Barista Home Home

Barista Home Home แชร์ประสบการณ์ความรู้แบบเข้าใจง่ายสไตล์Barista Home Home

การสกัดกาแฟคั่วเข้ม😎.หลายคนพูดถึงกาแฟคั่วเข้มแล้วมักจะนึกถึงแต่ความขม แต่จริงๆแล้วการคั่วเข้มที่ยังไม่เลยป้ายยังมีความหว...
12/05/2025

การสกัดกาแฟคั่วเข้ม😎
.หลายคนพูดถึงกาแฟคั่วเข้มแล้วมักจะนึกถึงแต่ความขม แต่จริงๆแล้วการคั่วเข้มที่ยังไม่เลยป้ายยังมีความหวานอยู่ แต่เป็นความหวานในแบบChocolate, Dark Chocolate ซึ่งเป็นการDevelopความหวานของการคั่วกาแฟลำดับท้ายๆแล้ว จึงไม่แปลกที่เราจะจับความหวานไม่ได้ ส่วนใหญ่จะได้แต่ความขม(ลองกินChocolateแบบเพียวๆไม่ใส่นม,น้ำตาลดู)
.แล้วจะสกัดยังไงดี? อย่างที่บอกว่าระดับการคั่วนี้คือลำดับความหวานท้ายๆแล้ว เลยไปจะเป็นคาร์บอนซึ่งติดขม,ไหม้ได้ง่าย ดังนั้นถ้าเครื่องชงเราเป็นเครื่องธรรมดาไม่มีตัวช่วย ปัจจัยที่ต้องระวังคือการสกัดที่อุณหภูมิสูง+เวลานาน+Ratioเยอะ
.เพราะยิ่งใช้อุณหภูมิสูง+เวลาสกัดนาน จะยิ่งพากาแฟคั่วเข้มไปทางขมไหม้ได้มากขึ้น และRatioที่เยอะเกินไปโดยที่กาแฟ"หมดของ"แล้วก็จะไม่มีของอะไรออกมาอีก
.ส่วนตัวแอดมินเวลาหาRatioกาแฟคั่วเข้มก็จะชิมไล่ไปเรื่อยๆว่ากาแฟตัวนี้"หมดของ"ที่Ratioเท่าไหร่? โดยที่กาแฟไม่ติดขมไหม้(นอกจากว่าเป็นความต้องการของแต่ละร้านหรือคนที่ชอบขมไหม้เราไม่ว่ากัน😊)
.เพราะจริงๆแล้วกาแฟที่คั่วเข้มมาดี ถ้าชงดีๆก็อร่อยได้ ยิ่งถ้าชงเป็นลาเต้ร้อนนี่บอกเลยว่าได้ฟีล Chocolateนมเข้มๆเลย🤤
.ลองไปสกัดกันดูนะครับ หวังว่าจะได้กาแฟคั่วเข้มที่ถูกใจนะ😘

#กาแฟคั่วเข้ม

กดตัดShotยังไงให้แม่นยำ? .หลายคนมีปัญหาเวลาที่คำนวณRatioได้ตามที่วางแผนแล้ว แต่ถึงเวลาตัดshotมักได้ปริมาณที่ไม่น้อยกว่าก...
05/03/2024

กดตัดShotยังไงให้แม่นยำ?
.หลายคนมีปัญหาเวลาที่คำนวณRatioได้ตามที่วางแผนแล้ว แต่ถึงเวลาตัดshotมักได้ปริมาณที่ไม่น้อยกว่าก็มากกว่าที่วางแผนไว้(ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความซีเรียสของแต่ละคนว่าต้องการเป๊ะแค่ไหนนะครับ😊)
.แล้วสาเหตุเกิดจากอะไร? คือเมื่อเราสกัดกาแฟไปซักพักกาแฟจะเริ่มไหลเร็วขึ้น ถ้าเรากดหยุดที่ตัวเลขที่พอดีเช่นต้องการปริมาณน้ำกาแฟ30g.แล้วกดที่30g.กลายเป็นว่าได้ปริมาณที่เกิน..
.บางคนรู้แกวเลยกดหยุดก่อน แต่กลายเป็นว่าได้ไม่ถึงอีก😥...ทีนี้เราต้องรู้หลักข้อนึงขอเรียกง่ายๆว่า"ค่าหลังกดหยุด" ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราต้องการปริมาณ30g.เราก็ทดลองหาค่านี้ว่าเป็นเท่าไหร่ สมมุติว่าการเซ็ตอัพshotนี้ของเรามีค่าหลังกดหยุดอยู่ที่2g.
.เท่ากับว่าเราก็จะกดหยุดที่28g.นั่นเอง ทำให้การสกัดของเราได้ค่าที่ไม่แกว่งหรือไม่หนีจากการวางแผนไปมาก และถ้าใครอยากเป๊ะกว่านี้อีกก็ใช้ช้อนมากั้นได้ครับ 😊
.ก็ฝากไว้เป็นทริคเล็กๆน้อยๆเผื่อเป็นประโยชน์นะครับลองไปปรับใช้กันได้😘

จะรู้ได้ไงว่ากาแฟเริ่มfade?..ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าเมล็ดกาแฟมีวันหมดอายุ ซึ่งจะช้าหรือเร็วอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง เ...
08/05/2023

จะรู้ได้ไงว่ากาแฟเริ่มfade?
..ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าเมล็ดกาแฟมีวันหมดอายุ ซึ่งจะช้าหรือเร็วอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง เช่นระดับการคั่ว,การเก็บเมล็ด ฯลฯ โดยผมจะแบ่งกาแฟเป็น4ช่วง

1)ดีแก้ส เป็นช่วงที่เกิดหลังจากการคั่ว(หรือระหว่างการคั่ว) โดยความเร็วในการคายแก้สจะแปรผันกับระดับการคั่ว
2)Develop ช่วงเริ่มเผยรสชาติของกาแฟ(ยังคายแก้สไม่หมด)เราจะเริ่มจับTastenoteของกาแฟได้ แต่ยังได้ไม่ครบ
3)Peak เป็นช่วงที่คายแก้สหมดแล้ว รสชาติจะมาครบ,มาเต็มที่สุด
4)Fade,Drop เป็นช่วงที่กาแฟรสชาติดรอปลง Tastenoteเริ่มหาย ไม่ครบเหมือนตอนPeak
..เมื่อรู้วงจรกาแฟ เราก็จะรู้ว่า ก่อนที่จะรู้ช่วงFade ก็ต้องรู้ช่วงPeakซะก่อน..แล้วจะรู้ได้ไง? คำตอบคือชิมและก็ชิมครับ😊 โดยเราจะชิมไล่วันขึ้นไปเพื่อเก็บเป็นข้อมูลของเมล็ดแต่ละตัว สมมุติว่ากาแฟตัวนี้คั่ววันที่10 เราก็ชิมเพื่อหาแต่ละช่วงไล่ไป เช่นกาแฟเริ่มมีรสชาติในวันที่14(เริ่มไม่โดนแก้สกลบ)เราก็จดบันทึกไป จนวันที่18-19กาแฟมีรสชาติเต็มสุดPeakสุดจากที่ชิมมา(เพื่อความชัวร์ว่าPeakจริงให้ชิม2วันติด)หลังจากนั้นเราก็ชิมไปเรื่อยๆ จนวันที่29ปรากฏว่ารสชาติกาแฟเริ่มดรอปลง(เราจะรู้ได้ทันทีเพราะชิมทุกวัน)แต่รสชาติจะไม่ได้หายจาก100เหลือ0เลย แต่จะค่อยๆลงจาก100-90-80... จนถึงจุดที่รสชาติหมดแล้วนั่นเอง😊
.ข้อดีของการเก็บข้อมูลเมล็ดกาแฟ
1)วางแผนการสกัดได้
2)วางแผนในการสั่งเมล็ดจากโรงคั่วได้
3)พรีเซนต์ลูกค้าได้
4)แลกเปลี่ยนข้อมูลกับโรงคั่วได้
..เมื่อรู้ข้อดีอย่างนี้แล้วหวังว่าเพื่อนๆจะลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ😘

ที่อยู่

Bangkok
10520

เบอร์โทรศัพท์

+66648654465

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Barista Home Homeผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท