ปลาเป็น ว่ายทวนน้ำ Plapen Film Studio

ปลาเป็น ว่ายทวนน้ำ Plapen Film Studio We are an independent film studio
เราเชื่อว่า ศิลปะต้องรับใช้ชีวิตและสังคม

เราเกิดมาจากความอยากจะเล่าเรื่องที่แตกต่างหลากหลาย
เราศึกษาหนังตลอด
เราให้ความสำคัญกับความเป็นศิลปะและศิลปิน
เราทำทั้งหนังสั้นและหนังยาว
เราเชื่อมั่นในพลังของหนัง
เราเชื่อมั่นในพลังคนหนุ่มสาว
เรายินดีให้ความรู้และทำการอบรมให้กับคนรุ่นใหม่
เราทำหนังทุนน้อย ใช้เงินเท่าที่จำเป็น มีเท่าไหร่ เราทำเท่านั้น
แต่เราจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

น่าสนใจมาก
26/10/2025

น่าสนใจมาก

🖋️เชิญชวนส่งเรื่องสั้นเข้าร่วมประกวด

โครงการวรรณมาลัยเรื่องสั้น
"จำลักษณ์นายทองอิน รัตนะเนตร์"

เพื่อค้นหาผลงาน'รหัสคดี' เรื่องสั้นสืบสวนสอบสวน ที่จะผ่านการคัดเลือกจากคณะบรรณาธิการ จำนวน 5 เรื่อง มาตีพิมพ์ร่วมกับนักเขียนรหัสคดีแถวหน้าของไทย เช่น แก้วเก้า นายา พงศกร ฯลฯ

โดยจำลักษณ์มาจาก "ประพฤติการณ์ของนายทองอิน รัตนะเนตร์ " พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระมหากษัตริย์นักประพันธ์ ที่ทรงใช้พระนามแฝง "รามจิตติ"

💎และร่วมรำลึกวาระ 100 ปี ที่ทรงสวรรคต

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์ : https://drive.google.com/file/d/1x2JeZW25T7JuHc2wo5IFAkk8zGhhyidC/view?usp=drivesdk

น่าสนใจ
26/10/2025

น่าสนใจ

#เผื่อใครสนใจ

การศึกษาวิเคราะห์ความรักในทัศนะ อัลแบรต์ กามูส์ AN ANALYTICAL STUDY OF LOVE IN ALBERT CAMUS'S PERSPECTIVE

Link ในคอมเมนต์

23/10/2025

ดูก่อนหมดวาระครับ

นั่นสิ ทำไม?
22/10/2025

นั่นสิ ทำไม?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ตอนนี้กระแสชาตินิยมในไทยกำลังโหมรุนแรงจากความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา และดูเหมือนว่าศัตรูของชาตินิยมในขณะนี้จะไม่ใช่เพียงชาติคู่ขัดแย้ง แต่ยังเป็นนักสิทธิมนุษยชนอีกด้วย
แน่นอนว่าในมุมของสิทธิมนุษยชน เราสามารถตั้งคำถามได้มากมายต่อรัฐกัมพูชา ตั้งแต่การกดขี่คนในชาติตัวเอง ปลุกปั่นกระแสชาตินิยมในประเทศตนและผลักให้คนไทยเป็นตัวร้ายในสายตาคนกัมพูชา จนถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับแก๊งสแกมเมอร์ที่กดขี่และละเมิดสิทธิผู้คนหลายเชื้อชาติ และขณะเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถตั้งคำถามกับรัฐไทยรวมถึงวิธีการของไทยในการตอบโต้ต่อความขัดแย้งครั้งนี้ เช่นการให้เอกชนเข้าไปในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นหลักในการอยู่ร่วมกันของสากลโลกและเป็นการปกป้องสิทธิของ ‘มนุษย์ทุกคน’ โดยไม่แบ่งแยก
และนักสิทธิมนุษยชนบางส่วน เช่นอังคณา นีละไพจิตร และสุณัย ผาสุข ก็ได้ออกมายืนยันถึงหลักการของสิทธิมนุษยชน หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้คนจำนวนมากและแม้แต่สื่อกระแสหลักกลับมองว่าการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนนั้นไม่ต่างจาก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” เพราะไม่ยอมโจมตี ‘ศัตรู’ หรือถึงขั้นมองว่าพวกเขาเป็น “คนไทยหัวใจเขมร” ที่ขายชาติทำเพื่อปกป้อง ‘ศัตรู’ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความเข้าใจสิทธิมนุษยชนผิดไปมากเพราะที่ผ่านมาการเรียกร้องสิทธิให้กับคนทั้งในไทยและนอกไทยก็เกิดขึ้นตลอดมาไม่ได้แบ่งแยกอยู่แล้ว อีกทั้งการรักชาติก็สามารถมาในรูปแบบการเรียกร้องให้ชาติเคารพหลักการของมนุษยชนเพื่ออยู่ร่วมกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียม
หากแต่กระแสชาตินิยมครั้งนี้ได้ผลักให้ผู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชนกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม ตัวของอังคณาและสุณัยเองถูกข่มขู่ คุกคาม และต้องเผชิญกระแสเกลียดชังมากมายทางออนไลน์ จนต้องร้องขอการยืนยันความปลอดภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โอกาสนี้เราจึงอยากลองชวนไปดูกันว่า อะไรบ้างที่ทำให้แนวคิดชาตินิยมมักไปด้วยกันไม่ได้กับหลักสิทธิมนุษยชน เพราะสิ่งนี้กำลังชัดเจนขึ้นในหลายๆ ประเทศไม่ใช่เพียงประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับตาและน่ากังวลทีเดียวกับทิศทางของโลกในอนาคต
1. เพราะจุดศูนย์กลางต่างกัน ชาตินิยมวาง ‘ชาติ’ เป็นจุดศูนย์กลาง สิทธิมนุษยชนวาง ‘มนุษย์’ เป็นศูนย์กลาง
ชาตินิยมมองว่าชาติคือสิ่งสูงสุด ทุกอย่างต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติหรืออำนาจหลักของชาติ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตหรือศักดิ์ศรีของคนบางกลุ่มก็ตาม ขณะที่สิทธิมนุษยชนยืนยันว่า ‘มนุษย์ทุกคน’ คือศูนย์กลางของคุณค่า ไม่ว่ามาจากชาติ ศาสนา หรือเชื้อชาติใด การเคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์จึงต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางการเมืองหรือพรมแดนของรัฐ
2. เพราะชาตินิยมให้ความสำคัญกับการ ‘ขีดเส้นพรมแดน’ ขณะที่สิทธิมนุษยชนนั้น ‘ข้ามเส้นพรมแดน’
ชาตินิยมสร้างเส้นแบ่งระหว่าง ‘พวกเรา’ กับ ‘พวกเขา’ ระหว่างคนในชาติและคนนอกชาติซึ่งอิงกับพื้นที่กำเนิดซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถเลือกได้ แต่สิทธิมนุษยชนปฏิเสธเส้นแบ่งนั้น เพราะศักดิ์ศรีความเป็นคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรมแดน ไม่ว่าความเจ็บปวด ความสูญเสีย หรือการถูกละเมิดจะเกิดขึ้นที่ไหน มันคือเรื่องของมนุษยชาติทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งไม่ตอบโจทย์กระแสชาตินิยมอย่างรุนแรง
3. เพราะชาตินิยมต้องการความเป็น ‘เอกภาพ’ ขณะที่สิทธิมนุษยชนสนับสนุน ‘ความเป็นปัจเจก’
ชาตินิยมเรียกร้องให้ทุกคนคิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน รักและเกลียดสิ่งเดียวกัน เพื่อสร้าง ‘เอกภาพของชาติ’ แต่สิทธิมนุษยชนยืนอยู่บนหลักว่า ความเป็นปัจเจกที่หลากหลายคือรากฐานของสังคมเสรี มนุษย์มีสิทธิที่จะคิดต่าง พูดต่าง และใช้ชีวิตในแบบของตนได้โดยไม่ถูกตีตราว่า “ไม่รักชาติ” การปกป้องเสรีภาพของปัจเจกจึงไม่ใช่การทำลายชาติ แต่คือการทำให้ชาติเข้มแข็งด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน
4. เพราะชาตินิยมมักกำหนด ‘ศัตรูของชาติ’ ซึ่งบางครั้งก็ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
ในเมื่อชาตินิยมต้องมี ‘ศัตรู’ เพื่อสร้างความสามัคคีภายใน คนที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติ ชนกลุ่มน้อย หรือแม้แต่นักสิทธิมนุษยชน จึงถูกทำให้เป็นเป้าของความเกลียดชัง ทั้งที่ในความเป็นจริง การปกป้องสิทธิมนุษยชนคือการปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน ไม่ใช่การเข้าข้างฝ่ายใด
5. เพราะการตั้งคำถามกับวิธีการของรัฐมักถูกเหมาว่าเป็นการ ‘ทรยศต่อชาติ’ และเป็นภัยต่อความมั่นคง
ในช่วงเวลาที่กระแสชาตินิยมเข้มข้นรุนแรง การวิพากษ์หรือตั้งคำถามต่อรัฐ แม้จะเป็นไปเพื่อความยุติธรรมมักถูกตีความว่า “ไม่รักชาติ” ทั้งที่การตรวจสอบอำนาจรัฐคือหัวใจของสังคมประชาธิปไตย และเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน แต่ดูเหมือนว่าทิศทางของโลกในช่วงเวลานี้และอาจจะในอนาคต กำลังมองว่าการเอา ‘ชาติ’ ตัวเองให้มั่นคงอยู่รอดส่วนคนอื่นไม่สำคัญนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง ที่สุดแล้วก็อาจนำไปสู่การแบ่งแยกอย่างไม่มีสิ้นสุด และจำต้องมีคนที่ถูกเหยียบย่ำกดขี่อยู่เสมอเพียงเพราะเป็นอื่น ซึ่งหากจะมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง ก็คงจะไม่ผิดเสียทีเดียว

ครูของกระผมเหมือนครับท่านเจ้าสำนัก
17/10/2025

ครูของกระผมเหมือนครับท่านเจ้าสำนัก

Werner Herzog ณ เชียงใหม่

แวร์เนอร์ แฮร์โซก ตำนานภาพยนตร์ที่ยังมีชีวิต นับถือเขาเป็นครูภาพยนตร์คนแรก เพราะได้ดูตั้งแต่สมัยยังวัยรุ่น น่าจะประมาณวัยที่เพิ่งเริ่มอ่าน "คนนอก" Albert Camus, 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยว หรือ ยาสุนาริ คาวาบาตะ ได้ไม่นาน

Herzog เคยบอกว่าเขา “กำกับสัตว์และกำกับทิวทัศน์” ได้ และยังบอกว่าหนังของเขาแสดง “ภูมิทัศน์ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน” ฟังดูโม้ไม่เบา แต่สำหรับหนังเขาในยุคแรก อย่าง Signs of Life, Fata Morgana, Even Dwarfs Started Small ก็ดูน่าเชื่อนะ ซึ่งบอกได้ว่า แวร์เนอร์ ไม่ได้สนใจการเล่าเรื่องเท่าไร ที่จริงการเล่าเรื่องของเขา หลายคนอาจจะมองว่าดูเหมือนมือสมัครเล่นด้วยซ้ำ บทหนังก็ใช่ว่าจะแข็งแรงอะไร แต่ยังไงภาพนิมิตบางอย่างในหัวเขา โดยเฉพาะหนังยุคแรกๆ 60, 70 มัน pure visual ในแบบสุดอุตริพิกลมากๆ (แม้เขาจะกำกับโอเปร่าด้วย) แต่เรานึกภาพเขาไปทำอย่างอื่นนอกจากหนังไม่ออก เหมือนอย่าง ฟาสบินเดอร์, อิงมาร์ เบิร์กแมน, มิฆาเอล ฮาเนเก้ หรือ ออร์สัน เวลส์ ซึ่งถ้าไม่มีหนังให้ทำ พวกนี้ก็คงไปเอาดีทางละครเวทีได้สบาย (แต่เชื่อหรือไม่ แวร์เนอร์ บอกว่าหนังเขาน่ะสู้งานเขียนเขาไม่ได้ อีกหน่อยงานเขียนของเขาจะเป็นอมตะ ไม่เหมือนงานหนังซึ่งจะถูกลืม - นอกจากหนังสือต่างๆ แกก็ยังเขียนนิยายออกมาด้วยเล่มหนึ่ง)

แน่นอนว่าตั้งแต่แวร์เนอร์อยู่กินในอเมริกา ทำหนังใช้ดาราดังฮอลลีวูด พลังทางภาพแกแผ่วลงไม่น้อย ความดิบ ความบริสุทธิ์ และความเหนือจริงมหัศจรรย์หายเกือบหมด อาจเป็นเรื่องของวัยด้วยเหมือนกัน ยุคหลังหนัง fiction ของแกเลยแข็งแรงสู้สารคดีของแกไม่ได้ (แต่ต้องไม่ลืมว่าสารคดีของแกก็ผสม fiction อยู่เหมือนกัน)

โชคดีมีโอกาสเจอ Werner Herzog อยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ลอนดอน แค่ได้ลายเซ็น ครั้งที่สองตอนเขามาถ่าย Rescue Dawn ที่เชียงใหม่ กับ Christian Bale, Jeremy Davies (The Million Dollar Hotel) มีโอกาสได้เข้าเฝ้าใกล้ชิด (ขอบคุณธเนศน์ นุ่นมันและกองถ่ายฝ่ายไทยที่ช่วยประสานงาน) แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการได้เจอมาสเตอร์ระดับครูที่เราตามผลงานมานาน ดีใจที่ลุงแวร์เนอร์แกให้เวลาคุยเต็มที่และชวนไปดูถ่ายหนังวันรุ่งขึ้นด้วย ก็ชวนปลื้มใจ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นงานรีเมคจากสารคดีเก่า Little Dieter Needs to Fly ของแกเอง แต่มันขาดพลังแบบตอนที่แกเคยทำได้ดีมากๆ ในคราวก่อน - มารู้ทีหลังว่านักบาสอเมริกันผิวดำที่เป็นโปรดิวเซอร์เล่นเกมโกง จนโดนรัฐบาลไทยเชิญออกนอกประเทศ อาจจะฟอกเงินหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ทำให้มีปัญหาการเงินและการเมืองหลังกล้อง แต่ใครดูเรื่องนี้จะได้เห็นนักแสดงไทยเข้าไปเล่นด้วยหลายคน รวมทั้ง คาเงะ ที่แสดงละครเวทีอินดี้มานาน - (ในรูปนี้ลุงแกซูบผอมมาก ทราบทีหลังว่าแกอดอาหารตามตัวละครของคริสเตียน เบล, เจเรมี่ เดวี่ส์ และ สตีฟ ซาห์น เป็นการให้กำลังใจกัน)

หนังลุงแกในกลุ่มที่รักมาก
1. Fata Morgana
2. Signs of Life
3. Land of Silence and Darkness
4. Even Dwarfs Started Small
5. The Enigma of Kaspar Hauser
6. The Wild Blue Yonder
7. Ten Thousand Years Older

กลุ่มชอบมาก
1. Nosferatu, The Vampire
2. Heart of Glass
3. Lessons of Darkness
4. My Son, My Son, What Have Ye Done
5. Little Dieter Needs to Fly
6. Grizzly Man
7. La Soufrière
8. Bad Lieutenant: Port of Call
9. The Great Ecstasy of Woodcarver Steiner
10. Into the Abyss
11. Family Romance, LLC

กลุ่มสุดคลาสสิก แต่เฉย ๆ
1. Aguirre, Wrath of God
2. Fitzcarraldo
3. Stroszek

กลุ่มหนังดี แต่ไม่ตื่นเต้น
1. Encounters at the End of the World
2. Cave of Forgotten Dreams
3. Woyzeck
4. Wheels of Time
5. The White Diamond
6. Herdsmen of the Sun
7, The Fire Within
8. Into The Inferno
9. On Death Row
10. Nomad: Bruce Chatwin

กลุ่มเฉยชา
1. Rescue Dawn
2. Cobra Verde
3. Queen of The Desert
4. Scream of Stone
5. Where the Green Ants Dream
6. Salt and Fire
7. Invincible
8. Happy People: A Year in the Taiga

ชอบโครงการนี้ครับ ชาวเชียงรายก็ห้ามพลาด
14/10/2025

ชอบโครงการนี้ครับ ชาวเชียงรายก็ห้ามพลาด

🎬 หากคุณเชื่อว่าพื้นที่สำหรับภาพยนตร์ ที่หลากหลายคือสิ่งจำเป็น! มาร่วมขยายคอมมูนิตี้คนรักหนังในจังหวัดเชียงราย และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ผ่านภาพยนตร์

📣 ตามหาคนที่สนใจอยากร่วมทีม “ชาวฉาย(หนัง)” เป็นอาสาสมัครในการขับเคลื่อนโรงหนังขนาดเล็ก (Micro Cinema) อย่างเป็นทางการแห่งแรกของเชียงราย! ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ เพียงมีความสนใจ และความตั้งใจที่อยากจะลุยไปด้วยกัน

🎞️ อะไรคือโรงหนังขนาดเล็ก (Micro Cinema)
โรงหนังขนาดเล็ก (Micro Cinema) คือโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กหรือพื้นที่ฉายหนังอิสระที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมและชุมชนของผู้ชมกับคนทำหนังมากกว่าสร้างกำไรในเชิงธุรกิจ โดยปกติโรงหนังขนาดเล็กใช้สถานที่ยืดหยุ่น เช่น คาเฟ่ แกลเลอรี หรือห้องขนาดเล็ก เพื่อฉายภาพยนตร์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสั้น หนังสารคดี หนังทดลอง หรือผลงานจากคนทำหนังท้องถิ่น

นอกจากการฉายหนังแล้ว โรงหนังขนาดเล็กยังเปิดโอกาสให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดหลังการชมภาพยนตร์ ส่งเสริมการเรียนรู้ การสร้างแรงบันดาลใจ และการเชื่อมโยงเครือข่ายคนทำงานศิลปะและภาพยนตร์ในพื้นที่ เป็นรูปแบบโรงหนังทางเลือกที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมการดูหนังและการคิดเชิงวิพากษ์ให้เติบโตในชุมชนนั้น ๆ

คุณสมบัติ
✅ อายุ 16 ปีขึ้นไป
✅ มีความรับผิดชอบ และมีใจพร้อมเรียนรู้
✅ สามารถทำงานวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้
✅ พร้อมเรียนรู้กระบวนการจัดฉายภาพยนตร์ และการจัดการโรงหนังขนาดเล็ก (Micro Cinema)
✅ อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงราย มีที่พักอยู่ในอำเภอเมือง สามารถเดินทางได้ด้วยตัวเอง
✅ หากสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีนได้จะพิจารณาเป็นพิเศษ

สิ่งที่จะได้รับ
✨ค่าตอบแทนตามข้อกำหนดของโครงการ
✨ ประกาศนียบัตร
✨ ดูหนังฟรี! ทุกรอบฉาย
✨ ประสบการณ์ทำงานจัดฉายภาพยนตร์
✨ เชื่อมต่อ และพบปะคนทำหนังท้องถิ่น รวมถึงคนทำหนังระดับประเทศ

👉🏻 กรอกใบสมัครได้ที่ลิงค์นี้ หรือสแกน Qr Code >> https://forms.gle/WG3raW7LpEE1sGFa6

รับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคมนี้
ประกาศผล 5 พฤศจิกายน 2568

สอบถามเพิ่มเติม :
โทร : 088-2316260 (พี่สนุ๊ก)
LINE ID : furygump

ที่อยู่

39/98 ถนนรัชดาภิเษก ซอย 14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี
Bangkok
10600

เบอร์โทรศัพท์

+66815673710

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ปลาเป็น ว่ายทวนน้ำ Plapen Film Studioผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ปลาเป็น ว่ายทวนน้ำ Plapen Film Studio:

แชร์