โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส

โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส เกาะติด รู้ให้เท่าทัน สถานการณ์ แวดวงการเมืองไทย กับเราโต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
(2)

“ชาดา” กร้าวรัฐบาลบอก อย่าทำตัวเป็นรัฐบาลอาฆาตแค้น แซะฝ่ายค้าน ยันภท. ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และนายกยังชื่อ“แพทองธาร...
05/07/2025

“ชาดา” กร้าวรัฐบาลบอก อย่าทำตัวเป็นรัฐบาลอาฆาตแค้น แซะฝ่ายค้าน ยันภท. ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และนายกยังชื่อ“แพทองธาร” ไล่รัฐบาลไปทำงานแก้ไขปัญหาประชาชน เตรียมองค์ประชุมสภาให้ครบเถอะ
..
วันนี้ (5 ก.ค.68) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ ใจความว่า เกิดความไม่สบายใจ โดยเปรียบเทียบว่าเหมือนรัฐบาลอาฆาตแค้น เนื่องจากวันนี้นายกรัฐมนตรีของไทยยังชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ที่ถูกพักการปฎิบัติหน้าที่ และคำวินิจฉัยยังไม่ได้ออกมา ซึ่งหมายถึงยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ รัฐบาลโดยเฉพาะ ครม. ไปให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ ซึ่งวันนี้มีปัญหามากมาย ยาเสพติด ปัญหาการเกษตรเกษตร การพนันออนไลน์ ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่ต้องแก้ไขเพื่อให้ประชาชนยอมรับ

“ ไม่ใช่โมมาแต่กระแซะฝ่ายค้าน จะมามโนว่าคนโน้นจะมาเป็นนายกฯ คนนี้มาเป็นนายกฯ ท่านครับ ถึงนายกฯจะเกิดอุบัติเหตุซึ่งส่วนตัวก็ไม่อยากให้เกิด แต่อยากจะบอกว่าพรรคเพื่อไทย ยังมีท่านชัยเกษม พรรคร่วมรัฐบาลยังมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กราบขออนุญาตขอโทษที่เอ่ยชื่อท่าน และท่านพีระพันธ์ุ และท่านจุรินทร์ พรรคประชาธิปัตย์ ถึงจะลาออกจากหัวหน้า แต่ความเป็นคะแนนนายกฯ ยังคงอยู่ ท่านไม่ทำงานมัวแต่แซะคนโน้นคนนี้” นายชาดากล่าว

นายชาดา เสนอแนะให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของเกษตรกร จี้ถาม พ.ร.บ. ข้าวทำไมไม่ออก คนอื่นออกไม่ได้ถ้านายกไม่รับรองการเงิน พร้อมกับหยิบยกว่าปัญหาไม่ใช่มีแค่เรื่องการส่งออกทุเรียน แต่มีการเสนอให้นายกรัฐมนตรีไปขายทุเรียน โดยวิจารณ์กลับว่า “สมองอึ่งหรือเปล่าคนคิด คนคิด” และให้กลับไปทำงานอย่ามามโนว่าพรรคภูมิใจไทย
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล ยืนยันว่าจะไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยเสียงข้างน้อย

ยังยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน แต่ยกเว้นหมวด1-2 ขออย่าออกข่าวสับสน กฎหมายนิรโทษกรรม พรรคภูมิใจไทยก็ยืนยันแล้วว่าเพื่อความปรองดองของประเทศชาติร่วมแก้ไขด้วย แต่ยกเว้นการนิรโทษกรรมมาตรา 112 ชัดเจนในความเป็นภูมิใจไทย ยังขอให้กลับไปแก้ไขปัญหาประชาชนไม่ใช่ออกมาพูดเรื่องการแก้ไขปัญหากัญชาให้เกิดความสับสน

” กัญชาพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยมีความเห็นเหมือนกัน ในเรื่องให้เป็นทางการแพทย์ แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้ประชาชนปลูก ให้ปลูกจากนายทุนชุดใหญ่เท่านั้นแต่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าให้ชาวบ้านคนปลูกเพื่อมีรายได้ ก็แล้วแต่ท่านที่มีอำนาจหน้าที่ก็ทำไป แต่ขอเอาข้อมูลข้อเท็จจริงออกมาอย่าทำงานตามฝ่ายค้าน กลับไปดูองค์ประชุมให้ครบ ในกรรมาธิการงบประมาณ ท่านไม่พูดบ้างว่ะว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เคยขัดขวางให้การสนับสนุนรัฐบาลในการพิจารณางบประมาณ เราเป็นองค์ประชุมให้ตลอดทำงานร่วมกันตลอดประหนึ่งว่าเราอยู่ฝ่าย รัฐบาล นี่คือความมีน้ำใจของพรรคภูมิใจไทย อย่ามัวแต่กระแซะ ไปดูองค์ประชุมของท่านเรียบร้อย เราไม่ขอ เป็นฝ่ายเสนอนับองค์ประชุม แต่ถ้าฝ่ายค้านอื่นเสนอ เราเองก็เห็นใจ เราอยู่ในฝ่ายค้าน เรียนด้วยความเคารพกลับไปทำงาน เรามันไม่หนีกันหรอกการเมืองมันมีไม่กี่คน แต่อย่าทำตัวเป็นศัตรูอาฆาตแค้นกันด้วยรักและเคารพ”

#ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส

ทร.สร้างขวัญกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา อนุญาตให้กำลังพลหมวดเรือลาดตระเวนเกาะกูด ลากรณีพิเศษดูแลภรรยาคลอดลูกชายก่อนกลับ...
04/07/2025

ทร.สร้างขวัญกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา อนุญาตให้กำลังพลหมวดเรือลาดตระเวนเกาะกูด ลากรณีพิเศษดูแลภรรยาคลอดลูกชายก่อนกลับไปทำหน้าที่ปกป้องชายแดนคลองใหญ่-เกาะกูด

ท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้ง-ตึงเครียด ไทย-กัมพูชา ไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ ยังมีภาพน่าประทับใจ และอบอุ่นเกิดขึ้น ระหว่างทหารหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนเกาะกูด ฐานฯ ตราด กับลูกชายตัวน้อยในวันแรกที่ลืมตาดูโลก ที่โรงพยาบาลสังขะ จ.สุรินทร์

เรื่องราวอบอุ่นนี้ เกิดขึ้นหลังจากพลเรือเอกณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่1 ที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ระหว่างทักทายกำลังพลเพื่อสอบถามความเป็นอยู่รวมถึงปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน

จึงได้ทราบว่า จ่าเอกวรสิทธิ์ พันธุชาติ หรือ จ่าชล ช่างกล ประจำเรือ ต.263 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อำเภอสังขะจังหวัดสุรินทร์ ภรรยามีอายุครรภ์ 9 เดือน โดยมีกำหนดผ่าคลอดในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568

แต่เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ไทย - กัมพูชา และ เรือ ต .263 มีภารกิจในการลาดตระเวนคุ้มครองพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางทะเล ไทย - กัมพูชา รวมถึงการรักษากฎหมายในทะเล เพื่อรักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติทางทะเล อย่างต่อเนื่อง จึงไม่สามารถลาพักไปเยี่ยมครอบครัวได้ เพราะกำลังพลต้องอยู่ในพื้นที่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ จึงได้อนุมัติให้ จ่าเอกวรสิทธิ์ ลากิจเพื่อเยี่ยมครอบครัว เป็นกรณีพิเศษ 4 วัน ระหว่างวันที่ 2 ถึง 5 กรกฎาคม 2568

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า กำลังพลทุกคนมุ่งมั่นทำงานดูแลชายแดนคลองใหญ่-เกาะกูด แบบไม่มีวันหยุด ต้องตรากตรำทำหน้าที่บนเรือขนาดเล็ก แต่ทุกคนไม่ร้องขออะไร มีเพียงบางคนที่กังวลเรื่องครอบครัว

"ในฐานะผู้บังคับบัญชา ย่อมเข้าใจดีว่า เมื่อทุกคนเลือกเดินเข้ามาเป็นทหารหน้าที่สำคัญที่สุด แต่ครอบครัวก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะวันสำคัญที่ลูกลืมตาดูโลก หากกำลังพลได้กลับบ้านในช่วงเวลานั้น กำลังใจเหล่านี้จะเติมพลังให้กลับมาทำหน้าที่ต่อไป"

จ่าเอกวรสิทธิ์ พันธุชาติ ตั้งชื่อลูกชายว่า น้องออไนท์ หรือ ด.ช.คณาณัท พันธุชาติ พร้อมขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่ให้มองเห็นกำลังพลชั้นผู้น้อย หลังจากเยี่ยมครอบครัวแล้วก็จะกลับไปปฎิบัติหน้าที่ ในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ฐานฯตราด พร้อมขอให้ประชาชน ร่วมเป็นกำ

ผบ.กองเรือยุทธการ ลงพื้นที่ นรข.อุบลฯ  พร้อมเยี่ยมครอบครัว 'จ่าชล' ทหารหมวดเรือชายแดนเกาะกูด ที่ภรรยาใกล้คลอดบุตรที่จ.สุ...
04/07/2025

ผบ.กองเรือยุทธการ ลงพื้นที่ นรข.อุบลฯ พร้อมเยี่ยมครอบครัว 'จ่าชล' ทหารหมวดเรือชายแดนเกาะกูด ที่ภรรยาใกล้คลอดบุตรที่จ.สุรินทร์ สร้างขวัญกำลังใจ ระหว่างปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยต่อเนื่อง

วันนี้ (4 ก.ค.2568) พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ
หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี ติดตามการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน ทั้งการปกป้องอธิปไตย และการแก้ปัญหาภัยคุกคามยาเสพติด

พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้เดินทางไปยังอำเภอสังขะจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมบำรุงขวัญ ครอบครัว จ.อ.วรสิทธิ์ พันธุชาติ หรือ จ่าชล ช่างกลประจำเรือตรวจการณ์ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เกาะกูด โดยครอบครัวมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน จ.ตราด และทราบว่าภรรยาของจ่าชลกำลังจะคลอดบุตร จึงอนุญาตให้ลาพัก เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัวตั้งแต่วันแรกที่ภรรยาคลอดลูก และถือโอกาสมาเยี่ยมบำรุงขวัญที่บ้านจ่าชลจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนรข.อุบลราชธานี

ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาตระหนักดีว่ากำลังพลต้องตรากตรำปฏิบัติงาน แต่คำว่าครอบครัวก็มีความสำคัญ

"เมื่อได้มาเติมพลังกับครอบครัวก็เชื่อว่าพลังใจนี้จะส่งผลให้พร้อมปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ ทั้งเกาะกูด จังหวัดตราดและพื้นที่ทางทะเลต่างๆ"

ั้ทั้งนี้กำลังพลร้อยละ 50 อยู่ในพื้นที่สัตหีบ ผู้บังคับบัญชา ก็จะลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวกำลังพลในพื้นที่สัตหีบอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งจะจัดกิจกรรมพาครอบครัวไปเยี่ยม กำลังพลที่ปฏิบัติราชการชายแดนอยู่ที่จังหวัดตราด เนื่องจากช่วง 3 เดือนนี้ต้องตรากตรำปฏิบัติงานโดยไม่ได้ลาพัก และการปฏิบัติงานบนเรือไม่เหมือนอยู่บนบก รวมทั้งหมวดเรือชายแดน ใช้เรือขนาดเล็ก และการปฏิบัติงานอย่างหนักอาจบั่นทอนขีดความสามารถของกำลังพลได้

ทั้งนี้ขอยืนยันว่า กองทัพเรือฝึกกำลังพลให้รู้จักหน้าที่ เมื่อเลือกเดินมาเป็นทหารก็ต้องพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลประชาชน แต่ขวัญกำลังใจก็มีส่วนสำคัญมาก จึงขอให้ประชาชนสนับสนุน และส่งกำลังใจให้ทหาร รวมถึงข้าราชการทุกส่วนที่อยู่ชายแดน

สำหรับการดูแลสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่เกาะกูดจังหวัดตราด กองทัพเรือ มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีแผนเผชิญเหตุ และการฝึก รวมถึงสามารถเพิ่มเติมกำลัง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะประมาทไม่ได้ และมุ่งเน้นความสำคัญด้านข่าวกรอง

ขณะที่ จ.อ.วรสิทธิ์ พันธุชาติ ช่างกล ประจำเรือตรวจการณ์
ฐานส่งกำลังบำรุงตราด
กล่าวว่า ขอบคุณผู้บัญชาการกองเรือยุทธการที่ให้ความสำคัญ เรื่องขวัญกำลังใจของกำลังพล โดยเห็นว่า เมื่อมาปฏิบัติงานชายแดนเป็นเวลานาน ไม่ได้เจอครอบครัว และสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ก็ยังไม่ปกติ ทำให้ไม่สามารถกลับบ้านได้

โดยได้เตรียมของขวัญเป็นชุดให้ลูกใส่ในวันที่จะออกจากโรงพยาบาลเป็นชุดแรกในชีวิตของลูก และ อัลตราซาวน์ทราบแล้วว่า ได้ลูกชาย คนที่สอง โดยมีลูกชายคนแรกอายุ 3 ปี ชื่อ ด.ช.คิรากร พันธุชาติ หรือน้องออนิว

สำหรับภารกิจที่หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ฐานฯตราด ทำหน้าที่เป็นช่างกล ประจำเรือตรวจการณ์ ลาดตระเวนเกาะกูด-คลองใหญ่ ล่าสุดออกลาดตระเวนตรวจสอบเรือน้ำมันบริเวณน่านน้ำชายแดนไทย-กัมพูชา และตรวจเรือประมงกัมพูชา

ทั้งนี้การลาในช่วงที่มีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำได้ยาก เพราะต้องปฏิบัติงานต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องลาพักต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสายงาน จึงรู้สึกดีใจที่สามารถลามาเจอครอบครัวได้ช่วงที่ภรรยาคลอดลูก ก่อนจะต้องกลับไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนเกาะกูดจ.ตราดต่อ

สหรัฐฯ ส่งเรือรบ USS ซานต้า บาบาร่า พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ และ นย.สหรัฐฯ ร่วมฝึกผสม การัต 2025 (CARAT 2025) กับ ทร.ไทย เริ...
03/07/2025

สหรัฐฯ ส่งเรือรบ USS ซานต้า บาบาร่า พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ และ นย.สหรัฐฯ ร่วมฝึกผสม การัต 2025 (CARAT 2025) กับ ทร.ไทย เริ่มเปิดฉากการฝึกจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้ เพื่อรับมือภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเล

วันนี้(3 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการ จะมีพิธีเปิดการฝึกผสมกองทัพเรือไทย-สหรัฐฯ ภายใต้รหัสการัต (CARAT 2025 ) ในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2568 โดยมีพลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานฝ่ายไทย และพลเรือตรีหญิง เคธี่ เอฟ เชลดอล รองผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 กองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นประธานร่วมฝ่ายสหรัฐฯ ที่ท่าเรือแหลมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

โดยการฝึกจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 7 - 18 กรกฎาคม 2568 รวม 12 วัน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง และพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทยตอนบน โดยกองทัพเรือได้มอบหมายให้กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก มี พลเรือตรี อนุรักษ์ พรหมงาม ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม CARAT 2025

รูปแบบการฝึกแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ การฝึกในท่า การฝึกในทะเล และการสรุปผลการฝึก โดยกองทัพเรือไทยได้ส่งเรือรบเข้าร่วมการฝึก 3 ลำ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงสายบุรี และเรือรัตนโกสินทร์ รวมทั้งอากาศยาน 5 ประเภทคือ เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 ดอร์เนียร์ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ซีฮอร์ค เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 6 อากาศยานไร้คนขับตรวจการณ์ชี้เป้า แบล็คแจ็ค และอากาศยานไร้คนขับ ซีเบล S-100

ส่วนกองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือรบเข้าร่วมการฝึก 1 ลำ คือ เรือรบ USS ซานต้า บาบาร่า และอากาศยาน 3 ประเภท คือ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A โพไซดอน และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ซีฮอร์ค รวมทั้งจัดหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ และวงดุริยางค์จากกองเรือที่ 7 สหรัฐฯ

ไฮไลท์สำคัญคือการฝึกในภาคทะเล ระหว่าง 12 - 14 ก.ค.2568 .โดยจะมีการฝึกปราบเรือดำน้ำ ฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ฝึกรบยุทธวิธีทางเรือ และฝึกแปรกระบวน ก่อนการประชุมสรุปผลปิดการฝึก และส่งเรือรบสหรัฐฯ เดินทางกลับ

การฝึกผสม CARAT 2025 เป็นการฝึกผสมทวิภาคี ระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นการฝึกผสมที่ใหญ่ที่สุดระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการฝึกตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 จนถึงปัจจุบัน

วัตถุประสงค์การฝึก เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสหรัฐฯ
มีเป้าหมายร่วมกันพัฒนาความสามารถของกำลังพลทั้ง 2 ประเทศ ในการปฏิบัติภารกิจทางทะเลการร่วมกันในทุกระดับ เสริมสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจอันดีในการปฏิบัติการ ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถภาพสถานการณ์ทางทะเลให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน

02/07/2025

การถ่ายทอดสดของ Yanee Waikru

ลุ้น ศร. รับ-ไม่รับ คำร้องถอดถอนนายกฯอิ๊งค์ ปมคลิปเสียงสนทนาสมเด็จฯฮุนเซน หากศาลรับนายกฯ ต้องยื่นคำชี้แจงภายใน 15 วัน หา...
01/07/2025

ลุ้น ศร. รับ-ไม่รับ คำร้องถอดถอนนายกฯอิ๊งค์ ปมคลิปเสียงสนทนาสมเด็จฯฮุนเซน หากศาลรับนายกฯ ต้องยื่นคำชี้แจงภายใน 15 วัน หากศาลไม่รับถือคำร้องตกไป ปฎิบัติหน้าที่นายกต่อ จับตาศาลนัดวันวินิจฉัยคำร้อง “ภูมิธรรม-ทวี” กรณีฝ่าฝืนจริยธรรมด้วยหรือไม่ ขณะที่บรรยากาศศาล รปภ.เข้ม
..
วันนี้ (1 ก.ค.68) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 09:30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
เริ่มเข้าวาระพิจารณาคำร้องตามวาระประชุมแล้ว และหนึ่งในวาระพิจารณามีคำร้องของพลเอกสวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภาและสว.รวม 36 คน ยื่นผ่านนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาด้วย ที่ขอให้ศาลถอดถอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โดยอ้างอิงว่าเพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากฝ่าฝืนมาตฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุนเซน วันนี้มี 2 ลุ้น 1.ลุ้นว่าศาลจะรับหรือไม่รับคำร้อง และ2.ลุ้นว่าศาลจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่

ตามคำร้องอ้างอิงว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) ประกอบกับมาตรา 170 วรรคหนึ่ง(4) พร้อมกันนี้ผู้ร้องยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่สุด

สำหรับแนวทางคำสั่งของศาลในวันนี้ 1.หากศาลรับคำร้องศาลจะให้สั่งนายกรัฐมนตรีส่งคำชี้แจง-ข้อเท็จจริง ให้ศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รับคำสั่งศาล หรือศาลอาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูล พยานหลักฐาน เพิ่มเติม หรือรวมถึงพยานบุคคล แล้วเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล ระยะเวลาอยู่ที่กระบวนการและคำสั่งของศาล หรือ 2.หากศาลไม่รับคำร้อง หมายถึงคำร้องถูกตีตก จบไป เท่ากับว่า นายกรัฐมนตรีก็เดินกน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ก็ยังมีคำร้องเดียวกันนี้ในชั้น ป.ป.ช ที่ สว.ไปร้องเอาไว้อีก

ส่วนคำร้องนี้คณะผู้ยื่นร้อง มอบหมายให้พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการตามกระบวนการของศาล ทั้งการยื่นคำร้องเพิ่มเติม ยื่นบัญชีระบุพยาน คำแถลงการณ์และปิดคดี คำชี้แจงให้การ การให้ถ้อยคำเบิกความดำเนินการใดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ โดยบรรยากาศบริเวณโถงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีสื่อมวลชนมาเกาะติด การประชุมของศาลจำนวนมาก ภายใต้การรักษาความเรียบร้อยของตำรวจ บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญและบริเวณโถง

วันนี้นอกจากคำร้องถอดถอนนายกฯของ 36 สว.แล้ว ยังมีวาระพิจารณาคำร้อง อีกเรื่องที่ สว.ร้อง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง-ภูมิธรรม เวชยชัย” กรณีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งต้องดูว่าศาลจะนัดกำหนดวันชี้ขาดหรือวันที่จะอ่านคำวินิจฉัยเลยหรือไม่

#ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส

30/06/2025

✴️ Live..!!!.

สัมฯ แนน บุณย์ธิดา สมชัย เรื่องญัตติซักฟอกภูมิใจไทยล็อคเป้านายกฯอิ๊งค์

#ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส

30/06/2025

✴️Live..!!.

สัมฯ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. กระทรวงการคลัง เรื่องทีมไทยแลนด์ ไปเจรจามาตรการภาษีที่สหรัฐฯ-อภิปรายไม่ไว้วางใจ-คำสั่ง ศร.

#ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส

ประธานวิปรัฐบาล มั่นใจแกนนำ พท. มีแผนรองรับคำสั่ง ศร.พรุ่งนี้ วอนอย่าเพิ่งจินตนาการไปไกลว่าสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ป้อง “...
30/06/2025

ประธานวิปรัฐบาล มั่นใจแกนนำ พท. มีแผนรองรับคำสั่ง ศร.พรุ่งนี้ วอนอย่าเพิ่งจินตนาการไปไกลว่าสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ป้อง “นายกฯอิ๊งค์” ทำไปเพราะเป็นห่วงประชาชนคนไทยในกัมพูชา ใช้แท็กติกเจรจาเพื่อดึงเวลาให้คนไทยได้กลับ ยันเสียงรัฐบาลไม่มีปัญหาโหวตยิ่งเหลือน้อย ยิ่งขาดกันไม่ได้ ขอม็อบอย่าเรียกรัฐประหาร
..
วันนี้ (30 มิ.ย.68) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ เชื่อว่าผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจะมีมาตรการรองรับกรณีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ในคำร้อง ถอดถอนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของวุฒิสภา โดยไม่ได้กังวลอะไร

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถึงขั้นสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า คนจินตนาการไปหลายอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่มั่นใจว่าไม่มีอะไรในความบริสุทธิ์ใจเพราะเชื่อมั่นเช่นนั้น ไม่จินตนาการอะไรไปไกล

เมื่อถามถึงผู้นิยมทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีตก นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงโพล ทำมาตั้งแต่รอบแรกๆ ที่มีปัญหา ในรอบหลังเริ่มมีคนเข้าใจมากขึ้นว่าทำเพราะอะไร ไปเพราะอะไรก็มีคนเข้าใจ การที่นายกรัฐมนตรีพูดอย่างนั้นมีความจำเป็น คือหลักการใหญ่คือนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาทั้งหมด ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นสมเด็จฮุนเซน ปิดด่านทั้งหมดทำให้คนไทยกลับมาไม่ได้ หากเกิดปะทะก็จะมีความเสียหาย ใครจะคุ้มครองประชาชนคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ การเจรจาทางการทูตให้ขยายระยะเวลาปิดด่านเป็นเรื่องของการของทหาร ไม่ใช่หน้าที่นายกรัฐมนตรี

”การเจรจาเช่นนั้นไม่ใช่นายกรัฐมนตรีนายกแผ่นดินให้ใคร การเจรจาดึงเวลาเพื่อให้คนไทยได้กลับบ้านปลอดภัยขณะที่ยังกลับมาก็ยังไม่หมดหากมีอะไรเกิดขึ้นลบฆ่าฟันกันจริงถ้าเกิดขึ้นเช่นนั้นซึ่งไม่ต้องการให้มีใครจะรับผิดชอบประชาชนที่อยู่ในนั้นเพราะฉะนั้นการเจรจาด้วยความปรารถนาดีเพื่อดึงเวลาให้ประชาชนกลับบ้านอย่างปลอดภัยส่วนในอนาคตจะว่ากันไปก็เป็นหน้าที่ของทหารฝ่ายความมั่นคง“ นายวิสุทธิ์กล่าว

นายวิสุทธิ์ อ้างอิงข้อมูลจาก สส. ในพื้นที่ว่าชาวบ้านเข้าใจในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไป ขออย่ากังวล และวันนี้สิ่งที่ต้องกังวลคือทำอย่างไรให้ประชาชนเกษตรกรขายข้าว ขายยาง ขายมัน ขายปาล์มได้ราคา ชี้ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดในวันดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว โดยย้ำว่าง สส. เป็นห่วงเรื่องปากท้องประชาชนมากกว่าผลโพลทางการเมือง

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและยุบสภาว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการแสดงออกความคิดเห็นทางการเมือง ที่ผ่านมาก็มีม็อบมาตลอด โดยกล่าวว่าไม่สบายใจที่ การปราศัยเกี่ยวกับการรัฐประหาร หากจะชุมนุมก็ชุมนุมได้ ย้อนถามการปฏิวัติที่ผ่านมายังไม่เข็ดหรือ ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมก็มีการยื่นร้ององค์กรอิสระ กกต. และ ป.ป.ช. ไปแล้วขอให้ดำเนินการตามกติกากระบวนการยุติธรรม

“ไม่ใช่มาแหกปากเรียกร้องให้ทหารออกมา มีหลายคนในม็อบเห็นอยู่พอปฏิวัติรัฐประหารแล้วได้ดี ก็รู้อยู่ว่าเป็นใครหน้าเดิม ไม่อยากไปกล่าวหา เชิญเลยอยากมาก็มา ไม่ได้ปิดกั้นไม่ได้บานปลายอะไร อยากมาก็มา เป็นเรื่องที่ดีของเราระบอบประชาธิปไตย เวลาปฏิวัติรัฐประหารจะมาแสดงออกแบบนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้เป็นประชาธิปไตยก็เชิญไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน” นายวิสุทธิ์กล่าว

นายวิสุทธิ์กล่าวต่อ ถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยในพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล โดยย้ำว่าเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยโดยในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้จะมีการพูดคุยกัน ถึงบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทำหน้าที่ได้และมีความเป็นกลาง ก่อนจะทิ้งท้ายย้ำถึงเสียงของรัฐบาลว่ามี 270 เสียง ไม่มีปัญหาในการหมดร่างกฎหมายสำคัญ ชี้ว่ายิ่งเหลือน้อยยิ่งไม่มีปัญหาเพราะขาดกันไม่ได้เลย

“ เสียงปริ่มน้ำจริงแต่วันลงมติที่ต้องโหวตอะไรสำคัญขอร้องแม้แต่รัฐมนตรีจะต้องมาทำงานที่รัฐสภา ทั้งพุธและ วันพฤหัสบดี ไม่เป็นอะไรหรอกพอไปได้อยู่แต่ขอให้เสียงน้ำและรักสามัคคีเหมือนคนไทยรักษาความสามัคคีให้ประเทศชาติไปรอดสภาก็ไปรอดทุกอย่างทุกอย่างดีหมด” นายวิสุทธิ์กล่าว

#ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส

ที่อยู่

145 ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่
Bangkok
10210

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00
เสาร์ 10:00 - 17:00
อาทิตย์ 10:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอสผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส:

แชร์