สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News

สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News สำนักข่าวราษฎร เกาะติดความเคลื่อนไ

ป.ป.ส. ลุยเผายาเสพติดล็อตใหญ่ 26 ตัน ปิดบัญชียาบ้า 139 ล้านเม็ด ย้ำปราบจริงจัง ไม่ได้จบที่การจับกุม แต่จะสมบูรณ์เมื่อของ...
22/08/2025

ป.ป.ส. ลุยเผายาเสพติดล็อตใหญ่ 26 ตัน ปิดบัญชียาบ้า 139 ล้านเม็ด ย้ำปราบจริงจัง ไม่ได้จบที่การจับกุม แต่จะสมบูรณ์เมื่อของกลางเหล่านี้ถูกทำลายจนหมดสิ้น

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 10 ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) โดยมี พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยคณะทำงานจากหน่วยงานภาคี อาทิ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.), กองบังคับการตำรวจทางหลวง, สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และสักขีพยานภาคประชาชนจากกลุ่มศิลปินและผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมยืนยันความโปร่งใสในการทำลายยาเสพติดของกลางจาก 1,304 คดี ซึ่งมีน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มกว่า 26.04 ตัน

การทำลายยาเสพติดครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมีศิลปินและผู้มีชื่อเสียงเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ได้แก่ คุณปอ อรรณพ ทองบริสุทธิ์, คุณอาร์ท เอกรัฐ ตะเคียนนุช และ คุณเบนซ์ จิรายุ จันทรวงศ์ (ขมคอ Story) เพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน สำหรับยาเสพติดของกลางที่ถูกนำเข้าสู่เตาเผา มีน้ำหนักสุทธิเฉพาะตัวยาเสพติดรวม 21.60 ตัน ยาบ้า 139 ล้านเม็ด หรือ 13,894.95 กิโลกรัม, ไอซ์ 6,075.53 กิโลกรัม, คีตามีน 1,439.86 กิโลกรัม, เฮโรอีน 173.86 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทอื่นๆ รวมกว่า 20 กิโลกรัม

นายยู่สิน กล่าวเน้นย้ำว่า “การทำลายยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 26 ตันในวันนี้ เป็นการตอกย้ำนโยบายที่เข้มแข็งของรัฐบาล นับเป็นครั้งที่ 10 ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเมื่อรวมกับครั้งที่ผ่านมา ได้ทำลายยาเสพติดไม่ให้กลับสู่สังคมได้แล้วกว่า 203 ตัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่เอื้อให้สามารถจัดการของกลางได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส การมีคณะทำงานจากทุกภาคส่วน รวมถึงสักขีพยานภาคประชาชนที่เป็นผู้มีชื่อเสียงมาร่วมในวันนี้ คือเครื่องยืนยันที่ชัดเจนที่สุดว่าทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบได้ ไม่ได้แค่ปราบปราม แต่ทำลายวงจรให้สิ้นซาก และจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”

ด้าน พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ กล่าวเสริมว่า “ภายใต้การนำของท่านรัฐมนตรีฯ ทวี สอดส่อง สำนักงาน ป.ป.ส. ขอเรียนว่า ยาเสพติดทุกล็อตที่เห็นในวันนี้ คือผลจากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เสี่ยงภัยอยู่แนวหน้า ภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ส. ไม่ได้จบที่การจับกุม แต่จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อของกลางเหล่านี้ถูกทำลายจนหมดสิ้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อปกป้องสังคมและอนาคตของลูกหลานเราทุกคน”

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566 จนถึงปัจจุบัน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ทำลายยาเสพติดของกลางไปแล้วรวมทั้งสิ้น 10 ครั้ง จาก 2,117 คดี คิดเป็นน้ำหนักยาเสพติดสุทธิกว่า 203 ตัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็น ยาบ้ากว่า 1,354 ล้านเม็ด และ ไอซ์กว่า 65 ตัน สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการป้องกันยาเสพติดจำนวนมหาศาลไม่ให้กลับเข้าสู่สังคมไทย สำนักงาน ป.ป.ส. ขอยืนยันว่าจะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมาย ต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน และยาเสพติดที่จับกุมได้จะถูกจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีโอกาสเล็ดลอดกลับไปทำลายอนาคตของสังคมไทยอีกต่อไป

#สํานักข่าวราษฎร #ปปส #กระทรวงยุติธรรม #สมุทรปราการ

บุกจับ “ปลัด อบจ.มุกดาหาร” คาห้องทำงาน ฐานรีดเงินผู้ประกอบการรับเหมา พร้อมของกลาง เงินสด 200,000 บาท เมื่อวันที่ 22 สิงห...
22/08/2025

บุกจับ “ปลัด อบจ.มุกดาหาร” คาห้องทำงาน ฐานรีดเงินผู้ประกอบการรับเหมา พร้อมของกลาง เงินสด 200,000 บาท

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุม ว่าที่ ร.อ.วัทธิกรฯ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร (ปลัด อบจ.มุกดาหาร) ในความผิดฐานเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่ อบจ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตามหมายจับของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ซึ่งทรัพย์สิน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต”

พฤติการณ์ทุจริตเรียกรับเงินสืบเนื่องจากผู้ประกอบการบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งได้ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ว่าได้ทำสัญญารับจ้างโครงการปรับปรุงและเสริมถนนลาดยางกับ อบจ.มุกดาหาร จำนวนรวม 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 12.7 ล้านบาท โดยมีปลัด อบจ.มุกดาหาร เป็นผู้ลงนามว่าจ้างหลังจากบริษัทได้ทำงานเสร็จสิ้นและเบิกเงินค่าก่อสร้างไปแล้ว 2 โครงการ แต่เมื่อจะขอเบิกเงินส่วนที่เหลืออีก 5 โครงการ ปลัด อบจ.มุกดาหาร กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เบิกจ่าย โดยอ้างว่างานไม่เรียบร้อยตามสัญญา ทั้งที่ในความเป็นจริงบริษัทได้ทำงานถูกต้องตามสัญญาครบถ้วนแล้วเมื่อผู้ประกอบการเข้าพบ ปลัด อบจ.มุกดาหาร ได้เขียนข้อความลงบนกระดาษแทนการพูด เพื่อเรียกรับเงิน 10% ของวงเงินโครงการ คิดเป็นเงินประมาณ 700,000 บาท เพื่อแลกกับการตรวจรับงาน
ก่อนจะนำเงินไปมอบให้ ปลัด อบจ.มุกดาหาร ผู้ประกอบการได้เข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อรวบรวมหลักฐาน โดยได้นำเงินสดจำนวน 500,000 บาท ไปมอบให้ที่ห้องทำงาน ซึ่ง ปลัด อบจ.มุกดาหาร ได้เขียนข้อความลงบนกระดาษให้วางเงินไว้ในจุดที่กำหนด หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ทวงถามเงินส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาท

จากหลักฐานทั้งหมดนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ก่อนจะนำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เข้าจับกุมพร้อมของกลาง เงินสด 200,000 บาท ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ ในระหว่างการสอบปากคำเบื้องต้น ปลัด อบจ.มุกดาหาร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

#สำนักข่าวราษฎร #ตํารวจสอบสวนกลาง #มุกดาหาร #อบจมุกดาหาร

22/08/2025

CLIP🔴 “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับออกจากศาลแล้ว บอกผลคำพิพากษา “ยกฟ้อง” ในคดี ม.112 #มาตรา112 #ทักษิณชินวัตร #ทักษิณ

22/08/2025

ด่วน!!! ยกฟ้อง คดี ม.112 ทักษิณ ชินวัตร เจ้าตัวเดินทางกลับออกจากศาล

DSI ลงพื้นที่บุรีรัมย์ หาหลักฐานแนวเขตที่ดินเขากระโดงของการรถไฟที่ทำขึ้นตามคำสั่งศาล พบนิติกรรมต้องสงสัยในโฉนดหลายแปลง ร...
21/08/2025

DSI ลงพื้นที่บุรีรัมย์ หาหลักฐานแนวเขตที่ดินเขากระโดงของการรถไฟที่ทำขึ้นตามคำสั่งศาล พบนิติกรรมต้องสงสัยในโฉนดหลายแปลง รวมถึงหน่วยงานรัฐ 12 หน่วยงาน ชี้มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเป็นคดีพิเศษ

วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะพนักงานสืบสวนที่ 97/2568 เดินทางไปยังแขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อประสานงานและขอรับข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับที่ดินเขากระโดงที่เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือที่ดินรถไฟ เพื่อนำไปประกอบการตรวจสอบกับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่งที่ได้รวบรวมมาก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย สำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และกระทรวงการคลัง

จากการตรวจสอบพบว่า แผนที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ทำร่วมกับสำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ ตามคำสั่งศาลปกครอง แสดงพื้นที่เดิม 5,083 ไร่ แต่การวัดในระบบใหม่ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 พบพื้นที่จริง 4,414 ไร่ พร้อมตรวจสอบว่ามีสิ่งปลูกสร้างทับทางสาธารณะจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบการขออนุญาต นอกจากนี้ยังพบมีการทำนิติกรรมต้องสงสัยในโฉนดหลายแปลง รวมถึงหน่วยงานรัฐ 12 หน่วยงาน ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไป

พันตำรวจตรี ณฐพลฯ กล่าวว่า แผนที่เก่าที่ทำตั้งแต่ปี 2531 แสดงให้เห็นเส้นทางรถไฟและพื้นที่ขุดหินที่ใช้ในการรถไฟ ส่วนโฉนดบางส่วน จำนวน 513 ไร่ ที่ได้รับการรับรองแนวเขตโดยเจ้าหน้าที่การรถไฟ ยังอยู่ในเขตของการรถไฟซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป ส่วนการสร้างสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองท้องที่ เช่น อำเภอ หรือเทศบาล ในการกล่าวโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย จากสารบบของสำนักงานที่ดิน พบว่าตั้งแต่ปี 2513 - 2539 มีทั้งการรับรองและไม่รับรองจากการรถไฟ ซึ่งต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อไป หลักฐานที่ได้จากการลงพื้นที่ 3 วัน จะถูกนำเสนอเป็นลำดับขั้นตอน และมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเป็นคดีพิเศษ

#สำนักข่าวราษฎร #กรมสอบสวนคดีพิเศษ #เขากระโดง #บุรีรัมย์ #การรถไฟแห่งประเทศไทย

🛑11.35 น. เริ่มแล้ว! ศาลไต่สวน “นายกฯ แพทองธาร” ภายหลังไต่สวน “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการ สมช. เสร็จแล้ว โดยนายกฯ กล่าวสา...
21/08/2025

🛑11.35 น. เริ่มแล้ว! ศาลไต่สวน “นายกฯ แพทองธาร” ภายหลังไต่สวน “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการ สมช. เสร็จแล้ว โดยนายกฯ กล่าวสาบานว่า “จะเบิกความด้วยความสัตย์จริงทุกประการ”

#สำนักข่าวราษฎร #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #ศาลรัฐธรรมนูญ

21/08/2025

LIVE! นายกฯ แพทองธาร ขึ้นศาลไต่สวน คดีคลิปเสียงคุยฮุน เซน #ศาลรัฐธรรมนูญ

🔴09.30 น. “แพทองธาร” มาตามนัด ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนคดีคลิปเสียง “ฮุน เซน” ด้าน “เอม พิณทองทา-ปอ ปิฎก”  เดินทางมาร่วม...
21/08/2025

🔴09.30 น. “แพทองธาร” มาตามนัด ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนคดีคลิปเสียง “ฮุน เซน” ด้าน “เอม พิณทองทา-ปอ ปิฎก”  เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ

#สำนักข่าวราษฎร #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ

“ณัฐพงษ์” นำแถลงข่าวถูก “กัลฟ์” ฟ้องอาญา-แพ่ง 300 ล้าน หลังแถลงข่าว-อภิปรายโครงสร้างค่าไฟไม่เป็นธรรม ลั่นไม่หวั่นไหว-เดิ...
20/08/2025

“ณัฐพงษ์” นำแถลงข่าวถูก “กัลฟ์” ฟ้องอาญา-แพ่ง 300 ล้าน หลังแถลงข่าว-อภิปรายโครงสร้างค่าไฟไม่เป็นธรรม ลั่นไม่หวั่นไหว-เดินหน้าทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว กรณีพรรคประชาชนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากกลุ่มทุนพลังงานขนาดใหญ่ จากการเรียกร้องกรณีค่าไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรมในประเทศไทย ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลหลายสมัยที่ผ่านมา
โดยณัฐพงษ์ระบุว่าที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพลังไฟฟ้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง พรรคประชาชนเล็งเห็นว่าค่าไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่มองเห็น แต่เป็นต้นทุนในการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชนคนไทยและผู้ประกอบการทุกคนในประเทศนี้
ที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้สะท้อนปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนแฝงที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้าสำรองที่ล้นเกิน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่แผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ล้นเกินเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีก และยังมีการเปิดช่องให้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกินความจำเป็นเหมือนที่ผ่านมา
ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าพรรคประชาชนที่ผ่านมาได้ใช้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข่าว การตั้งกระทู้ถาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันให้รัฐบาลมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่นการผลักดันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดการยกเลิกโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ และ 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งช่วงต้นดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดีหลังจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้ชะลอการรับซื้อนรอบ 3,600 เมกะวัตต์ แต่ก็เป็นที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลอาศัยจังหวะที่ข่าวเงียบลง เดินหน้าการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าในส่วนนี้ต่อ โดยเปลี่ยนวิธีเป็นการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชนแทน ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีปัญหา 4 ประการด้วยกัน คือ
1) เป็นกระบวนการที่ไม่เปิดประมูลในการรับซื้อ ใช้ราคารับซื้อเดิมทั้งที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงทุกปี แต่รัฐบาลกำลังจะรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนที่แพงเกินจริง 2) ไม่มีการเปิดเผยเกณฑ์การให้คะแนนก่อนการเริ่มกระบวนการคัดเลือก ซึ่งที่ผ่านมาศาลก็เคยมีแนววินิจฉัยแล้วว่ากระบวนการเช่นนี้ไม่ถูกต้องไม่โปร่งใส 3) ไม่มีเหตุผลรับรองใดว่าประเทศไทยมีความจำเป็นต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติม เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยมีไฟฟ้าสำรองที่ล้นเกินอยู่แล้ว และ 4) กระบวนการนี้เป็นการกีดกันการแข่งขัน เนื่องจากล็อกสิทธิให้เฉพาะกลุ่มทุนเดิมที่เคยเข้าร่วมหรือยื่นไว้ในปี 2565 เท่านั้น ที่มีสิทธิ์เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก
ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ตนและเพื่อนสมาชิกพรรคประชาชนได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งล่าสุดที่มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการในการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า หรือนโยบายพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนมาถึงสมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือจากการทำหน้าที่ของพวกเราในฐานะผู้แทนราษฎร ตนและเพื่อน สส. อีกสองคนกำลังถูกบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดี สำหรับตนถูก บริษัท กัลฟ์ เจพีเอ็นเอส จำกัด ฟ้องในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 100 ล้านบาท จากกรณีที่ตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนวรภพและศุภโชติถูก บริษัท กัลฟ์ เดเวล็อปเมนท์ ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในลักษณะเดียวกัน พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งคนละ 100 ล้านบาทเช่นเดียวกัน จากกรณีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสามคนสามคดี มูลค่าความเสียหายทางแพ่ง 300 ล้านบาท
ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าพรรคประชาชนยืนยันว่าการแถลงข่าวและการอภิปรายของพวกเราทั้งหมดที่ผ่านมา ในการเรียกร้องเพื่อทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริตในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การฟ้องร้องดำเนินคดีพวกเราในครั้งนี้ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนพลังงานหรือกลุ่มใด จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหวหรือหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยในส่วนคดีของตน ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งตนจะเดินทางเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง และขอเชิญชวนประชาชนและสื่อมวลชนทุกคนได้ร่วมติดตามการทำหน้าที่ของพวกเราในการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรม รวมถึงติดตามความคืบหน้าคดีที่พวกเราทั้งสามคนถูกดำเนินคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อทวงคืนค่าไฟที่โปร่งใสและเป็นธรรมสำหรับประชาชนทุกคน

#สํานักข่าวราษฎร #เท้งณัฐพงษ์ #พรรคประชาชน #กัลฟ์ #ประชุมสภา

"ภูมิธรรม“ แถลงจับยาไอซ์ 700 โล โลโก้ทุเรียน สกัดกั้นได้แถวเชียงดาว จ.เชียงใหม่  เตรียมส่งออกไปไต้หวัน ย้ำ ทุกภาคส่วนปฏิ...
20/08/2025

"ภูมิธรรม“ แถลงจับยาไอซ์ 700 โล โลโก้ทุเรียน สกัดกั้นได้แถวเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เตรียมส่งออกไปไต้หวัน ย้ำ ทุกภาคส่วนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดเข้มข้นต่อเนื่อง ไม่เป็นแค่ไฟไหม้ฟาง เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน

วันนี้ (20 ส.ค. 68) เวลา 10.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมด้วย ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ชั้น 2 ตำรวจภูธรภาค 5 ถ.มหิดล จ.เชียงใหม่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้ สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เวลา 01.12 น. โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 335 สกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด บริเวณพื้นที่บ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยานพาหนะ และขยายผลพิสูจน์ทราบและตรวจยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 28 กระสอบๆ ละ 25 กิโลกรัม รวม 700 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์โตโยต้า ไทเกอร์ ตอนเดียว สีบรอนทอง ติดโครงเหล็ก ได้ของกลางยาไอซ์ 700 กิโลกรัม เป็นการดำเนินการภายใต้ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ของรัฐบาล และมีปฏิบัติการ No Drugs No Dealers หนุนเสริมให้ปฏิบัติการมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยให้ทุกส่วนร่วมกันเพื่อให้ยุติปัญหาภัยคุกคามยาเสพติดทุกระดับ
"ปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ เป็นเครื่องยืนยันว่าเมื่อทุกหน่วยงานร่วมมือกันอย่างจริงจัง เราก็สามารถที่จะตัดวงจรการลำเลียงและการค้ายาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม วันนี้เราต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพราะยาเสพติดเป็นเรื่องที่ค้างคาจนประชาชนทุกหย่อมหญ้าได้รับความเดือดร้อน ถ้าสิ่งเหล่านี้ยังถูกปล่อยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยมันจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน ปฏิบัติการลักษณะนี้เราจะทำอย่างต่อเนื่องต่อไป มันจะไม่เป็นแค่ไฟไหม้ฟางที่จะหายไป จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกัน ค้นหาดำเนินการอย่างจริงจัง ผู้ค้าจะต้องถูกดำเนินคดี ผู้เสพจะต้องเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟู และเร่งนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูเพื่อคืนคนดีลูกหลานกับเข้าสู่ครอบครัว คืนคนดีให้กลับมาเป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศต่อไป" นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนได้รับรู้เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมืออย่างกว้างขวาง สะท้อนถึงความทุ่มเทเสียสละและความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ทำงานอย่างเข้มข้นต่อเนื่องภายใต้ความเสี่ยง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดได้เข้ามาสู่สังคมไทย
ด้านเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ยาไอซ์ล็อตนี้มี Package เป็นตราทุเรียน ซึ่งเราได้ทำการตรวจโปรไฟล์ตราทุเรียน เคสนี้เป็นเคสที่ 6 ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งล็อตนี้ไม่ได้ใช้ที่เมืองไทย จากการตรวจสอบจะถูกส่งไปที่ไต้หวัน ซึ่งเราได้ประสานทางการข่าวทราบว่า ล็อตนี้ถูกส่งออกจากย่างกุ้ง จะไปไต้หวัน โดยพักยาที่อินโดนีเซีย จึงยืนยันว่ายาล็อตนี้เป็นปัญหาของมวลมนุษยชาติเราต้องแก้ไขกันอย่างจริงจังเพื่อแก้ไข โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัญหาเฮโรอีน ยาไอซ์ บ้านเราเป็นทางผ่านไปประเทศที่ 3 ซึ่งรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้ ป.ป.ส. ได้ร่วมกับทางจีนและประเทศต่าง ๆ บูรณาการร่วมกันในลักษณะความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้หมดสิ้นไปอย่างยั่งยืน

#สำนักข่าวราษฎร #ภูมิธรรม #กระทรวงมหาดไทย #เชียงใหม่

20/08/2025

#ชูกล้าFree : Ep 121 | 'เพื่อไทย' โรงงานผลิตนายกฯ-เมืองไทยเมืองพุทธ จะมีคาสิโนไปทำไม เอาเงินไปแจกพระให้สีกาเล่นพนันเว็บเถื่อนดีกว่า �

- นายกฯ รอดแต่ไม่จบ : กลับมาทำงานต่อแต่เจอแรงเสียดทานไม่หยุดจากอนุรักษ์นิยมจัด ส้มยังเรียกร้องลาออก-ยุบสภา ทั้งที่ทางตันหมดแล้ว ม.272 ตายสนิท นายกฯคนนอกฝังกลบไปพร้อมกัน

- เวียดนามดัน EC ไทยยังฝังหัวสัญญาไม่เอาเข้าสภา : เพื่อนบ้านโกย GDP-FDI-ท่องเที่ยว ขณะที่ไทยปลุกผีสลิ่มศีลธรรมใหม่เก่า ปล่อยเงินพนันไทยไหลชายแดนเขมร–พนมเปญแทน?

- ชนชั้นกลางถามดัง ๆ : เพื่อไทยทำอะไรอยู่? มีนโยบายอะไรให้พวกเราบ้างค๊าาาาาาาาาาาาาาา

“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ“ อดีตแกนนำ นปช. เดินทางมาศาล ลุ้นฟังคำตัดสิน คดีชุมนุมขับไล่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เมื่อปี 2552วันที่ 20 ส.ค...
20/08/2025

“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ“ อดีตแกนนำ นปช. เดินทางมาศาล ลุ้นฟังคำตัดสิน คดีชุมนุมขับไล่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เมื่อปี 2552

วันที่ 20 ส.ค. 2568 เวลา 09.00 น. ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี นปช.ก่อความไม่สงบ หมายเลขดำอ.968/2561ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ หรือ วีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (ปธ.นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. คนอื่นๆ รวม 10 คนเป็นจำเลย 1-10 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 9 เม.ย. 52 พวกจำเลยร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากองคมนตรี

สำหรับจำเลยทั้ง 10 คนประกอบด้วย

1. นายวีระกานต์ หรือวีระ มุสิกพงศ์

2. นายจตุพร พรหมพันธุ์

3. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

4. นพ.เหวง โตจิราการ

5. นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร

6. นายนายณรงศักดิ์ มณี

7. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท

8. นายพิพัฒน์ชัย หรือสมชาย ไพบูลย์

9. นายพายัพ ปั้นเกตุ

10. นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง

จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวคนละ 2 แสนบาท

#สํานักข่าวราษฎร #คนเสื้อแดง #นปช #ศาลอาญา #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์