ลานโพธิ์

ลานโพธิ์ ลานโพธิ์ นิตยสารพระเครื่อง ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย “ครบเครื่อง เรื่องดี สีสด อรรถรสสมบูรณ์แบบ”

Lanpo, the oldest amulet magazine in Thailand, presents news and articles concerned antique, small amulets, charms, and Buddha ‘s virtue codes of moral. Accordingly, Lanpo Magazine provides knowledge and deep analysis of both old and new amulets and suggests readers precisely the right path to find amulets. Moreover, amulet hobbyists perceive Lanpo magazine as the center of amulet exchange in

Thailand, over 1,000 members participated in exchangeable activities. Lanpo Magazine has been launched over 47 years ago which is verified successfully as great quality and value magazine. As a result, “LANPO” is suitable definitely as “the greatest valuable amulet magazine.”

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 3 (จบ)ทางท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก ได้นำพระที่เหลือจากการให้เช่าบูชามาสุมไฟแกลบเผา...
16/08/2025

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 3 (จบ)

ทางท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก ได้นำพระที่เหลือจากการให้เช่าบูชามาสุมไฟแกลบเผาให้สุก และนำมาแจกให้กับญาติโยมที่ต้องการ เนื่องจากพระเดิมเป็นเนื้อดินดิบมิได้เผา เมื่อแช่น้ำหรือถูกเหงื่อหนักเข้าก็ละลายออกมาทำให้ชำรุดเสียหาย มีผู้ที่รู้ไม่จริงนำไปเขียนเป็นพระเก๊เท่ียบกับพระแท้ ที่จริงเป็นพิมพ์เดียวกัน แต่ทว่าเมื่อเผาแล้วดินดิบกลายเป็นดินเผา

เพราะฉะนั้น หากท่านไปเห็นพระกรุนี้เป็นเนื้อดินเผาละก็ไม่เก๊ แต่เป็นของที่ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎกท่านเผา ที่นำมากล่าวไว้ในที่นี้ก็เพื่อไม่ให้หลงผิดกันต่อไป แต่ของเก๊เป็นเนื้อดินดิบก็มีเช่นกัน แต่พิมพ์ตื้นและขาดรายละเอียดต่างๆ ความแห้งไม่มี ขนาดไม่หดมากนัก

เนื่องจากการรื้อพระเจดีย์ในครั้งนั้นพบแต่พระ มิได้มีจารึกหรือหลักฐานอันใดที่จะทำให้ทราบถึงพระผู้สร้างแต่อย่างใด แต่เมื่อพิจารณาดูจากเนื้อพระว่าเป็นดินดิบ และบางครั้งก็มีสีดำเคลือบเอาไว้ เมื่อเอาน้ำลูบดูก็หลุดออก ดมดูมีกลิ่นคล้ายดินปืน และดูจากเค้าพระพักตร์พระพุทธที่ปรากฏอยู่ในพระพิมพ์ ก็ละม้ายคล้ายกับพระพักตร์ของ หลวงพ่อปู่ วัดชนะสงคราม

จึงสรุปความเห็นว่า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระผู้สถาปนาชีวิตใหม่ให้กับพระอารามวัดตองปุจนกลายเป็น วัดชนะสงคราม ทรงสร้างไว้เมื่อตอนสมโภชวัด ด้วยดินดิบที่สร้างได้ง่ายและไม่ต้องมีกรรมวิธีมากนัก บางองค์ก็ได้คุลีการดินปืนเอาไว้ด้วยดังกล่าวแล้ว และบรรจุไว้เป็นการสืบพระศาสนาตามคติโบราณ

พระกรุนี้ เป็นพระเนื้อดินดิบ ที่ขุดขึ้นมาจากใต้ดิน ซึ่งมีความละเอียดและเนียน เมื่อคุลีการจนเหนียวแล้วก็กดพิมพ์เป็นองค์พระออกมาวางผึ่งแดดให้แห้งแต่อย่างเดียว มิได้รับการสุมไฟเผา เนื้อที่พบจะมีสีแดง สีน้ำตาลแก่ สีดำ สีเทา และหรือสีแดงและน้ำตาล แต่ถูกไล้ไว้ด้วยวัสดุสีดำที่เข้าใจว่าจะเป็นดินปืน ความแห้งของดินถึงขนาดทำให้มีความแกร่งพอสมควร ผิวมันและคราบรารักตลอดจนฝ้ากรุให้เห็น ส่วนใหญ่จะชำรุด เพราะดินดิบไม่ทนทานต่อความชื้นในกรุ พระนี้หากแช่น้ำหรือถูกเหงื่อมากๆ จะกลายเป็นเสียหาย อย่าให้เปียกน้ำได้เป็นการดีที่สุด

ที่เป็นเนื้อดินสุกนั้น ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎกได้เผาใหม่เพื่อให้คงทน มีจำนวนน้อยกว่าเนื้อดินดิบ ส่วนของเทียมเนื้อสดไม่แกร่งเหมือนดินเหนียวธรรมดา แต่ส่วนมากจะเคล้าสีให้เป็นสีดำหรือสีน้ำตาล เพื่อให้ยากแก่การสังเกตให้ระวังด้วย ความคมชัดของพิมพ์จะต้องถือเป็นอันดับหนึ่งในการพิจารณา

พระกรุวัดชนะสงคราม เท่าที่ปรากฏในกรุ มีอยู่ดังต่อไปนี้

ก.พิมพ์สมาธิเพชรซุ้มแหลม อักขระสี่ตัว ข้างดอกบัว หลังลายเครือเถา เป็นพระประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์ ขัดสมาธิเพชร ชะลูดอยู่ในทรงกรอบแบบเล็บมือปลายแหลม มีเส้นลวดเกลี้ยงยกเป็นขอบล้อมรอบองค์พระเอาไว้ ที่รัตนบัลลังก์ปรากฏอักขระตัว “นะ” และเบื้องบนพระเศียรมีอักขระ อ่านได้ว่า “มะ อะ อุ” มีลายดอกบัวปรากฏอยู่ที่ซุ้มสองข้างเหนือรัตนบัลลังก์เล็กน้อย พื้นผนังคูหาปรากฏลายเครือเถางดงามมาก

ข.พิมพ์เล็บมือซุ้มโค้ง ข้างลายเครือเถา เป็นพระพุทธประทับนั่งสมาธิบนรัตนบัลลังก์สี่เหลี่ยม มีเส้นซุ้มเส้นลวดเกลี้ยงล้อมรอบองค์พระสองข้างลำพระองค์ พื้นผนังคูหาปรากฏลายเครือเถาเลื้อยขึ้นไปประดับกับพระเกศด้านบนอย่างสวยงาม ตรงกึ่งกลางเบื้องบนพระเศียรติดกับขอบเส้นลวดปรากฏเป็นวงกลมและจุดนูนตรงกลางดุจดวงเดือน เป็นเอกลักษณ์ประจำพิมพ์ ฐานมีตัว นะ

ค.พิมพ์เล็บมือซุ้มโค้ง ลายเครือเถา ไม่มีดวงเดือน ลักษณะทั่วไปใกล้เคียงกับพิมพ์ ข. แต่ไม่ปรากฏดวงเดือนเหมือนพิมพ์ ข. เท่านั้นเอง และที่ฐานไม่มีตัว “นะ” กำกับอยู่

ง.พิมพ์พระประธานเล็บมือปรกโพธิ์ พระพิมพ์นี้มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระสมเด็จ พิมพ์พระประธาน และเป็นพิมพ์ที่ใกล้เคียงกับลักษณะของหลวงพ่อปู่มากที่สุด ด้านหลังปรากฏปรกโพธิ์เม็ดและก้านโพธิ์ไม่ชัดเจนนัก

จ.พิมพ์เล็บมือปรกโพธิ์ ชะลูด เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์ ในรูปทรงกรอบเล็บมือโค้ง มีลายปรกโพธิ์ก้านปรากฏที่ผนังคูหา ด้านหลังองค์พระงดงามพอสมควรทีเดียว

ฉ.พระพิมพ์เล็บมือซุ้มโค้ง พิมพ์เปลวเพลิง ลักษณะพิมพ์พระเหมือนพิมพ์สมาธิซุ้มแหลม แต่มีเส้นเป็นลายคล้ายเปลวเพลิงขึ้นจากชายผ้าทิพย์ขึ้นไปสู่เบื้องบนพระเศียร

ช.พระปิดตาเล็บมือซุ้มแหลมอักขระสี่ตัว พิมพ์ทรงเป็นแบบเดียวกับพิมพ์สมาธิเพชรซุ้มแหลม ผิดกันที่เป็นพระปิดตา ที่มีจำนวนน้อยมากหาดูได้ยากกว่าพิมพ์อื่น

พระพุทธคุณของ พระกรุวัดชนะสงครามนั้น เด่นทางคงกระพันมหาอุด (พิมพ์ปิดตา) และแคล้วคลาด เป็นที่นิยมของบรรดาผู้ประกอบอาชีพรับราชการทหารและตำรวจ ตลอดจนผู้มีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ขาย แม่ค้าแถวตลาดบางลำพูนิยมกันมาก และเชื่อว่าเมตตาแรงไม่แพ้พระกรุอื่นเหมือนกัน ราคาเช่าบูชาอยู่ในหลักพันจัดว่าเป็นของดีมีราคาเยาที่น่าสะสมอนุรักษ์ไว้ใช้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 886 พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง เรื่องโดย เอนก เจกะโพธิ์ ปักษ์แรก เดือน กันยายน พ.ศ. 2546 ราคาปก 40 บาท )

#พระวัดชนะสงคราม #พระกรุวัดชนะสงคราม #หลวงพ่อปู่ #วัดชนะสงคราม #วัดตองปุ #กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท #เจ้าคุณพระธรรมปิฎก #นิยม #สงครามเก้าทัพ #เจ้าพระยาเสือ #

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 2เมื่อทรงเสร็จศึกแล้วก็กลับคืนสู่พระนคร ทรงดำริว่าจะสร้างกุศลเพื่อชดเชยกับที่ได...
12/08/2025

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 2

เมื่อทรงเสร็จศึกแล้วก็กลับคืนสู่พระนคร ทรงดำริว่าจะสร้างกุศลเพื่อชดเชยกับที่ได้ทรงกระทำศึกผลาญชีวิตข้าศึกเป็นอันมาก ทรงดำริว่าการสร้างวัดหรือบูรณะวัดที่ชำรุดทรุดโทรมนั้นเป็นมหากุศล จึงทรงบูรณะวัดตองปุ ตำบลบางลำพูบน ทั้งวัด เพราะวัดตองปุตอนนั้นกำลังอยู่ในสภาพที่จะไปไม่ไหวขาดการทำนุบำรุง ทรงสถาปนาพระอุโบสถพระประธานตลอดจนเสนาสนะทุกอย่างมีความใหญ่โตมโหฬาร พระอุโบสถวัดตองปุนี้ อาจกล่าวว่าเป็นพระอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เมื่อทรงจัดงานฉลองแล้วได้พระราชทานนามวัดตองปุ เสียใหม่ว่า วัดชนะสงคราม อันหมายถึงเป็นการเฉลิมฉลองการชนะศึกเก้าทัพพม่านั่นเอง

พระประธานในพระอุโบสถนั้น มีพระนามว่า “ หลวงพ่อปู่ ” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นอันแข็งแรง หุ้มด้วยแผ่นโลหะลงรักปิดทองมาแต่เดิม ได้รับการบูรณะมาหลายครั้งหลายหน จนมีสภาพดีอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีครั้งหนึ่งที่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า พระประธานในพระอุโบสถวัดชนะสงครามนั้นมีองค์เล็กกว่าพระอุโบสถมาก จึงทรงมีพระราชดำริจะให้ย้ายไปประดิษฐานที่วัดปรินายกแล้วนำพระประธานในวัดปรินายกมาประดิษฐานสลับกัน

แต่ก่อนที่จะทรงดำเนินการได้ตั้งสัตยาธิษฐานต่อหน้าหลวงพ่อปู่ว่า “หากว่ามิต้องการจะให้ย้ายที่แล้ว ก็ให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์แก่พระนคร” ความตอนนี้เล่าสืบกันมาว่า “ครั้นเมื่อทอดพระเนตรพระประธานในพระอุโบสถวัดชนะสงคราม ก็ทรงเห็นว่าพระประธานนั้นสั่นพระเศียรอยู่ไปมาระยะหนึ่ง เป็นที่อัศจรรย์ใจ จึงทรงล้มเลิกพระราชดำริในการย้ายพระประธานแต่วาระนั้น”

ในปัจจุบัน หลวงพ่อปู่ ก็เป็นที่พึ่งของบรรดาผู้ที่เดือดร้อนมาบนบานศาลกล่าว ท่านก็ช่วยสงเคราะห์ให้น้ำมนต์หน้าพระพักตร์มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง มักใช้อาบเพื่อให้เกิดสิริมงคลและกินเพื่อรักษาโรค วัตถุมงคลในนามของหลวงพ่อปู่นั้นมีอภินิหารนานัปการ ขอเชิญไปนมัสการได้ทุกเวลา แต่ในวันพระยังมีการทำสังฆทานเป็นพิเศษอีกด้วย

ในปี พ.ศ.2495 ทางเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม คือ ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก (นิยม) ได้มีดำริที่จะสร้างโรงเรียนประชาบาลในที่ดินของวัด เพื่อให้บุตรหลานชาวบางลำพูได้ใช้ประโยชน์ในการศึกษาจึงได้อุทิศที่ดินให้กระทรวงศึกษาธิการสร้างโรงเรียนประชาบาล ผู้รับเหมาก่อสร้างได้รื้อเจดีย์ และสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางบริเวณที่จะสร้างโรงเรียนในหมู่พระเจดีย์ที่พังเพราะถูกรื้อนั่นเอง ได้มีผู้พบพระเครื่องเนื้อดินดิบ หลายหลากมากพิมพ์ทะลักออกมา

ชาวบ้านเฮละโลกันไปแย่งยื้อกระทั่งทางวัดได้นำไปเก็บรักษาเอาไว้เพื่อคัดเลือกแยกประเภทและนำมาให้เช่าบูชา เพื่อนำเงินมาร่วมสร้างโรงเรียนและบูรณะปฏิสังขรณ์หมู่กุฏิเดิม ในราคาองค์ละ 10 บาท ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม เพราะมีจ่าตำรวจโรงพักชนะสงครามในระยะนั้นคนหนึ่งไปจับผู้ร้าย ถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาฟท์จนเนื้อตัวเป็นจ้ำเขียวเสื้อขาด ในตัวของจ่ามีพระเครื่องเนื้อดินดิบ กรุวัดชนะสงคราม เพียงองค์เดียวเท่านั้น

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 886 พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง เรื่องโดย เอนก เจกะโพธิ์ ปักษ์แรก เดือน กันยายน พ.ศ. 2546 ราคาปก 40 บาท )

#พระวัดชนะสงคราม #พระกรุวัดชนะสงคราม #หลวงพ่อปู่ #วัดชนะสงคราม #วัดตองปุ #กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท #เจ้าคุณพระธรรมปิฎก #นิยม #สงครามเก้าทัพ #เจ้าพระยาเสือ #

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 1ชื่อของพระ นามของวัด บางครั้งก็สื่อความหมายชัดถึงบางสิ่งบางอย่างได้ อย่างน้อยก...
11/08/2025

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง. ตอนที่ 1

ชื่อของพระ นามของวัด บางครั้งก็สื่อความหมายชัดถึงบางสิ่งบางอย่างได้ อย่างน้อยก็บ่งบอกถึงประวัติความเป็นมาของพระหรือวัดนั้นๆ หรืออาจมีความหมายกว้างไกลไปถึงกิตติคุณบารมีในองค์พระได้เลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่น พระไพรีพินาศ พระเครื่องพิมพ์นี้ ใครได้ครอบครองอยู่ ศัตรูคู่อริได้ยินชื่อแล้วรับรองว่าต้องหนาว

ชื่อนามข่มกันไว้ก่อน อิทธิแห่งอำนาจพุทธคุณยังไม่นับครับ เช่นเดียวกันกับ พระกรุวัดชนะสงคราม…

ชื่อนามข่มศัตรูคู่อริได้ดีไม่แพ้ ไพรีพินาศเลยเชียว

พระกรุวัดชนะสงคราม เป็นพระที่มีอายุการสร้างกว่าร้อยปี ซึ่งนับได้ว่าทรงคุณค่าเป็นโบราณวัตถุได้แล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบัน ค่านิยมในการเล่นหาสะสมยังไม่แพงนัก

ทั้งๆ ที่เป็นพระกรุที่มีประวัติความเป็นมาชัดเจน แถมพุทธศิลป์สวย ขนาดกะทัดรัดกำลังพอเหมาะอีกต่างหาก

ครับ โอกาสนี้มาทำความรู้จักพระกรุวัดชนะสงคราม กันดีกว่า เริ่มจากความเป็นมาของวัดชนะสงคราม กันก่อน

วัดชนะสงคราม เดิมชื่อ วัดตองปุ เป็นวัดที่มีอยู่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี กลับฟื้นคืนตัวมาอีกครั้งหนึ่ง ครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างกรุงเทพมหานครได้ไม่นานนัก บรรดามอญที่ถูกกดขี่จากพม่าได้พากันหนีมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จึงโปรดเกล้าฯให้มาตั้งรกรากอยู่ตามที่ต่างๆ อาทิ ที่พระประแดง ราชบุรี ปทุมธานี และที่บริเวณรอบ วัดตองปุ

ในที่สุด วัดตองปุ ก็กลายเป็น วัดรามัญ หรือ วัดมอญ ที่ชาวมอญได้ให้การทำนุบำรุงเป็นอย่างที่สุด แม้ในปัจจุบันพระมอญ ที่วัดชนะสงคราม ก็จะต้องได้รับการสวดมนต์เข้าไปสวดพระปริตแบบมอญในพระบรมมหาราชวัง ในพิธีสำคัญๆ อยู่เป็นประจำ หญ้าคาวัดตองปุ ก็ถือว่าเป็นหญ้าสำคัญที่จะนำไปใช้ในการประกอบพิธีในพระบรมมหาราชวังด้วยเช่นกัน

ครั้งเมื่อพม่าได้กรีธาทัพใหญ่เข้ามาตีกรุงเทพมหานคร โดยกะว่าจะบดขยี้ด้วยกำลังทัพที่เหนือกว่านั้น กองทัพพม่าได้บุกเข้ามาพร้อมกันเก้าทาง ซึ่งประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า “ สงครามเก้าทัพ ”

สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระอนุชาธิราชแห่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เป็นแม่ทัพใหญ่ในการรับมือกับกองทัพพม่าที่ยกเข้ามา กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงใช้ยุทธวิธีที่เหนือกว่าทำลายกองทัพของพม่าจนแตกกระจาย มิอาจจะรวมตัวกันเข้าตีหักถึงกรุงเทพฯได้ ทรงมีพระปรีชาสามารถจนพม่าข้าศึกถวายพระนามว่า “ เจ้าพระยาเสือ ” เพราะไม่ว่าจะเข้ารบที่ใดก็ตาม จะบุกทะลวงอย่างดุดันและห้าวหาญเป็นที่ย่นระย่อแก่ข้าศึกเป็นอันมาก

ในที่สุดกองทัพทั้งเก้าของพม่าก็วอดวายไม่อาจต่อกรกับกองทัพไทย และต่อมาพม่าก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ หมดโอกาสจะเข้ามาเป็นอริกับไทยได้อีก

ชัยชนะใน สงครามเก้าทัพ นั้นเป็นชัยชนะเด็ดขาดต่อพม่าข้าศึก เพราะนับแต่นั้นมาก็มิได้มีทัพใหญ่ของพม่ายกมาก่อกวนประเทศไทยอีกเลย

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 886 พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง เรื่องโดย เอนก เจกะโพธิ์ ปักษ์แรก เดือน กันยายน พ.ศ. 2546 ราคาปก 40 บาท )

#พระวัดชนะสงคราม #พระกรุวัดชนะสงคราม #หลวงพ่อปู่ #วัดชนะสงคราม #วัดตองปุ #กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท #เจ้าคุณพระธรรมปิฎก #นิยม #สงครามเก้าทัพ #เจ้าพระยาเสือ #

ก่อนปิดปก หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา ปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบาคนร่างอ้วนกำลังสนทนากับ “...
01/08/2025

ก่อนปิดปก หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา ปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบา

คนร่างอ้วนกำลังสนทนากับ “ หลวงพ่อศรีเงิน ” ในภาพข้างบนนั้นคือ “ แฉ่ง บางกระเบา ” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว คราวนั้นเดินทางไป วัดดอนศาลา เพื่อนำเอา พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า ที่สร้างแจก ท่านผู้อ่านลานโพธิ์ ไปปลุกเสก โดยทำพิธีใหญ่ใน อุโบสถวัดดอนศาลา มีคณาจารย์มาปลุกเสกกันหลายองค์ ตามที่เคยเสนอไปแล้ว

ขณะนั้น “ หลวงพ่อศรีเงิน ” ท่านกำลังอาพาธอยู่ที่ โรงพยาบาลพัทลุง ผู้เขียนก็บอกบรรดาศิษย์ไปว่า หลวงพ่อไม่มาปลุกเสกก็ไม่เป็นอะไร ภาษาใต้ก็บอก “ไม่พรื้อ” เพราะมีองค์อื่นๆ มามากพอแล้ว

แต่บรรดาศิษย์ หลวงพ่อศรีเงิน โดยมี คุณประจวบ เป็นหัวหน้าบอกว่า ท่านรู้แล้วว่า “ แฉ่ง บางกระเบา ” จะมา ท่านไม่ยอมท่านต้องมาปลุกเสกให้จนได้ จึงต้องประคองท่านมาจากโรงพยาบาลพัทลุง

ในภาพจะเห็นมีพระลูกศิษย์ประคองท่านมา ใบหน้าของท่านยิ้มย่องผ่องใส บอกว่ายินดีมาปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า ให้เพราะทราบว่า ลานโพธิ์จะสร้างแจกให้ท่านผู้อ่านฟรีๆ โดยไม่มีเงื่อนไข ท่านเต็มใจปลุกเสก ก็น่าประทับใจในความเมตตาของท่านเป็นอย่างยิ่ง (ใครมี พระหลวงพ่อทวด รุ่นนี้ จงนำมาแขวนคอซะดีดี)

นาทีนี้คิดถึง หลวงพ่อศรีเงิน แห่งวัดดอนศาลา เกจิอาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธแห่ง เขาอ้อ ขนานแท้ วัตถุมงคลของท่านทุกชิ้นล้วนเยี่ยมด้วยพุทธานุภาพ โดยเฉพาะ “ ตะกรุดฝนแสนห่า ” ของท่าน เป็นตะกรุดที่มีอานุภาพในทางแคล้วคลาดเป็นเลิศ

วิชานี้ท่านเล่าว่าเรียนมาจาก “ พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ ” กว่าจะเรียนสำเร็จ ต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างมาก หลังจากได้รับถ่ายทอดแล้ว ต้องนำไปฝึกฝนอยู่นานหลายพรรษากว่าจะได้ผลตามที่ “ พระอาจารย์นำ ” สั่งสอน เพราะต้องเดินลมหายใจ ถ่ายลมปราณลงจาร ดวงยันต์ลงในแผ่นตะกั่ว เพื่อม้วนเป็นตะกรุด

พระอาจารย์นำ สั่งว่าต้องทดลองลงจารกลางแจ้งขณะฝนตก ถ้าขณะลงจารฝนที่ตกลงมาไม่ถูกตัว แสดงว่า ตะกรุดดอก นั้นลงสำเร็จได้ผลดี แต่ถ้าขณะลงจารฝนตกลงมาถูกตัว แสดงว่าใช้ไม่ได้ ให้เอาไปฝังดิน

นี่แหละ หลวงพ่อศรีเงิน ท่านว่า “ ตะกรุดฝนแสนห่า ” ดีทางแคล้วคลาด ตามคำกล่าวที่ว่า “ ฝนแสนห่า ตกลงมาไม่ต้องกาย ” นั่นแล

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 861 ปักษ์หลัง เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2545 ราคาปก 40 บาท ; คอลัมน์ ก่อนปิดปก : หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา ปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบา )
#ลานโพธิ์ #ก่อนปิดปก #หลวงพ่อศรีเงิน #วัดดอนศาลา #ปลุกเสก #พระหลวงพ่อทวด #เนื้ออัลปาก้า #แฉ่งบางกระเบา #แฉ่ง #บางกระเบา #พระอาจารย์นำ #ตะกรุดฝนแสนห่า #พระอาจารย์นำ #แก้วจันทร์ #พระอาจารย์นำแก้วจันทร์ #ฝนแสนห่า

ก่อนปิดปก : หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบาวันหนึ่งในต้นฤดูฝน ผู้เขียน ติดตามลุงผู้เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อ...
30/07/2025

ก่อนปิดปก : หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบา

วันหนึ่งในต้นฤดูฝน ผู้เขียน ติดตามลุงผู้เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อเงิน ไปที่ บ้านดอนยายหอม เนื่องจากลุงต้องไปเอารถไถนาออกให้ลูกนาทำนาในต้นฤดูกาลเป็นปกติทั่วไปของชาวนาย่านนั้น

ครั้งนั้นรถไถนาดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ของชาวบ้าน เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามา ลุงผู้เขียนดูเหมือนจะเป็นคนทันสมัย สั่งรถไถนามาบริการในย่าน “ โคกพระเจดีย์ ” และ “บ่อตะกั่ว” ถึง “ ดอนยายหอม ”

ส่วนใหญ่ในเวลาว่างก็จะแวะเวียนขึ้นไปสนทนากับ “ หลวงพ่อเงิน ” อยู่เสมอ วันนั้นก็เช่นเคย พาผู้เขียนในวัยเยาว์นมใกล้แตกพานขึ้นไปคุยกับ “ หลวงพ่อเงิน ” ผู้เขียนเป็นเด็กก็ได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว

“ หลวงพ่อเงิน ” ทักทายกับลุงผู้เขียนอยู่สักครู่ ท่านก็เอ่ยปากเล่าว่า

“ฉันเคยเดินธุดงค์ตัดทุ่งไปกับ ท่านห่วง วัดท่าใน เลาะไปตามท้องนาเข้าเขตราชบุรีแถวๆ บางแพ เวลาบ่ายแก่แล้ว เด็กเลี้ยงควายต้อนควายผ่านมา ไอ้ตัวเขาโง้งมันเบิ่งมองอาตมากับท่านห่วง สักครู่ก็ควบวิ่งเข้าหา เพราะอะไรไม่รู้

ฉันเห็นท่าไม่ดีวิ่งไปแอบไว้หลังต้นตาล ส่วนท่านห่วงเขาใจแข็งไม่ยอมวิ่ง พอควายใกล้เข้ามา ท่านยกมือชี้นิ้วไปข้างหน้าบริกรรม ไอ้ควายพอเห็นอย่างนั้นมันหยุดมอง ไม่กล้าเข้าใกล้ท่านห่วง หันมาหาอาตมาวิ่งตรงเข้าที่ต้นตาลที่ฉันแอบอยู่

อาตมาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนึกถึงคาถาที่อาจารย์เคยบอกไว้ สำหรับสะกดสัตว์ร้าย ให้กลั้นลมหายใจ แล้วเอาหัวแม่เท้าข้างหนึ่งจิกลงดิน แล้วภาวนา อะตึง อะตัง อังอะ จึงลองทำดู

ไอ้ควายดุตัวนั้นวิ่งตรงเข้าหาอาตมา พอจะถึงตัวมันก็หยุดกึกลง ชะเง้อมองแล้วร้อง มอ มอ สะบัดหัวไปมาสองสามทีก็หันหลังกลับวิ่งไปเข้าฝูงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาถาสะกดสัตว์ร้ายนี่โยมจะลองเอาไว้ใช้บ้างก็ได้ อาตมาทำได้ผลดีมาหลายครั้งแล้ว”

“ หลวงพ่อเงิน ” เล่าแล้วท่านก็หัวเราะ บรรดาญาติโยมหลายคนที่นั่งห้อมล้อมฟังท่านเล่า ก็พากันเอากระดาษมาจดคาถานั้นเก็บไว้ ผู้เขียนเองก็แอบจดแล้วท่องจำไว้ใช้มาจนถึงบัดนี้ เหตุที่จำได้เพราะเคยทดลองใช้แล้วได้ผลหลายครั้ง

ครั้งที่จำได้ประทับใจมากก็คือ เมื่อคราววัยรุ่นไปจีบสาวแถวๆ ตรอกวัดสังข์กระจายเจริญพาศน์ สมัยนั้นย่านนั้นจะมีจิ๊กโก๋ดุ เพราะเป็นโก๋แขกนิกายชีอะห์ ที่ชอบเอามีดกรีดหัวในเทศกาลถือบวช สาวที่ผู้เขียนจีบนั้นทุกวันนี้เป็นแม่ของดาราดัง แต่ดาราดังที่ว่าไม่ใช่บุตรผู้เขียนหรอก

วันนั้นโดนจิ๊กโก๋แขกซึ่งคงหมั่นไส้ผู้เขียนอยู่นานแล้ว แอบเอามีดดาบขาววับดักฟัน ผู้เขียนวิ่งหนีไม่พ้น หันหน้าเข้าสู้ นึกถึงคาถาหลวงพ่อเงิน บทสะกดสัตว์ร้ายได้ ก็เอาหัวแม่เท้าจิกพื้นแล้วภาวนาคาถานั้น ได้ผลชะงัดมาก จิ๊กโก๋แขกเงื้อดาบค้าง แล้วหันกลับเดินจากไปแต่โดยดี

สงสัยว่าจิ๊กโก๋แขกคงเป็นประเภทเดียวกับสัตว์ร้าย คาถาจึงได้ผล

แฉ่ง บางกระเบา

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 885 ปักษ์หลัง เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2546 ราคาปก 40 บาท ; คอลัมน์ ก่อนปิดปก : หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบา )
#ลานโพธิ์ #ก่อนปิดปก #หลวงพ่อเงิน #วัดดอนยายหอม เขียนโดย #แฉ่งบางกระเบา #แฉ่ง #บางกระเบา

หลวงปู่ทวด พิมพ์หลังเตารีด ของนิตยสาร ลานโพธิ์ ดีอย่างไร?  เขียนโดย แฉ่ง บางกะเบา หลวงปู่ทวด พิมพ์หลังเตารีด ของนิตยสาร ...
27/07/2025

หลวงปู่ทวด พิมพ์หลังเตารีด ของนิตยสาร ลานโพธิ์ ดีอย่างไร? เขียนโดย แฉ่ง บางกะเบา

หลวงปู่ทวด พิมพ์หลังเตารีด ของนิตยสาร ลานโพธิ์ ซึ่งแจกสมนาคุณท่านผู้อ่าน พร้อมหนังสือ ลานโพธิ์ ฉบับที่ 770 เดือนพฤศจิกายน 2541 ได้สร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง ทั้งพิมพ์ทรงและพิธีกรรมปลุกเสก

พิธีนี้จัดขึ้น วัดดอนศาลา พัทลุง เพื่อปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้โดยเฉพาะ พิธีจัดขึ้นภายใน โบสถ์วัดดอนสาลา โดยอาจารย์ ประจวบ คงเหลือ เป็นเจ้าพิธีตามรูปแบบของ สำนักเขาอ้อ โดยเฉพาะ มาปลุกเสกกันเต็มที่ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2541 เรียกว่า เสาร์เดือนสิบ สุดยอดแห่งความขลัง

ในขั้นตอนสร้างแม่พิมพ์ ได้พิจารณาสรรหาช่างฝีมือสุดยอดบรรจง แกะแม่พิมพ์ขึ้นรูปแบบของ พิมพ์หลังเตารีด อย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อให้มีคุณค่าทางศิลปะที่สมบูรณ์ จากนั้นจึงสรรหาเนื้อโลหะ ในที่สุดได้เนื้ออัลปาก้า โดยผสมเป็นสูตรพิเศษโดยเฉพาะให้ออกสีงดงามและมีแววแห่งทองคำประกาย

ส่วนขั้นตอนการปลุกเสก เพื่อความเข้มขลังเต็มร้อย ลานโพธิ์ นำไปปลุกเสกที่ภาคใต้ ประกอบด้วยพระเกจิอาจารย์สำคัญ 9 รูปด้วยกัน ในจำนวนนี้เป็นเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ 6 รูป ดังรายนามต่อไปนี้

1. พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
2. หลวงพ่อชม วัดปากน้ำละแม อ.ละแม จ.ชุมพร
3. หลวงปู่เมฆ วัดป่าขวาง อ.สิงหนคร จ.สงขลา
4. พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
5. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
6. พ่อท่านกลั่น วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
7. หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
8. หลวงพ่อสลับ วัดป่าตอ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
9. หลวงพ่อช่วง วัดควนปันตาราม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

ด้านหลัง หลวงพ่อทวด ซึ่งระบุนามว่า “ หลวงพ่อศรีเงิน ปลุกเสก ” นั้น เนื่องจากเราได้นิมนต์ “ หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา ” เป็นผู้จุดเทียนชัยและปลุกเสกด้วย ณ โบสถ์วัดดอนศาลา ซึ่งคณาจารย์ที่ทำพิธีปลุกเสกประกอบด้วยพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อทั้งสิ้น พิธีกรรมก็จัดพิธีตามตำรับเขาอ้อ พัทลุง ส่วนเกจิอาจารย์ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลานั้น เราทำไปให้ท่าน ปลุกเสกเดี่ยว เป็นการเน้นความเข้มแข็งให้สมบูรณืขึ้น

รีบนิมนต์ขึ้นคอไว้แต่บัดนี้ เดี๋ยวจะว่า แฉ่ง ไม่เตือน

แฉ่ง บางกะเบา
#หลวงปู่ทวด #พระหลวงปู่ทวด #พิมพ์หลังเตารีด #นิตยสาร #ลานโพธิ์ #โบสถ์วัดดอนศาลา #วัดดอนศาลา #ตำรับเขาอ้อ #พัทลุง #สายเขาอ้อ #เกจิอาจารย์สายเขาอ้อ #สำนักเขาอ้อ #ประจวบ #คงเหลือ #หลวงพ่อศรีเงิน #วัดดอนศาลา

พระสมเด็จ หลวงปู่บัวเกตุ เนื้อผสมไม้งิ้วดำ วัดปางกึ๊ด.  เรื่องโดย จิมมี่ ลานโพธิ์.  #จิมมี่  #ลานโพธิ์พระสมเด็จ หลวงปู่บ...
21/07/2025

พระสมเด็จ หลวงปู่บัวเกตุ เนื้อผสมไม้งิ้วดำ วัดปางกึ๊ด. เรื่องโดย จิมมี่ ลานโพธิ์. #จิมมี่ #ลานโพธิ์

พระสมเด็จ หลวงปู่บัวเกตุ เนื้อผสมไม้งิ้วดำ วัดปางกึ๊ด จ.เชียงใหม่ จัดสร้างในปี ๒๕๕๓ โดยคุณศิประภา คุณปลื้ม น้องสะใภ้ (กำนันเป๊าะ) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านเขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อแจกเป็นที่ระลึกก่อนการเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ มีทั้งหมด ๒ เนื้อ ได้แก่ เนื้อผสมไม้งิ้วดำ จัดสร้างประมาณ ๕๐๐ องค์ และเนื้อขาวพุทธคุณ จัดสร้างประมาณ ๓,๐๐๐ องค์

พญาเต่ามังกร หลวงปู่คำจันทร์ กาฬสินธุ์ “ รวย รวย รวย ” “ รวย สาม ที ดีแน่นอน ”  " พญาเต่ามังกร สามรวย รวยสามครั้ง มีหวัง...
18/07/2025

พญาเต่ามังกร หลวงปู่คำจันทร์ กาฬสินธุ์ “ รวย รวย รวย ” “ รวย สาม ที ดีแน่นอน ” " พญาเต่ามังกร สามรวย รวยสามครั้ง มีหวังเป็นเศรษฐี " เรื่องโดย แฉ่ง บางกระเบา

พญาเต่าเรือน เป็นเครื่องรางทางโชคลาภ อายุมั่นขวัญยืน เมืองจีนมีเต่ามังกร เขาว่าอายุยืนเป็นหมื่นปี แถมยัง “ เฮง เฮง เฮง ” จึงทำให้มีคนศรัทธานับถือว่าเป็น เทพเจ้าแห่งความเจริญรุ่งเรืองร่ำรวย

หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ วัดบ้านเมย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ณ ขณะนั้น อายุ 87 ปี (พ.ศ.2562) เป็นเกจิอาจารย์ผู้มากด้วยพุทธาคม ท่านอุปสมบทมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 นับว่าดำรงสมณเพศได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสานุศิษย์และผู้ที่ได้้เคยไปนมัสการท่าน

สมัยวัยหนุ่มได้ธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร และเรียนรูู้ธรรมและพุทธาคมกับพระเกจิอาจารย์ชั้นสุดยอดของร้อยเอ็ดคือ “ หลวงปู่ทองมา วัดสว่างท่าสี ” หลวงพ่อเก้า วัดบ้านโพนงาม หลวงปู่ศรี ถ้ำภูเขาควาย ตลอดจนศึกษาธรรมกับ หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จนบรรลุธรรมแตกฉาน

จนในที่สุดได้มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดบ้านเมย ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นถิ่นพำนักเดิมของท่านตามความต้องการของชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาพากันไปนิมนต์ให้กลับมาพัฒนาวัดบ้านเมย อันเป็นท้องถิ่นและเป็นที่พึ่งพาทางจิตใจของผู้เลื่อมใส

ท่านได้พัฒนาวัดบ้านเมยจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ศิษย์ใกล้ชิดของท่านต่างรู้กันดีว่า “ หลวงปู่คำจันทร์ ” เป็นพระที่มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีเรื่องเดือดร้อนก็มักจะมาขอความช่วยเหลือให้ท่านขจัดปัดเป่าให้เป็นประจำ

เครื่องรางของขลัง ที่ หลวงปู่คำจันทร์ ให้ศิษย์เอาไว้คุ้มครองก็มักจะเป็นตะกรุด ซึ่งผู้ที่มีไว้ต่างมีประสบการณ์ และพบปาฏิหาริย์อันน่าอัศจรรย์อยู่เสมอ

จนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2562 นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี เป็นโฟแมนประจำการบินไทยสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเขยของกาฬสินธุ์ ได้แต่งงานกับ นางละมุล อยู่ญาติมาก ซึ่งเป็นสาวกาฬสินธุ์ ตอนแต่งงานได้รับตะกรุดของ “ หลวงปู่คำจันทร์ วัดบ้านเมย ” จากพ่อตามารับขวัญวันแต่งงาน และเคยพบกับ หลวงปู่คำจันทร์ มาแล้วจึงศรัทธาเลื่อมใสมาก ไปไหนมาไหนก็พกตะกรุดของหลวงปู่ไม่เคยห่างกาย

จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ซึ่งผ่านมาไม่นานนี้ได้ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน 3 กก 1695 สวนกับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง เวลา 14.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำมาทับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ของ คุณวรวุฒิ อยู่ญาติมาก จนรถฟอร์จูนเนอร์ของเขาราบแบนกับพื้น ด้วยความหนักของตู้คอนเทนเนอร์

คุณวรวุฒิ อยู่ญาติมาก ติดอยู่ในซากนั้นนานนับชั่วโมง กว่าหน่วยกู้ภัยที่จะช่วยนำร่างของเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้พบเห็น ซึ่งเมื่อเห็นสภาพรถแล้วทุกคนนึกว่าเขาต้องตายแน่นอน

เมื่อหน่วยกู้ภัยนำร่างของเขาส่งโรงพยาบาลวิภาราม ปรากฏเมื่อตรวจดูร่างกายแล้วมีเพียงรอยฟกช้ำและเคล็ดขัดยอกเล็กน้อย เหตุที่เป็นเช่นนี้ คุณวรวุฒิ อยู่ญาติมาก มั่นใจว่าเป็นเพราะอานุภาพของตะกรุด “ หลวงปู่คำจันทร์ วัดบ้านหมย ” ที่เขาพกประจำกายอยู่นั่นเอง

เรื่องราวของปาฏิหาริย์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้ศรัทธาเลื่อมใส หลวงปู่คำจันทร์ เดินทางไปกราบนมัสการและขอวัตถุมงคลกันมากมาย

คณะกรรมการวัดบ้านเมย จึงได้จัดสร้างมงคลวัตถุเป็น “ พญาเต่ามังกร รุ่น รวย รวย รวย ” นับเป็น รุ่นแรก ของ หลวงปู่คำจันทร์ ออกมาให้ผู้ศรัทธาเลื่อมใสท่านร่วมกันทำบุญ เพื่อนำรายได้บูรณะวัดบ้านเมย และมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กยากจนในถิ่นทุรกันดาร

ที่มา ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1237 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2562 คอลัมน์ ก่อนปิดปก พญาเต่ามังกร รุ่นแรก รุ่น รวย รวย รวย หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ

#แฉ่ง #บางกระเบา #แฉ่งบางกระเบา #พญาเต่ามังกร #หลวงปู่คำจันทร์ #กาฬสินธุ์ #รวย #รวยรวยรวย #รวยสามที #พญาเต่ามังกรสามรวย #รวยสามครั้ง #เศรษฐี #พญาเต่ามังกร #รุ่นแรก #รุ่นรวยรวยรวย #หลวงปู่คำจันทร์ปัญญาโภ #หลวงปู่คำจันทร์วัดบ้านเมย #วัดบ้านเมย

ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับนี้เป็น “ พระรอด วัดพระสิงห์ ” พิมพ์ใหญ่ พระประธาน เนื้อเขียวหินครก ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2496 เป็...
15/07/2025

ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับนี้เป็น “ พระรอด วัดพระสิงห์ ” พิมพ์ใหญ่ พระประธาน เนื้อเขียวหินครก ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2496 เป็นการชุมนุมมวลสารศักดิ์สิทธิ์มาสร้าง พร้อมด้วยเกจิอาจารย์ชั้นยอดในยุคนั้นมาปลุกเสก ณ วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เป็น “ พระรอด เชียงใหม่ ” ที่อาจใช้แทน “ พระรอด ลำพูน ” ได้สบายมาก เรื่องราวของ “ พระรอด เชียงใหม่ ” จะเป็นอย่างไร ลองติดตามอ่านในเรื่อง “ ของดี วัดพระสิงห์ ” ซึ่งเริ่มเสนอเป็นตอนแรกใน ลานโพธิ์ ฉบับนี้

ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1082 เดือนพฤศจิกายน 2554 #ลานโพธิ์ #พระรอด #วัดพระสิงห์ #พระรอดวัดพระสิงห์ #พระรอด #เชียงใหม่ #พระรอดเชียงใหม่ #พระรอดลำพูน #พระรอด #ลำพูน #ของดีวัดพระสิงห์

พระรอดลำปางหลวง  เรื่องโดย  จิมมี่ ลานโพธิ์.  พระรอดลำปางหลวง เนื้อดิน เป็นพระเนื้อดินจาก ๔ มุมขององค์พระเจดีย์ จัดสร้าง...
10/07/2025

พระรอดลำปางหลวง เรื่องโดย จิมมี่ ลานโพธิ์.

พระรอดลำปางหลวง เนื้อดิน เป็นพระเนื้อดินจาก ๔ มุมขององค์พระเจดีย์ จัดสร้างประมาณปี ๒๕๐๐ โดยจำลองมาจากพระเจ้าแก้วดอนเต้า พระคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ลำปาง ปัจจุบันประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุลำปางหลวง พระรอดลำปางหลวง มีส่วนผสมของสนิมหุ้มทององค์พระเจดีย์ และทองคำเปลวที่หลุดจากองค์พระพุทธรูปสำคัญๆ ของจังหวัดลำปาง รวมไปถึงเศษชิ้นส่วนพระกรุสกุลหริภุญชัย จ.ลำพูน มีอยู่ด้วยกัน ๒ พิมพ์ ได้แก่ืพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก จัดว่าเป็น พระเครื่องของ จ.ลำปาง ที่มีประสบการณ์ แคล้วคลาด ปลอดภัยสูง องค์ในภาพเป็นพิมพ์เล็ก ขนาดเท่าปลายนี้วก้อย
#จิมมี่ #ลานโพธิ์ #พระรอดลำปางหลวง #พระรอด #ลำปางหลวง

กาญจนบุรี มีเกจิอาจารย์ขลัง ผู้โด่งดังด้านกฤตยาคม มากองค์ด้วยกัน ถัดมาจาก “ หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ” แล้วก็เห็นมี “ ...
06/07/2025

กาญจนบุรี มีเกจิอาจารย์ขลัง ผู้โด่งดังด้านกฤตยาคม มากองค์ด้วยกัน ถัดมาจาก “ หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ” แล้วก็เห็นมี “ หลวงพ่อวัดใต้ ” และ “ หลวงพ่อวัดเหนือ ” หรือที่พูดกันติดปากว่า “ อยากเป็นนักเลงเจ้าชู้ ก็ต้อง วัดเหนือ อยากเป็นอ้ายเสือ ก็ต้อง วัดใต้ ”

เป็นนัยบอกว่า องค์ไหนโดดเด่นด้านใด ฉบับนี้ “ ลานโพธิ์ ” ได้นำเสนอ ภาพปกเป็นภาพ เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อ “ วัดใต้ ” ซึ่งก็คือ “ หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ ” ผู้มีความโด่งดัง ด้านพุทธาคมยิ่งยวด เป็นหนึ่งใน 108 อาจารย์ พิธีใหญ่วัดราชบพิธฯ

เหรียญรุ่นแรก ของ หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ มีความนิยมสูงสุด มีสองบล็อกคือ “ ยันต์ตรง และ ยันต์เบี่ยง ” ปกฉบับนี้ ได้นำ เหรียญยันต์เบี่ยง มาให้ชม ได้รับความเมตตาจาก คุณสันติ อรุณศิริ หรือ “ เพชร ท่าพระจันทร์ ” ผู้ที่วงการให้การยอมรับว่าคือ “ สุดยอดแห่งวงการเหรียญ ” ทีเดียว จึงขอขอบพระคุณท่านไว้ ณ โอกาสนี้

ส่วนเรื่องราวของ “ หลวงพ่อเปลี่ยน ” หรือ “ พระวิสุทธิรังษี วัดไชยชุมพลชนะสงคราม ” นั้น เขียนโดย คุณสรพล โศภิตกุล ไว้น่าสนใจ ได้นำมาเสนอในเล่มพร้อมกันนี้ด้วย

เรื่องเขียนโดย สุธน ศรีหิรัญ บทบรรณาธิการ ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1162 เดือนเมษายน พ.ศ.2558

#เหรียญรุ่นแรก #หลวงพ่อวัดใต้ #สุธน #ศรีหิรัญ #บทบรรณาธิการ #ลานโพธิ์ #ฉบับที่ #1162 # #เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อวัดใต้ #หลวงพ่อวัดเหนือ #หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม #วัดหนองบัว #หลวงพ่อเฒ่ายิ้มวัดหนองบัว #หลวงพ่อเปลี่ยนวัดใต้ #หลวงพ่อเปลี่ยน #วัดใต้ #

“ เหรียญหางแมงป่อง ” หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับนี้ นับเป็นเหรียญทรงรูปแปลก เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใคร...
04/07/2025

“ เหรียญหางแมงป่อง ” หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับนี้ นับเป็นเหรียญทรงรูปแปลก เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังไม่มีรูปหลวงพ่อผู้สร้าง แต่เป็นเหรียญที่มีเฉพาะ “อักขระ” เท่านั้น

ตรงกลาง ด้านหน้า ผูกเป็น ยันต์ห้า และ ยันต์สาม ตรงกลาง คือ “ นะโมพุทธายะ ” และ “ มะอะอุ ” ผสมผสานในเส้นสายลายยันต์เดียวกันอย่างน่าสนใจ เพราะเดินยันต์แปลกไม่เหมือนใคร

ส่วนอักขระรอบขอบนอกเป็น “ พระเจ้าสิบหกพระองค์ ” เวียนจากซ้ายไปขวา อ่านได้ว่า “ นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง ” พลิกไป ด้านหลังเหรียญ มีอักขระตัวจมเป็นภาษาไทย อ่านได้ว่า “ พระครูธุระศักเกียรติคุณ ” อันเป็นนามสมณศักดิ์ของท่าน

เหรียญนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2457 เป็น เนื้อตะกั่วผสมดีบุก มีรูเจาะด้านบนไว้สำหรับแขวน การสร้างหลายท่านถกเถียงกันว่าเป็น “ เหรียญปั๊ม ” หรือ “ เหรียญหล่อ ” จะว่าหล่อก็ไม่เชิง เพราะเป็นเหรียญบาง หากจะว่า เหรียญปั๊ม ก็ไม่ใช่ เพราะร่องรอยอักขระค่อนข้างลึกเกินปั๊มได้

ในที่สุดสรุปกันได้ว่า เป็น เหรียญหล่อ แต่ช่างหล่อเป็นช่างที่ต้องยอมรับว่าฝีมือเยี่ยมมาก หล่อได้บางและคมชัด โดยเฉพาะอักษรตัวจมด้านหลัง ทำได้อย่างมีฝีมือ เพราะคมชัด จนหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็น เหรียญปั๊ม

โอกาสนี้ขอขอบคุณ “ เต้ พิษณุโลก ” ที่มอบภาพมาให้เป็น ปกลานโพธิ์ ฉบับนี้

เรื่องเขียนโดย สุธน ศรีหิรัญ บทบรรณาธิการ ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1164 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558

#ปกลานโพธิ์ #ฉบับนี้ #ปกหน้า #ลานโพธิ์ #เหรียญหางแมงป่อง #หลวงปู่ภู #วัดท่าฬ่อ #พิจิตร #เหรียญหล่อ #เหรียญปั๊ม #สุธน #ศรีหิรัญ #บทบรรณาธิการลานโพธิ์ #เต้พิษณุโลก #เต้ #พิษณุโลก

ที่อยู่

Bangkok

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:30
อังคาร 09:00 - 17:30
พุธ 09:00 - 17:30
พฤหัสบดี 09:00 - 17:30
ศุกร์ 09:00 - 17:30

เบอร์โทรศัพท์

+66933539855

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ลานโพธิ์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Our Story

Lanpo, the oldest amulet magazine in Thailand, presents news and articles concerned antique, small amulets, charms, and Buddha ‘s virtue codes of moral. Accordingly, Lanpo Magazine provides knowledge and deep analysis of both old and new amulets and suggests readers precisely the right path to find amulets. Moreover, amulet hobbyists perceive Lanpo magazine as the center of amulet exchange in Thailand, over 1,000 members participated in exchangeable activities. Lanpo Magazine has been launched over 42 years ago which is verified successfully as great quality and value magazine. As a result, “LANPO” is suitable definitely as “the greatest valuable amulet magazine.”