Brown Books ขอต้อนรับสู่ BROWN BOOKS สำนักพิมพ์เล็กๆ โดย โตมร ศุขปรีชา

ขอบคุณรีวิว ของ twocatsreviewbooks ครับ 😀"“เช้าที่ไม่อยากตื่น ค่ำคืนที่ไม่อยากหลับ” รวมความเรียงที่สะท้อนมุมมองต่อการเติ...
21/06/2025

ขอบคุณรีวิว ของ twocatsreviewbooks ครับ 😀

"“เช้าที่ไม่อยากตื่น ค่ำคืนที่ไม่อยากหลับ” รวมความเรียงที่สะท้อนมุมมองต่อการเติบโตของมนุษย์ในแต่ละช่วงวัย ผ่านการเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันไป ซึ่งไม่ได้มาในโหมดฮีลใจหรือไลฟ์โค้ชแต่อย่างใด
นาน ๆ ทีจะได้อ่านความเรียงที่ถูกจริต ทั้งในแง่ภาษา จังหวะการเล่า และเรื่องที่หยิบมาเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเล่มที่ไม่ได้พยายาม “โน้มน้าว” ให้เราคล้อยตาม แต่กลับชวนให้เราตั้งคำถามกับสิ่งที่เขาเขียน แล้วแต่เลยว่าแต่ละคนจะคิดเห็นอย่างไร และใช่ครับ การเขียนแบบนี้มันยากนะ
ที่ชอบอีกอย่างคือสไตล์การเล่าที่แม้จะเป็นความเรียง แต่บางบทบางตอนก็มีลูกเล่นแบบเรื่องสั้นผสมอยู่ด้วย เลยช่วยตัดเลี่ยนให้ไม่รู้สึกจำเจหรือหนักเกินไป
สิ่งที่ตราตรึงใจมากคือบทหนึ่งที่คุณโตมรเขียนถึง “พื้นที่ของความรู้สึก” ในแต่ละคน โดยหลายคนมักปิดประตูบานนั้นไว้ เพราะมองว่า “นี่มันปัญหาของฉัน คุณจะไปเข้าใจอะไร” ทว่า มันก็มีบางคนที่พร้อมจะอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ คอยฟังโดยไม่ก้าวก่าย ไม่ทำอะไรเกินเลย แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วหรือเปล่าสำหรับใครหลายคน พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเอ็งไม่เปิดใจให้ใครสักคนเข้ามารับรู้ความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่ แล้วจะมีใครล่ะที่จะเข้าอกเข้าใจคุณได้ — ชอบมาก ๆ และเห็นด้วยอย่างที่สุด
เอาเป็นว่าใครอยากมานั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับชีวิตผ่านการอ่านอะไรเพลิน ๆ ก็อยากให้ลองอ่านเล่มนี้เลยครับ ลุ่มลึกแต่กินง่าย อร่อย — แอดแงว"

"มาร์ดิกราส์เป็นยิ่งกว่าคริสต์มาส เป็นยิ่งกว่าปีใหม่และเป็นยิ่งกว่าชาติหรือศาสนาเพราะมาร์ดิกราส์ให้ชีวิต มาร์ดิกราส์เข้า...
02/06/2025

"มาร์ดิกราส์เป็นยิ่งกว่าคริสต์มาส เป็นยิ่งกว่าปีใหม่

และเป็นยิ่งกว่าชาติหรือศาสนา

เพราะมาร์ดิกราส์ให้ชีวิต มาร์ดิกราส์เข้าใจ มาร์ดิกราส์อ่อนโยน และมาร์ดิกราส์ให้พลังกับพวกเขา

ถ้าใครรู้สึกย่ำแย่กับเกย์และเลสเบี้ยนจนทนเห็นพวกเขาไม่ได้ รู้ไว้เถิดว่า พวกเขาก็รู้สึกย่ำแย่เหมือนกันที่ต้องทนอยู่กับสังคม “รักต่างเพศ” ทุกวัน!

ย่านถนนออกซ์ฟอร์ดและถิ่นที่เรียกว่า Surry Hill ของซิดนีย์ เป็นย่านที่เกย์และเลสเบี้ยนจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขในชุมชนเกย์แท้ๆ เราสามารถนอนในโรงแรมเกย์ กินข้าวในร้านอาหารเกย์ ซื้อหนังสือและซีดีได้ในร้านหนังสือและซีดีเกย์ ไปฟิตเนสในโรงยิมของเกย์ แล้วไปนั่งกินกาแฟในคาเฟ่เกย์ พูดคุยและนั่งดูความเป็นไปของเกย์

ถ้าจับผู้ชายคนหนึ่งไปอยู่บนถนนออกซ์ฟอร์ดแล้วห้ามออก ผู้ชายคนนั้นคงบ้าตาย แต่คำถามในเชิงกลับกันก็คือ แล้วเกย์ “ทน” ดูละครต่างเพศ อ่านวรรณกรรมรักต่างเพศ กินข้าวในร้านรักต่างเพศ ฟังเพลงรักต่างเพศ และทนอยู่ในสังคม “รักต่างเพศ” ตลอดเวลาได้อย่างไรเล่า?

เมื่อมาร์ดิกราส์เริ่ม ทุกคนเปล่งเสียงด้วยความตื่นเต้นยินดี แต่ละโฟลตทยอยกันผ่านหน้าไปทีละโฟลต บางโฟลตน่าตื่นเต้น บางโฟลตน่าตื่นตา แต่บางโฟลตน่าตื่นตัน...

ชายวัยกลางคนใส่ชุดสีขาวราบเรียบคนหนึ่งเดินมาช้าๆ เขายิ้มน้อยๆ แลดูท่าทางสงบ เดินรวมมากับกลุ่มคนที่เต็มไปด้วยและเสียงเพลง ในมือของเขาถือป้ายเล็กๆ ป้ายหนึ่ง

ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า

I March For My Son, DAREN.

ฉับพลันที่เห็นป้ายนั้น ความอัศจรรย์บางอย่างได้เกิดขึ้นกับผม ผมจำได้ว่า สำหรับตัวเอง สุ้มเสียงอึกทึกทุกอย่างบนถนนออกซ์ฟอร์ดพลันนิ่งงันสงบ แม้ดวงตาของผมจะพร่าเลือนลง แต่ป้ายนั้นกลับชัดเจนยิ่งในความรู้สึก

นี่ใช่ไหม...ความหมายที่แท้จริงของมาร์ดิกราส์-ผมคิด เราต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ใช่ไหม เพื่อให้พ่อคนหนึ่งได้รู้จัก รัก และเข้าใจลูกชายของตนดีพอจน “กล้า” ก้าวเข้ามาสู่โลกของลูกด้วยความรักอันบริบูรณ์

เราไม่รู้ว่า ณ วันนี้ ดาเร็นอยู่ที่ไหน แต่เรารู้ว่าพ่อของเขาได้มาที่นี่เพื่อทำหน้าที่แทนลูกชายของเขาแล้วอย่างสมบูรณ์ด้วยความภาคภูมิในตัวลูกชาย...อย่างยิ่ง

นี่ใช่ไหม...ความหมายที่แท้จริงของมาร์ดิกราส์

เราต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ใช่ไหม?

ดาเร็นและพ่อของเขาคือสิ่งที่ดีที่สุดของมาร์ดิกราส์สำหรับผม..."

หนังสือ: กาแฟและชา หมาและแมว
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

----------

"กาแฟและชา หมาและแมว" คือหนังสือรวมงานเขียนยุคแรก ของโตมร ศุขปรีชา ทั้งความเรียงนุ่มละมุน และสารคดีเข้มลึก เต็มไปด้วยรายละเอียดแห่งการสังเกตสังกาทั้งในเชิงความคิด ชีวิต การเดินทาง และสังคม ที่น่าสนใจ หลายประเด็นยังคงเป็นประเด็นที่ยังคงถกเถียงกันจนถึงปัจจุบัน โดยในฉบับพิมพ์ใหม่นี้มาพร้อมคำนิยมของนักเขียนสามรุ่น วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์, นิ้วกลม และพชร สูงเด่น ที่มาร่วมมองย้อนงานเขียนและตัวตนของโตมร

"ผมพบซูเวะที่นั่นเขาเหมือนเด็กทั่วไปที่มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมชาติ หากต่างจากเด็กในเมืองตรงที่ไม่เคยได้รับการสั่งส...
27/05/2025

"ผมพบซูเวะที่นั่น

เขาเหมือนเด็กทั่วไปที่มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมชาติ หากต่างจากเด็กในเมืองตรงที่ไม่เคยได้รับการสั่งสอนว่าอย่าสังสรรค์กับคนแปลกหน้า เพราะคนแปลกหน้าที่นั่นไม่เคยเป็นคนเลวร้าย ซูเวะจึงพร้อมจะผูกมิตรกับผม โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นกะเหรี่ยงคนเดียวในที่นั้นที่พูดไทยได้มากกว่าคนอื่นๆ

ห้วยน้ำดั้นอยู่ตรงปลายชายแดนไทย-พม่า หรือหากจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่า ไทย-กะเหรี่ยง เพราะพื้นที่ของพม่าตรงนั้นถูกกะเหรี่ยงยึดครองอยู่ เป็นเขตปกครองของนายพลส่วยชัย ไม่ใช่นายพลโบเมียะ อย่างที่ผมเคยได้ยินชื่อบ่อยครั้ง

ฟ้าเป็นสีเทาครึ้มเมื่อเราแบกกล้องไต่เขาลงไปที่ห้วยน้ำดั้น ซูเวะเดินตามเราลงมาด้วย ผมนั่งลงตรงนั้น คุยกับเขา

ซูเวะเป็นเด็กหนุ่มกะเหรี่ยงธรรมดาๆ คนหนึ่ง เขาเคยเรียนหนังสือเหมือนกัน แต่นั่นคือเมื่อสามปีที่แล้ว

“เคอเลียอยู่ 5 ปี” ซูเวะตอบคำถามด้วยสำเนียงแปร่งๆ ไม่มีตัวสะกดท้ายคำเหมือนเมื่อกะเหรี่ยงและพม่าทั่วไปพูดไทย ประโยคนี้คือ “เคยเรียนอยู่ 5 ปี”

ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนขี้อายอย่างร้ายกาจ เพราะซูเวะตอบคำถามไปหัวเราะอายๆ ไป และบางครั้งก็หลบตาผมด้วย ความขี้อายและอ่อนโยนของเขาทำให้ผมรู้สึกขมขื่น เมื่อถามเขาว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่และได้รับคำตอบว่า

“เป็นทหาร”

ซูเวะเป็นทหาร ทั้งๆ ที่เขาอายุเพียง 17 ปี ได้เงินรายได้จากการเป็นทหารปีละพันกว่าบาท เขาเป็นทหารมแล้ว 3 ปี แสดงว่าเขาเริ่มต้นชีวิตทหารเมื่ออายุได้เพียง 14 ปี

แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับเมื่อซูเวะชี้มือไปที่เด็กชายใส่หมวก ชื่อชิตธัง แล้วบอกว่าชิตธังก็เป็นทหาร และมีอายุ 12 ปี

ผมถามซูเวะเรียบๆ ว่าเคย “ฆ่า” ทหารพม่าบ้างหรือเปล่า

เขายิ้มอายๆ แล้วบอกว่า “เคย”

“เยอะมั้ย”

ซูเวะยิ้ม หลบตา มีความเขินอายอยู่ในท่าทีนั้นไม่น้อย

“ก็เยอะ ยิงเรื่อยๆ ตอนพม่ากับกะเหรี่ยงรบกัน” เขาตอบด้วยท่าทีเขินอายยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ผมแปลกกับความรู้สึก จนต้องเตือนตัวเองว่านี่คือเรื่องจริงจัง ไม่ใช่แค่การโม้ อำ หรือล้อกันเล่น

ผมกำลังคิดถึงความตาย-และมันทำให้คอของผมแห้งและขม!"

หนังสือ: กาแฟและชา หมาและแมว
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

----------

"กาแฟและชา หมาและแมว" คือหนังสือรวมงานเขียนยุคแรก ของโตมร ศุขปรีชา ทั้งความเรียงนุ่มละมุน และสารคดีเข้มลึก เต็มไปด้วยรายละเอียดแห่งการสังเกตสังกาทั้งในเชิงความคิด ชีวิต การเดินทาง และสังคม ที่น่าสนใจ หลายประเด็นยังคงเป็นประเด็นที่ยังคงถกเถียงกันจนถึงปัจจุบัน โดยในฉบับพิมพ์ใหม่นี้มาพร้อมคำนิยมของนักเขียนสามรุ่น วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์, นิ้วกลม และพชร สูงเด่น ที่มาร่วมมองย้อนงานเขียนและตัวตนของโตมร

"บางแวบผมรู้สึกคล้ายเห็นสองสี แต่เมื่อมองให้ดีก็ไม่ใช่ บางหนเป็นแมวอื่น และบางคราวก็เป็นแค่เสื้อที่บางบ้านตากเอาไว้เท่าน...
23/05/2025

"บางแวบผมรู้สึกคล้ายเห็นสองสี แต่เมื่อมองให้ดีก็ไม่ใช่ บางหนเป็นแมวอื่น และบางคราวก็เป็นแค่เสื้อที่บางบ้านตากเอาไว้เท่านั้น

ผมออกตามหาสองสีอยู่หลายวันโดยไม่บอกใคร แม้ค่ำมืดดื่นดึก ผมก็คว้าจักรยานออกไปปั่นหาสองสี คืนหนึ่ง ผมปั่นเร็วแล้วสะดุดเข้ากับหลังเต่าจนล้ม หัวเข่าแตก เลือดโชก

แต่ผมก็ไม่พบสองสี ไม่พบ - แม้เวลาผ่านไปหลายเดือน, หลายเดือน - จนความทรงจำถึงแมวตัวแรกที่ผมเคยตั้งชื่อให้, ใกล้จะลบเลือน

แล้วมันก็มา..."

ชื่อหนังสือ: ขอให้ความรักอยู่กับแมว: เรื่องเล่าเก้าชีวิต
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

-------------------------------------

เมื่อสูญเสียแมวอันเป็นที่รักไป แมวอื่นๆ ที่เคยผ่านพบก็หวนกลับมามีชีวิตในตัวอักษรอีกครั้ง

‘ขอให้ความรักอยู่กับแมว: เรื่องเล่าเก้าชีวิต’ คือบันทึกความทรงจำว่าด้วยแมวในชีวิตของ โตมร ศุขปรีชา ตั้งแต่แมวตัวแรกในชีวิตที่เขาเป็นผู้ตั้งชื่อให้ แมวที่่แสนร่าเริง แสนหยิ่ง แมวแห่งทุ่งลาเวนเดอร์ แมวกล้าหาญ แมวแสนสวย - และกระทั่งแมวแห่งอนาคต, ที่สักวันหนึ่งจะเดินทางมาถึง

แมวในชีวิตไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง แต่แมวคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่แสดงให้เห็นอำนาจของกาลเวลาที่ผันเปลี่ยน ความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อนพ้องที่ข้องเกี่ยวกับแมวเหล่านั้น แส้แห่งบาดแผลในอดีตที่โบยตีตัวตน รวมถึงสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา บันทึกถึงสัมพันธภาพของคนกับแมวจึงคือบันทึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ผสมผสานไปด้วยพร้อมกัน อ่อนหวานเมื่อรำลึกถึงอดีต และเศร้างามเมื่อนึกถึงอนาคต

หนังสือแต่ละเล่มมาพร้อมกับโมเดลแมว 1 ชิ้น จากโมเดลแมวทั้งหมด 6 แบบ คุณจะรู้ว่าได้ครอบครองแมวแบบไหน ก็เมื่อแกะซองเปิดหนังสือออกดูแล้ว นี่คือภาพแทนปริศนาแห่งแมว เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆ ว่า – แมวแบบไหนจะปรากฏกายขึ้นในช่วงใดของชีวิตบ้าง

"การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลในแบบต่างๆ มักทำให้เราไม่สามารถพิจารณาหรือมองเห็นสถานการณ์ต่างๆ จากมุมมองของคนอื่นได้ แ...
20/05/2025

"การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลในแบบต่างๆ มักทำให้เราไม่สามารถพิจารณาหรือมองเห็นสถานการณ์ต่างๆ จากมุมมองของคนอื่นได้ และไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ในโลกแบบไหน เพราะมัวแต่หลงคิดไปว่าโลกแบบที่ตัวเองคิดนั้น คนอื่นทั้งโลกก็คิดเหมือนกันด้วย ส่วนคนที่คิดแตกต่างออกไปเป็นได้แค่คนส่วนน้อยเท่านั้น"

หนังสือ: ทำไมเป็นคนแบบนี้? : คู่มืออ่านตัวตนของผู้คนในโลกอันหลากหลาย
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

✤✤✤✤✤✤

หนังสือ “ทำไมเป็นคนแบบนี้? : คู่มืออ่านตัวตนของผู้คนในโลกอันหลากหลาย” คือความพยายามเล็กๆ ที่จะพาผู้อ่านไป ‘ตอบคำถาม’ ถึงบางแง่มุมของชีวิต ว่าเพราะเหตุใด มนุษย์จึงเป็นดังที่เป็น – ทำไมเราจึงเป็นแบบนี้

เพราะโลกเปลี่ยนไปอยู่เสมอ ตัวตนของเราจึงเปลี่ยนไปอยู่เสมอด้วย ทุกอย่างเชื่อมโยงและกำกับกันและกันอยู่เสมอ ระหว่างตัวเราเองและคนอื่นๆ หากคุณอยากทำความเข้าใจเศษเสี้ยวของความแตกต่างนั้น ตัวอักษรในหน้าถัดๆ ไป จะเต้นเร่าเพื่อชวนคุณเดินทางไปกับคำอธิบายในหลากแง่ ทั้งจิตวิทยา วิทยาศาสตร์ ประสาทศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และชีววิทยา

หากคุณเชื่อว่า – ความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่คือเรื่องที่เราควรเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจแล้วละก็, นี่คือหนังสือที่คุณต้องอ่าน

"การคลอดคลับคล้ายสายฝนตรงที่แม่เปรียบเสมือนท้องฟ้า และเมื่อท้องฟ้าไม่อาจโอบอุ้มทารกน้อยเอาไว้ได้อีกแล้ว ก็จำต้องโปรยปราย...
14/05/2025

"การคลอดคลับคล้ายสายฝนตรงที่แม่เปรียบเสมือนท้องฟ้า และเมื่อท้องฟ้าไม่อาจโอบอุ้มทารกน้อยเอาไว้ได้อีกแล้ว ก็จำต้องโปรยปรายสายน้ำลงมาชุ่มฉ่ำ อาบเติมโลกให้เอี่ยมอ่อง และบางคราวก็มีสายรุ้งประดับแต้ม สายฝนจึงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เพราะเกิดจาก ‘ฝีมือ’ ของหลากปัจจัย ทั้งยังส่งผลเป็นปรากฏการณ์ลูกโซ่ ก่อเกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อเนื่องไปอีก

ไม่ใช่แค่สายรุ้ง - แต่หมายรวมถึงสรรพชีวิตด้วย

การคลอดก็คลับคล้าย มันคืองานศิลปะ เป็นการทำงานอันผนวกขมึงเกลียวของสรรพสิ่งในร่างกาย ก่อนให้กำเนิดสิ่งที่อาจสามัญ ต่ำช้า น่ารัก หรือเฉลียวฉลาด และเป็นได้ทั้งมารหัวขนหรือลูกบังเกิดเกล้า - แล้วแต่สายตาของแม่, ออกมา

เราบางคน - บางเวลา, เกลียดสายฝนยิ่งกว่าอะไร

แต่เราบางคน - บางเวลา, ก็รักใคร่สายฝนมากมายเหลือเกิน

แม่ - ซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง, ก็เป็นอย่างนั้น"

ชื่อหนังสือ: ลม ฟ้า อาหาร: ความเรียงว่าด้วยอากาศ อาหาร ลมหายใจ และความหมายของชีวิต
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

✤✤✤✤✤✤

‘ลมฟ้าอาหาร’ คือเรื่องเล่าจากการตระเวนท่องโลกของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว

เขาค้นพบว่า ในระหว่างการเดินทาง สิ่งที่ทำให้ดินแดนหนึ่งแตกต่างจากอีกดินแดนหนึ่ง นอกเหนือไปจากผู้คนแห่งดินแดนเหล่านั้นแล้ว ยังมีอีกสองสิ่งที่สะท้อนให้เห็นที่มาที่ไปและจิตวิญญาณละเมียดละไมของดินแดนต่างๆ ได้

สิ่งนั้นคืออากาศ...และอาหาร

การได้สูดอากาศแปลกหน้า ไม่ว่าจะสดชื่นรื่นรมย์หรือร้อนร้าย ทำให้ร่างกายของเรารับรู้ได้ถึงความต่างของเส้นรุ้งเส้นแวงได้ฉับพลันทันที ตั้งแต่กลิ่นของทุ่งหญ้าในแถบมิดเวสต์ กลิ่นไอทะเลไอริช กลิ่นสดชื่นของหญ้าในสวนสาธารณะโกลเดนเกตพาร์คในซานฟรานซิสโก

กลิ่นของอากาศ เกิดขึ้นจากการรังสรรค์ภูมิประเทศจากฝีมือของธรรมชาติ และนั่นคือรากเหง้าแห่งกำเนิดของผู้คน ภูมิอากาศหล่อหลอมภูมิประเทศ
ภูมิประเทศหล่อหลอมผู้คน แล้วผู้คนก็หล่อหลอมอาหารการกินของตัวเอง จนออกมาหลากหลายสารพัน ไม่มีที่แห่งใดในโลกที่เหมือนกัน

‘ลมฟ้าอาหาร’ สะท้อนเรื่องราวของการ ‘อ่านอากาศ’ และ ‘ลิ้มชิมอาหาร’ ที่สุดท้ายแล้วย้อนซ้อนเข้ามาสู่ ‘เรื่องเล่าภายใน’ ของตัวผู้เขียน - เด็กหนุ่มคนนั้นเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว

เขาอยากให้คุณได้อ่าน ไม่ใช่เพื่ออ่านเรื่องราวของเขา

แต่เช่นเดียวกันกับที่อากาศและอาหารเคยทำให้เขาได้รับรู้เรื่องเล่าของตัวเองเมื่อครั้งกระโน้น

มาบัดนี้ - เขาหวังว่า เรื่องเล่าที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านได้นึกถึงเรื่องเล่าของตัวเองที่เดินทางไปพร้อมอากาศ อาหาร ลมหายใจ และชีวิต

เพราะนั่นเป็นสิ่งทรงคุณค่ายิ่ง - กับการที่เราทุกคนมาอยู่ที่นี่ร่วมกัน ในดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลที่เราเรียกว่าโลก

ในชีวิตหนึ่งอันน้อยนิดนี้ ยังมีเรื่องราวให้ค้นพบอีกมาก

เชื่อว่า - เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้ค้นพบเรื่องเล่าของตัวเอง...อีกครั้งหนึ่ง

"เมื่อฤดูร้อนจบลง ฤดูใบไม้ร่วงที่ย่างก้าวเข้ามาก็คล้ายเป็นช่วงแห่งความทรงจำสุดท้ายที่ควรเก็บเกี่ยวเอาไว้ในหัวใจและสมอง ก...
13/05/2025

"เมื่อฤดูร้อนจบลง ฤดูใบไม้ร่วงที่ย่างก้าวเข้ามาก็คล้ายเป็นช่วงแห่งความทรงจำสุดท้ายที่ควรเก็บเกี่ยวเอาไว้ในหัวใจและสมอง ก่อนที่ความหนาวเหน็บร้ายกาจรุนแรงจะพรากความสุขไปจากเรา

แต่ถ้าเราระลึกได้ว่า ใบไม้ไม่ได้มีสีเดียว และอากาศก็ไม่เคยหนาวหรือร้อนเพียงอย่างเดียว บางที…การได้คิดถึงความสุขในบางช่วงของปี ก็อาจทำให้เรานึกรักความร้ายกาจของชีวิตขึ้นมาได้เช่นกัน

เพราะมันทำให้เราตระหนักรู้ - ว่าที่จริงแล้วความร้ายกาจอาจอยู่นานยาว เช่นเดียวกับความสุข - ที่ไม่เคยมีคำว่านิรันดร์"

ชื่อหนังสือ: ลม ฟ้า อาหาร: ความเรียงว่าด้วยอากาศ อาหาร ลมหายใจ และความหมายของชีวิต
ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา

✤✤✤✤✤✤

‘ลมฟ้าอาหาร’ คือเรื่องเล่าจากการตระเวนท่องโลกของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว

เขาค้นพบว่า ในระหว่างการเดินทาง สิ่งที่ทำให้ดินแดนหนึ่งแตกต่างจากอีกดินแดนหนึ่ง นอกเหนือไปจากผู้คนแห่งดินแดนเหล่านั้นแล้ว ยังมีอีกสองสิ่งที่สะท้อนให้เห็นที่มาที่ไปและจิตวิญญาณละเมียดละไมของดินแดนต่างๆ ได้

สิ่งนั้นคืออากาศ...และอาหาร

การได้สูดอากาศแปลกหน้า ไม่ว่าจะสดชื่นรื่นรมย์หรือร้อนร้าย ทำให้ร่างกายของเรารับรู้ได้ถึงความต่างของเส้นรุ้งเส้นแวงได้ฉับพลันทันที ตั้งแต่กลิ่นของทุ่งหญ้าในแถบมิดเวสต์ กลิ่นไอทะเลไอริช กลิ่นสดชื่นของหญ้าในสวนสาธารณะโกลเดนเกตพาร์คในซานฟรานซิสโก

กลิ่นของอากาศ เกิดขึ้นจากการรังสรรค์ภูมิประเทศจากฝีมือของธรรมชาติ และนั่นคือรากเหง้าแห่งกำเนิดของผู้คน ภูมิอากาศหล่อหลอมภูมิประเทศ
ภูมิประเทศหล่อหลอมผู้คน แล้วผู้คนก็หล่อหลอมอาหารการกินของตัวเอง จนออกมาหลากหลายสารพัน ไม่มีที่แห่งใดในโลกที่เหมือนกัน

‘ลมฟ้าอาหาร’ สะท้อนเรื่องราวของการ ‘อ่านอากาศ’ และ ‘ลิ้มชิมอาหาร’ ที่สุดท้ายแล้วย้อนซ้อนเข้ามาสู่ ‘เรื่องเล่าภายใน’ ของตัวผู้เขียน - เด็กหนุ่มคนนั้นเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว

เขาอยากให้คุณได้อ่าน ไม่ใช่เพื่ออ่านเรื่องราวของเขา

แต่เช่นเดียวกันกับที่อากาศและอาหารเคยทำให้เขาได้รับรู้เรื่องเล่าของตัวเองเมื่อครั้งกระโน้น

มาบัดนี้ - เขาหวังว่า เรื่องเล่าที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านได้นึกถึงเรื่องเล่าของตัวเองที่เดินทางไปพร้อมอากาศ อาหาร ลมหายใจ และชีวิต

เพราะนั่นเป็นสิ่งทรงคุณค่ายิ่ง - กับการที่เราทุกคนมาอยู่ที่นี่ร่วมกัน ในดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลที่เราเรียกว่าโลก

ในชีวิตหนึ่งอันน้อยนิดนี้ ยังมีเรื่องราวให้ค้นพบอีกมาก

เชื่อว่า - เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้ค้นพบเรื่องเล่าของตัวเอง...อีกครั้งหนึ่ง

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66865621724

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Brown Booksผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Brown Books:

แชร์