Green Civil

05/08/2025

ยินดีกับน้องๆ 10 ทีมสุดท้ายจากผู้ส่งผลงานเข้าร่วมถึง 102 ทีม ในโครงการ Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow ที่จัดโดยธนาคารยูโอบี และ Mindventure
โครงการนี้จัดให้น้องๆ เยาวชนได้มานำเสนอโปรเจกต์ด้านความยั่งยืน ไอเดียที่ช่วยเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น และทีมที่ได้รับการคัดเลือก 10 ทีมก็ได้มาเจอกันในวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
บรรยากาศ Workshop ที่ทั้งสนุกและได้ความรู้ น้องๆ ได้ปรึกษากับเหล่า Mentor ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้านความยั่งยืน
ไอเดียแต่ละทีมเจ๋งๆ ทั้งนั้น มีทั้งเครื่องฟอกอากาศจากวัสดุเหลือใช้ ทรายแมวจากของเหลือทางการเกษตร ระบบจัดการขยะในโรงเรียนแบบล้ำสมัย และอื่นๆ อีกเยอะเลย บอกเลยว่าเด็กไทยเก่งมากๆ
โชคดีของน้องๆ ยุคนี้ที่มีคนเชื่อในความสามารถและพร้อมผลักดันเด็กๆ ให้ได้ลงมือทำจริง ต้องขอบคุณธนาคารยูโอบีด้วย ใครอยากรู้ว่าผลงานของน้องๆ จะเจ๋งกันขนาดไหน อย่าลืมติดตามคลิปของ Green Civil เร็วๆ นี้ เราจะพาไปดูกัน!

__________

05/08/2025

พาชมโครงการจริงของ เอพี AP Thai ที่มีการจัดการเรื่องขยะอย่างยั่งยืน เพื่อหน้าบ้านที่น่ามอง ถูกสุขอนามัย และยังดีต่อโลกในระยะยาว

♻️ โครงการ 'แยก-เท-ได้' ที่ชวนลูกบ้านทุกคนคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อเข้าสู่ระบบรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะฝังกลบซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุของภาวะโลกร้อน แล้วยังสามารถเปลี่ยนเป็นมูลค่าเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าบริการส่วนกลางได้อีกด้วย ​

♻️ โครงการ 'Waste to Value' การจัดการขยะจากการก่อสร้างในโครงการมาแปรรูปให้เกิดประโชยน์ใช้สอยใหม่ อย่างอิฐมวลเบา QCON ที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียง และลดความร้อนเข้าตัวบ้าน โดยการนำเศษอิฐที่เหลือทิ้งจากการก่อสร้างมาแปรรูปเป็น อิฐช่องลม แผ่นทางเท้า ​

ทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนของแนวคิด “พื้นที่ดีๆ ที่ดูแลตั้งแต่ในบ้านถึงรอบบ้าน” ที่เอพีให้ความสำคัญเสมอมา เพื่อสร้างชุมชนที่อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างกลมกลืน และยั่งยืน

#เอพีชีวิตดีๆที่ยั่งยืน #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ #แยกเทได้

25/07/2025

ทุกคนมาช่วยกันบริจาคเลือดให้สภากาชาดไทยกัน อันนี้เป็นจุดรับบริจาคทั่วประเทศนะคะ #บริจาคโลหิต โรงพยาบาลสาขาประจำจังหวัด ทั่วประเทศ ได้ที่นี่!!! #ไทยกัมพูชา

ข้อมูลจาก #ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ #สภากาชาดไทย

09/07/2025

💚 น้องๆ คนไหนสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โครงการนี้น่าสนใจมากน้า

🎉เชิญชวนทีมเยาวชน อายุ 15 - 25 ปี (ทีมละ 3-6 คน) ร่วมเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อโลกที่ยั่งยืนใน Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow Powered by UOB โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เสริมทักษะ และลงมือทำจริงในการออกแบบโปรเจกต์เพื่อความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน สนับสนุนโดย ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดโดย บริษัท Mindventure

สิ่งที่จะได้รับจากโครงการนี้ 🌟
💜 ทักษะภาวะผู้นำ เรียนรู้การทำงานเป็นทีมผ่านการสร้างสรรค์และดำเนินโปรเจกต์จริง
💜 ได้รับความรู้ด้านความยั่งยืน ได้เรียนรู้ด้านการสื่อสารจากมืออาชีพ
💜 โอกาสได้รับทุนและรางวัล (รวมกว่า 50,000 บาท)
💜 ได้รับใบประกาศนียบัตรจาก UOB และ Mindventure
💜 เยี่ยมชม UOB Plaza Bangkok อาคารสำนักงานที่ได้รับการรับรอง Green Mark Platinum จากประเทศสิงคโปร์
💜 โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับผู้นำเยาวชน และผู้เชี่ยวชาญ

👉 สมัครที่นี่ https://forms.gle/37wM6XbZdZmfoPaK8
👉 ดาวน์โหลดเอกสารการสมัคร https://bit.ly/wonderlab2025

📍 รับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 กรกฏาคม 2568 เท่านั้น!

11/04/2025

เชื่อไหมว่า “โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด” สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า “โซลาร์เซลล์บนบกทั่วไป” ประมาณ 10 - 15% เลยนะ !
ทุกคนคงรู้จัก "โซลาร์เซลล์" กันเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่กำลังได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน แต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ "โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด" ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบโซลาร์เซลล์แบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จัก และสำรวจว่าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดดีกว่าโซลาร์เซลล์ปกติอย่างไรบ้าง
#โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดคืออะไร
โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด คือ ระบบการผลิตพลังงานที่ผสมผสานระหว่างการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอื่น ๆ ในการผลิตไฟฟ้า โดยทั่วไปจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำ เช่น บนอ่างเก็บน้ำ เขื่อน หรือทะเลสาบ ซึ่งจะมีหลักการทำงานจะเหมือนกับโซลาร์เซลล์บนบกทั่วไป ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีหรือเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในภายหลัง แต่รู้หรือไม่ว่า โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าโซลาร์เซลล์บนบกทั่วไปประมาณ 10 - 15% เลยทีเดียว !
#โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดดีกว่าแบบบนบกทั่วไปอย่างไร
1. อุณหภูมิต่ำกว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
การติดตั้งบนผิวน้ำช่วยให้มีการระบายความร้อนได้ดีกว่าแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน เพราะน้ำมีความสามารถในการดูดซับและกระจายความร้อนได้ดี จึงช่วยรักษาอุณหภูมิของแผงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้แผงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ผิวน้ำยังช่วยสะท้อนแสงและลดการแผ่รังสีความร้อนเข้าสู่แผงได้อีกด้วย อีกทั้งระบบลอยน้ำยังส่งเสริมการไหลเวียนของอากาศรอบ ๆ แผง ทำให้มีการระบายความร้อนที่ดีขึ้น
ด้วยเหตุนี้ โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดจึงมีข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับโซลาร์เซลล์ธรรมดา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานได้มากขึ้นจากอุณหภูมิที่ต่ำกว่า และยังยืดอายุการใช้งานของแผงได้ เนื่องจากวัสดุจะเสื่อมสภาพช้าลงเมื่อไม่ได้เผชิญกับความร้อนสูง นอกจากนี้ การใช้พื้นที่น้ำที่มีอยู่แล้ว ทำให้โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสำหรับการผลิตพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในอนาคต
2. ระบบไฮบริด ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่องแม้ในช่วงที่แสงแดดลดลง
ระบบไฮบริด คือ เทคโนโลยีการผลิตพลังงานที่รวมการใช้แผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งบนผิวน้ำและการใช้พลังงานจากแหล่งอื่น เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม หรือนวัตกรรมการเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มความยั่งยืนและประสิทธิภาพในการผลิตพลังงาน
การเป็นไฮบริดลอยน้ำทำให้มีข้อดีหลายอย่างเมื่อเทียบกับโซลาร์เซลล์แบบปกติ โดยเฉพาะในแง่ของประสิทธิภาพและการใช้งาน พลังงานที่ผลิตจากระบบไฮบริดลอยน้ำจะมีความเสถียรและยืดหยุ่นมากกว่า เพราะมีแหล่งพลังงานสำรองที่สามารถใช้งานได้ในกรณีที่โซลาร์เซลล์ไม่สามารถผลิตพลังงานได้ เช่น ในสภาวะที่มีอากาศไม่ดีหรือกลางคืนที่โซลาร์เซลล์จะผลิตพลังงานได้ต่ำ ก็ยังคงมีพลังงานสำรองจากแหล่งอื่นที่สามารถใช้แทนได้นั่นเอง
3. ลดการสะท้อนแสงและฝุ่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำทำให้มีการสะท้อนแสงที่ลดลง เนื่องจากน้ำจะกระจายแสงในสภาพแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ปริมาณแสงที่สะท้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศลดน้อยลง ซึ่งช่วยลดปัญหาการรบกวนจากแสงสะท้อนในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ การติดตั้งในน้ำยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะแห้งและมีสิ่งตกค้าง ต่างจากโซลาร์เซลล์แบบปกติที่ติดตั้งบนพื้นดิน เลยอาจทำให้มีการสะสมของฝุ่นและตะกอนมากกว่า
การลดการสะท้อนแสงและการสะสมฝุ่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงาน เนื่องจากแผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้พลังงานจากแสงแดดได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผลิตพลังงานได้สูงขึ้น
4. ประหยัดพื้นที่และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สำคัญต่าง ๆ
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ลอยน้ำบนผิวน้ำช่วยให้ประหยัดพื้นที่ดินที่สามารถใช้ในการเกษตรหรือการพัฒนาชุมชนอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องรบกวนพื้นที่สีเขียวหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้าง การใช้พื้นที่น้ำที่มีอยู่แล้วทำให้ลดการพัฒนาและการใช้ที่อยู่ดินที่อาจส่งผลต่อสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นั้น
นอกจากนี้ การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำยังช่วยลดการระเหยของน้ำในแหล่งน้ำ เช่น เขื่อนหรือทะเลสาบ โดยการปิดกั้นพื้นที่ผิวของน้ำที่สัมผัสกับอากาศ ทำให้ปริมาณน้ำสูญเสียน้อยลง ส่งผลให้การรักษาระดับน้ำในแหล่งน้ำดังกล่าวทำได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเก็บรักษาทรัพยากรน้ำซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
อีกทั้งการลดการสะท้อนแสงจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งในน้ำยังช่วยลดการรบกวนต่อระบบนิเวศในบริเวณใกล้เคียง ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อนก หรือสัตว์น้ำที่อยู่ในพื้นที่นั้น อีกทั้งการใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่ถูกระบายความร้อนด้วยน้ำจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและทำให้ลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตและบำรุงรักษาด้วย
#โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในไทย
รู้กันไหมว่าในประเทศไทยก็มีโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเหมือนกัน ในโครงการ Floating Solar ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมพลังงานสะอาดและยั่งยืนเลย โดยโครงการนี้มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อนสำคัญสองแห่ง ได้แก่ เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่นที่มีกำลังการผลิต 24 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ กฟผ. ก็กำลังขยายโครงการไปยังเขื่อนศรีนครินทร์ด้วย ซึ่งมีเป้าหมายกำลังการผลิตถึง 140 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาโครงการที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี ในลำดับต่อไปอีกด้วย
โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ยั่งยืน แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการผลิตไฟฟ้า และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดการระเหยของน้ำได้ประมาณ 460,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เพราะแผงสามารถออกแบบให้วางชิดผิวน้ำ โดยที่ไม่กระทบต่อระบบนิเวศใต้น้ำเพราะแสงแดดยังคงลอดผ่านลงในน้ำได้ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ได้ 10–15% เนื่องจากอุณหภูมิของแผงถูกระบายออกได้ดีกว่าเมื่ออยู่บนผิวน้ำ
แถมทุ่นลอยน้ำที่ใช้ในโครงการยังทำจากพลาสติกชนิด High Density Poly Ethylene (HDPE) ซึ่งเป็นมิตรต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงเป็นทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์พลังงานที่คำนึงถึงความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน
กฟผ. เดินหน้าพัฒนาพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. ทั้งหมด 9 แห่ง รวมทั้งหมดเป็น 16 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะรวมกำลังการผลิตพลังงานได้ถึง 2,725 เมกะวัตต์ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการเดินหน้าสู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศและสิ่งแวดล้อมเลย

__________
#กฟผ #โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด #เขื่อนสิรินธร #เขื่อนอุบลรัตน์ #เขื่อนศรีนครินทร์

05/04/2025

เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ ‘Help You, Help Me’ สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
กรุงเทพฯ, 4 เมษายน 2568 – บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และ ร้อยพลังสร้างสังคมดี เดินหน้าจัดกิจกรรม “Help You, Help Me” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Influencer for Change ของ Tellscore เพื่อสนับสนุนการใช้พลังของอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ในการขับเคลื่อนสังคม โดยปีนี้ 5 โครงการเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัล จะได้รับ การสนับสนุนจากอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ในโครงการ ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ เพื่อช่วยขยายการรับรู้ และเพิ่มการมีส่วนร่วมจากประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรและเครือข่ายภาคสังคมหลายองค์กร
‘Help You, Help Me’ เริ่มต้นในปี 2563 ด้วยเป้าหมายในการใช้พลังของคอนเทนต์เชิงบวกขับเคลื่อนประเด็นสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการหลายท่าน ช่วยเป็นกระบอกเสียงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา เยาวชน สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ซึ่งในปีนี้มีโครงการเพื่อสังคมส่งเข้าร่วมกว่า 29 โครงการ แสดงถึงพลังความหวังและความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงของภาคประชาชน
งานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายองค์กรภาคสังคมจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของ "สื่อบุคคล" ในฐานะเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคม การเข้าถึงสาธารณชน และการระดมความร่วมมือ อินฟลูเอนเซอร์จึงกลายเป็น Soft Power Content ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทางที่ดีขึ้น
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดการทำงานของ Tellscores ในวงการ Influencer Marketing เราเชื่อมั่นว่าพลังของอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์สามารถขับเคลื่อนสังคมได้จริง ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงหรือการตลาดเท่านั้น
จากแนวคิดนี้ เราเริ่มวางรากฐานโครงการ Help You, Help Me ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้สื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์มีพื้นที่ร่วมกันในการถ่ายทอดเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้สังคมมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
ในปีนี้ มี 29 องค์กรภาคสังคมเข้าร่วมเสนอแนวคิดโครงการ โดยอินฟลูเอนเซอร์จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อน ชักชวนสาธารณชนให้ร่วมเป็น “จิตอาสา” และมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม
ตลอด 6 ปีของโครงการ เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน เพื่อสร้างพื้นที่สื่อสารเชิงบวก ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างยั่งยืน”
คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อ”คนไทย” กล่าวว่า จากชื่อโครงการ “Help you help me” สะท้อนถึงค่านิยมด้านบวกในสังคมไทย ความหมายเดียวกับคำว่า คนละไม้ คนละมือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล ใจเขาใจเรา มีมิตรจิตรมิตรใจ เห็นอกเห็นใจ ส่วนตัวคือส่วนรวม ฯลฯ นับเป็นวิถีไทยของคนไทยมาช้านาน แต่อาจถูกลดทอนความสำคัญลงจากสภาพสังคม และปัจจัยแวดล้อมที่เบี่ยงเบนไป ทั้งๆที่สำคัญมากในการอยู่ร่วมกัน ดังนั้น ถึงเวลาที่จะต้องมาช่วยกัน เกื้อกูล ส่งเสริม ปลูกฝัง รื้อฟื้นวิถีไทยนี้ให้กลับมาเป็นวิถีหลักในสังคมของเรา
ทั้งนี้ คุณวิเชียรกล่าวอีกว่า เทลสกอร์ได้ทำในสิ่งที่เป็นวิถีไทยที่ดีนี้หลอมรวมทุกคนให้มาร่วมมือกันในวันนี้ ทั้งกลุ่มภาคีภาคสังคมผู้ลงมือปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นสิ่งแวดล้อม ผู้สูงอายุ การศึกษา สุขภาพจิต คุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ทุกกลุ่มวัย ในบทบาทที่แตกต่างหลากหลาย ฯลฯ และยังเชิญชวนนักสื่อสาร อินฟลูเอนเซอร์ สื่อมวลชน เข้ามาสนับสนุนการสื่อสารของภาคสังคม จึงขอขอบคุณ และหวังจะเห็นผู้บริหารภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันกระตุ้นผู้คนรอบตัว ช่วยกันดึงกลับมาสู่วิถีไทยใส่ใจผูกพัน กล่าวคือ วิถีไทยที่มีการใส่ใจ มีความผูกพันกับผู้อื่น และสังคมโดยรวม”
สำหรับ Help You, Help 2025 มีหน่วยงานเพื่อสังคมที่ได้รับสื่ออินฟลูเอนเซอร์ สำหรับประชาสัมพันธ์โครงการ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม, มูลนิธิสติ (SATI Foundation), มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน (People Eye Care Foundation), ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม และ Baojai Family
ภายในงานยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อ "Influence for Impact: Shaping Social Change" เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างภาคสื่อ หน่วยงานเพื่อสังคม และอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการต่อยอดพลังของตัวเองให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ขับเคลื่อนงานสื่อและสังคมอย่างต่อเนื่อง อาทิ คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด, คุณอรุชิตา อุตมะโภคิน ผู้จัดการกลุ่มงานด้านนวัตกรรมการสื่อสาร ศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ ไทยพีบีเอส, คุณสุภอรรถ โบสุวรรณ Managing Director of HAND Social Enterprise และ คุณจรีรัตน์ เพชรโสม หรือ ใบตอง นักสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อม และฑูตสิ่งแวดล้อมมูลนิธิโลกสีเขียว ซึ่งการเสวนาครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิด หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมผ่านพลังของเนื้อหาที่มีความหมาย
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แค่มีช่องทางโซเชียลมีเดีย ก็สามารถร่วมสนับสนุนภาคสังคมได้ง่าย ๆ เริ่มต้นได้วันนี้ โดยติดต่อที่อีเมล [email protected] พร้อมระบุหัวข้อ “โครงการ Help You, Help Me” หรือหากคุณคือหน่วยงานที่ต้องการต่อยอดแนวคิดและขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านการสื่อสารยุคใหม่ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://helpyouhelpme.tellscore.com/

30/03/2025

ตำราแยกขยะฉบับมือใหม่ แยกแล้วส่งไปไหน ?
เชื่อไหมว่าขยะที่ถูกส่งไปหลุมฝังกลบส่วนใหญ่มาจากการที่เราไม่แยกขยะกัน ทำให้ขยะหลายชนิดที่สามารถรีไซเคิลได้ถูกนำไปฝังกลบรวมกับขยะมูลฝอยอื่นๆ อย่างพลาสติกก็ต้องใช้เวลาย่อยสลายเป็นร้อยๆ ปี จนเกิดเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายอย่างตามมา
วันนี้ Green Civil และ PRO-Thailand Network (เครือข่ายองค์กรความร่วมมือจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน) เลยรวบรวมวิธีแยกขยะฉบับมือใหม่มาให้ทุกคน พร้อมที่อยู่จัดส่ง เพื่อเปลี่ยนขยะเหล่านี้ให้กลายเป็นประโยชน์ เซฟเก็บไว้กันได้เลย !

_________
#แยกขยะ #รีไซเคิล #รักษ์โลก #ความรู้รอบตัว #สาระความรู้ #สิ่งแวดล้อม

07/03/2025

วันนี้เราจะพาไปดูต้นตอของฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ ว่ามาจากไหน ทำไมหน้าหนาวถึงเยอะขนาดนี้

#ฝุ่นกรุงเทพฯ #สนข #สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร #สาระความรู้ #เรื่องนี้ต้องดู

27/02/2025

18/02/2025

มีใครรู้จักลูกถ้วยบ้างไหม ? แล้วลูกถ้วยนี้อยู่ตรงไหนกันนะ ?
จริง ๆ เมื่อเราเดินออกจากบ้าน แล้วเงยหน้าขึ้นไป เห็นอะไรที่เป็นเกลียว ๆ ติดอยู่ที่เสาไฟฟ้าทุกต้น สิ่งนั้นเรียกว่า “ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า” นั่นเอง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รองรับสายไฟฟ้า ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ปลอดภัย และทำหน้าที่เป็นฉนวนในการป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลจากตัวนำไปสู่เสาส่งไฟฟ้า หรือไหลลงดิน ถือเป็นอีกอุปกรณ์ที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า
รู้หรือไม่ ว่าลูกถ้วย มีส่วนช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลได้ ?
ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญของการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งในแต่ละปีจะมีลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าที่ครบอายุการใช้งานเป็นจำนวนมาก ทาง กฟผ. ก็เลยคิดค้นหาวิธีที่จะนำอุปกรณ์ลูกถ้วยมาใช้ประโยชน์แทนการฝังกลบ ให้สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เป็นการหมุนเวียนของทรัพยากรหรือวัสดุกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งวัสดุของลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้านั้นเป็นเซรามิค มีโครงสร้างคล้ายกับหินปูนที่เกิดจากการสร้างตัวของปะการัง ผ่านการวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แล้วว่า ไม่ส่งผลเสียต่อคุณภาพน้ำทะเล ไม่มีผลกระทบกับชีวิตพืชทะเล และสัตว์ทะเลแน่นอน
กฟผ. จึงนำลูกถ้วยที่หมดอายุแล้วเดินทางออกสู่ทะเล เกิดเป็น “โครงการบ้านปลาปะการังเทียมจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าของ กฟผ. ” ที่นำลูกถ้วยมาวางทำเป็นฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง เพื่อเป็นบ้านให้กับเหล่าปลาน้อยใหญ่ บ้านปลาปะการังเทียมจากลูกถ้วย ถูกเริ่มวางไว้ใต้ท้องทะเลไทยตั้งแต่ปี 2554 ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ชลบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, สงขลา, ปัตตานี, นราธิวาส, พังงา แล้วก็ภูเก็ต
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปะการังที่ดีมาก ๆ เลย เพราะจากการศึกษาและติดตามผล เจ้าปะการังสามารถเจริญเติบโตบนลูกถ้วยได้เป็นอย่างดี
ใครจะคิดว่าลูกถ้วยที่อยู่บนฟ้าก็มีประโยชน์ เมื่ออยู่ใต้ท้องทะเลด้วยเหมือนกัน 🐠
#กฟผ #ปะการังเทียม #ลูกถ้วย

15/02/2025

เพื่อนที่ดีนั้นเกิดจากการมีน้ำใจ และการมีน้ำใจให้กันคือกุญแจสู่โลกที่ดีกว่า
การสร้างสังคมที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ความคิดที่ดี แต่เป็นการลงมือทำเพื่อผู้อื่น เริ่มจากการมองเห็น และนึกถึงเพื่อนร่วมงาน การแบ่งปันน้ำใจ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น เมื่อเรามีมุมมองที่เปิดกว้างต่อผู้อื่น สังคมที่เราต้องการก็จะเกิดขึ้นจริง
และนี่คือแคมเปญ “โลกดีเริ่มที่ ME” ซึ่งเป็นแนวคิดของ Mitsubishi Electric (ME) ที่เชื่อว่าการสร้างสังคมที่ดีเริ่มได้จากความคิดและมุมมองของตัวเราเอง โดยในหนังจะเป็นคอนเซ็ปต์ “โลกดีเริ่มที่ ME... เพื่อนเพิ่ม” ที่ให้เราได้นึกถึงและช่วยเหลือผู้อื่นที่อยู่รอบตัวเรา
บอกเลยว่าเรื่องราวในหนังเขาน่ารักมาก ไปดูหนังตัวเต็มกันได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=R1KEJBwVlb8
__________
#โลกดีเริ่มที่ME

08/02/2025

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การใช้พลังงานสะอาดไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือความจำเป็นที่ทุกองค์กรต้องตระหนักถึง กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือจึงมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการใช้พลังงานสะอาด และการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหลายมิติ
#พลังงานสะอาดเพื่อโลกที่ดีกว่า
กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นขยายการใช้พลังงานสะอาด สร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในสถานที่ต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม และศูนย์กระจายสินค้าในหลายประเทศ เช่น ไทย เวียดนาม และอังกฤษ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.1 ล้านตารางเมตร หรือเทียบเท่ากับ 133 สนามฟุตบอล ทำให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 203,502.65 MWh และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 8.4 ล้านต้น
โดย เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาของห้างสรรพสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า เพื่อช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ติดตั้งระบบโซลาร์บนหลังคาศูนย์การค้า และโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 40% ขณะที่เซลฟริดเจสในอังกฤษ ใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน
#ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
กลุ่มเซ็นทรัลได้มีการนำเทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติที่ล้ำสมัยมาใช้ในอาคาร และโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งหลอดไฟ LED ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงมีระบบประหยัดพลังงานที่ทันสมัย เช่น การเปลี่ยนมาใช้ตู้เย็นประหยัดพลังงาน และใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในธุรกิจกลุ่มอาหาร, ระบบ HVAC ควบคุมสภาพแวดล้อมภายในอาคาร, ระบบ Room Control Unit ควบคุมการใช้พลังงานภายในห้องพักของโรงแรมในเครือเซ็นทารา ไปจนถึงระบบการจัดการพลังงาน EMIS
ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดการใช้พลังงานโดยไม่กระทบต่อคุณภาพการบริการ เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืน
เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มุ่งมั่นที่จะออกแบบอาคารและโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล เช่น LEED และ TREES เพื่อตอบสนองต่อแนวทางความยั่งยืน มีการออกแบบที่คำนึงถึงระบบนิเวศ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (CRG) ได้มีการก่อสร้าง KFC Green Store ภายใต้แนวคิด Journey to Zero มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบร้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุก่อสร้างและเทคโนโลยีที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น กระจกประหยัดพลังงาน และระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพ
#ความร่วมมือเพื่ออนาคตคาร์บอนต่ำ
กลุ่มเซ็นทรัลยังร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาคเอกชน และรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านหลายโครงการ เช่น การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า การปลูกป่าชุมชน และโครงการตลาดคาร์บอนครัวเรือน เพื่อสนับสนุนพลังงานสะอาดในภาคประชาชน
อีกทั้งเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ยังได้จัดงาน Better Futures Project 2024 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ANSWER THE CALL เป็นปีที่ 3 เน้นการจัดอีเว้นท์ที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบ Net Zero Event และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรผ่านโครงการ Green Partnership เชิญชวนร้านค้าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ลดการใช้พลังงานและขยะฝังกลบ พร้อมจัดอบรมความรู้เรื่องก๊าซเรือนกระจกและการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ให้ผู้เข้าอบรมสามารถบริหารจัดการการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับความร่วมมือจากร้านค้ากว่า 165 แบรนด์

#กลุ่มเซ็นทรัล #เซ็นทรัลรีเทล #เซ็นทรัลพัฒนา #โรงแรมเซ็นทารา #ซีอาร์จี #พลังงานสะอาด #ธุรกิจยั่งยืน