่อยืนยันความถูกต้อง”

“ในส่วนของเคทีซีเรามีมาตรการเฝ้าระวังทุกธุรกรรมตลอด 24 ชั่วโมง แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชั่น KTC Mobile และหากพบธุรกรรมที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์ยืนยันกับลูกค้าโดยตรง นอกจากนี้ เรายังสร้างสื่อความรู้ผ่านโซเชียล มีเดีย เช่น TikTok, Facebook และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น เว็บไซต์ www.ktc.co.th และ LINE OA เพื่อเตือนภัยและสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เคทีซีมุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยทางการเงินของลูกค้าอย่างรอบด้านให้มากที่สุด โดยได้รับการยืนยันด้วยรางวัลระดับภูมิภาค เช่น รางวัลความปลอดภัยทางการเงินระดับเอเชียแปซิฟิก (Champion Security Award, Best in Class Performance (Thailand) จากวีซ่า ซึ่งสะท้อนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงและการรักษาความปลอดภัยข้อมูลตามมาตรฐานสากล เพื่อให้สมาชิกเคทีซีมั่นใจได้ว่าทุกธุรกรรมดิจิทัลมีความปลอดภัย”

นายนพรัตน์ สุริยา ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายป้องกันทุจริตบัตรเครดิตและร้านค้า “เคทีซี” กล่าวเสริมว่า “เคทีซีได้ทำงานใกล้ชิดกับกองบังคับการปราบปรามฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยล่าสุดได้ร่วมแจ้งเบาะแสเพื่อสกัดกั้นการกระทำอันทุจริตของแก๊งปลอมบัตรเครดิต เพื่อยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิกและสังคม นอกจากนี้ สิ่งที่อยากฝากถึงสังคมคือ ครอบครัวควรมีบทบาทร่วมกันในการช่วยดูแลธุรกรรมของผู้สูงวัย ซึ่งมีความเปราะบางและมักตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ โดยมีข้อแนะนำดังนี้

1. ควรหมั่นพูดคุยให้คำแนะนำด้านความปลอดภัย

2. ตรวจสอบ SMS หรือการแจ้งเตือนธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ

3. ตั้งวงเงินจำกัดในการใช้บัตรเพื่อป้องกันความเสียหาย

4. ติดตั้งแอปฯ ที่ช่วยกรองเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นสแปม เช่น Whoscall และ

5. อัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผู้สูงวัยรู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์”

ทั้งนี้ หากสมาชิกเคทีซีได้รับข้อความ อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่น่าสงสัย สามารถตรวจสอบและแจ้งเรื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน KTC PHONE 02 123 5000 หรือ Line@KTC_Card รวมถึงช่องทางออนไลน์ของเคทีซีทุกช่องทาง ซึ่งได้รับการพัฒนาให้สะดวกและเข้าถึงง่าย เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของสมาชิกทุกครั้ง
#เคทีซี #ยักษ์ลงทุน

เอไอเอ มอบเงินบริจาคให้แก่สภากาชาดไทย จำนวนกว่า 3.1 ล้านบาท จากการจัดกิจกรรม AIA One Billion Trail 2024 พร้อมจัดพิธีมอบร...
05/09/2025

เอไอเอ มอบเงินบริจาคให้แก่สภากาชาดไทย จำนวนกว่า 3.1 ล้านบาท จากการจัดกิจกรรม AIA One Billion Trail 2024 พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้แก่ทีมชนะเลิศ ที่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมมากที่สุด...(อ่านตอนในคอมเม้น)
#เอไอเอ #สภากาชาดไทย #ยักษ์ลงทุน

อาคเนย์ ประกันชีวิต กระตุ้นยอดขายปลายปี ดันแคมเปญพิเศษ “Beyond Protection Beyond Rewards” เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการวางแ...
05/09/2025

อาคเนย์ ประกันชีวิต กระตุ้นยอดขายปลายปี ดันแคมเปญพิเศษ “Beyond Protection Beyond Rewards” เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคต...(อ่านต่อในคอมเม้น)
#อาคเนย์ประกันชีวิต #ประกันชีวิต
#ยักษ์ลงทุน

ทิพยประกันภัย จับมือ LINE ยกระดับประสบการณ์ความปลอดภัยลูกค้า เปิดตัวบริการแจ้งเตือนผ่าน LINE Official Notification (LON)...
05/09/2025

ทิพยประกันภัย จับมือ LINE ยกระดับประสบการณ์ความปลอดภัยลูกค้า เปิดตัวบริการแจ้งเตือนผ่าน LINE Official Notification (LON)..(อ่านต่อในคอมเม้น)

#ทิพยประกันภัย #ประกันภัย
#ยักษ์ลงทุน

RMUTR แต่งตั้ง บลจ.กรุงไทย เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรองศาสตราจารย์ ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ม...
04/09/2025

RMUTR แต่งตั้ง บลจ.กรุงไทย เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

รองศาสตราจารย์ ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ หรือ RMUTR และ นางสาวหัสวรา แสงรุจิ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ได้ร่วมลงนามสัญญาแต่งตั้ง บลจ.กรุงไทย ให้เป็นบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ ห้องไอยรา อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหาร และคณะกรรมการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ RMUTR เข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่งเมื่อเร็วๆ นี้

บลจ.กรุงไทย นับเป็นบริษัทจัดการกองทุนในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการ มูลค่ากว่า 1.7 แสนล้านบาท (ที่มา: AIMC, ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 68)

#บลจกรุงไทย #กรุงไทย #กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ #ยักษ์ลงทุน

ที่อยู่

Bangkok
10400

เบอร์โทรศัพท์

+66851142225

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ยักษ์ลงทุนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ยักษ์ลงทุน:

แชร์