29/10/2025
ทำอย่างไรให้ “โรงเรียนของเราน่าอยู่”
| คอลัมน์ Newground | แปลกดีที่ไม่ว่ายุคไหน เด็กๆ ก็ไม่อยากไปโรงเรียน ผมจำได้ว่าตอนอนุบาล ผมจะมีอาการปวดท้องทุกเช้าในวันจันทร์ถึงศุกร์ และอาการปวดก็จะหายไปในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุด
สำหรับผมในวัยเด็ก โรงเรียนคือการทารุณกรรม เป็นที่ที่พรากผมจากพ่อแม่ บังคับให้ผมกินข้าวจนหมด กินกล้วยบวดชี แตงกวา บังคับให้นอน ให้อยู่กับคนแปลกหน้า เคารพธงชาติร่วมกับคนเป็นร้อยๆ ยืนตากแดด บังคับสวดมนต์ทั้งพุทธ คริสต์ และทุกวันพุธในรอบสัปดาห์ จะมีครูสอนศาสนามานำสวดแผ่เมตตาชุดใหญ่ แผ่ให้ตั้งแต่สรรพสัตว์ยันผีเปรต ฯลฯ
ถ้าให้คนไทยสักร้อยคนลองเล่าภาพโรงเรียนในความทรงจำ คำตอบที่ได้คงไม่ต่างกันมากนัก ห้องเรียนสี่เหลี่ยม ผนังสีซีดๆ โต๊ะไม้เก่าที่นั่งกันเป็นแถวตรง (ยกเว้นคุณเรียนห้องพิเศษ อาจจะได้โต๊ะขาวสำหรับคนถนัดขวาเพิ่มขึ้นมาแทน) พัดลมเพดานหมุนเอื่อยๆ และเสียงอึกทึกจากถนนหรือสนามกีฬาที่ลอดเข้ามาอยู่เสมอ เวลาพักเที่ยงก็ต้องเบียดเสียดกันในโรงอาหารที่ทั้งร้อนและเสียงดังจนเหนื่อยเกินกว่าการเรียน
หากได้หลับสักงีบในคาบบ่าย คงทำให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้น เสียดายที่ครูสังคมตอนประถมผมไม่ได้คิดเช่นนั้น รู้ตัวอีกทีชอล์กเขียนกระดาษก็กระทบกบาลเพื่อนผมขณะฝันกลางวัน
นี่คือความจริงที่เด็กไทยจำนวนมหาศาล ต้องใช้เวลาอยู่กับมันวันละเจ็ดถึงแปดชั่วโมง และหากคิดรวมทั้งชีวิตการเรียน โรงเรียนกลายเป็นสถานที่ที่เด็กใช้เวลามากที่สุดรองจากบ้าน ซึ่งใช้ในเวลากลางคืนเสียส่วนใหญ่
สิ่งที่น่าตั้งคำถามคือ โรงเรียนที่เราใช้ชีวิตอยู่เหล่านี้ “น่าอยู่จริงหรือ?” หรือเป็นเพียงสถานที่ที่เราจำใจต้องอยู่ไปวันๆ
ติดตามอ่านเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่ [คอมเมนต์]
บทความโดย: เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์
#ทำอย่างไรให้โรงเรียนน่าอยู่ #ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียน #ไทยพับลิก้า