WeeklyNews Online สำนักข่าว วีคลี่นิวส์ ออนไลน์

WeeklyNews Online สำนักข่าว วีคลี่นิวส์ ออนไลน์ เพจสำนักข่าว ที่นำเสนอเรื่องราวที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้ง บันเทิง กีฬา ท่องเที่ยว

ร.อ.ธรรมนัส-อรรถกร”ลุยเคลียร์ปัญหา“ซีเกมส์–พาราเกมส์”ลั่น พร้อมเดินหน้าแก้ไขทุกจุดบกพร่องตามนโยบายนายกฯ ขอ ทุกฝ่ายร่วมมื...
25/09/2025

ร.อ.ธรรมนัส-อรรถกร”ลุยเคลียร์ปัญหา“ซีเกมส์–พาราเกมส์”ลั่น พร้อมเดินหน้าแก้ไขทุกจุดบกพร่องตามนโยบายนายกฯ ขอ ทุกฝ่ายร่วมมือสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศ

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กทม.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมาตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงการประชุมติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ว่า การประชุมครั้งนี้ ได้รับเกีรยติจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.),​ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้มีการสอบถามความคืบหน้าและรายละเอียดในการดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ จาก กกท. และสมาคม ต่างๆ ซึ่งได้แบ่งงานในการรับผิดชอบ อาทิ การเดินทางของนักกีฬาที่จะเข้าร่วมสนามแข่งขัน และรายละเอียดต่าง ๆ ส่วนเรื่องที่พักของนักกีฬา ยืนยันว่า ตรงนี้มีความพร้อมแล้ว

นายอรรถกร กล่าวต่อด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้กำชับในที่ประชุม โดยขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันจัดการแข่งขันในฐานะเจ้าภาพให้ดีที่สุด เนื่องจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งการและเน้นย้ำถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงจะต้องทําให้ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะโอกาสแบบนี้อีกนานมากกว่าไทยจะได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่จัดซีเกมส์ในประเทศไทยก็คือ 18 ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬานั้น ร.อ.ธรรมนัส กำชับว่า จะต้องมั่นใจว่าคนที่จะมารับหน้าที่ในการถ่ายทอดสด หรือแม้แต่กระทั่งการจัดพิธีเปิด หรือปิดจะต้องทําให้สมศักดิ์ศรีของประเทศไทย

“ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 75 วันเท่านั้น มีอีกหลายประเด็นที่เราก็ต้องคํานึงถึง เช่น เรื่องของงบประมาณที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้ จะทําอย่างไรที่จะใช้มาให้อุดรอยรั่วในจุดอ่อนทุกจุด ซึ่งผมได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่ร่วมประชุมในวันนี้เปิดใจคุยกันตรง ๆ เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไขร่วมกัน ผมเชื่อว่า เมื่อเราได้พูดคุยกันแล้วการทำงานจะมีความชัดเจน และจะเดินหน้าไปสู่ความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทุกประเภทในระดับมาตรฐานสากลของประเทศไทย“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร ยังกล่าวถึง สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ที่ถูกสหพันธ์เปตองนานาชาติสั่งห้ามส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งกีฬาซีเกมส์ ว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และจะหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อให้นักกีฬาเปตองสามารถแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นี้ให้ได้

กกท. เปิดนโยบาย “Thailand Vision through Sports & Soft Power 2026” จุดพลังกีฬาไทยก้าวสู่เวทีโลก!    การกีฬาแห่งประเทศไทย...
25/09/2025

กกท. เปิดนโยบาย “Thailand Vision through Sports & Soft Power 2026” จุดพลังกีฬาไทยก้าวสู่เวทีโลก!

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. โชว์วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก เริ่มจาก Sports For All ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงกีฬาอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับนักกีฬาไทยด้วยการพัฒนาทักษะทั้งพื้นฐานและขั้นสูง
สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ ภายใต้ศูนย์ฝึก NTC ที่เสริมสร้างศักยภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เดินหน้านำวิทยาศาสตร์การกีฬามาบูรณาการอย่างครบวงจร ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานสนามกีฬารองรับการแข่งขันทุกระดับ เพื่อผลักดันนักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศบนเวทีนานาชาติ
พร้อมต่อยอดสู่กีฬาอาชีพการจัดบิ๊กอีเวนต์เพื่อสร้างโอกาสให้แก่นักกีฬาไทย สร้างรายได้มหาศาลสู่ประเทศ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ณ คอนเวนชั่น ฮอลล์ พาวิลเลียน เอ โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์ กรุงเทพฯ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในงานแถลงนโยบายด้านการกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ในโอกาสนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าฯ พร้อมคณะได้เดินชมแสดงผลงานและวิสัยทัศน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 โซนประกอบด้วย โซนที่ 1 : สร้างโอกาสในการเข้าถึงการเล่นกีฬาให้กับเยาวชนและประชาชน , โซนที่ 2 : พัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา , โซนที่ 3 : การพัฒนาทักษะทางกีฬาขั้นสูง สู่ความเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศ , โซนที่ 4 : การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก และโซนที่ 5 เวิลด์ สปอร์ต อีเวนต์ - สปอร์ต ทัวร์ริซึ่ม
ก่อนชมวิดีทัศน์ถ่ายทอดแนวคิดด้านกีฬา และกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการจากวีดีทัศน์ ได้นำเสนอนโยบายแรก การสร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชน เข้าถึงการเล่นกีฬาอย่างเท่าเทียม (Sports For All) ภายใต้แนวคิด “กีฬาสร้างสุขภาพและสร้างความสุข” เนื่องจากกีฬาไม่ใช่เพียงการแข่งขัน แต่คือหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง มุ่งเน้นการพัฒนา “สนามกีฬาเพื่อทุกคน ทุกพื้นที่” ในการกระจายศูนย์กีฬาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก เท่าเทียม และปลอดภัย เพราะสนามกีฬาไม่เพียงเป็นสถานที่ออกกำลังกาย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี สร้างรอยยิ้ม และความสุข
พร้อมกันนี้ยังได้ผลักดัน โครงการ Youth Development เพื่อสร้างโอกาสทางการกีฬา และเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้การเล่นกีฬาอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตกีฬาไทยให้ก้าวไกลต่อไป
นโยบายที่สอง ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อก้าวสู่การเป็นนักกีฬาและบุคลากรกีฬาระดับชาติเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับโรงเรียนกีฬา มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ โดยการพัฒนาบุคลากรกีฬา ครูพลศึกษา ผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน และการร่วมมือกับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างเวทีการแข่งขันในทุกพื้นที่ เปิดโอกาสให้เยาวชนและท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ สร้างเครือข่ายสังคมกีฬาที่กระจายทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นด่านแรกในการผลักดันเยาวชนสู่ระดับชาติและนานาชาติ
นโยบายที่สาม การพัฒนาทักษะทางกีฬาขั้นสูง สู่ความเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศในนามนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์ แต่ต้องอาศัยการพัฒนาร่างกาย จิตใจ และทักษะอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง โดยร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพลังที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาไทย เช่นเดียวกับผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ (NTC) ซึ่งเสมือนเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของนักกีฬาทีมชาติไทย ด้วยสนาม อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ช่วยให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทัดเทียมกับมาตรฐานโลก เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านกีฬา พร้อมศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ตลอดจนการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อเพิ่มสมรรถภาพและศักยภาพนักกีฬา ที่ครอบคลุมองค์ประกอบความสำเร็จของนักกีฬา
ได้แก่ 1.สรีรวิทยาการกีฬา 2.เวชศาสตร์การกีฬา 3.โภชนาการกีฬา 4.จิตวิทยาการกีฬา และ 5.ชีวกลศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา นอกจากนี้ ความร่วมมือในการขับเคลื่อนโดยสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในการสร้างเวทีการแข่งขันทุกระดับ ทั้งในระดับจังหวัด ภูมิภาคและประเทศ เพราะทุกสนามคือจุดเริ่มต้นของนักกีฬาที่จะก้าวไกลสู่เวทีโลก
นโยบายที่สี่ การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก เพราะกว่าจะเป็นฮีโร่ต้องแข็งแกร่งตลอดเส้นทาง การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว จุดเริ่มจากสนามเล็กในชุมชนสู่สนามแข่งขันระดับชาติ ผ่านการล้มครั้งแล้วครั้งเล่า สู่การลุกขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ ความพยายามที่ไม่หยุดยั้ง และการพัฒนาส่งเสริมทุกด้านสู่ความเป็นเลิศและระดับอาชีพ จนนักกีฬาก้าวขึ้นไปโบกธงชาติไทยบนเวทีระดับโลก และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทั้งชาติ กลายเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่เกิดจากหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้อย่างแท้จริง
นโยบายที่ห้า ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของรายการแข่งขันกีฬาระดับโลก การจัดเวิลด์ สปอร์ท อีเวนต์ และการส่งเสริมสปอร์ตทัวริซึ่ม เพราะกีฬาสามารถสร้างเศรษฐกิจชาติ สร้างรอยยิ้มสู่คนไทย ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างรายการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และกีฬาอาชีพในประเทศ เพื่อสร้าง Sport Eco System ที่สมบูรณ์ยั่งยืน สร้างโอกาสให้นักกีฬาไทย และสร้างรายได้สู่ประเทศด้วยการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬา และกีฬาระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น รายการ กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ , โมโต จีพี, การแข่งขันมาราธอนต่างๆ รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ ไทยแลนด์2025 ที่กำลังจะมาถึง เพื่อแสดงความสามารถของนักกีฬาไทย และโปรโมตประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านการจัดการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน
ทั้งนี้ กกท. ได้ดำเนินการทบทวนแผนวิสาหกิจ การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2569 – 2573 ซึ่งจากปัจจัยนำเข้าที่สำคัญ ผลการดำเนินงานที่่ผ่านมา สภาพแวดล้อม นโยบายและแผนที่เกี่ยวข้อง โดย กกท. ได้กำหนดจุดยืน เป็น 3 ระยะ ดังนี้
ปี 2569 Data Driven Organization
เป็นองค์กรที่ใช้ข้อมูลในการบริหารงานองค์กร (Data Driven Organization) รวมทั้งการให้บริการข้อมูลทางการกีฬาแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า
ปี 2571 Facilitator
การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุน ให้กับนักกีฬาและสมาคมกีฬาเพื่อเป็นตัวกลาง ที่เชื่อมต่อระหว่างบุคคล กลุ่มงาน หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า โดยมุ่งเน้นระบบดิจิทัล และนวัตกรรม
ปี 2573 Green and Sustainable Sports Organization
เป็นศูนย์กลางข้อมูลทางการกีฬาที่สำคัญของประเทศ ขับเคลื่อนด้วยระบบเทคโนโลยี สนับสนุนการจัดกิจกรรมกีฬาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่การเป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างยั่นยืน
วิสัยทัศน์ของ กกท. ที่ว่าพัฒนากีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งหากแบ่งเป็นประเด็นจะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องและสัมพันธ์กับนโยบายตามที่ได้นำเสนอโดย มีพันธกิจ วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ 5 ด้าน
ประกอบด้วย SO1 การบริหารจัดการกีฬา เพื่อความเป็นความเลิศ เป้าหมาย ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยหมายถึงอันดับในการแข่งขันกีฬาในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ และความสำเร็จของผลงานอื่นๆ โดยกิจกรรมและโครงการ การพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นระดับ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยการส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาระยะยาว เพื่อสรรหาคัดเลือกเข้าสู่ระบบการเตรียมนักกีฬาระดับนานาชาติที่มีศักยภาพ รวมทั้งการผลักดันให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด มีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งการส่งเสริมพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้นักกีฬาประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติที่สำคัญ คือ การส่งเสริมการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้ในการพัฒนานักกีฬา การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรการกีฬาให้มีศักยภาพ และการยกระดับการบริหารศูนย์ฝึกกีฬาและสนามกีฬาให้ได้มาตรฐานครบวงจร การพัฒนาระบบการเก็บตัวฝึกซ้อม การพัฒนาระบบฐานข้อมูลการกีฬาเพื่อให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
SO2 การบริหารจัดการกีฬาอาชีพและกีฬามวย เป้าหมาย พัฒนากีฬาอาชีพให้มีมาตรฐานและศักยภาพในระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรการกีฬาอาชีพและบุคคลในวงการกีฬามวย การส่งเสริมการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพและกีฬามวยอย่างมีมาตรฐานตามพรบ. กีฬาอาชีพและกีฬามวย�และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยการบริหารจัดการองค์กรกีฬาอาชีพและกีฬามวยให้สามารถสร้างรายได้ให้กับนักกีฬา และบุคลากรกีฬาอาชีพและกีฬามวยได้อย่างยั่งยืน
SO3 การบริหารจัดการกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย �เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทุกระดับ ตั้งแต่กีฬาเป็นเลิศ กีฬาอาชีพ และกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ (Sports Tourism) รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวยไทยสู่การเป็นวัฒนธรรมสากล ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการกีฬาของเอเชีย โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กิจกรรมกีฬาสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
SO4 การพัฒนาสภาพแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมและบริการทางการกีฬา เป้าหมาย สร้างมูลค่าเพิ่มทางสังคมและพาณฺิชย์จากกิจกรรม การแข่งขันกีฬาและการบริการ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์ของ กกท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนารูปแบบการให้บริการและผลิตภัณฑ์ของ กกท. ตอบสนองความต้องการของนักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา ประชาชน ผู้ใช้บริการ องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างโอกาส ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการกีฬา กิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกายของประชาชน และกระแสความตื่นตัวทางการกีฬา เพื่อขยายฐานประชากรกีฬา และส่งเสริมพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองกีฬาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย
SO5 การพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรด้วยระบบดิจิทัล นวัตกรรม และทุนมนุษย์ เป้าหมาย คือการพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการยกระดับการบริหารจัดการองค์กรของ กกท. ให้มีมาตรฐานตามแนวทางการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ (SE-AM) รวมทั้งส่งเสริมธรรมาภิบาล
โดยการนำระบบดิจิทัล นวัตกรรม และการบริหารทุนมนุษย์ เข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง กล่าวคือ นโยบายสำคัญของ กกท. คือการยกระดับวงการกีฬาไทยให้เข้มแข็งอย่างเป็นระบบ ครบวงจร และยั่งยืน ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มต้นตั้งแต่การพัฒนาเยาวชนสู่ความเป็นเลิศ จนก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ เพื่อหล่อหลอม “พลังนักกีฬาไทย” ให้ก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ยังมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาค และใช้กีฬาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆ ในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานกีฬา รวมทั้งส่งเสริมกีฬาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและชื่อเสียงให้แก่ประเทศ
#การกีฬาแห่งประเทศไทย

https://youtu.be/wvIoFwfnuIk

25/09/2025

ททท.เชียงราย และศูนย์ฯ ททท.พะเยา

🙏 การจัดกิจกรรมGrand Moment แห่งความทรงจำ ”ครั้งหนึ่งในชีวิต“ ไหว้พระ ขอพร “หลวงพ่อศิลา” ณ วัดติโลกอาราม กลางกว๊านพะเยา จ.พะเยา ครั้งที่ 3

🙏 วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา 17.00-19.00 น. ณ วัดติโลกอาราม จ.พะเยา

Fam Festival 2025  มหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทุกเจเนอเรชัน  เพราะครอบครัวไม่ใช่ใครคนเดียว แต่คือเราทุกคนอยากเห็นลูกยิ้ม อยาก...
25/09/2025

Fam Festival 2025 มหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทุกเจเนอเรชัน เพราะครอบครัวไม่ใช่ใครคนเดียว แต่คือเราทุกคน

อยากเห็นลูกยิ้ม
อยากให้พ่อแม่พัก
อยากให้ปู่ย่าตายายมีความสุขในครอบครัว
Fam Festival 2025 มหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทุกเจเนอเรชัน เพราะครอบครัวไม่ใช่ใครคนเดียว แต่คือเราทุกคน

และเพราะครอบครัว คือที่แรกที่เราหัวเราะ และที่เดียวที่เราร้องไห้ได้เต็มที่
ครอบครัวคือครูคนแรก และเพื่อนคนสุดท้ายที่ไม่เคยจากไป
Fam Festival 2025
กำลังจะชวนเราไปย้ำหัวใจข้อนี้…ด้วยกัน
📆 27–28 ก.ย. 2568 เวลา 10.00-16.00 น.
📍 พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 (จตุจักร)
🌟กิจกรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จัดโดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ สสส.

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ 👉🏼 https://events.make-form.com/fam-fest-2025/register
FAM Festival 2025 มหกรรมครอบครัว ที่ตั้งใจทำให้คำว่า บ้าน ขยายออกไปเป็นคำว่า สังคม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั่งเล่น โต๊ะอาหาร หรือสนามเด็กเล่นเล็ก ๆ ของบ้านหนึ่งหลัง ล้วนส่งผลต่ออนาคตของเมืองใหญ่และโลกที่เราอยู่ร่วมกัน
ในงานนี้ จะได้เจอกับกิจกรรม เวิร์คชอป และการแสดงมากมาย อาทิ
🎉FAM STAGE : ละครใบ้, เล่านิทาน และคอนเสิร์ตจากศิลปิน
🎉FAM TALK : กิจกรรมเสวนาจากอินฟลูเอนเซอร์ และ ผู้นำทางความคิดด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว
🎉CREATIVE FAM ZONE: กิจกรรมและเวิร์คชอป ชวนเด็กๆ และผู้ใหญ่สนุกสนานด้วยกัน เช่น การประดิษฐ์สิ่งของ, Simple Automata, Calming Bottle หรือขวดนำ้ใจเย็น, ทำกระเป๋าผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย
🎉FAM GRANDPARENT GARDEN: กิจกรรมสำหรับคนทุกวัยในครอบครัวที่สามารถทำร่วมกันได้
🎉FAM MUSIC AND CHILL GARDEN: มุมนิทานพร้อมเพลงฟังเบาๆ ตลอดทั้งงาน หรือจะลุกขึ้นมาขยับไปด้วยกันก็ได้นะ
🎉FAM PHOTO MEMORY AND FAMILY TREE WALL : ถ่ายภาพครอบครัวกับกิจกรรมใน Photo Booth และเขียนชื่อครอบครัวไว้บนต้นไม้ครอบครัวขนาดยักษ์ใจกลางงาน
🎉FAM NETWORK : พบกับเครือข่ายของ FAM FESTIVAL ที่จะมาร่วมออกบูธให้ความรู้กับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็น MAPPA แอพลิเคชั่นการเรียนรู้, HOOK LEARNING การส่งเสริมทักษะสำหรับพ่อแม่ , SHARE AND CARE แพลตฟอร์มพ่อแม่ร่วมเรียนรู้ และอีกมากมาย ที่ยกขบวนมาให้ความรู้กับครอบครัว
งานทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อทุกเจเนอเรชัน ทั้งเด็ก ๆ ที่จะได้เรียนรู้ผ่านการเล่น พ่อแม่ที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ปู่ย่าตายายที่ได้กลับมามีบทบาทสนุกสนาน และเพื่อนบ้านที่ได้ร่วมสร้างสายสัมพันธ์ใหม่ ๆ
เพราะครอบครัวไม่ใช่เพียงสายเลือด แต่คือชุมชนที่เราเลือกจะดูแลกัน
✨ มหกรรมนี้คือการยืนยันว่า ความสุข ความเข้าใจ และเวลาคุณภาพ ไม่ได้เป็นเพียงคำสวยหรู แต่สามารถจับต้องได้จริง เมื่อเรามาเจอกัน แบ่งปันกัน และเรียนรู้ร่วมกัน
ชวนทุกครอบครัว ทุกเพศ ทุกวัย มารวมพลังกันอีกครั้ง เพื่อบอกกับสังคมว่า…
ครอบครัวไม่ใช่เรื่องของใครคนเดียว แต่คือเรื่องของเราทุกคน 💛

#กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว #กทม #สสส #เพื่อนครอบครัว
#กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

"น้องเกรซ" ศศิยาพัชร นางเอก "เรื่องเล่าอาจารย์ยอด  มงลงมิสแกรนด์เมืองสมุทร เสาร์นี้! ชวนติดตามผลงานการแสดงช่อง 7 เอชดี  ...
24/09/2025

"น้องเกรซ" ศศิยาพัชร นางเอก "เรื่องเล่าอาจารย์ยอด มงลงมิสแกรนด์เมืองสมุทร เสาร์นี้! ชวนติดตามผลงานการแสดงช่อง 7 เอชดี

เปิดประเดิมจังหวัดแรกของ #𝗠𝗚𝗧𝟮𝟬𝟮𝟲 ขอแสดงความยินดีกับ “เกรซ ศศิยาพัชร จิรภัทธ์กุลชัย” มิสแกรนด์สมุทรปราการ 2026 ผู้เข้าประกวดคนแรกอย่างเป็นทางการของ 𝗠𝗶𝘀𝘀 𝗚𝗿𝗮𝗻𝗱 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 𝟮𝟬𝟮𝟲
ติดตามชมผลงานการแสดงของเธอได้ใน ซีรี่ย์ #เรื่องเล่าอาจารย์ยอด ตอน #ลูกรักลูกชัง วันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ เวลา 17.15 น. ทาง #จ๊ะทิงจา
เรื่องย่อ ลูกรักลูกชัง
สมพิศคลอดลูกชายในวันที่แม่ของชาติถูกไฟคลอกตายคาบ้าน โชคที่เกิดมาพร้อมกับคำว่าตัวซวยจึงไม่เป็นที่รักของพ่อและแม่ ทั้งถูกทุบตีและด่าว่าอยู่ตลอด ต่างจากนิภาซึ่งเป็นน้องสาวที่ได้รับความรักดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี โชคต้องหยุดเรียนเพื่อมาช่วยพ่อทำงาน จนกระทั่งโชคและนิภาโตขึ้น นิภาได้เข้าไปเรียนในกรุงเทพ ส่วนโชคยังคงช่วยพ่อทำงานหนักเหมือนอย่างเคย โชคคบหากับอำไพและตกลงว่าจะแต่งงานกัน แต่ชาติกลับไม่ให้เงินไปเป็นสินสอด พ่อแม่ของอำไพที่รู้จักโชคตั้งแต่เด็ก เห็นว่าโชคเป็นคนดีและขยันจึงไม่เรียกสินสอด แต่ให้โชคมาช่วยทำงานแทน นิภาท้องจึงลาออกจากมหาลัยและพาสุเมธกลับมาคลอดลูกที่บ้านตนก่อน ชาติและสมพิศประสบอุบัติเหตุทำให้พิการทั้งคู่ นิภาไม่สนใจพ่อแม่ มีเพียงโชคที่ดูแลทุกอย่าง เนื่องจากสุเมธเป็นลูกคนรวยจึงทนอยู่บ้านนอกไม่ได้ต้องการกลับบ้านจนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน นิภาแท้งลูก สุเมธได้รับบาดเจ็บ
บทสรุปชีวิตของ นิภา จะเป็นเยี่ยงไร? มาร่วมติดตามชมใน ซีรี่ย์ #เรื่องเล่าอาจารย์ยอด ตอน #ลูกรักลูกชัง วันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ เวลา 17.15 น. ทาง #จ๊ะทิงจา

24/09/2025

"น้องเกรซ" ศศิยาพัชร นางเอก "เรื่องเล่าอาจารย์ยอด มงลงมิสแกรนด์เมืองสมุทร เสาร์นี้! ชวนติดตามผลงานการแสดงช่อง 7 เอชดี

เปิดประเดิมจังหวัดแรกของ #𝗠𝗚𝗧𝟮𝟬𝟮𝟲 ขอแสดงความยินดีกับ “เกรซ ศศิยาพัชร จิรภัทธ์กุลชัย” มิสแกรนด์สมุทรปราการ 2026 ผู้เข้าประกวดคนแรกอย่างเป็นทางการของ 𝗠𝗶𝘀𝘀 𝗚𝗿𝗮𝗻𝗱 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 𝟮𝟬𝟮𝟲
ติดตามชมผลงานการแสดงของเธอได้ใน ซีรี่ย์ #เรื่องเล่าอาจารย์ยอด ตอน #ลูกรักลูกชัง วันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ เวลา 17.15 น. ทาง #จ๊ะทิงจา
เรื่องย่อ ลูกรักลูกชัง
สมพิศคลอดลูกชายในวันที่แม่ของชาติถูกไฟคลอกตายคาบ้าน โชคที่เกิดมาพร้อมกับคำว่าตัวซวยจึงไม่เป็นที่รักของพ่อและแม่ ทั้งถูกทุบตีและด่าว่าอยู่ตลอด ต่างจากนิภาซึ่งเป็นน้องสาวที่ได้รับความรักดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี โชคต้องหยุดเรียนเพื่อมาช่วยพ่อทำงาน จนกระทั่งโชคและนิภาโตขึ้น นิภาได้เข้าไปเรียนในกรุงเทพ ส่วนโชคยังคงช่วยพ่อทำงานหนักเหมือนอย่างเคย โชคคบหากับอำไพและตกลงว่าจะแต่งงานกัน แต่ชาติกลับไม่ให้เงินไปเป็นสินสอด พ่อแม่ของอำไพที่รู้จักโชคตั้งแต่เด็ก เห็นว่าโชคเป็นคนดีและขยันจึงไม่เรียกสินสอด แต่ให้โชคมาช่วยทำงานแทน นิภาท้องจึงลาออกจากมหาลัยและพาสุเมธกลับมาคลอดลูกที่บ้านตนก่อน ชาติและสมพิศประสบอุบัติเหตุทำให้พิการทั้งคู่ นิภาไม่สนใจพ่อแม่ มีเพียงโชคที่ดูแลทุกอย่าง เนื่องจากสุเมธเป็นลูกคนรวยจึงทนอยู่บ้านนอกไม่ได้ต้องการกลับบ้านจนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน นิภาแท้งลูก สุเมธได้รับบาดเจ็บ
บทสรุปชีวิตของ นิภา จะเป็นเยี่ยงไร? มาร่วมติดตามชมใน ซีรี่ย์ #เรื่องเล่าอาจารย์ยอด ตอน #ลูกรักลูกชัง วันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ เวลา 17.15 น. ทาง #จ๊ะทิงจา

ททท. เตรียมพร้อมจัดเต็มทุกมิติใหม่การท่องเที่ยวผ่านงาน DNA Travel & Fair 2025 ที่สุดของงานมหกรรมท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทุก...
23/09/2025

ททท. เตรียมพร้อมจัดเต็มทุกมิติใหม่การท่องเที่ยวผ่านงาน DNA Travel & Fair 2025 ที่สุดของงานมหกรรมท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

วันนี้ (23 กันยายน 2568) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิดตัวงาน “DNA 2025 (Destination Navigator Assessment)” ภายใต้แนวคิด “Thailand’s Subculture: Decode Your Journey” เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ในวันที่ 9 - 12 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น G ฮอลล์ 3 – 4 งานที่รวบรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมย่อย (Subculture) ของประเทศไทย จัดเต็ม 5 โซนกิจกรรม เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวไว้ในงานเดียว

โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท. นาย ณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท.ททท. กล่าวว่า กลุ่มวัฒนธรรมย่อย (Subculture) ถือเป็นสิ่ง ที่สะท้อนตัวตนและความชอบเฉพาะกลุ่มของบุคคล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าความชื่นชอบดังกล่าวเป็นสารตั้งต้นให้เกิดความหลากหลายในสังคมและพฤติกรรมการท่องเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ที่เด่นชัด ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่แวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่ควรมองข้าม จึงเป็นที่มาของการจัดงาน DNA 2025 (Destination Navigator Assessment) ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 โดยมีเป้าหมายในการถอดรหัสความสนใจ ไลฟ์สไตล์ และตัวตนของนักเดินทาง เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized) ผ่านการจัดกิจกรรม “DNA Travel & Fair 2025” ที่สุดของงานมหกรรมท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งนำเสนอเส้นทางและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งผจญภัย วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ นำเสนอจัดเต็มผ่าน 5 โซนกิจกรรม พร้อมเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และหน่วยงาน เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
งาน DNA Travel & Fair 2025

ในปีนี้ได้จะเนรมิตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ผ่าน “Immersive Room: Your DNA – The Black Box” ซึ่งเป็นห้องทดลองเสมือนจริงที่สะท้อนตัวตนและแนวทางการท่องเที่ยวของผู้เข้าร่วมงานตามเฉดสีของวัฒนธรรมย่อยต่าง ๆ ผ่าน 5 โซนหลักภายนงานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
โซน THAI POP: เจาะลึกวัฒนธรรมสมัยนิยมที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากประเทศไทยและกระแสโลก พบกับกิจกรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ
POP Gallery จัดแสดงผลงาน Art Toy หาชมยากจาก Trendy Gallery
บูธ Official Merchandise จาก GMM TV พร้อมมาสคอตและกิจกรรมพิเศษ
Drag Room พื้นที่ให้คุณได้ปลดปล่อยตัวตนและแปลงโฉมกับ Drag Queen ชื่อดังและนักแสดงจาก Alcazar Cabaret Pattaya
House of Pop Market ตลาดที่รวบรวมร้านค้าจากศิลปินและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง

โซน SIAM STYLE: สัมผัสวิถีคลาสสิกและมนต์เสน่ห์ของไทยในอดีตผ่านกิจกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ อาทิ
นิทรรศการชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ
นิทรรศการของสะสมวินเทจหายากจากบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์
โซนดูดวง Maison Divination & Mystique กับอาจารย์แห้ว ในวันที่ 9 ตุลาคม เวลา 13:00 น. เป็นต้นไป
กิจกรรมของคณะลิเก หมอลำ และลูกทุ่ง ที่เปิดโอกาสให้พบปะแฟนคลับอย่างใกล้ชิด

โซน WORK & PLAY: คอมมูนิตี้สำหรับนักเดินทางยุคใหม่ ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ โดดเด่นด้วย Digital Tunnel ที่นำเข้าสู่วิถีเมืองดิจิทัล พร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ
นิทรรศการภาพถ่าย “Next Destination” โดย Foto club BKK
TikTok LIVE Studio ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ทดลองเป็นนักไลฟ์มืออาชีพ
พื้นที่ทำงานร่วมกับคาเฟ่บรรยากาศเก๋ไก๋จากกาแฟพันธุ์ไทย
พื้นที่ของฟรีแลนซ์ สร้างโอกาส สร้างรายได้ เชื่อมตรงสู่ Platform Fastwork

โซน LIFESTYLE & FAMILY: เพิ่มพลังชีวิต เติมเต็มความสุข และสร้างประสบการณ์การเดินทางสำหรับครอบครัว ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ
โซนถ่ายภาพและกิจกรรมจาก Jurassic World Experience
แลนด์มาร์คจำลองม้าหมุนบนหุบเขา พร้อมกิจกรรมจากฟาร์มต่างๆ
พื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมหมุนเวียน เช่น การแสดงสัตว์เลี้ยงแสนรู้ และการให้ความรู้ ด้าน Wellness Tourism
โซน THAI TASTE: สวรรค์ของนักชิมที่รวบรวมร้านอาหารไทยชื่อดังจากทุกภาค ทั้งร้านดังจาก TikTok และร้านของดาราอินฟลูเอนเซอร์กว่า 95 ร้าน พร้อมกิจกรรม Chef Workshop ที่เชฟชื่อดังจะมาสาธิตการทำอาหาร Fine Dining จากวัตถุดิบท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมสนุกได้ เพียงลงทะเบียนเข้างาน ฟรี! ผ่านระบบออนไลน์ โดยการสแกน QR Code กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่สะท้อนตัวตนของคุณ และทุกยอดใช้จ่ายภายในงาน ครบทุก 100 บาท รับ 10 คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางวัลและสิทธิ์ร่วมทำกิจกรรมสุด Exclusive อาทิ Personal Color ดูดวง Drag Makeover, Special Menu จากกาแฟพันธุ์ไทย Puppy Yoga และ Upcycling Workshop รวมไปถึงกิจกรรมบนเวทีกลางตลอดทั้ง 4 วันของการจัดงาน อาทิ การแสดงจาก Fino the Ranad, เดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย, กิจกรรมส่งเสริมการขาย Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน พร้อมจัดเต็มความบันเทิงจากศิลปินและนักแสดงชื่อดังตลอดการจัดงาน 9 ตุลาคม 2568 : เก่ง หฤษฎ์ และ น้ำปิง นภัสกร นักแสดงนำจากซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด” 10 ตุลาคม 2568 : การแสดงจากคณะลิเกสองเทพบุตรสุดที่รัก และคอนเสิร์ตจาก PALMY 11 ตุลาคม 2568 : ยูกิ ไหทองคำ และ 12 ตุลาคม 2568 : ปิดท้ายความม่วนด้วยลำไย ไหทองคำ และวงหมอลำแห่งยุค ระเบียบวาทะศิลป์
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ page : ThailandFestival หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
#ททท
&Fair
’sSubculture

“เบล-เน็กซ์ BUS-แม็กซ์” นำทีมผสานโลกตัวอักษรกับเสียงดนตรี ธีม “Melody of Books” งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30”...
23/09/2025

“เบล-เน็กซ์ BUS-แม็กซ์” นำทีมผสานโลกตัวอักษรกับเสียงดนตรี ธีม “Melody of Books” งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30”

PUBAT ประกาศความพร้อมเดินหน้าจัดงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30” อย่างยิ่งใหญ่ ครั้งแรกของไทย กับธีม “Melody of Books - อ่านหรือยัง ฟังหรือเปล่า” ที่ผสานโลกแห่งตัวอักษรและเสียงดนตรีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว “เพราะหนังสือคือบทกวี ดนตรีก็คือท่วงทำนอง” โดยในงานแถลงข่าว มีศิลปินสุดฮอต อาทิ เบล วริศรา ศิลปินค่าย Home Run Music มาร่วมร้องเพลง “หลงไปอ่านเธอ ” ร่วมด้วย เน็กซ์ ณัฐกิตติ์ ศิลปินวง BUS, แม็กซ์ เจนมานะ ศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง นักเขียนรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด รวมทั้ง เนย-กมนชนก ขวัญเมือง นักกีฬาว่ายน้ำ ทีมชาติไทยชุดชีเกมส์ มาร่วมพูดคุยแนะนำประเภทหนังสือที่ชอบอ่าน และไม่พลาดชวนนักอ่าน มาพบกับกองทัพหนังสือดีๆ ที่น่าอ่าน มาให้เลือกซื้อกว่า 2 ล้านเล่ม สำหรับ Streaming ทุกท่านสามารถนำเอาเพลงไปใช้ประกอบคลิปได้ในทุกโซเชียลมีเดีย

สำหรับ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30” ในธีม “Melody of Books” ถือเป็นครั้งแรกกับการพลิกโฉมสู่ประสบการณ์ใหม่ อ่านเพลิน ฟังเพราะ ช้อปเพียบ! ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของงานหนังสือให้ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านรุ่นใหม่และหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยยังคงเน้นที่คุณค่าของการอ่านเป็นแกนกลาง ต่อยอดด้วยกิจกรรมที่สนุก เข้าถึงง่าย และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ พร้อมบูธจำหน่ายหนังสือกว่า 900 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วประเทศ รวมหนังสือกว่า 2 ล้านเล่ม และเปิดตัวหนังสือใหม่มากกว่า 2,000 ปก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการสุดว้าว และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเตรียมจัดเต็มมาเอาใจเหล่านักอ่าน อาทิ นิทรรศการ View ’til Touch เปิดประสบการณ์ “อ่านที่ฟังได้” และ “เพลงที่อ่านออก” ผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟ พร้อม Listening Pods และกิจกรรมทดลองแต่งเพลงจากหนังสือ, การแสดง “เจ้าขุนทองและผองเพื่อน” หุ่นมือผสานดนตรีสดและการเล่านิทานสำหรับเด็กและครอบครัว, กิจกรรม “Little Read Universe” จักรวาลอ่านเล่นเล่น, Read for The Blind กิจกรรมสาธารณะเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงหนังสือเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา , นิทรรศการ “รางวัลชมนาด 2568” แสดงผลงานวรรณกรรมสตรีจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ “PUBAT CONTEST” การประกวดระดับประเทศ 3 รายการ ได้แก่ การเล่านิทาน การแต่งเพลงส่งเสริมการอ่าน และการแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมศึกษา

อีกทั้ง สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ยังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านหนังสือ, และ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเสริมเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังสือของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน และกิจกรรมเพื่อสังคม ที่สะท้อนบทบาทของหนังสือในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เช่น โครงการ “หนึ่งอ่าน ล้านตื่น” มอบทุนหนังสือให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ และกิจกรรม “Pick A Note” สอยดาวตัวโน้ต ร่วมบริจาคเพื่อการอ่าน พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย

เตรียมพบกับปรากฏการณ์แห่งการอ่านครั้งใหม่ อ่านเพลิน ฟังเพราะ ช้อปเพียบ! มีหนังสือดี ๆ และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจนับไม่ถ้วนใน งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 วันที่ 9 – 19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5–7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ page: Thai Book Fair

https://youtu.be/ZbEgQpH75do?si=zhtZIK9YwIU0u8Of

https://youtu.be/c6gW06ahHdA?si=xun9PuyjaXn-27mp

https://youtu.be/IQefgCGPqw4?si=XZPAERgBc92oPqlr

งานแถลงข่าวมหกรรมครอบครัว 2025 “FAM FESTIVAL 2025” วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตกระทร...
23/09/2025

งานแถลงข่าวมหกรรมครอบครัว 2025 “FAM FESTIVAL 2025”
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดแถลงข่าว “Fam Festival 2025” มหกรรมครอบครัวแห่งปี ภายใต้แนวคิด เวลาของเรา ครอบครัวของเรา
กรุงเทพฯ, [22 กันยายน 2568] — กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “Fam Festival 2025” มหกรรมครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้แนวคิด “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา” เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัวไทย และสร้างพื้นที่แห่งความสุขที่สมาชิกทุกวัยได้ใช้เวลาคุณค่าร่วมกัน โดยมีนางเบญจมาส แก่นเมือง รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธาน
ในงานแถลงข่าววันนี้ มีการจัดเวที “Fam Talk Stage” พูดคุยในบรรยากาศสบาย ๆ โดยมี พี่มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ศิลปินนักแสดงชื่อดัง ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อและการใช้ชีวิตครอบครัว พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ได้แก่ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสถาบันครอบครัว ที่มาร่วมสะท้อนมุมมองนโยบายด้านการเสริมสร้างความอบอุ่นและความสมดุลของครอบครัวไทย
Fam Festival 2025 จะจัดขึ้นในวันที่ 27-28 กันยายน 2568 ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ภายในงานจะเต็มไปด้วยกิจกรรมสำหรับครอบครัวกว่า 7 โซน อาทิ
• Creative Fam Zone
• Grandparent Garden
• Music & Chill Garden
• Happy Health
• Photo Memories & Family Tree Wall
• FAM Network
• โซนความสุขของครอบครัว
นอกจากนี้ ยังมี “Family Passport” หนังสือเดินทางแห่งความรัก ที่จะพาครอบครัวออกผจญภัยสะสมตราประทับจากแต่ละโซนกิจกรรม เพื่อลุ้นรับของที่ระลึกสุดพิเศษ พร้อมเก็บภาพความทรงจำอบอุ่นร่วมกันที่ Family Photo Booth อีกทั้งการร่วมเดินทางเรียนรู้กับพื้นที่เรียนรู้ 19 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร
งานมหกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนครอบครัวไทยทุกช่วงวัย มาร่วมสร้างรอยยิ้ม แบ่งปันความรัก และใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณค่า เพราะ “ครอบครัวที่เข้มแข็ง คือพลังสำคัญของสังคมที่ยั่งยืน”

ททท.ขับเคลื่อนเมืองอาหารโลก พาทูต 6 ประเทศ สัมผัสเสน่ห์เพชรบุรี  กระตุ้น “เที่ยวไทยกับ Diplomat : 5 Must Do สุขทุกเส้นทา...
22/09/2025

ททท.ขับเคลื่อนเมืองอาหารโลก พาทูต 6 ประเทศ สัมผัสเสน่ห์เพชรบุรี กระตุ้น “เที่ยวไทยกับ Diplomat : 5 Must Do สุขทุกเส้นทาง”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ายกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จัดกิจกรรม “เที่ยวไทยกับ Diplomat : 5 Must Do สุขทุกเส้นทาง” ภายใต้แนวคิด Cultural Diplomacy through Tourism Experience นำเสนอ Soft Power เสน่ห์ไทย ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวการทูตเส้นทางที่ 2 Village Tourism – Phetchaburi โดยนำคณะทูตจาก 6 ประเทศ ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน มัลดีฟส์ บังกลาเทศ เบลเยียม แอฟริกาใต้ และนอร์เวย์ ร่วมเดินทางสัมผัสเสน่ห์ “เพชรบุรี เมือง UNESCO Creative City of Gastronomy”

วันที่ 1 ค้นหาเสน่ห์เพชรบุรีวันแรก
• การเดินทางเริ่มต้นที่ ถ้ำเขาหลวง โบราณสถานสำคัญที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ไฮไลต์คือแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเพดานถ้ำ กระทบองค์พระอย่างงดงาม และศักดิ์สิทธิ์ เป็นประสบการณ์ Must Seek ที่ตราตรึงใจ
• จากนั้น คณะทูตเดินทางต่อสู่ ชุมชนแหลมผักเบี้ย สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงที่ผูกพันกับทะเลและป่าชายเลน พร้อมกิจกรรมเชิงเรียนรู้ ทั้งการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจาก “ใบชะคราม” และการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมทะเล บรรยากาศที่สะท้อนเสน่ห์เรียบง่ายของชุมชนชายฝั่งเพชรบุรีได้เป็นอย่างดี เป็นประสบการณ์ Must See และ Must Try
• ช่วงเย็นปิดท้ายด้วยอาหารทะเลสดใหม่ที่ชะอำ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นริมทะเล Must Taste ก่อนเข้าพักโรงแรมระดับ 5 ดาวที่หัวหิน การผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายสมัยใหม่ กับเสน่ห์ท้องถิ่นไทย คืออีกหนึ่งมิติที่ทำให้คณะทูตได้เห็น “ภาพรวมของเสน่ห์ไทย” ที่สมบูรณ์

วันที่ 2 วิถีตาลโตนดแห่งถ้ำรงค์
เริ่มวันด้วย คณะทูตเดินทางไปยัง ชุมชนถ้ำรงค์ แหล่งท่องเที่ยวที่ผูกพันกับ “ตาลโตนด” อย่างแนบแน่น ร่วมสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน Must See ที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน การทำ ขนมตาลโบราณ Must try, การชิม แกงหัวตาล Must Taste รสชาติเอกลักษณ์ของเพชรบุรี และการสานใบตาล ร่วมกับคนในชุมชน Must try และจับจ่ายสินค้าในชุมชน Must Buy

กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคณะทูต แต่ยังถ่ายทอด “ภูมิปัญญา” และ “มรดกทางอาหาร” ที่ทำให้เพชรบุรีได้รับการยกย่องในระดับโลก ทุกประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคือภาพสะท้อนของ เสน่ห์ไทย ที่เชื่อมโยงคณะทูตกับผู้คนในท้องถิ่น

เสียงสะท้อนจากคณะทูตทั้ง 6 ประเทศ กับความประทับใจต่อความเอื้อเฟื้อของทางชุมชน การจัดการท่องเที่ยวการทูตของชุมชนที่เป็นระบบ และศักยภาพของเพชรบุรีในฐานะ UNESCO Creative City of Gastronomy ซึ่งไม่เพียงโดดเด่นเรื่องรสชาติและวัตถุดิบท้องถิ่น หากยังเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมได้อย่างกลมกลืน ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นว่าเพชรบุรีพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ และเป็นจุดหมายที่มีเรื่องเล่าอันทรงคุณค่า พร้อมถ่ายทอดสู่เวทีโลก




#เสน่ห์ไทย

ที่อยู่

รัชดาภิเษก
Bangkok
10220

เบอร์โทรศัพท์

+66925419653

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ WeeklyNews Online สำนักข่าว วีคลี่นิวส์ ออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง WeeklyNews Online สำนักข่าว วีคลี่นิวส์ ออนไลน์:

แชร์