ลงทุน360

ลงทุน360 แอดไลน์กลุ่มเพจผมไว้ มีคลาสเรียนลงทุน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ
https://lin.ee/O33Bwwv
(1)

Chris Camillo คือหนึ่งในนักลงทุนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “วิธีคิดต่าง” ก็สร้างผลลัพธ์มหาศาลได้ จากเงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 20,00...
25/08/2025

Chris Camillo คือหนึ่งในนักลงทุนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “วิธีคิดต่าง” ก็สร้างผลลัพธ์มหาศาลได้ จากเงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 20,000 ดอลลาร์ เขาปั้นพอร์ตโตเกิน 80 ล้านดอลลาร์ ด้วยกลยุทธ์ที่เรียกว่า Social Arbitrage หรือ Observational Investing
หลักคิดสำคัญของ Social Arbitrage
สังเกตพฤติกรรมคนจริงๆ ไม่ได้พยายามทำนายอนาคต แต่ใช้การกรอง “สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว” ในสังคม วัฒนธรรม เทรนด์ผู้บริโภค ก่อนที่ตลาดการเงินจะรับรู้
เลี่ยง Bias ส่วนตัว เขาไม่เชื่อใน “ลงทุนในสิ่งที่เรารู้จัก” เพราะมันเสี่ยงจะหลงรักหุ้นผิดๆ คำแนะนำคือออกไปสำรวจสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย
วิสัยทัศน์ยาว 20 ปี จุดมุ่งหมายคือพิสูจน์ว่ากลยุทธ์นี้ไม่ใช่แค่ฟลุค แต่ใช้ได้จริงในระยะยาว
ตัวอย่างการลงทุนจากการสังเกต
TikTok = เครื่องวัดวัฒนธรรม อ่านคอมเมนต์ TikTok เพื่อจับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม รู้ทันตลาดก่อนนักวิเคราะห์การเงิน
Crocs, GameStop, Labubu เทรนด์ที่เขามองเห็นตั้งแต่เนิ่นๆ จนทำกำไรได้จริง
ถ้าอยากเริ่มต้นแบบเดียวกันควรทำตามนี้
1. ฝึก “มองรอบตัว” เหมือนนักสืบ
แทนที่จะอ่านแต่บทวิเคราะห์หุ้น ลองสังเกตชีวิตประจำวัน
ร้านไหนคนต่อคิวยาว
แอปไหนเพื่อนใช้เยอะ
สินค้าไหนไวรัลใน TikTok / IG / Twitter
เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค
2. ใช้ Social Media เป็นเรดาร์
Camillo บอกว่า TikTok, Reddit, Twitter คือขุมทองในการหาข้อมูล
อย่าดูแค่ Content ที่ดัง แต่สังเกต “คอมเมนต์” ว่าคนพูดถึงยังไง
ดูว่ามีอะไรที่กำลังโตแบบปากต่อปาก โดยที่วอลล์สตรีทยังไม่พูดถึง
3. ระวัง Bias ตัวเอง
มือใหม่มักหลงรักหุ้นที่ตัวเองใช้ เช่น “เราชอบ iPhone ก็ซื้อแต่ Apple”
แต่ Camillo บอกว่าให้มอง สิ่งที่ไม่คุ้นเคย เพราะนั่นคือจุดที่เรายังไม่มีอคติ
4. เริ่มเล็ก แต่ทดลองจริง
ไม่ต้องทุ่มเงินก้อนโตตั้งแต่แรก Camillo เริ่มด้วย 20,000 ดอลลาร์ → โตเป็น 80 ล้าน
มือใหม่อาจลองลงเล็กๆ ในหุ้นหรือ ETF ที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์ที่เราสังเกตได้จริง

จีนเดินหน้าเร่ง “ปิดประตูพึ่งพาต่างชาติ” สั่งให้ดาต้าเซ็นเตอร์ภายในประเทศต้องหันมาใช้ชิปที่ผลิตโดยบริษัทจีนเองมากกว่า 50...
24/08/2025

จีนเดินหน้าเร่ง “ปิดประตูพึ่งพาต่างชาติ” สั่งให้ดาต้าเซ็นเตอร์ภายในประเทศต้องหันมาใช้ชิปที่ผลิตโดยบริษัทจีนเองมากกว่า 50%
มาตรการนี้เริ่มต้นจากแนวทางของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้ว และล่าสุดได้ขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการลงทุนมหาศาลทั่วโลกในดาต้าเซ็นเตอร์และ AI พร้อมกับแนวโน้มชาตินิยมด้านเทคโนโลยีที่เข้มข้นขึ้น
ผลกระทบชัดเจนคือการลดการพึ่งพาชิปสหรัฐอย่าง Nvidia และ AMD ซึ่งถูกจำกัดการส่งออกมานาน ทั้งยังขายได้เพียงรุ่น “ลดสเปก” พร้อมเงื่อนไขต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐ ข้อจำกัดเหล่านี้ผลักให้จีนต้องเร่งลงทุนสร้างซัพพลายเชนชิปในประเทศเอง แทนที่จะพึ่งพาช่องทางลักลอบหรืออ้อมไปซื้อผ่านประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือชิปจีนยังตามหลังคู่แข่งตะวันตกหลายปี โดยชิปในประเทศสามารถรองรับการประมวลผล AI inference ได้ แต่ยังไม่แรงพอสำหรับ AI training ที่ต้องใช้พลังสูงสุด ซึ่งอาจทำให้ความก้าวหน้า AI ของจีนชะลอลง เช่นกรณีโมเดล DeepSeek R2 ที่มีรายงานล่าช้าเพราะต้องเทรนบนชิป Huawei แทน Nvidia
อีกจุดที่จีนยังเสียเปรียบคือ ecosystem ของซอฟต์แวร์ Nvidia CUDA ที่แทบจะเป็นมาตรฐานทั่วโลก ขณะที่ชิปจีนยังไม่สามารถดึงดูดนักพัฒนาได้ในระดับเดียวกัน
สรุปแล้ว นโยบายนี้คือการเร่งสร้างความมั่นคงด้านเทคโนโลยีของจีน แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงที่นวัตกรรม AI อาจก้าวช้าลงในระยะสั้น นักลงทุนต้องจับตาดูว่า “Made in China Chips” จะสามารถไล่ตามทัน และเปลี่ยนจากทางเลือกสำรองมาเป็น “ตัวจริง” ในสนามโลกได้หรือไม่.

ฟองสบู่ AI อาจแตกเร็ว แต่ “ของจริง” คือโครงสร้างพื้นฐาน data center ที่กำลังถูกสร้างไปแล้วSam Altman มองว่ากระแส AI ตอนน...
21/08/2025

ฟองสบู่ AI อาจแตกเร็ว แต่ “ของจริง” คือโครงสร้างพื้นฐาน data center ที่กำลังถูกสร้างไปแล้ว
Sam Altman มองว่ากระแส AI ตอนนี้ร้อนแรงแบบ dot-com ราคา/มูลค่าหลายส่วนวิ่งนำรายได้ จนคนไล่ FOMO เสี่ยงเจ็บตัว
ด้าน Supply ยังตึงมาก—Compute (GPU), พลังงาน, Data Center ขาดแคลน ถึงขั้นมีโมเดลที่เก่งกว่าแต่ปล่อยไม่ได้เพราะ Capacity ไม่พอ ต้องเทเงินลงทุนระดับ trillion $ เพื่อแก้คอขวด
ผมมแงว่าสำหรับนักลงทุน ควรเลี่ยง “pure AI app” ที่ยังไม่ชัดเรื่อง Monetization แล้วรอจังหวะลงทุนไปฝั่ง Infra ที่เกาะดีมานด์จริง—ชิป (GPU/HBM), Power & Cooling, ผู้พัฒนา Data Center, Fiber/Optical, และผู้รับเหมาก่อสร้างที่อยู่ในห่วงโซ่ ซึ่งหลายตัวก็ดูแพงไปมาก
ตัวเลขที่ควรติดตามคือ CapEx ของ Hyperscalers (AWS/Azure/Google Cloud), Lead time ของ GPU, อัตราใช้ศูนย์ข้อมูล (utilization), สัดส่วนรายได้จาก AI และทิศทาง Margin
สรุป AI จะเปลี่ยนโลกจริง แต่ราคา “บางมุม” ไปไกลกว่าปัจจัยพื้นฐาน ของแท้คือ Cash Flow ที่ไหลตาม CapEx รอบใหม่

Shenzhen Dobot แบรนด์หุ่นยนต์แขนกลสัญชาติจีน ที่กำลังกลายเป็นดาวรุ่งในตลาดโลก ถ้าพูดถึง “หุ่นยนต์ร่วมงาน” หรือ Cobots ที...
20/08/2025

Shenzhen Dobot แบรนด์หุ่นยนต์แขนกลสัญชาติจีน ที่กำลังกลายเป็นดาวรุ่งในตลาดโลก

ถ้าพูดถึง “หุ่นยนต์ร่วมงาน” หรือ Cobots ที่สามารถทำงานเคียงข้างมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย�หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือ Dobot
Dobot มีสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่แขนกลเล็กสำหรับห้องเรียนและงานวิจัย ไปจนถึงแขนกลอุตสาหกรรมที่ยกของหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม�ใช้ได้ทั้งในโรงงาน ค้าปลีก ร้านกาแฟ ไปจนถึงกายภาพบำบัดในโรงพยาบาล
แต่รู้ไหมว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ Dobot มาจากการเป็น บริษัทจีนเจ้าแรกในสาย Cobot ที่เข้าตลาดหุ้นฮ่องกง�และปัจจุบันยังครองตำแหน่ง อันดับ 1 ของจีน และ Top 2 ของโลก ในด้านยอดขาย Cobots
ทำไม Dobot ถึงน่าสนใจ ?�แล้วอะไรคือพลังขับเคลื่อนให้ Dobot เติบโตเร็วขนาดนี้ ?
จุดเริ่มต้นของ Dobot มาจากคุณ Liu Peichao วิศวกรหนุ่มที่ก่อตั้งบริษัทในปี 2015�จากโปรเจกต์เล็กๆ ที่เคยระดมทุนผ่าน Kickstarter จนวันนี้กลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท�เขายังคงถือหุ้นใหญ่ราว 18–19% หลัง IPO และพา Dobot ผ่านการระดมทุนมาถึง 8 รอบ
สิ่งที่ทำให้ Dobot แตกต่างคือการสร้างเทคโนโลยีเองครบวงจร ทั้งแขนกล มอเตอร์ คอนโทรลเลอร์ ซอฟต์แวร์ และ AI�เช่น SafeSkin ระบบเซนเซอร์ที่ช่วยให้หุ่นยนต์หลบการชนได้แบบไม่ต้องสัมผัส และ X-Trainer หุ่นยนต์ AI ที่เรียนรู้การทำงานจากการดูมนุษย์
ไม่เพียงแต่ในอุตสาหกรรม�Dobot ยังบุกโลกบริการด้วย Dobot Coffee Station หุ่นยนต์บาริสต้าที่ชงกาแฟ 24 ชั่วโมง�และล่าสุดเปิดตัว Dobot Atom หุ่นยนต์ Humanoid ที่มีแขน 2 ข้างและนิ้ว 5 นิ้วเหมือนมนุษย์ ราคาประมาณ 2.7 หมื่นดอลลาร์ เกือบ 9 แสนบาท�ข่าวนี้ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 28% ในวันเดียว
ปัจจุบัน Dobot ส่งออกหุ่นยนต์ไปแล้วกว่า 80 ประเทศ รายได้กว่า 60% มาจากต่างประเทศ�ลูกค้ารวมถึงบริษัท Fortune 500 และมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
ตัวอย่างความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
* ปี 2018 เป็นต้นมา Dobot ครองแชมป์ผู้ส่งออก Cobots อันดับ 1 ของจีน
* ปี 2024 เปิดตัว X-Trainer หุ่นยนต์ AI รุ่นแรกของโลกที่เรียนรู้จากการเลียนแบบมนุษย์
* ปี 2025 เปิดตัว Dobot Atom หุ่นยนต์ Humanoid ทำให้ตลาดฮือฮา
ในด้านตัวเลข ตลาด Cobots ปี 2023 มีมูลค่าเพียง 1 พันล้านดอลลาร์�แต่คาดว่าจะโตถึง 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028 หรือโต 5 เท่าใน 5 ปี�จีนเองก็กำลังจะกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนเกิน 1 ใน 3 ของโลก
และด้วยนโยบายรัฐที่หนุน Automation เต็มที่ Dobot จึงมีแรงส่งทั้งจากเทรนด์โลก และจากบ้านเกิดของตัวเอง
เรื่องราวของ Dobot คือบทพิสูจน์ว่า แค่ 10 ปี บริษัทจากสตาร์ตอัปเล็กๆ ก็สามารถกลายเป็นผู้นำตลาดโลกได้�เพราะไม่ได้มีเพียงสินค้าที่ดี แต่ยังมีทีมผู้ก่อตั้งที่กล้าลงมือทำ มีนักลงทุนหนุนหลัง และมีกระแสโลกที่ขับเคลื่อนให้เติบโต
จากแขนกลเล็กๆ ในห้องเรียน สู่หุ่นยนต์ Humanoid เดินเคียงข้างมนุษย์�นี่คือเส้นทางของ Dobot ที่กำลังถูกจับตาในฐานะ หนึ่งในผู้นำหุ่นยนต์แห่งอนาคตของโลก..

นักวิเคราะห์อันดับต้นๆของประเทศพูดถึงหุ้น Hermes ต้องติดตาม
19/08/2025

นักวิเคราะห์อันดับต้นๆของประเทศพูดถึงหุ้น Hermes ต้องติดตาม

💡 คลิปนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกธุรกิจของ Hermès✅ Hermès ทำธุรกิจอะไร? รายได้มาจากไหน ?✅ อะไรทำให้ Hermès แตกต่างจากแบร.....

18/08/2025

คืนนี้รู้กัน
สงคราม ยูเครน-รัสเซีย 3 ปี จะจบได้ไหม
ทรัมป์เรียกปธน.ยูเครนมาให้ยอมจบ หลังเคลียร์ปูตินแล้ว

Leapmotor (9863HK) EV จีนโตเร็วที่สุดปีนี้ที่หุ้นพุ่งแรงกว่า 200%!!!  คือใคร?Leapmotor ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ที่เมืองห...
18/08/2025

Leapmotor (9863HK) EV จีนโตเร็วที่สุดปีนี้ที่หุ้นพุ่งแรงกว่า 200%!!!
คือใคร?
Leapmotor ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ที่เมืองหางโจว โดยสองผู้ก่อตั้ง Zhu Jiangming และ Fu Liquan ที่ก่อนหน้านี้เคยปั้นบริษัทกล้องวงจรปิด Dahua Technology มาก่อน
ในช่วงแรก Leapmotor ยังเป็นรอง BYD และบรรดาสตาร์ตอัพอย่าง Xpeng, Li Auto แต่สิ่งที่ทำให้บริษัทนี้ทะยานขึ้นมาได้คือกลยุทธ์ “Vertical Integration” หรือการผลิตชิ้นส่วนหลักๆ เองกว่า 70% ยกเว้นแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยกดต้นทุนให้รถใหญ่ๆ ขายได้ในราคามวลชน
#รถยนต์ Leapmotor ราคานี้ใครจะไม่มอง?
ตัวอย่างคือ SUV รุ่น C11 เปิดตัวปี 2020 ราคาเริ่มต้นเพียง 148,800 หยวน (ราว 2.07 ล้านบาท) ขณะที่รถถูกสุดของ Li Auto อย่าง L6 เริ่ม 249,800 หยวน ต่างกันเกือบ 1 แสนหยวนเลยทีเดียว
นักวิเคราะห์ถึงกับเรียก Leapmotor ว่า “Li Auto ราคาประหยัด” เพราะเจาะตลาดครอบครัวที่อยากได้รถใหญ่ แต่จ่ายไม่ถึงระดับพรีเมียม
#ผลประกอบการและยอดขาย
ปี 2024 บริษัทขายได้ราว 290,000 คัน ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 500,000 คัน และคาดว่าจะพลิกเป็นกำไรครั้งแรกที่ราว 558 ล้านหยวนในปี 2025
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดขายทะลุ 50,000 คันต่อเดือนเป็นครั้งแรก แม้จะยังห่าง BYD ที่ขายกว่า 344,000 คัน/เดือน แต่ถือว่าชนะคู่แข่งสตาร์ตอัพทั้งหมดแล้ว
#ราคาหุ้นสุดร้อนแรง
หุ้น Leapmotor ในตลาดฮ่องกง (9863.HK) พุ่งจากจุดต่ำสุด 19.54 HKD เมื่อสิงหาคมปีก่อน ขึ้นมาปิดที่ 65.40 HKD ล่าสุด หรือบวกกว่า 200% ภายในปีเดียว แถม Bloomberg คาดว่ามีโอกาสไปแตะ 74.89 HKD ใน 12 เดือนข้างหน้า
#การขยายสู่ Global Player
ปี 2023 Leapmotor จับมือ Stellantis (เจ้าของแบรนด์ Chrysler, Fiat, Jeep, Peugeot) ตั้ง JV ผลิตและขายรถ Leapmotor นอกจีน ถือเป็นทางลัดไปสู่ตลาดโลก ต่างจาก BYD ที่เลือกสร้างโรงงานเองในยุโรป
ปี 2024 บริษัทส่งออกรถไปแล้ว 13,726 คัน คิดเป็น 5% ของยอดขายรวม ตัวเลขนี้ยังเล็ก แต่เป็นก้าวแรกที่น่าจับตา
#อนาคต Leapmotor
ความท้าทายคือการขยายยอดขายไปถึงระดับ 1 ล้านคันต่อปีให้ได้เหมือน BYD และ Tesla ซึ่งเป็นจุดพิสูจน์ว่าใครคือผู้นำตัวจริง
อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง แผนการขยายตลาดโลกผ่าน Stellantis และกระแสผู้บริโภคจีนที่หันมามอง “ความคุ้มค่า” มากกว่าหรูหรา Leapmotor กำลังกลายเป็นม้ามืดตัวจริงในสมรภูมิ EV
ใครที่กำลังหาหุ้น EV ดาวรุ่งจีนที่วิ่งแรงกว่าตลาด Leapmotor อาจเป็นชื่อที่ไม่ควรพลาดใน Watchlist

ถ้าพูดถึง Robotaxi และ Autonomous Shuttle ที่เริ่มวิ่งจริงในหลายเมืองทั่วโลก หนึ่งในชื่อที่โผล่มาบ่อยคือ WeRide (NASDAQ:...
17/08/2025

ถ้าพูดถึง Robotaxi และ Autonomous Shuttle ที่เริ่มวิ่งจริงในหลายเมืองทั่วโลก หนึ่งในชื่อที่โผล่มาบ่อยคือ WeRide (NASDAQ: WRD) ส่วนในอาเซียน ถ้าเอ่ยถึงเครือข่ายผู้โดยสารและคนขับที่ใหญ่สุด ๆ ก็หนีไม่พ้น Grab (NASDAQ: GRAB)
ล่าสุดทั้งคู่ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ พร้อม เงินลงทุนจาก Grab เข้า WeRide เป้าหมายคือเร่ง deployment + commercialization ของ Level 4 AV ให้ “ขึ้นถนนจริง” และ “เชื่อมต่อเนียน” กับแอป Grab เพื่อยกระดับ ความปลอดภัย–ประสิทธิภาพ–ประสบการณ์ผู้โดยสาร
ทำไมดีลนี้ถึงน่าสนใจ
แล้ว WeRide มาอยู่ “ภายใต้ปีก” เครือข่ายของ Grab ได้อย่างไร ?
จุดเริ่มต้น—วิสัยทัศน์ของ WeRide x เครือข่ายของ Grab
WeRide ก่อตั้งโดย Dr. Tony Han วิศวกร/นักวิจัยด้าน AI ที่ผลักดัน Level 4 AV ให้วิ่งเชิงพาณิชย์ในหลายประเทศ เป้าหมายชัด: “Deploy Robotaxi หลายพันคัน” ด้วยการขยายแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกฎระเบียบท้องถิ่น
Grab ภายใต้การนำของ Anthony Tan มีฐานผู้ใช้ มหาศาล โครงสร้างพื้นฐาน fleet management, matching, routing, customer support ครบเครื่อง แต่อุปสรรคสำคัญคือ ข้อจำกัดแรงงานคนขับในบางเมือง/บางเวลา ซึ่ง AV สามารถ “เสริมกำลัง” ให้เครือข่ายดีมานด์-ซัพพลายสมดุลขึ้น
ไทม์ไลน์ดีล & เป้าหมาย
- โครงสร้างดีล: Grab ลงทุนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Equity Investment) ใน WeRide
- คาดปิดดีล: ภายใน ครึ่งแรกปี 2026 (ขึ้นกับเงื่อนไขปิดดีลตามปกติ และจังหวะเวลาที่ WeRide เหมาะสม)
- วัตถุประสงค์หลัก: ขยายฝูง Robotaxi/Shuttle เชิงพาณิชย์ในอาเซียน + อินทิเกรตเทคโนโลยี WeRide เข้า ระบบปฏิบัติการของ Grab แบบ end-to-end
- มี.ค. 2025: ลงนาม MoU สำรวจความเป็นไปได้ทางเทคนิค/พาณิชย์ และศักยภาพการสร้างงานจาก AV ในอาเซียน
- ส.ค. 2025: ประกาศ ดีลลงทุน + พาร์ตเนอร์เชิงลึก เตรียมโครงสร้างการทดสอบ/ขยายบริการ Level 4 ในเมืองเป้าหมาย
- โรดแมป 2025–2026: เลือก เมืองนำร่อง (geofenced zones) → เก็บ Safety Metrics จริงบนถนน → เพิ่ม uptime และความพร้อม maintenance/charging → ขยายบริการตามกรอบกำกับดูแล

17/08/2025

วันนี้ยังดูเหมือนเฮฮาแต่ผมมองว่าคือการเริ่มต้นที่ดี จับตา 3-5 ปีนี้จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกได้เลยในการนำหุ่นยนต์มาใช้งาน

16/08/2025

หุ้นลุ้น 10 เด้ง - HSAI โตเร็วกว่าที่เคยคิด เพราะได้ธีมหุ่นยนต์มาช่วย
ผมเล่าไว้ในคลิปว่า HESAI ขาย LiDAR เพิ่มขึ้นหลัก 100 เท่าภายในเวลา 3 ปี แล้วคิดว่าปีนี้คงได้ซัก 1 ล้านตัว แต่จากงบครึ่งปีดูแล้วปีนี้อาจจะขายถึง 1.2-1.5 ล้าน เร็วกว่าที่คิดเพราะว่าได้ธีมหุ่นยนต์ กลายเป็นว่า Robotic มาลากหุ้นไปอีกแรง�
เล่าหุ้นตัวเต็มในคอมเม้นครับ

Hesai ผู้ปั้น “Hesai Inside” ให้กลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานบนรถปี 2026เป้าหมายของค่ายรถวันนี้ไม่ใช่แค่ทำ EV ให้ราคาถูกลง แต่ค...
15/08/2025

Hesai ผู้ปั้น “Hesai Inside” ให้กลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานบนรถปี 2026
เป้าหมายของค่ายรถวันนี้ไม่ใช่แค่ทำ EV ให้ราคาถูกลง แต่คือทำให้รถ “มองเห็น–ตัดสินใจ–เบรกเอง” ได้ปลอดภัยขึ้น
LiDAR เลยกลายเป็นหัวใจของ ADAS และชื่อที่ OEM เลือกติดตั้งจากโรงงานมากขึ้นคือ Hesai
ไตรมาสล่าสุด บริษัทพลิกกำไร รายได้โตแรง และดีลใหม่ไหลเข้าแบบต่อเนื่อง
#ปั้นแบรนด์HesaiInside
LiDAR ระยะไกลของ Hesai ถูกเลือกเป็นมาตรฐาน (standard feature) บนหลายรุ่น
ไตรมาสนี้ได้ design wins สำหรับ 20 รุ่น จาก 9 ยี่ห้อ
แถมมี platform win กับลูกค้า ADAS ระดับ Top-2 หมายถึง “หลายรุ่นปี 2026 ติด LiDAR ตั้งแต่โรงงาน”
ยุโรปก็ไปถึง C-sample กับ Top European OEM ตามไทม์ไลน์ผลิตจริงปี 2026
จีน–ญี่ปุ่นก็มา: ชนะดีล Toyota JV ในจีน เป้าผลิตปี 2026 เช่นกัน น่าจะเป็นครั้งแรกที่รถญี่ปุ่นยอมติด Lidar จีน
#ทำไมตอนนี้
Hesai พรีเซนต์นวัตกรรมบนรถจริงที่งาน Shanghai Auto Show
LiDAR ระยะไกลขึ้นของ SAIC Audi และเป็น in-cabin LiDAR หลังกระจกบังลมบน Cadillac VISTIQ (SAIC-GM)
บริษัทยังเป็นแกนนำร่างมาตรฐาน LiDAR แห่งชาติจีน GB/T 45500-2025 (มีผล เม.ย. 2025)
ฝั่งดีมานด์ก็แรง: SUV ไฮเอนด์จาก “บิ๊กเทคจีน” ที่ติด LiDAR เป็นมาตรฐาน มียอดจอง 2.89 แสนคันใน 1 ชั่วโมง
และ Hesai คว้า platform win สำหรับหลายรุ่นปี 2026 ของค่ายนี้แล้ว
#ตัวเลขที่ต้องรู้
รายได้ไตรมาส 2/2025 706 ล้านหยวน (+53.9% yoy)
ยอดส่งมอบ LiDAR รวม 352,095 ชิ้น (+306.9% yoy)
เฉพาะ ADAS 303,564 ชิ้น (+275.8% yoy)
Gross Margin 42.5% (ลดจาก 45.1% เพราะ NRE ลดลง) แต่ ต้นทุน/สเกลดีขึ้น
พลิกเป็น กำไรสุทธิ 44 ล้านหยวน (จากขาดทุนปีก่อน)
= ลมหนุน Physical AI
Hesai อันดับ 1 จีน ด้านยอดส่งมอบ LiDAR H1/2025
ซีรีส์ JT สำหรับหุ่นยนต์ (เช่น หุ่นตัดหญ้า) ส่งมอบสะสม เกิน 100,000 ชิ้น แล้ว
เทรนด์ Physical AI ต้องการ “ดวงตา” ที่แม่นยำ–ทนทาน LiDAR เลยยังเป็น best sensor สำหรับการเคลื่อนที่อัตโนมัติ
Order book ปี 2026 จาก Top-2 ลูกค้า ADAS + Toyota + Top EU OEM
Operating leverage จากวอลุ่มโต 3–4 เท่า y/y เทียบกับแรงกดดัน ADAS ASP คงช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นเยอะ
#ความเสี่ยง
การแข่งขันราคาของ LiDAR ในจีน
#บริษัทผู้ผลิต
Hesai Group (NASDAQ: HSAI) ผู้ผลิต LiDAR สำหรับ ADAS & Robotics
ครึ่งปีแรก 2025 ยอดส่งมอบรวม แซงทั้งปี 2024 แล้ว และติดอันดับ #1 installation volume ในหมวด long-range LiDAR ช่วงดังกล่าว
สรุป
Hesai กำลังก้าวจาก “ดีลได้เยอะ” สู่ “สเกลผลิตจริง”
ถ้าปี 2026 เดินตามแผนและคุมต้นทุนได้ มาร์จิ้น–กำไรมีโอกาสขยาย
นักลงทุนที่เล่นธีม ADAS/Physical AI ควรจับตา shipments, ASP, GPM, และไทม์ไลน์ SOP ใกล้ ๆ เลยครับ

จีนมาแผนใหม่จะให้รัฐวิสาหกิจด้านการเงิน ธนาคาร มาซื้ออสังหา อันนี้คล้ายกับนโยบายสหรัฐปี 2008 ในวิกฤตซับไพร์มที่ยกเศรษฐกิ...
14/08/2025

จีนมาแผนใหม่จะให้รัฐวิสาหกิจด้านการเงิน ธนาคาร มาซื้ออสังหา อันนี้คล้ายกับนโยบายสหรัฐปี 2008 ในวิกฤตซับไพร์มที่ยกเศรษฐกิจขึ้นมาได้

เห็นเลยว่ารัฐบาลทำืุกอย่างเพื่อยกเศรษฐกิจและตลาดหุ้น 🤨🤨

ที่อยู่

Phra Nakhon

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ลงทุน360ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์