THE STANDARD สำนักข่าวที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแก่สังคม News outlets that drive positive social change

26/08/2025

ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพ ลพบุรี พร้อมคุมตัว 'หลวงพ่ออลงกต' และ 'หมอบี' ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 และฟอกเงิน

25/08/2025

คลื่นการปลดคนกำลังมา? ผลสำรวจชี้ 25% ขององค์กรไทยจ่อลดพนักงาน | Morning Wealth 26 ส.ค. 68
ผลสำรวจชี้ 25% ขององค์กรไทยจ่อลดพนักงาน ‘สภาพัฒน์’ เผยอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นและค่าจ้างเฉลี่ยลดลงในไตรมาส 2 หลังโมเมนตัมเศรษฐกิจชะลอ รายละเอียดเป็นอย่างไร
‘นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ คุ้มค่ากับเศรษฐกิจแค่ไหน พูดคุยกับ ดร.กฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมและโฆษกกระทรวงคมนาคม
#อัตราว่างงาน #ตกงาน #รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย

‘รักกับ AI’ สัญญาณเตือนเมื่อความสัมพันธ์จริงไปต่อไม่ไหวช่วงที่ผ่านมาใครหลายคนคงได้เห็นข่าวคราวของคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซ...
25/08/2025

‘รักกับ AI’ สัญญาณเตือนเมื่อความสัมพันธ์จริงไปต่อไม่ไหว
ช่วงที่ผ่านมาใครหลายคนคงได้เห็นข่าวคราวของคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ AI (Artificial Intelligence) ตั้งแต่การออกเดตจนกระทั่งการแต่งงานใช้ชีวิตคู่ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด พิลึกเกินคน แต่การที่มนุษย์หันไปหาความรักกับ AI นั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นถึง ‘รอยร้าว’ บางอย่างในสังคมและความเปราะบางในจิตใจของมนุษย์ยุคปัจจุบัน สัญญาณนี้มันกำลังบอกอะไรเราอยู่?
อ่านบทความเต็มได้ที่: https://thestandard.co/life/love-with-ai-a-warning-sign/
ภาพ: AI-generated
#รักกับAI #ความสัมพันธ์

UPDATE: จ่อเข้า ครม. เพิ่มเงินรางวัลนักกีฬาซีเกมส์ เหรียญทองรับรวม 5 แสนผลการประชุมคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคแห่งประเทศไทย...
25/08/2025

UPDATE: จ่อเข้า ครม. เพิ่มเงินรางวัลนักกีฬาซีเกมส์ เหรียญทองรับรวม 5 แสน
ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่สำนักงานโอลิมปิคฯ ถนนศรีอยุธยา เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติ เพิ่มเงินรางวัลพิเศษให้กับนักกีฬาซีเกมส์
ที่ประชุม ซึ่งนำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่า ขณะนี้เงินพร้อมแล้ว โดยเหลือเพียงขั้นตอนการเบิกจ่ายจากสมาคมกีฬา คาดว่าจะไม่มีปัญหา
โดยเปิดเผยว่าหลังจากนี้จะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ จากเดิมเหรียญทอง 3 แสนบาท จะได้รับอัดฉีดเพิ่มอีก 2 แสน รวมเป็น 5 แสนบาท เหรียญเงินจาก 1.5 แสน เพิ่มเป็น 3 แสนบาท และเหรียญทองแดงจาก 7.5 หมื่น เพิ่มเป็น 1.5 แสนบาท
ขณะเดียวกันยังได้แต่งตั้ง บิ๊กต้อม-ธนา ไชยประสิทธิ์ เลขาธิการโอลิมปิคฯ เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาซีเกมส์ และ พล.ร.อ. อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ด้าน ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานโอลิมปิคฯ กล่าวถึงปัญหาการลงทะเบียนนักกีฬากัมพูชาว่า ขณะนี้มีราว 400-500 คน แม้ไทยจะขอความร่วมมือไม่ให้ส่งนักกีฬามามากเกินไป แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้เพราะเป็นเรื่องกีฬาที่แยกจากการเมือง
พร้อมย้ำว่าทุกชาติจะถูกตรวจพาสปอร์ตอย่างเข้มงวดตั้งแต่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์เปลี่ยนสัญชาติในการแข่งขัน ขณะที่การตรวจเพศสภาพนักกีฬา จะยึดหลักความสมัครใจเป็นสำคัญ

25% ขององค์กรในไทยมีแนวโน้ม “ลดจำนวนพนักงาน” และปรับรูปแบบการจ้างงานไปสู่ลักษณะไม่เต็มเวลาและสัญญาจ้างมากขึ้น เพื่อรับมื...
25/08/2025

25% ขององค์กรในไทยมีแนวโน้ม “ลดจำนวนพนักงาน” และปรับรูปแบบการจ้างงานไปสู่ลักษณะไม่เต็มเวลาและสัญญาจ้างมากขึ้น เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

‘สภาพัฒน์’ เปิดเผย ผลการสำรวจในรายงาน Hiring, Compensation & Benefits Report 2025 ของ Jobsdb พบว่า ในปี 2567 25% ขององค์กรในไทย มีแนวโน้มจะลดพนักงานลง เพื่อลดต้นทุนและปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
พร้อมเตือนในปี 2568 ที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง อาจส่งผลให้สถานประกอบการเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานมากขึ้นอีก เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
สำหรับ ‘อัตราการว่างงานรวม’ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 0.91% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.88% ขณะที่ ‘ค่าจ้างเฉลี่ยในภาพรวมของแรงงานทุกสถานภาพ’ ปรับตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน อยู่ที่ 15,977 บาทต่อคนต่อเดือน ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยลดลง 1.9% YoY
โดยอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ค่าจ้างที่ลดลง และชั่วโมงการทำงานที่ลดลง เกิดขึ้นท่ามกลางการชะลอตัวของโมเมนตัมเศรษฐกิจไทย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่: https://thestandard.co/thailand-unemployment-q2-2025-job-cut-trend/

UPDATE: ผบ.ทอ. ย้ำไม่มีข้อห้ามใช้ Gripen ต่อสู้โจมตี ยืนยันใช้ปกป้องประเทศได้ แต่ต้องยึดหลักสากล  วันนี้ (25 สิงหาคม) ที...
25/08/2025

UPDATE: ผบ.ทอ. ย้ำไม่มีข้อห้ามใช้ Gripen ต่อสู้โจมตี ยืนยันใช้ปกป้องประเทศได้ แต่ต้องยึดหลักสากล
วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่ประเทศสวีเดน เวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงนามโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน Gripen E/F ในเฟสแรก จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท ว่า หลังจากการลงนามแล้ว จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะดำเนินการต่อในส่วนของ Main Package ที่จัดซื้อจัดหาเครื่องบิน 4 ลำในล็อตแรก เรื่องของ offset ต่างๆ ที่อยู่ในสัญญาแรก หรือข้อตกลงแรก ซึ่งเราเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดีกล่าวอีกว่า ถือว่าเกิดประโยชน์ในภาพรวมที่เป็นเรื่องความมั่นคง และส่วนที่ตามมาคือ offset ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเพิ่มเติม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จะดำเนินการไปพร้อมกัน และสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศไปด้วย โดยจะนำไปพัฒนาร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ รวมถึงส่วนของด้านความมั่นคงอื่นๆ ในอนาคต
“คุณสมบัติที่เราเลือก Gripen นั้น ไม่ใช่เครื่องบินที่ใหญ่ รวมถึงเป็นเครื่องยนต์เดียว แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการมีเพิ่มขึ้นมาอีกฝูงหนึ่งที่โคราชจะดูแลความสงบในด้านของภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงภาคตะวันออกค่อนมาอ่าวไทยด้วย ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง อีกทั้งความเชื่อมั่นว่าฝูงที่ 2 ที่เราได้รับ จะมีประสิทธิภาพมีความสามารถสูงกว่าฝูงที่ 1 ค่อนข้างเยอะ” พล.อ.อ. พันธ์ภักดีกล่าว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดียังย้ำด้วยว่า โครงการนี้เริ่มมานานแล้ว ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา และไม่ได้คาดหวังว่าจะไปทำให้ใครมีผลกระทบ แต่เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นมา ก็เป็นจังหวะเหมาะสมที่เราจะต้องปฏิบัติภารกิจของเราให้มีความมั่นใจสูงสุดต่อประชาชน ให้มีความมั่นคง และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน
ส่วนกระแสข่าวสวีเดนไม่พอใจ เรื่องการใช้ Gripen ในการปฏิบัติทางอากาศในเหตุการณ์ปะทะ พล.อ.อ. พันธ์ภักดีระบุว่า ภาพวันนี้ยืนยันว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เป็นความจริง เราทำมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เริ่มกระบวนการ และทำอย่างเป็นระบบ การที่กล่าวอ้างว่าจะไม่ขายให้ ทุกคนมีสิทธิ์พูดได้ แต่เราก็มีการพูดคุยกับสวีเดนอยู่ตลอด และตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่จะมีมากขึ้นไปอีก และการจัดซื้อในครั้งนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้นโยบาย ให้เราเอาจริงจังกับเรื่อง offset policy
หลายคนเห็นว่าเราซื้อเครื่องบินสูง 67,000 ล้านบาท แต่มูลค่าทางเครดิตที่กองทัพและประเทศชาติได้รับอาจจะถึงแสนล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง โครงการ Gripen มีความตั้งใจจริงที่จะให้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากภาษีประชาชน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและกลับเข้าสู่ประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะการร่วมมือกับสวีเดน ซึ่งกองทัพก็มีความร่วมมือมา 17 ปีแล้ว
พล.อ.อ. พันธ์ภักดีระบุด้วยว่า การใช้เครื่องบิน Gripen ไม่มีข้อห้ามใช้เรื่องของการต่อสู้โจมตี เราสามารถใช้ในการปกป้องประเทศได้ และในทุกภารกิจแต่ก็ต้องยึดตามหลักสากลในการใช้กำลังทางอากาศ

UPDATE: iLaw เปิดรายชื่อผู้ช่วย สว. ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ หลังอุทธรณ์คำสั่งเลขาธิการวุฒิสภาที่ไม่เปิดเผยในรอบแรกวันน...
25/08/2025

UPDATE: iLaw เปิดรายชื่อผู้ช่วย สว. ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ หลังอุทธรณ์คำสั่งเลขาธิการวุฒิสภาที่ไม่เปิดเผยในรอบแรก
วันนี้ (25 สิงหาคม) โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw เปิดเผยผลการอุทธรณ์คำสั่งของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กรณียื่นขอข้อมูลรายชื่อของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้ง 200 คน
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 iLaw ได้ใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ขอข้อมูลรายชื่อของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว สว. ทั้ง 200 คน โดยยื่นคำร้องผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
ต่อมาเมื่อ 21 มีนาคม 2568 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาลงนามโดย ปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ระบุว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาพิจารณาว่า ข้อมูลที่ขอให้เปิดเผย เป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไม่ได้ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ต้องเปิดเผยตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 15 (6)
iLaw จึงได้อุทธรณ์คำสั่งของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารโดยให้เหตุผลว่า

1. บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งคณะทำงาน สว. จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือนซึ่งมาจากงบประมาณแผ่นดิน หากประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ จะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบว่าการตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งนั้น มีลักษณะขัดต่อหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ และประชาชนสามารถใช้สิทธิทางการเมืองและเสรีภาพในการแสดงความเห็นต่อหน่วยงานภาครัฐได้ ส่งเสริมให้เกิดการปกครองที่โปร่งใส ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองและตรวจสอบการทำงานของราชการได้ เป็นประโยชน์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41 (1) กำหนดให้ บุคคลมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่หน่วยงานรัฐครอบครอง มาตรา 50 (2) บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และมาตรา 59 รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐที่มิใช่ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐหรือเป็นความลับของทางราชการตามที่กฎหมายบัญญัติ
2. ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีข้อยกเว้นให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้หากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามมาตรา 24 (5) การเปิดเผยข้อมูลส่วนรายชื่อบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของวุฒิสภานั้น จึงเกี่ยวพันต่อประโยชน์สาธารณะ เข้าข่ายข้อยกเว้นนี้
หลัง iLaw ส่งหนังสืออุทธรณ์ลงวันที่ 27 มีนาคม 2568 ไป ทางคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่างประเทศ ความมั่นคง และการเมือง ได้รับเรื่องอุทธรณ์ไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 และมีคำวินิจฉัยลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา “เปิดเผย” ข้อมูลคณะทำงาน สว. ตามที่ iLaw ขอข้อมูลไป
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้ข้อมูลรายชื่อคณะทำงาน สว. เป็นเอกสารกระดาษจำนวน 106 หน้า โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ถึง 14 มีนาคม 2568 ซึ่งยังคงมีข้อมูลคณะทำงานของ สว. ที่พ้นตำแหน่งไปแล้วสองคน คือ สมชาย เล่งหลัก ซึ่งพ้นตำแหน่งไปเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีลักษณะต้องห้าม ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามคำพิพากษาศาลฎีกา เพราะเคยซื้อเสียงเมื่อครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนเพราะคดีซื้อเสียง
รวมถึง สุพรรณ์ ศรชัย ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับว่าในเอกสารนี้ จะยังไม่มีข้อมูลการตั้งคณะทำงานของ ธณัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี ที่มาแทน สมชาย เล่งหลัก และ ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน ที่มาแทน สุพรรณ์ ศรชัย
ทั้งนี้ iLaw ระบุด้วยว่า สส. และ สว. 1 คน สามารถแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติงานให้ได้รวม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ผู้ช่วยดำเนินงาน
สำหรับเอกสารรายชื่อคณะทำงาน สว. เข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ของ iLaw: https://www.ilaw.or.th/articles/54132
ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

#ศวิตาพูลเสถียร

หนึ่งในข่าวใหญ่ในเวทีการเมืองโลก คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘สันติภาพยูเครน’ และเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่มากขึ้น เมื่อประธานาธิ...
25/08/2025

หนึ่งในข่าวใหญ่ในเวทีการเมืองโลก คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘สันติภาพยูเครน’ และเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่มากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดดเข้ามารับบทเป็น ‘ผู้สร้างสันติภาพ’ (Peace Maker) โดยตรง และใช้สหรัฐอเมริกาเป็นเวทีใหญ่ จนการดำเนินการในครั้งนี้ ทำให้ทรัมป์กำลังกลายเป็น ‘ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ’ (The President for Peace) ตามที่เขากล่าวด้วยความภูมิใจ
บทบาทของทรัมป์ในเวทีสันติภาพเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมาก เพราะแต่เดิมเราอาจจะคิดว่า ทรัมป์มองเรื่องของสงครามยูเครน ในแบบที่สหรัฐฯ จะเข้ามาแสวงประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร และทรัมป์อาจจะไม่มีท่าทีในแบบ ‘เอาจริงเอาจัง’ กับความพยายามในการสร้างสันติภาพ
การแสดงออกของทรัมป์ในครั้งนี้ต้องยอมรับว่า ทรัมป์มีความพยายามอยู่พอสมควรในการที่จะผลักดันให้เกิดการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งทุกฝ่ายตระหนักดีว่า ‘โจทย์สันติภาพยูเครน’ ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้อย่างง่ายๆ เพราะความต้องการของรัฐคู่ขัดแย้งดูจะสวนทางกันอย่างมาก
แต่ปัญหาในความเป็นจริงคือ ทรัมป์จะทำให้สำเร็จตามที่เขาฝันจะเป็น ‘ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ’ ได้เพียงใด?
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่: https://thestandard.co/trump-ukraine-peace-challenge/

มาริษ-ผบ.ทอ. ร่วมพิธีลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ระยะที่ 1 วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน...
25/08/2025

มาริษ-ผบ.ทอ. ร่วมพิธีลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ระยะที่ 1
วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อเวลา 12.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย Pal Jonson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน 3 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ความตกลงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพนระหว่างไทยกับสวีเดน Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนาม
ฝ่ายสวีเดน มี Mikael Granholm ผู้อำนวยการใหญ่ของ The Swedish Materiel Administration (FMV) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสวีเดนที่รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างและจัดหายุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศให้กับกองทัพสวีเดน
2. ความตกลงการมอบอำนาจการดำเนินการของรัฐบาลสวีเดนแก่หน่วยงานของฝ่ายสวีเดน ระหว่าง Mikael Granholm, Lars Helmrich ผู้อำนวยการฝ่ายระบบอากาศและอวกาศของสำนักงานยุทโธปกรณ์สวีเดน กับ Micael Johansson ประธานกรรมการบริหาร (CEO) ของบริษัท Saab AB และ Lars Tossman เจ้าหน้าที่จากบริษัท Saab AB
3. ความตกลงนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Offset policy) ระหว่างกองทัพอากาศกับบริษัท SAAB AB ระหว่าง Lars Tossman เจ้าหน้าที่จากบริษัท Saab AB กับ ผบ.ทอ.
ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้เป็นการลงนามในสัญญาจัดซื้อระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ จากแผนจัดซื้อทั้งหมด 12 ลำ หรือ 1 ฝูงบิน ซึ่งเป็นการจัดซื้อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 เนื่องจากบรรจุประจำการมานานกว่า 37 ปี สำหรับแผนการจัดส่งเครื่องบิน ทางสวีเดนจะเริ่มจัดส่งให้ไทยในปี 2572 ปีละ 2 ลำ จนครบ 1 ฝูงบิน
มาริษเปิดเผยด้วยว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างเขี้ยวเล็บให้กองทัพ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยตามนโยบายรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม การลงนามครั้งนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่สวีเดนและประชาคมโลก ภายหลังจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกองทัพไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการปฏิบัติตามหลักสากลอย่างชัดเจน
“พวกเราใช้เครื่องบิน Grippen ปฏิบัติการทางทหาร และแสดงให้เห็นชัดว่า เราไม่มีแนวคิดที่จะใช้อาวุธเพื่อรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน เป้าหมายทางทหารที่เรายึดถือได้แสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่กัมพูชาใช้อาวุธกับเรา จะเห็นได้ชัดว่าการใช้อาวุธของกัมพูชามุ่งเน้นไปที่การรุกรานและโจมตีเป้าหมายของพลเรือน ซึ่งตรงกันข้ามกับปฏิบัติการของเรา” มาริษกล่าว
มาริษย้ำด้วยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักสันติเช่นเดียวกับสวีเดนและสหภาพยุโรป แต่การมีศักยภาพในการป้องกันตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การซื้อขายเครื่องบิน Grippen ในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ไทยร่วมมือกับนานาประเทศที่รักสันติ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเองอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น

UPDATE: จับได้แล้ว คนขับรถแอปฯ ดัง พื้นที่ภูเก็ต ก่อเหตุฉุดข่มขืน-ชิงทรัพย์ ครูสอนภาษาต่างชาติวานนี้ (24 สิงหาคม) เจ้าหน...
25/08/2025

UPDATE: จับได้แล้ว คนขับรถแอปฯ ดัง พื้นที่ภูเก็ต ก่อเหตุฉุดข่มขืน-ชิงทรัพย์ ครูสอนภาษาต่างชาติ
วานนี้ (24 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ถลาง จังหวัดภูเก็ต รับแจ้งจากครูสอนภาษาหญิง สัญชาติแอฟริกา อายุ 28 ปี ว่าถูกคนขับรถโดยสารที่เรียกผ่านแอปพลิเคชันชื่อดัง ก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณซอยสมบูรณ์ทรัพย์ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 01.30-02.00 น. ของวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา
ผู้เสียหายให้การว่า หลังไปเที่ยวสถานบันเทิงกับกลุ่มเพื่อน ได้เรียกรถผ่านแอปฯ เพื่อไปส่งเพื่อนในซอยสมบูรณ์ทรัพย์ ก่อนนั่งรถต่อเพื่อกลับที่พักในพื้นที่ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ระหว่างทางถูกคนขับรถฉุดไปข่มขืนในป่าละเมาะข้างทาง และถูกชิงโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป กระทั่งมีพลเมืองพบเห็นและแจ้งตำรวจเข้าช่วยเหลือ
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถลาง สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ห้องเช่าในพื้นที่ ม.7 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง ทราบชื่อคือ เฉลิมเพชร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินของผู้เสียหายที่อยู่กับผู้ต้องหา
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ขณะผู้อื่นไม่สามารถขัดขืนได้ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ: Thalang Police

UPDATE: ศบ.ทก. ขออภัยเยียวยาประชาชนชายแดนล่าช้า เผยเริ่มจ่ายพรุ่งนี้ที่อุบลฯจังหวัดแรก ชี้กัมพูชายังละเมิดหยุดยิงต่อเนื่...
25/08/2025

UPDATE: ศบ.ทก. ขออภัยเยียวยาประชาชนชายแดนล่าช้า เผยเริ่มจ่ายพรุ่งนี้ที่อุบลฯจังหวัดแรก ชี้กัมพูชายังละเมิดหยุดยิงต่อเนื่อง
วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ, พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง และนาวาอากาศเอก กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงว่า ในช่วงที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังในฐานที่ตั้ง ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวของกองกำลังที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม มีการตรวจพบการวางลักลอบใช้ทุ่นระเบิด BHQ ของกัมพูชาในเขตอธิปไตยไทย แม้ฝ่ายไทยจะผลักดันออกไปได้ แต่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง GBC อย่างต่อเนื่อง โดยที่ ไทยยังคงดำรงการเฝ้าตรวจและป้องกันพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) ที่ด่านบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี โดยมี พล.ร.ท. อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด และ แอ๊ก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก กัมพูชา เป็นประธานร่วม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิบัติตามข้อตกลง 13 ข้อจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมทั้งหารือเรื่องความร่วมมือกู้ทุ่นระเบิดและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนที่จะถูกหารือในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจในการเก็บทุ่นระเบิดที่คงค้างอยู่ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ศบ.ทก. ได้ขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกคนที่ได้ส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดำรงรักษาที่มั่นอธิปไตยของชาติ ตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568
หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนถึงอธิปไตยของไทย คือการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา โดยกองกำลังสุรนารีได้จัดสร้างเสาธงสเตนเลสถาวร บนยอดภูมะเขือ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ การก่อสร้างดังกล่าวดำเนินการโดยชุดทหารช่างจากกองพันทหารช่างที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 และกองพลทหารราบที่ 11 ใช้เวลาติดต่อกันถึง 3 วัน 3 คืน ท่ามกลางสายฝน
ระหว่างการปฏิบัติการ ได้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความเชื่อและศรัทธา ก่อนจะมีพิธีอัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 โดยก่อนนั้น พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจติดตามและปรับปรุงเส้นทางยุทธวิธี สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองกำลัง พร้อมทั้งจัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชน รวมถึงรื้อถอนร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีด้วย BM-21 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและเป็นปกติในเร็ววัน
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาและดูแลสุขภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รายงานความคืบหน้าในที่ประชุมศบ.ทก.ว่า จะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยจังหวัดอุบลราชธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับเงิน จากนั้นเป็นจังหวัดบุรีรัมย์,สุรินทร์ และศรีสะเกษ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของเอกสารหลักฐานจากประชาชน หากยื่นได้ครบ เงินเยียวยาจะถึงมือได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงด้วยว่า ปัญหาความล่าช้าในการสั่งจ่ายงบประมาณยังคงมีอยู่ แต่ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขกระบวนการให้มีความรวดเร็วขึ้น พร้อมขออภัยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และยืนยันว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและทันการณ์
ส่วนความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมาได้ตรวจพบความพยายามโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และการแฮ็กข้อมูลหลายกรณี อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้เฝ้าระวังและตรวจสอบภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวม วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ รวมถึงกำหนดท่าทีที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการระหว่างประเทศบนพื้นฐานข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน
ขณะที่ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศกล่าวว่า มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่าง วันที่ 26-28 สิงหาคม ซึ่งครั้งนี้เป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการกระทำที่กัมพูชา วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตอธิปไตยของไทย
จนเกิดเหตุการณ์ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแล้วหลายครั้ง ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการละเมิด อนุสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าพบกับหน่วยงานสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทุ่นระเบิด
รวมถึงคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา เรายืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์และให้เห็นว่าไทยยึดมั่นในความเปิดเผยอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโน้มน้าวให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างจริงจังและร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดตามแนวชายแดน ทั้งนี้ไทยยังคงยืนหยัดดำเนินการเชิงรุกโดยพร้อมให้ความร่วมมือกับกลไกสากลทุกขั้นตอนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ ว่าไทยไม่มีสิ่งใดต้องปกปิด
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังมีกำหนดเข้าพบสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน เพื่อย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดของไทยตั้งอยู่บนพื้นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law - IHL) ซึ่งขอใช้โอกาสนี้แสดงถึงการกระทำของกัมพูชาที่ขัด ต่อหลัก จริยธรรมไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมาย พลเรือน โดยการนำเด็กมาใช้ในคลิปวีดีโอ รวมถึงการเปิดการใช้พื้นที่ชุมชนในฐานที่มั่นทางทหาร หรือนำคนชรา ให้ออกมาเป็นด่านหน้าซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและขัดต่อกติกาสากลอย่างสิ้นเชิง
นิกรเดช​ ย้ำว่า​ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับความคุ้มครองสูงสุด ประเทศไทยจะยังคงร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาออตตาวาและหลักการสากลเฉพาะโดยกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง
ขณะที่ น.อ.กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ ชี้แจง แนวปฏิบัติเมื่อตรวจพบโดรนในพื้นที่ต่างๆ กองทัพอากาศได้มีการกำหนดห้ามบินโดรนในพื้นที่สำคัญที่ตั้งทางทหาร และหน่วยงานราชการ ตลอดจนพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยทุกพื้นที่ที่บินโดรน จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน การบินพลเรือน โดยต้องมีการลงทะเบียน และบินได้เฉพาะกลางวันเท่านั้น
ขณะเดียวกันหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมดได้บูรณาการการต่อต้านโดรน และสกัดกั้น รวมถึงการทำลาย และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยร่วมมือกับทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ทั้งนี้หากพบการใช้งานโดรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายสามารถแจ้งวันเวลาสถานที่พบเห็น และภาพถ่ายหรือวิดีโอคลิป ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็ว
#ไทยกัมพูชา

หากพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมพลังงานไทย คงหนีไม่พ้นภาพของ ‘วิกฤต’ ที่ผลักให้ต้องตั้งรับ และ ‘โอกาส’ ที่เปิดให้ไทย...
25/08/2025

หากพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมพลังงานไทย คงหนีไม่พ้นภาพของ ‘วิกฤต’ ที่ผลักให้ต้องตั้งรับ และ ‘โอกาส’ ที่เปิดให้ไทยต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
วันนี้ THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ วุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้คร่ำหวอดในวงการพลังงานไทยมามากกว่า 30 ปี
ผู้เคยร่วมโต๊ะเจรจาระดับชาติ และพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตพลังงานมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ชวนวุฒิกรย้อนรอยประสบการณ์และถอดบทเรียนแห่งความสำเร็จในฐานะผู้บริหารแถวหน้าของปตท. เขาพาองค์กรฝ่าวิกฤตพลังงานได้อย่างไร และได้เรียนรู้อะไรระหว่างทาง
[ADVERTORIAL]

เปิดเส้นทางและวิสัยทัศน์ของ วุฒิกร สติฐิต กับบทเรียนพา ปตท. ฝ่าวิกฤตพลังงานโลก และสิ่งที่ได้เรียนรู้ตลอด 3...

ที่อยู่

23/100-102 Soi Soonvijai, Rama 9 Road, Bangkapi, Huay Kwang
Bangkok
10310

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ THE STANDARDผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง THE STANDARD:

แชร์

THE STANDARD

สำนักข่าวออนไลน์เชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ

ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หลากรูปแบบ ทั้งคอนเทนต์ออนไลน์ วิดีโอ และพอดแคสต์ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งเรื่องในประเทศและต่างประเทศ ครบถ้วนทุกประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ศิลปะ วัฒนธรรม บันเทิง แฟชั่น และไลฟ์สไตล์

For Advertising: [email protected]