
01/10/2025
'ความเครียดเรื้อรัง' ที่ซ่อนอยู่ ส่งผลร้ายต่อร่างกาย สมอง จิตใจ และพฤติกรรม
ดร.เคย์ลา สตีล นักจิตวิทยาคลินิกจาก Black Dog สถาบันวิจัยสุขภาพจิต มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย บอกว่า อาการ “ขี้หลงขี้ลืม” และ “ยากที่จะจดจ่อ” กับสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวัน เป็นตัวอย่างของความเครียดที่ซุกซ่อนอยู่ และหากความเครียดนั้นเรื้อรัง ก็สามารถจะทำลายสมองส่วนที่สำคัญต่อการเรียนรู้ ความจำ และการควบคุมตัวเองของเราได้
ความเครียดส่งผลให้เกิดอาการได้หลายอย่าง เนื่องจากฮอร์โมนที่ควบคุมปฏิกิริยาตอบโต้ เช่น อะดรีนาลีน และคอร์ติซอล ส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายหลายระบบ ทั้งสมอง ลำไส้ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และระบบหัวใจและหลอดเลือด จึงช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมความเครียดส่งผลอย่างมากมายต่อร่างกายและจิตใจของเรา
ดร.เคย์ลา บอกว่า พันธุกรรม สุขภาพกายและใจ รวมทั้งภูมิหลังชีวิต ล้วนมีผลต่อการรับรู้และการตอบสนองต่อความเครียดที่แตกต่างกันในแต่ละคน สำหรับบางคน อาการของความเครียดอาจส่งผลต่อร่างกายในส่วนที่มีความเปราะบางหรือส่วนที่เคยบาดเจ็บมาก่อนหน้า
ความเครียดยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เราติดเชื้อหวัดและไวรัสได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดการอักเสบระดับต่ำเรื้อรัง ที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบย่อยอาหาร หอบหืด หรือแม้แต่ไปเร่งกระบวนการแก่ตัวของร่างกายให้เร็วขึ้น
ดร.ซาราห์ ค็อกซ์ นักจิตวิทยาคลินิก บอกว่าความเครียดอาจทำให้บางคนมีความอยากอาหารน้อยลง แต่บางคนเกิดความอยากอาหารมากขึ้น คนที่ใช้การกินเพื่อรับมือกับความเครียด หากเกิดขึ้นต่อเนื่องก็อาจเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้กลายเป็นนิสัยถาวรได้
ความเครียดยังแสดงออกในลักษณะอาการอื่นๆ ได้อีก เช่น การกัดฟัน ที่เกิดทั้งขณะตื่นหรือหลับ มักเกิดโดยที่เราไม่รู้ตัว และยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวหรือปวดคอได้
ดร.เคย์ลา บอกว่า ถ้าเราสามารถระบุถึงสัญญาณของความเครียด ระบุถึงสิ่งที่กระตุ้นให้เราเกิดความเครียด และวิธีที่ร่างกายและจิตใจของเราตอบสนองกับความเครียด ก็จะสามารถช่วยให้เตรียมรับมือกับความเครียดล่วงหน้าได้ดีขึ้น และรู้ถึงสัญญาณของความเครียดที่เป็นอาการเฉพาะตัวของตัวเอง เช่น วิตกกังวลมากขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีอาการปวดหัว มีอาการตัวสั่น หรือร่างกายรู้สึกตึง
#เครียดสะสม #สุขภาพ #โรคหัวใจ