
04/07/2025
“กรกฎา-ปีมะเส็ง” ปั้นรายได้สม่ำเสมอดีกว่า “เงินฝาก”...
กับ “REIT” 3 สินทรัพย์คุณภาพ
"Data Center-คลังสินค้า&โรงงาน-ศูนย์การค้า" !!!
ลายแทงกองทุน: นโยบาย “ภาษี Trump” กำลังจะถึงเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. 25 นี้ แล้ว ถ้าไม่มีการยืดเวลาออกไปอีก ในไม่ช้าคงมีความชัดเจนเกิดขึ้นสำหรับประเทศไทยเช่นเดียวกัน
แม้สินทรัพย์การลงทุนหลักๆ ยังคง “ผันผวน” และยากจะประเมินทิศทางได้ตราบเท่าที่เรื่องปัจจัย “ภาษี Trump” ยังไม่ชัดเจนนั้น
หนึ่งใน “สินทรัพย์ทางเลือก” ที่ยังคงแข็งแกร่งและน่าสนใจก็คือ “ทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” (REIT) นั่นเอง
โดยเฉพาะในช่วง “ดอกเบี้ยทั่วโลก” กลับสู่ “ขาลง” นั้นยิ่งทำให้สินทรัพย์ในกลุ่ม REIT กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดย “ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ” และ “สูงกว่าเงินฝาก” และ “ตราสารหนี้”
วันนี้ทางทีมงาน ‘Wealthy Thai’ จึงได้คัดสรร “4 กองทุนเด่น” กรกฎา-ปีมะเส็ง กับ “REIT” ที่ลงทุนใน 3 สินทรัพย์คุณภาพ "Data Center-คลังสินค้า&โรงงาน-ศูนย์การค้า" ที่น่าสนใจมาฝากกัน
“INETREIT” ลุย "DATA Center" โอกาสโตในยุคดิจิทัล
มาเริ่มกันที่ “INETREIT: ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต” ของ “บจ.ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์” ผู้บริหาร “ทรัสต์กองแรก” และ “กองเดียว” ในประเทศไทยที่ลงทุนใน “Data Center” ทั้งหมด พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่ให้บริการ Cloud อย่างมีประสิทธิภาพ
เน้นลงทุนในศูนย์ข้อมูล INET-IDC3 เฟส 1 และเฟส 2 (ส่วนแรก) ที่ให้บริการด้าน Co-location และ Cloud ครอบคลุมทั้ง Infrastructure as a Service (IaaS), Platform as a Service (PaaS) และ Software as a Service (SaaS) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของ INETREIT ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ซึ่งรวมถึง Uptime Tier III Certification และมาตรฐาน ISO ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center และ Cloud สะท้อนถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของการให้บริการ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทรัสต์ในการมุ่งเน้นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
“ล่าสุด ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการจ่ายปันผลของกองทรัสต์เป็น ‘รายเดือน’ จากเดิมที่จ่ายเป็น ‘รายไตรมาส’ ซึ่งนับเป็นทรัสต์กองแรกในประเทศไทยที่มีนโยบายจ่ายปันผลในรูปแบบรายเดือน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอให้แก่นักลงทุน และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของ ‘INETREIT’ ตลอดจนความมั่นใจในศักยภาพการสร้างรายได้ของทรัพย์สินที่ลงทุน พร้อมมีแผนลงทุนเพิ่มใน INET-IDC3 เฟส 2 ส่วนเพิ่มเติม อีกด้วย”
ปัจจุบัน “อัตราเงินปันผล 12 เดือนล่าสุด” อยู่ที่ 9.27% ปีนี้ราคาตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น +8.72%
“ALLY” ลงทุน "ศูนย์การค้า" รับธุรกิจค้าปลีกเติบโต
สลับมาที่ “ALLY: ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล” ของ “บจ.อัลไล รีท แมนเนจเมนท์” ผู้นำการบริหาร “Green Community Mall”
เน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทในประเทศไทย ภายใต้แนวคิดสถานที่เพื่อวิถีชีวิตใหม่ ทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน และการพักผ่อน มีโครงการศูนย์การค้าภายใต้การบริหารจัดการ จำนวน 14 โครงการ ได้แก่ 1) คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, 2) เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา, 3) เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์, 4) อมอรินี่, 5) แอมพาร์ค 6)เพลินนารี่ มอลล์, 7) สัมมากรเพลส รามคำแหง, 8) สัมมากรเพลส รังสิต, 9) สัมมากรเพลส ราชพฤกษ์, 10) เดอะ ซีน, 11) กาดฝรั่ง วิลเลจ, 12) เดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์, 13) เดอะ ไพร์ม หัวลำโพง และ 14) แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง
“ล่าสุดเตรียมรุกขยายพอร์ตสินทรัพย์ อยู่ระหว่างลงทุนเพิ่มในคอมมูนิตี้มอลล์ 2 แห่งบนทำเลศักยภาพ ‘ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ’ และ ‘วิลเลจ ฮับ สายไหม’ คาดดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ หนุนเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว”
ปัจจุบัน “อัตราเงินปันผล 12 เดือนล่าสุด” อยู่ที่ 11.56% ปีนี้ราคาตลาดปรับตัวลดลง -16.95%
“PROSPECT” ลุย "คลังสินค้า-โรงงานสำเร็จรูป" บนทำเลยุทธศาสตร์ของไทย
มาต่อกันที่ “PROSPECT: ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล” ของ “บจ.พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์” หนึ่งใน “ผู้นำ” การบริหารธุรกิจโครงการด้านอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า “เขตปลอดภาษี” (Free Zone) ใหญ่สุดในพื้นที่บางนา-ตราด
เน้นลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า 4 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่ารวม 292,232 ตร.ม.ประกอบด้วย (1) สิทธิการเช่าช่วงที่ดินและอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 (BFTZ 1) (2) กรรมสิทธิ์ในที่ดินอาคารโรงงานและสำนักงาน แบบ Built-to-suit โครงการ X44 Bangna Km.18 (3) สิทธิการเช่าช่วงที่ดินและอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) (4) กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3)
“ล่าสุดได้ลงทุนเพิ่มในทรัพย์สินใหม่คุณภาพสูงเพิ่มเติมทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 (ถ.บางนา-ตราด กม.23) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (ถ.เทพารักษ์) และโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (ถ.บางนา-ตราด กม.19) พื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 221,678 ตร.ม. ทำให้พื้นที่การบริหารจัดการรวมพุ่งแตะ 514,010 ตร.ม. ซึ่งมีพื้นที่ ‘Free Zone’ ผืนใหญ่ที่สุดในย่านบางนา-ตราด ที่พร้อมสร้างรายได้และผลตอบแทนที่โดดเด่น”
ปัจจุบัน “อัตราเงินปันผล 12 เดือนล่าสุด” อยู่ที่ 7.10% ปีนี้ราคาตลาดปรับตัวลดลง -15.29%
“CPNREIT” ลงทุน "ศูนย์การค้า" ในโครงการเซ็นทรัลผู้นำค้าปลีกไทย
ปิดท้ายกันด้วย “CPNREIT: ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท” ของ “บจ.ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์” ผู้นำการบริหาร “กองทรัสต์ค้าปลีก” ชั้นนำระดับภูมิภาค โดยได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจาก “บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา” (CPN) ผู้พัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์เบอร์หนึ่งของไทย ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารศูนย์การค้ามายาวนาน ในฐานะ “Sponsor” ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ที่ถือต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมนำทรัพย์สินเข้ากองเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กัน
เน้นลงทุนในทรัพย์สินที่หลากหลายบนทำเลศักยภาพในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัดรวม 12 โครงการ ได้แก่ 1) การลงทุนในสิทธิการเช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล 7 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล ลำปาง และเซ็นทรัล มารีนา (พัทยา) มีพื้นที่ให้เช่ารวม 252,840 ตารางเมตร 2) อาคารสำนักงาน 4 แห่ง ได้แก่ ปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ เอ, ปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ บี, เดอะไนน์ ทาวเวอร์ส และยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ มีพื้นที่ให้เช่ารวม 111,541 ตารางเมตร และ 3) โรงแรม 1 แห่ง ได้แก่ ฮิลตัน พัทยา จำนวน 304 ห้อง
“ล่าสุดกองทรัสต์อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลและพิจารณาการลงทุนในศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะให้ความสำคัญกับศูนย์การค้าที่มีผลประกอบการที่ดี และอยู่ในทำเลที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงให้กับรายได้และช่วยสร้างการเติบโตของผลตอบแทนในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนของ ‘CPNREIT’ ในอนาคตอีกด้วย”
ปัจจุบัน “อัตราเงินปันผล 12 เดือนล่าสุด” อยู่ที่ 5.60% ปีนี้ราคาตลาดปรับตัวลดลง -11.38%
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินโลก จากนโยบายของ “Donald Trump” การเสริมแกร่งให้กับพอร์ตลงทุนด้วยการกระจายลงทุนไปในกลุ่ม “สินทรัพย์ทางเลือก” อย่าง “REIT” ก็ช่วยลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตของคุณได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาตลาดปรับตัวลงมามาก จนทำให้ “Yield” ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทรัสต์แต่ประการใด
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทรัสต์ มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
#กองทุน #ลายแทงกองทุน #ทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์