02/07/2025
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชากลายเป็นหัวข้อร้อนที่สังคมไทยจับตาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หรือกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธารกับฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ที่สร้างความสั่นสะเทือนต่อสังคมการเมืองไทย
ต้องยอมรับว่าความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับเป็นปมประวัติศาสตร์ที่ฝังรากลึกในจิตสำนึกของสังคมไทย และในบางแง่มุมก็ถูกหล่อหลอมเป็น ‘มายาคติ’ ที่ส่งอิทธิพลต่อทัศนคติของผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน
วันโอวัน ชวนรื้อถอนมายาคติ – ทั้งในมิติของพื้นที่ เส้นเขตแดน และกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านมุมมองของสามนักวิชาการ ประกอบด้วย ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ, ดร.ภัทรพงษ์ แสงไกร และ ดร.ชญานิษฐ์ พูลยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อร่วมกันตอบคำถามว่า ในปี 2568 เราจะทำความเข้าใจประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชาได้อย่างไรบ้าง และเราจะจัดการกับ ‘มายาคติ’ ที่ฝังลึกในสังคมไทยอย่างไรได้บ้าง
"อัครพงษ์กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ตนต้องการนำเสนอเพียงว่าบทสนทนาว่าด้วยข้อพิพาทไทย–กัมพูชา ที่เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมักวนเวียนอยู่กับประเด็นเรื่อง ‘แผนที่’ นั้น ในความเป็นจริงแล้ว ‘แผนที่’ อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดเท่ากับการลงพื้นที่จริงเพื่อค้นหาหลักเขตและปักหลักเขตจริง"
"ภัทรพงษ์จึงย้ำว่าการใช้กำลังทหารไม่ใช่ทางออกที่ดี เนื่องจากแม้ว่าประเทศไทยจะยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของไทย แต่ถ้าในอนาคตมีการนำคดีพิพาทขึ้นสู่ศาลโลกและมีการตัดสินว่าเป็นของกัมพูชา อาจทำให้ไทยถือว่าใช้กำลังโดยผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ"
"ชญานิษฐ์ ชี้ให้เห็นว่ามายาคติอีกประการหนึ่งที่ฝังรากอยู่ในสังคมไทยคือความเชื่อที่ว่า ‘ดินแดนสำคัญกว่าคน’ ท่ามกลางบทสนทนาเรื่องชาติ ดินแดนมักถูกหยิบยกเป็นคุณค่าหลักเหนือเรื่องอื่นๆ ขณะที่ความทุกข์ยากหรือแม้แต่ชีวิตของเพื่อนร่วมชาติกลับไม่ถูกพิจารณาอย่างจริงจังเท่าที่ควร"
[ คลิกอ่านต่อได้ที่ลิงก์ในคอมเมนต์🔻]
เรื่อง: ศุภวิชญ์ ศิริสวัสดิ์วัฒนา
ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย