
30/09/2025
เปิดตัว art4d 288: The Codex และเรื่องเล่าในเช้าวันอาทิตย์
ปกติแล้วเรา (art4d) มักจะจัดงานเปิดตัวหนังสือกันในตอนเย็นถึงค่ำ แต่กับใน art4d 288: The Codex เป็นงานแรกที่เราจัดกันในช่วงเช้า ซึ่งมันก็เริ่มง่ายๆ จากที่ศัลยเวทย์ ประเสริฐวิทยาการ ผู้ร่วมทำหนังสือกับ art4d ในครั้งนี้บอกกับเราว่า “ผมอยากชวนเพื่อนมาทานกาแฟกันวันอาทิตย์”
งานนี้เลยเหมือนเป็นงานรวมตัวเหล่ากัลยาณมิตรของศัลยเวทย์ ทั้งจากแขกที่มาร่วมงาน หรือแม้แต่ตัวสถานที่จัดงานอย่าง Eyes Open Space by Chamni's Eye และ catering จากทีม Uhura Project (ทั้งสองล้วนแต่เคยเป็นลูกค้าที่ศัลยเวทย์เคยออกแบบให้)
ในงานนี้ เรายังได้รับเกียรติจาก ดร. ชมชน ฟูสินไพบูลย์ มาชวนพูดคุยสั้นๆ ในหัวข้อ ‘Sketch / Style / Signature’ ซึ่งว่าเป็นสามสิ่งที่สำคัญที่ดร. ชมชนมองเห็นในงานของ ศัลยเวทย์และ Atelier of Architects ตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดร. ชมชนเองก็ไม่ได้พาเราดำดิ่งผ่านแว่นของทฤษฎีอะไรที่เป็นวิชาการ หากแต่เพียงแค่ชวนให้คิดต่อกันว่านอกเหนือจากผลงานที่ออกมา กระบวนการทำงานและกระบวนการคิดที่บุคคลภายนอกมองเข้าไปนั้นมีอะไรบ้าง
วงคุยถัดมานั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบุญชัย เทียนวัง จาก Stonehenge ได้หยิบเกม ‘This or That’ มาให้ศัลยเวทย์เล่นเสียอย่างนั้น (!?) ซึ่งทีนี้ก็กลายเป็นความครื้นเครงอย่างคาดไม่ถึง คนที่รู้จักศัลยเวทย์จะรู้ดีว่าเขาคลั่งใคล้ในสถาปัตยกรรมขนาดไหน ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เราได้เห็นอีกมุมของศัลยเวทย์ที่ต้องมาคอยตอบว่าชอบดาราคนไหนมากกว่า ชอบภูเขาหรือทะเล ฯลฯ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ชวนฮาก๊ากและเรียกเสียงหัวเราะได้เอิ้กใหญ่จากเหล่าเพื่อนๆ ของเขาทุกคน
“ปกติเหลียงจะเป็นคนที่ดูเคร่งครัด ผมแค่อยากทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของเหลียงก็เท่านั้นน่ะ” บุญชัยพูดอย่างอารมณ์ดีถึงกิจกรรมสุดครีเอทที่เขาเตรียมมาเซอไพรส์เพื่อนสนิทของเขา
หลังจากหยอกล้อกันสักพัก บุญชัยก็ชวนศัลยเวทย์มาพูดคุยถึงเรื่องชีวิตและผลงานกันสั้นๆ ก่อนเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ถามคำถามกัน ในบรรดาคำถามที่ล้วนแต่น่าสนใจ มีคำถามหนึ่งที่ชวนให้ฉุกคิดไม่น้อย
“พี่เหลียงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากทำหนังสือเล่มนี้”
ศัลยเวทย์ตอบว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เขาได้ทบทวนตัวเองอีกครั้งผ่านผลงานทุกชิ้นที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการรวบรวมผลงานในอดีตอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนการหยุดคิดเพื่อตกตะกอน ก่อนจะออกเดินทางต่อไปในอนาคต ศัลยเวทย์เปรยๆ ขึ้นอีกว่า ในอนาคตเขาเองอยากลองทำงานให้หลากหลายขึ้นอีก อาจจะลองผสมแนวทางที่เคยทำในอดีตให้เป็นแนวทางใหม่
ผลงานที่ผ่านมาของศัลยเวทย์ และ Atelier of Architects นั้นมีด้วยกันหลากหลายสไตล์ (ซึ่งพอแบ่งออกได้คร่าวๆ เป็น 5 แนวทาง แต่กระนั้นผลงานหลายๆ ชิ้นก็มีความคาบเกี่ยวกันในบางประเด็น) ตั้งแต่ Berkeley international school ที่เป็นงาน period งาน Summit Tower ที่เป็นอาคารสูง Mixed-use ไปจนถึงเจดีย์วัดโพธิ์ทองที่เป็นงานไทยประเพณี ฯลฯ โดยแต่ละผลงานของเขานั้นไม่ได้เป็นแค่เรื่องของสถาปัตยกรรม แต่หลายๆ ผลงานนั้นย้อนกลับมาและทำให้เขาได้ตั้งคำถามมากมายถึงชีวิต ซึ่งผู้อ่านทุกท่านสามารถอ่านเนื้อหาเต็มๆ ได้ในหนังสือ
มีอยู่ช่วง บุญชัยหยอกศัลยเวทย์ว่า “ถ้าถามว่าเหลียงเป็นคนแบบไหน ให้ลองไปดูที่ caption สั้นๆ ที่เขาเขียนไว้ใน LINE ก็ได้” เนื้อความนั้นเขียนไว้ว่า “ผมไม่ใช่คนที่แค่ออกแบบสถาปัตยกรรม แต่ผมใช้สถาปัตยกรรมทำความเข้าใจโลกใบนี้”
ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเองของงานเปิดครั้งนี้ มีบทสนทนาและเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่สำหรับเราที่มองเข้าไป มันมีเรื่องที่เราเห็นด้วยกันสองอย่าง
หนึ่งคือเราเห็นคนๆ หนึ่งที่รักในสิ่งที่เขาทำมากว่า 25 ปี (หากรวมช่วงก่อนการก่อตั้ง Atelier of Architects เข้าไปด้วย) และจะคงทำนั้นต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความรักในอาชีพที่เขายึดมั่นมาโดยตลอดภายใต้ร่มของการเป็น ‘สถาปนิก’
สองคือช่วงเวลาของการนัดเพื่อนมาดื่มกาแฟกันในเช้าวันอาทิตย์นั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายจริงๆ
_
Text: Kita Thapanaphannitikul
Photo courtesy of art4d