The Methee Update ข่าวใหม่ทุกวัน ทุกเรื่องที่น่าส?

ภาคีความปลอดภัยทางถนน หนุนลดการเจ็บตายบนท้องถนน ตั้งเป้าลดตายในกลุ่ม “เยาวชน”  ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ....
03/12/2024

ภาคีความปลอดภัยทางถนน หนุนลดการเจ็บตายบนท้องถนน ตั้งเป้าลดตายในกลุ่ม “เยาวชน”

ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน แพทย์ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา จัดงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 ภายใต้แนวคิด “สานพลังเข้มข้น สร้างกลไกเข้มแข็ง เพื่อถนนไทยปลอดภัย : Road Safety Stronger Together” เมื่อวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี

ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในห้องย่อยที่ 1 ระบบนิเวศความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและเยาวชน : Road Safety Ecosystem for Youth ด้วยว่า “กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น แนวทางรถรับส่งนักเรียนหรือแนวทางการจัดทัศนศึกษาที่ปลอดภัย แต่ปัญหาอยู่ที่การปฏิบัติของบุคลากรทางการศึกษา ที่จะทำอย่างไรให้เป็นการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียนเมื่อมีการเดินทาง แต่อย่างไรก็แล้วแต่เรื่องความปลอดภัยทางถนนควรเป็นวาระที่สำคัญที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับครอบครัว ซึ่งก็คือการที่พ่อแม่มีวินัยจราจรให้บุตรหลานได้เห็นเป็นแบบอย่างและสถานศึกษามาเน้นย้ำในสิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่บนท้องถนน

น่าสนใจว่าประชาชนยังขาดจิตสำนึกเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน หากย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีก่อนประเทศไทยมีความพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการห้ามนั่งท้ายกระบะ แต่เกิดเสียงตำหนิรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก ที่ไม่เห็นอกเห็นใจผู้มีรายได้น้อยที่จำเป็นต้องโดยสารท้ายรถกระบะเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าเรายังคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายก่อนเรื่องความปลอดภัยทางถนน จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายระบบการศึกษาของไทยและกลไกของครอบครัวว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เมื่อมีการเดินทางสัญจรเกิดขึ้น ทั้งนี้สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้แก่ การเป็นเจ้าภาพหลักในการสร้างเสริมระบบนิเวศที่ปลอดภัย (Ecosystem) ในกลุ่มเด็กและเยาวชน คือการจัดให้มีการกำหนดมาตรการความปลอดภัยทางถนนหรือจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนน รวมถึงจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนในชั้นเรียนนั้น ทาง ศธ. ยินดีรับข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป”

ด้านนายธนันท์ เมฆประเสริฐวนิช ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการ “เด็กเริ่ม ผู้ใหญ่ร่วม” เป็นภารกิจของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร (ศปถ.กทม.) เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 2563 โดยมีเป้าหมายและจุดเน้นคือการสร้างเยาวชนต้นแบบและผู้ริเริ่ม “รักษ์วินัยจราจร” ที่จะเป็นกำลังสำคัญของกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มพฤติกรรมรักษ์วินัยจราจรจากตนเองส่งต่อไปยังกลุ่มเพื่อน และผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง สมาชิกอื่น ๆ บนท้องถนน รวมถึงโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 437 โรงเรียน ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่าหากเราไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้แนวโน้มปี 2564 – 2573 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีเด็กเสียชีวิตเพิ่มอีก 30,204 คน แต่ถ้าเราลงมือเริ่มแก้ไขปัญหานี้ เริ่มจากเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้ามีการลดการตายได้ปีละ 5% ใน 10 ปีจะช่วยชีวิตเด็กและเยาวชนได้ สูงถึง 9,675 คน

ด้านนายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. มีบทเรียนสำคัญที่ดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ได้จัดให้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ 5 สถาบันอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง ซึ่งดำเนินงาน 5 มาตรการอย่างเข้มงวด ได้แก่ 1. ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมาย 2.ประกาศนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย 3.พัฒนาองค์ความรู้ด้านการขับขี่และทักษะการขับขี่ 4.ส่งเสริมการทำใบอนุญาตขับขี่ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก 5.สนับสนุนการปรับปรุงสภาพแวดล้อมส่งผลทำให้จำนวนของการบาดเจ็บลดลง และสามารถลดผู้เสียชีวิตให้เป็นศูนย์ได้ภายในปี 2565 ความสำเร็จดังกล่าว ยท. และ สสส. จึงได้สานต่อความสำเร็จในครั้งนี้เพื่อเป้าหมายการใช้หมวกนิรภัยให้ได้ 100% ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงสร้างนิสัยความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการดื่มไม่ขับ เคารพกฎจราจร โดยในปี 2567 ได้ขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดขอนแก่นและเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี และนำ 5 มาตรการดังกล่าวไปปรับใช้เพื่อหนุนเสริมความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องผ่านกลไกอนุกรรมการด้านเด็กและเยาวชน ในศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชลบุรี”

ที่มา : สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย

03/07/2024

บุหรี่ไฟฟ้า ขยะสารเคมี !!!

สถาบันยุวทัศน์ ฯ ชงรัฐบาล “ลดเข้มงวดโฆษณาและควบคุมราคาถุงยางอนามัย” ส่งเสริมเยาวชนใช้ ลดโรคเอดส์ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เนื่...
21/12/2023

สถาบันยุวทัศน์ ฯ ชงรัฐบาล “ลดเข้มงวดโฆษณาและควบคุมราคาถุงยางอนามัย” ส่งเสริมเยาวชนใช้ ลดโรคเอดส์ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เนื่องในวันเอดส์โลก 2566
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ณ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ รับมอบข้อเสนอเชิงนโยบายจากสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) เนื่องในวันเอดส์โลก ประจำปี 2566 เกี่ยวกับปัญหาการเข้าถึงถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชน โดยจากการรับฟังข้อมูลของเยาวชนในประเทศไทยพบว่าปัญหาด้านราคาถุงยางอนามัยที่มีราคาสูง เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจไม่ใช่ถุงยางอนามัย ขณะที่การไม่เปิดกว้างให้โฆษณาถุงยางอนามัยได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่านิยมการใช้ถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชนไม่เป็นที่ยอมรับอีกด้วย
ที่มา : สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย

เตือน !! ควันบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย มีฝุ่นจิ๋ว PM 1.0 ถึง 98% เข้าสู่กระแสเลือด ดูดซึมง่าย ทำลายปอดนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตยาก...
21/12/2023

เตือน !! ควันบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย มีฝุ่นจิ๋ว PM 1.0 ถึง 98% เข้าสู่กระแสเลือด ดูดซึมง่าย ทำลายปอด

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ควันบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากจะมีนิโคตินปริมาณสูงสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย สารโลหะหนัก และสารเคมีก่อมะเร็งแล้ว ยังมีฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดได้ง่าย โดยเฉพาะ PM 1.0 ที่มีขนาดเล็กกว่า PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 1 ไมครอน พบในควันบุหรี่ไฟฟ้ามากถึง 98% สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและปอดได้ หากสะสมไปเรื่อยๆ ทำให้การทำงานของปอดบกพร่อง เกิดการอักเสบ และเกิดความเป็นพิษต่อยีนในเซลล์ต่างๆ เป็นสาเหตุของหอบหืด หลอดลมอักเสบ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง พังผืดในปอด รวมถึงก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้

ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

บรรยากาศลานพญานาค พ่อปู่ปาริจิตนครราช เช้าวันนี้ มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกแขนลุงพล และป้าแต๋น โดยเป็นเหมือนธรรมเนียมป...
21/12/2023

บรรยากาศลานพญานาค พ่อปู่ปาริจิตนครราช เช้าวันนี้ มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกแขนลุงพล และป้าแต๋น โดยเป็นเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติทุกครั้งที่ไปขึ้นศาลและกลับมาที่บ้าน จะต้องมาผูกแขนเพื่อเรียกขวัญกลับมาตามความเชื่อ โดย ลุงพล และป้าแต๋น สีหน้าสดชื่นแจ่มใสนั่งร่วมพิธี
โดยทีมข่าวสอบถาม ป้าแต๋น เปิดเผยว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดี ส่วนลุงพล ก็มีเครียดบ้างเล็กน้อย แต่ก็ได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกันว่ายังมีอีกสองศาลที่ต้องต่อสู้ ส่วนที่เห็นว่าป้าแต๋น ยิ้มได้สดใสเพราะคดีของตนเองยกฟ้องหรือไม่นั้น ป้าแต๋น บอกว่าป้าแต๋นเป็นคนอารมณ์ดีและยิ้มสดใสแบบนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร และยิ่งได้มาอยู่ที่ลานพญานาคพ่อปู่ก็จะมีความสุข
การทำพิธีในวันนี้ ก็เป็นกลุ่มเอฟซีที่ทำให้ เพราะเขาเชื่อว่าทุกครั้งที่ไปขึ้นศาลและกลับมาบ้านจะเรียกขวัญกลับมาด้วย ซึ่งเป็นความเชื่อตามประเพณีของชาวอีสานที่เรียกขวัญกลับมาสู่บ้านของตนเอง

เปิดคำพิพากษาเต็ม คุก “ลุงพล” 20 ปี คดีน้องชมพู่ ยกฟ้องป้าแต๋นศาลมุกดาหาร พิพากษาจำคุกลุงพล 20 ปี 2 ข้อหา คดีการเสียชีวิ...
21/12/2023

เปิดคำพิพากษาเต็ม คุก “ลุงพล” 20 ปี คดีน้องชมพู่ ยกฟ้องป้าแต๋น

ศาลมุกดาหาร พิพากษาจำคุกลุงพล 20 ปี 2 ข้อหา คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ส่วน “ป้าแต๋น” ยกฟ้อง

วันนี้ 20 ธ.ค. 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ 1013/2564 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร โจทก์ นางสาวิตรี วงศ์ศรีซา โจทก์ร่วมที่ 1 นายอนามัย วงศ์ศรีขา โจทก์ร่วมที่ 2 กับ "นายไชย์พล หรือ พล วิภา" จำเลยที่ 1 และ "น.ส.สมพร หรือ แต๋น หลาบโพธิ์" จำเลยที่ 2 โดยมีโจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2563 จำเลยที่ 2 พรากเด็กหญิงอรวรรณ หรือ "ชมพู่" วงศ์ศรีชา อายุ 3 ปีเศษ ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากโจทก์ร่วมทั้งสองมารดา และบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร

เมื่อระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พ.ค.2563 จำเลยที่ 1 โดยเจตนาฆ่านำด.ญ.อรวรรณ ซึ่งเป็นเต็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไปทอดทิ้ง ณ เขาภูเหล็กไฟ เพียงลำพังโดยไม่มีอาหารและน้ำดื่มเพื่อให้ด.ญ.อรวรรณ พ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กหญิงอรวรรณถึงแก่ความตาย และเมื่อระหว่างวันที่ 13 ถึง 14 พ.ค. 2563 ภายหลังผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จ จำเลยทั้งสองร่วมกันเคลื่อนย้ายศพผู้ตายแล้วถอดเสื้อผ้าและกางเกงออกเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่พบศพเข้าใจว่า ผู้ตายถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพผู้ตายหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า บริเวณที่พบศพด.ญ.อรวรรณผู้ตายอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากจุดที่มีคนพบเห็นผู้ตายครั้งสุดท้ายประมาณ 1.5 กิโลเมตร และเป็นทางลาดชัน ประกอบกับบริเวณตังกล่าวมีการตรวจพบเส้นผมผู้ตายหลายเส้นที่มีลักษณะถูกตัดด้วยของแข็งมีคม จึงเชื่อว่าผู้ตายซึ่งมีอายุเพียง 3 ปีเศษ ไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงบริเวณที่ พบศพและใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมของตนเองได้แต่ต้องมีคนร้ายพาผู้ตายไป

ปัญหาต่อมาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายหรือไม่ เห็นว่า ประการแรก ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.00น. ผู้ตายเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพักและมีเด็กหญิง ก. พี่สาวผู้ตายนอนเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ใกล้เคียง กระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น. เด็กหญิง ก. มองหาผู้ตายไม่เห็นจึงออกตามหา ดังนั้น ผู้ตายต้องหายตัวไปก่อนช่วงเวลาดังกล่าว โดยเด็กหญิง ก. เบิกความว่าไม่ได้ยินเสียงผู้ตายร้องแต่อย่างใด เชื่อว่า คนร้ายที่พาผู้ตายไป

ต้องเป็นญาติหรือบุคคลใกล้ชิดในหมู่บ้านที่ผู้ตายรู้จักดี เนื่องจากผู้ตายจะร้องไห้หากถูกคนแปลกหน้าอุ้ม เจ้าพนักงาน

ตำรวจจึงสืบสวนกลุ่มบุคคลดังกล่าว 14 คน แบ่งเป็นญาติ 12 คน และบุคคลใกล้ชิด 2 คน พบว่า 13 คน มีหลักฐาน ยืนยันที่อยู่หรือตำแหน่งอ้างอิงจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ชัดเจน ยกเว้นจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่สามารถยืนยันฐานที่อยู่ใด้แน่ชัดในเวลาที่ผู้ตายหายตัวไป

ประการที่สอง จำเลยที่ 1 ให้การเป็นข้อพิรุธหลายอย่าง อาทิ จำเลยที่ 1 ให้การกับเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวนว่าวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มีนัดไปรับพระ ส. ที่วัดถ้ำภูผาแอก ขณะเดินทางไปวัด จำเลยที่ 2 โทรศัพท์แจ้งจำเลยที่ 1 ว่าผู้ตายหายตัวไป แต่ครอบครัวของจำเลยทั้งสองมีโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงเครื่องเดียวอยู่กับจำเลยที่ 2 จึงเป็นไปไม่ได้ที่จำเลยที่ 2 จะโทรศัพท์แจ้งเรื่องแก่จำเลยที่ 1อีกทั้งพระ บ. ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดถ้ำภูผาแอกเช่นกันยืนยันว่า วันดังกล่าว เวลาประมาณ 10.00 น.จำเลยที่ 1 เดินทางไปถึงวัดและพูดกับพระ บ. ว่า หลานหายเกือบไม่ได้ไปส่งพระ ทั้งที่ในขณะนั้น จำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตัวต้องยังไม่ทราบเหตุว่า ผู้ตายหายตัวไป

ประการที่สาม พยานโจทก์ปากนาย ว. และนาง พ. ให้การในขั้นสอบสวนว่า พยานเห็นจำเลยที่ 1 อยู่บริเวณสวนยางพาราซึ่งเป็นทางเดินที่สามารถเข้าถึงจุดที่ผู้ตายหายตัวไป ในช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือกระทำความผิด โดยขณะที่มีการสอบสวนเรื่องนี้ จำเลยที่ 1 พยายามไปพูดคุยกับนาย ว. ให้ นาย ว. บอกเจ้าพนักงานตำรวจว่า นาย ว.พบจำเลยที่ 1ในช่วงเวลา 07.00 น. ไม่ใช่ช่วงเวลา ที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานตำรวจสงสัยจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1ไม่ได้กระทำความผิด เหตุใดต้องพูดจาในลักษณะดังกล่าวกับพยานที่ให้การต่อเจ้าพนกงานตารวจ ตามข้อเท็จจริงที่ตนรู้เห็น แม้ต่อมาในขณะสืบพยาน นาง พ. จะเบิกความว่า ตนไม่ได้เห็นจำเลยที่ 1 บริเวณสวนยางพาราแต่ก็เป็นการกลับคำภายหลังเกิดเหตุกว่า 2 ปี ซึ่งอาจทำเพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ 1 คำให้การในชั้นสอบสวนของนาง พ.จึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือยิ่งกว่า

ประการสุดท้าย ภายหลังเจ้าพนักงานตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้าย จึงมีการเข้าตรวจคันรถยนต์จำเลยที่ 1 พบเส้นผม 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น โดยผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ประกอบกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญปรากฏว่า เส้นผม 1 เส้น ที่ตกอยู่ในรถยนต์จำเลยที่ 3 มืองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้น ซึ่งตรวจเก็บได้จากบริเวณที่พบศพผู้ตาย เส้นผมทั้ง 3 เส้น ดังกล่าว จึงถูกตัดในคราวเดียวกันด้วยวัตถุของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน เชื่อว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมผู้ตาย แต่ด้วยเหตุที่เส้นผมมีขนาดเล็กมาก จำเลยที่ จึงไม่สังเกตว่ามีเส้นผมผู้ตายเส้นหนึ่งตกอยู่ในรถยนต์ของตน

ทั้งนี้ การสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจในคดีนี้ไม่ไต้มุ่งเป้าไปยังจำเลยที่ 1 มาแต่แรก หากเกิดจากการรวบรวมพยานหลักฐานและตั้งข้อสันนิษฐานอย่างเป็นลำดับขั้นตอนดังวินิจฉัยไว้ข้างต้น โดยไม่ปรากฏว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องคนใดมีสาเหตุโกรธเคืองหรือมูลเหตุชักจูงใจในการใส่ร้ายจำเลยที่ 2 จึงเชื่อว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่พาผู้ตายขึ้นไปบน เขาภูเหล็กไฟปัญหาต่อมาต้องวินิจฉัยว่า ขณะพาผู้ตายขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ จำเลยที่ 1 รู้หรือไม่ว่า ผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ เห็นว่า จำเลยที่ 1 ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ร่วมทั้งสองหรือผู้ตายมาก่อน จึงไม่น่าเชื่อว่า จำเลยที่ 1มีเจตนาฆ่าหรือเจตนาทอดทิ้งผู้ตาย ประกอบกับรายงานการตรวจศพผู้ตายพบรอยช้ำใต้หนังศีรษะ บริเวณหน้าผาก

ด้านช้ายและท้ายทอยเป็นจ้ำ ๆ จึงอาจเป็นกรณีที่ผู้ตายหมดสติไป ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ใต้ตรวจดูให้ดีเลยพาผู้ตายไปทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายส่วนที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันเคลื่อนย้ายศพฯ นั้น เห็นว่า ภายหลังวันเกิดเหตุจนถึงวันที่พบศพผู้ตายโจทก์ไม่มีพยานคนใดเบิกความว่าเห็นจำเลยทั้งสองขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ แม้ผลการตรวจเส้นผม 3 เส้น จากบริเวณที่พบศพผู้ตายมี mtDNA ตรงกับจำเลยที่ 2 แต่การตรวจหา mtDNA นั้น ไม่สามารถใช้ระบุตัวบุคคลได้ เพียงแต่ระบุได้ว่าเป็นเส้นผมของบุคคลที่อยู่ในสายมารดาเดียวกับผู้ตายเท่านั้น เส้นผมดังกล่าวจึงไม่จำต้องเป็นของจำเลยที่ 2 เพียงผู้เดียวเห็นควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้งสองในข้อหานี้

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยก และยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 กับให้ จำเลยที่ 1 ชำระค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้แกโจทก์ร่วมทั้งสอง

อนึ่ง คดีนี้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกตาหาร ตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งว่าพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองมีข้อสงสัยตามสมควร ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1 เห็นควรพิพากษายกฟ้อง จึงให้รวมไว้ในสำนวน ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 11 (1)

ไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองเป็นอันตรายต่อคนใกล้ชิด     เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมโรค (CDC) สหรัฐอเมริกาเผยแพร่ อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อ...
12/12/2023

ไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองเป็นอันตรายต่อคนใกล้ชิด
เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมโรค (CDC) สหรัฐอเมริกาเผยแพร่ อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อเด็กวัยรุ่นและคนอายุน้อย ความตอนหนึ่ง "มีอะไรอยู่ในไอบุหรี่ไฟฟ้า ที่ผู้สูบหายใจเข้าและพ่นออกมา" ตามที่ปรากฏในอินโฟกราฟิก
ปัญหาที่มีคนร้องเรียนกันมากขณะนี้คือ มีคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะที่กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในร้านอาหาร และในที่ทำงาน โดยอาจจะคิดว่า ไอบุหรี่ไฟฟ้าที่สูบแล้วพ่นออกมาไม่เหม็น ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น และไม่รู้ว่ากฎหมายห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
8 ธันวาคม 2566
อ้างอิง : Quick Facts on the Risks of E-cigarettes for Kids, Teens, and Young Adults | https://www.cdc.gov/.../Quick-Facts-on-the-Risks-of-E...

ไทยอ่วม ฝุ่นพิษ PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพ ระดับสีแดง 15 จังหวัด สีส้ม 32 จังหวัด กทม.ถ้วนหน้าแดงทุกเขตสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี...
12/12/2023

ไทยอ่วม ฝุ่นพิษ PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพ ระดับสีแดง 15 จังหวัด สีส้ม 32 จังหวัด กทม.ถ้วนหน้าแดงทุกเขต
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) รายงานผล เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม ผ่านแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น" เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (12 ธ.ค. 66)
พบ 15 จังหวัดของประเทศไทย มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีแดง โดย จ.ฉะเชิงเทรา สูงสุด 134.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามด้วย จ. อ่างทอง, สมุทรสาคร, นนทบุรี, สิงห์บุรี, ชลบุรี, ปทุมธานี, กทม., ลพบุรี, นครปฐม, สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี
และอีก 32 จังหวัด เกินค่ามาตรฐานระดับสีส้มที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพ
ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีแดงทุกเขต สูงสุดที่เขตบางกอกใหญ่ ตามด้วย ธนบุรี, คลองสาน, หลักสี่, ดอนเมือง, บางกอกน้อย, ภาษีเจริญ, พระนคร เป็นต้น
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่า หลายพื้นที่ยังคงมีค่าคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานในระดับสีแดง
GISTDA แนะนำว่า ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูล PM2.5 เพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น"

อาจารย์ ม.ดัง มึนตึ้บ ตรวจข้อสอบ วิชากฎหมาย เจอลายมือนักศึกษาสะกดจิตโซเชียลตาลาย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งชื่อ เอกพงษ์...
08/12/2023

อาจารย์ ม.ดัง มึนตึ้บ ตรวจข้อสอบ วิชากฎหมาย เจอลายมือนักศึกษาสะกดจิต

โซเชียลตาลาย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งชื่อ เอกพงษ์ สารน้อย ได้แชร์ภาพกระดาษคำตอบของนักศึกษา ที่ลายมือในคำตอบนั้นเป็นระเบียบ แต่เขียนติดกันจนแทบอ่านไม่ออก พร้อมกับเขียนแคปชั่นระบุว่า "ตรวจข้อสอบกลับถูกคำตอบสะกดจิต" ลายมือสวยแต่อาจารย์ถอดรหัสไม่ออก 55+ แสดงว่า แม้จะสวยงาม แต่อาจารย์ก็ต้องใช้ความพยายามในการถอดรหัสลายมือนี้

สำหรับคำตอบที่เป็นปริศนานี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบปลายภาค วิชาหลักกฎหมายมหาชน สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เล่าต่อว่า เขากำลังจะไปตามหานักศึกษาผู้เขียนคำตอบนี้ เพื่อทำความรู้จัก

และแล้วโพสต์นี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากถึง 2.8 พันครั้ง และถูกแชร์ต่อไปอีกมากถึง 7 ครั้ง บ้างก็ติดตลกว่า น่าจะเป็นลายมือเขมรนะครับพี่55 ไม่ใช่สิอักษรขอม, ดูแว๊บแรกนึกว่าเขียนภาษาประเทศเพื่อนบ้านครับ(ยิ้ม), สงสารอาจารย์เลยครับ 555555 ขนาดผมมองยังตาลาย เป็นต้น

แล้วลูกเพจ เห็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านออกไหม นักศึกษาตอบว่าอะไร ช่วยบอกอาจารย์หน่อย

แม้สวนสนุกของคุณหมอกฤตไท ปิดทำการแล้ว แต่เส้นทางชีวิตของคุณหมอจะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าขอให้ใช้เวลาในสวนสนุกให้มีความสุ...
06/12/2023

แม้สวนสนุกของคุณหมอกฤตไท ปิดทำการแล้ว แต่เส้นทางชีวิตของคุณหมอจะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าขอให้ใช้เวลาในสวนสนุกให้มีความสุขจนวินาทีสุดท้ายที่เปิดทำการ
แอดมินเพจ สู้ดิวะ แม็ก, ศีล, แก๊ป โพสต์ข้อความ ภายหลัง นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล เสียชีวิต ขอให้เพจ ‘สู้ดิวะ’ เป็นบทเรียนให้ทุกคนที่กำลังดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้ได้และได้มีโอกาสเข้ามาอ่านข้อความทุกตัวอักษรจาก 'สู้ดิวะ' เห็นแนวคิดต่างๆ ที่หมอไทได้ตกตะกอนช่วงที่ต้องสู้กับโรคร้าย เพราะ ‘ชีวิตทุกคนไม่แน่นอน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะสุดท้ายเราคนต้องตาย’
โดยแอดมินเพจ ‘สู้ดิวะ’ ได้ยกข้อความบทสุดท้ายที่หมอกฤตไท ได้โพสต์เอาไว้ดังนี้
“บทส่งท้าย จากคุณหมอกฤตไท”
ถ้าจะให้สรุปบทเรียนจากน้องมะเร็งในช่วงที่อยู่ด้วยกันมาคงสรุปได้ว่า “ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายเราทุกคนจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้แต่ละวันให้เหมือนวันสุดท้าย ถ้ามีอะไรที่ทำเพื่อคนอื่นได้ ก็แบ่งปันความโชคดีให้เขาบ้าง และไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด”
มาคิดดูดีๆ ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดูผิดปกติเหมือนกันนะครับ ที่ผมจะต้องมาตายก่อนที่จะแก่ เมื่อก่อนผมดูแลตัวอย่างดี เพื่อที่จะให้ตอนแก่ไม่เป็นโรคเรื้อรังอย่าง เบาหวาน ไขมัน ความดัน ผมอยากเป็นคนแก่ที่ผมหงอกแต่มีกล้าม สุขภาพแข็งแรง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสไปถึงวันนั้นเสียแล้ว ยอมรับว่ามันก็รู้สึกเจ็บปวดจริงๆ แต่ก็นี่แหละครับ ชีวิต ชีวิตที่แสนเปราะบาง ชีวิตที่เราเคยเข้าใจผิดไปว่าเรามีสิทธิ์ในการจะบงการมันไปอีกยาวนาน ผมรักชีวิตของผมตอนนี้มาก ผมรักทุกคนรอบตัวผม รักทุกอย่างที่ผมมี รักทุกสิ่งที่ผมเป็น แน่นอนว่าผมไม่อยากจากไป แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้
ผมหวังว่าเรื่องของผมจะช่วยให้คุณกลับมามองชีวิตตัวเองแล้วฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาเป็นโรคร้ายแบบผม
กับตัวเอง ตั้งแต่ป่วยมา ผมเลิกให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องน่าหงุดหงิด เรื่องน่ากังวลไร้สาระที่เมื่อก่อนผมให้ความสำคัญกับมันเสียมากมาย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วย คุณก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจเรื่องไร้สาระพวกนั้นได้ตอนนี้เลย
วันนี้คุณอาจกำลังทำงานเกินเวลา คุณอาจหัวร้อนที่ตีบวกไม่ติด คุณอาจหมดใจกับองค์กร คุณอาจหงุดหงิดพุงย้อยๆ ของตัวเอง คุณอาจไม่พอใจที่ตอนไปดัดผมออกมาแล้วหยิกเกินไป คุณอาจอยากให้ซิกแพ็คคุณชัดกว่านี้สักหน่อย หรือ อาจกำลังรำคาญสิวบนใบหน้า
เรื่องไร้สาระพวกนี้ ช่างหัวมันเถอะครับ
ผมเคยสนใจเรื่องพวกนี้มากพอๆ กับคุณแหละครับ แต่เชื่อผมเถอะ คุณจะไม่คิดถึงมันเลย ถ้าคุณกำลังจะตาย
พอเราไม่ต้องเสียเวลาให้กับเรื่องเล็กๆ พวกนั้นแล้ว คุณจะมีสมาธิมากพอที่จะโฟกัสกับอาหารตรงหน้า โฟกัสกับการวิ่ง โฟกัสกับอากาศบริสุทธิ์ที่คุณยังสามารถหายใจเอามันเข้าไปในปอดของคุณได้ โดยไม่มีอาการเจ็บหน้าอกแบบผม คุณลองมองความสวยงามของธรรมชาติ มองรอยยิ้มของคนรอบข้าง และเสียงหัวเราะของคนที่คุณรัก มันพิเศษมากๆ เลยที่คุณยังทำสิ่งเหล่านี้ได้
ผมเห็นคนบ่นว่ามันยากแค่ไหนที่จะไปออกกำลังกาย เงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เขาไม่สามารถดูแลร่างกายตัวเองได้ ให้ตายเถอะ ผมอยากไปออกกำลังกายมากๆ คุณควรดีใจนะ ที่คุณยังไปออกกำลังกายได้ ดังนั้น ไปเถอะครับ ออกไปดูแลสุขภาพตัวเองในตอนที่คุณยังทำได้ แม้ว่ารูปร่างของเราจะยังไม่ใช่แบบที่เราต้องการ แต่การออกกำลังกายและกินอาหารที่เป็นประโยชน์ มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราควรทำจริงๆ ครับ
สิ่งสำคัญนอกจากการดูแลร่างกายคือการดูแลสุขภาพจิตของเรา ปัจจุบันเราอยู่ในโลกที่สังคมออนไลน์ที่น่ากลัวมาก และที่สำคัญกว่านั้นคือสังคมรอบข้างตัวคุณ เราเปลี่ยนความคิดคนรอบข้างไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวคนรอบข้างเราได้ครับ เราไม่จำเป็นต้องทนอยู่กับคนที่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง หรือคนที่เราไม่ได้อยากอยู่ด้วย เลือกสังคมให้ชีวิตตัวเองดีๆ
ผมเห็นผู้คนที่ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์ คนที่ยอมอดทนทั้งที่มีสิทธิ์เลือก คุณไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อทำงานครับ ชีวิตคุณไม่ได้ยาวนานพอที่จะอยู่อย่างฝืนทน เลือกที่จะปฏิเสธสิ่งที่คุณไม่ต้องการ อย่าไปใช้เวลาของคุณเพื่อความฝันของคนอื่นครับ จำไว้ว่าถ้ามีเรื่องไหนที่คุณไม่โอเคกับมัน คุณมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเปลี่ยนแปลงมัน ทั้งเรื่องงาน ความรัก หรืออะไรก็ตาม คุณต้องกล้าที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตคุณเอง คุณจะไปทนทำไม คุณอาจบอกว่า “ทนไปแล้วค่อยเปลี่ยน” แต่คุณไม่รู้ว่าหรอกว่าคุณเหลือเวลาบนโลกนี้อีกเท่าไหร่ ดังนั้น อย่าเอาเวลาชีวิตที่แสนจำกัดนี้ไปใช้กับสิ่งที่คุณไม่ชอบเลยครับ แค่ทำสิ่งที่ชอบ เวลาก็ไม่พออยู่แล้ว
ให้เวลากับคนรักของคุณ กับเพื่อน กับครอบครัว กับคนที่รักคุณ กับคนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณ มากกว่าภาระ การงาน ตำแหน่ง และเงินทองเถอะครับ
ผมหวังว่าคุณจะหันมาขอบคุณความปกติในชีวิตคุณให้มากขึ้น
ทุกคืนที่คุณล้มตัวลงนอนแล้วนอนหลับได้ การที่คุณไม่ต้องฝันถึงท่อช่วยหายใจ ทุกวันที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้หายใจแล้วเจ็บ ไม่ได้มีอาการหอบเหนื่อย ถ้าคุณไม่ได้มีอาการปวดกระดูกทุกครั้งที่คุณขยับตัว หรือคุณไม่ต้องมากลัวว่าวันไหนที่ตื่นมาแล้วคุณจะมองไม่เห็น เดินไม่ได้ พูดไม่ชัด ขยับแขนขาไม่ได้ ในขณะที่ผมเขียนข้อความนี้อยู่ ผมปวดกระดูกและเจ็บเส้นประสาทมาก ผมมีอาการเหมือนโดนน้ำร้อนลวกที่หลัง และโดนมีดแทงที่ลำตัวข้างขวาตลอดเวลา ผมต้องกินยาแก้ปวดมหาศาลเพื่อให้ผมยังเขียนข้อความนี้ได้
ขอบคุณชีวิตที่แสนปกติของคุณเถอะครับ แล้วใช้มันให้เต็มที่กับทุกวันที่โลกนี้มอบให้กับคุณ
ชีวิตที่ปกติและธรรมดาในแต่ละวันของคุณมันคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
คุณไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะตื่นมาแล้วมีทุกอย่างแบบที่คุณมีวันนี้อยู่ไหม
วันก่อนที่ผมจะได้รับการวินิจฉัย ผมก็คิดเหมือนทุกคนแหละครับ ว่าคงไม่ใช่ผมหรอกที่ต้องมาเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ดังนั้น อย่าทำอะไรให้ต้องมาเสียใจทีหลังเลยครับ
ใช้ช่วงเวลาที่คุณมีให้มีความสุขไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพราะมันพิเศษ เราโชคดีมากที่ยังได้มีโอกาสมาเจอช่วงเวลานี้ และมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ อย่าเอาแต่ยกมือถือขึ้นมาถ่ายเพื่อเอาไปอวดคนอื่นว่าตัวเองกำลังมีความสุข อย่าเอาความสุขไปแขวนกับความคิดคนอื่นที่ไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณ กลับมาดื่มด่ำกับภาพตรงหน้า กับผู้คนตรงหน้าคุณ กับมื้ออาหารที่คุณได้กิน แล้วรับความสุข ณ ขณะนั้นไปเลย
คุณเลือกได้ครับ ที่จะมองเรื่องราวทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตเป็นของขวัญ
ตอนไปญี่ปุ่น ผมได้มีโอกาสไปที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (Universal Studio) ได้ไปในโซนของ แฮร์รี พ็อตเตอร์ พร้อมกันกับพีม พีมได้ซื้อของฝากที่เป็นเครื่องรางย้อนเวลาในหนังกลับมา พีมพูดกับผมว่า มันคงจะดี ถ้าเราย้อนเวลาได้ ผมจับมือและสบตากับพีมอย่างจริงจัง พร้อมกับบอกว่า “เค้าไม่อยากย้อนเวลาหรอก”
“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตเค้าทั้งดีและร้าย รวมถึงการที่เราทั้งคู่ต้องมาเผชิญกับโรคมะเร็งนี้ มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด ถ้าย้อนเวลาไปแล้วแก้ไขบางสิ่ง บางอย่างที่เคยเกิดขึ้นอาจจะไม่เกิดก็ได้ ถ้าย้อนเวลาไปแล้วหาทางทำให้ตัวเองไม่เป็นมะเร็ง ความรู้สึกขอบคุณชีวิตในวันนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ผมก็ยังอาจจะวิ่งไล่ตามทุนนิยมเอาแต่อยู่กับอนาคตจนลืมใช้ชีวิตในปัจจุบันแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็ได้”
มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับสวนสนุกอยู่ครับ มีคนไปถามเจ้าหน้าที่สวนสนุก ว่าวันนี้สวนสนุกปิดกี่โมง เจ้าหน้าที่ตอบว่า “สวนสนุก เปิดถึงสองทุ่ม”

ตรงนี้น่าสนใจมากครับ เพราะตอนแรกที่ผมทราบตัวเลขจากงานวิจัยว่าผมจะมีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้นานเท่าไหร่ ถ้าผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า “อีกนานเท่าไร ผมจะตายนะ” ผมก็คงจะซึมเศร้าและเอาแต่นั่งนับถอยหลังชีวิตตัวเอง เอาแต่นั่งคิดว่าเวลาผมลดลงทุกวัน
แต่จากข้อคิดในเรื่องการปิดของสวนสนุก ที่ไม่ได้มองว่าสวนสนุกจะปิดเมื่อไหร่ แต่กลับมองว่ายังเปิดถึงเมื่อไหร่ เป็นการมองจากจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน ไปยังอนาคตข้างหน้า ว่ายังเหลือเวลาแห่งความสุขได้อีกตั้งเท่าไหร่
ดังนั้น ผมจึงมีชีวิตแต่ละวันนับไปข้างหน้า วันนี้ได้เพิ่มมาอีกวัน วันนี้ได้เพิ่มมาอีกวัน แบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้และไม่มีใครรู้ ว่าสวนสนุกของผมจะปิดเมื่อไหร่
แต่ถ้าวันนี้ไฟยังสว่างและม้าหมุนยังคงทำงาน ผมจะมีความสุขไปกับช่วงเวลาที่ผมมีอยู่ครับ
ทุกท่านก็เช่นกัน

ชายอายุ 34 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า  #ปอดพัง ติดเชื้อรุนแรงจนต้องผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้ง 2 ข้าง     มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น อีแว...
19/11/2023

ชายอายุ 34 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า #ปอดพัง ติดเชื้อรุนแรงจนต้องผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้ง 2 ข้าง
มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น อีแวนส์ตัน รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา นำทีมแพทย์และคนไข้แถลงข่าว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงการผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้ง 2 ข้างในคนไข้ นายเดวิด บาวเออร์ อายุ 34 ปี
โดยนายเดวิด มาโรงพยาบาลเมื่อเดือนเมษายน ด้วยอาการหายใจไม่ออก แพทย์พบว่า ปอดติดเชื้อไข้หวัดใหญ่รุนแรง และติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาซ้ำ จนปอดทั้ง 2 ข้างถูกทำลาย เอกซเรย์ปอดเห็นเป็นฝ้าขาว
อาการของเดวิดทรุดลงต่อเนื่อง จนถึงเดือนพฤษภาคม ต้องย้ายผู้ป่วยมารักษาตัวที่สถาบันโรคทรวงอก นอร์ทเวสเทิร์น เมดิซิน แคนนิ่ง อินสติติวท์ เมืองชิคาโก แพทย์ต้องให้หายใจด้วยปอดเทียม และผ่าตัดปอดที่ถูกทำลายจากการติดเชื้อทั้ง 2 ข้างออก ด้วยเทคนิคใหม่ โชคดีที่มีปอดที่เข้ากันได้ให้เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หลังผ่าตัดเดวิดฟื้นตัวได้ดี แพทย์เชื่อว่าเพราะเดวิดแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว
เดวิดอยู่พักรักษาตัวในไอซียูจนจึงถึงเดือนกันยายน จึงได้กลับบ้าน แต่ต้องรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดต่อ และต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดที่ชิคาโกเป็นเวลาอีก 1 ปี
เดวิดเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 21 ปี จนถึงปี ค.ศ. 2014 อายุ 25 ปี จึงเปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า นายเดวิดกล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหมือนมีชีวิตครั้งที่ 2” และพูดทิ้งท้ายว่า “คุณไม่ควรสูดอะไรเข้าปอด นอกจากออกซิเจน”
แพทย์เชื่อว่าสาเหตุที่ปอดนายเดวิดติดเชื้อรุนแรง เป็นผลจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทั้งบุหรี่มวนและ #บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ดีต่อปอด และแม้จะมีคนที่เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ข้อมูลจากผู้ป่วยและประสบการณ์ (ของทีมแพทย์) ไม่สนับสนุนความเชื่อที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดานี้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566
อ้างอิง https://www.medscape.com/viewarticle/998277...

‘ธนาธร’ ไม่เห็นความจำเป็น รัฐบาลจะกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ถึงขั้นวิกฤติ เสนอแนวทางการใช้เงิน 5 แสนล้านบาท ...
19/11/2023

‘ธนาธร’ ไม่เห็นความจำเป็น รัฐบาลจะกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ถึงขั้นวิกฤติ เสนอแนวทางการใช้เงิน 5 แสนล้านบาท เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ประเทศไทย
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดบรรยายสาธารณะ หัวข้อ “ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน” ในวันนี้ (17 พ.ย. 66) โดยนำเสนอแนวทางการใช้เงิน จำนวน 5 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ประเทศไทย ประกอบด้วย 5 ด้าน ดังนี้
1. รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด 88,000 ล้านบาท

2. สร้างระบบแพทย์ทางไกลทั่วประเทศ 60,000 ล้านบาท

3. น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ 67,000 ล้านบาท

4. การจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะทั่วประเทศ 120,000 ล้านบาท

5. ลงทุนเพิ่มศักยภาพโรงเรียน 121,000 ล้านบาท
โดยสรุป นายธนาธร คาดว่า ใช้งบรวม 456,900 ล้านบาท และอาจจะใช้งบประมาณกับ 5 ด้านน้อยกว่านี้ก็ได้ ถ้ารัฐเลือกดึงเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนด้วยก็จะลดการใช้จ่ายของภาครัฐลงไป แต่อย่าให้การพัฒนาประเทศเป็นโอกาสในการฉกฉวยเงินรัฐภาษีประชาชนเข้ากระเป๋านายทุนและนักการเมือง แต่เป็นการลงทุนได้กำไรที่เหมาะสม เกิดการแข่งขันเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์เกินควรกับผู้ได้รับสัมปทาน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต้องใช้เวลาประมาณ 8 ปี เป็นไปได้ที่จะสามารถทำได้ โดยใช้งบประมาณปกติจากงบลงทุนต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทีลวอลเล็ต ของรัฐบาลที่จะออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท นายธนาธร ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขนาดนั้น แน่นอนเศรษฐกิจไม่ดี แต่ยังไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ตนไม่เห็นด้วยกับการกู้ครั้งนี้ และมุมมองไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ หากจำได้ในช่วงโควิดที่ผ่านมา รัฐบาลกู้มาแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท ทำให้วันนี้หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะสูงมาก อยากให้ทั้งหมดกลับมาที่จุดเดิม ที่ตนได้นำเสนอ ปัญหาเศรษฐกิจมันเกิดจากขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ เราไม่มีการลงทุนที่เพียงพอ ดังนั้นหากจะทำให้ประเทศไทยแข่งขันได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า จำเป็นต้องลงทุนเพิ่งขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยย้ำว่า ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกู้
นายธนาธร ยืนยันว่า การออกมาบรรยายครั้งนี้เป็นการเสนอแนะความคิดเห็น ไม่ได้ดิสรัปชั่น เสนอให้เป็นทางเลือกกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐบาลที่ฟังความเห็นจากพวกเราแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยสนใจสามารถมานั่งพูดคุย เราพร้อมที่จะนำเสนอข้อมูลนี้ให้เพราะเรามีประสบการณ์ตรงมาแล้ว
ทั้งนี้ นายธนาธร เลี่ยงที่จะตอบว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้นคุ้มค่าหรือไม่ ขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ตอบ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รัฐบาลทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพราะว่าได้หาเสียงไว้ นายธนาธร ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยบอกประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ตนคิดว่าประชาชนพร้อมเข้าใจ ส่วนตนมีมุมมองคนละมุม มองว่าสถานะทางเศรฐกิจไม่ได้จำเป็นที่ต้องกู้เงิน แต่ทางพรรคเพื่อไทยบอกว่าเศรษฐกิจไทยสาหัสมากแล้ว แล้วการกู้งบประมาณแผ่นดินก็ปกติกู้อยู่แล้ว แต่พอมองคนละจุด ก็พูดกันลำบาก ตนเสนอว่า ถ้ามี 5 แสนล้านบาท จะนำไปใช้ที่ตนเสนอ ส่วนพรรคเพื่อไทยจะเอาไปใช้กรือไม่ คงเป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าพูดว่า มีความเป็นไปได้จะนำมาใช้ ก็ยินดี ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาประเทศ ไม่สามารถทำเสร็จได้ภายใน 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบขนส่งของประเทศ ระบบสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องความเป็นจริง ยกตัวอย่าง น้ำประปาต้องใช้เวลา 8 ปี ถ้า 3 ปี เป็นไปไม่ได้ เพราะเรามองว่า เป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่ต้งอัดเงินขนาดใหญ่ในครั้งเดียว เรามองว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณครั้งเดียว และมีหนทางอื่นในการสร้าง Digital Tranformation

ที่อยู่

ไทย
Bangkok
10110

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ The Metheeผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์