
12/06/2024
ประกันโรคร้ายแรงแผนสำรองที่ชีวิตควรมี
การเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เมื่อเป็นเช่นนี้หลาย ๆ คน ต่างมองหาตัวช่วยในการบริหารความเสี่ยงในอนาคต โดยการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น ค่าห้อง ค่ายา ค่าผ่าตัด เมื่อต้องเข้าพักรักษาตัวแบบผู้ป่วยใน (IPD) หรือเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความคุ้มครองดังกล่าว บางครั้งอาจจะไม่ครอบคลุมหรือเพียงพอ ถ้าหากบังเอิญป่วยเป็นโรคร้ายที่ต้องใช้กำลังทรัพย์มากกว่าปกติ ทั้งการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องที่ยาวนาน รวมถึงการดำรงชีวิตหลังออกจากโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวหรือพักฟื้นต่อเองที่บ้าน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างพยาบาล หรือผู้ดูแล ค่าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู ค่าพาหนะพบแพทย์ รวมถึงค่าใช้จ่ายเมื่อต้องหยุดงาน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ตกเป็นภาระให้คุณและครอบครัวจนต้องดึงเงินเก็บออกมาใช้ หรือกระทบต่อแผนการเงินในอนาคต ประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นแผนสำรองอีกชั้นหนึ่งที่จะช่วยให้ชีวิตไม่สะดุดแม้โรคร้ายมาเยือน
“ประกันโรคร้ายแรง” เป็นแบบประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยตรวจพบว่าตนเองเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงโรคใดโรคหนึ่งตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากการตรวจพบโรคนั้นเกิดขึ้นในขณะที่กรมธรรม์ยังอยู่ในระยะเวลาให้ความคุ้มครอง บริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายผลประโยชน์ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์เป็นเงินก้อน โดยจ่ายเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง หรือจ่ายให้ตามระยะของโรคร้ายแรงที่ตรวจพบ สำหรับโรคร้ายแรงที่ประกันให้ความคุ้มครองนั้นมีหลายแบบให้เลือก ทั้งที่เฉพาะเจาะจงโรคใดโรคหนึ่ง หรือรวมกลุ่มโรคทั้งกลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มโรคอาการทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง กลุ่มโรคระบบหัวใจ และกลุ่มโรคสภาวะอวัยวะล้มเหลว เช่น ไตวาย เป็นต้น
สำหรับแบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงเป็นสัญญาเพิ่มเติม สามารถซื้อแนบท้ายกับสัญญาประกันชีวิตซึ่งเป็นสัญญาหลัก โดยมีเบี้ยประกันภัยต่ำ เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ และยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยในส่วนนี้ไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย แบบประกันโรคร้ายแรงนี้มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ซึ่งเป็นเวลาที่กำหนดว่าแผนประกันนั้น ๆ จะยังไม่สามารถจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลได้ หากยังไม่พ้นระยะเวลาที่กำหนด เช่น บางแผนอาจกำหนดไว้ที่ 90 วัน ซึ่งหมายความว่า ภายในเวลา 90 วันหลังจากแผนประกันนี้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากบริษัทรับประกัน เราจะยังไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ จะต้องรอให้พ้นจาก 90 วันนี้ไปก่อน ขณะเดียวกันบางบริษัทอาจกำหนดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองเอาไว้นานกว่านั้น เช่น 120 วัน
ดังนั้น สิ่งที่ทุกท่านควรทำก่อนตัดสินใจทำประกันโรคร้ายแรง คือ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้งนะคะ