เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/104900025758656/

ต้นไม้มาลี My Devil

หน้าหลัก
ประเทศไทย
Bangkok
ต้นไม้มาลี My Devil

แม่ = ทำงานไปเลี้ยงลูกไป
ต้นไม้ มาลี พี่กับน้อง - Tonmai Malee

27/09/2025

จากใจแม่เลย ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีเถอะ
ไม่ได้การันตี ว่าไม่ติด แต่ถ้าติด
จากที่จะหนักจะเป็นเบา 💉เชื้อไม่ลงปอดนี่เรื่องจริง
#ฉีดวัคซีน #ไข้หวัดใหญ่ #ป้องกันไวรัส
😻

24/08/2025

▶︎ เลี้ยงลูกแบบสโตอิก (Stoicism) : ‘ช่างมัน’ บ้างก็ได้ ‘ปล่อยวาง’ บ้างก็ดี
เรื่องของลูกเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญสำหรับพ่อแม่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีอะไรนอกเหนือไปจากความต้องการของคุณพ่อคุณแม่
แนวคิดสโตอิก (Stoicism) มีมาตั้งแต่ยุคสมัยกรีกโบราณ หมายถึงการ ปล่อยวางในสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ การ เลี้ยงลูกแบบสโตอิก จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ลดทอนความเคร่งเครียด ไม่กลัวความผิดพลาด และผิดหวัง
หากคุณพ่อคุณแม่สามารถนำ เลี้ยงลูกแบบสโตอิก มาปรับใช้กับตัวเองได้ นอกจากจะส่งผลดีต่อจิตใจของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นไปอย่างมีความสุขได้อีกด้วย
1. การปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
สโตอิกสอนให้เราโฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้เท่านั้น ดังนั้น การเลี้ยงลูกแบบสโตอิกจะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าไม่ควรกะเกณฑ์ชีวิตลูกมากเกินไป เช่น ไม่บังคับให้ลูกชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะสุดท้าย ลูกก็มักจะทำตามความชอบและความถนัดของตัวเองได้ดีกว่า
2. การสอนผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด
ปรัชญาสโตอิก มักเชื่อในคุณค่าของการแสดงออกผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เช่น เมื่อเผชิญความยากลำบากในชีวิต หากคุณพ่อคุณแม่สามารถเผชิญหน้าและรับมือกับปัญหาได้อย่างมีสติ ค่อยๆ แก้ไข ไม่ตีโพยตีพาย ลูกก็จะเรียนรู้และซึมซับพฤติกรรมและการรับมือกับปัญหาในลักษณะเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ได้
3. ฝึกให้ลูกรู้คุณค่าของคุณธรรม
ปรัชญาสโตอิกจะให้ความสำคัญกับคุณค่าของคุณธรรม เช่น ความซื่อสัตย์ ความเมตตา และการทำสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังให้ลูกมีคุณธรรมประจำใจได้ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี ค่อยๆ ให้ลูกเรียนรู้จากเรื่องง่ายๆ หรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น หากลูกเก็บสิ่งของของคนอื่นได้ควรทำอย่างไร หากลูกเห็นคนกำลังต้องการความช่วยเหลือควรทำอย่างไร
ทั้งนี้ การสอนเรื่องคุณธรรม ไม่จำเป็นต้องใช้รางวัลเป็นสิ่งจูงใจ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกโฟกัสที่ผลลัพธ์คือความสุขและความสบายใจเมื่อลูกทำสิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง
4. การยอมรับความไม่แน่นอนของชีวิต
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยแนวทางสโตอิกจะสอนลูกให้เข้าใจว่าชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เช่น ความเจ็บป่วย ความล้มเหลว หรือการสูญเสีย ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักเตรียมใจให้พร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง และสอนให้ลูกมองความยากลำบากเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
5. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
สุดท้าย สโตอิกจะสอนให้รู้จักใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่ากังวลถึงอนาคต หรือวนเวียนอยู่กับอดีต พ่อแม่สโตอิกจะสอนให้ลูกมีสมาธิกับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน ทำสิ่งที่ดีในตอนนี้ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีนั่นเอง
อ้างอิง
https://thepotential.org/life/stoicism/

15/08/2025

ลูกที่เลี้ยงง่าย
ลูกที่มีวินัย
และมีความมั่นคงทางจิตใจ
คือลูกที่ พ่อแม่ พูดความจริงเสมอ

#ต้นไม้มาลี #ต้นไม้ #มาลี

05/08/2025

ยิ้มโชว์ฟันน้ำนม 555
#ต้นไม้ #มาลี #พี่กับน้อง #ต้นไม้มาลี

14/07/2025

การ์ตูน ดีดี ที่ควรให้ลูกได้ดู

1. My Neighbor Totoro

* Mindset ที่ดี: การมองโลกในแง่ดี, จินตนาการ, ความรักในธรรมชาติ, การจัดการกับความกลัว, ความผูกพันในครอบครัว, การค้นพบความสุขในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

* อายุ: 3-8 ปี (เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะเนื้อหาอบอุ่น ไม่มีอะไรน่ากลัวเกินไป)

2. Kiki's Delivery Service

* Mindset ที่ดี: การค้นหาตัวตน, ความรับผิดชอบ, ความพยายามในการทำงาน, การเอาชนะอุปสรรคและความผิดหวัง, การพึ่งพาตัวเอง, การสร้างมิตรภาพ

* อายุ: 6-12 ปี (เหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มเรียนรู้การพึ่งพาตัวเองและการเผชิญโลกภายนอก)

3. Ponyo

* Mindset ที่ดี: ความไร้เดียงสาของเด็ก, ความผูกพันระหว่างเพื่อน/พี่น้อง, ความรักในธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต, การยอมรับความแตกต่าง, การให้อภัย, ความมุ่งมั่น

* อายุ: 4-9 ปี (ภาพสวยงาม เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย เน้นความรักและความผูกพัน)

4. Castle in the Sky

* Mindset ที่ดี: การผจญภัย, ความกล้าหาญ, มิตรภาพ, การทำงานเป็นทีม, การปกป้องสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม, การต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
* อายุ: 7-13 ปี (มีฉากแอ็คชั่นและการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น)

5. Nausicaä of the Valley of the Wind

* Mindset ที่ดี: การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ, ความเข้าใจในความหลากหลายของชีวิต, การให้อภัย, ความเสียสละเพื่อส่วนรวม, ภาวะผู้นำ

* อายุ: 9-15 ปี (เนื้อหาค่อนข้างหนักและซับซ้อนกว่าเรื่องอื่น แต่ให้ข้อคิดที่ดีมากเรื่องสิ่งแวดล้อม)

6. Arrietty

* Mindset ที่ดี: การปรับตัว, การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง, ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา, มิตรภาพที่ต่างกัน, ความเคารพซึ่งกันและกัน, การมองเห็นคุณค่าในสิ่งเล็กๆ

* อายุ: 6-11 ปี (เรื่องราวอบอุ่นและสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นความสำคัญของสิ่งเล็กๆ)

7. Porco Rosso

* Mindset ที่ดี: การทำตามความฝัน, การซื่อสัตย์ต่อตัวเอง, ความภาคภูมิใจในอาชีพ, มิตรภาพที่ไม่คาดคิด, การมองหาความงามในชีวิตที่เรียบง่าย

* อายุ: 8-14 ปี (มีฉากต่อสู้ทางอากาศ แต่เน้นที่การสร้างตัวละครและปรัชญาชีวิต)

_______