ทิดเป้ อย่างนี้ก็มีด้วย

ทิดเป้ อย่างนี้ก็มีด้วย ทุกเรื่องรอบรั้วทั่วไทย เพื่อคนไทยทุกมุมโลก เพจข่าวสาร เพื่อชาวบ้านทั่วไทย

แนวโน้มผู้บริโภคเปลี่ยน! พาณิชย์ปทุมธานีเร่งเดินหน้าหนุนผู้ประกอบการ จัดอบรมการตลาดสมัยใหม่ พร้อมยกระดับสินค้าศักยภาพปทุ...
25/07/2025

แนวโน้มผู้บริโภคเปลี่ยน! พาณิชย์ปทุมธานีเร่งเดินหน้าหนุนผู้ประกอบการ จัดอบรมการตลาดสมัยใหม่ พร้อมยกระดับสินค้าศักยภาพปทุมธานี ผ่านการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและการเจรจาธุรกิจการค้า 3 ครั้ง และ Road show 1 ครั้ง คาดสร้างมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
จังหวัดปทุมธานี โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น อย่างเป็นรูปธรรม เตรียมจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการตลาดสมัยใหม่ เสริมแกร่งผู้ประกอบการสินค้าที่มีศักยภาพกว่า 100 ราย พร้อมเปิดเวที งานแสดงและจำหน่ายสินค้าและการเจรจาธุรกิจการค้า ครั้งยิ่งใหญ่ 3 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปทมธานี และนนทบุรี และจัดกิจกรรม Road show 1 ครั้ง ในจังหวัดภูเก็ต คาดการณ์สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า จังหวัดปทุมธานีมีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาภาคกลางให้เป็นฐานการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูง โดยจังหวัดให้ความสำคัญกับการยกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดยุคใหม่ ซึ่งจังหวัดปทุมธานีมีศักยภาพสูงทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการบริการ เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่มีการศึกษาและอาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งมักจะให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทางจังหวัด จึงมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี ดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าอุตสาหกรรม เกษตร และธุรกิจบริการ กิจกรรมหลัก : ยกระดับเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดสินค้าศักยภาพจังหวัดปทุมธานี ภายใต้โครงการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยจะมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการตลาด ควบคู่ไปกับการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและการเจรจาธุรกิจการค้า Online/Offline เพื่อสร้างเครือข่าย และสร้างโอกาสในการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่
“จังหวัดปทุมธานีเล็งเห็นความสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าศักยภาพของจังหวัด และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดกิจกรรม ในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ และผลักดันสินค้าคุณภาพของปทุมธานีให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สร้างรายได้และกระจายความมั่งคั่งสู่ชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของจังหวัดที่มีเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดไปสู่ “ปทุมธานีเมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม” โดยปทุมธานีนั้นถือเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย และมีอัตลักษณ์ การจัดกิจกรรมนี้จึงเป็นโอกาสที่จะสร้างการรับรู้สินค้าของจังหวัดปทุมธานีในวงกว้าง และเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ และขยายเครือข่ายช่องทางการตลาดด้วย
ด้าน นายนิมิตร ฆังคะจิตร พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี เปิดเผยถึงรายละเอียดของการจัดกิจกรรม ภายใต้ชื่อโครงการ “ Pathum Innotech 2025 ” (THE PATHUMTANI INNNOTECH&EXPO 2025) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมย่อย คือ
กิจกรรมย่อยที่ 1 การพัฒนาศักยภาพด้านการตลาด โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการตลาดสมัยใหม่ จำนวน 2 ครั้ง เช่น การสร้างแบรนด์ เทคนิคการทำตลาดออนไลน์ การ Live Streaming สำหรับการขายและการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ การทำตลาดผ่าน Facebook และ TikTok การพัฒนาและบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ เป็นต้น ณ ห้อง HOLE IN ONE ชั้น 2 (ฝั่ง Lobby สนามกอล์ฟ) โรงแรมทินิดี จังหวัดปทุมธานี ครั้งที่ 1 วันพุธที่ 9 กันยายน 2568 และครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2568
กิจกรรมย่อยที่ 2 การส่งเสริมช่องทางการตลาด และสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดปทุมธานี ให้เข้าถึงผู้บริโภคซึ่งมีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า และการเจรจาธุรกิจการค้า จำนวน 3 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี และนนทบุรี และจัดกิจกรรม Road show ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 ครั้ง รวมจำนวน 4 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการเกษตร ธุรกิจบริการ SMEs หรือสินค้าที่มีศักยภาพในรูปแบบการจัดงานแฟร์ของจังหวัดปทุมธานี และการเจรจาธุรกิจการค้า Offline/Online จำนวน 100 คูหา ภายใต้ชื่องาน “PATHUM FANTASTIC FAIR 2025” กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคม 2568 ณ ALIVE PARK HALL ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี
ครั้งที่ 2 การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ในรูปแบบมหกรรมสินค้านวัตกรรมและผลงานวิจัยและการเจรจาธุรกิจการค้า Offline/Online จำนวน 100 คูหา ภายใต้ชื่องาน “PATHUM INNOTECH EXPO 2025” กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 25–29 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ครั้งที่ 3 การจัดกิจกรรม Road show เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้าของจังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 ครั้ง 50 ราย ภายใต้ชื่องาน “PATHUM GRAND SHOW 2025” กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 20–24 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ครั้งที่ 4 การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร เกษตรปลอดภัย/อินทรีย์ สินค้า GI สินค้า BCG สินค้าอื่น ๆ ของจังหวัดปทุมธานีและการเจรจาธุรกิจการค้า Offline/Online จำนวน 100 คูหา ภายใต้ชื่องาน “ PATHUM FESTIVAL 2025”กำหนดจัดงานวันที่ 27-31 ตุลาคม 2568 ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
#กิจกรรมในงานประกอบด้วย
ช็อป ชม ชิลล์ กับสินค้าของผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดปทุมธานี , จุด Check in และ Showcase เจรจาธุรกิจ Offline/Online โปรโมชันสุดคุ้ม แจกของรางวัลผู้เข้าร่วมกิจกรรมงาน ชมการแสดงจากศิลปินชื่อดังทุกวัน
และยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์/เวทีเสวนาจากวิทยากรผู้มากด้วยประสบการณ์ การจัดงานครั้งที่ 2 และ 3 จัดให้มีเวทีนำเสนอสินค้านวัตกรรมและผลงานวิจัยแบบ Pitching จึงขอประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนและผู้สนใจ ในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพของจังหวัดปทุมธานี ในงาน“Pathum Innotech 2025 ” Pathumthani Innotech & Expo 2025 ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
///

ปลัดเกษตรฯ กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมรับมือพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา (WIPHA)” นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและส...
23/07/2025

ปลัดเกษตรฯ กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมรับมือพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา (WIPHA)”
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 3/2568 โดยมีผู้บริหารหน่วยงาน
ในสังกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบ
การประชุมออนไลน์ไปยังสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ว่า จากสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา (WIPHA)” ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และภาคกลาง
ด้านตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคมนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเตรียมความพร้อมทุกหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาค
ร่วมบูรณาการเพื่อรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรและประชาชน ทั้งด้านพืช ประมง และ
ปศุสัตว์ โดยสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ 1) ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด ตรวจติดตาม บูรณาการทรัพยากรและการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญ
ปัญหาในระยะเร่งด่วนและระยะฟื้นฟู 2) เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด ดำเนินการประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ สำรวจพื้นที่เสี่ยงด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ และเตรียมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อจัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาเพื่อหยุดยั้งความเสียหาย เช่น การเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ การอพยพสัตว์ การบำบัดน้ำเสียในพื้นที่เกษตร และสำรวจความเสียหายและการเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เป็นต้น โดยประสานงานร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 3) หน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมชลประทาน เตรียมความพร้อมเครื่องมือ-เครื่องจักร และเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุทกภัย กรมปศุสัตว์ เตรียมการอพยพสัตว์ จัดเตรียมเสบียง-อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และทีมแพทย์ดูแลสุขภาพสัตว์ กรมประมง เตรียมการเฝ้าระวังบ่อปลา กระชังในพื้นที่เสี่ยง และสนับสนุนการดำเนินงาน
ตามประกาศงดเดินเรือจังหวัด กรมพัฒนาที่ดิน เตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อบำบัดน้ำเสีย ฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดิน และ
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เตรียมพร้อมอากาศยานเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัย
เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามข่าวสารและสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือด้านการเกษตร สามารถติดต่อสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ของท่านได้ รวมทั้งติดตามข่าวสาร การรายงานสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ https://www.moac.go.th

 #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย ออกกำลังกายกันครับ
18/05/2025

#ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย ออกกำลังกายกันครับ

“พิพัฒน์” นำไทยในเวทีโลก ประชุมAPEC เสนอวิสัยทัศน์แรงงาน 5 นโยบายรับโลกยุคใหม่ ทันเทคโนโลยี AI ดันแรงงานอิสระ- สูงวัย ปร...
12/05/2025

“พิพัฒน์” นำไทยในเวทีโลก ประชุมAPEC เสนอวิสัยทัศน์แรงงาน 5 นโยบายรับโลกยุคใหม่ ทันเทคโนโลยี AI ดันแรงงานอิสระ- สูงวัย ประกันสังคมครอบคุมทุกกลุ่ม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ให้มีรายได้ยั่งยืน
12 พฤษภาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนประเทศไทย พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน นางศิริรัตน์ ศรีชาติ อัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล และคณะ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรี APEC ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (APEC HRDMM 2025) ณ เมืองเชจู สาธารณรัฐเกาหลี โดยได้นำเสนอแนวทางเชิงรุกในการเตรียมแรงงานรับมือโลกการทำงานในอนาคต ภายใต้หัวข้อ “ตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่นและมีพลวัต” และ “การตอบสนองต่ออนาคตของงานผ่านนโยบายตลาดแรงงานเชิงรุก (ALMPs)”
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า “ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการสร้างระบบแรงงานที่ครอบคลุม เป็นธรรม และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว”
โดยนำ 5 นโยบายหลักที่กระทรวงแรงงานไทยนำเสนอในเวทีโลก ได้แก่

1.Reskill Upskill และ New Skill: พัฒนาทักษะดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีใหม่ ให้แรงงานทุกกลุ่มทันต่อตลาดแรงงานทั่วโลก
2.สนับสนุนแรงงานอาชีพอิสระ งานแพลตฟอร์ม: ยกระดับบริการจัดหางานและขยายความคุ้มครองแรงงานรูปแบบใหม่
3.ส่งเสริมการทำงานผู้สูงวัย: สนับสนุนงานที่ยืดหยุ่นและถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นใหม่
4.ขยายประกันสังคม: ให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม ทั้งแรงงานในระบบ–แรงงานอิสระ และแรงงานแพลตฟอร์ม (กึ่งอิสระ)
5.ขับเคลื่อน BCG Economy: สร้างงานสีเขียว ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และความยั่งยืนในทุกพื้นที่
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการประชุม มีเนื้อหาที่น่าสนใจจากประเทศสมาชิก APEC ที่ไทยสามารถนำไปศึกษา เพื่อนำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับ แรงงานไทยไปปรับใช้ได้ เช่น
•สิงคโปร์ ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลแรงงาน สร้างระบบ “Skill Credit” และ “Job Transition Maps” รัฐลงทุนร่วมกับนายจ้าง เพื่อ Reskill แรงงาน รับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
•รัสเซีย พัฒนา Job Matching สำหรับคนพิการ–ผู้สูงอายุ พร้อมอุดหนุนภาคเอกชนจ้างแรงงานกลุ่มเปราะบาง
•ฟิลิปปินส์ ส่งเสริมระบบการเรียนรู้แบบยืดหยุ่นผ่าน Credit-based Learning และสนับสนุนแรงงานพิการ–สูงวัย เข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
•เปรู เน้น การทำงานทุกช่วงวัย Lifelong Learning และส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว ควบคู่กับการดูแลแรงงานหญิง–คนพิการ
•ปาปัวนิวกินี ร่วมมือกับประเทศพัฒนาแล้วเพื่อพัฒนาแรงงานนอกระบบ การทำงานของแรงงานสตรี และสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย โดยเน้นทักษะดิจิทัลและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝึกอบรม
•มาเลเซีย ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตแรงงาน เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและพัฒนาองค์ความรู้ด้าน AI เพื่อรับมือผลกระทบแรงงาน
•เกาหลีใต้ พัฒนา “One-Stop Center” ฝึกอบรมแรงงานกลุ่มวัยกลางคน ควบคู่กับการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต
•แคนาดา–ชิลี–ฮ่องกง–นิวซีแลนด์–สหรัฐฯ ต่างผลักดันกฎหมายเพื่อความเท่าเทียม การสร้าง Work-Life Balance และการคุ้มครองแรงงานกลุ่มเปราะบางในสังคมสูงวัย
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของกระทรวงแรงงานประเทศไทยในเวที APEC ครั้งนี้ ไม่เพียงตอกย้ำบทบาทด้านแรงงานของภูมิภาค แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องแรงงานไทยว่า “แรงงานไทยมีความสามารถในการแข่งขัน และได้มาตราฐานที่ตลาดแรงงานในโลกต้องการ เพื่อสร้างอนาคตที่ยังยืน

“แรงงานคือหัวใจของการพัฒนา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกประเทศสมาชิก APEC เพื่อสร้างโอกาสในอนาคตของแรงงานที่เป็นธรรม และยั่งยืน“

11/05/2025

#ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย โจรอ้างเป็นแรงงานจังหวัด หลอกแม่ค้าสูญเงิน 15,000

 #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย ขอรอยยิ้มสักนิด
10/05/2025

#ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย ขอรอยยิ้มสักนิด

 #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย
10/05/2025

#ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย

"โสภณ"น้อมนำ ศก.พอเพียง หนุนชาวบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิด แบบอินทรีย์ มีกิน-ขายตลอดปีมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ จับมือส่...
11/03/2025

"โสภณ"น้อมนำ ศก.พอเพียง หนุนชาวบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิด แบบอินทรีย์ มีกิน-ขายตลอดปี
มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ จับมือส่วนราชการ ภาคเอกชน และชาวชุมชน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่งเสริมสนับสนุนชาวบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิดแบบอินทรีย์ เพื่อเป็นแหล่งอาหารยั่งยืน ปลอดภัย มีผักไว้กินลดรายจ่าย และสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 5 พรรคภูมิใจไทย และประธานคณะกรรมมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดโครงการ ‘คนบ้านประดู่ รักศรัทธา แก้ปัญหา ความยากจน’ ซึ่งทางมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อบต.กู่สวนแตง สำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนราชการและชุมชนร่วมกันจัดขึ้น ที่บริเวณแปลงผักหลังที่ทำการ อบต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ โดยได้มีการนำวิทยากรมาสอนและสาธิต การเพาะเห็ดฟางให้แก่กลุ่มอาชีพปลูกผักปลอดสารพิษ บ้านประดู่ ต.กู่สวนแตง เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างแหล่งอาหาร และสร้างรายได้เพิ่มนอกเหนือจากการปลูกพืชผักสวนครัวทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รวมตัวกันปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิด บริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.กู่สวนแตง โดยการน้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทำให้มีพืชผักสวนครัวไว้กิน ลดรายจ่าย และขายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
สำหรับ กลุ่มแปลงใหญ่ผักบ้านประดู่ หมู่ที่ 9 ต.กู่สวนแตง เป็นชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านประดู่ ต.กู่สวนแตง ที่ได้รวมตัวกันปลูกพืชผักสวนครัว บนแปลงผักที่บริเวณขอบหนองน้ำ บริเวณหลังที่ทำการ อบต.กู่สวนแตง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 บนเนื้อที่ 7 ไร่ โดยใช้ชื่อว่า ประดู่โมเดล ต่อมาในปี พ.ศ2562 ทางมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับ เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เกษตรอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อบต.กู่สวนแตง ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุน โดยเน้นการพืชผักอินทรีย์ให้เป็นอาหารปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค และได้เริ่มขยายพื้นที่ปลูกอีกจนเป็น 13 ไร่ในปัจจุบัน มีชาวบ้านกว่า 60 ครัวเรือน มารวมกลุ่มใช้ประโยชน์ร่วมกัน และจัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ผักบ้านประดู่ หมู่ที่ 9 ต.กู่สวนแตง
โดยแบ่งเป็นล็อกให้ตัวแทนชาวบ้านกว่า 60 ครัวเรือน ปลูกพืชผักสวนครัวตามที่ตนเองถนัด ซึ่งมีทั้งพริก หอมแดง กระเทียม ผักชี กะเพราะ โหระพา ถั่วฝักยาว แตงกวา ฟักทอง ข้าวโพด ถั่วลิสง และกระเจี้ยบ เป็นต้น เพื่อให้พื้นดินที่ว่างเปล่าบริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.กู่สวนแตง ซึ่งมีสระน้ำใหญ่อยู่แล้ว ได้เป็นพื้นที่แปลงเพาะปลูกพืชผักสวนครัวไว้ได้มีกินมีขายตลอดทั้งปี ช่วยลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้ขยายผลต่อยอดไปสู่ครัวเรือนของตนเองด้วย โดยชาวบ้านยังได้ใช้พื้นที่ว่างบริเวณบ้าน และไร่นาปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินไว้ขายเช่นเดียวกันในหมู่บ้านอีก 19 ไร่
นางทองย้อย ถนัดไธสง อายุ 60 ปี ชาวบ้านประดู่ ต.กู่สวนแตง บอกว่า ได้ปลูกพริกและปลูกผักผสมผสานกันไปในแปลงที่ได้รับจัดสรร บางครั้งก็ปลูกข้าวโพด ถั่วลิสง กะหล่ำปลี คะน้า ก็ปลูกทุกอย่างที่พอจะปลูกได้ ทำให้พวกตนได้ประโยชน์ทั้งมีพืชผักสวนครัวที่ปลอดภัยจากสารเคมีไว้กินไว้ขาย โดยนำไปขายตามตลาดนัดคลองถมในหมู่บ้านต่างๆทำให้มีรายได้เสริมเป็นอย่างดี หลังว่างเว้นจากการทำนา ถ้าคนขยันหน่อยก็จะมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันล 1-2 พันบาท ถือว่าเป็นโครงการที่ดีและได้มีการต่อยอดมาแนะนำให้ปลูกเห็ดฟาง ผสมผสานกันไปก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก
นายโสภณ กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2562 ทางมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุน โดยเน้นการพืชผักอินทรีย์ให้เป็นอาหารปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ซึ่งได้มีการปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิดไว้ทั้งกินและขาย วันนี้จึงได้มาสนับสนุนส่งเสริมให้ทำการเพาะเห็ดฟาง เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากการเผาฟางข้าวและตอซังข้าวในนา ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝุ่นควัน PM 2.5 โดยการนำฟางข้าวและตอซังข้าวมาเป็นวัตถุดิบหลักในการเพาะเห็ดฟาง ถือเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับกลุ่มชาวบ้าน ที่จะได้มีเห็ดปลอดสารพิษไว้บริโภคและขายสร้างรายได้ รวมถึงจะได้ปุ๋ยหมักอีกด้วย ทำให้บ้านประดู่ ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ แห่งนี้เป็นโมเดลเกษตรผสมผสานอย่างยั่งยืน ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จนประสบผลสำเร็จมาถึงปัจจุบันนี้ ที่มีการบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และชาวบ้าน
///////

19/11/2024

เรียกไก่อย่างนี้ก็มีด้วย #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย

เพื่อนบอก หัดแต่งตัวแบบทิดเป้บ้าง เราเลยบอกว่า ทิดเป้ เวอร์ชั่นหล่อก็ต้องมี  #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย
15/03/2024

เพื่อนบอก หัดแต่งตัวแบบทิดเป้บ้าง เราเลยบอกว่า ทิดเป้ เวอร์ชั่นหล่อก็ต้องมี #ทิดเป้อย่างนี้ก็มีด้วย

แสดงมาตั้งแต่เด็กว่าด้วยการเเสดง เราเเสดงมาเยอะเล่นตัวประกอบ ไม่มีบทพูด ในภาพยนตร์เรื่อง เกิดมาลุย 3 บทพูด อีนางเอ้ยเขยฝ...
28/02/2024

แสดงมาตั้งแต่เด็ก
ว่าด้วยการเเสดง เราเเสดงมาเยอะ
เล่นตัวประกอบ ไม่มีบทพูด ในภาพยนตร์เรื่อง เกิดมาลุย 3
บทพูด อีนางเอ้ยเขยฝรั่ง
บทพูด เเม่ป้าผีปอบ
บทพูด ฮักเขาใหญ่
บทพูด สาวขาเลาะ
บทพูดนักข่าว ทอง5
บทพูดนักข่าว ดาวคนละดวง
MV สิงห์บ้านนา
MV เเฟนมหา
งานนี้ถือว่าผ่านจอมาเยอะ
*** เป็นภาพในการเเสดงบทนักข่าวในละครช่อง3 เมื่อ29 ปีที่ผ่านมา

ที่อยู่

แจ้งวัฒนะ
Bangkok
10220

เบอร์โทรศัพท์

+66840548392

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ทิดเป้ อย่างนี้ก็มีด้วยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ทิดเป้ อย่างนี้ก็มีด้วย:

แชร์

เราทำเพื่อชาวบ้าน

เพจข่าวสาร เพื่อชาวบ้านทั่วไทย ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวบ้านเรานำเสนอ