สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News

สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News สำนักข่าวราษฎร เกาะติดความเคลื่อนไ

“สมศักดิ์” กำชับ 2 ส.ส.สุโขทัย เพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมใกล้ชิด ให้เร่งประสาน อบจ.สุโขทัย-ท้องถิ่น บูรณาการแก้ปัญห...
08/11/2025

“สมศักดิ์” กำชับ 2 ส.ส.สุโขทัย เพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมใกล้ชิด ให้เร่งประสาน อบจ.สุโขทัย-ท้องถิ่น บูรณาการแก้ปัญหา ช่วยบรรเทาผลกระทบ ยัน ไม่ทิ้งปัญหาน้ำท่วม เผย กำลังเดินหน้าโครงการยมฝั่งขวา ช่วยระบายน้ำมากขึ้น

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุโขทัยว่า น้ำจากลำน้ำแม่มอก แม่รำพัน ที่ล้นอ่างเก็บอ่าง จากพายุคัลแมกี ทำให้น้ำล้นสปินเวย์เข้าท่วมชุมชน และพื้นที่การเกษตรในหลายจุด ทั้งในอ.ทุ่งเสลี่ยม และอ.เมืองสุโขทัย ส่งผลให้ต้องปิดเส้นทางจราจรในหลายแห่ง โดยผลกระทบระหว่างวันที่ 1-7 พ.ย.68 มีจำนวน 7 อำเภอ 48 ตำบล 311 หมู่บ้าน 11,752 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 27,728 ไร่ ปศุสัตว์ 4,000 ตัว โรงเรียน 14 แห่ง ถนน 70 สาย รวมถึงมีพี่น้องประชาชน เข้ามาแจ้งความเดือดร้อนในเฟสบุ๊กส่วนตัวตนเป็นจำนวนมาก จึงได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้อย่างเต็มที่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย ส่วนใหญ่อยู่ในเขต 1 และ เขต 3 ตนได้กำชับ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ และ น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ ส.ส.สุโขทัย เขต 1 และเขต 3 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ประสานงานร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นการเร่งด่วน ซึ่งตนเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนและพยายามแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยมาโดยตลอด ไม่เคยทอดทิ้งปัญหา โดยล่าสุด ตนก็กำลังผลักดันโครงการยมฝั่งขวา ที่เพิ่งได้รับงบประมาณมา ซึ่งจะช่วยทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม สู่ทุ่งรับน้ำปากพระ

“เรื่องปัญหาน้ำท่วมสุโขทัย มีมาอย่างยาวนานและปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เป็นพื้นที่รับน้ำของลุ่มน้ำยมก่อนจะถึงภาคกลาง โดยส่วนตัวมองถึงระบบชลประทานในภาพรวม จุดพักน้ำ การเชื่อมโยงแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร ซึ่งยังไม่เพียงพอ การศึกษาโครงการมีมากมาย แต่ต้องฝากถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งผลักดันโครงการอย่างจริงจัง รวมถึงการให้การช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเกษตรกรโดยเร่งด่วน นอกจากนั้นยังได้ให้ ส.ส.สุโขทัย ทั้ง 4 เขต ของพรรคเพื่อไทย ประสานงานกับผู้นำท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมเพิ่มประสิทธิภาพชลประทานโดยละเอียด ซึ่งต้องยอมรับว่าในการดำเนินงานนั้นมีขั้นตอนจำนวนมาก กว่าจะได้รับงบประมาณมา ผมจึงได้กำชับให้ศึกษาพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ผลักดันงบให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด“ นายสมศักดิ์ กล่าว

#สมศักดิ์เทพสุทิน #น้ำท่วม #สุโขทัย

“สืบดอนเมือง - ทุ่งครุ” บุกจับหนุ่มมาเลเซีย แก๊งสแกมเมอร์อ้างกรมบัญชีกลาง หลอกเหยื่ออายุ 70 ปี สูญเงินกว่า 3.3 ล้านเมื่อ...
08/11/2025

“สืบดอนเมือง - ทุ่งครุ” บุกจับหนุ่มมาเลเซีย แก๊งสแกมเมอร์อ้างกรมบัญชีกลาง หลอกเหยื่ออายุ 70 ปี สูญเงินกว่า 3.3 ล้าน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวตเข้าจับกุมตัว นายแทน คา ยอง อายุ 26 ปี สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 1063/2568 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ในฐานความผิด “ ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ” พร้อมของกลางชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ กระเป๋าเป้สีดำ 1 ใบ มือถือ 2 เครื่อง ซองซิมการ์ด เอไอเอส ( ไม่มีซิม ) 1 ใบ ซิมการ์ดประเทศสิงคโปร์ ยังไม่ได้ใช้ จำนวน 4 ซิม บัตรซิมการ์ดเปล่า 1 ใบ บัตรเดบิตต่างประเทศ 3 ใบ โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยสรณคมณ์ 3 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายอายุ 70 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ ว่าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมาได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมีส่วนร่วมในการกระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า และฟอกเงิน ต่อมาได้บอกให้ผู้เสียหายแอดไลน์ “ ป.ป้อม ” ไว้คุยโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมส่งข้อความและเอกสารต่างๆให้ผู้เสียหายดู จากนั้นได้วีดีโอคอล เพื่อพูดคุย และพยายามที่จะสอบถามเรื่องทรัพย์สิน ก่อนจะบอกให้เตรียมทรัพย์สินไว้เพื่อนำส่งให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงหลงเชื่อ และยอมไปถอนเงินสดจากธนาคาร รวมถึงขายทรัพย์สินที่มี รวมจำนวน 3.3 ล้านบาท เพื่อเตรียมส่งให้ตรวจสอบ และระหว่างที่ผู้เสียหายทำธุระกรรมต่างๆ คนร้ายได้วีดีโอคอลคอยสั่งการอยู่ตลอดเวลา

เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วทางผู้ก่อเหตุได้นัดหมายให้นำเงินไปส่งที่ปั๊มแห่งหนึ่งย่านประชาอุทิศ ทุ่งครุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสน.ทุ่งครุ ต่อมามีชายรูปร่างท้วม แต่งกายสุภาพ ที่หน้าอกเสื้อมีตราสัญลักษณ์กรมบัญชีกลาง สวมแว่นสายตา สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาหาโดยทางผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้บอกให้ส่งเงินให้ชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ส่งมารับเงิน และเมื่อได้เงินไปชายคนดังกล่าวได้รีบเดินหายไป โดยคนร้ายได้บอกว่าจำนำไปตรวจสอบเป็นเวลา 3 วัน แล้วจะคืนให้ จากนั้นผู้เสียหายเริ่มเอะใจจึงเดินทางเข้าแจ้งความ

จากแนวทางการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบตัวผู้มารับเงินจากผู้เสียหายคือนายแทน คา ยอง อายุ 26 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งหลังก่อเหตุได้เข้าไปพบชายอีกคนที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง จากนั้นนายแทน คา ยอง ได้เดินออกไปจากโรงแรม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจะทราบที่พักของนายแทน คา ยอง ก่อนประสานฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง นำหมายจับเข้าจับกุมไว้ได้

เบื้องต้นจากการสอบสวนผ่านล่าม นายแทน คา ยอง ให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้ทำงานที่คาซิโนในกัมพูชา ช่วงหลังตกงานเพราะคาซิโนแจ้งว่าจะไม่รับคนต่างชาติเข้าทำงาน จึงเข้าหาทางเฟสบุ๊ก กระทั่งเจองานส่งของที่ไทยจึงเดินทางเข้ามาทำ โดยลักษณะงานจะให้ตนเองไปรับของมาส่งให้คนจ้างเท่านั้น โดยได้ค่าจ้าง 1000 พันริงกิตมาเลเซีย หรือ ประมาณ 7000 บาทไทย ส่วนที่เก็บซิมโทรศัพท์ไว้เยอะ เนื่องจากตนเองซื้อมาขายให้กับเพื่อนนักท่องเที่ยวด้วยกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ประสานฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ มารับตัวไปทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป

#สำนักข่าวราษฎร #ดอนเมือง #ทุ่งครุ #ตำรวจ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #แก๊งสแกมเมอร์

รวบทันควัน "หนุ่มหัวโล้นรอยสัก" วิ่งราวทอง 6 หมื่น ตำรวจตามรวบคาอ่อนนุช รับสารภาพ ตกงาน เสพจนหลอน อีกทั้งยังเป็นหนี้ยาบ้...
07/11/2025

รวบทันควัน "หนุ่มหัวโล้นรอยสัก" วิ่งราวทอง 6 หมื่น ตำรวจตามรวบคาอ่อนนุช รับสารภาพ ตกงาน เสพจนหลอน อีกทั้งยังเป็นหนี้ยาบ้าหลายหมื่นบาท

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2568 เวลา 11.15 น. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รักสนอง สวป.สน.พระโขนง ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ แหวนทองคำหนัก 1 บาท มูลค่าประมาณ 60,000 บาท ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น 2 ภายในห้างดัง ย่าน อ่อนนุช จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุ น.ส.ตรีนุช (สงวนนามสกุล) ลูกจ้างร้านทองอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า เมื่อเวลา 11.08 น. มีชายรูปร่างผอมสูง หัวโล้นและสักเกือบทั้งตัว สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขาสั้น ทำทีเป็นลูกค้าขอลองแหวน ก่อนจะอาศัยจังหวะเผลอ วิ่งราวแหวนทองคำหนัก 1 บาท ที่สวมอยู่ในมือหลบหนีออกทางชั้น B1 อย่างรวดเร็ว โดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ. วิ่งติดตามไปแต่คลาดกันหวุดหวิด

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามทันที และได้เบาะแสสำคัญจากร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัสสุขุมวิท 50 ซึ่ง น.ส.สุธาลินี (สงวนนามสกุล) ลูกจ้างร้านทอง ให้ข้อมูลว่า ชายผู้ก่อเหตุได้นำแหวนทองคำมาเสนอขายในเวลา 11.30 น. แต่ไม่สามารถขายได้เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน

กระทั่งเวลา 13.20 น. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รักสนอง และ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เทพิน สว.สส.สน.พระโขนง พร้อมชุดสืบสวน ก็สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้บริเวณปากซอยอ่อนนุช 1/1 ขณะกำลังเดินเท้ากลับบ้าน ทราบชื่อคือ นายชานน หรือ ต๊อก อายุ 25 ปี

จากการสอบสวน นายชานน สารภาพว่าตนเองไม่มีงานทำ และได้เสพยาบ้าจนมีอาการหลอน อีกทั้งยังเป็นหนี้ยาบ้าหลายหมื่นบาท จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ โดยหลังจากที่ขายแหวนไม่ได้ที่โลตัส นายชานนได้ไปหานายสันติ อายุ 52 ปี เพื่อชวนกันนำแหวนทองไปขายต่อที่ร้านทองในตลาดพระโขนง ได้เงินมา 57,000 บาท ก่อนจะแบ่งให้นายสันติไป 3,000 บาท และนำส่วนที่เหลือไปตระเวนใช้หนี้จนหมด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเงินคืนมาได้บางส่วนจากผู้รับชำระหนี้สองราย รวม 15,500 บาท และจะเร่งติดตามเงินส่วนที่เหลือ รวมถึงร้านทองที่รับซื้อทรัพย์สินไว้ พร้อมเตรียมออกหมายจับนายสันติในข้อหารับของโจร ส่วนนายชานน ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป

#สำนักข่าวราษฎร #ทองคำ #พระโขนง #อ่อนนุช #กรุงเทพมหานคร #กทม

07/11/2025

CLIP🛑 ชาวบ้านจันทบุรี ร้อง DSI ขอรับคดีบุกรุกเขาบ่อทอง เป็นคดีพิเศษ หวั่นตกเป็นแพะรับบาป พร้อมร้องอัยการสูงสุด ขอความเป็นธรรม ให้สอบสวนเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ — นายสุวรรณ บัวโรย ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี นำผู้ร้องในคดี “บุกรุกเขาบ่อทอง จังหวัดจันทบุรี” เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้รับเรื่องเป็น คดีพิเศษ และให้ความคุ้มครองพยาน หลังเกรงว่าจะตกเป็น “แพะรับบาป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ร้องทั้งสองคือ นางอมรรัตน์ ขำสำอาง และ นายวีระเดช ผลสวัสดิ์ ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันแผ้วถางและทำไม้หวงห้ามในพื้นที่ป่า” ตามคดีอาญาที่ 31/2568 สภ.มะขาม จ.จันทบุรี ทั้งคู่ยืนยันว่าเป็นเพียง “ผู้รับซื้อไม้ยางพารา” ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ ภ.บ.ท.5 โดยก่อนตัดไม้ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบแล้ว ซึ่งยืนยันว่าอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ต่อมาเกิดกรณีข่าว “บุกรุกเขาบ่อทอง” มีภาพรถแม็คโครขุดถางป่าในพื้นที่ ผู้ร้องระบุว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่กลับถูกดำเนินคดีแทนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ทั้งนี้ ผู้ร้องยังเผยข้อพิรุธในชั้นสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้โทรศัพท์มาขอให้ “หาเลื่อยยนต์เก่า” มาใช้เป็นของกลางในคดี ซึ่งต่อมากลับถูกใช้เป็นหลักฐานมัดตัวผู้ร้องเอง

นายสุวรรณ บัวโรย เปิดเผยว่า “ผู้ร้องทั้งสองเพียงทำการซื้อไม้ยางพาราตามขั้นตอนถูกต้อง แต่กลับถูกพาดพิงและตกเป็นผู้ต้องหาแทนบุคคลอื่น ขณะนี้มีพยานหลักฐานหลายชิ้นที่ชี้ชัดว่า ผู้กระทำตัวจริงเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพยานเท็จ”

จากนั้นเวลา 14.30 น. ของวันเดียวกัน นายสุวรรณ พร้อมผู้ร้องจะเดินทางต่อไปยัง สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และขอให้พนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรีสอบสวนเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143

นายสุวรรณกล่าวทิ้งท้ายว่า “การยื่นเรื่องครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาโจมตีหน่วยงานใด แต่เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใส และให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับความเป็นธรรม พร้อมทั้งขอให้ DSI พิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และให้ความคุ้มครองพยานอย่างเร่งด่วน”

#สำนักข่าวราษฎร #กรมสอบสวนคดีพิเศษ #เขาบ่อทอง #จันทบุรี

“ทวี สอดส่อง” ร่วมพิธีบรรจุศพ พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ณ วัดพระศรีมหาธ...
07/11/2025

“ทวี สอดส่อง” ร่วมพิธีบรรจุศพ พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ณ วัดพระศรีมหาธาตุฯ

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม และพิธีบรรจุศพ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ณ ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ

โดยในวันนี้มีพรรคเพื่อไทย, หลักสูตร ปปร. 16 สถาบันพระปกเกล้า, นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 34, จปร.5, ทหาร-ตำรวจ1834, มูลนิธิเปาอินทร์ พร้อมด้วย ภริยา บุตรธิดาและหลาน ๆ ครอบครัว พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ ร่วมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งวันนี้เป็นการสวดพระอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย และมีพิธีบรรจุศพในเวลา 19.00 น.

#สำนักข่าวราษฎร #ทวีสอดส่อง #วิโรจน์เปาอินทร์ #พรรคประชาชาติ #พรรคเพื่อไทย #หัวหน้าพรรคเพื่อไทย #วัดพระศรีมหาธาตุ #บางเขน

เปิดตัว เว็บไซต์ Activerse เพราะฮีโร่ล้วนเป็นคนธรรมดาเว็บไซต์อินเตอร์แอคทีฟที่พัฒนาในรูปแบบ Gamified Activism ชวนค้นหาว่...
07/11/2025

เปิดตัว เว็บไซต์ Activerse เพราะฮีโร่ล้วนเป็นคนธรรมดา
เว็บไซต์อินเตอร์แอคทีฟที่พัฒนาในรูปแบบ Gamified Activism ชวนค้นหาว่าตัวเองเหมาะกับ “บทบาทไหน” ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมไปด้วยกัน เพราะเชื่อว่า “เราทุกคน (ต่าง) มีพลัง เปลี่ยนโลกได้ในแบบของเรา” พร้อมงานภาพโดยศิลปิน “สะอาด” เมื่อเล่นจบ ผู้เล่นจะได้รับ Archetype Card ประจำตัว สามารถแชร์ต่อบนโซเชียลเพื่อชวนเพื่อนๆ มาร่วมค้นหาพลังของตัวเองได้

หากจะกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ หนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการชุมนุมใหญ่ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ใน พ.ศ. 2563 - 2564 ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่พลังมหาศาลของกลุ่มคนเหล่านี้ได้แสดงออกผ่านเสียงตะโกนโห่ร้อง คำปราศรัยที่ทรงพลัง และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบการชุมนุมที่หลากหลาย รวมทั้งข้อเสนอที่แหลมคมจน “ทะลุเพดาน” อย่างที่ไม่เคยปรากฏในการลุกฮือครั้งใดของประชาชน แม้หลายครั้งจะต้องเผชิญกับการปราบปรามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพลังของผู้ชุมนุมจะลดลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ ภาพอันทรงพลังเหล่านี้กลับจางหายไป เกิดอะไรขึ้นกับพลังของคนรุ่นใหม่กันแน่

รศ.ดร. กนกรัตน์ เลิศชูสกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ผู้สังเกตการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 ให้ความเห็นว่า จากการชุมนุมเมื่อ 5 ปีก่อนนั้น ในแง่ข้อเสนอยังไม่มีข้อใดที่ประสบความสำเร็จ หลังจากการชุมนุมทางการเมืองปิดม่านลง ฉากใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือ คนรุ่นใหม่ต่างกลับไปทำหน้าที่ที่พวกเขาควรจะทำตั้งแต่แรก นั่นคือการเรียนหนังสือ และการทำความเข้าใจกลไกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมที่แท้จริง หนึ่งในนั้นคือสถาบันทางการเมือง อย่างพรรคการเมือง ที่ทำหน้าที่ “ดูดซับ” ความตึงเครียดในการชุมนุมบนท้องถนน เข้าไปสู่ระบบรัฐสภา ที่ให้ทางเลือกใหม่แก่ผู้คน

“จากพื้นที่การต่อสู้บนท้องถนน ซึ่งมีต้นทุนสูง อันตราย แล้วก็ไม่เห็นชัยชนะ พรรคการเมืองเหล่านี้ดูดซับความตึงเครียด และทำให้คนมีทางเลือกในการไปต่อสู้ในพื้นที่ที่มีต้นทุนต่ำกว่า คุณไปฟังปราศรัย มู้ดเดียวกับการชุมนุมเลย คุณไปเลือกตั้ง คุณรู้เลยว่าหนึ่งเสียงของคุณมีความหมาย เพราะฉะนั้น คนรุ่นใหม่ก็รู้ว่าไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นก็ได้ เพราะว่าการชุมนุมมันเต็มไปด้วยความตึงเครียด และไม่มีการชุมนุมที่ไหนในโลกอยู่ได้นาน และการชุมนุมประท้วงอย่างเดียวเป็นแค่พื้นที่แสดงพลัง อัตลักษณ์ แต่ไม่ใช่พื้นที่ในการเปลี่ยนแปลง” กนกรัตน์กล่าว

แม้กระแสการชุมนุมจะเงียบเหงา แต่สำหรับกนกรัตน์ นี่คือความเงียบที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่กว่า “สังคมโลก ต่อให้มันเปลี่ยน มันไม่เคยเปลี่ยนตอนชุมนุมประท้วง มันเปลี่ยนหลังจากชุมนุมประท้วงหลายปี แต่สิ่งที่เราบอกก็คือว่า มันเปลี่ยนจากยุคแห่งความเงียบ (Silenced Period) สู่ยุคทอง (Golden Period) คือเป็นช่วงเวลาที่การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงมันเติบโตและเบ่งบานในพื้นที่ที่ไม่อันตรายอีกแล้ว” กนกรัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ขบวนการคนรุ่นใหม่พัฒนาสู่รูปแบบใหม่ ความท้าทายที่สำคัญคือ ทำอย่างไรให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวในระยะยาว” กนกรัตน์มองว่า ขบวนการคนรุ่นใหม่จำเป็นต้อง “Organize” ได้แก่ การยกระดับความรู้ความเข้าใจโครงสร้างทางการเมือง การนำเสนอบทเรียนจากความสำเร็จในที่อื่นๆ ทั่วโลก รวมทั้งการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างความเป็นเพื่อน เพื่อการทำงานในระยะยาว ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมากกว่าการระดมมวลชน เมื่อขบวนการคนรุ่นใหม่ได้แปรสภาพสู่การเป็นกลุ่มองค์กรเพื่อสังคม คำถามจึงมากกว่าการเลือกที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม แต่คือการหาตำแหน่งแห่งที่ของแต่ละคนในขบวนการเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงเปิดตัว “Activerse” เว็บไซต์อินเตอร์แอคทีฟ ที่เชิญชวนคนทั่วไปให้เข้ามาทดลองเล่นเกม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Gamified Activism” เพื่อค้นหาตัวตนและสไตล์ของตัวเองในการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

จอนปรอท วงษ์เทศ เจ้าหน้าที่สื่อสารดิจิทัลแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และผู้จัดการโครงการ เล่าถึงที่มาของ Activerse ว่าเห็นคนรุ่นใหม่หลายคนอยากเห็นสังคมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่พอถามว่าจะทำอะไรได้บ้าง คำตอบที่ได้ยินบ่อยๆ คือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงหรือเราคงทำไม่ได้ เพราะเวลาคิดถึงนักกิจกรรม ภาพที่คิดขึ้นมาในหัวมักจะเป็นคนที่ขึ้นเวที ชูป้าย หรือเดินขบวนประท้วง ซึ่งเป็นการกระทำที่ทรงพลังและใช้ความกล้ามาก แต่หลายคนรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม หรืออาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถนัด จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา

"เราจึงออกแบบ Activerse ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการทดลองและค้นหาตัวเอง ที่นี่ทุกคนสามารถลองเล่น เลือกทาง และค้นพบว่าตัวเองมีพลังแบบไหน โดยไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใคร เราอยากส่งเสริมให้ทุกคนได้เคลื่อนไหวในแบบที่เหมาะกับตัวเอง ผ่านภาษาที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคย เช่น การ์ตูน แบบทดสอบบุคลิกภาพ และการเล่าเรื่องแบบโต้ตอบได้ เพื่อพาพวกเขาเข้าสู่โลกของการมีส่วนร่วมทางสังคม โดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกบรรยายหรือสอน แต่เป็นการให้พวกเขาได้ค้นพบด้วยตัวเอง" จอนปรอทอธิบาย

"สิ่งที่เราอยากให้ผู้เล่นได้รับมากที่สุด คือความรู้สึกว่าเราก็มีพลังนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ความรู้สึกว่าเราควรจะเป็นแบบนี้หรือเราต้องทำแบบนั้น แต่เป็นการยอมรับว่าเราเป็นแบบนี้อยู่แล้วและมันมีคุณค่า และที่สำคัญคือเราอยากให้พวกเขารู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนอื่นๆ ที่มีพลังคล้ายกัน มีคนที่มีพลังต่างกันแต่เติมเต็มกันได้ และทุกคนต่างก็ต้องการกันในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ถ้าพวกเขาออกจากหน้าจอไปแล้วคิดว่าเราทำอะไรได้บ้าง มากกว่าคิดว่าเราทำอะไรไม่ได้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว" จอนปรอทกล่าวทิ้งท้าย

ปัณณสิษฐ์ จิวะพงศ์ หนึ่งในทีมผู้สร้างสรรค์ Activerse กล่าวว่า เว็บไซต์นี้ประกอบขึ้นจากความหลงใหลในตัวละครซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel และความชื่นชอบนิทาน ออกมาเป็นสร้างตัวละครต้นแบบ (Archetypes) 6 ตัว ภายใต้เรื่องราวแนวดิสโทเปีย เกี่ยวกับเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกแห่งความเงียบ พร้อมแบบทดสอบที่ให้ผู้เล่นทดลองเล่น เพื่อหาคำตอบว่าเขาเป็นใครในการเคลื่อนไหวเพื่อเอาชนะอำนาจมืดที่กดทับสังคมอยู่

สำหรับการออกแบบตัวละครต้นแบบ ทีมผู้สร้างได้ ธนิสร์ วีระศักดิ์วงษ์ หรือ “สะอาด” นักวาดการ์ตูนผู้มีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับพลังของเด็ก เยาวชน และคนหนุ่มสาว โดยใน Activerse นี้ เขาได้ทดลองออกแบบซูเปอร์ฮีโร่ให้ดูมีความเป็นเด็กและน่ารัก แต่ว่ายังคงมีกลิ่นอายของการต่อสู้เพื่อประเด็นทางสังคมอยู่

“ถ้าเราอยากจะเล่าเรื่องในเชิงการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตัวละครที่จะเล่ามันก็ไม่พ้นคนรุ่นใหม่หรอก เพราะว่าเซนส์ของตัวละครที่อยู่ในช่วงวัยนั้นมันทำให้คนอ่านเชื่อได้ง่าย ผมแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย เพราะว่าสปิริตของคนรุ่นใหม่มันชัดอยู่แล้วในมุมมองของคนทั่วไป ว่านี่คือช่วงวัยที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลง” ธนิสร์กล่าว

ปัณณสิษฐ์เล่าว่า ในการพัฒนาเรื่องราวใน Activerse เขาได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวของผู้ที่เคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมทั้งเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ และทำให้เขาได้เข้าใจว่า “ฮีโร่ทุกคนคือคนธรรมดา”

“สิ่งที่เป็นพลังพิเศษที่แท้จริงของเขา ในเกมอาจจะเป็นคลื่นพลังต้องมนต์ สำหรับกระจายเสียง อาจจะเป็นสายฟ้าไวรัลเร็วปรู๊ดปร๊าดเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวออกไปไม่รู้จบ แต่ความจริงแล้ว พลังพิเศษเหล่านี้ของคนที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่จริงๆ มันคือความธรรมดาที่เขารู้ว่าปัญหามันเกิดขึ้นจริง และเขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา“

ด้านธนิสร์กล่าวด้วยว่า คนตัวเล็กๆ มีพลังในแบบของตัวเองที่ค่อนข้างสำคัญ มีอิสระที่จะพูดมากกว่า แล้วรวมตัวกันในกลุ่มคนเล็กๆ ด้วยกัน มันอาจจะเป็นพลังที่ไปได้ไกลกว่า

“ในยุคสมัยใหม่ ความเล็กที่กระจัดกระจายในโลกออนไลน์อาจจะดูเหมือนทำให้การรวมตัวกันทำได้ยากขึ้น ดังนั้น การเรียนรู้ที่จะสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเห็นอกเห็นใจกัน สร้างการขับเคลื่อนบางอย่างร่วมกันจากความเล็ก ผมคิดว่ามันจะมีพลังเสมอ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง มันอาจจะไม่สำเร็จตอนนี้ก็ได้ อาจจะสำเร็จโดยคนเล็กๆ คนอื่นๆ ที่มาเห็นสิ่งที่เราทำก็ได้” ธนิสร์กล่าว

ด้านปัณณสิษฐ์เสริมว่า “ทุกๆ การเคลื่อนไหว ทุกๆ การมีส่วนร่วม ทุกๆ การแก้ปัญหาของแต่ละคนที่เข้ามาเล่น มันมีส่วนสำคัญมากให้กับขบวนการนี้ในการไปต่อ เราอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ได้สำคัญ ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนไฟ มันอาจจะไม่ได้ฟังแล้วไวรัลเหมือน Spark แต่ในขณะเดียวกัน ในขบวนการของเรา เราต้องการ Guardian เราต้องการคนตัวใหญ่ๆ ที่มาโอบอุ้มทุกคน เราต้อง Architect ดีๆ สักคนในการวางแผนเพื่อให้แผนการมันรัดกุม หรือว่าต้องการ Leader ที่ทำให้สิ่งที่เราทำวันนี้มันไม่หยุดแค่นี้ แต่ออกผลต่อไป”

“สิ่งที่ผมอยากจะส่งพลังต่อไป คือพลังของทุกคนมันสำคัญ มันเสียงดังพอ และมันมีรูปแบบของตัวเอง ทุกคนคือส่วนร่วมที่สำคัญให้กับขบวนการนี้” ปัณณสิษฐ์สรุป

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกคนร่วมค้นหาพลังการขับเคลื่อนของตนเองผ่าน Activerse พื้นที่ทดลองที่ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนได้ทำความรู้จักบทบาทของผู้เปลี่ยนแปลในแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ลุกขึ้นจุดประกายการเคลื่อนไหว ผู้สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้อื่น ผู้เล่าเรื่องที่ทำให้ประเด็นยากเข้าถึงได้ หรือผู้อยู่เบื้องหลังที่วางกลยุทธ์ต่างๆ ทุกบทบาทล้วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนสังคม โดยภายใน Activerse ผู้เล่นจะได้ทำแบบทดสอบสั้นๆ พร้อมสัมผัสงานภาพจากศิลปิน “สะอาด” ที่ช่วยสะท้อนพลังภายในของแต่ละคน เพื่อย้ำว่าทุกคนมีพลังในการสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในรูปแบบของตนเอง เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จ ผู้เล่นจะได้รับ Archetype Card ประจำตัว เพื่อบ่งบอกพลังการขับเคลื่อนของตนเอง สามารถแชร์บนโซเชียลมีเดีย และเชิญชวนเพื่อนมาร่วมค้นหาศักยภาพไปพร้อมกัน สามารถร่วมเปิดประสบการณ์ Activerse ได้ที่ https://activerse.amnesty.or.th/

#สำนักข่าวราษฎร #สะอาด

“จินนี่ ยศสุดา” พร้อมอาสาทำงานการเมือง ย้ำมาด้วยใจและความตั้งใจของตัวเอง เตรียมลงสนามเลือกตั้งช่วยพรรคไทยสร้างไทยเมื่อวั...
07/11/2025

“จินนี่ ยศสุดา” พร้อมอาสาทำงานการเมือง ย้ำมาด้วยใจและความตั้งใจของตัวเอง เตรียมลงสนามเลือกตั้งช่วยพรรคไทยสร้างไทย

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นางสาวยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ หรือ “จินนี่” บุตรสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดใจถึงเส้นทางทางการเมืองของตัวเอง หลังถูกจับตามองในฐานะทายาทของคุณหญิงสุดารัตน์ โดยยืนยันอย่างชัดเจนว่า “การเมืองไม่ใช่มรดกที่ตกทอดจากแม่ แต่เป็นความตั้งใจของตัวเองตั้งแต่ต้น บ้านเราไม่ได้มีแนวคิดว่าการทำงานการเมืองของผู้ใหญ่จะต้องส่งต่อเป็นมรดก” จินนี่กล่าว

“แต่ถามว่าตัวเองมีความสนใจทางการเมืองไหม มีอยู่แล้วค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กจนโต ก็ได้ลงพื้นที่กับคุณแม่มาตลอด เรียกได้ว่าโตมาในรถเลยค่ะ เห็นทั้งความเหน็ดเหนื่อย เห็นทั้งพลัง และความตั้งใจของคุณแม่ในการทำงานเพื่อประชาชน”

จินนี่ กล่าวต่อว่า ประสบการณ์ที่ได้เห็นชีวิตของผู้คนทั่วประเทศ ทำให้ตระหนักถึงความจำเป็นของคนรุ่นใหม่ในการเข้ามามีส่วนร่วม “เราเห็นสภาพบ้านเมืองมาหลากหลาย รู้เลยว่าถ้าเรามีกำลัง มีความสามารถ และมีความรู้มากพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ก็อยากจะอาสามาทำงานการเมืองค่ะ อยากเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำให้ประเทศดีขึ้น ไม่ใช่แค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ”

เมื่อถูกถามถึงอนาคตทางการเมือง จินนี่เผยด้วยรอยยิ้มว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจเข้ามาช่วยงานอย่างเต็มตัวในพรรคไทยสร้างไทย “ตั้งใจและมุ่งมั่นมากค่ะ เพราะนอกจากจะเห็นถึงความตั้งใจของคุณแม่ที่ทำงานการเมืองมากว่า 30 ปีแล้ว ยังได้เห็นพลังของทีมงานและสมาชิกทุกคนที่จริงใจจริงจังในการแก้ไขปัญหาประเทศ”

#สำนักข่าวราษฎร #พรรคไทยสร้างไทย #จินนี่ #ยศสุดา #คุณหญิงสุดารัตน์ #สุดารัตน์

“พลรักษ์ รักษาพล” อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดี เครือหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ก้าวสู่ปีท...
07/11/2025

“พลรักษ์ รักษาพล” อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดี เครือหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ก้าวสู่ปีที่ 36

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นายพลรักษ์ รักษาพล อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ร่วมแสดงความยินดี การก้าวสู่ปีที่ 36 หนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ, ผู้จัดการออนไลน์, Manager Online,ASTV และ News1 โดยมี นายวัฒนะชัย ยะนินทร บรรณาธิการ เว็บสำนักข่าวเครือผู้จัดการ และ นายอนุชา นุ่มเจริญ ผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ ณ บ้านเจ้าพระยา แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

#สํานักข่าวราษฎร #ทวีสอดส่อง #พลรักษ์รักษาพล #ผู้จัดการ #กระทรวงยุติธรรม

“เพื่อไทย” เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เพิ่มอีก 31 คน “อดีตเลขาธิการ ป.ป.ส.” ลงสมัครพะเยา เขต 1 - ลูกชายเก่ง การุณ-สุไพรพล เพ็ญ...
07/11/2025

“เพื่อไทย” เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เพิ่มอีก 31 คน “อดีตเลขาธิการ ป.ป.ส.” ลงสมัครพะเยา เขต 1 - ลูกชายเก่ง การุณ-สุไพรพล เพ็ญแขลงสมัคร กทม. “จุลพันธ์” ย้ำ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ มั่นใจนำประชาชนสู่ชัยชนะ

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พะเยา และรองหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและรองหัวหน้าพรรค นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรองหัวหน้าพรรค นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมเปิดผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส. พรรคเพื่อไทยจาก 18 จังหวัดรวม 31 คน รวมมีผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.แล้ว 265 เขตเลือกตั้ง เตรียมสู้ศึกชิงชัยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
โดยนายจุลพันธ์ ได้กล่าวต้อนรับผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งว่าวันนี้เป็นการแสดงความพร้อมและศักยภาพของพรรคเพื่อไทย ที่มีผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่มีชื่อเสียง อยู่เกาะติดพื้นที่ เป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชน พรรคคัดสรรแต่บุคคลที่มีอุดมการณ์ตรงกับพรรคเพื่อไทย ทำงานในพื้นที่ต่อเนื่อง ลงพื้นที่พบปะพี่น้องและต้องมีแนวโน้มจะได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. ทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ในการเปิดตัวรอบนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งนำหน้าพรรคอื่นโดยมีการเปิดตัวแล้ว 3 รอบ วันนี้เปิดตัว 31 คน รวมทั้งสิ้น 265 เขตเลือกตั้ง
“ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจ เราพร้อมนำนโยบายที่ดี นำแสงสว่างทางออกมาให้ประชาชน เรามีเวลา 3-4 เดือนก่อนเลือกตั้งใหญ่ ขอให้ทุกคนลงพื้นที่หาประชาชนแนะนำตัว นำนโยบายไปมอบให้ ผมเชื่อว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากประชาชน และชัยชนะจะเป็นของพรรคเพื่อไทยและพร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งถัดไป และนำนโยบายไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน เดินพร้อมกับพรรคเพื่อไทยและสู้ไปด้วยกัน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ล้วนแต่เป็นคนที่มีคุณภาพ มีความตั้งใจจริงในการทำงานรับใช้พี่น้อง และเชื่อมั่นว่าหากเราทำงานกันหนักก็จะมีโอกาสได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนแน่นอน

รายชื่อผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ในวันนี้ มีดังต่อไปนี้
1. นางสาวปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่
2. นายบัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่
3. นายวิชัย ไชยมงคล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.พะเยา
4. นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.อุดรธานี
5. นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กาฬสินธุ์
6.นายชนะวุธ อุทโท ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กาฬสินธุ์
7.นายรุ่งโรจน์ เย็นสบาย ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ขอนแก่น
8. นายพิเชษฐ์ กุมารสิทธิ์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ยโสธร
9.นายสนั่น พัชรเตชโสภณ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชัยภูมิ
10. นายวัชรากร เลิศด้วยลาภ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา
11. นายวัชรพล เชื้อคง ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.อุบลราชธานี
12. นายอิสระพงษ์ อุประ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.สกลนคร
13. นางสาวณัฐณิชา บุรณศิริ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.พระนครศรีอยุธยา
14. นางสาวธนพร โสมทองแดง ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.พระนครศรีอยุธยา
15. นายพหล วรปัญญา ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ลพบุรี
16. นายนัฐยุทธ ภู่สุวรรณ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.สิงห์บุรี
17. นายณษกร เครือศิริ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.อ่างทอง
18. นายไก่ ห้องริ้ว ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ราชบุรี
19. นายรัฐตะ ดิศโพธิ์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ปทุมธานี
20. นายษรกฤต ผลลูกอินทร์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชลบุรี
21. นายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชลบุรี
22. นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชลบุรี
23. นายญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
24. นางสาวบุณยกร ดำรงรัตน์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
25. นายสหัสวรรษ วีระมงคลกุล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
26. นายพุฒิพงศ์ อินทรสุวรรณ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
27. นายภูมิพัฒน์ โหสกุล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
28. นางสาวชนิดาภา สงวนพวก ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส. กทม.
29. นายวิชญ์วิสิษ โชติกิจพิศาล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
30. นายประเวช แสวงสุข ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
31. นายสุไพรพล ช่วยชู (เพ็ญแข) ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.

#สํานักข่าวราษฎร #พรรคเพื่อไทย #เพื่อไทย #จุลพันธ์อมรวิวัฒน์

07/11/2025

LIVE! เพื่อไทย เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส. ล็อต 3 หลายจังหวัด #เพื่อ

06/11/2025

CLIP🔴 ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู แจงปม กู้ภัย 2 มูลนิธิชื่อดัง ทะเลาะไล่ยิงสนั่นถนนลาดพร้าวคืนลอยกระทง ยอมรับลูกน้องไปชกก่อน เพราะสงสัยว่าอีกฝั่งมีปืN เลยต้องป้องกันตัวไว้ก่อน ย้ำ เรื่องนี้ชนวนเหตุไม่ได้จากการแย่งคนเจ็บ

#สํานักข่าวราษฎร #มูลนิธิร่วมกตัญญู #ลาดพร้าว #วังทองหลาง #กู้ภัย #สยามรวมใจ #ปู่อินทร์

“ปอ ปิฎก“ สามีแพทองธาร เข้าเยี่ยม ”ทักษิณ ชินวัตร“ ที่เรือนจำคลองเปรมเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2568 เวลา 09.00 น. ที่เรือนจำกลา...
06/11/2025

“ปอ ปิฎก“ สามีแพทองธาร เข้าเยี่ยม ”ทักษิณ ชินวัตร“ ที่เรือนจำคลองเปรม

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2568 เวลา 09.00 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม กทม. นายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังเรือนจำกลางคลองเปรม

โดยในวันนี้นายปิฎก เดินทางมาพร้อมกับ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ

#สํานักข่าวราษฎร #ปิฎกสุขสวัสดิ์ #ทักษิณชินวัตร #เรือนจำกลางคลองเปรม

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์