บ้านและสวน ExplorersClub

01/12/2025

[ GUIDE ] วางแผนเที่ยวปีใหม่กันหรือยัง ถ้ายังเราขอชวนไปเที่ยวตามรอย 9 เส้นทางในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 9 เส้นทางในซีรีส์ ‘THE SOUL OF THAILAND’ ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสความสุขจากการพบปะผู้คนในชุมชนน่ารัก และรู้จักประเพณีอันดีงามในแต่ละท้องถิ่น มีสถานที่แนะนำพร้อมช่องทางการติดต่อไว้ครบถ้วน

อ่านเรื่องนี้ได้ที่เว็บไซต์ https://explorersclub.baanlaesuan.com/tag/the-soul-of-thailand

นอกจากความสุขและความสนุกที่รอเจอคุณอยู่ การได้ไปเที่ยว 9 เส้นทางนี้จะทำให้ทุกคนได้รู้ถึงบทบาทหน้าที่ของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ในการยกระดับเส้นทางการท่องเที่ยวบนฐานทุนท้องถิ่นอย่างตั้งใจ เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้เข้าถึงพื้นที่และพบประสบการณ์ดี ๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชนเหล่านี้ให้ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

ถ้าใครชอบเที่ยวแบบนี้ ข่าวดีคือในปีหน้า บ้านและสวน Explorers Club จะร่วมมือกับ อพท. จัด Exclusive Trip เปิดรับสมัครผู้ร่วมทางทั้ง 9 จุดหมายเพื่อไปเป็นนักท่องเที่ยวตัวอย่าง เที่ยวให้เข้าถึงจิตวิญญาณแห่งไทยแบบ ‘THE SOUL OF THAILAND’ รอติดตามการประกาศวันและเวลาที่แน่นอนในเร็ว ๆ นี้

กติกาในการผ่านคัดเลือกร่วมทริปนี้ไม่ยาก ใครอยากได้แนวทาง วันที่ 12 ธันวาคมนี้ อยากชวนไปร่วมงานเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว “THE SOUL OF THAILAND สัมผัสจิตวิญญาณแห่งไทย” ส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Content) เพื่อส่งเสริมและนำเสนอทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่าน 9 พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ภายในงานนี้ทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยอย่างลึกซึ้ง พร้อมพบกับ 9 ชุมชนจาก 9 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ที่นำกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชนมาร่วมจัดแสดงและจำหน่าย ให้ทุกคนได้สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ของชุมชนไทยอย่างใกล้ชิด ที่ ONE BANGKOK ลาน Parade ชั้น B ตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น.

#อพท #บ้านและสวนExplorersClub

29/11/2025

[ TRIP ] ที่น่านตอนนี้อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง เลยอยากชวนไปลองใช้ชีวิตกลางแจ้ง พายเรือแคนูล่องแม่น้ำน่าน ย้อนอดีตเส้นทางการค้าเก่าไปสัมผัสความอดุมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผ่านการนำเที่ยวโดยกลุ่มชาวบ้านที่ดำรงชีพอยู่กับแม่น้ำมาทั้งชีวิต บางคนเป็นถึงทายาทของคนเรือที่ช่ำชองในการควบคุมเรือล่องแม่น้ำน่านในอดีต

ช่วงเดือนธันวาคม จนถึงเมษายนของทุกปี เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและห้วงเวลาอันเหมาะสมสำหรับการไปพักค้างแรมบนเกาะแก่ง นอนดูดาวกลางป่าอันสงบเงียบ และกินอยู่แบบบ้านบ้าน กับวิสาหกิจชุมชนแคนูแม่น้ำน่าน สัก 3 วัน 2 คืน

เส้นทางแนะนำสำหรับเราคือระยะทาง 45 กิโลเมตร เส้นทางบ้านพระเนตร อำเภอเวียงสา ถึงแก่งหลวง อำเภอนาน้อย เรือแคนู 1 ลำนั่งได้ 2 คน พร้อมนายท้ายคอยคัดท้ายเรือให้ สายลุยต้องลองสักครั้ง ใครอยากรู้ว่าเส้นทางนี้เป็นอย่างไร อ่านเรื่องนี้ได้ที่เว็บไซต์ https://explorersclub.baanlaesuan.com/trip/canoenanriver

หรือใครรู้สึกว่า 45 กิโลเมตร ยังไม่สะใจ แคนูแม่น้ำน่านยังมีระยะ 90 กิโลเมตร เส้นทางบ้านพระเนตร อำเภอเวียงสา ถึงหมู่บ้านประมงปากนาย อำเภอนาหมื่น ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ให้เลือกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แคนูแม่น้ำน่าน หรือโทร. 09-9472-3566, 09-4829-4318

EXPLORERS: เจ, ตู่, บาส, กัน
AUTHOR: ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: นภสิทธิ์ ตันเสียดี

#บ้านและสวนExplorersClub #น่าน #แคนูแม่น้ำน่าน

28/11/2025

[ EXCLUSIVE TRIP ] จากแรงบันดาลใจสู่การสำรวจพื้นที่จริง นี่คือทริปสุดพิเศษ 3 วัน 2 คืน ที่บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้านาฬิกา “Luminox” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อพาแขกคนสำคัญนับสิบชีวิตบินลัดฟ้าจากกรุงเทพมหานคร สู่จังหวัดอุบลราชธานี ไปร่วมงานเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” สำหรับสายแอดเวนเจอร์ตัวจริง

Luminox คือแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส ที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานทหารระดับโลกและนักผจญภัยชื่อดัง โดยนาฬิการุ่นพิเศษ “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” คือผลงานที่ผสานทั้งความแข็งแกร่งตามมาตรฐานทางทหาร MIL-SPEC (Military Specification) จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และเอกลักษณ์แห่งธรรมชาติบนที่ราบสูงอีสานของเมืองไทยไว้ในเรือนเดียวกัน

เอกลักษณ์ที่เราพูดถึงนั้น คือหินผา แอ่งน้ำ ริ้วทราย เหล่าตัวแทนของความงดงามแห่งภูมิประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ที่ธรรมชาติรังสรรค์ผ่านกาลเวลาจนมีลักษณะเฉพาะตัว สารตั้งต้นแห่งแรงบันดาลใจของนาฬิกา “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” ซึ่งผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือน และวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในราคา 39,500 บาท

“MIL-SPEC Thailand Limited Edition” มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ตัวเรือนและหน้าปัดออกแบบด้วยสีทราย (Sand) พร้อมลายคลื่นทรายที่สะท้อนภาพเนินทรายที่ก่อตัวจากการพัดพาของแม่น้ำโขงอย่างเป็นเอกลักษณ์

ฝาหลังสลักลายแอ่งน้ำ หรือที่เรียกว่า “โบก” ในภาษาท้องถิ่น ที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของกระแสน้ำโขง จนเกิดเป็นหินผาและหลุมเว้าลวดลายแปลกตา ลายกราฟิกที่ลดทอนจากรูปทรงโค้งกลมอิสระของโบก ตัวเลขระบุละติจูด ลองติดจูดของสามพันโบก โดยเป็นการออกแบบร่วมกับ บ้านและสวน ExplorersClub พร้อมสลักคำว่า Limited Edition และเลขประจำตัวเรือน การบันทึกเรื่องราวของธรรมชาติไทยไว้ในเรือนเวลา เพื่อให้ผู้ครอบครองได้พกพาเสน่ห์ของแม่น้ำโขงไว้กับตัวในทุกการเดินทาง

มาพร้อมกล่องบ็อกซ์เซ็ตสุดพิเศษ ประกอบด้วย สายนาฬิกา Nato สีเขียวทหาร อุปกรณ์เปลี่ยนสาย และเข็มทิศสำหรับติดตั้งบนสายนาฬิกา

Mr. Pierrick Marcoux, Global Product Director ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “MIL-SPEC Thailand Limited Edition ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่น้ำโขงและความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของสามพันโบก สีสันโทนสีทรายและรายละเอียดบนหน้าปัดสะท้อนภูมิทัศน์ที่ถูกหล่อหลอมจากสายน้ำ หินทราย และกาลเวลา

“นาฬิการุ่นพิเศษจำนวน 200 เรือนนี้ผลิตขึ้นโดยพัฒนาจากรุ่น MIL-SPEC 3350 ที่ได้รับการยอมรับ และผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างพิถีพิถัน สื่อถึงทั้งความแข็งแกร่งและความเคารพต่อธรรมชาติ

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความผูกพันกับแบรนด์มาอย่างยาวนานมากที่สุด และการเปิดตัวรุ่นพิเศษนี้ คือวิธีที่เราได้ร่วมกันฉลองวัฒนธรรม จิตวิญญาณแห่งการผจญภัย และแสดงถึงการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากแฟน ๆ Luminox ในประเทศไทย”

บ้านและสวน Explorers Club ในฐานะพาร์ทเนอร์ของงาน เราได้เก็บบรรยากาศจากกิจกรรมเปิดตัวนาฬิกา “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” และเบื้องหลังที่ Luminox นำทีมออกสำรวจความงดงามของภูมิประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ต้นทางแห่งแรงบันดาลใจของนาฬิการุ่นพิเศษนี้ ผ่านการล่องเรือในแม่น้ำโขงไปตามเส้นทางท่องเที่ยวแหล่งสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี

อาทิ ต้นจามจุรียักษ์รากลอย ปากบ้อง ผาวัดใจ ภูกองข้าว ลานหินสี หาดหงส์ ศิลาเลข และปิดท้ายที่สามพันโบก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเพิ่งจบลงไปหมาด ๆ ในช่วงเช้าวันนี้มาฝากสาวก Luminox และผู้ติดตามของเราทุกคน

ย้ำอีกครั้งว่า “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือน และวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในราคา 39,500 บาท มาในรูปแบบของกล่องบ็อกซ์เซ็ต พร้อมสายนาฬิกา NATO สีเขียวทหาร พร้อมอุปกรณ์เปลี่ยนสาย และเข็มทิศสาหรับติดสายนาฬิกา ช่วยเพิ่มความพร้อมสาหรับการผจญภัยทุกสถานการณ์

นี่คือนาฬิกาที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ และเป็นอีกหนึ่งเรือนเวลาที่ถ่ายทอดทั้งเรื่องราวแห่งธรรมชาติของลุ่มแม่น้ำโขงและจิตวิญญาณนักผจญภัยได้อย่างแท้จริง

สามารถติดตาม Luminox บนโซเชียลมีเดียได้ที่
https://www.facebook.com/luminoxthailandofficial
https://www.instagram.com/Luminoxth/


#สามพันโบก

26/11/2025

Luminox เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ “MIL-SPEC Thailand Limited Edition” ผลงานที่ผสานทั้งความแข็งแกร่งตามมาตรฐานทางทหารจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และเอกลักษณ์แห่งธรรมชาติบนที่ราบสูงอีสานของเมืองไทยไว้ในเรือนเดียวกัน

ตัวเรือนและหน้าปัดออกแบบด้วยสีทราย (Sand) พร้อมลายคลื่นทราย สะท้อนภาพเนินทรายที่ก่อตัวจากการพัดพาของแม่น้ำโขงอย่างเป็นเอกลักษณ์

สัญลักษณ์พระอาทิตย์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา แทนช่วงเวลาที่ดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า ทอแสงกระทบผิวน้ำและโขดหินจนเกิดเป็นทิวทัศน์สุดตระการตา

ฝาหลังสลักลายแอ่งน้ำ หรือที่เรียกว่า “โบก” ในภาษาท้องถิ่น ที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของกระแสน้ำโขง จนเกิดเป็นหินผาและหลุมเว้าลวดลายแปลกตา

พร้อมสลักคำว่า Limited Edition และเลขประจำตัวเรือน เพื่อให้ผู้ครอบครองได้พกพาเสน่ห์ของแม่น้ำโขงไว้กับตัวในทุกการเดินทาง

มาพร้อมกล่องบ็อกซ์เซ็ตสุดพิเศษ ประกอบด้วย สายนาฬิกา NATO สีเขียวทหาร อุปกรณ์เปลี่ยนสาย และเข็มทิศสำหรับติดตั้งบนสายนาฬิกา ช่วยเพิ่มความพร้อมสำหรับการผจญภัยทุกสถานการณ์

ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือน และวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในราคา 39,500 บาท

ติดตาม Luminox บนโซเชียลมีเดียได้ที่ https://www.facebook.com/luminoxthailandofficial และ https://www.instagram.com/Luminoxth/


#สามพันโบก

26/11/2025

[ TRIP ] ท่องเที่ยวไปในดินแดนแห่งมนต์ขลังของอาณาจักรทวารวดีที่ยิ่งใหญ่เมื่อ 1,400 ปีก่อน “เมืองโบราณอู่ทอง” สุพรรณบุรี ดินแดนแห่งโบราณคดีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความศรัทธา วิทยาการความรู้ และงานศิลปกรรมที่เป็นต้นกำเนิดแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย

#อพท #อู่ทอง #เมืองโบราณอู่ทอง #สุพรรณบุรี

25/11/2025

[ TRIP ] 2 วัน 1 คืน เมืองมรดกแห่งดินแดนสุวรรณภูมิ

“อู่ทอง” สุพรรณบุรี แหล่งอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในอดีตกาลนับพันปีแผ่นดินแห่งนี้คืออาณาจักรทวารวดีที่ยิ่งใหญ่ ความรุ่งเรืองแห่งยุคสมัยถูกยืนยันไว้ด้วยหลักฐานของผู้มาเยือนจากต่างแดน รากเหง้าของประวัติศาสตร์ยังคงตลบฟุ้งปกคลุมทั่วพื้นที่ ชวนศึกษาค้นหาไม่จบสิ้น และมรดกล้ำค่าในวิถีแห่งดินแดนสุวรรณภูมิยังคงถูกส่งต่อจนถึงปัจจุบัน

อ่านบทความทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์: https://explorersclub.baanlaesuan.com/trip/u-thong-legacy-of-the-ancient

EXPLORERS: บาส
AUTHOR: บาส-บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER: อู๊ด-อภิรักษ์ สุขสัย

#อพทอู่ทอง #อู่ทอง #สุพรรณบุรี #ท่องเที่ยวไทย

ท่องเที่ยวแบบครบรส สนุกกับประวัติศาสตร์ ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเพลินกับกิจกรรมสบาย ๆ สไตล์ชุม....

24/11/2025

[TRIP] เมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี คือเมืองที่คุณสามารถท่องเที่ยวได้แบบครบรส สนุกกับประวัติศาสตร์ ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเพลินกับกิจกรรมสบาย ๆ สไตล์ชุมชนกับงานจักสานง่าย ๆ พร้อมกับยืดเส้นยืดสายคลายเส้นด้วยสิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น และตบท้ายด้วยอาหารรสชาติยอดเยี่ยมจากสูตรดั้งเดิมแท้ ๆ เหมือนมีแม่มาทำให้กิน นี่คือการท่องเที่ยวที่จะเยียวยาคุณได้ทั้งใจ กาย และได้ความรู้ไปในคราวเดียวกัน โดยใช้เวล เพียงแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้นเอง
โดยการท่องเที่ยวเมืองอู่ทองให้สนุก และได้ครบทุกรสชาติ พวกเรา Explorers Club ได้ไปทำเส้นทางไว้ให้แล้ว ในทุกจุดล้วนมีความพิเศษ และรับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ และเส้นทางท่องเที่ยวนี้เหมาะกับทุกคนในครอบครัว
#เมืองโบราณอู่ทอง
“อู่ทอง” คือหนึ่งในดินแดนสุวรรณภูมิที่สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของอาณาจักรทวารวดีในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งคำว่า “อาณาจักร” นั้นหมายถึง “เขตแดนที่มีผู้ปกครอง” โดยความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรทวารวดีในประเทศไทยนั้นครอบคลุม และกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศ ในภาคกลางมีการกระจายตัวอยู่ตามลุ่มแม่น้ำสำคัญต่าง ๆ เช่น แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา
“เมืองโบราณอู่ทอง” มีความสำคัญกับการศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ที่ปรากฏหลักฐานทางวัตถุโบราณจำนวนมากมาย ที่ทำให้เกิดการศึกษาค้นคว้า และค้นพบเรื่องราวของยุคทวารวดีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
#ทวารวดีปฐมบทแห่งประวัติศาสตร์ไทย
ช่วงเวลาของทวารวดีนั้นเริ่มต้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 16 หรือเมื่อประมาณ 1,400 ปีก่อน ซึ่งคำว่า “ทวารวดี” มีความหมายครอบคลุมอยู่หลายมิติ เช่น หมายถึงอาณาจักร, หมายถึงวัฒนธรรมโบราณที่เกิดขึ้นในดินแดนของประเทศไทย และหมายถึงรูปแบบของงานศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากในสมัยราชวงศ์ต่าง ๆ ของอินเดีย
ยุคทวารวดีถือเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านสังคม การค้า การปกครอง ศาสนา ศิลปะ และวิทยาการต่าง ๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ในบ้านเราจนถึงช่วงปลายพุทธศตวรรที่ 16 ที่วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนาแบบขอมโบราณเข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมาก จึงส่งผลทำให้ยุคสมัยของทวารวดีสิ้นสุดลง
#พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
หากคุณต้องการศึกษาจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เข้าใจรากเหง้าและความเป็นมาของพื้นที่เมืองโบราณทวารวดีอู่ทองได้เป็นอย่างดีที่นี่ได้รวบรวมหลักฐานที่บ่งชี้ถึงเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ และความรุ่งเรืองแห่งยุคสมัยในอดีตของทวารวดีไว้ได้อย่างครบครัน โดยถ่ายทอดผ่านการจัดแสดงวัตถุโบราณจำนวนมากที่พบเจอในเมืองโบราณอู่ทองและพื้นที่ใกล้เคียงที่ร่วมยุคสมัยกัน ซึ่งบรรดาวัตถุโบราณจำนวนมากที่พบเจอนั้นเป็นเพราะในอดีตนอกจากดินแดนแห่งนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน ยังเป็นยุคแรกเริ่มของการมีศาสนาพุทธเข้ามาในดินแดน จึงทำให้เกิดการสร้างศาสนสถานต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งจะเห็นได้จากซากของแหล่งโบราณที่กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณเมืองอู่ทอง
วัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อรวบรวม ศิลปะวัตถุ เครื่องมือเครื่องใช้มากมายที่ถูกขุดค้นพบในสมัยต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงวิวัฒนาการของมนุษย์ในอดีตที่เคยอาศัยอยู่ในดินแดนสุพรรณบุรี
ในปัจจุบันตัวพิพิธภัณฑ์ได้มีการปรับปรุงออกแแบบการจัดแสดงโบราณวัตถุให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้การเดินดูพิพิธภัณฑ์ไม่น่าเบื่อ และมีการสอดแทรกเนื้อหาสาระไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการรวบรวมธรรมจักรชิ้นงามและสมบูรณ์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญทางพุทธศาสนา แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและศรัทธาของผู้คนในยุคทวารวดี รวมทั้งจัดแสดงเครื่องประดับจากหินแร่ ที่ในยุคก่อนหาได้มากมายตามผืนดินของเมืองโบราณอู่ทอง และทองคำที่ขุดพบจากหลุมฝังศพของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย แนะนำว่าควรเดินชมโดยมีวิทยากร และใช้เวลากับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบบไม่ต้องเร่งรีบแล้วจะได้ความรู้ไปแบบเต็มอิ่ม
#พุหางนาค
เมืองอู่ทองยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน และให้อารมณ์ในการสำรวจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่างไปจากการเยี่ยมชมในพิพิธภัณฑ์ “สวนหินพุหางนาค”หรือ อุทยานสวนหินพุทธสถานทวารวดีอู่ทอง เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองโบราณอู่ทอง ซึ่งประกอบด้วยภูเขาหลายลูก ได้แก่ เขาทำเทียม เขาคอก และเขาพระ ซึ่งในภูเขาแต่ละลูกนั้นจะปรากฏโบราณสถาน และโบราณวัตถุสมัยทวารวดี และยังพบหลักฐานของผู้คนในสมัยอยุธยาอีกด้วย
ด้วยความร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่ และ อพท. หรือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองโบราณอู่ทอง ได้พัฒนาให้สวนพุหางนาคแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา พร้อมจัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้เดินได้ตามความต้องการใน 3 เส้นทางที่มีระยะทางไกลแตกต่างกัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่วนอุทยานพุม่วง และรับบริการผู้นำทางได้จากชุมชน
#พุทธมณฑลสุพรรณบุรี
อีกหนึ่งสถานที่ที่คุณห้ามพลาดหากได้มาเยือนเมืองโบราณอู่ทอง ในช่วงเวลาบ่ายคล้อยจนถึงช่วงเย็นอยากให้คุณมาจบวันสวย ๆ อย่างอลังการกับศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐานพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปขนาดมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นโดยการแกะสลักจากหน้าผาหิน ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หินที่หมดสัญญาไปแล้ว ปัจจุบันได้ถูกแปรเปลี่ยน และพัฒนาจากพื้นที่รกร้างไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชาวสุพรรณบุรี ในบริเวณพุทธมณฑลสุพรรณบุรียังมีอุโมงค์หินศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่กว้าง 20 เมตร มีความลึก 50 เมตร และทางเดินสกายวอล์กสุพรรณบุรี ทางเดินกระจกเลียบหน้าผาที่สร้างให้สูงจากพื้นดินเพื่อให้ขึ้นไปชื่นชมความงดงามมุมสูง (โดยปัจจุบันนี้อยู่ในระหว่างรอการเปิดใช้งานอย่างเป็นทาง)
#เพลินกับชุมชน
นอกจากความสำคัญของโบราณคดีแล้ว เมืองอู่ทองยังมีชุมชนที่น่ารัก และกิจกรรมดี ๆ ที่สอดแทรกวิถีชีวิตพื้นถิ่นไปพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเอง อย่างที่ “วิสาหกิจชุมชนตำลึงหวาน” ด้วยพลังแห่งความสามัคคีแบบมาด้วยกันไปด้วยกันเลือดสุพรรณบุรี ที่ผู้คนในชุมชนต่างร่วมมือร่วมใจกันนำเอาความสามารถในสิ่งที่ตัวเองถนัดมาสร้างกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เป็นรูปธรรม
วิสาหกิจชุมชนตำลึงหวานมีความเรียบง่าย และอบอวลไปด้วยวิถีที่หลากหลายท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ร่มรื่น และเป็นกันเอง ด้วยการรังสรรค์พื้นที่ส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน อย่างเช่น งานจักสานง่าย ๆ การร้อยลูกปัด และคลายเส้นด้วยการทำกิจกรรม ตาลต้านตึง กิจกรรมที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพผสมกับไม้คลายเส้นที่ทำด้วยก้านตาลสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติฝีมือชาวบ้าน และที่นี่ยังเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อไปยังการทำกิจกรรมอื่น ๆ ของชาวบ้านดอนพรหม และหมู่บ้านใกล้เคียงในเขตเมืองโบราณอู่ทอง
นอกเหนือจากกิจกรรมที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมายมากเช่น การทำกุยช่าย, การทำขนมจีนโบราณ, กระถางคล้องใจ และอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ และถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองโบราณอู่ทองก็คือ กิจกรรมหล่อเหรียญโบราณทวารวดี โดยโรงหล่อวิเชียร โรงหล่อพระเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่ยังคงหล่อหล่อพระพุทธรูป และงานโลหะอื่น ๆ อยู่ และคุณยังสามารถนั่งรถรางเที่ยวชมชุมชนได้อีกด้วย
ไหน ๆ คุณก็มาที่ วิสาหกิจชุมชนตำลึงหวานแล้ว ก็อย่าได้พลาดกับการลิ้มลองเมนูอาหารที่ถูกส่งต่อสูตรจากรุ่นแม่ มาถึงรุ่นลูกแบบยังคงรสชาติดั้งเดิมตามแบบฉบับท้องถิ่นเอาไว้อย่างหลากหลายเมนู ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาเมนูอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่หาได้
#เที่ยวอู่ทองเริ่มจากอะไรดี
เมืองอู่ทองนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมาย และถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่จะมอบประสบการณ์ที่พิเศษให้กับทุกคนในครอบครัว พวกเรามีข้อแนะนำเล็กน้อยเพื่อเป็นแนวทางการท่องเที่ยวให้กับคุณ หากคุณมีเวลา 2 วัน 1 คืนให้คุณเริ่มต้นในช่วงเช้าด้วยการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของประวัตศาสตร์ในพื้นที่ หลังจากนั้นค่อยแวะเวียนไปเยี่ยมชม และทำกิจกรรมที่ชุมชนต่าง ๆ หรือจะแวะไปหล่อเหรียญโบราณทวารวดีที่โรงหล่อวิเชียรในช่วงบ่าย และในช่วงเย็นของวันแรก ก็ให้เดินทางมาที่พุทธมณฑลสุพรรณบุรีเพราะอากาศจะไม่ร้อนมากนัก และได้เก็บแสงสวย ๆ กับพระแกะสลักองค์ใหญ่
สำหรับในวันที่ 2 ให้คุณออกแต่เช้าสักหน่อยเพื่อไปเดินเล่นที่สวนหินพุหางนาคเพราะอากาศจะไม่ร้อนมากนัก คุณจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้มุ่งหน้าไปหามื้อเที่ยงอร่อย ๆ กินที่วิสาหกิจชุมชนตำลึงหวาน และทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่เดียวกันนั้นเลยก็เป็นอันจบทริปสวย ๆ ครบรสชาติแบบใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าในวันหยุดสุดสัปดาห์
สำหรับบุคคลที่สนใจท่องเที่ยวเมืองอู่ทองสามารถตามรอยพวกเราชาว Explorers Club กันได้โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ช่องทางของชุมชนนี้
วิสาหกิจชุมชนตำลึงหวาน
FB :ตำลึงหวาน โทร. 083-317-9770
วิสาหกิจชุมชนบ้านตำนานดิน
FB : บ้านตำนานดิน โทร. 061-826-3987
วิสาหกิจชุมชนต้นแจงพัฒนา (ยาดมหัวโตป้าต้อย)
FB : ยาดม-ยาหม่องหัวโตป้าต้อย โทร. 081-763-9230
วิสาหกิจชุมชนบ้านเขาพระ
โทร. 062-497-7335
โรงหล่อวิเชียร
FB : โรงหล่อวิเชียร โทร. 080-396-4575
กิจกรรมศึกษาธรรมชาติสวนหินพุหางนาค
โทร. 082 584 3969 คุณอ้อย, โทร. 089 948 301-8 วนอุทยานพุม่วง

#อพทอู่ทอง #อู่ทอง #สุพรรณบุรี #ท่องเที่ยวไทย

EXPLORERS: บาส
AUTHOR: บาส-บดินทร์ บำบัดนรภัย
PHOTOGRAPHER: อู๊ด-อภิรักษ์ สุขสัย

22/11/2025

[ MEET ] เคยสงสัยไหมว่า ระหว่างแบกเป้เข้าป่าเดินผ่านพรรณไม้นานาชนิด ต้นไม้เหล่านั้นกำลังพยายามบอกอะไรกับเรา?

นี่คือบทสนทนาสั้น ๆ ที่อยากชวนทุกคนวางเป้ลงก่อน แล้วเปลี่ยนบทบาทจาก “นักเดินทาง” มาเป็น “ผู้รับฟัง” เรื่องราวของป่าซึ่งไม่ได้มีเพียงสีเขียวที่บ่งบอกความสวยงาม และทำให้รู้สึกสดชื่นเท่านั้น

ชวนมาลองหลับตาฟังเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ สูดกลิ่นไอดินหลังฝนตกโชยแตะจมูก เพื่อให้สัมผัสได้ว่า นี่คือระบบนิเวศที่มีชีวิต มีลมหายใจและเรื่องราวซับซ้อน ซึ่งการจะเข้าใจเสียงกระซิบของพงไพรได้ชัดเจนที่สุด เราจำเป็นต้องมี “ล่าม” ผู้เชี่ยวชาญภาษาของดอกไม้และใบหญ้า

ความสนุกและตื่นเต้นอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เราออกเดินทางทำให้ได้พบเจอกับผู้คนมากหน้าและหลากหลายความรู้ การเดินทางครั้งนี้ก็เช่นกัน

เราได้พบกับ ดร.กิตติยุทธ ปั้นฉาย หรือ "ดร.ก้อง" ผู้ช่วยภัณฑารักษ์แห่งสำนักวิจัยและอนุรักษ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ล่ามที่ทำให้เราเข้าใจเสียงกระซิบของพงไพร โดยการแนะนำจากพี่อึ่ง-นิรุจ อุทรา นักประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ผู้ที่มีเรื่องราวน่าสนใจไม่แพ้ดร.ก้อง

แต่ครั้งนี้พี่อึ่งบอกว่าคุยกับ ดร.ก้องไปก่อนจะเริ่มเดินป่าน่าจะสนุก แล้วก็จริงอย่างว่า

ผมไม่เคยนึกถึงเลยว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ที่ผมกับน้อง ๆ ในทีมอยู่กันในงานครบรอบ 10 ปี ของ Fjällräven by Thailand Outdoor ที่มาจัดกิจกรรมเดินป่าขึ้นที่สวนของแม่แห่งนี้ จะทำให้เราหลงรักได้

เรามาเดินป่าเพื่อออกกำลังกายและซึมซับธรรมชาติ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา นักพฤษศาสตร์เรียกว่า "สิ่งแวดล้อม" และเราก็ไม่เข้าใจด้วยว่า เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ การเดินป่าครั้งนี้ไม่เพียงทำให้เข้าใจระบบนิเวศมากกว่าเก่า แต่ทำให้รู้ว่า “เราขาดระบบนิเวศไม่ได้”

อ่านเรื่องนี้ได้ที่เว็บไซต์ https://explorersclub.baanlaesuan.com/meet/meet-botanic-garden

EXPLORER: ก้อง-ดร.กิตติยุทธ ปั้นฉาย
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: ฟาง-อภินัยน์ ทรรศโนภาส

#บ้านและสวนExplorersClub #ธรรมชาติ #ระบบนิเวศ #สวนพฤษศาสตร์ #สวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

21/11/2025

[ TRIP ] ชวนแอ่วเชียงราย...เมืองเหนือสุดของสยาม ที่ที่สายหมอกเคล้าเสียงกระบอกไม้ไผ่ของชนเผ่าอาข่าเป็นช่วงเวลารื่นเริงของคนบนดอย และควันกาแฟยังคงกรุ่นอยู่ทุกย่านชุมชน หากมีเวลาการได้มาสัมผัสชีวิตของคนริมโขงก็เป็นช่วงเวลาที่ดีกับกิจกรรมที่เชื่อหลายคนต้องชอบอย่าง ทักษาโหรา ตรวจดวงชะตาจากชื่อ เมืองนี้จึงเหมือน “หีบสมบัติแห่งกาลเวลา” ที่เปิดเมื่อใดก็ได้กลิ่นอายศิลปะ ความทรงจำ และวิถีชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

#บ้านและสวนExplorersClub #อพท #เชียงราย

20/11/2025

20/11/2025

[ TRIP ] เปิดกรุสมบัติแห่งกาลเวลาที่เชียงราย เมืองแห่งศิลปะ ดนตรี และกาแฟ

การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่สะท้อน "จิตวิญญาณของไทย" ผ่าน Soft Power ที่ผสมผสานกับมรดกทางธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมวิถีชุมชนของพื้นที่

การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเดินทางเพราะจะทำให้เราได้เข้าถึงอย่างเข้าใจ ได้เห็นสถาปัตยกรรม ได้ยิน เสียงคนท้องถิ่น ได้ลิ้มรสอาหาร และได้สัมผัสบรรยากาศจริง ๆ สมองเลยเก็บข้อมูลแบบหลายมิติ มันเหมือนการจดโน้ตด้วยกล้ามเนื้อและอารมณ์ไปพร้อม ๆ กัน อีกอย่างการเดินทางมันเป็นเรื่องของความรู้สึก และความรู้สึกจะส่งผลให้เราจำช่วงเวลานั้น ๆ ได้ดี

อ่านเรื่องนี้ได้ที่เว็บไซต์: https://explorersclub.baanlaesuan.com/trip/chiang-rai-art-city

EXPLORERS: ตู่, บาส, ปุ๊กกี้, ติ๊ก, กิ๊บ, เจมส์, กำปั่น, อาร์ม
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: เจมส์-อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

#อพท #บ้านและสวนExplorersClub #เชียงราย

เมืองแห่งศิลปะ ดนตรี และกาแฟ การเดินทางครั้งนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสวิถีคนเมืองริมโขง ดื่มด่ำกับชีวิตที่เน.....

19/11/2025

[ TRIP ] 3 วัน 2 คืนกับเส้นทางท่องเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม ที่บ้านและสวน Explorers Club ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ออกแบบเส้นทางมาอย่างตั้งใจ และอยากให้คุณมาตามรอย
ว่ากันว่าการเดินทางคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เพราะเราไม่ได้แค่ใช้ตาเห็น แต่ยังได้ยินเสียง ได้ลิ้มรสอาหาร ได้สูดกลิ่นอากาศ และสัมผัสบรรยากาศจริง ๆ ทุกความรู้สึกถูกเก็บบันทึกลงในความทรงจำ เหมือนการจดโน้ตด้วยกล้ามเนื้อและหัวใจ นี่แหละคือเหตุผลที่เชียงรายกลายเป็นเมืองที่ทำให้เราหลงรักตั้งแต่ครั้งแรก
นี่คือเส้นทางท่องเที่ยวเชียงราย กับ 6 หมุดหมายที่จะพาคุณไปสัมผัสเมืองแห่งศิลปะ ดนตรี และกาแฟ แต่สิ่งที่ทำให้เมืองนี้พิเศษกว่านั้น คือการสะท้อน “จิตวิญญาณของไทย” ผ่านฐานทุนวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ผสมผสานธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมของผู้คนอย่างลงตัว
บ้านผาหมี

ชุมชนชาวอาข่าที่หันมาใช้กาแฟเป็นจุดแข็งในการสร้างโอกาสให้บ้านเกิด ได้เดินป่า นั่งจิบกาแฟชมวิวหน้าผา มองเห็นวิถีเรียบง่ายของผู้คน และถ้าโชคดีได้มาช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนจะได้พบกับเทศกาลโล้ชิงช้า คุณจะได้สัมผัสงานประเพณีที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และสนุกสนาน เต็มไปด้วยสีสันของเครื่องแต่งกายชนเผ่า และอาหารท้องถิ่นที่อร่อยจนต้องขอเบิ้ล
โครงการพัฒนาดอยตุง

จากพื้นที่ปลูกฝิ่นสู่กาแฟคุณภาพระดับโลกที่ได้รับการยอมรับ เป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เริ่มต้นจากพระราชดำริของสมเด็จย่า ทุกแก้วกาแฟที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความหวังและการเปลี่ยนแปลง
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน

เมืองเก่าริมโขงที่เต็มไปด้วยวัดวาและตำนาน ที่นี่คุณจะได้ลองกิจกรรมทักษาโหรา ตรวจดวงชะตา และนั่งรถรางชมเมืองเก่า ก่อนจะปิดท้ายด้วยอาหาร 4 แผ่นดิน จีน ไทย ลาว พม่า ที่สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างงดงาม และอย่าลืมไปถ่ายรูปที่สามเหลี่ยมทองคำ สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่ยาเสพติดสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาค
วัดร่องขุ่น และบรรยากาศยามค่ำที่หอนาฬิกา

แลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้คือวัดร่องขุ่น ผลงานชิ้นเอกของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่สวยจนต้องกดชัตเตอร์รัว ๆ และยามค่ำคืนก็อย่าลืมไปชมการแสดงแสงสีเสียงที่หอนาฬิกาเชียงราย แม้วันที่เราไปแสงไฟดับ แต่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ต้องกลับมาเยือนใหม่
ฟาร์มทัวร์ที่สิงห์ปาร์ค

สิงห์ปาร์คคือไร่ชาและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่งดงาม เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวจริง ๆ มีร้านเครื่องดื่มไว้คอยบริการอยูด้านทางเข้า คุณสามารถใช้รถรางบริการฟาร์มทัวร์ได้หรืออยากขับชมบรรยากาศเองก็มีรถกอล์ฟให้เช่าด้วยแบบส่วนตัว ซึ่งด้านในฟาร์มจะมีถึง 6 จุดให้คุณแวะชมและมีจุดให้ชิมชาด้วย เมื่อคุณมาถึงแล้วต้องลองชิมชาไม่ซื้อไม่ว่าอะไร แต่อยากให้ชิม รสชาติดีจริงมีหลายกลิ่นให้เลือกเลย
เสพย์งานศิลป์ที่ดอยดินแดง

ดอยดินแดงคือสตูดิโอศิลปะกลางธรรมชาติ ที่เป็นทั้งที่โชว์ผลงานและขายผลงานเครื่องปั้นดินเผาของอาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ จะบอกว่าที่ดอยดินแดงนี้เราเดินเลือกดูเซรามิกเพลินมาก ฉะนั้นขอให้เผื่อเวลาเดินทางให้ดี ที่นี่ทำให้เรารู้สึกว่าศิลปะไม่ได้ไกลเกินเอื้อม เพราะสามารถซื้อกลับบ้านและใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง การดื่มกาแฟจากแก้วที่ปั้นด้วยมือศิลปิน ก็เหมือนดื่มศิลปะเข้าไปในทุกเช้า

ทั้งหมดนี้คือเส้นทาง “Chiang Rai Art City” ที่ไม่ใช่แค่การไปเที่ยวชมวิว แต่คือการเดินทางที่ได้เรียนรู้และฮีลใจไปพร้อม ๆ กัน ทุกบาทที่คุณใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจิบกาแฟจากดอยผาหมี การชิมชาจากสิงห์ปาร์ค หรือการซื้อศิลปะจากดอยดินแดง ล้วนเป็นการสนับสนุนชุมชน ทำให้เมืองนี้ยังคงงดงามและเต็มไปด้วยชีวิต
ถ้าคุณกำลังมองหาการเดินทางที่อบอุ่น เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และมีความหมาย เชียงรายคือคำตอบที่หัวใจคุณกำลังมองหา
อ่านเรื่องนี้ได้ที่เว็บไซต์

EXPLORERS: ตู่, ปุ๊กกี้, ติ๊ก, เจมส์, กิ๊บ, กำปั่น, อาร์ม, บาส
AUTHOR: ตู่-ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
PHOTOGRAPHER: เจมส์-อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม
#อพท