สำนักพิมพ์อะไรเอ่ย What Is It? Press

สำนักพิมพ์อะไรเอ่ย What Is It? Press สำนักพิมพ์ในเครือบริษัท ทริค ออฟ เดอะ เทรด จำกัด
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
https://opl.to/trickofthetrade

ข้อคิดจาก Surrounded by Energy VampiresวิธีเอาตัวรอกจากคนดูดพลังชีวิตEnergy Vampire ไม่ได้มีแต่ "คนเลว" บางทีอาจเป็นคนธร...
27/08/2025

ข้อคิดจาก Surrounded by Energy Vampires
วิธีเอาตัวรอกจากคนดูดพลังชีวิต
Energy Vampire ไม่ได้มีแต่ "คนเลว" บางทีอาจเป็นคนธรรมดาที่มีพฤติกรรมบางอย่างที่ “ดูดพลัง” โดยไม่รู้ตัว
เราเองก็อาจกลายเป็น Energy Vampire หากไม่รู้จักจัดการอารมณ์และพลังงานของตัวเอง
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นปัญหาใหญ่ บางแบบแค่น่ารำคาญ (whiner, know-it-all) แต่บางแบบเป็นพิษร้ายแรง (narcissist, bully)
สิ่งสำคัญคือการสังเกตและรู้ทันว่าใครหรืออะไรที่ทำให้เราหมดแรงใจ
การจัดการกับ Vampires แต่ละประเภท
1. Perfectionist ยึดติดความเป๊ะ จุกจิกเกินไป
วิธีรับมือ: อย่าไปเล่นตามเกมความเป๊ะ ให้โฟกัสภาพใหญ่ ไม่ติดในรายละเอียดเล็กๆ
2. Drama Queen สร้างดราม่า เรียกร้องความสนใจ
วิธีรับมือ: สนุกได้แต่ต้องตั้งระยะห่างทางอารมณ์ ไม่จมไปกับดราม่าของเขา พบได้เยอะสุดในประเทศไทย 555
3. Bully ใช้อำนาจ ข่มคนอื่น ก้าวร้าว
วิธีรับมือ: เจอคนพวกนี้ เราต้องปกป้องตนเอง ตั้งขอบเขต และถามตัวเองว่าสิ่งแวดล้อมนั้น คุ้มค่าที่จะอยู่ต่อไหม
4. Passive-Aggressive เงียบขรึม แต่ประชดประชันในใจ
วิธีรับมือ: อย่าตอบโต้ด้วยอารมณ์ ใช้ข้อเท็จจริงตรงๆ และกำหนดกรอบความรับผิดชอบให้ชัด
5. Eternal Victim เล่นบทเหยื่อ โทษโชคชะตาตลอด
วิธีรับมือ: อย่าแบกรับความทุกข์แทน ให้ความเห็นใจได้แต่ต้องไม่เสริมแรงความเป็นเหยื่อ
6. Narcissist หลงตัวเอง ต้องการคำชมไม่หยุด
วิธีรับมือ: ยากที่จะเปลี่ยนเขาได้ สิ่งที่ทำได้คือการตั้งขอบเขตชัดเจน และไม่ให้อีโก้เขามากำหนดความสุขของเรา
7. Whiner ขี้บ่น มองโลกแง่ลบเสมอ
วิธีรับมือ: ฟังได้แต่ต้องรู้จักปิดจังหวะสนทนา และเปลี่ยนไปสู่การแก้ปัญหา
8. Walking Disaster ซุ่มซ่าม สร้างปัญหาไม่สิ้นสุด
วิธีรับมือ: อย่าตามแก้ปัญหาให้ตลอดเวลา ต้องปล่อยให้เขารับผิดชอบผลการกระทำเอง

9. Know-It-All อวดรู้ ยัดเยียดคำแนะนำใส่คนอื่น
วิธีรับมือ: ปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อไม่ต้องการคำแนะนำ และเลือก ignore บางครั้ง
วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อต้องอยู่กับสภาวะโดนดูดพลัง
เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ แต่ควบคุมตัวเองได้ คือแกนหลักของการรับมือทั้งหมด
พลังงานคือทรัพยากรจำกัด เราต้องเลือกว่าจะใช้กับใครและอะไร
ขอบเขตคืออาวุธสำคัญ การพูดว่า “ไม่” คือการปกป้องพลังงานชีวิตของตัวเองที่ดีที่สุด
Self-Awareness คือเกราะกำบัง การรู้ว่าเราเป็น “สี” อะไรใน DISC เพื่อจะทำให้เข้าใจว่าเรามีช่องโหว่แบบไหน เพราะเราจะโดนใช้จุดอ่อนนี้
ไม่ต้องพยายามช่วยทุกคน บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดคือการเว้นระยะห่างหรือออกห่างไปเลย
การมองเห็นด้านดีของ DISC ทุกสี เข้าใจว่าทุกบุคลิกมีคุณค่า ถ้าอยู่ในที่ที่เหมาะสม จะช่วยลดความรู้สึกเป็น “เหยื่อพลัง” ได้
ข้อดีของหนังสือ Surrounded by Energy Vampires

1. อ่านง่าย สนุก
2. โครงสร้างชัดเจน แบ่ง Vampire เป็นหมวดๆ ทำให้จำง่ายและเห็นภาพชัด
3. เน้นการลงมือทำ มี self-checklists และคำแนะนำเชิงปฏิบัติ ใช้ได้ทันที
4. สะท้อนชีวิตจริง หลายตอนอ่านแล้วเจอว่า “นี่มันเจ้านาย/เพื่อน/ที่ทำงานชัดๆ”
5. ให้มุมมองสร้างสรรค์ ไม่ได้ชี้นิ้วโทษแต่สอนให้เรารู้ว่า “เราก็อาจเป็น vampire ได้” จึงทำให้หนังสือเป็นทั้งการป้องกันและการพัฒนาตัวเอง
6. เหมาะกับคนทุกระดับ ไม่ต้องมีพื้นฐานจิตวิทยามาก่อนก็เข้าใจได้
เป็นอีก 1 เล่มใน Surrounded by .... Series ที่ไม่ควรพลาด

https://s.shopee.co.th/8Kfe6kk0G2

Speed Reading Fasterคู่มืออ่านเร็วอ่านปกหน้า ปกหลัง สารบัญ จะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของเล่มมากขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านข้างใน...
25/08/2025

Speed Reading Faster
คู่มืออ่านเร็ว
อ่านปกหน้า ปกหลัง สารบัญ จะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของเล่มมากขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านข้างใน
หนังสือพัฒนาตนเอง เหมาะเป็นหนังสือเพื่อฝึกอ่านเร็วเพราะมีเนื้อหาให้เราค้นคว้าเตรียมตัวได้ก่อนอ่าน
รู้จักประสงค์การอ่านอย่างชัดเจน เช่นต้องการอ่านเพื่อหาข้อมูล และขะเอาข้อมูลนั้นไปทำอะไร ความชัดเจนจะช่วยให้สายตาของเราข้ามเนื้อหาที่ไม่ตรงกับที่ต้องการได้มากขึ้น
ถ้าไม่รู้ว่าจุดประสงค์คืออะไร ให้นึกว่า ถ้าต้องอธิบายให้คนอื่นฟังเกี่ยวกับเนื้อหาในเล่ม 5-6 ข้อ จะพูดเรื่องอะไร
ถนอมและบริหารดวงตาเป็นระยะ
กล้าที่เร่งความเร็วในการอ่าน แล้วประเมินผลว่ายังได้ผลตามจุดประสงค์ไหม ถ้าได้ แปลว่าเราสามารถเพิ่มความเร็วในการอ่านได้อีก (เป็นการค่อยๆ ฝึกเร่งขึ้นทีละนิด)
สายตาโฟกัสช่วงกลางหน้า ใช้นิ้วหรือปาหหารนำสายตา และใช้หางตาชำเลืองกวาดไปอ่านซ้าย-ขวา จะช่วยให้อ่านเร็วขึ้นได้มาก
หนังสือที่ดีคือหนังสือที่มีรอยขีด จดบันทึก ทำเครื่องหมายเพื่อช่วยเตือนความจำให้เราเมื่อกลับมาย้อนอ่านใหม่อีกครั้ง
ไม่จำเป็นต้องได้เนื้อหาทั้ง 100% ของเล่ม แค่อ่านเนื้อหา 80% ก็เพียงพอแล้ว มันจะช่วยให้เรารับข้อมูลสูงสุดด้วยเวลาน้อยที่สุด
20 นาที คือเวลาการอ่านที่ผู้ใหญ่สามารถรักษาระดับสมาธิได้สูงที่สุด
ขอให้ทุกคนมีความสุขและสนุกกับการอ่านหนังสือ



คู่มืออ่านไว
ฝึกวันนี้ ประหยัดเวลอ่านหนังสือได้ 10 ปี https://s.shopee.co.th/9AEi8dLZyi

ทำไม USJ ถึงทำรถไฟเหาะวิ่งถอยหลังคุณอาจไม่เคยรู้ว่า 8ครั้งนึง สวนสนุก Universal Studio Japan เคยขาดทุนหนักจนเกือบปิดตัวม...
05/08/2025

ทำไม USJ ถึงทำรถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง
คุณอาจไม่เคยรู้ว่า 8ครั้งนึง สวนสนุก Universal Studio Japan เคยขาดทุนหนักจนเกือบปิดตัวมาแล้ว
USJ ไม่ได้รอดได้เพราะโชคดี แต่เพราะเข้าใจการ turnaround ธุรกิจผ่านความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานของตัวเลขการเงิน
และนี่คือบทสรุปจากหนังสือ
ทำไม USJ ถึงทำรถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง

1. ไอเดียดีไม่ได้มาจากพรสวรรค์ แต่มาจาก “ความดื้อ”
ใครก็คิดได้ แต่มีไม่กี่คนที่ “ไม่ยอมเลิกคิด”
เราต้องดื้อกับมันจนกว่าจะได้สิ่งที่ใช่ช
2. การคิดต้องมีกรอบ
กรอบไม่ได้จำกัดเรา แต่ กรอบ “ช่วยให้เราไม่หลงทาง”
คิดอะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่อยู่ในกรอบธุรกิจ = ใช้ไม่ได้
3. ฝันให้ไกลไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าเลขไม่ลงตัว
เราคิดได้หมดแหละ แต่ต้อง “เป็นไปได้ในทางตัวเลข"
4. ไม่มีงบ ไม่ใช่ข้อเสีย ข้อจำกัด คือแรงบีบให้ “คิดเป็น”
เพราะคนที่รอดจริง คือคนที่ “สร้างสิ่งยิ่งใหญ่จากศูนย์”
5. ยิ่งอิน ยิ่งเจอไอเดีย
คนที่คิดออก คือคนที่ไม่ยอมวางหัวข้อนั้น
“การหมกมุ่น” คือเชื้อเพลิงของความคิดสร้างสรรค์
6. อย่ารอไอเดียใหม่ ถ้ายังใช้ของเก่าไม่เป็น
โลกนี้เต็มไปด้วยของดี แต่คนที่ดึงมาใช้ให้โดนใจลูกค้าได้ = คนที่ชนะ
7. ทำได้แค่คิด = ไม่รอด
โลกมีคนคิดไอเดียเยอะไปหมด
แต่คนที่รู้วิธีทำให้มันเกิด คือของจริง
8. ไอเดียใหม่ ถ้าอธิบายไม่รู้เรื่อง = พังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
ต้องสื่อสารให้เข้าใจ พูดให้ทีมเห็นภาพ
และพูดชัดจน “ไม่มีใครกล้าสงสัยอีก”
9. ระหว่างทางไปความสำเร็จ มันจะมีวันที่อยากยอมแพ้
แต่คุณต้องมี “แผนสำรองที่ยังทำเงินได้”
เพื่อให้ไปถึงวันเปิดตัวไอเดียใหญ่
10. อยากอยู่รอด ต้องชนะให้ได้ทีละนิด
ธุรกิจเหมือนว่ายน้ำในน้ำวน หยุดตีมือเมื่อไหร่ = จม
11. คิดไม่ออก ก็ไปดูคนอื่นที่ทำสำเร็จ
แล้วเอากลับมาปรับให้เข้ากับเรา
ไม่ต้องอาย ถ้ามัน “ทำให้ลูกค้าร้องว้าว”
12. รถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง ไม่ใช่เพราะอยากแปลก
แต่เพราะแปลกแล้วขายได้
คิดนอกกรอบ ต้องรู้ว่าคนจะ “หยุดดู” ตอนไหน
13. รายละเอียดเล็ก ๆ ทำให้คนพูดถึง
แสงที่กระทบปราสาทไม่มีใครคิด แต่ลูกค้าเห็นแล้วอินโดยไม่รู้ตัว
14. ธุรกิจที่ดี ต้องสวยทั้งกลางวันและกลางคืน
กลางวันขายได้ กลางคืนต้องขายดีกว่า
ประทับใจร้าน Online แค่ไหน มาเจอร้านนอกจก ต้องทำให้หลงรัก
คิดให้ลึก คิดให้ครบ
15. อยากได้ของจริง ต้องใช้ “คนรู้จริง”
อยากให้โลกเชื่อว่าคุณคือ Harry Potter ก็ต้องใช้ทีมหนัง Harry Potter มาสร้าง อย่าจ้างคนที่ไม่น่าเชื่อถือ มาทำในสิ่งที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
16. ธุรกิจบางจังหวะต้อง All-in เดิมพันทั้งหมดที่มี
USJ ทุ่ม 40% ของรายได้ทั้งปี เพราะรู้ว่า “ไม่ทำ = เจ๊งแน่”
17. ก่อนสร้างอะไร ให้ไปดูของจริง ไม่ต้องเดา
ไปเห็น ไปจับ ไปสัมผัส แล้วกลับมาออกแบบใหม่ในแบบที่เราเป็น
18. ก๊อบได้ แต่ต้องกล้าดัด
ของดีเมืองนอก เอามาใช้ตรง ๆ ไม่ได้ ต้องรู้จักปรุงให้ตรงจริต
19. ไอเดียดีแค่ไหน ถ้าคนข้างตัวไม่เชื่อ = ไม่มีวันเกิด
ทีมต้องเชื่อก่อน ลูกค้าจะเชื่อตามทีหลัง
20. ถ้าอยากให้ลูกค้า “อิน” ต้องให้เขารู้ว่าเราตั้งใจ
เบื้องหลังของทุกเครื่องเล่นใน USJ มีที่มา และลูกค้ารับรู้ได้
ธุรกิจที่ทำด้วยใจ คนจะรู้สึกได้แม้ไม่พูด
อ่านแล้วจะสนุกกับการไปเที่ยว USJ มากขึ้น

6.6 on Sale
05/06/2025

6.6 on Sale

"หลังฉากความสำเร็จ"ความสำเร็จที่เห็นเบื้องหน้า มี "หลังฉาก" ที่เต็มไปด้วยความกลัว ความผิดพลาด และความไม่แน่นอนไม่มีใครไม...
27/04/2025

"หลังฉากความสำเร็จ"

ความสำเร็จที่เห็นเบื้องหน้า มี "หลังฉาก" ที่เต็มไปด้วยความกลัว ความผิดพลาด และความไม่แน่นอน

ไม่มีใครไม่กลัวความเสี่ยง แต่ทุกคนเลือกเดินหน้าต่อแม้จะกลัว

ภาพความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน

"สูตรสำเร็จ" แบบตายตัวไม่มีจริง มีแต่เส้นทางและบทเรียนที่แต่ละคนต้องเรียนรู้เอง

ความล้มเหลวและอุปสรรคคือเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ เช่นเดียวกับการปั่นจักรยานครั้งแรกที่ต้องล้มก่อนจึงจะขี่ได้

16 ผู้นำจากแพลตฟอร์ม "คาริเบอร์" มีเรื่องราวเฉพาะตัว ที่พิสูจน์ว่าความสำเร็จไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ

แม้จะขี้กลัว เรียนไม่จบ หรือเคยทำผิดพลาดจนเสียคน ก็ยังกลับมาสร้างเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ได้

ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องดูเหมือนในหนังหรือโฆษณา เพราะของจริงคือการเอาชนะตัวเองในแต่ละวัน

การล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และเติบโต เช่นเดียวกับการเริ่มต้นเปิดร้านขายของครั้งแรกที่อาจขาดทุนก่อนกำไร

ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไร สำคัญที่คุณมองตัวเองอย่างไร

คุณมีสิทธิ์สร้างความสำเร็จในแบบของตัวเอง ไม่ต้องเหมือนใคร

เรื่องราวของคนธรรมดาที่ไม่ยอมแพ้ คือแรงบันดาลใจที่แท้จริงในยุคนี้

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

สนใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่
Shopee : https://s.shopee.co.th/5fbjRsTPz5

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #หลังฉากความสำเร็จ #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #พัฒนาตนเองอยู่เสมอ #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

“On Empathy”Empathy คือทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อชีวิตทุกด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่รวมถึงการทำงาน การสื่อสา...
24/04/2025

“On Empathy”

Empathy คือทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อชีวิตทุกด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่รวมถึงการทำงาน การสื่อสาร และการใช้ชีวิตในสังคม

หลายคนรู้จักคำว่า "Empathy" แต่ยังไม่เข้าใจความหมายอย่างแท้จริง

Empathy ไม่ใช่แค่การ “ใส่ใจ” หรือ “สงสาร” แต่คือการเข้าไปอยู่ในมุมมองของคนอื่นโดยไม่ตัดสิน

เมื่อเราเห็นคนร้องไห้ แล้วไม่รู้จะทำยังไง นั่นแปลว่าเรายังพัฒนา Empathy ได้อีก

Empathy ช่วยให้เราไม่มองโลกผ่านมุมตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่เปิดใจเข้าใจคนอื่น

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การฟังเพื่อนระบายโดยไม่รีบแนะนำหรือแก้ปัญหา คือการใช้ Empathy อย่างลึกซึ้ง

Empathy ไม่ได้หมายถึงการเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่อีกฝ่ายรู้สึก แต่คือการ "เข้าใจ" ความรู้สึกนั้น

การทำงานร่วมกับคนอื่นจะราบรื่นขึ้น ถ้าเรามี Empathy เช่น หัวหน้าที่ฟังลูกน้องอย่างตั้งใจ

แม้แต่การให้ฟีดแบ็กงาน หากทำด้วย Empathy ก็จะช่วยลดความตึงเครียดและเพิ่มความร่วมมือ

Empathy ไม่ใช่สิ่งที่มีมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นทักษะที่ฝึกได้ด้วยความตั้งใจ

การหยุดฟังอย่างลึกซึ้ง คือจุดเริ่มต้นของการมี Empathy

ในโลกที่เราทุกคนมี "โลกส่วนตัว" การมี Empathy ช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น

ความเข้าใจที่เกิดจาก Empathy เปรียบเสมือนของขวัญที่ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีความสุข

Empathy ช่วยให้เราเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี ไม่ใช่แค่ในความสัมพันธ์ แต่รวมถึงในทุกสถานการณ์ชีวิต

หากเราฝึก Empathy จนเป็นนิสัย เราจะเปลี่ยนจากแค่ “อยู่ร่วม” เป็น “อยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจ”

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

สนใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่
Shopee : https://s.shopee.co.th/9zkdz2XJSO
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.EoaVy?cc

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #พัฒนาตนเองอยู่เสมอ #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

“คนชนะ ทำแล้วแก้ คนแพ้มัวแต่คิด ไม่ได้ทำ” หนังสือเล่มนี้จะสอนเทคนิค "ทำไปก่อนเดี๋ยวดีเอง"เน้น “ลงมือทำ” มากกว่าคิดเยอะคน...
21/04/2025

“คนชนะ ทำแล้วแก้ คนแพ้มัวแต่คิด ไม่ได้ทำ”

หนังสือเล่มนี้จะสอนเทคนิค "ทำไปก่อนเดี๋ยวดีเอง"

เน้น “ลงมือทำ” มากกว่าคิดเยอะ
คนจำนวนมากติดกับดักของการวางแผนจนไม่ได้เริ่ม เช่น คิดจะเริ่มธุรกิจแต่มัวแต่หาข้อมูลจนหมดแรง

แนวคิด Output สำคัญที่สุด
อย่าหมกมุ่นอยู่กับแค่การเรียนรู้ แต่ให้โฟกัสที่การสร้างผลงาน เช่น เขียนบล็อก แชร์ความรู้ ลงคลิป YouTube

“ทำไปก่อน เดี๋ยวดีเอง” คือหัวใจของความสำเร็จ
ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง ถ้ารอพร้อมจะไม่มีวันเริ่ม

ใช้เวลาให้คุ้มค่าด้วยการลงมือทันที
เปลี่ยนจาก “รอให้ว่าง” เป็น “ทำเลยตอนนี้” แม้วันละ 10 นาทีก็มีพลังมหาศาล

ความล้มเหลวคือบทเรียน ไม่ใช่ความผิดพลาด
ผู้เขียนเคยสอบไม่ติดมหาวิทยาลัย 2 ปี แต่กลับใช้เวลานั้นสร้างแนวคิดเปลี่ยนชีวิต

ลงมือแล้วค่อยปรับ แทนที่จะรอให้ทุกอย่างเป๊ะก่อน
เหมือนเวลาเราฝึกพูดหน้ากระจก ยิ่งทำ ยิ่งกล้า ยิ่งดีขึ้น

เน้นปริมาณ เพื่อพัฒนาคุณภาพ
ผลงานมากขึ้น จะช่วยให้เราเก่งขึ้นเร็วกว่าแค่คิดว่าจะทำอะไรให้ดีเพียงชิ้นเดียว

เชื่อมโยงกับชีวิตจริง
เทคนิคในเล่มใช้ได้กับทุกด้าน ทั้งเรียน ทำงาน หาเงิน หรือสร้างความสัมพันธ์

สร้างโอกาสจากการลงมือ ไม่ใช่จากการรอ ทุกการทำอะไรใหม่คือการเปิดประตูสู่โลกใหม่ เช่น สมัครงานแม้ยังไม่มั่นใจก็อาจได้งานดีเกินคาด

คิดแบบนักสร้าง มากกว่านักวิจารณ์
เปลี่ยนจากการจับผิดเป็นลงมือสร้าง เช่น แทนที่จะวิจารณ์คลิปคนอื่น ลองอัดของตัวเองดู

ทุกคนเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ากล้าก้าวแรก
สิ่งสำคัญไม่ใช่ความรู้ แต่คือการลงมือสร้างผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นจริง

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

สนใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่
Shopee : https://s.shopee.co.th/30aoal3BSt
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.EQRvz?cc

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #คนชนะทำแล้วแก้คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #พัฒนาตนเองอยู่เสมอ #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

เลิกแบก เลิกคาดหวังสร้างพลังให้ตัวเอง1. ยิ่งเราพยายามควบคุมทุกอย่าง ชีวิตยิ่งเครียด บางสิ่งควบคุมไม่ได้ และเราไม่จำเป็นต...
17/04/2025

เลิกแบก เลิกคาดหวัง
สร้างพลังให้ตัวเอง
1. ยิ่งเราพยายามควบคุมทุกอย่าง ชีวิตยิ่งเครียด บางสิ่งควบคุมไม่ได้ และเราไม่จำเป็นต้องควบคุม
2. คนอื่นจะเป็นแบบที่เขาเป็น ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน เราเปลี่ยนใครไม่ได้ แต่เราเลือกจะ “ไม่แบก” ได้
3. หยุดพยายามจัดการคนอื่น แล้วเราจะได้พลังของตัวเองคืนมา
4. เมื่อเราปล่อยเขาได้จริงๆ เราจะเริ่ม “เจอเรา” ที่แท้จริง
5. ความสุขของเรา ขึ้นอยู่กับเราเอง ไม่ใช่พฤติกรรม ความคิดเห็น หรืออารมณ์ของคนอื่น
6. อย่าเสียพลังให้กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เพราะมันไม่คุ้มกับใจที่เราต้องแลก
7. การยอมรับว่าเขา “ไม่เปลี่ยน” คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง
8. การเงียบ การไม่ตอบโต้ การถอยออกมา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือการปกป้องใจเราเอง
9. ไม่ใช่ทุกคนต้องอยู่ต่อในชีวิตเรา บางคนแค่ผ่านมาเพื่อสอนให้เราปล่อยวาง
10. ถ้าเขาอยากหายไป ก็ให้เขาหายไป เราไม่ต้องไล่ตามใครที่ไม่เห็นค่าเรา
หนังสือเปลี่ยนชีวิตของปี 2025
The Let Them Theory
https://s.shopee.co.th/2LKgmkHOSJ

เลิกแบก เลิกคาดหวัง
สร้างพลังให้ตัวเอง
1. ยิ่งเราพยายามควบคุมทุกอย่าง ชีวิตยิ่งเครียด บางสิ่งควบคุมไม่ได้ และเราไม่จำเป็นต้องควบคุม
2. คนอื่นจะเป็นแบบที่เขาเป็น ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน เราเปลี่ยนใครไม่ได้ แต่เราเลือกจะ “ไม่แบก” ได้
3. หยุดพยายามจัดการคนอื่น แล้วเราจะได้พลังของตัวเองคืนมา
4. เมื่อเราปล่อยเขาได้จริงๆ เราจะเริ่ม “เจอเรา” ที่แท้จริง
5. ความสุขของเรา ขึ้นอยู่กับเราเอง ไม่ใช่พฤติกรรม ความคิดเห็น หรืออารมณ์ของคนอื่น
6. อย่าเสียพลังให้กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เพราะมันไม่คุ้มกับใจที่เราต้องแลก
7. การยอมรับว่าเขา “ไม่เปลี่ยน” คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง
8. การเงียบ การไม่ตอบโต้ การถอยออกมา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือการปกป้องใจเราเอง
9. ไม่ใช่ทุกคนต้องอยู่ต่อในชีวิตเรา บางคนแค่ผ่านมาเพื่อสอนให้เราปล่อยวาง
10. ถ้าเขาอยากหายไป ก็ให้เขาหายไป เราไม่ต้องไล่ตามใครที่ไม่เห็นค่าเรา
11. การเลิกตามใจคนอื่น คือการกลับมาเคารพตัวเองของเรา
12. เราไม่จำเป็นต้องอธิบายตัวเองให้ทุกคนเข้าใจ คนที่เข้าใจไม่ต้องอธิบาย คนที่ไม่อยากเข้าใจ อธิบายแค่ไหนก็ไร้ค่า
13. อย่าเอาพลังของเราไปเถียงกับคนที่ไม่ต้องการจะฟัง
14. เราไม่ต้องชนะทุกการโต้เถียง และไม่จำเป็นต้องตอบสนองต่อทุกพลังลบที่ถาโถมมา
15. การถูกปฏิเสธไม่ใช่คำพิพากษา แต่มันคืออิสระของเรา
16. ถ้าใครไม่เห็นค่าเรา ก็ปล่อยให้เขาอยู่ในโลกของเขา แล้วเราก็อยู่ในโลกที่เราเลือก
17. การอยู่คนเดียว ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่มันคือช่วงเวลาที่เราจะได้พักใจ และกลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง
18. ความว่างที่เกิดจากการปล่อยเขา คือพื้นที่สำหรับการเริ่มต้นใหม่ของเรา
19. เมื่อเราหยุดคาดหวัง เราจะไม่ผิดหวัง เพราะความคาดหวังคือบ่อเกิดของความทุกข์
20. ชีวิตไม่ใช่การพยายามให้ทุกคนรักเรา แต่คือการที่เรารักตัวเองในแบบที่เราเป็น
หนังสือเปลี่ยนชีวิตของปี 2025
The Let Them Theory
https://s.shopee.co.th/2LKgmkHOSJ

อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไปชีวิตดีขึ้นได้ง่ายๆ แค่ทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญไปซะ!ข้าวของน้อย = เวลาเยอะขึ้นการลดของที่ไม่จำเป็น ช่วยใ...
17/04/2025

อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
ชีวิตดีขึ้นได้ง่ายๆ แค่ทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญไปซะ!

ข้าวของน้อย = เวลาเยอะขึ้น
การลดของที่ไม่จำเป็น ช่วยให้เราใช้เวลาน้อยลงกับการจัดเก็บ และมีเวลามากขึ้นในการทำสิ่งที่รัก เช่น อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย

ปล่อยของ = ได้เจอตัวเอง
เมื่อไม่ต้องสนใจสิ่งของ เราจะหันกลับมาฟังเสียงข้างใน เช่น ความฝัน ความชอบ หรือสิ่งที่หลงลืมไป

ไม่เปรียบเทียบ = ใจเป็นสุข
ของเยอะอาจเกิดจากความอยากมีเหมือนคนอื่น แต่เมื่อเรารู้จักพอใจ สิ่งของก็ไม่จำเป็นต้องมาก

ลดข้าวของ = ลดแรงกดดันทางสังคม
ไม่ต้องซื้อของใหม่ทุกเทศกาล ไม่ต้องอัพเดตเทรนด์ตลอดเวลา ใจก็โล่ง เบาสบาย

ของน้อยลง = สมาธิมากขึ้น
โต๊ะทำงานที่โล่งทำให้โฟกัสได้ดีขึ้น มีแรงจูงใจในการเริ่มต้นวันใหม่มากกว่าเดิม

ชีวิตเรียบง่าย = ประหยัดเงิน
เราใช้จ่ายน้อยลง และมีเงินไปลงทุนกับสิ่งที่มีคุณค่า เช่น ประสบการณ์ หรือสุขภาพ

ทิ้งของ = ได้พื้นที่ใจ
บ้านที่สะอาด โล่ง สบายตา ส่งผลต่อความรู้สึกภายในใจ เหมือนบ้านใน Pinterest ที่ใครๆ ก็อยากอยู่

ลดข้าวของ = ลดของเสีย
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเราไม่ซื้อของซ้ำ ไม่สร้างขยะโดยไม่จำเป็น

ของน้อยลง = สุขภาพดีขึ้น
เมื่อบ้านโล่ง ทำให้ลุกเดินง่ายขึ้น จัดบ้านก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง

ใช้ชีวิตแบบมินิมอล = สบายใจมากขึ้น
เราไม่ต้องคอยพะวงว่า “ของหายไหม” หรือ “ของอยู่ไหน”

ทิ้งของ = สัมพันธภาพดีขึ้น
เมื่อบ้านไม่รก คนในบ้านก็ไม่เหนื่อยใจ บรรยากาศก็ดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว

ของน้อย = น้ำหนักลด
การมีของกินจุกจิกน้อยลงในบ้าน ช่วยให้เราไม่กินเพลิน หรือเครียดแล้วหาของกิน

เลือกเก็บแต่สิ่งสำคัญ = ชีวิตมีคุณภาพขึ้น
แค่ทิ้งสิ่งที่ “ไม่ใช่เรา” ออกไป ก็เหลือแต่สิ่งที่เติมเต็มความสุขจริงๆ

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

สนใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่
Shopee : https://s.shopee.co.th/7AQHaZfMCO
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.E5mPe?cc

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #พัฒนาตนเองอยู่เสมอ #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

ที่...หัวมุมถนน(SUCCESS is just around the CORNER)ชีวิตคือการเดินทาง ที่เต็มไปด้วยหลากหลายเส้นทาง ทั้งราบรื่นและขรุขระ เ...
13/04/2025

ที่...หัวมุมถนน(SUCCESS is just around the CORNER)

ชีวิตคือการเดินทาง ที่เต็มไปด้วยหลากหลายเส้นทาง ทั้งราบรื่นและขรุขระ เช่นเดียวกับการขับรถที่ต้องเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ก่อนจะถึงจุดหมาย

ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล บางครั้งแค่หัวมุมถนนเท่านั้นเอง ขอแค่เรายังไม่หยุดเดินและกล้าที่จะเลี้ยวตามโอกาส

อุปสรรคคือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เราเติบโต เช่น การสอบตกอาจกลายเป็นโอกาสให้ค้นพบสิ่งที่รักจริงๆ

แรงบันดาลใจมีอยู่รอบตัว ทั้งจากหนังสือ คนที่เราพบ หรือเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน แค่เราต้องเปิดใจมองหา

วิธีคิดกำหนดเส้นทางชีวิต คนที่มองปัญหาเป็นบทเรียน ย่อมเดินต่อได้ไกลกว่า

การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา หนังสือเล่มนี้ชวนให้เราไม่กลัวการปรับตัว เพราะทุกยุคสมัยมีความหมายของมัน

ความพยายามไม่มีวันสูญเปล่า แม้ยังไม่ถึงเป้าหมาย แต่ทุกก้าวคือการสะสมพลัง เพื่อให้พร้อมในวันที่โอกาสมาถึง

การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ผู้เขียนรวบรวมบทเรียนจากหนังสือและงานวิจัยนับพัน เพื่อถ่ายทอดอย่างกลั่นกรองให้ผู้อ่านได้ง่ายขึ้น

แรงผลักดันที่แท้จริง มาจากข้างใน เมื่อเราเห็นความหมายของสิ่งที่ทำ เราจะมีพลังไม่รู้จบ เช่น คนที่อยากเปลี่ยนโลกมักเริ่มจากจุดเล็กๆ ในชีวิตตัวเอง

มุมถนนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนมีสิทธิ์จะเจอมุมที่ใช่ ขอแค่อย่าหยุดตามหา

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ที่หัวมุม #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #พัฒนาตนเองอยู่เสมอ #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

SEEK ชีวิตเติบโตทุกวัน เมื่อกล้าตั้งคำถามนอกกรอบ Scott Shigeoka BINGOหลายคนใช้ชีวิตวนลูป  ตื่นเช้า ทำงาน นอน—จนลืมความฝั...
10/04/2025

SEEK ชีวิตเติบโตทุกวัน เมื่อกล้าตั้ง
คำถามนอกกรอบ Scott Shigeoka BINGO

หลายคนใช้ชีวิตวนลูป ตื่นเช้า ทำงาน นอน—จนลืมความฝันที่เคยทำให้หัวใจเต้นแรง

ชีวิตประจำวันอาจทำให้เรากลายเป็น "นักแสดง" ที่เล่นบทเดิมซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัว

โลกนี้ยังมีเวทีอื่นให้เราค้นหาตัวตนแท้จริงและใช้ชีวิตในแบบที่ใจต้องการ

เสียงเล็กๆ ในใจที่อยาก “ออกเดินทาง” คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

การเดินทางครั้งสำคัญที่สุดคือการเดินทางกลับไปหาความฝันของตัวเอง

Scott Shigeoka เคยติดอยู่ในวังวนปัญหา ทั้งเหล้า หมดไฟ และงานที่ไร้เป้าหมาย

เขาค้นพบว่า “การตั้งคำถาม” และ “เปิดใจเรียนรู้” คือกุญแจปลดล็อกศักยภาพในตัวเรา

ความอยากรู้อยากเห็นไม่ใช่แค่ความสนุกชั่วคราว แต่มันคือพลังที่เปลี่ยนชีวิตได้

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ลองเส้นทางใหม่ระหว่างกลับบ้าน หรือชวนเพื่อนคุยเรื่องที่ไม่เคยกล้าถาม

การออกจากพื้นที่ปลอดภัยคือจุดเริ่มต้นของการค้นพบชีวิตที่มีความหมาย

Scott เลือกทิ้งความสบายเดิมๆ เพื่อเป็น “ผู้แสวงหา” และพบคำตอบที่ลึกซึ้งกว่า

การตั้งใจฟังตัวเอง ช่วยให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต

ทุกคนมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากจุดไหน

อย่ารอให้ชีวิตหมดไฟก่อนถึงจะเปลี่ยน เริ่มตั้งแต่วันนี้ยังไม่สาย

ชีวิตที่มีเป้าหมาย ความหมาย และแรงบันดาลใจ กำลังรอเราอยู่แค่ก้าวแรกเท่านั้น

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

แนะนำให้อ่าน
Shopee : https://s.shopee.co.th/9f7R8pfCuO
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.vA7wv?cc

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #รีวิวหนังสือ #การใช้ชีวิต #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง ีวิตเติบโตทุกวัน

หนังสือ ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่ (Love Life)เรียนรู้วิธีจัดการความกลัวและความเจ็บปวดไม่ว่าคุณจะเพิ่งอกหักหรือรู้สึกโดดเดี...
07/04/2025

หนังสือ ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่ (Love Life)

เรียนรู้วิธีจัดการความกลัวและความเจ็บปวด
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งอกหักหรือรู้สึกโดดเดี่ยว หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ และเราสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแรง เช่น การออกไปเดินเล่น พูดคุยกับเพื่อน หรือเขียนบันทึกความรู้สึกของตัวเอง

เยียวยาหัวใจด้วยวิธีที่ได้ผลจริง
การยอมรับความรู้สึกและให้เวลากับตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของการรักษาหัวใจที่ดีที่สุด เช่น เปลี่ยนเวลานั่งเศร้าให้กลายเป็นเวลาลองกิจกรรมใหม่ๆ

เข้าใจว่าทำไมเรามักดึงดูดคนที่ไม่ใช่ หนังสือชวนเราสำรวจตัวเองว่าความเชื่อเดิมๆ หรือความไม่มั่นคงในใจ อาจเป็นตัวดึงดูดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีโดยไม่รู้ตัว

รู้ทันสัญญาณอันตราย (Red Flags)
เช่น คนที่ไม่เคารพเวลาเรา พูดจาดูถูก หรือทำให้เราสงสัยตัวเองเสมอ ไม่ควรเพิกเฉยต่อสัญญาณเหล่านี้

ปรับทัศนคติเพื่อเปิดรับคนที่ใช่
เมื่อเราเชื่อว่าเราสมควรได้รับความรักดีๆ เราจะเริ่มมองเห็นและเปิดใจให้คนที่ให้เกียรติและเห็นคุณค่าในตัวเรา

เปลี่ยนการเดตผิวเผินให้ลึกซึ้งขึ้น
ด้วยการสื่อสารความต้องการอย่างตรงไปตรงมา เช่น ถ้าต้องการความสัมพันธ์จริงจัง ก็ควรบอกตั้งแต่ต้น ไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนี

สร้างความมั่นใจจากภายใน
ความรักที่ดีเริ่มต้นจากความรักตัวเอง การดูแลตัวเองดีทั้งกายและใจจะทำให้เรามีพลังดึงดูดความรักที่มีคุณภาพ

เสริมคุณค่าในตัวเองทุกวัน
ไม่ต้องรอให้ใครมาชมเรา ลองเริ่มวันด้วยการบอกตัวเองว่า “ฉันมีค่า และสมควรได้รับความรักดีๆ”

เปลี่ยนมุมมองต่อความรัก
ความรักไม่ใช่รางวัลจากใคร แต่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นได้เองผ่านความเข้าใจ การดูแล และการตั้งขอบเขตที่ดี

เข้าใจความสัมพันธ์แบบมีสติ
หนังสือชวนให้เรามองความสัมพันธ์ด้วยสติ ไม่ใช่อารมณ์ เช่น ถ้ารู้สึกไม่สบายใจบ่อยๆ ในความสัมพันธ์ ควรหยุดและถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่กลัวการอยู่คนเดียว
ความโดดเดี่ยวไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นช่วงเวลาที่เราได้รู้จักตัวเองลึกขึ้น และเตรียมใจให้พร้อมสำหรับความรักครั้งใหม่

สร้างสายสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างมีคุณภาพ
ไม่จำกัดแค่ความรักแบบคู่รัก แต่ยังรวมถึงเพื่อน ครอบครัว และที่สำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์กับตัวเอง

หนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วอิน อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

สนใจสั่งซื้อหนังสือ
Shopee : https://s.shopee.co.th/1g54tAqiKE
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.vvOuA?cc

#หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #รีวิวหนังสือ #ศิลปะการโอบรับรักที่ใช่LoveLife #การใช้ชีวิต #จิตวิทยา #พัฒนาตนเอง

ที่อยู่

12/4 Rama 9
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักพิมพ์อะไรเอ่ย What Is It? Pressผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สำนักพิมพ์อะไรเอ่ย What Is It? Press:

แชร์