ที่โปรด Episode เที่ยวกัน

ที่โปรด Episode เที่ยวกัน “ที่โปรด” แหล่งรวบรวมเรื่องราวของสถานที่โปรดในหลายแง่มุมผ่านวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม

“ที่โปรด” แหล่งรวบรวมเรื่องราวของสถานที่โปรดต่าง ๆ ในหลายแง่มุม ทั้งการท่องเที่ยว วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ที่จะเชิญชวนทุกคนออกไปทำความรู้จักสถานที่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาที่โปรดในดวงใจของทุกคน

ดวงตาสวรรค์ มหัศจรรย์แสงอาทิตย์ทะลุเขา ณ สระแก้วปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นช่องทะลุระหว่างขุนเขานั้น ในประเทศไท...
16/07/2025

ดวงตาสวรรค์ มหัศจรรย์แสงอาทิตย์ทะลุเขา ณ สระแก้ว

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นช่องทะลุระหว่างขุนเขานั้น ในประเทศไทยก็พบกันอยู่ในหลากหลายพื้นที่ ที่โด่งดังที่สุดก็ต้องพูดถึงที่พัทลุง แต่รู้หรือไม่ว่าที่สระแก้วเองก็มีเขาทะลุด้วยเหมือนกัน โดยเป็นเขาทะลุที่ไม่ธรรมดา เพราะมันขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของปรากฏการณ์ “ดวงตาสวรรค์” ปรากฏการณ์ที่ใน 1 ปีจะมีให้เห็นก็แค่ 2 ครั้งเท่านั้นเอง

ดวงตาสวรรค์เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เทือกเขากกมะม่วง ในอำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว โดยเป็นปรากฏการณ์ที่แสงอาทิตย์จะสาดลอดผ่านช่องที่ทะลุของเทือกเขากกมะม่วงจนดูเหมือนดวงตา จากฟากฟ้า ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้เป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อราวปี 2565 ที่มีช่างภาพบันทึกบรรยากาศภาพของสถานที่แห่งนี้เอาไว้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นความพยายามกว่า 4 ปีที่คำนวณและทดลองหาวันที่พระอาทิตย์จะทอแสงลอดผ่านช่องนี้

การค้นพบดวงตาสวรรค์นี้เป็นผลงานของคุณเบียร์ นายยศภัทร เลยท้าว ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานไปรษณีย์และเป็นสมาชิกชมรมถ่ายภาพ โดยเล่าว่าในช่วงที่ไปส่งของที่อำเภอคลองหาดก็ได้แวะพักหลบฝน แล้วก็บังเอิญสนทนากับคุณลุงคนหนึ่ง ซึ่งคุณลุงคนนั้นก็บอกว่าถ้าอยากเป็นอมตะก็ต้องมารอดูแสงพระอาทิตย์ลอดผ่านช่องที่ทะลุของเขากกมะม่วง ซึ่งตัวของคุณเบียร์ก็ได้สอบถามชาวบ้านจนได้ความว่ามันมีแสงลอดที่ช่องเขานั้นจริง ๆ ซึ่งคุณเบียร์ก็พยายามเดินทางมาเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้เรื่อยมา ซึ่งเล่าว่าคุณเบียร์รอคอยถึง 4 ปีด้วยกันจึงได้มีโอกาสเห็นแสงลอดผ่านเขานี้แล้วเก็บภาพมาลงบนสื่อสังคมออนไลน์จนเป็นไวรัลนี่เอง โดยการที่จะมาชมดวงตาสวรรค์นั้น ใน 1 ปี จะมีโอกาสราว ๆ 2 ครั้ง คือช่วงวันที่14-16 พฤษภาคม และวันที่ 17 มิถุนายน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 5 นาที ซึ่งพบเห็นราวช่วง 6.30-6.45 น. ของวัน

เรื่องราวการค้นพบดวงตาสวรรค์นี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่าสิ่งสวยงามใกล้ตัวมีอะไรที่มากมายเต็มไปหมด ความตั้งใจและอดทนเฝ้ารอของคุณเบียร์เองก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนทางกายที่นำมาซึ่งผลตอบแทนอย่างสิ่งสวยงามธรรมชาติ ที่ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ประจำจังหวัดเรื่อยมา
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ท่องเที่ยว #เที่ยวไทย #ธรรมชาติ #สระแก้ว #ปรากฏการณ์ธรรมชาติ #ธนาคารกรุงเทพ

วิหารน้อย สุสานหลวง ที่พำนักสุดท้ายแห่งราชสกุลอาภากร-สุริยงสุสานหลวงวัดราชบพิธ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื...
16/07/2025

วิหารน้อย สุสานหลวง ที่พำนักสุดท้ายแห่งราชสกุลอาภากร-สุริยง

สุสานหลวงวัดราชบพิธ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางสถาปัตยกรรมมากมายเต็มไปหมดดังที่เราเคยนำเสนอเอาไว้ครั้งหนึ่ง อาคารที่โดดเด่นภายในสุสานหลวงวัดราชบพิธก็มีมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือในส่วนของ “วิหารน้อย” อาคารสีแสด ที่ตั้งในทางทิศเหนือของสุสาน

วิหารน้อยเป็นอาคารทรงตะวันตกในสุสาน ตั้งอยู่ถัดจากสุนันทานุสาวรีย์ สร้างขึ้นมาในลักษณะของอาคารที่มีโถงและเป็นวิหารเพียงหนึ่งเดียวภายในสุสานหลวงที่สามารถใช้ประกอบพิธีสงฆ์ได้ ภายในบรรจุอัฐิของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์หรือเจ้าจอมมารดาแพ และเจ้าจอมโหมดรวมไปถึงสายราชสกุลที่มีความเกี่ยวข้อง คือราชสกุลอาภากร ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และราชสกุลสุริยง ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาสุริโยภาส

วิหารน้อยที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นวิหารน้อยที่ได้รับการบูรณะใหม่ โดยจากภาพเก่านั้นจะพบว่าวิหารนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมในรูปแบบกอธิคร่วมอยู่ด้วยจากการที่มีซุ้มยอดแหลมอยู่ด้านหน้า สร้างขึ้นในปี 2427 ซึ่งมรดกของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบันก็คือในส่วนของงานกระจกสีที่มตัดเป็นรูปเรขาคณิตหลากสี ประดับทั้งประตูและหน้าต่างของอาคาร ที่หน้าจั่วของอาคารปรากฎเป็นตราพระอาทิตย์ ซึ่งเป้นตราประจำราชสกุลสุริยง โดยทั้งราชสกุลอาภากร และราชสกุลสุริยงล้วนแต่มีความหมายว่า พระอาทิตย์ เหมือนกัน

ภายในวิหารน้อยมีพระรูปและพระพุทธรูปตั้งอยู่ ซึ่งล้วนแต่เป็นอนุสรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้แก่ผู้วายชนม์ ซึ่งที่อาคารโถงนี้มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ขนาดเท่าตัวจริงของเจ้าจองมารดาแพตั้งไว้อยู่ด้วย ซึ่งตัววิหารน้อยนี้เปิดให้เข้าชมไม่บ่อยนัก จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงโอกาสสำคัญ โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเพจเฟสบุ๊ค มูลนิธิราชสกุลอาภากร

#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ประวัติศาสตร์ #สถาปัตยกรรม #กรุงเทพ #วัด #ธนาคารกรุงเทพ

ศาลาเฉลิมกรุง โรงหนังติดแอร์แห่งแรกของเอเชียในปัจจุบันนี้ ถ้าเราเอ่ยถึงศาลาเฉลิมกรุงทีไร เราก็คงจะนึกถึงการแสดงโขนที่ศาล...
15/07/2025

ศาลาเฉลิมกรุง โรงหนังติดแอร์แห่งแรกของเอเชีย

ในปัจจุบันนี้ ถ้าเราเอ่ยถึงศาลาเฉลิมกรุงทีไร เราก็คงจะนึกถึงการแสดงโขนที่ศาลาเฉลิมกรุงเป็นหลัก ที่ซึ่งจะมีรถรับส่งจากทางออกของพระบรมมหาราชวังไปถึงศาลาเฉลิมกรุง แต่รู้หรือไม่ว่าโรงละครที่ถูกนำมาเน้นแสดงโขนและนาฏศิลป์ไทยแห่งนี้ ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งโรงหนัง ที่ไม่ใช่แค่ของประเทศไทย แต่ของเอเชียด้วย

ศาลาเฉลิมกรุงเป็นโรงภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ก็ทรงโปรดภาพยนตร์เป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นนพระนครก็ไม่ได้มีโรงภาพยนตร์ที่ดีเด่นสมแก่การเป็นโรงภาพยนตร์คู่เมืองสักที จึงทรงมีพระดำริให้สร้างศาลาเฉลิมกรุงขึ้นมาที่บริเวณหัวมุมถนนจริญกรุงตัดกับถนนตรีเพชร บริเวณที่เคยเรียกกันว่าสี่แยกสะพานถ่าน ซึ่งเป็นย่านใจกลางพระนครและเดินทางมาได้สะดวก

อาคารแห่งนี้เป็นผลงานการออกแบบของหม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ซึ่งเพิ่งจบการศึกษาจากฝรั่งเศสและฝากผลงานชิ้นนี้ไว้เป็นผลงานชิ้นแรก ๆ โดยมีนารถ โพธิประสาท เป็นผู้ช่วยในการคำนวณโครงสร้าง โดยเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีความทันสมัยเนื่องจากแพลนเอาไว้ว่าจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบระบบระบายความร้อนน้ำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงภาพยนตร์ติดแอร์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียด้วย แต่ทั้งนี้ระบบแอร์ดังกล่าวจัดส่งมาถึงไม่ทันปีสมโภชกรุง จึงได้ใช้แอร์และฉายภาพยนตร์ในปีถัดมาแทน โดยศาลาเฉลิมกรุงเป็นโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งเพียงหนึ่งเดียว อีกทั้งยังออกแบบให้เป็นโรงหนังที่รองรับการฉายภาพยนตร์เสียง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในสมัยนั้นที่เกิดการเปลี่ยนผ่านจากหนังใบ้มาเป็นหนังเสียง

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ศาลาเฉลิมกรุงจะไม่ได้รับความนิยมเหมือนอย่างในอดีตเนื่องจากการเข้ามาของโรงหนังใหม่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นศาลาเฉลิมกรุงก็ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวเล็ก ๆ ที่สำคัญของวงการภาพยนตร์ไทยอีกประการหนึ่งด้วย การใช้งานของศาลาเฉลิมกรุงอาจจะไม่ได้มีการฉายภาพยนตร์เป็นประจำเหมือนโรงหนังทั่วไป แต่กรุชะนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นโรงมหรสพที่มีการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาชื่นชมเรื่อยมา
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #กรุงเทพ #ประวัติศาสตร์ #ท่องเที่ยว #ธนาคารกรุงเทพ

คลองหินดำ แกรนด์แคนยอนแห่งเมืองใต้ที่ซ่อนอยู่ในชุมพรเมื่อพูดถึงจุดหมายปลายทางทางใต้ของเมืองไทย หลายคนอาจนึกถึงเกาะสวยๆ ห...
15/07/2025

คลองหินดำ แกรนด์แคนยอนแห่งเมืองใต้ที่ซ่อนอยู่ในชุมพร

เมื่อพูดถึงจุดหมายปลายทางทางใต้ของเมืองไทย หลายคนอาจนึกถึงเกาะสวยๆ หรือชายหาดที่โด่งดัง แต่ใครจะไปคิดว่าในจังหวัดชุมพรจะซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง "คลองหินดำ" ไว้ ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "แกรนด์แคนยอนแห่งเมืองใต้" ด้วยความงดงามที่ไม่เหมือนใครอยู่ด้วย

คลองหินดำตั้งอยู่ในบริเวณตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ภายในบริเวณวัดโรจน์ดำริ (วัดคลองหินดำ) สถานที่แปลกตาแห่งนี้เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่ยาวนานมากกว่าหลายพันปี คาดกันว่าเกิดจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก ซึ่งน่าจะเป็นแผ่นเปลือกโลกเดียวกันกับที่จังหวัดสตูล
กระบวนการกัดเซาะของน้ำจากลำธารธรรมชาติที่ไหลผ่านแนวหินปูนมานานนับร้อยนับพันปี ทำให้เกิดเป็นช่องทางน้ำคดเคี้ยวท่ามกลางหน้าผาหินสีดำสูงตระหง่าน สร้างภาพที่งดงามราวกับแกรนด์แคนยอนในต่างประเทศ

คลองหินดำมีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร โดยมีลักษณะเป็นลำธารกว้าง 5-10 เมตร ไหลผ่านช่องผาหินปูนสีดำสูงตระหง่านสองฝั่ง น้ำมีความลึกประมาณ 50 เซนติเมตร หรือสูงประมาณหัวเข่าถึงต้นขาเท่านั้น ทำให้เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและล่องแก่งอย่างปลอดภัยอย่างไรก็ดีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมาะที่จะมาในหน้าฝนสักเท่าไหร่เนื่องจากน้ำจะหลากแรงและมีความสูงมากกว่าปกติ จะปลอดภัยในการเล่นน้ำตั้งแต่ช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวล่องแก่งมากที่สุด แต่ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนน้ำอาจจะน้อยไปหน่อย

คลองหินดำเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. โดยช่วงเช้าถึงบ่ายแก่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะอากาศไม่ร้อนมาก และแสงธรรมชาติกำลังสวย บริเวณนี้มีห่วงยางและเสื้อชูชีพให้เช่า คลองหินดำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักที่กว้างขวางมากนัก ตลอดจนเป็นสถานที่ที่ถูกธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว หินดำที่เป็นที่มาของชื่ออาจจะไม่ได้ดำสนิทเหมือนกับในอดีต แต่ถึงอย่างนั้นก็นับว่าเป้นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าที่ยังคงหลงเหลือให้ผู้คนได้เดินทางไปเยี่ยมชมอยู่
📍พิกัด: https://maps.app.goo.gl/BghUTqEHg2AMHMiJA
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #คลองหินดำ #ชุมพร #ธรรมชาติ #ท่องเที่ยว #เที่ยวไทย #ธนาคารกรุงเทพ

ถ้ำหลวงแม่สาบ ถ้ำอันซีนเมืองเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติมหัศจรรย์เชียงใหม่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความหลากหลายท...
14/07/2025

ถ้ำหลวงแม่สาบ ถ้ำอันซีนเมืองเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติมหัศจรรย์

เชียงใหม่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความหลากหลายทางสถานที่ท่องเที่ยวมาก ๆ อีกจังหวัดหนึ่ง ที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดต่าง ๆ น้ำตกสวย ๆ ดอยสูง ๆ ไปจนถึง “ถ้ำ” เองก็มีเหมือนกัน ซึ่งถ้ำที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งถ้ำฮอตฮิตของจังหวัดเชียงในช่วงที่ผ่านมานี้ ก็ต้องพูดถึง “ถ้ำสายรุ้ง” หรือถ้ำหลวงแม่สาบแน่ ๆ

ถ้ำหลวงแม่สาบ หรือที่ชาวบ้านเรียกขานในชื่อ "ถ้ำสายรุ้ง" เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดอันซีนที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนขาน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นถ้ำหินปูนที่มีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย โดยเป็นถ้ำหินปูนขนาดกลางที่มีอายุถึง 450 ล้านปี ในยุคออร์โดวิเชียน ในอดีตนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้น้ำมาก่อน ปัจจุบันกลายเป็นถ้ำแห้งที่มี 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นปล่องโพรงทะลุมองเห็นท้องฟ้า ส่วนชั้นล่างเป็นโพรงทอดยาวตามภูเขา

ด้วยความที่เป็นถ้ำที่มีอายุเก่าแก่ ตลอดจนได้ชื่อว่าเป็นถ้ำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทำให้ภายในถ้ำมีไฮไลท์ที่สวย ๆ และเป็นผลผลิตจากธรรมชาติที่ได้รังสรรค์มา ไม่ว่าจะเป็น

🌈 “กุมภลักษณ์กลับหัว” - หลุมหินที่ซ้อนทับกัน ทั้งบนผนังและเพดานถ้ำ ซึ่งแตกต่างจากกุมภลักษณ์ทั่วไปที่พบตามลานน้ำตกหรือแม่น้ำที่จะอยู่บนพื้น

🌈 “ม่านสีรุ้ง” - ลวดลายบนผนังถ้ำเป็นริ้วแถบสีต่าง ๆ สลับกันไปอย่างสวยงาม ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุต่างๆ ที่สะสมตัวกันโดยใช้เวลานาน

🌈 “หินย้อยสีดำ” - ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากแร่แมงกานีสไดออกไซด์และแร่แคลไซต์ ซึ่งแตกต่างจากหินย้อยทั่วไปที่มักจะเป็นหินปูนสีขาว

ถ้ำหลวงแม่สาบเป็นถ้ำเข้า-ออกทางเดียวกัน มีความยาวจากปากถ้ำถึงโถงหลักประมาณ 144 เมตร ทางเดินส่วนใหญ่เป็นทางราบ เดินสบายๆ อาจต้องระวังลื่นในบางจุดเท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนขานช่วยทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางเที่ยวชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจะแจกอุปกรณ์เข้าถ้ำ ได้แก่ หมวกที่ติดไฟไว้ตรงหัวสำหรับส่องแสงชมความงดงามภายในถ้ำด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ต้องปฏิบัติตามกฏของการเข้าชมด้วย เพื่อที่ถ้ำสวย ๆ แห่งนี้จะได้อยู่ให้เราชมต่อไปนาน ๆ
📍พิกัด: https://maps.app.goo.gl/i8EeWUJCzj8qbnea6
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ท่องเที่ยว #ธรรมชาติ #เชียงใหม่ #ถ้ำสายรุ้ง #ธนาคารกรุงเทพ

วัดท่าไม้อยู่ที่ไหน? แล้วทำไมต้องมีสติ๊กเกอร์?เคยไหมที่เวลาเดินทางบนท้องถนนแล้วเจอสติ๊กเกอร์ติดที่กระจกรถว่า “วัดท่าไม้”...
14/07/2025

วัดท่าไม้อยู่ที่ไหน? แล้วทำไมต้องมีสติ๊กเกอร์?

เคยไหมที่เวลาเดินทางบนท้องถนนแล้วเจอสติ๊กเกอร์ติดที่กระจกรถว่า “วัดท่าไม้”? ชื่อของวัดท่าไม้เป็นอะไรที่มาปรากฏอยู่บนท้องถนนก็เป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่เคยสงสัยกันไหมว่าวัดท่าไม้นี่อยู่ตรงไหน? แล้วเอามาติดไว้ทำไม?

วัดท่าไม้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการแก้กรรมและทำบุญเสริมชะตา โดยเดิมเป็นสำนักสงฆ์ก่อนที่จะสร้างเป็นวัดขึ้นมาในปี 2532 ตั้งอยู่ในอำเภอกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีที่มาชื่อจากชื่อตำบลที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่นี่เอง ภายในวัดแห่งนี้มีวัตถุเคารพมากมาย ตั้งแต่พระพุทธรูปไปจนถึงเทวรูปและเจ้าแม่ตะเคียน ทำให้เป็นวัดที่มีการแตกแขนงทางความเชื่อผสมกันไปในวัดพุทธแห่งนี้

จุดสำคัญที่ทำให้วัดท่าไม้กลายเป็นวัดที่โด่งดังในระดับที่คนต่างจังหวัดได้ยินชื่อยังร้องอ๋อก็คงจะเป็นเรื่องของสติ๊กเกอร์ วัดท่าไม้เป็นวัดเล็ก ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันในวงแคบ ๆ มาก่อน สติ๊กเกอร์จึงเป็นเหมือนกับของที่ระลึกที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายบอกว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นลูกศิษย์วัดนี้ ซึ่งก็มีบทสัมภาษณ์ว่าไปได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดหลวงพ่อโสธรก็เลยทำตามบ้าง ซึ่งพอมีลูกศิษย์ติดสติ๊กเกอร์นี้ออกไปก็ทำให้ผู้คนสงสัยกันวา่วัดท่าไม้นี้เป็นวัดอะไรอยู่ที่ไหน ก็เลยค้นหาและพากันมาเยี่ยมชมทำบุญจนกลายเป็นกระแสต่อ ๆ กันมา ซึ่งอาจจะมองในมุมการตลาดว่าสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้นี้เป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ของวัดก็เป็นไปได้เหมือนกัน

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ วัดท่าไม้ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เรื่องราวของสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้จึงเป็นสติ๊กเกอร์สำคัญที่มีส่วนร่วมในการพาให้วัดท่าไม้ออกไปสู่สายตาของผู้คนในท้องถนน มันไม่ใช่แค่สติ๊กเกอร์ปลุกเสกที่เป้นที่ระลึก หากแต่ยังเป็นไอเดียดี ๆ ของวัดด้วย

#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #วัดท่าไม้ #สติ๊กเกอร์ #สายบุญ #สายมู #วัด #สมุทรสาคร #ธนาคารกรุงเทพ

พระธาตุดอยกองมู พระธาตุคู่แห่งแม่ฮ่องสอนกับพระธาตุของอัครสาวก🛕สองพระธาตุทรงมอญสีขาว ตั้งตระหง่านสอดฟ้าบนดอยกองมู จังหวัด...
13/07/2025

พระธาตุดอยกองมู พระธาตุคู่แห่งแม่ฮ่องสอนกับพระธาตุของอัครสาวก

🛕สองพระธาตุทรงมอญสีขาว ตั้งตระหง่านสอดฟ้าบนดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในพระธาตุที่ไม่เหมือนใครในไทย เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าพระธาตุในภาคเหนือส่วนใหญ่ล้วนแต่เป้นพระธาตุทรงล้านนาเสียหมด ที่เป็นทรงมอญอย่างนี้นับว่าหายากนัก

🌳พระธาตุดอยกองมูเป็นพระธาตุสำคัญและเป็นประธาตุประจำแม่ฮ่องสอน โดยพระธาตุองค์ใหญ่สร้างขึ้นราวสมัยรัชกาลที่ 4 ในขณะที่พระธาตุองค์เล็กสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ในเจดีย์องค์ใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะที่อัญเชิญมาจากพม่าในสมัยนั้น ในขณะที่เจดีย์องค์เล็กบรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร

🌄ด้วยความที่พระธาตุแห่งนี้ตั้งอยู่บนดอย ทำให้บรรยากาศโดยรอบสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่ฮ่องสอนได้อย่างง่ายดาย โดยเป็นอีกหนึ่งวัดดังที่ควรค่าแก่การเดินทางมาสักการะบูชา ตลอดจนชื่นชมวัฒนธรรมอีกสายหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย

🏠นอกเหนือจากพระธาตุทั้งสองแล้ว ภายในบริเวณวัดยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ มากมาย เช่นในส่วนของตัววิหารที่เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างไทยใหญ่กับพม่า ซึ่งเราสามารถพบเห็นร่องรอยของศิลปะพม่าและไทยใหญ่ได้ทั่วทั้งวัด สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมของเมืองที่มีอยู่ใกล้ชิดติดกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ท่องเที่ยว #เที่ยวไทย #วัด #แม่ฮ่องสอน #พระธาตุดอยกองมู #ธนาคารกรุงเทพ

รามราชนิเวศน์ : เพชรเม็ดงามยามพิรุณโปรยปรายธรรมเนียมการสร้างพระราชวังประจำฤดูร้อนของไทยมีพัฒนาการมาจากแนวคิดของโลกตะวันต...
13/07/2025

รามราชนิเวศน์ : เพชรเม็ดงามยามพิรุณโปรยปราย
ธรรมเนียมการสร้างพระราชวังประจำฤดูร้อนของไทยมีพัฒนาการมาจากแนวคิดของโลกตะวันตกที่มีอากาศหนาว ครั้นเมื่อถึงฤดูร้อนก็จะมีการแปรพระราชฐานไปยังพระราชวังฤดูร้อนที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป แต่อย่างไรก็ดี พระราชวังในไทยไม่ได้มีเพียงแค่พระราชวังฤดูร้อน หากแต่มีพระราชวังฤดูฝนด้วย

พระราชวังฤดูฝนในไทย เท่าที่ทราบและยังปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันมีเพียงที่เดียวคือที่พระรามราชนิเวศน์ หรือพระราชวังป้อมปืนในจังหวัดเพชรบุรี
พระราชวังบ้านปืนถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีพระราชประสงค์ที่จะมีพระราชวังที่ประทับนอกพระนครในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูฝน จึงได้ทรงให้จัดซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านปืน ริมแม่น้ำเพชรบุรีเพื่อก่อสร้างพระราชวังฤดูฝน

พระราชวังฤดูฝนนี้ เป็นพระราชวังที่ฝรั่งทุกส่วน โดยได้สถาปนิกฝีมือเยี่ยมอีกคนหนึ่งของราชสำนัก ผู้แรมรอนมาจากเยอรมันอย่าง คาร์ล เดอห์ริง (Karl Dorhring) ผู้ออกแบบวังบางขุนพรหม และคณะวิศวกร มัณฑนากร ชาวเยอรมันทั้งหมดมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างพระราชวังบ้านปืนแห่งนี้ขึ้นมาโดยย่อส่วนเอาตำหนักจากพระราชวังฤดูร้อนของไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซียมาไว้ แต่ก็สร้างไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงโปรดให้สร้างต่อจนเสร็จ
ตัวพระตำหนักนั้นได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้มีชื่อว่า “พระที่นั่งศรเพ็ชรปราสาท” โดยตัวสถาปัตยกรรมสร้างขึ้นมาในรูปแบบของศิลปะอาร์ต นูโวเยอรมันที่ศัพท์ทางประวัติศาสตร์ศิลปะเรียกว่า “จุงเกนสติล” (Jugendstil) โดยจะไม่ได้มีปูนปั้นที่มากมายนัก จะเน้นไปที่การเจาะเซาะร่องมากกว่า แต่จะเน้นเรื่องของหน้าต่างที่สูง รวมไปถึงเพดานที่กว้างทำให้ดูโอ่อ่าใหญ่โตเป็นพิเศษ
ถึงแม้จะสร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่ก็มิได้ทรงแปรพระราชฐานมาที่นี่มากนัก ทำให้พระราชวังแห่งนี้ทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ จนต้องถูกทิ้งร้างไป พื้นที่ของพระราชวังบ้านปืนถูกนำมาใช้อีกครั้งหนึ่งในช่วงมหาสงครามเอเชียบูรพา ตรงกับรัชกาลที่ 8 ก็ได้มีการตั้งกองบัญชาการทหารที่พระราชวังแห่งนี้ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลได้โปรดเกล้าฯพระราชทานให้เป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ 15
จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 9 พระราชวังบ้านปืนแห่งนี้ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้คนสามารถเข้ามาชมความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมของที่นี่ได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการต่อลมหายใจของสถานที่แห่งนี้ให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ประวัติศาสตร์ #สถาปัตยกรรม #เพชรบุรี #ธนาคารกรุงเทพ

สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสว...
13/07/2025

สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูตื วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เรื่องราวของ “ธารอโศก” อุทยานที่ครบทั้งบกและทะเลในจังหวัดกระบี่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่...
12/07/2025

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เรื่องราวของ “ธารอโศก” อุทยานที่ครบทั้งบกและทะเล

ในจังหวัดกระบี่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เต็มไปด้วยนานาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบนิเวศชายหาดที่มีชื่อเสียงมาก ๆ แต่นอกเหนือจากการไปเที่ยวเกาะ ชายหาด หรือทะเลแล้ว บนบกเองก็มีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย ซึ่งในคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับในส่วนของ “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” กัน

ธารโบกขรณีเดิมมีชื่อเรียกว่า “ธารอโศก” เป็นป่าดงดิบระหว่างหุบเขาในท้องที่ตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึกจังหวัดกระบี่ โดยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า มีธารน้ำไหลผ่านภูเขาบริวณนี้แล้วลงไปสู่ทะเลที่ตำบลแหลมสัก ซึ่งธารน้ำนี้มีต้นน้ำมาจากเขาถ้ำน้ำผุดในตำบลอ่าวลึกเหนือ ซึ่งในปี 2496 พลโทบัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มาตรวจราชการและแวะพักที่ธารอโศก พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่าธารโบกขรณีแทน

ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลทีื 9 ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ด้วย กระทั่งในปี 2528 ก็ได้มีประกาศให้ธารโบกขรณีกลายเป็นอุทยานแห่งชาติขึ้นมา ซึ่งมีพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งมีระบบนิเวศที่หลากหลายตั้งแต่ป่าดงดิบ ป่าชายเลน ป่าพรุ ไปจนถึงป่าชายหาด

สิ่งที่น่าสนใจและน่าแวะชมในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีก็มีอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
-ถ้ำทะลุฟ้า
-เขาช่องลม
-เกาะเหลาบิเละ
-เกาะแหลมค้างคาว
เป็นต้น

นอกเหนือจากสถานที่ที่เน้นไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ที่สระโบกขรณีเองก็มีสถานะในการเป็นแหล่งโบราณคดีด้วยในอีกทางหนึ่งจากการที่ค้นพบศิลปะถ้ำจำนวนมาก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เคยใช้พื้นที่ในบริเวณเมื่ออดีตนานมาอีกด้วย
📍พิกัด: https://maps.app.goo.gl/9jQ3mJDdqDZEDgCbA
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #กระบี่ #ธรรมชาติ #เที่ยวไทย #ท่องเที่ยว #ธนาคารกรุงเทพ

ศาลเจ้าพ่อเสือพระนคร ตำนานยายผ่องนายสอนและเสือกตัญญูศาลเจ้าพ่อเสือ แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งเทพฝ่ายจีนที่มีศาลเจ้าหลายแห่งสร...
12/07/2025

ศาลเจ้าพ่อเสือพระนคร ตำนานยายผ่องนายสอนและเสือกตัญญู

ศาลเจ้าพ่อเสือ แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งเทพฝ่ายจีนที่มีศาลเจ้าหลายแห่งสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าองค์นี้โดยเฉพาะ ซึ่งแค่ในกรุงเทพก็มีอยู่หลายที่ด้วยกัน ตามความเชื่อเดิมเจ้าพ่อเสือก็คือ ตั่วเหล่าเอี้ย ซึ่งมีเรื่องเล่าหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งว่าเป็นเจ้าชายเมืองจิงหลี่นามเสวี่ยนอู่ ที่เห็นประชาชนทุกข์ร้อนจึงออกบำเพ็ญเพียรจนบรรลุเป็นเซียน ซึ่งเง็กเซียนฮ่องเต้ได้โปรดฯให้เป็นผู้ตรวจภพทิศเหนือ มีลักษณะทางประติมานวิทยาคือเหยียบงุ เหยียบเต่า และขี่เสือเป็นพาหนะ อันเป็นที่มาของชื่อเจ้าพ่อเสือ

ตำนานของทางจีนเล่ากันมาอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ดี หนึ่งในศาลเจ้าพ่อเสือที่เก่าแก่และสำคัญอย่างศาลเจ้าพ่อเสือเขตพระนครนั้น ก็มีเรื่องเล่าถึงที่มาของศาลเจ้าพ่อเสือที่แตกต่างกันออกไป เป็นนิทานท้องถิ่นที่เล่าสืบต่อกันมาโดยเฉพาะ โดยตัวศาลเจ้าพ่อเสือนี้ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งนิทานที่มาของศาลเจ้าพ่อเสือนี้ก็มีเนื้อเรื่องดำเนินอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวเหมือนกัน

เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงปลายรัชกาลที่ 3 มีชายหนุ่มชื่อนายสอน อาศัยอยู่กับยายผ่องผู้เป็นแม่ เล่ากันว่าในอดีตพื้นที่ในบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่เป็นป่ารกและมีเสืออาศัยอยู่ นายสอนซึ่งประกอบอาชีพหาของป่าขายก็ได้บังเอิญไปพบกับเสือตัวหนึ่งและต่อสู้กัน ซึ่งนายสอนก็บาดเจ็บสาหัสแต่ก็แข็งใจหนีออกมาได้และสิ้นใจต่อหน้ายายผ่องเมื่อกลับมาถึงบ้าน ยายผ่องเสียใจจึงไปแจ้งปลัดอำเภอให้ไปจับเสือมาลงโทษ ซึ่งปลัดอำเภอก็ได้ไปขอพรกับหลวงพ่อบุญฤทธิ์วัดมหรรณพารามเพื่อขอให้การจับเสือไปได้อย่างราบรื่น และเสือมามอบตัวแต่โดยดี ซึ่งพอออกไปล่าเสือก็พบว่าเสือตัวนั้นกลับเชื่องขึ้นมา จึงจับกลับมาพิจารณาคดี พบว่ามีความผิดจริงจึงสั่งประหาร ทว่ายายผ่องกลับรู้สึกสงสารเสือเมื่อเห็นท่าทางสำนึกผิดของมันจึงขอให้ไว้ชีวิต และนำเสือตัวนี้มาเลี้ยงไว้ เสือก็ทำหน้าที่ลูกแทนนายสอนไม่บกพร่อง กระทั่งยายผ่องสิ้นใจ เสือตนนี้ก็กระโดดเข้ากองไฟตายตาม ซึ่งชาวบ้านก็ได้สร้างรูปปั้นเสือไว้เป็นอนุสรณ์

เรื่องราวตำนานศาลเจ้าพ่อเสือดังกล่าว ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์อื่น ๆ แน่ชัดนักทั้ง ๆ ที่เนื้อหาค่อนข้างเป็นอะไรที่อัศจรรย์และน่าจะมีบันทึกไว้เป็นปูมโหร ทำให้เชื่อว่าเป็นนิทานที่เขียนขึ้นมาเพื่ออธิบายถึงศาลเจ้าพ่อเสือนี้ในยุคหลัง ไม่เพียงเท่านั้นนิทานนี้ยังดูเหมือนจะเป็นนิทานที่เกี่ยวเนื่องกับวักมหรรณพารามในอีกทางหนึ่ง อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาประกอบเป็นเรื่องราวที่เล่าถึงอิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อบุญฤทธิ์วัดมหรรณพารามในอีกทางหนึ่งก็อาจจะเป็นไปได้เหมือนกัน
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ตำนาน #กรุงเทพ #ประวัติศาสตร์ #พระนคร #ศาลเจ้าพ่อเสือ #ธนาคารกรุงเทพ

อัยเยอร์เวง ทะเลหมอกแดนใต้บนยอดเขาไมโครเวฟ🗼“ไมโครเวฟ” ชื่อนี้ได้ยินครั้งแรกเราคงไม่นึกถึงภชื่อภูเขาเป็นแน่ โดยชื่อของไมโ...
11/07/2025

อัยเยอร์เวง ทะเลหมอกแดนใต้บนยอดเขาไมโครเวฟ

🗼“ไมโครเวฟ” ชื่อนี้ได้ยินครั้งแรกเราคงไม่นึกถึงภชื่อภูเขาเป็นแน่ โดยชื่อของไมโครวฟเป็นชื่อที่ถูกนำมาใช้เรียกภูเขาแห่งหนึ่งใน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยที่มาของชื่อนี้มาจากการที่ภูเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งเขาไมโครเวฟก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดในฐานะที่ตั้งของ “จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง”

🌊☁จุดชมทะเลหมอกของเขาไมโครเวฟจะมีอยู่หลัก ๆ ด้วยกัน 3 จุด โดยจุดชมหมอกดั้งเดิมจะอยู่ใกล้ ๆ กับเสาสัญญาณเลย ก่อนที่ในภายหลังจะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้วเกิดเป็นไฮไลท์ใหม่ขึ้นมาอย่าง “สกายวอร์กอัยเยอร์เวง” ทางเดินลอยฟ้าที่จะทำให้นักท่องเที่ยวชมทะเลหมอกได้ครบจบ 360องศาเลยทีเดียว

👀ถ้าหากจุดชมวิวของใหม่อย่างสกายวอร์กที่เป็นกระจกอาจจะรู้สึกหวาดเสียวไปหน่อย ใกล้กันก็ยังมีจุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงของเดินอยู่เหมือนกัน ซึ่งมีความสูง 2 ชั้น และสามารถมองเห็นทะเลหมอกสวย ๆ แบบอลังการยามเช้าได้เหมือนกัน

🧳ในปัจจุบันนี้ “ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ได้รับความนิยมอีกแห่งของเมืองเบตง เมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ของจังหวัดยะลา โดยที่อัยเยอเวงจะมีรถสองแถวให้บริการจากส่วนลานจอดรถขึ้นไปยังจุดชมทะเลหมอก ซึ่งก็ต้องต่อคิวเพื่อขึ้นไปยังบริเวณสกายวอร์ก ซึ่งถ้าไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวบอกเลยว่าคนเยอะมาก
📍:https://maps.app.goo.gl/yBCJCtQkq67H2JdQ8
#ที่โปรดepisodeเที่ยวกัน #ยะลา #ทะเลหมอก #ท่องเที่ยว #เที่ยวไทย #ธรรมชาติ #ธนาคารกรุงเทพ

ที่อยู่

Bang Rak

เบอร์โทรศัพท์

+6622302209

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ที่โปรด Episode เที่ยวกันผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ที่โปรด Episode เที่ยวกัน:

แชร์