28/10/2025
🔴Pizza Hut ยูเคถึงคราวลำบาก ปัญหากระหน่ำยุคตลาดพิซซ่าแข่งเดือด ต้องปิดสาขาครั้งใหญ่ ทำคนนับพันตกงาน
Pizza Hut ในสหราชอาณาจักร (UK) กำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ จากปัญหามากมาย จนต้องสั่งปิดสาขาทั้งแบบนั่งกินในร้านและแบบเดลิเวอร์รี่ โดยเรื่องนี้มีหลายประเด็นน่าสนใจ
เพราะนอกจากปัจจัยลบที่รุมประดังแล้ว ยังเกิดท่ามกลางเทรนด์อาหารและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ที่กำลังบีบให้แบรนด์เชนร้านอาหารดังหนึ่งในตลาดใหญ่ของยุโรปเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอดอีกด้วย
Pizza Hut เข้ามาเปิดกิจการในอังกฤษและประเทศอื่นๆในเครือสหราชอาณาจักร เมื่อปี 1973 โดยจากที่ราคาอาหารเข้าถึงได้ เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ และมีให้เลือกหลากหลาย พร้อมบรรยากาศมีความเป็นกันเองแต่ดูหรูหรา จึงกลายเป็นร้านโปรดของครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งคู่รัก
ชาวสหราชอาณาจักรที่เติบโต เป็นหนุ่มเป็นสาวหรือเริ่มสร้างครอบครัว ช่วงยุค 80 ต่อเนื่องถึงราวกลางๆยุค 2000 โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X ทั้งหมดและ Gen Y ช่วงปลาย ต่างก็เคยไปเชนร้านอาหารที่ตัวอาหารเป็นอิตาลีแต่ตัวแบรนด์กับบริษัทแม่เป็นอเมริกันแห่งนี้มาแล้ว
ณ จุดสูงสุดเมื่อปี 2006 Pizza Hut มีสาขาทั่วสหราชอาณาจักรกว่า 700 แห่ง พร้อมพนักงานมากกว่า 14,000 คน และตอกย้ำความนิยม พร้อมความแข็งแกร่งในการรับมือกับวิกฤต ด้วยการผ่านยุคล็อกดาวน์ระหว่างปี 2020-2022 กับการขึ้นภาษีของรัฐบาลอังกฤษมาได้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 Pizza Hut สหราชอาณาจักร เจอมรสุมหลายๆ ลูกพร้อมกัน โดยปัญหาแรกคือ คุณภาพอาหารลดลง โดย ชาวอังกฤษ กลุ่ม Gen Z หลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า แม้โตมากับ Pizza Hut เพราะครอบครัวพากินตั้งแต่เด็ก
ทว่าเมื่อพอมีรายได้เอง ทั้งคู่กลับเข้าเชนพิซซ่าแบรนด์นี้น้อยลง เพราะ เห็นว่า คุณภาพอาหารลดลง และอาหารก็ดูจะเยอะเกินไปจนกันแทบไม่หมด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับปัญหาต่อมาที่ Pizza Hut กำลังเผชิญ
การเป็นเชนใหญ่ Pizza Hut จึงมีต้นทุนที่ต้องแบกรับมากมาย ตั้งแต่วัตถุดิบ ค่าแรงขั้นต่ำและเงินสมทบประกันสังคม ที่ล้วนปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งที่สุดก็ไปฉุดให้กำไรลดลง
การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดพิซซ่าเดวิเวอรี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ Pizza Hut ในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญ โดย คู่รักชาวอังกฤษกล่าวว่า แม้เคยไปออกเดทกันที่ Pizza Hut แต่ด้วยราคาที่แพงกว่าทั้งเมื่อไปกินที่ร้านและสั่งมากิน จึงเลือก Domino’s มากกว่า
ปัญหาที่ Pizza Hut กำลังเผชิญ ยังไม่หมด เพราะต้องมาเจอปัจจัยลบจากค่าครองชีพแพง การไปกินอาหารนอกบ้านน้อยลงแล้วมาทำกินเองกันมากขึ้น และคู่แข่งน้อยใหญ่ในธุรกิจร้านพิซซ่าก็ยังมีเมนูที่หลากหลายกว่า และราคาให้เลือกมากกว่าอีกด้วย
ส่วนปัญหาสุดท้ายคือเทรนด์อาหารกับการไม่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคยุคปัจจุบัน หลังอาหารเพื่อสุขภาพในปริมาณพออิ่มได้รับความนิยมมากกว่าในกลุ่ม Gen Z
ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ Pizza Hut ตามหลังคู่แข่งในทุกๆ ทาง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจมากมาย จนเมื่อไม่นานมานี้ Directional Capital กลุ่มทุนอเมริกันเจ้าของปัจจุบันของ Pizza Hut ในสหราชอาณาจักรประกาศสั่งปิดสาขาแบบร้านนั่งกินในร้าน 64 แห่ง จากทั้งหมด 132 แห่ง
ส่วนร้านแบบเดลิเวอรี่ ที่ไม่ทำกำไรก็จะถูกปิดเช่นกัน ซึ่งผลกระทบที่ตามมาคือพนักงานกว่านับพันคนที่ต้องตกงาน
นิโคลัส เบอร์เกียร์ ผู้บริหารของ Pizza Hut UK กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนคือต้องช่วยให้ร้านที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด เดินหน้าไปต่อไป
ด้านนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหารของสหราชอาณาจักร ให้ทัศนะว่า Pizza ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ไล่ตั้งแต่ภาพลักษณ์แบรนด์ที่ควรให้ร่วมสมัยขึ้นรูปแบบร้าน ต่อเนื่องไปถึงการลดต้นทุน ทำเลที่ตั้ง และการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้
นี่ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า อีกไม่นานจากนี้ อาจได้เห็น Pizza Hut ในสหราชอาณาจักร รีแบรนด์ เพื่อความอยู่รอด พร้อมทำให้วลี Hitting the Hut ของ Pizza Hut กลับมาบูมอีกครั้ง/