Amarin HOW-TO รวมหนังสือแนวจิตวิทยาและบริหารดีๆ จากทั่วทุกมุมโลก
(222)

สำนักพิมพ์ Amarin how-to รวบรวมหนังสือฮาวทูดีๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาไว้สำหรับคุณที่นี่ที่เดียว

สนใจสั่งซื้อหนังสือ โทร 02-422-9999 หรือ inbox แฟนเพจ

ขอบคุณเพจ Success Strategies กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ สำหรับสรุปข้อคิดจากหนังสือ "The Let Them Theory ทฤษฎีปล่อยเขา" ด้วยนะ...
08/07/2025

ขอบคุณเพจ Success Strategies กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ สำหรับสรุปข้อคิดจากหนังสือ "The Let Them Theory ทฤษฎีปล่อยเขา" ด้วยนะคะ🙏🏻

50 ข้อคิดสำคัญจาก "The Let Them Theory" ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล
สองคำที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ไม่ใช่เพราะความหมายของมัน แต่เพราะความจริงที่ซ่อนอยู่ข้างใน ความจริงที่เราใช้ชีวิตทั้งชีวิตหนีมัน
“เราไม่มีอำนาจเหนือใคร นอกจากตัวเราเอง”
คืนหนึ่งที่งานพรอม เมื่อ Mel Robbins ปล่อยให้ลูกชายวิ่งฝ่าฝน เธอรู้สึกบางอย่างเปลี่ยนไปในตัวเธอ
ความตึงเครียดที่แบกมาทั้งชีวิตค่อยๆ คลายลง ความต้องการควบคุมทุกอย่างค่อยๆ ละลาย ราวกับมีใครมากระซิบว่า...
"เธอไม่ต้องแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า"
ในสัปดาห์ต่อมา เธอเริ่มสังเกตเห็นความจริงที่น่าเจ็บปวด ว่าเธอใช้เวลาและพลังงานมากแค่ไหนกับการพยายาม
ทำให้ทุกคนพอใจ, ควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว, เปลี่ยนคนอื่นให้เป็นอย่างที่เธอต้องการ, ป้องกันไม่ให้ใครผิดหวัง
และผลลัพธ์คืออะไร? ความเหนื่อยล้า ความผิดหวัง และความรู้สึกว่าไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่ดีพอ
และนี่ครับคือ 50 ข้อคิดสำคัญจาก “Let Them Theory”
คำที่เปลี่ยนทั้งความสัมพันธ์ ชีวิต และหัวใจของคนนับล้าน
และอาจเปลี่ยนของคุณด้วยเช่นกัน…
1. คุณไม่สามารถควบคุมผู้อื่นได้ – นี่คือกฎพื้นฐานของธรรมชาติมนุษย์
ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหน คุณไม่มีวันควบคุมสิ่งที่คนอื่นคิด พูด หรือทำได้ การพยายามควบคุมผู้อื่นเท่ากับการต่อสู้กับกฎของธรรมชาติ และคุณจะแพ้ทุกครั้ง
เมลเล่าว่าเธอใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเข้าใจความจริงข้อนี้ เธอพยายามควบคุมทุกสิ่งรอบตัว ตั้งแต่สามี ลูก เพื่อน จนถึงคนแปลกหน้าที่เจอตามท้องถนน ผลที่ได้คือความเหนื่อยล้า ความผิดหวัง และความสัมพันธ์ที่แย่ลง
2. Let Them คือการปล่อยวาง แต่ไม่ใช่การยอมแพ้
Let Them แตกต่างจาก "letting go" ตรงที่มันไม่ใช่การเดินหนีหรือกลืนความรู้สึก แต่เป็นการตัดสินใจอย่างมีสติว่าคุณจะไม่ให้พฤติกรรมของคนอื่นมากำหนดความสุขของคุณ
เมื่อคุณพูดว่า "Let Them" คุณกำลังยอมรับความจริงว่าผู้อื่นมีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวของตัวเอง พร้อมกับปกป้องพลังงานและเวลาของคุณจากสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้
3. Let Me คือจุดที่พลังอำนาจที่แท้จริงของคุณอยู่
Let Them เป็นเพียงครึ่งแรกของสมการ Let Me คือส่วนที่สำคัญกว่า เพราะนี่คือจุดที่คุณใช้พลังอำนาจในการเลือกว่าจะตอบสนองอย่างไร
เมลเน้นย้ำว่าหลายคนใช้แค่ Let Them แล้วรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะพวกเขาลืมส่วน Let Me ที่เป็นการรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองและสร้างสิ่งที่ต้องการ
4. ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เท่ากับเด็ก 8 ขวบ
นักจิตวิทยาที่เมลปรึกษาบอกว่าผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่เคยได้เรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม พวกเขาจึงแสดงออกแบบเด็ก เช่น งอน เงียบ หนี หรือระเบิดอารมณ์
เมื่อคุณเข้าใจว่าคนที่คุณกำลังรับมือด้วยอาจมีความสามารถทางอารมณ์เท่ากับเด็ก 8 ขวบ คุณจะเข้าใจพฤติกรรมพวกเขาและตอบสนองด้วยความเมตตามากกว่าความหงุดหงิด
5. ความเครียดคือปัญหาที่ใหญ่กว่าที่คุณคิด
ดร.อดิติ เนอรูการ์ แพทย์จากฮาร์วาร์ด อธิบายว่า 7 ใน 10 คนกำลังอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง ซึ่งทำให้สมองส่วน amygdala (ที่ควบคุมการตอบสนองต่อภัยคุกคาม) ทำงานตลอดเวลา
เมื่อคุณเครียด สมองส่วนที่ช่วยวางแผนและตัดสินใจ (prefrontal cortex) จะหยุดทำงาน คุณจึงตัดสินใจแย่ พูดจาไม่ดี และทำสิ่งที่เสียใจภายหลัง
6. การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นมี 2 แบบ: ทรมานหรือเป็นครู
การเปรียบเทียบแบบแรกคือการทรมานตัวเอง - เมื่อคุณอิจฉาสิ่งที่คนอื่นเกิดมามี เช่น หน้าตา รูปร่าง ครอบครัว ซึ่งคุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้
การเปรียบเทียบแบบที่สองคือครู - เมื่อคุณเห็นความสำเร็จที่คนอื่นสร้างขึ้น และตระหนักว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน ถ้าคุณยอมลงมือทำ
7. คนเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อพวกเขาอยากเปลี่ยนเท่านั้น
ไม่ว่าคุณจะมีเหตุผลดีแค่ไหน หรือคุณรักพวกเขามากเพียงใด คุณไม่สามารถบังคับใครให้เปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งกดดัน ยิ่งสร้างแรงต้าน
เมลยกตัวอย่างเพื่อนที่พยายามให้สามีลดน้ำหนักมานานหลายปี ยิ่งเธอบ่น ยิ่งจู้จี้ สามีก็ยิ่งดื้อและไม่ยอมทำ จนกลายเป็นสงครามเย็นในบ้าน
8. มิตรภาพในวัยผู้ใหญ่เปลี่ยนจากกีฬาทีมเป็นกีฬาเดี่ยว
ตอนเด็ก เราใช้เวลากับเพื่อนวันละ 6-8 ชั่วโมง แต่ตอนโตขึ้น ทุกคนกระจายไปคนละทิศละทาง มีชีวิตของตัวเอง ตารางเวลาไม่ตรงกัน
การคาดหวังว่ามิตรภาพจะเหมือนเดิมคือสาเหตุที่ทำให้คนรู้สึกเหงาและผิดหวัง คุณต้องยอมรับว่านี่คือธรรมชาติของมิตรภาพวัยผู้ใหญ่
9. ถ้าเขาชอบคุณ = คุณจะรู้ , ถ้าไม่ = คุณจะสับสน
ในเรื่องความรัก พฤติกรรมบอกความจริงเสมอ คนที่สนใจคุณจริงจะทำให้ชัดเจน ไม่ทำให้คุณต้องเดา
เมลเน้นว่าอย่าเสียเวลากับคนที่ส่งสัญญาณคลุมเครือ นั่นไม่ใช่ "mixed signals" แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณไม่ใช่ความสำคัญอันดับหนึ่งของเขา
10. คุณไม่ติดอยู่ในสถานการณ์ใดๆ - นั่นเป็นคำโกหกที่คุณบอกตัวเอง
คุณสามารถออกจากงาน ความสัมพันธ์ สถานการณ์ หรือการสนทนาได้ทุกเมื่อ แต่คุณเลือกที่จะอยู่เพราะกลัวความไม่แน่นอน
เมลท้าทายให้คุณหยุดใช้ข้ออ้างและเริ่มรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง ถ้างานแย่ หาใหม่ ถ้าความสัมพันธ์เป็นพิษ จบมัน
11. Let Them เป็นเหมือนสวิตช์ปิดความเครียดในสมองคุณ
เมื่อคุณพูด Let Them คุณกำลังส่งสัญญาณให้สมองรู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่ใช่ภัยคุกคาม ไม่ต้องเปิดโหมดเครียด
ดร.เนอรูการ์ยืนยันว่า Let Them Theory ช่วยให้สมองออกจากโหมดเอาตัวรอดกลับมาสู่การทำงานปกติ ทำให้คุณคิดชัด ตัดสินใจดี
12. การหายใจลึกๆ คือวิธีรีเซ็ตระบบประสาทที่ได้ผลทันที
เมื่อคุณพูด Let Them แล้วตามด้วย Let Me take a breath การหายใจลึกๆ จะกระตุ้น vagus nerve ส่งสัญญาณให้สมองใจเย็นลง
เมลแนะนำให้ใช้เทคนิคนี้ทุกครั้งที่รู้สึกเครียด ไม่ว่าจะเป็นการรอคิวนาน การจราจรติด หรือเมื่อเจอคนหยาบคาย
13. อย่าเป็นผู้ใหญ่ที่โยนความผิดให้เด็ก 8 ขวบในตัวคนอื่น
เมื่อคนอื่นแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แทนที่จะโกรธ ให้นึกภาพเด็ก 8 ขวบติดอยู่ในตัวพวกเขา คุณจะรู้สึกสงสารมากกว่าหงุดหงิด
เมลเล่าว่าเทคนิคนี้ช่วยให้เธอรับมือกับคนที่ชอบเป็นศูนย์กลางความสนใจในครอบครัวได้ดีขึ้น เธอเห็นความไม่มั่นคงของเด็กในตัวผู้ใหญ่
14. การตัดสินใจที่ถูกต้องมักรู้สึกผิดเสมอ
เมื่อคุณต้องทำสิ่งที่ถูกต้องแต่จะทำร้ายความรู้สึกคนอื่น เช่น ยกเลิกงานแต่งงาน ลาออกจากงาน หรือจบความสัมพันธ์ มันจะรู้สึกแย่มาก
แต่เมลเตือนว่าการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดชั่วคราวด้วยการไม่ตัดสินใจ จะนำไปสู่ความทุกข์ระยะยาวที่มากกว่า
15. อารมณ์คือสารเคมีในสมองที่ขึ้นลงภายใน 90 วินาที
ถ้าคุณไม่ตอบสนอง อารมณ์ส่วนใหญ่จะผ่านไปภายใน 90 วินาที นี่คือเหตุผลที่ Let Them rise, Let Me not react ได้ผลดี
เมลแนะนำว่าเมื่อรู้สึกโกรธหรือเสียใจ อย่ารีบส่งข้อความ อย่ารีบตัดสินใจ รอให้คลื่นอารมณ์ผ่านไปก่อน
16. ความเครียดที่ไม่จัดการจะกลายเป็นความวิตกกังวล การหลีกเลี่ยง และการติดสิ่งต่างๆ
ดร.ดามัวร์อธิบายว่าคนที่ไม่เคยเรียนรู้การจัดการอารมณ์มักจะหนีด้วยการติดเหล้า ติดงาน ติดโซเชียล หรือแม้แต่ติดการช่วยเหลือคนอื่น
เมลสารภาพว่าเธอเคยใช้การทำงานหนักเป็นวิธีหนีจากการเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิต จนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว
17. คุณสร้างความเครียดให้ตัวเองมากกว่าที่โลกสร้างให้คุณ
เมลยกตัวอย่างการเครียดเรื่องคนไอบนเครื่องบิน แทนที่จะยอมรับว่าควบคุมไม่ได้ เธอเสียเวลาและพลังงานไปกับการหงุดหงิด
พอเธอใช้ Let Them และใส่ผ้าพันคอปิดจมูก ปัญหาจบ เธอได้บทเรียนว่าเราเลือกได้ว่าจะให้อะไรมากระทบเรา
18. การช่วยเหลือที่มากเกินไปคือการทำร้ายแบบใจดี
เมลเล่าว่าเธอเคยให้ลูกสาวที่มีความวิตกกังวลมานอนห้องพ่อแม่ทุกคืนนาน 6 เดือน คิดว่ากำลังช่วย แต่จริงๆ กำลังทำให้ลูกอ่อนแอลง
นักบำบัดอธิบายว่าการปกป้องคนจากผลของการกระทำของพวกเขาคือการขัดขวางการเติบโต คนจะแข็งแกร่งได้ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว
19. Rock Bottom ของคนที่คุณรักคือ Rock Bottom ของคุณด้วย
เมื่อคนที่คุณรักกำลังดิ่งสู่ก้นบึ้ง คุณจะมี rock bottom moment ของคุณเอง - จุดที่คุณตระหนักว่าการช่วยแบบผิดๆ กำลังทำให้ทุกคนจมลึกลง
เมลแชร์ว่าพี่ชายของสามีเธอปฏิเสธการให้ยืมเงินช่วยธุรกิจที่กำลังจะล้ม นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สามีเธอตัดสินใจเลิกทำธุรกิจที่ทำให้ทุกข์
20. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่บังคับให้เปลี่ยน
แทนที่จะบอกให้คนทำอะไร จงสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงง่ายขึ้น เช่น ซื้ออาหารเพื่อสุขภาพมาเติมตู้เย็น ชวนไปออกกำลังกายด้วยกัน
เมลเล่าว่าตอนเธอเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด ครอบครัวไม่ได้ถามว่าต้องการอะไร แต่ทำสิ่งที่จำเป็นให้ เช่น ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร พาออกไปข้างนอก
21. มิตรภาพมี 3 เสาหลัก: ความใกล้ชิด จังหวะชีวิต และพลังงาน
ความใกล้ชิด (Proximity) - คุณต้องใช้เวลา 200 ชั่วโมงกับใครสักคนเพื่อกลายเป็นเพื่อนสนิท ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งมีโอกาสสร้างมิตรภาพลึกซึ้ง
จังหวะชีวิต (Timing) - ถ้าอยู่คนละช่วงชีวิต เช่น คนหนึ่งมีลูก อีกคนยังโสด จะยากที่จะเชื่อมต่อกันลึกซึ้ง
พลังงาน (Energy) - บางคนเราคลิก บางคนไม่ ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ แต่ต้องเชื่อความรู้สึก
22. "The Great Scattering" - ปรากฏการณ์ที่ทุกคนต้องเจอ
หลังจบการศึกษา เพื่อนๆ จะกระจายไปคนละทิศละทาง นี่คือ "The Great Scattering" ที่เมลตั้งชื่อให้
เธออธิบายว่านี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้หลายคนรู้สึกเหงาและสับสน เพราะโครงสร้างที่เคยทำให้เจอเพื่อนทุกวันหายไป
23. การ "Go First" คือกุญแจสร้างมิตรภาพวัยผู้ใหญ่
อย่ารอให้คนอื่นทักก่อน คุณต้องเป็นคนเริ่ม ทักทาย ชวนไปกินกาแฟ สร้างกิจกรรม
เมลแชร์ว่าเธอใช้เวลา 1 ปีในการสร้างชุมชนใหม่หลังย้ายบ้าน โดยเริ่มจากการจำชื่อบาริสต้า ทักทายคนในร้านกาแฟ จนกลายเป็นเพื่อน
24. Weak Ties มีพลังมากกว่าที่คุณคิด
คนที่คุณเจอเป็นประจำแต่ไม่สนิท เช่น บาริสต้า เพื่อนบ้าน คนในยิม คือ "weak ties" ที่วิจัยบอกว่ามีผลต่อความสุขมาก
เมลแนะนำให้จำชื่อ ทักทาย สร้างการเชื่อมต่อเล็กๆ เหล่านี้ เพราะมันสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
25. ให้มิตรภาพ 1 ปีก่อนตัดสิน
เมลบอกลูกสาวที่บ่นว่าไม่มีเพื่อนในมหาวิทยาลัยให้ "Give it a year" เพราะการสร้างมิตรภาพที่แท้จริงต้องใช้เวลา
ลูกสาวเธอเจอเพื่อนกลุ่มที่คลิกจริงๆ ในสัปดาห์สุดท้ายของปีแรก หลังจากพยายามมาทั้งปี
26. อย่าใช้ Let Them ระเบิดมิตรภาพเพราะเขาไม่ตอบข้อความ
เมลเตือนว่าอย่ารีบสรุปว่าเพื่อนไม่แคร์เพราะไม่ตอบข้อความ คนมีชีวิตยุ่ง มีปัญหาที่คุณไม่รู้
เธอยอมรับว่าตัวเองก็เคยหายไปจากเพื่อนเก่า 3-4 ปี เพราะชีวิตวุ่นวาย ไม่ได้หมายความว่าไม่แคร์
27. ABC Loop สำหรับการขอให้คนเปลี่ยนแปลง
A = Apologize และ Ask คำถามปลายเปิด B = Back off และสังเกต Behavior C = Celebrate ความก้าวหน้าและ Continue เป็นตัวอย่างการ Change
เมลอธิบายว่านี่คือวิธีเดียวที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าอาจช่วยให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่ไม่ใช่การบังคับ
28. Motivational Interviewing - ศาสตร์แห่งการถามคำถาม
ดร.คาโนเจียอธิบายว่าการถามคำถามปลายเปิดช่วยให้คนรู้สึกถึงความขัดแย้งระหว่างสิ่งที่เขาต้องการกับพฤติกรรมปัจจุบัน
เช่น "รู้สึกยังไงกับสุขภาพตอนนี้?" "อะไรทำให้รู้สึกโอเค?" "มีอะไรที่อยากเปลี่ยนไหม?"
29. การให้เงินโดยไม่มีเงื่อนไขคือการ Enabling
ดร.วอลดิงเกอร์เน้นว่าการให้เงินช่วยผู้ใหญ่โดยไม่มีเงื่อนไขคือการขัดขวางการเติบโต ถ้าจะให้ ต้องมีข้อตกลงชัดเจน
เช่น จ่ายค่าเช่าถ้าไปบำบัด จ่ายค่าเรียนถ้าเกรดถึงเกณฑ์ ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไข ต้องยอมตัดการสนับสนุนทางการเงินทั้งหมด
30. Deal Breaker หรือ End Your Bitching
ถ้าคนที่คุณรักไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากคุณใช้ ABC Loop และรอ 3 เดือน คุณมี 2 ทางเลือก:
ยอมรับเขาอย่างที่เป็นและหยุดบ่น
หรือยอมรับว่านี่คือ deal breaker และจบความสัมพันธ์
31. Dating คือกระบวนการคัดออก ไม่ใช่คัดเข้า
เมลอธิบายว่าการหาคู่ที่ถูกต้องคือการกล้าพูด "ไม่" กับคนที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่พยายามทำให้ทุกคนชอบคุณ
ยิ่งคุณปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเจอคนที่ใช่เร็วเท่านั้น
32. พฤติกรรมบอกความจริงเสมอ คำพูดอาจโกหก
อย่าฟังสิ่งที่เขาพูด ให้ดูสิ่งที่เขาทำ คนที่สนใจคุณจริงจะหาเวลาให้คุณ จะติดต่อสม่ำเสมอ จะทำให้คุณรู้สึกเป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง
เมลเน้นว่า "mixed signals" ไม่ใช่สัญญาณผสม แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณไม่ใช่ priority ของเขา
33. ถ้าคุณมีรูปแบบการเลือกคนผิดซ้ำๆ คุณต้องอยู่คนเดียว 1 ปี
วิจัยจากมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตาพบว่าคนมักเลือกคู่ที่มีปัญหาแบบเดิมซ้ำๆ ถ้านี่คือคุณ การมีแฟนใหม่จะไม่ช่วย
เมลแนะนำให้โสด 1 ปีเต็ม ไปพบนักบำบัด หาต้นตอของรูปแบบนี้ ไม่งั้นจะวนลูปความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อไป
34. The Commitment Conversation - วิธีคุยเรื่องความมุ่งมั่นโดยไม่เสียพลังอำนาจ
แมทธิว ฮัสซีย์แนะนำให้เน้นที่คุณค่าของเวลาของคุณ ไม่ใช่ความต้องการของคุณ:
"ฉันชอบใช้เวลากับคุณมาก แต่ฉันรู้ตัวเองว่าต้องการความมุ่งมั่น ถ้าเราเห็นอนาคตไม่ตรงกัน นี่ก็สนุกดี แต่ฉันต้องเลือกใช้เวลากับคนที่ต้องการสิ่งเดียวกับฉัน"
35. 69% ของปัญหาในความสัมพันธ์แก้ไม่ได้
ดร.กอตต์แมนค้นพบว่าคู่รักทะเลาะเรื่องเดิมๆ ที่ไม่มีทางแก้ เช่น คนหนึ่งตรงเวลา อีกคนสาย หรือใครเรื่องมาก ใครชอบอยู่บ้าน
เมลยอมรับว่า ADHD ของเธอทำให้สามีหงุดหงิดมา 30 ปี แต่เขาเลือกที่จะยอมรับเพราะข้อดีอื่นๆ มากกว่า
36. Compatibility vs Commitment - ความแตกต่างที่สำคัญ
คุณอาจรักใครสุดหัวใจแต่ไม่เข้ากัน เช่น คนหนึ่งอยากมีลูก อีกคนไม่อยาก หรือคนหนึ่งอยากย้ายประเทศ อีกคนอยากอยู่ใกล้ครอบครัว
เมลอธิบายว่านี่คือเมื่อความรักอย่างเดียวไม่พอ ต้องตัดสินใจว่าจะประนีประนอมหรือยอมรับว่าไม่เข้ากัน
37. วิธีรักษาใจตัวเองหลัง Heartbreak
เอาของที่ระลึกออกจากสายตา
จัดห้องนอนใหม่เพื่อส่งสัญญาณว่าเริ่มบทใหม่
วางแผนกิจกรรมให้ตัวเองยุ่ง
ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ภูมิใจในตัวเอง
No contact 30 วัน เพื่อให้ระบบประสาทปรับตัว
38. คุณคือคนรักของชีวิตคุณเอง
ความสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้คุณมีค่า การมีชีวิตอยู่ต่างหากที่ทำให้คุณมีค่า คุณจะอยู่กับตัวเองตั้งแต่เกิดจนตาย
เมลเน้นว่าวิธีที่คุณปฏิบัติต่อตัวเองเป็นมาตรฐานที่บอกคนอื่นว่าควรปฏิบัติกับคุณอย่างไร
39. Frame of Reference – เครื่องมือเข้าใจมุมมองของคนอื่น
ลิซ่า บิลยูแนะนำแนวคิดนี้ เมลใช้เพื่อเข้าใจว่าทำไมแม่เธอถึงไม่ชอบคริส สามีเธอตอนแรก
เมื่อเธอมองจากมุมแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกไกลบ้านเกิด เธอเข้าใจว่าแม่กลัวเธอจะไม่กลับบ้าน ไม่ได้ตัดสินคริส แต่กำลังเศร้ากับการสูญเสีย
40. ทุกการจบคือการเริ่มต้นที่สวยงาม
แม้การเลิกรากันจะเจ็บปวด แต่มันคือก้าวหนึ่งที่พาคุณเข้าใกล้คนที่ใช่ เมลเชื่อว่ารักแท้ของทุกคนรออยู่ข้างหน้า ไม่ใช่อดีต
เธอแนะนำให้ใช้เวลาโสดอย่างมีความหมาย พัฒนาตัวเอง ทำสิ่งที่ภูมิใจ เพื่อเมื่อเจอคนที่ใช่ คุณจะเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง
41. Let Them ไม่ใช่ข้ออ้างหยุดพูดคุยหรือหนีปัญหา
เมลเตือนว่า Let Them ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ ghosting ให้ silent treatment หรือหลีกเลี่ยงการสนทนาที่จำเป็น
มันคือการเลือกว่าอะไรสมควรได้รับเวลาและพลังงานของคุณ แล้วจัดการอย่างสร่างสรรค์
42. พลังอำนาจของคุณอยู่ที่การตอบสนอง ไม่ใช่การควบคุม
คุณควบคุมไม่ได้ว่าฝนจะตก แต่คุณเลือกได้ว่าจะพกร่ม เต้นรำกลางสาย หรือหาที่หลบ
เมลใช้อุปมานี้เพื่ออธิบายว่าชีวิตเหมือนสภาพอากาศ - เปลี่ยนแปลงตลอด แต่คุณเลือกได้ว่าจะรับมืออย่างไร
43. คนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้พิเศษ แค่ไม่ยอมให้โลกหยุดพวกเขา
เมลย้ำว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างคุณกับคนที่ทำสิ่งพิเศษได้ พวกเขาแค่เบื่อกับข้อแอ้างของตัวเองและลงมือทำ
Tom Brady บอกว่า "คุณไม่ต้องพิเศษ แค่ต้องเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เป็น: สม่ำเสมอ มุ่งมั่น และเต็มใจทำงานเพื่อมัน"
44. Small Consistent Action Changes Everything
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดจากการทำสิ่งใหญ่ครั้งเดียว แต่เกิดจาก 5-4-3-2-1 ลุกจากเตียงทุกเช้า แม้ไม่อยากลุก
เมลใช้เวลา 15 ปีสร้างชีวิตที่ฝัน ด้วยการทำสิ่งเล็กๆ ทุกวัน แม้จะรู้สึกท้อ กลัว หรือไม่มั่นใจ
45. อย่าให้ความกลัวคนอื่นคิดหยุดคุณจากการโพสต์ ทำธุรกิจ หรือแชร์ความคิด
เมลสารภาพว่าเธอเสียเวลา 2 ปีกลัวโพสต์เรื่องงานพูดบนโซเชียล กลัวเพื่อนจะคิดว่าหลงตัวเอง
พอเริ่มโพสต์ กลายเป็นวิทยากรที่ถูกจองมากที่สุดในโลก ถ้าเธอให้ความกลัวชนะ จะไม่มีวันนี้
46. Your Let Me Era Is Here - ยุคของคุณมาถึงแล้ว
ไม่มีใครมาช่วยคุณ ไม่มีใครจ่ายบิลให้ ไม่มีใครสร้างชีวิตที่ดีให้ ไม่มีใครรักษาแผลใจให้
ชีวิต สุขภาพ มิตรภาพ ความสำเร็จ ความสุขของคุณเป็นความรับผิดชอบของคุณ 100%
47. เวลาและพลังงานคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของคุณ
ทุกวินาทีที่ใช้กังวลเรื่องไร้สาระ หงุดหงิดเรื่องเล็กน้อย หรือพยายามเปลี่ยนคนอื่น คือการปล้นตัวเอง
เมลท้าทายให้คุณคิดว่าถ้าเอาเวลาและพลังงานทั้งหมดที่เสียไปมาใช้กับสิ่งสำคัญ ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร
48. การให้เสรีภาพคนอื่นคือการให้เสรีภาพตัวเอง
ยิ่งคุณ Let Them เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งมีพื้นที่ให้คุณเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งได้มากขึ้น
เมลอธิบายว่านี่คือความขัดแย้งที่สวยงาม - การยอมสูญเสียการควบคุมที่ไม่เคยมีกลับให้การควบคุมที่แท้จริง
49. ไม่มีอะไรหยุดคุณได้นอกจากตัวคุณเอง
ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในจุดที่อยากอยู่ ข่าวดีคือมันเป็นความผิดของคุณทั้งหมด ข่าวที่ดีกว่าคือคุณเปลี่ยนได้ทันทีที่ตัดสินใจ
เมลเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพเหนือจินตนาการ แค่ต้องหยุดให้คนอื่นและสถานการณ์มาขวางทาง
50. Two Simple Words That Will Change Everything: Let Me
ทุกอย่างเริ่มต้นที่ Let Them เพื่อปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่พลังที่แท้จริงอยู่ที่ Let Me
Let Me รับผิดชอบชีวิตตัวเอง Let Me สร้างความสุขของตัวเอง Let Me ไล่ตามความฝัน Let Me เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเอง Let Me ใช้ชีวิตอย่างไม่เสียใจครับ
============================
และถ้าบทความนี้ทำให้คุณปาดน้ำตาเบาๆ หรือเผลอพยักหน้าอย่างเข้าใจชีวิตครั้งแรกในรอบสัปดาห์
อย่าเก็บไว้คนเดียวครับ
แชร์ให้เพื่อนที่ชอบเก็บความเครียดไว้ใต้พรม
แชร์ให้คนที่ยังพยายามอธิบายตัวเองในกรุ๊ปไลน์ที่ไม่มีใครอ่าน
หรืออย่างน้อย แชร์ให้ “คนที่คุณพยายามเปลี่ยน” แล้วแปะคำว่า Let Them ไปเลย
ชีวิตจะเบาขึ้นทันที
เมื่อคุณเลิกจับทุกอย่างไว้แน่น และเลือกจับแค่สิ่งที่มีความหมาย
ปล่อยให้เขาเป็นในแบบของเขา
แล้วคุณ... จงเป็นในแบบที่คุณภูมิใจ
Let Them, Let Me and Let Life Begin

ชวนเดาเล่มใหม่จากผู้เขียน Bestseller"โกะโด โทคิโอะ"ผู้เขียนหนังสือขายดีมากมาย🎭เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข🍃พลังของคนที่กล...
07/07/2025

ชวนเดาเล่มใหม่จากผู้เขียน Bestseller
"โกะโด โทคิโอะ"
ผู้เขียนหนังสือขายดีมากมาย
🎭เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข
🍃พลังของคนที่กล้าทำอะไรคนเดียว
😳ไม่ต้องเลิกขี้อายก็ได้สิ่งที่ต้องการ
💸คนรวยทำงานเร็ว
เล่มใหม่เล่มนี้เกี่ยวกับ "คนอะไรดี"
ใครตอบถูกเร็วที่สุด
รับไปเลยหนังสือเล่มใหม่จากผู้เขียน
(จำนวน 2 รางวัล)
#โกะโด

07/07/2025

Special Interview✨
คุณไลอ้อน ยุวสินธ์ุ ตะวงษา ผู้ก่อตั้งช่อง The Library ผู้เขียน "Emperor of Life จักรพรรดิแห่งอาณาจักรชีวิต"
"คุณคือเจ้าชีวิตตัวเอง" หากมีหนังสือเล่มหนึ่งที่นอกจากจะทำให้คุณได้เรียนรู้ตัวเองแล้ว มันยังประหยัดเวลาชีวิตคุณ 10 ปี 20 ปี ถ้าผมมีคู่มือนั้นให้คุณ คุณอยากจะซื้อไหม
คุณสามารถประหยัดเวลาชีวิตไปมหาศาล จากการที่คุณลงทุนกับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตในราคานี้ เล่มนี้คือสิ่งที่ตกผลึกไม่ใช่จากปัญญาของผมคนเดียว อาจจะเป็นปัญญาของผู้นำบางคนศาสดาบางคน และถูกนำเอามาเป็นตัวอักษรในเล่มนี้
ชีวิตของคุณ นิสัย ร่างกาย ความคิด จิตวิญญาณ บางครั้งชีวิตก็เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณสามารถสมดุลชีวิตทุกมิติเหล่านี้ได้
คุณเป็นเจ้าชีวิตแน่นอน

🏛️Emperor of Life จักรพรรดิแห่งอาณาจักรชีวิต
ยุวสินธ์ุ ตะวงษา เขียน
สำนักพิมพ์ howto
📚พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/4izez9E
Lazada: https://bit.ly/3RfexI4
Amarinbooks: https://bit.ly/3XUhH7U
Naiin: https://bit.ly/4h93VoV
และหน้าร้านหนังสือทั่วประเทศ

เก็บตกบรรยากาศ Book Signing ที่บูท C08กับคุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำ ผู้เขียนหนังสือ “ขายดีขึ้นร้อยเท่ากับการตลาดร้อยตอน”ขอบคุ...
06/07/2025

เก็บตกบรรยากาศ Book Signing ที่บูท C08
กับคุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำ ผู้เขียนหนังสือ “ขายดีขึ้นร้อยเท่ากับการตลาดร้อยตอน”
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่มาเจอกันนะคะ🙏🏼..
📅 4-5 ก.ค. 68
📌BITEC

สำหรับทุกคนที่รู้สึกว่า “โชคไม่เคยเข้าข้าง”โชคทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนเริ่มต้นที่ตัวเราเองชีวิตคนเราจะเจอทั้งโชคดีและโชคร้าย ...
05/07/2025

สำหรับทุกคนที่รู้สึกว่า “โชคไม่เคยเข้าข้าง”
โชคทั้งหมดทั้งสิ้น
ล้วนเริ่มต้นที่ตัวเราเอง
ชีวิตคนเราจะเจอทั้งโชคดีและโชคร้าย
แต่ “ผู้เปี่ยมโชค” จะสร้างโชคของตัวเองขึ้นมา
ไม่ว่าในตอนนั้นสถานการณ์ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร
ต่อให้สูญเสียสิ่งเล็กๆ ไปพวกเขาก็จะเรียกผลประโยชน์กลับมาได้มหาศาล
หากคุณอยากเปลี่ยนตัวเองจาก “คนอาภัพเรื่องโชค” ไปเป็น “คนเปี่ยมโชค” อ่านหนังสือ ✨The Psychology of Luck จิตวิทยาแห่งโชค แล้วจะรู้สึกว่าโชคดีเข้ามาในชีวิตมากขึ้น และมีโชคใช้ไปตลอดชีวิต
เล่มนี้เขียนโดย "ยูมินจี" เจ้าของฉายานักจิตวิทยาแห่งโชค เนื้อหาในเล่มจะเผยความลับของโชคที่คนรวยเท่านั้นที่รู้
นั่นก็คือ "โชค" เป็นสิ่งที่เริ่มต้นจาก "ตัวเรา"
ขึ้นอยู่กับว่าคุณรู้วิธีสร้างมันขึ้นมาหรือเปล่าเท่านั้นเอง..
✨The Psychology of Luck จิตวิทยาแห่งโชค
ยูมินจี เขียน
วรวุฒิ ขาวเงิน แปล
สำนักพิมพ์ howto
#จิตวิทยาแห่งโชค

5 กรกฎาคมสุขสันต์วันคนบ้างานคนที่แบกภาระงานอันหนักอึ้งจะวางมือจากงานก็รู้สึกผิดทำงานแบบวิ่งหนีเดดไลน์หัวซุกหัวซุนเข้าขั้...
05/07/2025

5 กรกฎาคม
สุขสันต์วันคนบ้างาน
คนที่แบกภาระงานอันหนักอึ้ง
จะวางมือจากงานก็รู้สึกผิด
ทำงานแบบวิ่งหนีเดดไลน์หัวซุกหัวซุน
เข้าขั้น Burnout แต่ก็ยังไม่รู้ตัว
ใครกำลังแอบทำงานในวันหยุดวางมือลงก่อน แล้วมาทำความรู้จักกับตัวช่วยที่จะทำให้คนทำงานไม่จม ไม่หาย ไม่ตายกองงาน!
หนังสือ “Work Priority ทํางานไหนก่อนดี เพราะตอนนี้ทุกอย่างดูด่วนไปหมด”
บอกว่า...
เพียงแค่ปรับลำดับการทำงาน
ประสิทธิภาพของงานก็เปลี่ยน
ถ้างานมันเยอะจนไม่รู้จะจัดการยังไง หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปพบกับชีวิตการทำงานอันแสนสงบสุขที่ไม่ต้องวิ่งหนีเดดไลน์อีกต่อไป!

📑Work Priority ทํางานไหนก่อนดี เพราะตอนนี้ทุกอย่างดูด่วนไปหมด
ทากาฮิโกะ ทานะกะ เขียน
รัตนาภรณ์ วานิชย์หานนท์ แปล
สำนักพิมพ์ howto

บรรยากาศกิจกรรม Book Signing ที่บูท C08  งาน SUPALAI Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 ✍🏻คุณสโรจ เลาหศิริ ผู้เขียน ...
04/07/2025

บรรยากาศกิจกรรม Book Signing ที่บูท C08
งาน SUPALAI Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2025
✍🏻คุณสโรจ เลาหศิริ ผู้เขียน “กลยุทธ์คุมเกมเปลี่ยนชีวิต” สโรจขบคิดการตลาด
ขอบคุณทุกคนที่มาเจอกันนะคะ🙏🏼..
📅 4-5 ก.ค. 68
📌BITEC

รวมอีบุ๊กที่พูดถึง ความรัก ความสัมพันธ์ หนังสือที่จะไขข้อสงสัยเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจ เพราะ ความรัก ความสัมพันธ์ ไม่ใช่แแ...
04/07/2025

รวมอีบุ๊กที่พูดถึง ความรัก ความสัมพันธ์ หนังสือที่จะไขข้อสงสัย
เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจ เพราะ ความรัก ความสัมพันธ์ ไม่ใช่แแค่ใช้หัวใจ
แต่ต้องอาศัยความเข้าใจด้วย
หนังสือเหล่านี้ที่ช่วยบอกเล่าถึงมุมมองความรัก ความสัมพันธ์ต่างๆ
ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจ
Things No One Taught Us About Love
เรื่องที่ไม่มีใครสอนเราเกี่ยวกับความรัก
ผลงานจาก Vex King
Naiin : https://bit.ly/40tB0Xj
Meb : https://bit.ly/40sSp2t
Pinto : https://bit.ly/3C3fK1m
How To Not Die Alone ทำอย่างไรไม่ให้ตายอย่างโดดเดี่ยว
ผลงานจาก Logan Ury
Naiin : https://bit.ly/4ksl4vp
Meb : https://bit.ly/44xCK2H
Pinto : https://bit.ly/3GrVNDw
Attached ใกล้ชิดแต่ไม่ติดหนึบ
ผลงานจาก Amir Levine, M.D. และRachel Heller, M.A.
Naiin : https://bit.ly/3SOgMmj
Meb : https://bit.ly/3SI3DLo
Pinto : https://bit.ly/3OQL1Yu
On Empathy
ผลงานจาก ดุจดาว วัฒนปกรณ์
Naiin : https://bit.ly/3BFRm5L
Meb : https://bit.ly/4a0s13e
Pinto : https://bit.ly/4fznTbi

บรรยากาศกิจกรรมนักเขียนแจกลายเซ็นที่   กับคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ ผู้เขียน "On Empathy" ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่มาเจอกันนะคะ อบ...
04/07/2025

บรรยากาศกิจกรรมนักเขียนแจกลายเซ็นที่ กับคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ ผู้เขียน "On Empathy"
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่มาเจอกันนะคะ อบอุ่นมากเลย🥰..
📅 4-5 ก.ค. 68
📌BITEC

งาน CTC2025 เริ่มแล้วว🎉สำนักพิมพ์ howto มารอเจอทุกคนที่บูท C08พร้อมโปรโมชันจัดเต็มกว่างานไหนเพราะเล่มใหม่ร่วมโปรลด 20% ด...
04/07/2025

งาน CTC2025 เริ่มแล้วว🎉

สำนักพิมพ์ howto มารอเจอทุกคนที่บูท C08
พร้อมโปรโมชันจัดเต็มกว่างานไหน
เพราะเล่มใหม่ร่วมโปรลด 20% ด้วยนะ!
✨Promotion ในงาน
1-3 เล่ม ลด 15%
4 เล่มขึ้นไปลด 20%
*เฉพาะเล่มที่ร่วมรายการ..
📅 4-5 ก.ค. 68
📌BITEC

“ถ้าคุณชอบแก้โจทย์แนวนี้อยู่แล้ว คุณจะรักหนังสือเล่มนี้สุด ๆ แต่ถ้าคุณไม่ได้สนใจโจทย์แนวนี้เท่าไร หนังเล่มนี้อาจจะเปลี่ย...
03/07/2025

“ถ้าคุณชอบแก้โจทย์แนวนี้อยู่แล้ว คุณจะรักหนังสือเล่มนี้สุด ๆ แต่ถ้าคุณไม่ได้สนใจโจทย์แนวนี้เท่าไร หนังเล่มนี้อาจจะเปลี่ยนใจคุณ เหมือนที่มันเปลี่ยนใจผม”

ขอบคุณ คณิตศาสตร์อย่างที่ควรจะเป็น ด้วยนะคะที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้🙏🏼

ผมอยากป้ายยาหนังสือเล่มนี้เป็นพิเศษ เพราะได้มีส่วนร่วมกับเขานิดหน่อย

เรื่องเป็นแบบนี้ฮะ คือเมื่อต้นปีทางสำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO เขาโทรมา บอกว่าอยากให้ผมช่วยตรวจสอบความถูกต้องของการแปลของหนังสือเล่มนึง ว่าด้วยปัญหาทางตรรกะ แนววัด IQ ใครพูดจริง ใครพูดโกหก อะไรแบบนี้ ซึ่งสารภาพตรง ๆ ว่าผมไม่ได้ชอบอ่านหนังสือแนวนี้เท่าไร (อันนี้ความลับนะฮะ รู้กันแค่นี้ ผมไม่ได้บอกสำนักพิมพ์ด้วยซ้ำ) เพราะรู้สึกว่ามันไม่มีอะไร ก็แค่เอาโจทย์มาเรียง ๆ กันแล้วก็ไล่เฉลย แต่ก็รับปากว่าจะช่วย

สรุปคือ ผิดคาดมาก หนังสือเล่มนี้สนุกมาก คือมันก็คือการเอาโจทย์มาเรียงกันจริง ๆ นั่นแหละ แต่จุดเด่นมากของหนังสือเล่มนี้คือการเรียงและจัดหมวดหมู่อย่างมีชั้นเชิงมาก ลำดับของโจทย์ถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ใช่แค่จากง่ายไปยาก แต่ในเฉลยแต่ละข้อยังค่อย ๆ สอนวิธีคิดวิธีมอง และค่อย ๆ เฉลยเป็นลำดับขั้น เพื่อให้เราเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทั้งเล่ม

ส่วนตัวผมทึ่งนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าเราจะสามารถเอาโจทย์ที่รวบรวมมาจากที่นั่นที่นี่มาร้อยเรียงกันได้อย่างไหลลื่นแบบนี้ และมีหลายข้อที่มีประเด็นทางคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจ

ยกสักข้อที่ผมชอบแล้วกัน โจทย์บอกว่า มีบาร์อยู่แห่งหนึ่งที่มีแต่ลูกค้าซึ่งไม่ชอบยุ่งกับคนอื่น บาร์นั้นมีเก้าอี้ 25 ตัววางเรียงกัน ไม่ว่าลูกค้าคนไหนต่างก็นั่งห่างจากลูกค้าคนก่อนให้มากที่สุด แล้วก็ไม่มีใครยอมนั่งข้างคนอื่น ถ้าเข้าร้านแล้วไม่มีที่ให้นั่ง ก็จะออกจากร้านไป บาร์เทนเดอร์พยายามให้มีลูกค้ามากที่สุด ถ้าเขากำหนดที่นั่งให้ลูกค้าคนแรกได้ เขาควรให้ลูกค้านั่งเก้าอี้ตำแหน่งใด

สรุปก็คือ ถ้าคุณชอบแก้โจทย์แนวนี้อยู่แล้ว คุณจะรักหนังสือเล่มนี้สุด ๆ แต่ถ้าคุณไม่ได้สนใจโจทย์แนวนี้เท่าไร หนังเล่มนี้อาจจะเปลี่ยนใจคุณ เหมือนที่มันเปลี่ยนใจผม


#คณิตศาสตร์ระหว่างบรรทัด

รอเจอกับนักอ่านทุกคนที่งานมหกรรมนิยายนานาชาติครั้งที่ 25 ในปลายเดือนนี้มา  #อ่านอาร์ต ไปด้วยกันนะคะ🌟
03/07/2025

รอเจอกับนักอ่านทุกคนที่งานมหกรรมนิยายนานาชาติครั้งที่ 25 ในปลายเดือนนี้

มา #อ่านอาร์ต ไปด้วยกันนะคะ🌟

กลับมาอีกครั้งกับงานหนังสือที่มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า
📚✨ มหกรรมนิยายนานาชาติ 2025
ลงทะเบียนล่วงหน้า > https://novel-festival.com/PreRegister

🎨 ครั้งนี้เรามาในธีม #อ่านอาร์ต เพราะ “หนังสือคืองานศิลป์”
หนังสือไม่ใช่แค่สิ่งพิมพ์ที่เล่าเรื่อง แต่คือผลงานที่รวมความคิด จินตนาการ และความรู้สึก ถ่ายทอดด้วยตัวอักษรที่จัดเรียงอย่างประณีต
ทุกบท ทุกตอน คือองค์ประกอบศิลป์ที่เชื่อมต่ออารมณ์ระหว่างคนเขียนกับคนอ่าน
หน้ากระดาษจึงไม่ใช่แค่ที่วางตัวอักษร แต่เป็นพื้นที่ถ่ายทอดโลกทั้งใบ

- การอ่านแต่ละครั้ง คือการชมงานศิลปะที่มีชีวิต -
เพราะหนังสือทุกเล่มล้วนงดงาม สร้างสรรค์ และเปลี่ยนมุมมองของเราได้ไม่ต่างจากผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม

📖 งานนี้นอกจากหนังสือ ยังมีนิทรรศการแสดงศิลปะจากศิลปินชื่อดังมากมาย
จะสายอ่าน หรือสายอาร์ต…ก็ต้องชอบ!
พร้อมยกทัพกิจกรรมจากสำนักพิมพ์ นักเขียน และศิลปินเพื่อนักอ่านมาให้อย่างจัดเต็มตลอดงาน

📍 พิเศษสุด! เรายังพาคุณเดินทางสู่ “ย่าน” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากย่านดังในประเทศไทย
ให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของหนังสือแต่ละเล่มผ่านย่านที่คุณคุ้นเคย
แล้วมาสัมผัสประสบการณ์การอ่านที่ไม่เหมือนเดิมในงานมหกรรมนิยายนานาชาติ 2025
🎨มหกรรมนิยายนานาชาติ 2025
📅วันที่ 25 ก.ค. - 3 ส.ค. 68 | 10.00 - 21.00 น.
🏢สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์

#อ่านอาร์ต #งานมหกรรมนิยายนานาชาติ2025
#ร้านนายอินทร์ #นายอินทร์ #งานหนังสือ

ที่อยู่

บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) 378 ถนนชัยพฤกษ์ (บรมราชชนนี) เขตตลิ่งชัน
Bangkok
10170

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Amarin HOW-TOผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Our Story

สำนักพิมพ์ Amarin how-to รวบรวมหนังสือธุรกิจ จิตวิทยา พัฒนาตนเองดีๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาไว้สำหรับคุณ ที่นี่ที่เดียว สนใจสั่งซื้อหนังสือ โทร 02-422-9999 หรือ inbox แฟนเพจ