Aiya Issara co., ltd.

Aiya Issara co., ltd. ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Aiya Issara co., ltd., Bangkok.

ให้บริการงานส่งเสริมด้านการตลาด OnlineและOff_line, งานสื่อสารระหว่างกลุ่มลูกค้ากับองค์กร, สนับสนุนด้านการขาย, ส่งเสริมด้านภาพลักษณ์องค์กร, งานออกแบบสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์, งานแถลงข่าวและงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ, งานบูรณาการ และงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร บริษัท Aiya Issara Co.,Ltd ก่อตั้งขึ้นด้วยบุคลากรที่ต้องการสร้างสรรค์งานในด้านต่างๆ โดยมีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 5 ปี รวมไปถึงทีมงานProduction

ที่มีประสบการณ์ในการทำงานที่ช่ำชองมากกว่า 15 ปี
เราให้การบริการแบบ one stop service ออกแบบ พร้อมผลิตติดตั้งงาน รวมถึงประสานงาน ทีม staff ควบคุมงาน พร้อมเครื่องมือสื่อสาร
ทีมงานของเราพร้อมให้บริการคุณ

“ ให้เราเป็นหนึ่งในทีมงานของคุณ ”

04/08/2025

VDO Lighting Visual Proposal

ขอขอบคุณ 🙏✨ Future Trends สำหรับทริคในการสร้างคอนเทนท์ใน Social Platform #ห้องสมุดผู้ประกอบการ  #ผู้ประกอบการ  #ความรู้h...
06/05/2025

ขอขอบคุณ 🙏✨ Future Trends สำหรับทริคในการสร้างคอนเทนท์ใน Social Platform

#ห้องสมุดผู้ประกอบการ #ผู้ประกอบการ #ความรู้

https://www.facebook.com/share/p/1DQQXKyf4W/

ชอบแค่ 1 อย่าง ก็ทำคอนเทนต์ได้ 5 แบบแล้วเหรอเนี่ย?
สูตรลับสร้างคอนเทนต์จาก ‘ตัวตน’ โดย ซอฟ - รษิกา พาณีวงศ์ (Softpomz)
เชื่อว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่า ถ้าหากจะผลิตคอนเทนต์สักอย่าง หัวข้อที่เรียกว่าง่ายที่สุดสำหรับการเริ่มต้นคือ การใช้ ‘ความชอบ’ สักอย่างมาใช้เป็นสารตั้งต้น แต่ถ้าใช้ความชอบผลิตคอนเทนต์จนหมดไปแล้วล่ะ ทำยังไงดี?
วันนี้ คุณซอฟ - รษิกา พาณีวงศ์ (Softpomz) ได้มาแชร์เกี่ยวกับเทคนิคสร้างคอนเทนต์โดยใช้สิ่งที่เป็น ‘ตัวตน’ ผสมเข้ากับกลยุทธ์ในการสร้างและพัฒนาเนื้อหาผ่านการตั้งคำถามอย่าง ‘What if’ จนสามารถผลิตคอนเทนต์ออกมาได้ถึง 5 แบบ! จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
🌟 สูตรลับ (ทำคอนเทนต์) ฉบับ Softpomz
เริ่มต้นด้วยการค้นหาตัวตนของเราให้เจอ โดยตั้งคำถามกับตัวเองว่า…
○ สิ่งที่ชอบ
○ สิ่งที่ไม่ชอบ
○ สิ่งที่ถนัด
○ สิ่งที่ไม่ถนัด
○ สิ่งที่อยากทำ
○ สิ่งที่เชื่อ (believe)
○ สิ่งที่สนใจ
○ สิ่งที่เชี่ยวชาญ
เมื่อเราไดัเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ‘What if’ โดยเลือกคีย์เวิร์ดมา 1 อย่าง ซึ่งคุณซอฟยกตัวอย่างในสิ่งที่ถนัดอย่าง ‘การจัดบ้าน’ และนำมาผสมเข้ากับเหตุการณ์สมมุติ 5 แบบ ดังนี้
🔷 1. ทำให้มากกว่า
ถ้า + KEYWORD + เงื่อนไขทำให้มากกว่า
จะสร้างความรู้สึกตกใจ ที่ชีวิตปกติไม่ค่อยได้พบเห็น จนต้องร้อง “ห๊ะะะะะะ”
ตัวอย่าง 1
A. "จะเกิดอะไรขึ้นถ้า หาที่เก็บของในบ้านด้วยกล่อง 1,000 ใบ
B. "เก็บกล่อง 1,000 ใบ! เปลี่ยนบ้านรกให้กลายเป็นบ้านรัก!!"
ตัวอย่าง 2
A."จะเกิดอะไรขึ้นถ้าห้องคอนโดมีพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. จากขนาดห้อง 30 ตรม."
B. "วิธีเพิ่มขนาดคอนโดให้ใหญ่ขึ้น 120% โดยไม่ต้องซื้อใหม่!"
🔷 2. ทำให้น้อยกว่า
ถ้า + KEYWORD + เงื่อนไขทำให้น้อยกว่า
จะสร้างความรู้สึก Amazing โชว์ความเฉียบ ความ Wow เหมือน Life Hack ที่น้อยแต่มาก จนต้องร้อง "เห้ยยยยย"
ตัวอย่าง 1
A. "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าจัดบ้านสวยเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง"
B. "เทคนิคเก็บบ้านรกให้สวยเสร็จใน 1 ชั่วโมง!
🔷 3. ทำให้ขัดแย้ง
ถ้า + KEYWORD + เงื่อนไขทำให้ขัดแย้ง
จะสร้างความรู้สึกเหลือเชื่อ Unbelievable ทำได้หรอวะ จริงหรอวะ เป็นไปได้หรอวะ จนต้องร้อง “เหหหหหห”
ตัวอย่าง 1
A. "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแต่งห้องหรูด้วยงบ 5,000 บาท"
B. "วิธีแต่งห้องหรูดูล้าน ด้วยงบ 5,000 บาท!
🔷 4. ทำให้เกี่ยวเนื่อง
ถ้า + KEYWORD + เงื่อนไขทำให้เกี่ยวเนื่อง
จะสร้างความรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย จนต้องร้อง "ห๊าาาาส์"
ตัวอย่าง 1
A. "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุมงบรีโนเวทบ้านได้ งบไม่บานปลาย วัสดุยังคุณภาพดี
B. "5 สิ่งที่มือใหม่หัดรีโนเวทบ้าน รู้ไว้งบไม่บาน!"
🔷 5. ทำให้เกิดสิ่งใหม่
ถ้า + KEYWORD + เงื่อนไขทำให้เกิดสิ่งใหม่
จะสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ inspire จนต้องร้อง "โหววววววว"
ตัวอย่าง 1
A. "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเปลี่ยนมุมโต๊ะทำงานอายุ 20 ปีให้มีชีวิตอีกครั้ง"
ตัวอย่าง 2
B."จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลองใช้กล่องพัสดุ CF เหลือทิ้ง มาทำเป็น Wallpaper บ้านใหม่!"
และนี่คือแนวทางผลิตคอนเทนต์ ที่ช่วยให้เราสามารถ Reflect ตัวเองไปพร้อมๆ กันได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหัวตันตอนไหน เพราะหากสามารถวิเคราะห์ตัวเองได้มากกว่า 1 อย่าง ต่อ 1 สิ่งที่เป็นตัวตน เท่านี้ก็สามารถผลิตคอนเทนต์ได้เป็น 100 รูปแบบแล้วนั่นเอง
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
สรุปเนื้อหาส่วนหนึ่งจากเซสชัน ‘BREAKTHROUGH ALGORITHM เจาะลึกอินไซต์ทำคอนเทนต์แบบเข้าใจแพลตฟอร์ม’ จากงาน ‘iCreator Camp Gen 2’ วันที่ 03 พฤษภาคม 2025 ณ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 Data Analytics & Plugin Media 2568ขอขอบพระคุณ 🙏🏻✨    #ผู้ประกอบการ  ดำเนินการจัดง...
29/04/2025

การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 Data Analytics & Plugin Media 2568
ขอขอบพระคุณ 🙏🏻✨ #ผู้ประกอบการ
ดำเนินการจัดงานโดย AI Company

 #สงกรานต์  #สงกรานต์2568  #สงกรานต์2025
13/04/2025

#สงกรานต์ #สงกรานต์2568 #สงกรานต์2025

กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย Data Analytic & Plug-in Media สาขาของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึกVILLAGE TO ALL“ส่งใจไทย ให้ทุกคน...
02/04/2025

กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย Data Analytic & Plug-in Media สาขาของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก
VILLAGE TO ALL
“ส่งใจไทย ให้ทุกคน”

✨มา Update Trends ให้ผลิตภัณฑ์โดนใจลูกค้า ☺️
📱มา Update Skill ใช้ AI เป็นผู้ช่วยให้ข้อมูลแนวคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ ⏱️

👉 DIPROM มีโอกาสดีๆมาให้ ผู้ประกอบการชุมชน,
วิสาหกิจชุมชน ระดับ OTOP 3-5 ดาว
สมัครเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
ผ่านกระบวนการใช้ Data Analytics
เพื่อยกระดับศักยภาพให้สามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์

🤗 กิจกรรมดีๆมีแต่ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
🤖 ได้ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ด้วยเครื่องมือ AI เทคโนโลยี
🌈 ได้ศึกษาดูงาน เมือง SOOKSIAM สร้างแรงบันดาลใจ
🎁 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำ

📣 เปิดรับสมัคร 28 มีนาคม - 8 เมษายน 2568

🫰จัดโดย กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

📳 ติดต่อสอบถามข้อมูล คุณจตุพร กิจกล้า 087 680 3852
บริษัท ไอยญ์ อิทฐ์ศระภ์ จำกัด

#กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม #พัฒนาผลิตภัณฑ์ #ผู้ประกอบการ #กรุงเทพมหานคร

ขอขอบพระคุณ พี่ยิ่ง ยังเติร์ก ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงานรอยสักร่างกายแบบร่วมสมัย 🙏🏻✨ ที่ไว้ใจให้ทีมงานได้ดูแลงานด้านโครงสร้างบ...
23/03/2025

ขอขอบพระคุณ พี่ยิ่ง ยังเติร์ก ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงานรอยสักร่างกายแบบร่วมสมัย 🙏🏻✨ ที่ไว้ใจให้ทีมงานได้ดูแลงานด้านโครงสร้างบูธ และงานระบบไฟฟ้าภายในงาน THAILAND TATTOO EXPO 2025

ขอบคุณ   🙏🏻✨มาอัพเดท insight พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ Social Platform ปี2025 กันครับ 🤩 #ห้องสมุดผู้ประกอบการhttps://www.f...
11/03/2025

ขอบคุณ 🙏🏻✨
มาอัพเดท insight พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ Social Platform ปี2025 กันครับ 🤩

#ห้องสมุดผู้ประกอบการ

https://www.facebook.com/share/p/188LchXZ92/?mibextid=wwXIfr

สรุปอินไซต์ พฤติกรรมคนไทย บน Social Media อัปเดตล่าสุด ปี 2025
#คนไทย

ขอขอบพระคุณ  #กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่ไว้วางใจให้ดำเนินงานครับ 🙏🏻✨
17/02/2025

ขอขอบพระคุณ #กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่ไว้วางใจให้ดำเนินงานครับ 🙏🏻✨

26/07/2020

13 พฤษภาคม 2019 เป็นวันที่ผมเริ่มสร้างเพจสมองไหล แต่มาลงบทความแบบสม่ำเสมอจริงๆ ก็ช่วงเดือนกันยายน เพราะตอนนั้นผมให้ความสำคัญกับใน Blockdit เสียมากกว่า
จนปัจจุบันเพจสมองไหลมีอายุประมาณ 1 ปี กว่าๆ กับผลลัพธ์ที่ได้คือ การมีผู้ติดตามมากว่า 1 แสนจน มียอดขายหนังสือ 1 พันเล่ม ภายในเวลา 2 เดือน และสามารถทำเงินจากเพจได้ 1 แสนบาท ภายใน 3 เดือน ทั้งจากการขายหนังสือและการสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ
ทั้งนี้ผมต้องถือโอกาสขอบคุณแฟนเพจทุกท่าน ที่สนับสนุนผมจนถึงวันนี้ เพราะถ้าไม่มีคุณ ก็ไม่มีผมวันนี้เช่นกัน คุณคือ คนที่ผม “นึกถึง” ก่อน “ลูกค้า” เสมอ...
“ถ้าเราทำคอนเทนต์ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินยิง Ads แม้แต่บาทเดียว”
นี่คือ คำสั้นๆ ที่กลั่นมาจากประสบการณ์ที่ผมได้เรียนรู้มาทั้งหมดจากการทำเพจมาตลอด 1 ปี แล้วในคำสั้นๆ ที่ว่านี้ มันมีอะไรที่คนกำลังเริ่มต้นทำเพจ ทำสื่อ หรือ ขายออนไลน์ สามารถนำไปปรับใช้ได้บ้าง ผมจะเล่าให้ฟัง…
- ก่อนจะทำคอนเทนต์ เราต้องเข้าใจก่อนว่าคอนเทนต์นั้นมีกี่ประเภท ซึ่งโดยหลักแล้วมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1) Topical Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์ที่ทำออกมาตามกระแสต่างๆ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเหตุการณ์ข่าวสารในแต่ละวัน ว่าอะไรที่เขากำลังฮิต อะไรที่คนพูดถึงในช่วงนี้ และต้องลงให้ถูกจังหวะเวลาด้วย คือ ถ้าช้าเพียง 1 ชั่วโมง ก็อาจจะไม่มีประโยชน์แล้ว ซึ่งข้อดีของมันคือเรียก Traffic ได้ดีมาก แต่ข้อเสียของมันคือ มันอยู่ได้ไม่นาน ใช้ได้ครั้งเดียว ผ่านแล้วก็ผ่านไป
คนที่ติดตามผมมาตลอดจะรู้ว่าผมไม่ค่อยทำคอนเทนต์ประเภทนี้สักเท่าไหร่
2) Evergreen Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์แนว ความรู้, ปรัชญา, How to ข้อดีของมันคือมันจะไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา แม้จะผ่านไป 1 วัน 1 เดือน 1 ปี ก็ยังสามารถอ่านได้ไม่มีเบื่อ และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตเสมอ แต่คอนเทนต์ประเภทนี้ถ้าไปลงในช่วงที่มีกระแสเรื่องอื่นอยู่ อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากนัก และทำยากกว่าแบบเเรกมาก
ซึ่งผมจะทำคอนเทนต์ประเภทนี้เป็นหลัก
3) Value Content หรือ คอนเทนต์แบบเน้นคุณค่า นี่คือ สุดยอดคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือการนำ 2 ข้อแรกมาผสมผสานกัน จึงทำให้คอนเทนต์แบบนี้สามารถเรียกได้ทั้งกระแส และ มีการสอดเเทรกความรู้ลงไปด้วยไม่ให้เสื่อมค่าตามการเวลา ทำให้คอนเทนต์มีความสมบูรณ์แบบและเป็นอมตะ แต่ประเด็นคือ มันทำโคตรยาก เพราะต้องทำให้มันทั้งมีคุณค่าและถูกที่ถูกเวลาด้วย แต่ถ้าทำได้ บอกเลยว่าผลของมันคุ้มค่ามากๆ
ซึ่งผมเคยทำคอนเทนต์แบบนี้ได้ประมาณ 5-6 ครั้ง ตลอด 1 ปี เช่น คอนเทนต์เรื่อง ทิลลี่ สมิธ ช่วยคนชาวจังหวัดไม้ขาวให้รอดชีวิตจากสึนามิ และ เผยแพร่ในวันรำลึกสึนามิพอดี ซึ่งผลลัพธ์ของมันคือ บทความนี้ได้ถูกหยิบยกไปในรายการข่าวใส่ไข่ ทางช่องไทยรัฐทีวี
ส่วนอีกเรื่องคือ บทความ ประวัติศาสตร์โรคระบาดร้ายแรง ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 100 ปี เผยแพร่ในช่วงไวรัส covid-19 ระบาดแรกๆ ซึ่งผลของมันคือ คุณหนุ่มกรรชัย เชิญผมไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 จากบทความนี้
รวมทั้งบทความอื่นๆ อย่าง คนขับรถของลีกาซิง, โรงงานผลิตยาสีฟัน, เด็กอเมริกันจะหยุดเรียน 2 ปี เพื่อค้นหาตัวเองก่อนเข้ามหาลัย, จุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาล 11.11 ของอาลีบาบา และธนบัตรญี่ปุ่น ที่มีผู้แชร์มากกว่า 1 หมื่นครั้ง ซึ่งส่งผลให้ยอดการติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 6 หมื่นคนภายใน 2 เดือน
- ทำคอนเทนต์เพื่อให้คน "กดแชร์" มากกว่าแค่ "กดไลค์"
เป้าหมายในการทำคอนเทนต์ของผม คือ การทำให้คนแชร์มากกว่าคนกดไลค์ และเเน่นอนว่าการทำให้คนแชร์นั้นยากกว่ายอดกดไลค์อยู่แล้ว เพราะผมเชื่อเสมอว่า การที่คนยอมกดแชร์คอนเทนต์เราออกไปหมายความว่า เขาอยากจะบอกต่อคอนเทนต์นั้น ซึ่งสำหรับผมมันมีคุณค่ามากกว่าการที่เขาแค่กดไลค์หรือชอบมันเพียงคนเดียว
แต่ก่อนที่เราจะทำคอนเทนต์ให้คนแชร์ได้ เราต้องรู้เหตุผลที่ทำให้คนแชร์คอนเทนต์ของเราก่อน ซึ่งหลักๆ มันมีอยู่ 5 อย่าง คือ
1) ภาพลักษณ์ทางสังคม การที่เขาแชร์อะไร หน้าฟีตของเขา มันต้องทำให้เขามีภาพลักษณ์ดีขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากแชร์อะไรที่ทำให้คนอื่นมองตัวเองไม่ดีอยู่แล้ว
2) ตัวกระตุ้น คือ บทความที่ช่วยกระตุ้นให้เขาได้ฉุกคิดหรือลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างได้ ซึ่งมันคือ คอนเทนต์สั้นๆ ที่ผมลงทุกเช้า ให้คุณได้อ่านก่อนออกไปทำงาน เพื่อช่วยกระตุ้นและให้กำลังใจคุณ ซึ่งคนมักจะแชร์เสมอ

3) อารมณ์ความรู้สึก คือ อ่านแล้วเกิดอารมณ์ร่วม ส่วนใหญ่เป็นบทความแนวเรื่องเล่า

4) ความมีประโยชน์ อันนี้ชัดเจน ถ้ามีประโยชน์ใครๆ ก็อยากแชร์ไว้ให้ตัวเองอ่านซ้ำๆ หรือ อยากส่งต่อมันให้คนอื่น

5) เป็นเรื่องเล่า เพราะธรรมชาติของคนชอบเรื่องเล่ามากที่สุด และสิ่งที่คนจดจำได้ดีที่สุดคือเรื่องเล่า และเรื่องเล่าเป็นสิ่งที่คนชอบนำไปเล่าต่อ
ผมใช้หลักการนี้ในการทำคอนเทนต์เสมอ นั่นจึงทำให้ถึงแม้บางคอนเทนต์จะเป็นโฆษณา แต่คนก็ยังอยากจะแชร์มันอยู่ดี
- พาดหัว คือ “จุดชี้เป็นชี้ตาย” ของคอนเทนต์ เพราะมันคือตัวตัดสินว่าคนจะหยุดอ่านคอนเทนต์ของเราหรือไม่ ?
นี่ คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ 70% เลยก็ว่าได้ เพราะคนจะอ่านตรงนี้ก่อน ถ้ามันไม่โดนใจ เนื้อหาดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
ซึ่งพาดหัวนั้นมีส่วนประกอบอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ “ตัวอักษร” และ “ภาพ” ต้องผสมผสานระหว่างสองอย่างนี้ให้ลงตัว
ซึ่งการคิดคำพาดหัวนั้นบอกเลยครับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากใช้เทคนิคแล้ว ต้องอาศัยการฝึกฝนด้วย บอกเลยว่าตรงส่วนนี้ผมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 นาที กว่าจะคิดคำพาดหัวที่สมบูรณ์แบบออกมาได้
และสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ผู้อ่านมีเวลาแค่ 2 วินาทีเท่านั้น ในการตัดสินว่าจะอ่านคอนเทนต์ของเราหรือเลื่อนผ่านไป ซึ่งสิ่งที่ตัดสินก็คือ “พาดหัว” เพราะฉะนั้น เราต้องตอบให้ได้ ผู้อ่านจะได้อะไรจากคอนเทนต์ของเรา ใส่มันลงไปในพาดหัวให้ได้
แล้วสิ่งที่เราต้องการสื่อทั้งหมด ค่อยมาใส่ตรง “เนื้อเรื่อง”
และสุดท้าย คอนเทนต์ของเรามีผลกระทบอะไรกับผู้อ่านบ้าง ใส่ลงไปใน “สรุป” ช่วงท้าย
ทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคที่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำเพจได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณามากมาย เพราะต่อให้ยิง Ads หนักแค่ไหน แต่ถ้าคอนเทนต์ไม่ดี คนก็เลื่อนผ่านอยู่ดี...
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ผมไปเอามาจากไหน ?
คำตอบ คือ ผมไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด หรือ รู้ด้วยตัวเองทั้งหมดหรอกครับ แต่ผมไปเรียนมาจากคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้มา 7 ปี เป็นเจ้าของเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน ซึ่งเป็นพี่ที่ผมเคารพรักคนหนึ่งมากๆ
ผมกล้าพูดตรงนี้เลยครับว่า ถ้าผมไม่ได้มาเจอพี่คนนี้ จะไม่มีผมและเพจสมองไหลในวันนี้แน่ๆ
ในตอนนั้นค่าคอร์สที่ผมเรียนประมาณ 8,000 บาท
แต่ข่าวดี คือ วันนี้พี่เขาเขียนหนังสือออกมา ซึ่งหลังจากที่ผมอ่านจบแล้ว บอกตรงๆ เลยว่า มันเหมือนการเอาบทเรียนราคา 8,000 บาท ในคอร์สวันนั้น มายัดลงหนังสือ CONTENT CREATOR 101 ในราคา 245 บาท
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ มันได้รับการปรับปรุง เพิ่มเติม และเข้มข้นมากกว่าคอร์สวันนั้นอีก เพราะตอนนั้นผมเป็นรุ่นแรกๆ ที่เรียน แต่พอมาอ่านเล่มนี้เหมือนได้ทบทวนบทเรียนและเรียนรู้เรื่องใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม
เป็นหนังสือที่มีทุกอย่างที่คนอยากเริ่มต้นทำคอนเทนต์ควรจะมี ตั้งแต่การเริ่มต้นทำคอนเทนต์ วิธีคิดเกี่ยวกับคอนเทนต์ การสร้างคอนเทนต์แบบเน้นคุณค่า การเขียนพาดหัว การวางกลยุทธ์ และเครื่องมือต่างๆ ทั้งเครื่องมือที่ช่วยบอกคุณว่าตอนนี้คนเขาพูดถึงอะไรกัน และ ควรหารูปประกอบจากไหนมาทำคอนเทนต์ ฯลฯ
บอกเลยครับว่า ใครซื้อเล่มนี้ไปอ่าน มูลค่าที่ได้กลับมานั้นมากกว่า 100 เท่า แน่นอน
แต่ประเด็นคือ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีวางขายตามร้านหนังสือทั่วไป เพราะทางผู้เขียนพิมพ์ออกมาจำนวนจำกัด ขนาดผมยังได้โควต้ามาแค่ 20 เล่ม เท่านั้น !
เพราะฉะนั้น ใครอยากได้หนังสือที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จด้านการทำคอนเทนต์ รีบทัก Inbox มาหาผมได้เลยครับ ก่อนที่ของจะหมด !
มีทั้งแบบ
- หนังสือเล่ม ราคา 245 บาท
- และแบบ E-book ราคา 890 บาท แถมหนังสือ 1 เล่ม
อัพเดต เนื่องจากหนังสือมีผู้ต้องการจำนวนมาก ทางผู้เขียนจึงสั่งพิมพ์ครั้งที่ 2 ออกมาแล้วครับ รอบนี้ผมได้โควต้ามาเพิ่ม 80 เล่ม
#สมองไหล #คอนเทนต์

19/07/2020

สินค้า การตลาด และการขายยุคดิจิทัล เปลี่ยนผ่านจาก “Mass” ขยับไปสู่ยุค “Personalization” ที่จะทำให้แบรนด์สามารถ hyper-connect กั....

24/02/2020

ที่อยู่

Bangkok
10240

เบอร์โทรศัพท์

021010946

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Aiya Issara co., ltd.ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Aiya Issara co., ltd.:

แชร์