ข่าวชัดประเด็นจริง

18/07/2025

ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สกัดกั้นยึดยาบ้า 4 ล้านเม็ด ชายแดน อ.เวียงแก่นเชียงราย

เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 18 ก.ค.68 นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย นำกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เวียงแก่น ตำรวจน้ำ และทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “ Seal Stop Safe” โดยได้กระจายกำลังออกปฏิบัติการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามตามเส้นทางยุทธศาสตร์ตามแนวชายแนวลำน้ำโขงหลายจุด ขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณถนนบ้านเจดีย์ทอง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย-สปป.ลาว ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวารา สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขับมาตามถนนเส้นดังกล่าวด้วยความเร็วมุ่งหน้าเข้าสู่ชั้นในของประเทศอย่างมีพิรุธ
เจ้าหน้ที่จึงได้ส่งสัญาญาณให้รถหยุดเพื่อขออนุญาตตรวจสอบแต่พบว่ารถคันดันกล่าวเมื่อใกล้จะถึงจุดสกัดประมาณ 80-100 เมตร ได้หยุดรถและขับหลบหนีทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เวียงแก่น นำกำลังออกไล่ติดตามไปและจนมาพบรถยนต์ต้องสงสัยเสียหลักหน้ารถซุกอยู่ในป่าข้างทาง และไม่พบผู้ขับขี่ที่อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบที่กระบะหลังรถพบบรรทุกกระสอบฟางสีรุ้ง จำนวน 20 กระสอบ ภายในกรอบฟางแอบซุกซ่อน ยาบ้านับรวมได้ประมาณ 4,000,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงได้นำยาบ้าของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น เพื่อขยายผลหากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดที่สามารถหลบหนีไปได้กันต่อไป...
////////////////////////////////////////
ภาพข่าว - ข่าวพันธมิตรเชียงราย
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน ///
#ข่าวชัดประเด็นจริง #สกัดกั้นยึดยาบ้า #ทหารพรานฉกทพ31 #อาสารักษาดินแดน #เส้นทางยุทธศาสตร์

18/07/2025

พังงา-ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาบุกตรวจค้นจับกุมแหล่งมั่วสุมในอำเภอท้ายเหมืองได้ทั้งผู้ขายและผู้เสพหลายราย

วันที่ 17ก.ค. 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายศุภสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอท้ายเหมือง และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา น.ส.ปัทมา เพ็ชรแดง ปลัดอำเภอท้ายเหมือง น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนัน ต.ลำแก่น นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง และฝ่ายปกครองตำบลลำแก่น ออกดำเนินการปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และ ผวจ.พังงา
ด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่าในพื้นที่ ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมามัวซุ่มเสพสารเสพติดกันจนทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบข้างเกิดความหวาดกลัว จึงขอให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาเข้าดำเนินการตรวจสอบจำนวน 3 จุด ดังนี้
เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 79/64 ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ภายในบ้านพบชาย 3 คนกำลังนั่งเสพสารเสพติดกันอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าทำการแสดงตัวและสามารถจับกุมตัวนายสมคิด (สงวนนามสกุล) หรือยา อายุ 44 ปี ชาว จ.พังงา และ นายวัฒนา (สงวนนามสกุล) หรือ ป่าง อายุ 32 ปี ชาว ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 11 เม็ด กัญชา น้ำหนักรวมถุง 1 ขีดและอุปกรณ์การเสพ จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 4 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ชายอีกหนึ่งคนที่พบในบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาทำประวัติและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป
จากนั้นได้สอบถามขยายผลจากผู้ถูกจับกุมข้างต้น ทราบว่าซื้อยาบ้ามาจากชายคนหนึ่งทราบว่ามีชื่อเล่นคือ บอย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดต่อสายลับให้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายบอย ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จนสามารถจับกุมตัวนายธีรยุทธ์ (สงวนนามสกุล) หรือบอย อายุ29 ปี ชาว ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 เม็ด ธนบัตรล่อซื้อจำนวน 1 ฉบับ แจ้งข้อกล่าวหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบชายและหญิงอีก1 คู่ ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะของทั้งคู่มีผลเป็นบวก จึงนำตัวมาทำประวัติและเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามระบบ บสต. ต่อไป
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบขนำสังกะสีหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบว่าภายในขนำสังกะสีหลังดังกล่าว พบนายบุญส่ง (สงวนนามสกุล) หรือ โต้ง อายุ 32 ปี ชาว ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนครึ่งเม็ดที่ถูกลนด้วยไฟติดอยู่กับฟอยล์ จำนวน 1 ชิ้น กระดาษฟอยล์ที่ยังมีคราบของสารเสพติดอยู่ จำนวน 3 แผ่นและหลอดพลาสติกใช้สำหรับเสพสารเสพติด จำนวน ๑ ชิ้น แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยผู้ถูกจับกุมทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมด พร้อมของกลางพนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมืองดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
อโนทัย งานดี/พังงา/081-0836530
#ข่าวชัดประเด็นจริง #วัยรุ่นมั่วสุมเสพสารเสพติด #ยาเสพติดให้โทษประเภทที่1 #เสพสารเสพติด #เมทแอมเฟตามีน #ยาบ้า

18/07/2025

ปทุมธานี รวบอดีตหนุ่มแมสเซนเจอร์ย่องเบากลางดึกลักมือถือสารภาพทำมากว่า20ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 68 ที่ห้องสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.(สส) พ.ต.ต.อิทธิพล พุทธรักษาสว.สส. พร้อมกำลังร่วมกันแถลงผลการจับกุม นาย มนัสสุข เมืองน้อย "ตั๋ม" อายุ 41 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 434 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขนกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาก่อเหตุ"ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน" พร้อมของการโทรศัพท์มือถือจำนวนหลายเครื่อง นาฬิกา กระเป๋าสะพาย โดยมีผู้เสียหายนับ10ราย เดินทางมาดูของกลาง
พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก. ฯ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. 68 ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ได้มีการ แจ้งความไว้ว่า มีคนร้ายย่องเบาเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.สส. ฯ ได้พยายามแกะรอยเพื่อติดตามตัวคนร้ายได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายมนัสสุข หรือ"ตั๋ม" เมืองน้อ
ต่อจากนั้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ค. 68 ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามสัญญาณ GPS ของผู้เสียหายรายหนึ่งไปอยู่ที่ห้องพักไม่มีชื่อหมู่ 2 ต บางพูน อ เมือง จ.ปทุมธานี และได้พบกับนายมนัสสุข ฯ ซึ่งมีรูปพรรณและภาพตรงกับในกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและทำการตรวจค้นภายในห้องพบโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหลายเครื่อง พร้อมทรัพย์สินอื่น ๆ จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผล
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเมื่อได้ก่อเหตุตระเวนย่องเบาเข้าไปตามห้องพักที่แฟลตปลาทอง โดยทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เมื่อได้ทรัพย์ที่ลักมาก็จะนำไปขายหรือจำนำ เพื่อนำเงินไปเสพยาบ้า
ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้ เคยเป็นอดีต Messenger และเมื่อออกจากงาน ก็ได้มาตระเวนย่องเบา โดยอาศัยช่วงกลางดึกหลังเที่ยงคืน จะเดินไปตามห้องต่าง ๆ แล้วจะใช้วิธีการด้วยการเปิดประตูห้องไหนเปิดได้ก็จะเข้าไปลักทรัพย์สินเน้นเฉพาะมือถือและเงินสด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับในข้อหาเสพยา เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วก็จะนำไป ขายเพื่อนำมาเสพยาดังกล่าว
ส่วนทางด้านกลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ได้ล็อคประตูเนื่องจากไม่เคยมีเหตุการณ์ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุดังกล่าวและอีกอย่าง ประตูแต่ละห้องนั้น ส่วนใหญ่จ ชำรุด จึงเป็นเหตุให้ง่ายต่อที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ แต่ถือว่ายังโชคดีที่คนร้ายเข้ามาแล้วไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย หรือมีการต่อสู้ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม 0816235473
#ข่าวชัดประเด็นจริง #รวบอดีตหนุ่มแมสเซนเจอร์ #ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน

18/07/2025

ปิดฉาก 12 ปี! CIB รวบครบแก๊ง "พันศักดิ์ นักฆ่าหน้าหยก" คดีฆ่าเผา "เสี่ยอ้วน โรงเกลือ" เจ้าของฉายาเทพเจ้า 2 แผ่นดิน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ปิดคดีดังที่ค้างคามากว่า 12 ปี! ตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือในแก๊ง "พันศักดิ์ นักฆ่าหน้าหยก" ได้ครบทุกคน หลังร่วมกันก่อเหตุสะเทือนขวัญ ฆ่าเผา "นายชัยชนะ หรือเสี่ยอ้วน ศรีชัยวงษ์" อดีตเจ้าของฉายา "เทพเจ้า 2 แผ่นดิน" เมื่อปี 2556
ปฏิบัติการตามล่าข้ามทศวรรษ

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และคณะผู้บังคับบัญชา ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) รวมถึงรอง ผบก.ป. และผู้กำกับการ (ผกก.5 บก.ป.) ทีมสืบสวนนำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป. ได้แกะรอยผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 (ตามเวลาปัจจุบันที่สร้างข้อความนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ใช้ร้องขอ) สามารถติดตามจับกุม นายอำนาจ หรือบัวขาว อายุ 51 ปี ได้บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
นายอำนาจฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 275/2556 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ในข้อหา "ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพฯ, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวฯ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนฯ และโดยใช้ยานพาหนะฯ"

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 นายพันศักดิ์ฯ กับพวกรวม 7 คน ได้ใช้รถยนต์ 2 คัน คือรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดสีเทา ตอนเดียว มีลูกกรงสแตนเลสด้านหลัง พยายามติดตามจับตัวนายชัยชนะฯ ในซอยที่เกิดเหตุ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากนายชัยชนะฯ ขับรถออกไปก่อน

จากการสืบสวนพบว่า นายพันศักดิ์ฯ กับพวก ได้ร่วมกันนำตัวนายชัยชนะฯ เข้าไปในบ้านพัก และคาดว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายชัยชนะฯ จนเสียชีวิต จากนั้นได้นำร่างนายชัยชนะฯ ขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ โดยมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ขับตามไปที่บ้านของนายนิคมฯ
เมื่อไปถึงบ้านนายนิคมฯ ซึ่งได้เตรียมยางรถยนต์ไว้ 3 เส้น นายชมฯ, นายกฤษฎาศฯ และนายน้อยฯ ได้มาขึ้นรถยนต์ของนายนิคมฯ จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางต่อไปยังบ้านของนายสมหมายฯ โดยนายสมหมายฯ ได้ขับรถนำไปยังสวนยูคาลิปตัส บ้านคลองมะเคือ ซึ่งเป็นจุดที่วางแผนเผาร่างนายชัยชนะฯ
เมื่อไปถึงจุดเผา นายพันศักดิ์ฯ กับพวกรวม 9 คน ได้ร่วมกันจุดไฟเผาร่างของนายชัยชนะฯ จนเสร็จสิ้น แล้วจึงแยกย้ายกันกลับ โดยนายสมหมายฯ แยกกลับไปต่างหาก ส่วนนายพันศักดิ์ฯ กับพวก ก็ขับรถแยกย้ายกลับบ้านจากบ้านนายนิคมฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งเบาะแสว่านายอำนาจ หรือบัวขาวฯ ผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และพบนายอำนาจฯ ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่า จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับและอ่านข้อกล่าวหาให้ฟัง นายอำนาจฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ข่าวชัดประเด็นจริง #รวบครบแก๊งพันศักดิ์นักฆ่าหน้าหยก #คดีฆ่าเผา #เสี่ยอ้วนโรงเกลือ #เจ้าของฉายาเทพเจ้า2แผ่นดิน #แก๊งพันศักดิ์ #ตำรวจสอบสวนกลาง #กองบังคับการปราบปราม

18/07/2025

“บ่อนกลางกรุงท้าทายกฎหมาย! ตำรวจบุกทลายกลางดึก นักพนัน 12 รายเผ่นไม่ทัน”

นครบาล 9 ระดมชุดสืบสวน บก.น.9 บุกจับบ่อนโปถั่วกลางซอยเพชรเกษม 63 ยึดของกลางเพียบ! นักพนัน 12 รายถูกจับคาวง ขณะเจ้ามือไหวตัวทันเผ่นหนี ตำรวจเร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บก.น.9 (ศปลป.บก.น.9) นำโดย พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมกำลังชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 บูรณาการกำลังบุกเข้าตรวจค้นโรงกลึงไม่มีเลขที่ ภายในซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน “โปถั่ว” หรือ “กำถั่ว” เล่นพนันกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

เมื่อเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มนักพนันกำลังล้อมวงเล่นการพนันกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมยึดของกลางประกอบด้วย
ไม้เขี่ย, ลูกเต๋า, ชิปหลากสี, ผ้าใบ, ไพ่, ปากกา, เครื่องคิดเลข, วิทยุสื่อสาร และตะกร้าใส่เงิน รวมทั้งผ้ารองถ้วยไฮโล

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้จำนวน 12 ราย ประกอบด้วยชายหญิงหลากหลายอายุ ตั้งแต่ 33 ถึง 60 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตบางแค หนองแขม และจังหวัดใกล้เคียง โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมเล่นการพนันจริง ขณะที่เจ้ามือสามารถหลบหนีไปได้ในช่วงชุลมุน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า
“ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นการพนัน (โปถั่วหรือกำถั่ว) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ข่าวชัดประเด็นจริง #บ่อนกลางกรุง #บุกจับบ่อนโปถั่วกลางซอยเพชรเกษม63 #โปถั่วหรือกำถั่ว

18/07/2025

สตม.ปิดเกมส์ อาตี๋หนีคดีปลอมบัตรซ่อนตัวกลางกรุง ค้นรถพบใบขับขี่ไทยชื่อจีนหลายใบ จ่อขยายผล

จากกรณีที่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุขและ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง เช่น หลบหนีเข้าเมือง อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ overstay และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2568 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมคนร้ายสำคัญต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ลักลอบหนีหมายจับจากประเทศจีน เข้ามากบดานในไทย และรับทำบัตรประชาชนปลอม หรือหนังสือเดินทางปลอม ให้กับคนจีนที่อยู่ในประเทศไทย โดยหลังทราบข้อมูล พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำโดย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 เรียกประชุมชุดสืบสวนในการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว

ซึ่งการจับกุมในคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สังกัด บก.ตม.1 ชุดสืบสวน ได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ซอยวิภาวดี 4 - 8 ซึ่งได้รับข้อมูลจากสายลับว่าบุคคลต่างด้าวที่เป็นเป้าหมายมักจะใช้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันสังเกตการณ์เนื่องจากชุดสืบสวนเชื่อว่า บุคคลต่างด้าวเป้าหมายจะต้องมาปรากฏตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบบุคคลต่างด้าวลักษณะใกล้เคียงกับบุคคลต่างด้าวเป้าหมาย มีตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับที่สายลับแจ้ง ขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีเทา ติดฟิล์มทึบ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นชุดสืบสวนจึงได้ขับรถเข้าสกัด และแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรประจำตัวให้ดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวหรือหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับ ผลการตรวจสอบทราบชื่อผู้ถูกจับคือ MR.WANG MING (นามสมมติ) สัญชาติจีน อายุ 40 ปี แสดงหนังสือเดินทางของผู้อื่น แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าหน้าไม่ตรงกัน จึงขอตรวจค้นรถ ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบใบขับขี่ทั้งไทย และสากล รวมถึงหนังสือเดินทางเล่มอื่น ซึ่งเชื่อว่าปลอม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ช่ของตน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจสอบประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศพบว่า MR.WANG MING เป็นบุคคลที่มีหมายจับ และเป็นที่ต้องการตัวในประเทศจีน โดยได้กระทำความผิดฐานนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นมาปลอมแปลงบัตรประชาชน@ หนังสือเดินทาง และใบขับขี่ กระทำความผิดฐานเปิดบ่อนการพนันโดยผิดกฎหมาย และขัดคืนคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล ก่อนหลบหนีออกจากประเทศมากบดานในประเทศไทยอีก เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ถูกจับมาที่ กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่ง พงส. กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ในส่วนของใบอนุญาตขับรถที่พบทั้งหมด 5 ใบ จะได้ดำเนินการส่งตรวจสอบว่าเป็นของผู้ใด และมีการปลอมแปลงขึ้นมาทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนต่อไป
#ข่าวชัดประเด็นจริง #อาตี๋หนีคดีปลอมบัตร #คดีปลอมบัตร #หลบหนีเข้าเมือง #ปลอมแปลงบัตรประชาชน #เปิดบ่อนการพนัน

18/07/2025

ส.ว. ปริญญาตรวจด่านความมั่นคงลาดหญ้า ลุยดูช่องทางธรรมชาติแอบลักลอบเข้าเมืองของงแรงงานชาวพม่า

18/07/2025

ส.ว. ปริญญาตรวจด่านความมั่นคงลาดหญ้า

18/07/2025

ส.ว.ปริญญา ลุยชายแดน! มอบชุด ชรบ. เสริมความมั่นคง – เร่งติดตามปัญหาบัตรต่างด้าวสังขละบุรี

วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00น. นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า พร้อมมอบ ชุดเครื่องแบบ ชรบ. สนับสนุนภารกิจเฝ้าระวังชายแดน และร่วมติดตามความคืบหน้าในการ จัดทำบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ

ส.ว.ปริญญา เน้นย้ำว่า ความร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ชายแดนมีความสำคัญอย่างยิ่ง พร้อมผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาเชิงระบบเพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่อาศัยในพื้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ลดช่องโหว่ด้านความมั่นคงและป้องกันการแฝงตัวของกลุ่มผิดกฎหมาย

“การทำงานเชิงรุกในพื้นที่ชายแดน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราต้องให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านหน้าอย่างเต็มที่”

ส.ว.ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นหนึ่งในบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาในการ ติดตาม เสนอแนะ และตรวจสอบนโยบายด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบางอย่างชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งยังคงมีความท้าทายจากปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ

#สวปริญญา #วุฒิสภา #สังขละบุรี #ชายแดนไทยเมียนมา #ความมั่นคง #ชรบ #บัตรต่างด้าว #เสริมแกร่งแนวชายแดน #ข่าวเพื่อประชาชน #ทีมข่าวชัดประเด็นจริง

18/07/2025

ส.ว.ปริญญา ลุยชายแดน! มอบชุด ชรบ. เสริมความมั่นคง – เร่งติดตามปัญหาบัตรต่างด้าวสังขละบุรี

วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00น. นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า พร้อมมอบ ชุดเครื่องแบบ ชรบ. สนับสนุนภารกิจเฝ้าระวังชายแดน และร่วมติดตามความคืบหน้าในการ จัดทำบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ

ส.ว.ปริญญา เน้นย้ำว่า ความร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ชายแดนมีความสำคัญอย่างยิ่ง พร้อมผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาเชิงระบบเพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่อาศัยในพื้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ลดช่องโหว่ด้านความมั่นคงและป้องกันการแฝงตัวของกลุ่มผิดกฎหมาย

“การทำงานเชิงรุกในพื้นที่ชายแดน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราต้องให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านหน้าอย่างเต็มที่”

ส.ว.ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นหนึ่งในบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาในการ ติดตาม เสนอแนะ และตรวจสอบนโยบายด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบางอย่างชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งยังคงมีความท้าทายจากปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ

#สวปริญญา #วุฒิสภา #สังขละบุรี #ชายแดนไทยเมียนมา #ความมั่นคง #ชรบ #บัตรต่างด้าว #เสริมแกร่งแนวชายแดน #ข่าวเพื่อประชาชน #ทีมข่าวชัดประเด็นจริง

18/07/2025

ตำรวจดส.รวบพ่อเล้าวัย 27 ค้ากามชายวัย 15 กินค่าหัวคิว 500 บาท สารภาพทำมาแล้ว 7-8 ครั้ง #ข่าวชัดประเด็นจริง

📌 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: 📌 http://www.khaochad.co.th/248328

18/07/2025

“ภูมิธรรม” แจงไม่ได้กลั่นแกล้ง หลังคาดโทษเจ้าหน้าที่รัฐแก้ปัญหายาเสพติดไม่คืบ ชี้เป็นช่วง “ตรวจการบ้าน” ย้ำเอาจริงเอาจัง ดุเดือดแน่นอน #ข่าวชัดประเด็นจริง

📌 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: 📌

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ