InfoJourney สาระความรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และเรื่องรอบโลกที่จะพาเพื่อน ๆ ไปมองโลกในมุมที่กว้างขึ้น :)

เกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถานที่และวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจรอบโลก ถ่ายทอดผ่านภาพอินโฟกราฟิกและรูปภาพที่สบายตา

สนใจงานโฆษณาหรือจัดทำภาพ Infographic พร้อมบทความ ติดต่อได้ที่ [email protected]

ทำไมเนเธอร์แลนด์ถึงเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีภูเขาสูง ? 🇧🇶⛰️🤔เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงรู้จักเกี่ยวกับฉายาของประเทศนี้กันอยู่...
24/10/2024

ทำไมเนเธอร์แลนด์ถึงเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีภูเขาสูง ? 🇧🇶⛰️🤔

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงรู้จักเกี่ยวกับฉายาของประเทศนี้กันอยู่แล้ว ว่าเป็นดินแดนแห่งกังหันลม ดินแดนที่เต็มไปด้วยแม่น้ำ บ้านเรือนหลังเล็กน่ารัก 🏡

แต่ว่า… เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ? ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ค่อยมีภูเขาสูง 😮
ซึ่งเพื่อน ๆ ที่เคยไปมา ก็คงอุทาน เอ้อ วะ ! เที่ยวเพลินจนลืมนึกไปเลย 😅
หรือเพื่อน ๆ ที่ดูสารคดีก็จะเห็นว่า footage ส่วนใหญ่เขาจะถ่ายเน้นไปที่ตัวกังหันลม การออกแบบตัวเมือง แต่ถ้ามองที่วิวทิวทัศน์ก็จะชินตากับทุ่งหญ้าเขียวขจีแทน

ว่าแต่…ทำไมกันละ ?
เพราะพื้นที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเหรอ ?
แล้วถ้าอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล.. แล้วประเทศไม่จมเหรอ ? 🤔

— — — — — — — — — — — — — — — — — —

🇧🇶 ประเทศ Netherland หรือ ตามภาษาดัตช์ก็คือ “Nederland”
โดย “Neder” แปลว่า ต่ำ
ส่วน “Land” ก็ตรงตัวเลยแปลว่าแผ่นดิน

สำหรับภาษาอังกฤษ เขาก็เปลี่ยนการใช้ตัวอักษรอย่าง ตัว “D” ปรับมาให้เป็น “Th” เพื่อที่จะได้ออกเสียงให้เหมือนกับชาวดัตช์เรียกชื่อประเทศตัวเอง

ดินแดนของประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ซึ่งมีจุดต่ำสุดในแผ่นดิน อยู่ใกล้ที่ลุ่มใกล้กับเมืองรอตเตอร์ดัม ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 22 ฟีต หรือ ประมาณ 6.7 เมตร เลยทีเดียว !
และพื้นที่ส่วนใหญ่เกิน 50% ก็อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมาตรฐานเกือบหมด
โดยที่ประชาชนเกือบ 25% ของประเทศเนี่ย เขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ระดับต่ำตรงนี้ด้วยนะ (เอาเรื่องเลยย)

ถ้าเปรียบเป็นสระว่ายน้ำก็คงเป็นสระที่ลึกจนจมมิดหัว
ถ้าเปรียบเป็นตึกก็เสมือนตึก 2 ชั้นครึ่งเลยทีเดียว 🏊‍♀️

ต้องบอกต่อว่า สาเหตุที่ประเทศนี้ มีระดับที่ต่ำกว่าน้ำทะเล ก็เพราะว่าเดิมทีมันไม่ใช่ดินแดนเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยมาก่อน มีเพียงแค่น้ำทะเล
แต่ว่าด้วยแรงและสติปัญญาของชาวดัตช์ในอดีต ที่เนรมิตแผ่นดินขึ้นกลางทะเล 🌊

เรื่องราวนี้อาจต้องย้อนไปไกลถึงช่วงประมาณปี ค.ศ. 1100
คือเดิมทีพื้นที่ของเนเธอร์แลนด์ เคยเป็นของจักรวรรดิโรมันมาก่อน จนต่อมาโรมันล่มสลาย แผ่นดินตรงนี้เลยกลายเป็นแคว้นอิสระ

เหล่าแคว้นอิสระก็ค่อย ๆ รวมตัวกัน (และมีเรื่องราวของศาสนาคริสต์และผู้อพยพเข้ามาทำให้ชาวดัตช์รวมตัวกันง่ายขึ้น)

ว่าแต่ เอ…ในสมัยนั้นไม่มีเทคโนโลยีทุ่นแรง แล้วพวกเค้าเนรมิตยังไงนะเหรอ ?
ว่าง่าย ๆ คือ ใช้แรงกายเป็นหลักเลยละ ! กล้ามเนื้อไหล่และหลังล้วน ๆ 💪

คือ ชาวดัตช์ในสมัยก่อนเขาก็ทำการประมงเพื่อเลี้ยงชีพกันอยู่แล้ว
จึงไปพบกับส่วนของแผ่นดินที่ตื้นเขินขึ้นมาหน่อย (จนทำให้จับปลาได้ง่าย)

พลันคิดว่าไปว่า เอ้อ ! ถ้าไอแผ่นดินตรงบริเวณนี้ มันถูกกั้นจากน้ำทะเลลึก ก็อาจจะทำให้กลายเป็นแผ่นดินได้สินะ !
พวกเค้าจึงเริ่มเอาหิน เอาทรายและดินมาถมลงไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งมีส่วนบริเวณหนึ่งที่ปิดรอบเป็นวงกลมเชื่อมส่วนอื่น ๆ ของแผ่นดิน
หรือที่เราพอจะคุ้นกับคอนเซ็ปต์ของ “เขื่อน”

พอได้พื้นที่บริเวณที่เป็นเขื่อนได้แล้ว
เขาก็ค่อย ๆ วิดน้ำออกจากเขื่อน จนน้ำแห้งเหลือแค่ดินและหินที่มาถม
ปัญหาคือ ดินที่แห้งจากน้ำทะเล มันก็เค้มมเค็มเกินกว่าจะปลูกอะไรได้

ชาวดัตช์เลยต้องใช้ความอดทนเข้าไปอีก
รอจนกว่า น้ำจืดในแม่น้ำจะค่อย ๆ ไหลมา
รอจนกว่า ฝนจะตกจนชะล้างความเค็มออกไป 🌧️

จากนั้นก็..วิดน้ำขังตรงนี้ ออกไปอีกรอบบบ…จนได้แผ่นดินที่สมบูรณ์ต่อการเพาะปลูก(ทั้งบ้านและพืช) และต้องหมั่นสร้างความแข็งแรงให้เขื่อน ไม่ให้น้ำเค็มจากทะเลของนอกไหลกลับเข้ามา

ลำบากขนาดนี้ ชาวดัตช์จะมาตั้งดินแดนใหม่ให้มันยุ่งยากทำไมนะ ? 🤔😅

ย้อนกลับไปยังเรื่องราวของต้นกำเนิดชาวดัตช์ ที่บอกว่ามาจากผู้อพยพและผู้ที่มีทัศนคติทางศาสนาที่คล้ายคลึงกัน อาจเรียกได้ว่า ชาวดัตช์เองก็เข้าตาจนเหมือนกัน ต้องหาถิ่นที่อยู่ ไม่งั้นก็ต้องเร่ร่อน

อีกทั้งดั้งเดิมแล้ว บรรพบุรุษของชาวดัตช์บางส่วน คือ ชาวชนเผ่าเคลต์ ชนเผ่าโบราณที่อาศัยอยู่ทั่วยุโรปกลาง ทำให้พวกเค้าต้องย้ายถิ่นฐานไป บางส่วนก็ไปตั้งรกรากทางฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส (แคว้นบริททานี) บางส่วนข้ามเกาะไปยังเกาะอังกฤษ และบางส่วน…ต้องหนีมาสร้างดินแดนกลางทะเล (ก็คือดินแดนเนเธอร์แลนด์นี่ละ) 🇫🇷🇬🇧

นอกจากนั้นแล้ว ชาวเยอรมันบางส่วน (เผ่าฟรีเซน เผ่าซัคเซิน) ก็ได้อพยพหนีพวกขาวโรมันมายังดินแดนเนเธอร์แลนด์แห่งนี้ด้วยเหมือนกัน 🇩🇪

จนกระทั่งมาถึงการสู้รบกันระหว่างศาสนา
รวมไปถึงสงครามภายในศาสนาคริสต์ (คาทอลิก vs โปรเตสแตนต์)
กลุ่มชาวโปรเตสแตนต์ก็ต้องรวมตัวกันมาอพยพตั้งหลักกันที่เนเธอร์แลนด์อีก.. (เรื่องนี้ยาวมากกก)

อะ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชาวดัตช์มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
มีความกลมเกลียวและแข็งแกร่ง เพราะว่ากลุ่มผู้อพยพนี้ ต้องการความอยู่รอด จึงไม่แปลกที่พวกเค้าเหล่านี้จะเนรมิตรดินแดนกลางทะเลขึ้นมาได้ นั่นเอง


และต้องบอกว่าด้วยความลำบากตรงนี้เอง ทำให้ชาวดัตช์ได้คิดค้นพลังงานทดแทน ด้วยการประดิษฐ์กังหันลมมาช่วยวิดน้ำแทน

แต่หลังจากที่ชาวดัตช์รู้จักกับพลังงานไฟฟ้าแล้ว… กังหันลมก็ค่อย ๆ เริ่มกลายเป็นอดีตไป

ถึงแม้ว่าปัจจุบันประเทศเนเธอร์แลนด์จะไม่ค่อยได้ใช้กังหันลมเป็นพลังงานหลักแบบเมื่อก่อนแล้ว

แต่กังหันลมได้กลายเป็นภาพจำของชาวต่างชาติหลาย ๆ คนว่าประเทศนี้คือดินแดนที่กังหันลม นั่นเองเด้อ (แต่จริง ๆ เค้าก็ยังใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนมาช่วยผลิตกระแสไฟฟ้านะ) ⚡

กระนั้นแล้ว เพื่อน ๆ อาจเคยเข้าใจว่าเนเธอร์แลนด์น่าจะมีบริษัทผลิตพลังงานจากกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดโลก

❎แต่ว่า..แอ้ดแอ้ดด ผิดนะจ้าาา คำตอบคือ บริษัท Vestas Wind Systems ของเดนมาร์กตะหากละ..(แป่วว) 🇩🇰


และจากเรื่องราวตรงนี้อีกเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่อธิบายสาเหตุว่า ทำไมภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ถึงไม่มีภูเขาสูงสักลูก โดยภูเขาที่เตี้ย ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นส่วนของผืนดินที่ติดกับประเทศเยอรมนีและเบลเยียม (หรือบริเวณเนินเขา Vaalserberg จริง ๆ มันอาจเรียกว่าภูเขาในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพียงแต่… ขนาดของภูเขามันต้อง 600 เมตรขึ้นไป คุณน้อง Vaalserberg สูงแค่ 322 เมตรเองคร้าบ 😅) 🇧🇶 ⛰️ 🇧🇪


[ ถึงแม้ภูมิประเทศจะอยู่ต่ำกว่าน้ำทะเล แต่น้ำไม่ท่วมนะ ! 🤩 ]

เริ่มยาวไปแล้วใช่มั้ยเพื่อน ๆ แต่ขออีกนิดนะ มันพูดมาขนาดนี้ ก็ต้องอธิบายให้เครดิตประเทศเขาด้วยนะที่บริหารจัดการดี
เพราะด้วยภูมิประเทศที่ต่ำกว่าน้ำทะเล จำนวนพายุที่กระหน่ำในแต่ละปี อีกทั้งเรื่องน้ำทะเลหนุนสูงอีกเนอะ

1. การสร้างระบบเขื่อนและกำแพงกันน้ำที่ดีเยี่ยม

2. ระบบฟื้นฟูพื้นที่ใหม่ (Polder System) - การถมดินให้สูงขึ้น เพื่อให้บริเวณที่ปลูกอาคารที่อยู่อาศัยอยู่สูงขึ้น และมีส่วนโค้งเว้าของตัวดินที่เป็นระเบียบ แต่ถูกวางแผนมาเพื่อสามารถควบคุมระดับน้ำได้ง่าย โดยเฉพาะในเมืองหลักอย่าง Amsterdam, Rotterdam, Eindhoven (ก็เมืองเศรษฐกิจทั้งนั้นเบย)

3. ใช้กังหันลมและเครื่องสูบน้ำ - ระบายน้ำออกจากพื้นที่ polder ลงสู่แม่น้ำและทะเล ซึ่งเขาจะค่อย ๆ ระบายออกในปริมาณที่เหมาะสมนะ ไม่ใช่เอาแต่สูบออก เพราะมันจะมีเรื่องของการกระทบต่อระบบนิเวศน์ และระดับน้ำสำหรับเส้นทางการเดินเรืออีกด้วย

4. โครงการ "Delta Works” - ระบบป้องกันน้ำท่วมที่ดีที่สุดของโลก

โครงการย่อยของทางรัฐบาล สร้างทั้งเขื่อน พนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ กำแพงกันคลื่นจากลมพายุ
และกั้นน้ำทะเลและแม่น้ำออกจากกัน ระบบการจำลองและทดสอบสถานการณ์น้ำท่วม

💸 แล้วก็มีเรื่องของการจัดเก็บภาษีน้ำท่วม (Flood Tax) อีกด้วยนะ ง่าย ๆ คือ รัฐบาลจะแจ้งบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และหากประชาชนไม่อยากย้ายที่อยู่ ก็จะต้องโดนเก็บภาษีมากขึ้น


เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ?

ไม่ใช่แค่ชาวดัตช์นะ ที่เรียกเนเธอร์แลนด์ว่าเป็นดินแดนแห่งความต่ำ(กว่าระดับน้ำทะเล)
แต่ในภาษาอื่น ๆ เองก็ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น 🇳🇱 ภาษาฝรั่งเศส เรียกประเทศเนเธอร์แลนด์ว่า “Pays-Bas” (อ่านว่า “เปย์อี-บาร์” ตอนที่เรียนมาจำได้ประมาณนี้คร้าบ หากอ่านผิดต้องขออภัย แต่อย่าฟ้องคุณครูนะ 🙏🤣)

🇫🇷 ในภาษาฝรั่งเศส แปลตรงตัวก็คือ “Pays” แปลว่าประเทศ/ดินแดน ส่วน “Bas” แปลว่า “ต่ำ”


#เนเธอร์แลนด์ #ฮอลล์แลนด์


แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
- หนังสือ เนเธอร์แลนด์ (ฉบับปรับปรุง) : ชุด การ์ตูนสนุกตะลุยประวัติศาสตร์นานาประเทศ เขียนโดย Won Bok Rhie
- หนังสือ ประวัติศาสตร์เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ฉบับกระชับ เขียนโดย กร ชัยธีระสุเวท
- บทความ Is the Netherlands below sea level ? จากเว็บ netherlands-tourism
- บทความ How Much Of The Netherlands Is Below Sea Level ? จากเว็บ netherlandsinsiders
- บทความ การป้องกันน้ำท่วม “เนเธอร์แลนด์” จากนิตยสารธนาคารสงเคราะห์ เขียนโดย รศ.ดร.อริยา อรุณินท์
- บทความ “อยู่ร่วมกับน้ำ แทนที่คิดจะไปต่อสู้มัน” จากเว็บ workpointTODAY
- หากเพื่อน ๆ ไปอ่านเจอบทความคล้ายกันจากเพจ SimpleJourney ใน Blockdit ก็ไม่ต้องตกใจนะคร้าบ เป็นบทความในอดีตของตัวแอดมินเองสมัยยังละอ่อน สำนวนการเขียนก็เหมือนสำเนียงการพูด เปลี่ยนยากฮ้ะ 🤣

🏰☪️ "อาลัมบรา (Alhambra)” พระราชวังมุสลิมสีแดง ในดินแดนของชาวคริสต์ 🇪🇸 ✝️เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ดูซีรี่ย์ Memories of the A...
09/08/2024

🏰☪️ "อาลัมบรา (Alhambra)” พระราชวังมุสลิมสีแดง ในดินแดนของชาวคริสต์ 🇪🇸 ✝️

เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ดูซีรี่ย์ Memories of the Alhambra ที่เฮียฮยอนบินเป็นพระเอก ก็น่าจะติดตาติดใจกับฉากหลังและการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวกับเมืองกรานาดา และพระราชวังแห่งนี้ 🤩

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ตามมาดูพระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) กันที่เมืองกรานาดา ก็จะพบว่า มันมีความยิ่งใหญ่มากกว่าในตัวซีรี่ย์อีกนะ แต่ก็แน่ละ เพราะเค้าไม่ได้อนุญาตให้กองถ่ายเข้าไปถ่ายในพระราชวังนี่นา ส่วนใหญ่เลยเป็นแค่บางฉากและ CG ละเป็นส่วนใหญ่เนอะ


😎 พวกเราเพิ่งไปเที่ยวเมืองกรานาดาและพระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) เลย ขอบอกว่าถ้ามาในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค. ร้อนแบบแผดเผามาก แดดแรงกว่าไทยพอสมควร
แถมตัวพระราชวังเองก็ไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั่วไปในช่วงเย็น (หรือถ้าเพื่อน ๆ อยากชมจะต้องจ่ายเพิ่มนะ แต่ถ้าหน้าร้อนเนี่ย มันอาจไม่ได้เห็นแสงสีอย่างที่มันควรจะเป็น)

👉 ถ้าอยากเห็นแสงสี เราจะแนะนำให้ไปที่จุดชมวิว
📍 Mirador Paseo de los Tristes
📍 Mirador Carmen de la Victoria
📍Mirador Mezquita Mayor de Granada
📍Mirador de San Nicolás

เราไปดูตรงจุดชมวิว Mirador de San Nicolás และ Mirador Paseo de los Tristes มาแล้ว เห็นชัดเจนสดใส แต่นักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร เบียดๆนิดนึง

ทางที่เราเดินขึ้นไปจุดชมวิว ก็จะผ่านตลาดอาหรับเหมือนอยู่อิสตันบูลเลยละ (มีภาพในคอมเมนต์นะ !)

ปล. พวกเราเห็นคนท้องถิ่นเรียกว่า อัลฮัมบรา อาจไม่ได้เหมือนที่เราเขียนเป็นคำอ่านภาษาไทย

— — — — — — — — — — — — — —

[ เรื่องราวของพระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) ฉบับสั้น (รึเปล่านะ..🤔) ]

พระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) ตั้งอยู่บนเนินเขา "al-Sabika" ทางทิศตะวันตกของเมืองกรานาดา (Granada) แคว้นอันดาลูซีอา ของประเทศสเปน

ถึงแม้จะเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม แต่พระราชวังแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนะ ต้องนั่งแทกซี่ออกมาอีกประมาณ 10 นาที เข้าใจว่ามีขนส่งสาธารณะด้วย แต่มันลำบากพอสมควรสำหรับเมืองกรานาดา 🥲

สถาปัตยกรรมของพระราชวังโดดเด่นด้วยลายแกะสลักผนัง เสา เพดาน โค้งซุ้มประตูต่าง ๆ ในแบบของชาวมัวร์ในยุคนั้น

🤓 "Alhambra" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลฮัมรา" (Al-Hamra) มาจากคำว่า "ฮัมร์" (حمر) ซึ่งหมายถึง "สีแดง"
โดยคำว่า "อัลฮัมรา" (Al-Hamra) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี 1984 🟥

ว่าแต่…ทำไมพระราชวังแห่งนี้ถึงมีสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ ซึ่งแตกต่างไปจากพระราชวังอื่น ๆ ในสเปนละ ?
แล้วแขกมัวร์ มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยนะ ?

ไปอ่านกันต่อเลย ! 🥰

— — — — — — — — — — — — — —

พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 โดยกษัตริย์ชาวมัวร์ สุลต่านมุฮัมมัดที่ 1 อิบน์นัสร์แห่งราชวงศ์นาซาริด (Nasrid Dynasty) ซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมสุดท้ายที่ปกครองสเปน 🕌

สั้น ๆ คือ

1. แขกมัวร์ในสเปน คือกลุ่มคนที่มาจากแอฟริกาตอนเหนือ (ว่ากันว่าจาก Morroco) ตั้งแต่ช่วง การพิชิตคาบสมุทรไอบีเรีย (ค.ศ. 711-718) ☪️

2. แขกมัวร์ซึ่งเป็นชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือ นำโดยทาเรียก อิบนุ ซิยาด (Tariq ibn Ziyad) ได้ข้ามช่องแคบยิบรอลตาร์และเริ่มพิชิตคาบสมุทรไอบีเรีย (สเปนและโปรตุเกสในปัจจุบัน)

3.ภายในเวลาไม่กี่ปี ชาวมุสลิมสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรได้ และก่อตั้งอาณาจักรอัล-อันดาลูส (Al-Andalus) หรือแคว้นอันดาลูซีอาในปัจจุบัน (Andalucia) นั่นเอง

4. การปกครองของมุสลิมในสเปน หลัก ๆ เค้าก็เริ่มขยายจากแคว้น Andalucia ก็จะมีเมืองใหญ่ ๆ เช่น คอร์โดบา (Córdoba) เซบียา (Seville) และกรานาดา (Granada) กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของการศึกษาและศิลปะของชาวมุสลิม 🕋

5. การก่อตั้งราชวงศ์นัสริด (Nasrid Dynasty): ราชวงศ์นัสริดก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1238 โดยมูฮัมมัดที่ 1 (Muhammad I) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองกรานาดาในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรกรานาดา (Emirate of Granada) ราชวงศ์นัสริดเป็นราชวงศ์มุสลิมสุดท้ายที่ปกครองในสเปน

ปล. ตอนเราพูดชื่อ Nasrid โดยอ่านว่า นัสริดเนี่ย แอบโดนชาวสเปนเหน็บอยู่ เขาบอกว่า มันอ่านว่า “นาซาริด” ไม่ใช่นาสริด 🤣 เขินเลย

— — — — — — — — — — — — — —

[ รีวิวสั้น ๆ ฉบับไปเที่ยวสถานที่จริงมาแล้ว 🥳 🛬 ]

จุดที่ทำให้เรารู้สึกชอบ

- มันกว้างใหญ่มาก ใช้เวลาเดินแบบจริงจัง ชมทุกส่วน ก็ประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้ มันมีสวน Generalife สวนที่เป็นสถานที่พักผ่อนของกษัตริย์ ออกแบบในสไตล์ที่เรียบง่าย ให้เรานั่งพัก ไม่ต้องห่วงไป
ตามที่ไกด์พาเราทัวร์เนี่ย เขาบอกว่ามันเป็นสวนที่พระราชาชาวมัวร์ต้องการออกมาให้เรียบที่สุด (เรียบยังไงนิ อย่างหรู 5555)

- ตัวห้องนอนพระราชาหรือในส่วนพระราชวังนาซาริด (Nasrid Palaces) อันนี้แอบอลังการอยู่ มันจะมีตัวพระราชวังที่เราดูได้แค่ด้านล่าง แต่สำหรับห้องนอนต้องซื้อเพิ่มนะ เราซื้อเพิ่มไป เข้าไปดูก็โอโห อลังการไม่ต่างไปจากด้านล่างเลย ตัดความเลี่ยนของสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและแบบเรเนซองต์ได้ดี

- ส่วนของ Alcazaba ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของอาลัมบรา ที่มีฉากหลังเป็นเมืองกรานาดา
ตรงนี้เราก็เพลิน ยืนชมเมืองกรานาดา ตากลมไปสักพักอยู่ (อันที่จริงคือ ร้อนไม่ไหวตะหาก 🥵)



#อาลัมบรา #กรานาดา #สเปน

ที่อยู่

Amphoe Bangkok Noi

เบอร์โทรศัพท์

+66839776891

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ InfoJourneyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง InfoJourney:

แชร์