Fon Chill Town Creator

07/08/2024

ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ
ไม่ใช่แค่ตั้ง 1 ล้าน
ลองตั้ง 10 ล้าน ไปเลย
ตั้งใหญ่ๆเข้าไว้ แม้จะไม่ถึง
ก็ยังมี "เงินหลักล้านอยู่ดี"
Grant Cardone เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่สูง เขาเชื่อว่าถ้าคุณกำลังดิ้นรนอยู่ มักเป็นเพราะคุณมีเป้าหมายที่ผิด แทนที่จะตั้งเป้าหมายแค่พอมีพอกิน Cardone แนะนำให้ตั้งเป้าที่สูงกว่านั้นมาก เช่น สิบล้านดอลลาร์ การโฟกัสที่เป้าหมายที่สูงจะช่วยให้คุณปรับการกระทำและทัศนคติเพื่อบรรลุความสำเร็จทางการเงินที่ยิ่งใหญ่
การตั้งเป้าหมายสูงไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทำได้ทันที แต่เป็นการปรับมุมมองและแรงจูงใจของคุณให้มองไกลกว่าเดิม
ตัวอย่างเช่น Warren Buffett หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงพลังของการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่สูงตั้งแต่ต้นอาชีพ Buffett ตั้งเป้าที่จะสร้างพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ผ่านบริษัท Berkshire Hathaway ของเขา เขาไม่ยอมรับกับผลตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ แต่ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว ด้วยการตั้งเป้าผลตอบแทนประจำปีที่ 20% Buffett สามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือเกินกว่านั้นมาตลอดหลายทศวรรษ นำไปสู่มูลค่าสุทธิหลายพันล้านดอลลาร์ เรื่องราวของเขาแสดงให้เห็นว่าการตั้งเป้าหมายที่สูงสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
๐ เก็บออมคือหาให้ได้มากพอที่ใช้ก่อน แล้วพยายามเก็บให้ได้ด้วยกฎ 40%
เก็บออม 40% ของรายได้ขั้นต้น มันคือการสร้างรากฐานนิสัย ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร
Cardone แนะนำทีมของเขาให้เก็บออมเงินส่วนสำคัญของรายได้ โดยเฉพาะ 40% เขาเน้นย้ำว่าการให้ความสำคัญกับการออมมากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทันทีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพทางการเงินในระยะยาว การเก็บเงินส่วนสำคัญของรายได้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้บุคคลสามารถสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคตได้ดีขึ้น
การออม 40% อาจฟังดูเป็นไปไม่ได้สำหรับหลายคน แต่นี่คือเป้าหมายที่เราควรพยายามไปให้ถึง แม้จะเริ่มจากเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่านี้ก็ตาม
ตัวอย่างเช่น Peter Adeney หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mr. Money Mustache เป็นตัวอย่างที่ดีของพลังแห่งการออมอย่างจริงจัง Adeney และภรรยาของเขาใช้ชีวิตอย่างประหยัดและเก็บออมมากกว่า 50% ของรายได้ในช่วงที่ทำงาน ด้วยการทำเช่นนี้ พวกเขาสามารถเกษียณได้ในวัย 30 ปลายๆ Adeney สร้างพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ที่สร้างรายได้แบบ passive เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของพวกเขา เรื่องราวของเขาแสดงให้เห็นว่าการออมอย่างมีวินัยสามารถนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินและการเกษียณก่อนกำหนดได้อย่างไร
๐ ให้เงินทำงานตลอด ปลุกมันให้ทำงานสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่อง
Cardone เน้นย้ำความสำคัญของการไม่เพียงแค่เก็บเงิน แต่ต้องลงทุนอย่างชาญฉลาด เขาเปรียบเทียบเงินกับห่านทองคำที่ต้องออกไข่ การลงทุนเงินที่เก็บไว้ในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้แบบ passive และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา บุคคลสามารถสร้างอนาคตทางการเงินที่ยั่งยืนได้ เป้าหมายคือการลงทุนอย่างต่อเนื่องจนกว่ารายได้แบบ passive จะเท่ากับหรือมากกว่ารายได้ปกติ
การลงทุนไม่ใช่แค่การซื้อหุ้นหรือกองทุน แต่รวมถึงการลงทุนในตัวเองด้วย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต
ตัวอย่างเช่น John Bogle ผู้ก่อตั้ง Vanguard Group เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งในการลงทุนในกองทุนดัชนีที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ Bogle เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวเพื่อสร้างความมั่งคั่ง เขาลงทุนเงินของเขาในกองทุนดัชนีที่มีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งให้การเติบโตที่สม่ำเสมอตลอดเวลา กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักลงทุนหลายล้านคนประสบความสำเร็จทางการเงินโดยการลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด เรื่องราวของ Bogle แสดงให้เห็นว่าการลงทุนที่ชาญฉลาดสามารถเปลี่ยนเงินที่เก็บไว้ให้กลายเป็นความมั่งคั่งที่สำคัญได้อย่างไร
๐ ฉีกกฎการเป็นเจ้าของ เช่าแทนซื้อ จนกว่าคุณจะพร้อมลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสด
Cardone แนะนำให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงแม้ว่าคุณจะมีเงิน เขาแนะนำให้เช่าแทนที่จะซื้อและหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าหรูหราจนกว่าจะสะสมความมั่งคั่งได้มากพอ การใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่เป็นอยู่ช่วยให้คุณสามารถออมได้มากขึ้นและลงทุนได้มากขึ้น เร่งการเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงินของคุณ
การเช่าแทนการซื้อไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของ แต่เป็นการรักษาความยืดหยุ่นทางการเงินไว้จนกว่าคุณจะพร้อมลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้จริงๆ
ตัวอย่างเช่น Suze Orman ที่ปรึกษาทางการเงินและนักเขียน ยังคงใช้ชีวิตอย่างประหยัดแม้จะมีความมั่งคั่ง Orman มุ่งเน้นการสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคงก่อนที่จะใช้จ่ายไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย เธอยังคงใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ขับรถธรรมดา และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น วิธีการที่มีวินัยของเธอช่วยสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยทางการเงินในระยะยาว เรื่องราวของ Orman แสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะสามารถนำไปสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ยั่งยืนได้อย่างไร
๐ ล่า Passive Income: สร้างรายได้แบบ passive ให้ท่วมท้นรายได้ประจำ
Cardone เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างรายได้แบบ passive ที่เท่ากับหรือมากกว่ารายได้ปกติของคุณ เขาเน้นถึงความจำเป็นในการลงทุนอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ การมุ่งเน้นการสร้างแหล่งรายได้แบบ passive จะช่วยให้คุณบรรลุอิสรภาพทางการเงินและลดการพึ่งพารายได้จากการทำงานประจำ
Passive Income ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องทำงานเลย แต่เป็นการสร้างระบบที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณแม้ในขณะที่คุณไม่ได้ทำงานโดยตรง
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือ "Rich Dad Poor Dad" Kiyosaki เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างรายได้แบบ passive ผ่านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ เขาสร้างพอร์ตการลงทุนที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาสามารถเกษียณจากการทำงานประจำได้ในวัยเพียง 47 ปี เรื่องราวของ Kiyosaki แสดงให้เห็นว่าการมุ่งเน้นสร้างรายได้แบบ passive สามารถนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้อย่างไร
การปฏิวัติความคิดเรื่องเงินอาจสร้างความอึดอัด แต่จำเป็นสำหรับอนาคตที่มั่นคง
ทุกการตัดสินใจทางการเงินต้องนำไปสู่จุดหมายเดียว คือ อิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง
เริ่มตั้งคำถามวันนี้กับตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากจุดไหน
คุณก็จะไปถึงความอิสระแท้จริงที่รอคุณอยู่ได้ครับ
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
(Reference in comment)
--
“ทำเงินได้ ทุกช่วงเวลา”
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

04/08/2024

"คิดถึงปัญหาก่อน" แล้วค่อย หาสินค้า
อย่าหลงรักสินค้าตัวเองมากไป
แต่ให้สร้างวิธีขาย ที่คนจะซื้อกับคุณเท่านั้น
"จะหยิบอะไรมาขายก็ได้"
เคยรู้สึกไหมมั้ยว่าความฝันในการสร้างธุรกิจของตัวเองดูเหมือนจะห่างไกลเกินเอื้อม? คุณเคยมองดูเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและคิดว่า "ฉันไม่มีทางทำได้แบบนั้น" รึเปล่า? ถ้าคุณเคยรู้สึกแบบนี้ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว
John Mullins เป็นศาสตราจารย์ด้านการจัดการการตลาดและผู้ประกอบการที่ London Business School เขามีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งทั้งในแวดวงการศึกษาและอุตสาหกรรม โดยมีผลงานเขียนหนังสือหลายเล่มที่ได้รับความนิยม เช่น "The New Business Road Test" และ "Getting to Plan B" นอกจากนี้ เขายังเป็นนักพูดที่ได้รับการยอมรับและมีผลงานวิจัยที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาในโลกธุรกิจ การสร้างกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ และการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการ
แนวคิดทั้ง 6 ข้อนี้เชื่อมโยงกันด้วยการมองโลกในมุมที่แตกต่างจากเดิมและพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ โดยมีตัวอย่างของผู้ประกอบการที่นำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ การเปิดรับโอกาสใหม่ๆ การมุ่งเน้นการแก้ปัญหา การเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม การจัดการเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ การโอบรับความไม่แน่นอน และการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน
ต่อไปนี้คือ 6 แนวคิดที่สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
1. "Yes, we can" (ได้ แน่นอน)
เปิดรับโอกาสใหม่ๆ แม้จะอยู่นอกขอบเขตความเชี่ยวชาญหลักของคุณ
Arnold Correia ผู้ก่อตั้ง Atmo Digital ในบราซิล เริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดการอีเวนต์ธรรมดาๆ แต่เมื่อลูกค้าขอให้เขาติดตั้งระบบถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมไปยังร้านค้า 260 แห่งทั่วบราซิล เขาไม่ปฏิเสธ แม้จะไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีดาวเทียมเลย แทนที่จะบอกว่า "เราทำไม่ได้" Arnold กลับตอบว่า "ได้ แน่นอน" และเริ่มศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ผลลัพธ์คือ เขาไม่เพียงทำสำเร็จ แต่ยังนำไปสู่การขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมมากขึ้น จนกลายเป็น Atmo Digital ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
2. "Problem-first, not product-first logic" (คิดถึงปัญหาก่อน ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์)
มุ่งเน้นการแก้ปัญหาแทนที่จะคิดถึงแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์
Jonathan Thorne ผู้พัฒนาเครื่องมือผ่าตัดที่ไม่ติดเนื้อเยื่อ เริ่มต้นด้วยการสังเกตปัญหาที่แพทย์ประสบในห้องผ่าตัด: เครื่องมือผ่าตัดมักติดกับเนื้อเยื่อของคนไข้ แทนที่จะคิดว่า "เราจะสร้างเครื่องมือผ่าตัดแบบใหม่อย่างไร" เขากลับถามว่า "เราจะแก้ปัญหาการติดของเครื่องมือกับเนื้อเยื่อได้อย่างไร" ด้วยแนวคิดนี้ Jonathan พัฒนาโลหะผสมเงิน-นิกเกิลที่ไม่เพียงแก้ปัญหาการติดเนื้อเยื่อ แต่ยังปฏิวัติวงการศัลยกรรม โดยเฉพาะในด้านประสาทศัลยศาสตร์ ทำให้การผ่าตัดสมองและไขสันหลังมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น
3. "Think narrow, not broad" (คิดแคบ ไม่ใช่กว้าง)
เน้นตลาดเฉพาะกลุ่มแทนที่จะพยายามเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ทันที
Philip Knight และ Bill Bowerman ผู้ก่อตั้ง Nike ในยุคที่รองเท้ากีฬาส่วนใหญ่ออกแบบมาสำหรับนักวิ่งระยะสั้น Knight และ Bowerman กลับมองเห็นช่องว่างในตลาด พวกเขาไม่ได้พยายามสร้างรองเท้าที่เหมาะกับทุกคน แต่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักวิ่งระยะไกลระดับชั้นนำ โดยออกแบบรองเท้าที่มีเสถียรภาพด้านข้างดีขึ้น พื้นรองเท้ากว้างขึ้น และมีน้ำหนักเบา การมุ่งเน้นที่ตลาดเฉพาะนี้ทำให้พวกเขาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง จนได้รับการยอมรับจากนักกีฬามืออาชีพ และนำไปสู่การขยายไปสู่กีฬาประเภทอื่นๆ จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike ในปัจจุบัน
4. "Asking for the cash, and riding the float" (ขอเงินสดและใช้ประโยชน์จากกระแสเงินสด)
จัดการเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจว่าเงินสดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจเริ่มต้น
Elon Musk และทีม Tesla พบว่าแผนธุรกิจเดิมที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าราคาแพงก่อน แล้วค่อยๆ ลดราคาลงมา อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างกระแสเงินสดที่จำเป็น Musk จึงปรับกลยุทธ์โดยการระดมทุนอย่างชาญฉลาด ทั้งจากนักลงทุนและการรับจองล่วงหน้า นอกจากนี้ เขายังใช้เงินสดที่ได้มาลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Tesla สามารถสร้างนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ยังไม่มีกำไร การจัดการเงินสดอย่างชาญฉลาดนี้ทำให้ Tesla สามารถอยู่รอดและเติบโตจนกลายเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
5. "Embrace uncertainty" (โอบรับความไม่แน่นอน)
ยอมรับว่าความไม่แน่นอนเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ประกอบการและใช้มันเป็นแรงผลักดัน
Lynda Weinman ผู้ก่อตั้ง Lynda.com เริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์เพื่อเป็นพื้นที่แสดงผลงานของนักเรียนในชั้นเรียนกราฟิกดีไซน์ของเธอ โดยไม่รู้เลยว่ามันจะนำไปสู่อะไร แทนที่จะกลัวความไม่แน่นอน เธอกลับเปิดรับมัน เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง เธอปรับตัวโดยย้ายการสอนทั้งหมดไปออนไลน์ในปี 2002 แม้จะไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ การยอมรับและปรับตัวตามความไม่แน่นอนนี้ทำให้ Lynda.com กลายเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ชั้นนำ จนถูกซื้อกิจการโดย LinkedIn ในมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. "Continuous learning and adaptation" (เรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง)
พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook (ปัจจุบันคือ Meta) เริ่มต้น Facebook ในฐานะเครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่เขาไม่หยุดเรียนรู้และปรับตัว เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผู้คน เขาขยาย Facebook ให้ครอบคลุมผู้ใช้ทั่วโลก เมื่อเทคโนโลยีมือถือมาถึง เขาปรับกลยุทธ์ให้เน้น "Mobile First" และเมื่อเห็นศักยภาพของเทคโนโลยี AR และ VR เขาไม่ลังเลที่จะลงทุนมหาศาลและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อมุ่งสู่อนาคตของ Metaverse การเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้บริษัทของเขายังคงเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อคุณได้เรียนรู้ 6 แนวคิดนี้แล้ว คุณอาจจะคิดว่า "แล้วฉันจะทำได้จริงหรือ?" คำตอบคือ ได้ แน่นอน เพราะคนธรรมดาอย่าง Arnold, Jonathan, Phil, Elon, Lynda และ Mark ก็เคยเป็นเหมือนคุณ
จงจำไว้ว่า ทุกธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ล้วนเริ่มต้นจากความคิดเล็กๆ และคนธรรมดาที่กล้าฝัน กล้าทำ
ในตัวคุณมีของเก่งพอจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
เพียงแค่คุณต้องปลดปล่อยมันออกมา ด้วย 6 แนวคิดนี้
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
(Reference in comment)
--
“ทำเงินได้ ทุกช่วงเวลา”
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

28/04/2024

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66841946935

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Fon Chill Townผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Fon Chill Town:

แชร์