เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ แล้วค่อยไปบุกด้วยการใช้สื่อ
จากใจ Admin
.
4 ปีที่ได้มีโอกาสแสดงบทบาทของตัวเองเพิ่มขึ้นนอกจากแค่การเป็นผู้ประกอบการ โดยการเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ให้กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานของรัฐที่ส่งเสริมและสนับสนุน SME (ผมอยากเรียกว่าสอนหนังสือนะ เพราะรู้สึกเป็นคำพูดที่มีความน่าภาคภูมิ)
.
ถึงแม้เนื้อหาส่วนใหญ่ที่สอน จะเป็นเนื้อหาในเชิงเทคนิคและการปฏิบัติ (Workshop/ Tip/ Technic) ที่เกี่ยวกับเครื่องมือในการสื่อสารการตลาดยุคดิจิทัล อย่าง Facebook Ad, LINE@, Google Adword หรือแม้แต่การสร้างเว็บไซต์ ที่สอนผู้ประกอบการด้วยกันเองที่ยังไม่รู้ในสิ่งที่เรารู้และมีประสบการณ์ ซึ่งเอาจริงๆ ถือว่าเป็นเนื้อหาที่ยากสำหรับหลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกการค้าขายดิจิทัล
.
เชื่อได้เลยครับ หลายคนประทับใจกับเนื้อหาและวิธีการสอนที่มาจากประสบการณ์จริงที่เคยเจอจากตัวผมเอง ซึ่งหลายคนก็เอาวิธีการยิงโฆษณา และการใช้งานเชิงเทคนิคของสื่อสื่อดิจิทัลตัวต่างๆ ที่กล่าวไปแล้วข้างบน ไปใช้งานจนประสบความสำเร็จในกิจการอยู่หลายราย
.
ผมมีโอกาสได้ตระเวนสอนทั่วประเทศเลยครับ ลูกศิษย์ที่เป็น SME ถ้านับคน ณ วันนี้เอง ก็น่าจะหลักหลายพันคนแล้ว ทั้งระดับหลัก 10 ล้าน 100 ล้าน หรือแม้แต่กระทั่ง OTOP ถ้าพูดถึงวัยก็ตั้งแต่คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจเทคโนโลยีเร็ว ไปจนถึงผู้สูงวัยแต่ใจเยาว์ ที่ยังไม่รู้จักแม้แต่การสร้างอีเมล์เพื่อใช้ Login สื่อออนไลน์ต่างๆ
.
สนุกครับ.. 555
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นทีผมอยากจะเล่าให้ฟัง...
.
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ
.
มีอยู่วันหนึ่ง คุณป้าคนนึงที่เป็นลูกศิษย์เดินเข้ามาบอกกับผมว่า “ขอบคุณที่มอบเทคนิคต่างๆ ในการใช้สื่อดิจิทัลให้สามารถซื้อได้ประหยัดต้นทุนขนาดนี้ แต่ป้าติดปัญหาอยู่เรื่องนึง ที่ไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็คือ ป้าไม่รู้จะโพสอะไรดี ป้าคิดคอนเทนต์ หรือเนื้อหาไม่ออก หรือควรต้องใช้ภาพหรือไม่ใช่ภาพแบบไหนดี”
.
จะเห็นได้ชัดเลยครับว่า ใครๆ ก็พยายามหาทางเข้าถึงการใช้สื่อโฆษณากันมาก แต่สิ่งที่เรามองข้ามไปคือเรื่องของเนื้อหาที่ต้องไปตอบความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราให้ได้ แต่เราพยายามกันมากกับการใช้เงินในการโฆษณาสินค้าโดยคาดหวังกันว่าจะเกิดยอดขาย
.
ไม่ผิดอะไรนะครับ กับการโฆษณาขายสินค้า เป็นสิ่งที่ควรต้องทำครับ ผมยืนยัน เพียงแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นในปัจจุบันคือ ความเข้าใจในเรื่องกลไกของการทำการตลาดนั้น มีความเข้าใจผิดกันอยู่มาก
.
วันนี้เราไม่ได้ทำการตลาดครับ แต่เราทำการขาย
.
สังเกตุจากเนื้อหาที่แบรนด์หน้าใหม่ใช้โพสต์กันทุกวันนี้ โดยส่วนใหญ่ คือการโพสต์ขายของ ซึ่งนั่นทำให้คนที่ควรจะเป็นลูกค้าเราจริงๆ กลับไม่สนใจ ในครั้งแรกที่เห็น Ad ของเรา เพราะเป็นจังหวะที่เค้าไม่ได้ต้องการสินค้าตัวนั้นๆ นั่นก็ทำให้แบรนด์ของเราก็ไม่ถูกจดจำ การกระจายของเนื้อหาให้เกิดการแสดงผลได้มากๆ นั้น จึงจำเป็นต้องอาศัยเงินในการซื้อมันมาเป็นส่วนใหญ่ (Paid มาก Organic ต่ำ)
.
แล้วยิ่งไม่สามารถที่จะสร้างเนื้อหา Content ที่ทำให้ลูกค้าจดจำได้แล้ว ยิ่งไปกันใหญ่
.
หยุดยิงโฆษณาเมื่อไหร่ ยอดขายก็หายไปเมื่อนั้น
.
วันนี้ SME หรือแบรนด์หน้าใหม่ในตลาด มีโอกาสใช้สื่อในราคาที่เท่าเทียมกันกับแบรนด์ใหญ่ๆ แล้ว แต่กลับไม่สามารถช่วงชิงเอาโอกาสนี้มาสร้างให้เกิดประโยชน์กับแบรนด์ได้
.
เราดันไปเริ่มต้นจากการใช้เครื่องมือ สื่อ จนลืมไปว่า เนื้อหาที่เรานำเสนอนั้น เป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือเปล่า
.
หลายคนเก่งนะครับ สร้างสามารถหาเนื้อหา Content ดีๆ มากระตุ้นการจดจำได้
.
แต่เมื่อถึงระยะหนึ่ง สิ่งที่ทำให้เราไปต่อไม่ได้ก็เกิดขึ้น คือ อาการ “ตันคอนเทนต์” คิดไม่ออก ไม่รู้จะโพสต์อะไรอีกต่อไปดี
.
ทางแก้ที่ผมอยากจะแนะนำให้ SME ไทย หันกลับมาทบทวนกันจริงๆ จังๆ กันคือ อยากให้เรียงลำดับความสำคัญของกระบวนการทางการตลาดกันเสียใหม่
.
เพราะการใช่สื่อ เป็นระดับการทำงานปลายทางครับ ไม่ใช่ต้นทาง
.
ซึ่งแท้จริงๆ แล้วกลยุทธ์การตลาดต่างหากล่ะ คือแก่นกระพี้ของการสื่อสารการตลาดดิจิทัลที่แท้จริง
.
หากมีกลยุทธ์แล้ว เชื่อผมเถอะ เราจะสามารถสร้างเนื้อหาดีๆ ที่ตอบสนองให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยากติดตาม ชื่นชม และรักในความเป็นแบรนด์เราได้ตลอดต่อเนื่อง
.
ลองกลับไปทบทวนกันดูนะครับพี่น้อง SME ชาวไทย ว่าวันนี้เรากำลังเริ่มต้นในขั้นตอนที่ถูกต้องอยู่ หรือเรากำลังก้าวผิดจุดไป ลองย้อนกลับมาดูกันหน่อยครับ ว่าวันนี้ แก่นกระพี้ของสินค้าและบริการของเราคืออะไร
.
ทำไมโลกใบนี้ต้องการสินค้าหรือบริการของคุณ
.
ถ้ากลยุทธ์คุณดี เนื้อหาของคุณที่สื่อออกมาก็จะดีด้วย และการตอบสนองของกลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นตัวสะท้อนความเป็นจริงนั้นออกมา