BT Beartai แบไต๋

BT Beartai แบไต๋ BT beartai เป็นมากกว่าไอที

BT beartai สารพัดเรื่องราวข่าวสารเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ ข่าวสารสดใหม่ร้อน ๆ ส่งตรงถึงหน้าจอคุณ

ติดต่อโฆษณา ดูรายละเอียดได้ที่เว็บแบไต๋ครับ https://bt.th/contact

“บุคคลล้มละลุก Back in the Game”เมื่อความล้มเหลว ไม่ใช่จุดจบแต่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมคอนเทนต์ที่จะพ...
16/07/2025

“บุคคลล้มละลุก Back in the Game”
เมื่อความล้มเหลว ไม่ใช่จุดจบ
แต่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
คอนเทนต์ที่จะพาคุณฟังเรื่องจริงของคนที่เคยพัง
แต่กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง !
เริ่ม EP. แรก 24 ก.ค. นี้
#บุคคลล้มละลุก

Apple Watch ไทยใช้ฟีเจอร์เตือนภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้แล้ว ส่วน AirPods Pro 2 ใช้เป็นเครื่องช่วยฟังสำหรับปัญหาการได้ยินที...
16/07/2025

Apple Watch ไทยใช้ฟีเจอร์เตือนภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้แล้ว ส่วน AirPods Pro 2 ใช้เป็นเครื่องช่วยฟังสำหรับปัญหาการได้ยินที่ไม่รุนแรง

ชาวไทยได้ใช้แล้ว ! สองฟีเจอร์สุขภาพของ Apple ทั้งการแจ้งเตือนภาวะหยุดหายใจขณะหลับบน Apple Watch และการเปลี่ยน AirPods Pro 2 เป็นเครื่องช่วยฟัง ซึ่งจะเข้ามาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันให้สะดวกและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น

Apple Watch เตือน "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ"
สำหรับผู้ใช้ Apple Watch Series 9, Series 10 และ Apple Watch Ultra 2 ที่ติดตั้ง watchOS 11 ขึ้นไป และจับคู่กับ iPhone ที่ติดตั้ง iOS 18.1 หรือใหม่กว่า ตอนนี้สามารถใช้ฟีเจอร์ตรวจจับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ได้แล้ว ฟีเจอร์นี้จะใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของข้อมือ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการหายใจของคุณขณะนอนหลับ
หากพบว่ามีการหายใจผิดปกติ หรือมีเสียงหายใจดังต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน จะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF เพื่อนำข้อมูลไปให้แพทย์ใช้วินิจฉัยได้อีกด้วย เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้สามารถใช้เพื่อการเก็บข้อมูลสุขภาพการนอนเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อวินิจฉัยด้วยตัวผู้ใช้เองได้

เปลี่ยน AirPods Pro 2 เป็นเครื่องช่วยฟัง
อีกฟีเจอร์สำคัญสำหรับคนที่มีปัญหาด้านการได้ยิน เพราะ AirPods Pro 2 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้สามารถใช้เป็นเครื่องช่วยฟัง* ได้แล้ว

ในระหว่างการทดสอบ ผู้ใช้จะถูกแจ้งให้แตะหน้าจอในกรณีที่ได้ยินเสียงความถี่ต่าง ๆ เช่น 500 Hz, 1 kHz, 2 kHz และ 4 kHz ซึ่งผลการทดสอบในแต่ระดับนั้นบ่งบอกถึงการสูญเสียการได้ยิน ว่าผู้ใช้สูญเสียการได้ยินในระดับไหน ได้แก่ เล็กน้อย ปานกลาง หรือรุนแรง

หากผลทดสอบออกมาว่าผู้ใช้สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ก็จะสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ อุปกรณ์ช่วยฟัง (Hearing Aid) ได้

โดยจะใช้ข้อมูลจากผลทดสอบการได้ยิน (Hearing Test) มาเพิ่มความถี่เสียงที่ขาดหายไป ช่วยให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงพูด เสียงรอบตัวได้ดีขึ้น และ Apple เองก็ได้เพิ่มตัวช่วยในการควบคุมมีเดีย (Media Assist) ที่จะปรับเสียงเพลง วิดีโอ การโทร ตามผลทดสอบของผู้ใช้ด้วย

นับว่าเป็นอีกก้าวของการพัฒนาเทคโนโลยีของ Apple ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้ใช้งานให้ดีขึ้น

*ฟีเจอร์ Hearing Aid ใน AirPods Pro 2 จัดเป็นอุปกรณ์ชนิด Clinical Grade หรือเทียบเท่ากับอุปกรณ์ช่วยฟังที่จำหน่ายตามร้านขายยา ซึ่งแตกต่างจากเครื่องช่วยฟังทางการแพทย์ (Medical Grade) ที่ใช้สำหรับปัญหาการได้ยินระดับรุนแรง ที่ต้องสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น

ที่มา : Macrumors, Apple, hearusa

16/07/2025

พี่หนุ่ม กรรชัย เดือด ! TikTok แจ้งเตือนให้เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูป บอกว่าเป็นตัวปลอม สร้างความสับสน ตัวปลอมเล่นได้ ส่วนตัวจริงถูกแบน
แต่ไม่ต้องกังวลไป กดเคลียร์แอปฯ เปิดใหม่ ก็จะใช้งานได้ปกติ

16/07/2025

ซัมซุง พาตลาดทีวีเข้าสู่ยุคของทีวี AI อย่างเต็มรูปแบบ หนุ่ย พงศ์สุข รีวิวละเอียดกับทีวีรุ่นท้อปจอเบิ้ม 8K 98 นิ้ว พาทุกคนเจาะลึกประสบการณ์สุดล้ำกับ Samsung Neo QLED 8K QN990F ที่ไม่ได้เป็นแค่ทีวีธรรมดา ๆ แต่คือศูนย์กลางความบันเทิงอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI แบบตัวจริง

วิธีดูว่าใครส่อง Facebook ด้วยการ เช็กคนมาดูสตอรี เช็กได้ทั้งที่ไม่ใช่เพื่อนหรือผู้ติดตาม !ในยุคที่โลกออนไลน์เอาไว้ใช้อั...
16/07/2025

วิธีดูว่าใครส่อง Facebook ด้วยการ เช็กคนมาดูสตอรี เช็กได้ทั้งที่ไม่ใช่เพื่อนหรือผู้ติดตาม !

ในยุคที่โลกออนไลน์เอาไว้ใช้อัปเดตเรื่องราวสำคัญต่าง ๆ หรือช่วยเก็บเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตไว้ได้ หนึ่งในแอปฯ ที่ทุกคนนึกถึงคงมี Facebook อย่างแน่นอน แน่นอนว่าการที่เราเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ ก็อาจจะมีคนบางกลุ่ม แอบสร้างโปรโปรไฟล์ปลอม หรือเรียกอีกอย่างว่าแอ็กหลุม มาแอบดูหรือแอบติดตาม โดยที่เราไม่รู้ตัว

ล่าสุด Facebook อัปเดตความสามารถใหม่ของสตอรี ให้เราสามารถเห็นว่ามีใครเข้ามาดูบ้าง พร้อมระบุว่าใครที่ไม่ใช่เพื่อน หรือผู้ติดตาม ซึ่งวันนี้ BT จะชวนมาตั้งค่า Facebook เพื่อเอาไว้ใช้เช็กว่ามีใครแอบมาส่องบ้าง

วิธีดูว่าใครส่อง Facebook เราบ้าง

อันดับแรกทุกคนต้องเข้าใจก่อนว่าทาง Facebook เองไม่ได้มีฟีเจอร์นี้ออกมาอย่างเป็นทางการนะคะ เพราะ Facebook ก็ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้ แต่หากมีใครมาคอมเมนต์หรือกดถูกใจ (Like) รูปภาพและข้อความของเรา Facebook ก็จะแจ้งเตือนให้ทราบตามปกติค่ะ

การจะเช็กว่าใครมาส่องเราบ้าง ปัจจุบันยังทำได้แค่เฉพาะสตอรีเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เหมือนกับแอปฯ TikTok ที่โชว์ว่าใครเข้ามาดูหน้าโปรไฟล์ ซึ่งการเช็กว่าใครมาส่องสตอรีก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเข้าไปตั้งค่าสตอรีให้เป็นสาธารณะ เพราะถ้ามีใครแอบมาส่องโปรไฟล์และกดดูสตอรี เราก็จะทราบได้ทันทีว่ามีใครบ้าง

วิธีตั้งค่าสตอรี Facebook ให้ดูคนมาส่องได้

1. เปิดแอปฯ Facebook บนโทรศัพท์มือถือ
2. แตะที่ไอคอนเมนู (รูปฟันเฟือง หรือรูปขีด 3 ขีดด้านบนขวา)
3. ไปที่เมนู “การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว” (Settings & Privacy) แล้วเลือก “การตั้งค่า” (Settings)
4. เลื่อนหน้าจอลงมาจนเจอคำว่า “สตอรี่” (Stories) แล้วแตะเลือก
5. จากนั้นไปที่ “ความเป็นส่วนตัวของสตอรี่” (Story Privacy)
6. เลือกตั้งค่าเป็น “สาธารณะ (Public)” เพื่อดูว่าเวลาคุณโพสต์สตอรี จะมีใครที่ไม่ใช่เพื่อนเข้ามาดูบ้าง

ในส่วนของเรื่องความปลอดภัยอันนี้ก็น่าเป็นห่วง (ถ้าในคนที่ชอบอัปทุกอย่างแบบเรียลไทม์) ไม่ว่าแพลตฟอร์มใดก็ตาม แม้ว่าสตอรีสาธารณะจะช่วยให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียได้ เช่น

ถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว : การไม่รู้ว่าใครเข้ามาดูอาจทำให้ผู้โพสต์รู้สึกถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว
การคุกคาม : อาจมีคนไม่หวังดีแอบติดตามชีวิตเราแบบไม่เปิดเผยตัว
ข้อมูลถูกติดตาม : การดูหรือโพสต์สตอรีจะถูก Facebook บันทึกไว้เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์โฆษณา
การกลั่นแกล้งหรือนำเนื้อหาไปใช้ผิดทาง : เช่น การบุลลี หรือเอาไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

อย่างไรก็ตามการที่จะดูย้อนหลังเพื่อเช็กว่าใครมาส่องเราบ้างจะได้มากสุดแค่ 14 วันเท่านั้น สำหรับใครที่กังวลในส่วนของผู้ไม่ประสงค์ดี ก็สามารถล็อกโปรไฟล์ Facebook เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ

ที่มา : rickyspears

#วิธีดูคนส่องโปรไฟล์Facebook #ตั้งค่าดูคนส่องสตอรีFacebook #ล็อกโปรไฟล์Facebook

16/07/2025

BT มีอะไรจะบอก แตะ “แก้วกาแฟ” ดูสิ
☕️

Meta เข้าซื้อบริษัท Play AI สร้างเสียงพูดคุยคล้ายมนุษย์ เสริมแกร่งธุรกิจMeta เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ในสตาร์ตอัป Play AI ผ...
16/07/2025

Meta เข้าซื้อบริษัท Play AI สร้างเสียงพูดคุยคล้ายมนุษย์ เสริมแกร่งธุรกิจ

Meta เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ในสตาร์ตอัป Play AI ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสร้างเสียงด้วย AI ที่เหมือนมนุษย์จริง เสริมแกร่งธุรกิจ AI โดยเฉพาะด้านเสียงและตัวละครเสมือนจริง

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้รับการยืนยันแล้วจากโฆษกของ Meta ตามรายงานของ Bloomberg โดยเอกสารภายในระบุว่า ทีมงานทั้งหมดของ Play AI จะเข้าร่วมงานกับ Meta ในสัปดาห์หน้า โดยไปมีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ในตอนนี้

บริษัท Play AI เป็นสตาร์ตอัปที่มีชื่อเสียงจากการสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างเสียงได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องอย่างมากกับแผนการพัฒนาของ Meta ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น AI Characters, Meta AI, อุปกรณ์ Wearables และการผลิตคอนเทนต์เสียงต่าง ๆ

ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา Meta มีการลงทุนเชิงรุกในด้าน AI มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการดึงตัวบุคลากรระดับสูงจาก OpenAI และดีลสำคัญกับ Scale AI ที่ได้ อเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexandr Wang) ซีอีโอ Scale AI เข้ามานำทีมใหม่ที่เน้นการวิจัยและพัฒนา Superintelligence ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม Meta ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อกิจการครั้งนี้ แต่สำนักข่าว Bloomberg เคยรายงานไปก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองบริษัทได้เจรจากันเกี่ยวกับการควบรวมกิจการนี้มาสักระยะแล้ว

ดีลนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงทิศทางและความทะเยอทะยานของ Meta ในการก้าวเป็นผู้นำเทคโนโลยี AI ระดับโลกในอนาคต โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ประสบการณ์เสียงที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของบริษัท

ที่มา : bloomberg

ไฮโดรเจน พลังงานสะอาดแห่งอนาคต ? เมื่อพูดถึงพลังงานสะอาด หลายคนอาจนึกถึงโซลาร์เซลล์ กังหันลม หรือเขื่อน แต่ยังมีอีกหนึ่ง...
16/07/2025

ไฮโดรเจน พลังงานสะอาดแห่งอนาคต ?

เมื่อพูดถึงพลังงานสะอาด หลายคนอาจนึกถึงโซลาร์เซลล์ กังหันลม หรือเขื่อน แต่ยังมีอีกหนึ่งพลังงานที่กำลังเป็นที่จับตา นั่นคือ "พลังงานไฮโดรเจน" นี่อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมด้านพลังงานของโลกเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะเข้ามาแทนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้ในอนาคต

ไฮโดรเจนเกี่ยวอะไรกับพลังงาน ?

แล้วไฮโดรเจนกับพลังงานมันเกี่ยวข้องกันยังไง ? ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่เบาที่สุดและมีอยู่มากที่สุดในจักรวาล คิดเป็น 73-75% ของสสารทั้งหมด แต่บนโลกของเรามักจะไม่ลอยเดี่ยวตามธรรมชาติ แต่จะจับคู่กับธาตุอื่น ๆ เช่น น้ำ (H₂O) หรือมีเทน (CH₄) การที่จะนำไฮโดรเจนมาใช้ประโยชน์ จึงจำเป็นต้องแยกมันออกมา ซึ่งกระบวนการที่นิยมที่สุดคือ Electrolysis หรือการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า โดยใช้กระแสไฟฟ้าผ่านน้ำเพื่อแยกโมเลกุลน้ำออกเป็นก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจน

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ ไฮโดรเจนไม่ใช่แหล่งพลังงาน แต่เป็น "ตัวนำพลังงาน" (Energy Carrier) เป็นเหมือนแบตเตอรี่ชนิดหนึ่ง หลายคนเข้าใจผิดว่าไฮโดรเจนจะมาแข่งขันกับน้ำมัน โซลาร์ หรือนิวเคลียร์หรือเปล่า ? จริง ๆ แล้วแหล่งผลิตพลังงานคือพลังงานนิวเคลียร์หรือโซลาร์ ส่วนไฮโดรเจนคือสิ่งที่ใช้เก็บพลังงานนั่นเอง

#พลังงานสะอาด #ไฮโดรเจน

Sponge City เมืองฟองน้ำ ทางออกของจีนจากวิกฤตน้ำท่วมเมืองช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้ประสบพบเจอกับปัญหาน้ำท่วม ไม่...
15/07/2025

Sponge City เมืองฟองน้ำ ทางออกของจีนจากวิกฤตน้ำท่วมเมือง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้ประสบพบเจอกับปัญหาน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยเราเองกับโซนกรุงเทพฯ เช่น ห้วยขวาง หรืออาจเป็นแถวย่านบางนา ที่มีปัญหาน้ำท่วมหนักเช่นกัน แม้แต่แผ่นดินใหญ่อย่างประเทศจีนก็ยังเจอกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากจากฝนตกหนัก แต่พื้นที่บางส่วนกลับประสบภาวะแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง เพราะความสุดขั้วของสภาพอากาศที่ทวีคูณขึ้น ทำให้ประเทศจีนต้องมองหาแนวทางใหม่ในการจัดการทรัพยากรน้ำในเขตเมือง และนั่นนำไปสู่แนวคิดที่เรียกว่า “Sponge City” หรือ “เมืองฟองน้ำ”

แนวคิด เมืองฟองน้ำ (Sponge City) เริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ที่ประเทศจีน เพื่อตอบโจทย์การจัดการปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง และพัฒนาแนวทางที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันระหว่าง “คน เมือง และน้ำ” อย่างยั่งยืน

หัวใจของเมืองฟองน้ำ คือการออกแบบพื้นที่เมืองให้ทำหน้าที่ดูดซับ กักเก็บ กรอง และปล่อยน้ำฝนได้ตามธรรมชาติ คล้ายฟองน้ำขนาดใหญ่ โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น สวนสาธารณะ ถนน และอาคาร ให้สามารถรองรับน้ำฝนและระบายออกได้อย่างเป็นระบบ พร้อมช่วยบรรเทาปัญหาน้ำขัง ปรับปรุงคุณภาพน้ำ และลดปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง (Urban Heat Island)

ปี 2015 รัฐบาลจีนได้ออกแนวทางส่งเสริมการพัฒนาเมืองฟองน้ำ (Guideline on Promoting the Construction of Sponge Cities) โดยตั้งเป้าให้ภายในปี 2020 มีพื้นที่เมืองอย่างน้อย 20% ที่สามารถดูดซับและใช้ประโยชน์จากน้ำฝนได้ไม่น้อยกว่า 70% และภายในปี 2030 เพิ่มพื้นที่เมืองฟองน้ำเป็น 80%

เมืองที่จะพัฒนาเป็นเมืองฟองน้ำต้องคำนึงถึง 6 หลักการสำคัญ

การซึมผ่านดิน (Infiltration)
การกักเก็บน้ำ (Retention)
การสะสมน้ำ (Storage)
การบำบัดน้ำ (Purification)
การนำน้ำกลับมาใช้ (Utilization)
การระบายน้ำ (Drainage)

เมืองอู่ฮั่น ต้นแบบของเมืองฟองน้ำ

อู่ฮั่น เมืองใหญ่ใจกลางประเทศจีน เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของโครงการเมืองฟองน้ำ แม้จะมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์และระบบจัดการน้ำที่ครอบคลุม แต่อู่ฮั่นต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังมาอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุหลักมาจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม และฝนที่ตกกระจุกตัวในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของปี โดยกว่า 70% ของปริมาณฝนทั้งปีจะตกในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน นอกจากนี้ การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทะเลสาบธรรมชาติขนาดลดลง ความสามารถในการรองรับน้ำลดลงตาม และระบบท่อระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังเป็นสาเหตุของมลพิษทางน้ำในเขตเมืองอีกด้วย

อู่ฮั่นจึงได้นำแนวทางการพัฒนาเมืองฟองน้ำมาใช้ทั้งในรูปแบบโครงสร้างวิศวกรรม (Grey Solutions) และ โซลูชันจากธรรมชาติ (Nature-based Solutions) เช่น

การสร้าง Rain Garden
การปลูกหญ้าแฝก
ระบบกักเก็บน้ำด้วยพืชพรรณ
ทางเดินที่น้ำซึมได้
รางซับน้ำตื้น
แหล่งกักเก็บน้ำฝนในพื้นที่เมือง

โดยเป้าหมายของเมือง คือสามารถดูดซับและบริหารจัดการน้ำฝนในแต่ละปีได้ถึง 60–85% โครงการเมืองฟองน้ำในอู่ฮั่นประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนปี 2020 ซึ่งอู่ฮั่นเผชิญกับฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่กลับไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในเมืองรุนแรงเหมือนในอดีต

ประสบการณ์ของอู่ฮั่นแสดงให้เห็นว่า การจัดการน้ำฝนด้วยแนวทางธรรมชาติ ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศเมือง เพิ่มพื้นที่สีเขียว และเตรียมเมืองให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วในอนาคตได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ที่มา : Oppla

#เมืองฟองน้ำ

15/07/2025

ป๋าเต็ดลองของ กับหูฟัง Sony WH-1000X M6 ตัวล่าสุด ตัดเสียงโหดจริงไหม ? คุณภาพเสียงตัวท็อปตัวใหม่ของตลาดหูฟังจะถูกใจชายผู้อยู่ในวงการเพลงมาอย่างยาวนานคนนี้แค่ไหน ดูได้ในคลิปนี้ ?

#ฟังที่ใช่ไม่มีนอยส์

15/07/2025

เตรียมพบกับคอนเทนต์ใหม่ จาก btPod
#บุคคลล้มละลุก พาไปฟังเรื่องจริงของ “คนที่เคยล้ม” แต่ลุกขึ้นมาใหม่ได้ด้วยวิธีคิดและเส้นทางที่ “ไม่ธรรมดา”
ฟังพร้อมกัน ! 24 ก.ค. นี้ #บุคคลล้มละลุก

ดูไบเตรียมเปิดร้าน “WOOHOO” ร้านอาหารแรกของโลกที่ใช้เชฟ AIดูไบเตรียมเปิดตัวร้านอาหารแนวใหม่ชื่อ “WOOHOO” ในเดือนกันยายนน...
15/07/2025

ดูไบเตรียมเปิดร้าน “WOOHOO” ร้านอาหารแรกของโลกที่ใช้เชฟ AI

ดูไบเตรียมเปิดตัวร้านอาหารแนวใหม่ชื่อ “WOOHOO” ในเดือนกันยายนนี้ โดยตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ตึกเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) จุดเด่นของร้านคือการใช้เชฟ AI ที่มีชื่อว่า “Chef Aiman” ในการออกแบบประสบการณ์ทุกอย่าง ตั้งแต่เมนูอาหาร บรรยากาศ ไปจนถึงบริการ

ร้านอาหารแรกของโลกที่ใช้เชฟ AI

Chef Aiman เป็นโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่ถูกฝึกจากข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์อาหาร งานวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบเชิงโมเลกุลของวัตถุดิบ และสูตรอาหารกว่าพันรายการจากหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก แม้ว่า Aiman จะไม่สามารถลิ้มรสหรือดมกลิ่นได้เหมือนเชฟมนุษย์ แต่ระบบสามารถวิเคราะห์อาหารโดยแยกออกเป็นองค์ประกอบอย่างรสชาติ เนื้อสัมผัส ความเปรี้ยว หรือความนัว ก่อนจะประกอบร่างเป็นสูตรใหม่ที่คาดไม่ถึง

สูตรต้นแบบเหล่านี้จะถูกนำมาทดสอบโดยทีมเชฟจริงภายใต้การดูแลของเชฟชื่อดังประจำดูไบ ไรฟ์ ออทแมน (Reif Othman) ซึ่งจะช่วยให้ AI เข้าใจความชอบของมนุษย์ในเชิงปฏิบัติมากขึ้น
ใช้ AI ไม่ใช่เพื่อมาแทนที่มนุษย์

ผู้ร่วมก่อตั้งร้านและ CEO ของบริษัท Gastronaut อย่าง อาห์เมต โอยตุน ชาคีร์ (Ahmet Oytun Cakir) ย้ำว่า เป้าหมายของการใช้ AI ไม่ใช่เพื่อมาแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ และเพิ่มศักยภาพการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า

Chef Aiman ยังถูกออกแบบให้สามารถสร้างสูตรจากวัตถุดิบที่มักถูกทิ้ง เช่น เศษเนื้อ หรือไขมัน เพื่อช่วยลดขยะอาหาร และส่งเสริมความยั่งยืนในธุรกิจร้านอาหาร

ในระยะยาว ผู้พัฒนาวางแผนที่จะเปิดให้ร้านอาหารอื่น ๆ ทั่วโลกสามารถใช้งาน Chef Aiman ได้ในรูปแบบลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจกลายเป็นก้าวใหม่ในการปรับปรุงการจัดการครัว ลดของเสีย และสร้างประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร

ที่มา : Reuters

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66858482253

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ BT Beartai แบไต๋ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง BT Beartai แบไต๋:

แชร์