Cash Flow 4.0 Thailand

Cash Flow 4.0 Thailand ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Cash Flow 4.0 Thailand, เขตป้อปราบศัตรูพ่าย, Bangkok.

ทักษะทางการเงิน คือ หนึ่งในทักษะชีวิตที่ต้องมีติดตัว
31/05/2019

ทักษะทางการเงิน คือ หนึ่งในทักษะชีวิตที่ต้องมีติดตัว

📌 ความลับของธุรกิจ..ที่ไม่มีใครเคยบอก1. คนสำเร็จธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับอายุ ยิ่งเริ่มทำไว ยิ่งมีโอกาสสำเร็จไว2. ช่วงอายุน้อย...
18/04/2019

📌 ความลับของธุรกิจ..ที่ไม่มีใครเคยบอก

1. คนสำเร็จธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับอายุ ยิ่งเริ่มทำไว ยิ่งมีโอกาสสำเร็จไว

2. ช่วงอายุน้อย ควรเก็บประสบการณ์ให้เยอะที่สุด เริ่มจากค้าขายเล็กน้อย สุดท้ายจะใหญ่ไปเอง

3. การปลูกฝังจิตสำนึกแห่งนักธุรกิจตั้งแต่วัยเด็ก เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ควรสอนเรื่องเงินทองที่มหาวิทยาลัยไม่เคยสอน ปลูกฝังให้เข้าใจว่า แต่ละเดือนต้องเหลือเงินเป็นบวกอยู่เสมอ

4. การออม คือหัวใจของการเกษียณ หากควบคุมกิเลสตนเองได้ ใช้เงินเฉพาะที่จำเป็น ชีวิตจะอยู่แบบสบายและเพียงพอไปทั้งชีวิต

5. อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ธุรกิจคือการ Trial and Error ขายของได้เงินเยอะบ้าง น้อยบ้าง ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี

6. ยากที่สุดของธุรกิจ คือจินตนาการเยอะเกินไป หากลงมือทำตั้งแต่ความคิดแวบแรก รับรองว่า..สำเร็จไปนานแล้ว

7. วิกฤตคือสิ่งที่น่าโปรดปราณ เพราะเราเลือกอะไรไม่ได้ ยังไงก็ต้องลุย ชีวิตหลังวิกฤต หากสู้เต็มที่ ฟ้าย่อมสดใสเสมอ

8. หากเริ่มเปิดคอมพ์ แล้วไม่มีอารมณ์ทำงาน เพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่ง ช่วยได้เยอะมาก 555+

9. เวลาทำงาน ควรแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ครั้งละ 3 ชม. เน้นทำงานอย่างหนักติดกันไม่เกิน 3 ชั่วโมง เวลาที่เหลือ เอาไว้เก็บรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่สำคัญมาก

10. หัวใจของธุรกิจ อยู่ที่ความคาดหวัง เมื่อไหร่ที่คาดหวังน้อย โอกาสสำเร็จจะสูง แต่หากคาดหวังมาก โอกาสสำเร็จแทบไม่มี

11. หาสินค้าคือหัวใจ เทคนิคการตลาดคือสองขา ลูกค้าซื้อซ้ำคือความรัก ทุกอย่างต้องมีให้ครบ ธุรกิจจะสมบูรณ์

12. ช่วงขายดีต้องลุยแหลก แต่ต้องคำนวณให้เป็น หากยิงโฆษณา 1,000 บาท ขายได้ 10,000 แต่หากยิงเกิน 1,000 บาท ยอดขายยังคงเท่าเดิม แสดงว่ายอดขายเต็มพิกัดแล้ว ต้องห้ามเพิ่มค่าโฆษณาเด็ดขาด

13. ฝันให้ใหญ่ แต่เริ่มลงมือทำต้องเล็กเสมอ เวลาจะโต ต้องโตแบบโตโยต้า คือเอากำไรของปีนี้ เป็นต้นทุนทำธุรกิจปีหน้า อย่ากู้ อย่าโตเกินตัว เศรษฐกิจยุคนี้ ห้ามประมาทเด็ดขาด

14. สุดท้ายของชีวิตคือความว่างเปล่า ความสุขของธุรกิจ อยู่ที่ระหว่างทาง..ที่ได้ทำงาน จงมีความสุขกับเนื้องานที่ทำ และประสบความสำเร็จตามความสุขที่ลูกค้าได้รับ

Cr.อ.ตรี

📌 แชร์ประสบการณ์ + วิเคราะห์ ขายของออนไลน์ทั้ง 10 กลุ่มวิเคราะห์ เจาะลึก มองสินค้าตามความเป็นจริง 1. สุขภาพและความงาม - ...
03/04/2019

📌 แชร์ประสบการณ์ + วิเคราะห์ ขายของออนไลน์ทั้ง 10 กลุ่ม

วิเคราะห์ เจาะลึก มองสินค้าตามความเป็นจริง

1. สุขภาพและความงาม - ยากที่สุด แต่รวยที่สุด !! ยุคนี้อยากทำเครื่องสำอางค์และอาหารเสริม ต้องเน้นการสร้าง Storyteller และฐาน Audience ก่อนเป็นอันดับแรก นอกเหนือจาก..ต้องเคยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับแบรนด์อื่น ยังต้องเก็บตัวแทนจำหน่ายที่รักกันเสมือนครอบครัวให้อยู่กับเราให้ได้ (สรุปว่า ยากกว่า 3 ปีที่แล้วหลายเท่า)

2. เสื้อผ้าแฟชั่น - Facebook Live สร้างความร่ำรวยให้กลุ่มนี้มหาศาล ใครไม่เคยแตะเงินล้าน ก็ได้แตะ ไม่เคยมีบ้าน ก็มีคฤหาสน์ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นี้ต่อไป ฐานลูกค้ากลุ่มนี้จะลดลงเรื่อย ๆ ตาม Organic Reach ของไลฟ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ใครทำสายนี้อยู่ ต้องรีบเก็บฐานลูกค้าเข้า Line@ หรือให้ทักผ่าน Inbox เพื่อทำ Broadcast Chatbot ทันที (ส่วนใครที่ไม่ใช่สายนี้ ต้องเริ่มเปิดเพจใหม่ เพื่อสร้างฐาน Audience สำหรับใช้ทำโฆษณาเพื่อขายเสื้อผ้าในอนาคต)

3. มือถือและอุปกรณ์เสริม - กลุ่มนี้คือเก้าอี้ดนตรีอย่างแท้จริง ลุกช้าจ่ายรอบวง ใครรักจะขายสินค้าเทคโนโลยี ต้องปรับตัวให้ไว สินค้ามาไวไปไว ช่วงที่มาใหม่ ๆ จะขายดีจนน่าตกใจ แต่หากจบไป การันตีเจ๊งไม่ทันตั้งตัว หมั่นเรียนรู้ ศึกษาข้อมูลให้ไว อย่าสต็อกของเยอะ ดรอปชิปบ้างเป็นบางโอกาส พรีออเดอร์ต้องใช้ให้เป็น และรีวิวสินค้าอย่างต่อเนื่อง น่าจะรอดได้ไม่ยาก

4. ของแต่งบ้าน - หากไม่ร้อนเงิน มีทุนเหลือ กลุ่มนี้ผมชื่นชอบมาก เพราะสินค้าเป็น Timeless เก็บไว้ไม่เน่าไม่เสีย ลูกค้าไม่ต่อราคาโหด หากลูกค้าชอบสินค้า ซื้อง่ายขายคล่อง กำไรดีมาก แต่จุดอ่อนคือ Cash Flow แย่มากเลยนะ สินค้าไม่ได้ขายได้ทุกวัน หากจะเน้นของแต่งบ้านเป็นธุรกิจหลัก ผมคิดว่าไม่เหมาะสักเท่าไหร่ ควรจะทำเป็นธุรกิจรอง เน้นชิว ๆ มากกว่าครับ

5. แม่และเด็ก - หมวดแห่งความร้อนแรง สินค้ามองไม่ยาก ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแม่ค้าเป็นหลัก หากเจอแนวทาง รับรองขายดี ขายปัง ขายทะลุฟ้า แต่ปัญหาคือสินค้าหมวดนี้ SKU เยอะมาก ๆ ต้องใช้ Software ช่วยจัดการคงคลัง และห้ามใช้เงินส่วนตัวคู่กับบัญชีบริษัทเด็ดขาย ไม่งั้น “พังสถานเดียว” (ปล. ขายของหมวดนี้ ระวังจะอดนอน >

📌 รวม 33 คำศัพท์เชิงเทคนิค “การตลาดออนไลน์” ไม่รู้ ทำธุรกิจไม่ได้น๊า✏ เรียนรู้วันละนิด ยอดขายจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ไม่มีอะ...
02/04/2019

📌 รวม 33 คำศัพท์เชิงเทคนิค “การตลาดออนไลน์” ไม่รู้ ทำธุรกิจไม่ได้น๊า

✏ เรียนรู้วันละนิด ยอดขายจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ไม่มีอะไรยากเกินไป ฟันธง !!

1. Abandonment - ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ และจับใส่ในตระกร้าเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน และออกจากเว็บไซต์ในทันที ถือเป็นการทิ้งออเดอร์ และต้องหาเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

2. Affiliate - ขายของให้ฝรั่ง รับค่าคอมมิสชั่นแยกเป็นหมวดหมู่ บางหมวดหมู่ให้ค่าคอมมิสชั่นเยอะมาก โดยเฉพาะ Digital Product

3. Amazon Marketplace(ส่งออก) - ขายของผ่านอเมซอน โดยแยกเป็นขายเอง และฝากขาย(FBA) สมัยก่อนรุ่งเรืองและง่ายมาก ปัจจุบันเริ่มยากตามจำนวนคนเอเชียที่แห่กันไปเปิดร้านค้าจำนวนมาก

4. Blog - เขียนบทความ เสมือนเขียนไดอารี่ทุกวัน สร้างรายได้จากการรับโฆษณา / ติดตั้ง Adsense / ขายสินค้าตนเอง การเขียน Blog คือจุดเริ่มต้นสู่ E-commerce สายยั่งยืนอย่างแท้จริง

5. Bounce Rate - การที่ลูกค้าเข้าเว็บไซต์หน้าแรก และออกจากเวปทันที โดยไม่เข้าหน้าอื่นต่อไป

6. CMS - การเขียนโค้ดแบบพิเศษ ซึ่งกูเกิ้ลชอบมาก หากใช้เวปซึ่งเขียนด้วยระบบ CMS จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บนกูเกิ้ลได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับมือโปร เพราะต้องจ้างเขียนเป็นเวลานาน

7. Conversion Rate - การวัดผล ซึ่งยุคปัจจุบันถือว่าสำคัญอันดับ 1 ยุคนี้ใครวัดผลไม่เป็น ธุรกิจปวดหัวแน่นอน

8. Cross Selling - การขายสินค้าเสริมพ่วงกับสินค้าหลัก ซึ่งทำให้ผู้ขายได้กำไรมากขึ้น เช่น ขายกล้องได้กำไร 2,000 บาท แต่ขายกระเป๋ากล้องพ่วงไปด้วย ทำกำไรได้ 1,000 บาท(ได้สองเด้ง)

9. CTA(Call to Action) - ปุ่มมหัศจรรย์ เรียกร้องให้ลูกค้ากดให้ได้ เช่น ลดเฉพาะวันนี้ / รับโปรโมชั่นทันที / พลาดไม่ได้

10. CTR - Click Through Rate อัตราคนที่เห็นโฆษณาเรา สัมผัสโฆษณาเรากี่คน หากคนเห็น 100 คน แต่สัมผัสโฆษณาเรา 7 คนเท่ากับ CTR 7%

11. Discount Code - การออก Code ส่วนลดเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีผลมากในยุคปัจจุบัน

12. Dropshipping - โรงงานผลิตสินค้าแต่ไม่ขายเอง เราสามารถนำสินค้าไปขายในราคาต้นทุน โดยราคาที่เราขายคือราคาที่เราบวกเข้าไป และได้กำไรจากส่วนต่างนั่นเอง

13. Domain Name - จดโดเมนเนมเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย และติดอันดับบนกูเกิ้ลได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

14. Ebay(ส่งออก) - เว็บไซต์ประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนไทยเริ่มทำตัวนี้ก่อน Amazon ถือเป็นตลาดที่เคยมีเสน่ห์ แต่ปัจจุบัน คนอเมริกันเองเริ่มช้อปปิ้งสินค้าจากอีเบย์ลดลง และหันไปซื้อสินค้าจากเวป Amazon, Walmart มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ

15. E-commerce - การค้าขายผ่านโลกอินเตอร์เน็ต

16. Google Analyitcs - เว็บไซต์ช่วยวิเคราะห์ทุกอย่างของเวปเรา ไม่ว่าจะเป็น เวลาที่อยู่ในเวป / จำนวนหน้าที่เข้าชม / จำนวนผู้เข้าชม / ความถี่ต่อคน / ที่มาของผู้ชม และอื่น ๆ โดยปีนี้ Google Analytics มีส่วนสำคัญที่ช่วยวิเคราะห์เวป ให้เรารู้ว่า เราควรโฟกัสจุดใดเป็นหลัก

17. Inventory - สต็อคสินค้า โดยหากเราจัดการสต็อคสินค้าได้ดี เราจะมีรอบหมุนของสินค้าเร็วขึ้น เงินทุนไม่จม และกระแสเงินสดจะเป็นบวกทุกเดือน

18. Long Tail - ในโลกออฟไลน์ สินค้าขายดีในแต่ละหมวด จะขายแบบ All in คือสินค้าที่ฮอตจะขายดีมาก ส่วนตัวไหนไม่ฮอตจะขายไม่ได้เลย เพราะไม่มีที่วางบน Shelf Space แต่ในโลกออนไลน์​ สินค้าที่เน้นกลุ่มเฉพาะทาง จะขายได้ตลอด แม้ว่าจะขายได้ไม่เยอะเหมือนสินค้า Mass แต่จะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง..ที่พร้อมซื้อตลอดเวลา

19. Landing Page - การเขียนเว็บไซต์แบบ Sale Page โดยเน้นการเขียนแบบหน้าเดียวปิดการขาย ถือเป็นสุดยอดวิธีแห่งการขายของออนไลน์

20. Logistics - การขนส่ง ถือเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น หากขนส่งได้ไว ยิ่งถ้าส่งในวันที่สั่งได้ทันที โอกาสชนะคู่แข่งมีสูงมาก

21. Margin - จุดตัดสินของธุรกิจในระยะยาว อยู่ที่บรรทัดสุดท้ายของบัญชีการเงิน นั่นคือ กำไรสุทธิ ดังนั้น การที่สินค้าของเรามีกำไรมาก จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกิจกรรมทางการตลาดได้มากมาย ไม่ว่าจะลด แลก แจก แถม ก็ทำได้ทั้งสิ้น

22. OmniChannel - การขายสินค้าควบคู่ทั้งหน้าร้าน และ E-commerce ผมให้ความสำคัญ 100% กับสิ่งนี้ หากขาดอย่างใดอย่างนึง ธุรกิจไม่มีทางเติบโต

23. Outsource - การจ้างคนนอก ช่วยทำงานที่ตนเองไม่ถนัด หรือมีพนักงานไม่เพียงพอ ถือเป็นเทรนด์ของยุคนี้ ที่ไม่ควรจ้างพนักงานหากยังไม่จำเป็น หากจ้าง Freelance หรือ Outsource ได้ ย่อมปลอดภัยมากกว่า

24. PPC - Pay Per Click คือการจ่ายเงินหนึ่งครั้ง เมื่อเกิดการคลิกโฆษณาของเรา ถือเป็นการตลาดที่ใช้ได้ดี หากสินค้าของเรามีกำไรสูง

25. Payment Gateway - ระบบช่วยชำระเงิน ทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อทำธุรกิจด้วยกันได้ง่ายขึ้น ยิ่งระบบชำระเงินรวดเร็ว และง่ายขึ้นมากเท่าไหร่ ธุรกิจขายของออนไลน์ จะเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

26. Paypal - ธนาคารออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด หากจะค้าขายไปต่างประเทศ ควรสมัครและใช้ Paypal มากที่สุด เพราะลูกค้าต่างชาติยอมรับตัวนี้มากที่สุด

27. SEO - การเขียนบล็อคหรือทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google แบบไม่มีค่าใช้จ่าย(FREE) แต่ต้องแลกกับแรงกายและเวลา ซึ่งอาจจะมีค่ามากกว่า

28. Social Media - สังคมออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการตลาดที่มีอิทธิพลสูงสุดบนโลกออนไลน์ ประกอบไปด้วย Facebook / Instagram / Twitter / Pinterest / Linkedin

29. Split Testing - การทำ A/B Testing เพื่อทดสอบโฆษณา หรือคอนเทนต์ตัวไหนดีที่สุดสำหรับเรา หากทำบ่อย ๆ จะช่วยให้โฆษณาถูกขึ้นและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

30. Traffic - จำนวนคนที่เข้าเว็บไซต์ แยกเป็น Unique คือเข้าไม่ซ้ำ และ Duplicate คือเข้าซ้ำ

31. Wordpress - เว็บไซต์สำหรับสร้าง Blog ที่มีผู้ใช้มากที่สุด และมี Plugin มากมายที่จะปรับแต่งให้เวปทำอะไรได้มากขึ้น ทั้งขายของ เขียนบล็อค ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์สำหรับมืออาชีพอย่างแท้จริง

32. Upselling -การเชียร์ขายสินค้าที่แพงกว่าสินค้าเดิม ทำให้บริษัทได้กำไรมากขึ้น

33. UX - การดีไซน์หน้าเว็บไซต์ แอพ ระบบหน้าบ้าน หลังบ้าน ให้ใช้งานง่ายที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีและกลับมาใช้อีกในภายหลัง

ฝึกฝนวันละนิด แม้จะเห็นผลน้อย แต่ในระยะยาว ชีวิตเปลี่ยนไปมากมายแน่นอนครับ ^^

เครดิต อ.ตรี

📌 สรุปขั้นตอนการทำธุรกิจ"ขายของออนไลน์" ในยุคปี 2019((ยาวมากมาย เซฟเก็บไว้ก็ดีครับ ได้ใช้แน่นอน))ขั้นตอนที่ 1:* ดูความเห...
26/03/2019

📌 สรุปขั้นตอนการทำธุรกิจ"ขายของออนไลน์" ในยุคปี 2019

((ยาวมากมาย เซฟเก็บไว้ก็ดีครับ ได้ใช้แน่นอน))

ขั้นตอนที่ 1:

* ดูความเหมาะสมของสินค้า “ต้องทำเว็บไซต์ หรือ แฟนเพจ”

* เว็บไซต์เหมาะกับสินค้าฟังค์ชั่น ส่วนแฟนเพจเหมาะกับสินค้าแฟชั่น

--------------------

ขั้นตอนที่ 2:

หากต้องทำเว็บไซต์ เราต้องปฏิบัติดังนี้ ~

- ฝึกใช้งาน Lnwshop.com หรือ Wix.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูป (สะดวกและง่ายกว่า สำหรับมือใหม่)

- 2 เว็บไซต์ข้างต้น จะติด SEO ได้ง่าย แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับเวป CMS จำพวก Wordpress, Magento

- หากเราทดสอบตลาดเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจในธุรกิจขายของออนไลน์ ให้เราจดโดเมนเนม เพื่อทำให้เวปติดอันดับ Google ได้ง่ายขึ้น

- การจดโดเมนเนม ไม่สำคัญเหมือนสมัยก่อน ไม่ต้องประมูลโดเมน หรือจ่ายแบบ Premium ในราคาแพง จดโดเมนเนมแบบปรกติประมาณ 500 กว่าบาทต่อปีก็พอแล้ว

- เว็บไซต์สมัยใหม่ เน้นปิดการขายแบบหน้าเดียว หรือเรียกว่า Landing Page เราควรให้ความสำคัญกับหน้าแรก 90%++

- หน้า Sale Page ต้องสั้นกระชับ ใส่รูปภาพเยอะ แต่ต้องโหลดไว มีสลับ Youtube บ้าง เน้นปิดการขายเป็นหลัก

- สิ่งที่ควรระวัง คือ อย่าให้ลิงค์ออกจากหน้าแรกเยอะเกินไป จะทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับบน Google

- หากเราต้องการทำเว็บไซต์ด้วยตนเอง ควรจะรอสักพัก ให้ยอดขายเริ่มเยอะ จึงค่อยขยับตัวเพื่อเลือกทำ Wordpress, Woocommerce หรือ Magento

- เว็บไซต์ประเภท Wordpress มีคนรับทำมากมาย ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 10,000 บาท

- การเลือกโฮสติ้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกแพง แต่ให้เลือกเจ้าที่ดูน่าไว้ใจ มีลูกค้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หมั่นติดตามใน Fanpage ผู้ให้บริการ จนกว่าจะเจอเจ้าที่ถูกใจ ปรกติราคาไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี

--------------------

ขั้นตอนที่ 3:

ในกรณีทำแฟนเพจ เราต้องปฏิบัติดังนี้ ~

- จำนวนคนกดไลท์เพจ ไม่สำคัญเหมือนสมัยก่อน อัตรา Reach(คนเห็นโพส) ลดลงมหาศาล

- คอนเทนต์คือสิ่งสำคัญเหนือทุกอย่าง สินค้าดี คอนเทนต์แย่ จะขายไม่ดี และทำกำไรได้น้อย

- สมัยก่อน เราอยากให้ลูกค้ากด See First เพื่อให้เห็นโพสต์เราก่อน แต่สมัยนี้ See First ไม่ดีเหมือนเดิม

- สรุปแฟนเพจสั้น ๆ ว่า หากไม่มีเงินยิงโฆษณา ห้ามทำแฟนเพจเด็ดขาด

- ข้อดีของแฟนเพจคือ เก็บฐานลูกค้า สำหรับยิงโฆษณากลับไปหาลูกค้าได้

- หมั่นมีวินัยในการสร้างคอนเทนต์ใหม่เดือนละครั้ง แล้วธุรกิจบนแฟนเพจจะสดใส

--------------------

ขั้นตอนที่ 4:

ขายอะไรดี มีคำตอบ ~

4.1 สินค้าดี...ต้องมีที่มา

ยุคนี้ต้องยอมรับว่า Content ขาดไม่ได้ หรือแปลกันตรงไปตรงมาว่า หากไม่มี Story(เรื่องราว) หรือ Experience(ประสบการณ์ร่วม) ไม่ต้องคิดจะขายสินค้า ลูกค้าไม่ซื้อและไม่ยอมจ่ายเงินที่แพงกว่าแน่นอน เช่น เราดู Youtube ถึงความลำบากยากเย็นในการปลูกชาออแกร์นิคของชาวไร่คนนึง เรายินดีซื้อราคาแพง เพราะเนื้อเรื่องที่ซาบซึ้งและกินใจ

4.2 สินค้าดี...ต้องทำให้ลูกค้าโดดเด่น

หากเราซื้อโดนัทชิ้นนึง เราคงจ่ายไม่เกิน 30 บาท แต่หากโดนัทก้อนนี้ ผลิตจากดาราดัง หรือมีความพิเศษในตัว สามารถโพสลง Facebook แล้วมีคนกดแชร์ต่อมากมาย ต่อให้โดนัทราคา 100 บาท เราก็ยินดีซื้อด้วยรอยยิ้ม

4.3 สินค้าดี...ต้องมีความแตกต่าง

ไม่มีใครอยากเหมือนคนอื่น ยุคนี้คือยุคแห่งความ Unqiue(เฉพาะตัว) หากเราทำให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจ เป็นสินค้าประเภท One in the Million ไม่เหมือนใคร ไม่ซ้ำใคร แตกต่างสุดขั้ว ย่อมปิดการขายได้ง่ายกว่าแน่นอน

4.4 สินค้าดี...ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกฉลาด

หากลูกค้ารู้สึกได้เปรียบ รู้สึกภูมิใจในตนเอง เช่น ไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่ Outlet ได้ส่วนลด 80% ถึงแม้ราคากระเป๋าหลังลด 80% จะเหลือ 5,000 บาท ซึ่งก็ยังแพงอยู่ดี เมื่อเทียบกับกระเป๋าทั่วไป แต่เราภูมิใจที่ได้ส่วนลดเยอะมากกก แบบนี้สินค้าก็จะขายดีเช่นกัน

ยุคนี้ต้องเน้นความฉลาดทางอารมณ์ อย่าใส่เหตุผลให้เยอะมาก

--------------------

ขั้นตอนที่ 5:

หมวดการตลาดออนไลน์

- การตลาดสำหรับโลกออนไลน์ มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะมาก แต่โดยภาพรวมจะมีดังนี้

** Facebook Ads - ยิงโฆษณาโดยใช้ Interest และ Custom Audience เป็นหลัก ปัจจัยหลักอยู่ที่ Content + การกระจายงบประมาณสู่เครื่องมือทุกตัว และวัดผลให้เป็น

** Google Ads - การดัก Keyword ห่านทองคำ ใครรู้ว่าลูกค้าชอบกดคำว่าอะไร จะได้เปรียบมาก แต่ในยุคนี้ ยุคที่ AI ฉลาดมาก เราจึงมีทางเลือกให้ยิงโฆษณามากมาย ไม่ว่าจะเป็น GDN Interest, Intend, Similar, Youtube Interest, Intend, Similar เรียกได้ว่ามีมากกว่า 20 ตัวทีเดียว

** Line@ - ลิสต์ที่เพิ่มขึ้นของ Line@ มาจาก Facebook 70%, Google 30% ดังนั้น หมั่นสร้างกิจกรรมบนหน้า Facebook เพื่อพาคนเข้า Line@ ชีวิตจะดีมากถ้าสมาชิกใน Line@ มีเยอะ ^^

** SEO - การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ บนกูเกิ้ล ต้องใช้ความขยันเป็นหลัก ถึงแม้จะฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในความเป็นจริง เวลาที่เราเสียไป ก็ถือเป็นค่าเสียโอกาสเช่นกัน

* Marketplace (Lazada, Shopee) - การตลาดที่ง่ายที่สุดในยุคนี้ คือฝากขายเลย ไม่มีค่าใช้จ่าย อาศัยความถึกล้วน ๆ ง่ายกว่าทำ SEO ด้วยตนเองเยอะมาก แต่ต้องปรับตัวตามกฏ กติกาของเค้าให้ได้

--------------------

ขั้นตอนที่ 6:

การเงินและภาษี

- การควบคุม Cashflow ถือเป็นหน้าที่หลักที่ต้องทำ หากมีกำไร แต่ไม่มีเงินเหลือไปสต็อคของเพิ่ม ก็อาจจะเจ๊งได้

- รวมถึงการใช้เงินส่วนตัว ห้ามนำเงินกิจการไปปนกัน นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุด

- เงินที่ได้จากการทำธุรกิจ ควรหมั่นนำไปลงทุน หัดใช้เงินทำงานให้เป็น เพื่อให้เกษียณก่อนอายุได้จริง

- ภาษีคือหน้าที่ของประชาชน ในช่วงที่เราเริ่มทำธุรกิจ อาจจะยังไม่จำเป็นมากที่ต้องเรียนรู้เชิงลึก แต่ในวันที่เราเป็นมืออาชีพด้านขายของออนไลน์ ภาษีต้องทำให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้น จะมีปัญหาตามหลัง

- ยุคที่ AI ฉลาดขนาดนี้ เราไม่มีทางหลบเลี่ยงภาษีได้ในทุกกรณี ดังนั้น ทำให้ถูกต้องให้เร็วที่สุด แล้วจะไม่ต้องปวดหัวทีหลัง

--------------------

ขั้นตอนที่ 7:

โปรแกรมช่วยเหลือ และ แอพพิเคชั่นต่าง ๆ

- ยุคนี้มีโปรแกรมมากมายที่ช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Evernote, Google Keep, Google Calendar, Google Sheet, Google Drive, Page365, Sellsuki, Flowaccount, Wonderlist และอื่น ๆ

- หมั่นใช้แอพให้เกิดประโยชน์ เราจะมีชีวิตที่ง่ายขึ้นอีกเยอะ รวมถึงธุระอันใดที่กินเวลา ตัดออกให้หมด เช่น ไปธนาคาร ซื้อของ Supermarket, ส่งของด้วยตนเอง ยุคนี้เป็นสังคม Sharing Economy เราต้องใช้ทรัพยากรให้เป็น แล้วชีวิตจะง่ายขึ้น 100%

--------------------

ขั้นตอนที่ 8:

การจัดการเวลา และวางแผนชีวิต

ผมเคยยกตัวอย่างการจัดการเวลาไว้บ้างแล้ว ขออนุญาตยกเคสที่ผมชอบ มาแชร์ให้อ่านอีกครั้งนะครับ

ผมชอบหนังสือเรื่อง “Atomic Habits"

บทนึงของหนังสือเล่มนี้แนะนำว่า “หากเราต้องการ Reward เช่น นอนดู Netflix หรือนั่งเล่น God of War 4 เราควรจะทำงานหนึ่งอย่างให้เสร็จ เพื่อแลกกับรางวัลนั้น”

เนื้อหาในหนังสือเรียกว่า “ I WANT TO DO และ I NEED TO DO “

โดยสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ คือ หน้าที่การงาน
สิ่งที่เราอยากจะทำ คือ นอนดู Netflix + นั่งเล่นเกมส์ก่อนเข้านอน

เราต้องทำการ Matching หรือจับคู่ 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน
นั่นคือ หากเราทำงานเสร็จ เราจะได้ดู Netflix ทันที

เป็นกุศโลบายให้เราเห็นเป้าหมาย และได้รับรางวัลในทันที ไม่ต้องรอนาน

เหมือนเช่นว่า หากผมเขียนบทความได้ดี ผมจะได้ดู Netflix รวม 2 ชม. เต็ม !!

เชื่อไหมว่า แค่รางวัลเล็ก ๆ แค่นี้ ทำให้ผมมีพลังในการสร้างความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงอยากทำงานมากกว่าเดิม และไม่รู้สึกผิดกับตัวเองด้วย

แค่ทุกคนเปลี่ยนการคิดจะทำอะไรสักอย่าง เข้ากับรางวัลที่ตนเองจะได้รับ เพียงแค่นี้เราจะมีพลังมากมายในการทำงานเราให้เสร็จแบบไม่กดดันตนเองมากเกินไป

ส่วนการวางแผนชีวิตนั้นง่ายมาก เราเพียงจดโน็ตสิ่งที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น ดังนั้น ในทุกวัน คุณเพียงทำงานที่คุณโน็ตเอาไว้ให้เสร็จสิ้น แค่นั้นชีวิตก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วครับ ^^

--------------------

บทสรุปของธุรกิจ ~

บางที ธุรกิจอาจจะยากสำหรับหลายคน

เราคงเคยได้ยินคำว่า “หากคุณทำธุรกิจนานเกิน 5 ปี โอกาสรอดของคุณมีไม่ถึง 5%”

ตัวผมเอง โชคดีที่ทำธุรกิจหลากหลาย แม้ว่าจะมีธุรกิจหลายตัวที่เจ๊งอย่างจริงจัง แต่ก็มีบางตัวที่รอด และทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน

แน่นอนว่า ธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่สังเกตหรือไม่ว่า “ลักษณะของคนที่สำเร็จ มักจะมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่เพียงอย่างเดียว”

คือ “ไม่ยอมแพ้ และสู้ต่อไป”

หากใครมีคุณสมบัตินี้ ย่อมเป็นผู้เหลือรอดในสงครามที่แสนโหดร้าย

เชื่อผมอย่างหนึ่งว่า ความร่ำรวย ไม่ได้มีไว้ให้คนที่มัวแต่คิดว่า “ทำอย่างไรจึงรวย”

แต่มีไว้ให้คนที่ “ทำโดยไม่คิด และยอมรับผลที่ตามมา รวมถึงพร้อมจะแก้ไขทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิต"

ถึงเวลาแล้ว ที่จะเดินหน้าสับเกียร์ 8 ลุยให้เต็มที่ ผลลัพธ์ค่อยว่ากัน !!

แล้ววันนึง คุณจะพบกับความสำเร็จ

เจอกันที่จุดหมายปลายทางนะครับ

เครดิต อ.ตรี

Create a free website with Wix.com. Choose a stunning template and customize anything with the Wix website builder—no coding skills needed. Create yours today!

19/03/2019

ของขวัญแห่งความสำเร็จ ~

“พักวันนี้ สบายวันนี้” ลูกศิษย์ของผมคนหนึ่งเคยพูดไว้

จะว่าไป เวลาผมเหนื่อยมาก ๆ ผมมักจะคิดแบบนี้ และทุกครั้งที่คิดแบบนี้ ก็มักจะทำการพักผ่อนทันที

ยอมรับเลยว่า หากพักผ่อนในช่วงที่งานยังเยอะมาก ๆ นั้นไม่ฟินเอาซะเลย

แต่ทำอย่างไรได้ ร่างกายมันต้องการ SHUT DOWN แล้ว

หากไม่พัก ณ ตอนนี้ ร่างกายอาจจะพัง แล้ววันรุ่งขึ้น...อาจจะลุกไม่ไหวเลยก็ได้

แต่เมื่อการพักผ่อนทำให้เรารู้สึกผิด เราจึงต้องออกกลอุบายให้ร่างกาย...ได้ทำตามสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้

วันนี้ผมได้ฟัง Podcast ของ อ.นภดล ซึ่งสรุปหนังสือเรื่อง Atomic Habits ไว้ได้ดีมาก ๆ

บทนึงของหนังสือเล่มนี้แนะนำว่า “หากเราต้องการ Reward เช่น นอนดู Netflix หรือนั่งเล่น God of War 4 เราควรจะทำงานหนึ่งอย่างให้เสร็จ เพื่อแลกกับรางวัลนั้น”

เนื้อหาในหนังสือเรียกว่า “ I WANT TO DO และ I NEED TO DO “

โดยสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ คือ หน้าที่การงาน

สิ่งที่เราอยากจะทำ คือ นอนดู Netflix + นั่งเล่นเกมส์ก่อนเข้านอน

เราต้องทำการ Matching หรือจับคู่ 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน

นั่นคือ หากเราทำงานเสร็จ เราจะได้ดู Netflix ทันที เป็นกุศโลบายให้เราเห็นเป้าหมาย และได้รับรางวัลในทันที ไม่ต้องรอนาน

เหมือนเช่นว่า หากผมเขียนบทความได้ดี ผมจะได้ดู Netflix รวม 2 ชม. เต็ม !!

เชื่อไหมว่า แค่รางวัลเล็ก ๆ แค่นี้ ทำให้ผมมีพลังในการสร้างความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงอยากทำงานมากกว่าเดิม และไม่รู้สึกผิดกับตัวเองด้วย

หลายคนถามว่า แล้วถ้างานที่เราต้องทำมันยากที่จะเริ่มต้นหล่ะ แค่จะเปิดคอมพ์นั่งทำงาน ก็ขี้เกียจมากมายแล้ว

ในหนังสือเล่มนี้ อธิบายต่ออีกว่า “ให้คิดว่างานที่เราจะทำ ทำแค่ 2 นาทีก็เสร็จแล้ว หรือ ทำแค่ 2 นาทีก็เพียงพอแล้ว”

การคิดแบบนี้จะทำให้เราได้ติดเครื่อง เริ่มนั่งทำงานโดยเชื่อว่า แปปเดียวก็เสร็จ แต่พอนั่งทำงานจริง ๆ

พอจุดสตาร์ทมันขยับ เครื่องเราก็จะติด เราจะสามารถนั่งทำงานชิว ๆ เป็นชั่วโมงได้โดยไม่รู้สึกอะไร

ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้มาก ๆ เพราะความยากที่สุดของการทำงาน อยู่ที่จุดเริ่มต้น

หากเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มเขียนบทความได้ แน่นอนว่า “บทความต้องเสร็จอย่างแน่นอน”

ช่วงหลัง ผมจึงใช้อีกหนึ่งวิธีเพิ่มเติม นั่นคือการเอาเครื่องโน็ตบุ๊คออกมากาง และวางในจุดเด่นที่สุดของบ้าน ให้เห็นเครื่องคอมพ์ตลอดเวลา

บางทีเดินผ่าน อดไม่ได้ ก็นั่งเขียนบทความเล่น ๆ สัก 2-3 บรรทัด แต่พอนั่งทำจริง ๆ ปรากฏว่า ยาวครับ !!

แต่ก็ทำให้เราสามารถผลิตบทความดี ๆ ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง

ถือเป็นนิสัย และกุศโลบายที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง

โดยหากเราฝึกฝนนิสัยแบบนี้ติดกันครบ 21 วัน เราก็จะได้นิสัยนั้นแบบ Permanant คือกลายเป็นนิสัยจริง ๆ ของเราไปในทันที

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้มาก เพราะการนั่งเล่นเกมส์โดยที่งานไม่เสร็จ เราจะรู้สึกผิด และเล่นเกมส์ไม่สนุก

แต่จะให้เราทำงานต่อ ทั้งที่ทำงานมาทั้งวัน เราก็ทำไม่ไหว

ดังนั้น การออกกลอุบายแบบนี้ ถือว่าเป็นวิธีคิดที่ฉลาดมาก จะช่วยให้เราภูมิใจในตัวเองและสำเร็จในงานไปพร้อม ๆ กัน

ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ ผมคิดว่าวิธีแบบนี้จะทำให้งานของเรา สำเร็จมากขึ้นอีกเยอะเลยครับ ^^

เครดิต

อ.ตรี

แชร์ประสบการณ์ สิ่งที่ผมเจอในแต่ละช่วงอายุ “ขายของออนไลน์”เขียนหลายชั่วโมงมาก ๆ อ่านหน่อยน๊า >
22/02/2019

แชร์ประสบการณ์ สิ่งที่ผมเจอในแต่ละช่วงอายุ “ขายของออนไลน์”

เขียนหลายชั่วโมงมาก ๆ อ่านหน่อยน๊า >

Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล Foreign Exchange Market เรียกโดยย่อว่า FOREX เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยปริม...
19/11/2018

Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล Foreign Exchange Market เรียกโดยย่อว่า FOREX เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขาย 4-7 ล้านล้านเหรียญต่อวัน หลายเท่าของตลาดหุ้นทุกชนิดในโลกรวมกัน นี่คือใหญ่ของตลาด Forex ตลาดForex ถูกจัดอยู่ในประเภท Over the Counter (OTC) คือ มีศูนย์กลางของตลาดมากกว่า 1 แห่ง โดย ตลาดทั้งหมดสื่อสารด้วยระบบอีเลคทรดนิค ภายใต้เครือข่ายของธนาคารๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ้งแตกต่างกับตลาดหุ้นที่อยู่ภายใต้ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นๆ

ชีวิตคนเราก็เหมือนหนังสือ เราใช้ชีวิตไปโดยที่ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้จะจบลงยังไง แต่ลองนึกดูถ้าหนังสือทุกหน้ามีแต่อะไรเหม...
11/11/2018

ชีวิตคนเราก็เหมือนหนังสือ เราใช้ชีวิตไปโดยที่ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้จะจบลงยังไง แต่ลองนึกดูถ้าหนังสือทุกหน้ามีแต่อะไรเหมือนๆกัน เรื่องราวเดิมๆ ภาพเดิมๆ จะมีใครอยากอ่านหนังสือเล่มนี้❓ หรือเราควรที่จะสร้างความแตกต่าง ใช้ชีวิตให้เต็มที่ ฉีกกรอบเดิมๆที่เคยเป็น สร้างและเติมเต็มความฝันให้ตัวเอง ราวกับว่า "หากหนังสือเล่มนี้ต้องจบลง ก็ไม่มีอะไรต้องเสียดายอีกแล้ว"

ชีวิตจริงเริ่มต้น หลังจากเราออกจากกรอบเดิมๆหนังสือเล่มนี้ตัวเราเท่านั้นที่จะเขียนมันได้

เริ่มวันนี้ จะได้ไม่มีคำว่า "รู้งี้..." ทีหลัง

1..2...3 อ่านจบละ เริ่มได้‼️
Cr.Mr.K

Top 7 หุ้นแนะนำ เหมาะสำหรับออมลงทุนเพื่ออนาคตจากที่เราได้นำเสนอวิธีการลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average ซึ่งเป็นการอ...
27/10/2018

Top 7 หุ้นแนะนำ เหมาะสำหรับออมลงทุนเพื่ออนาคต
จากที่เราได้นำเสนอวิธีการลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average ซึ่งเป็นการออมในหุ้นโดยหักเงินจากรายได้ในแต่ละเดือน ไปสะสมในหุ้นอย่างสม่ำเสมอแล้ว
หลายคนคงจะมีคำถามเพิ่ม...แล้วจะออมในหุ้นตัวไหนดีหล่ะ ?
สำหรับการออมหุ้นแบบ DCA
เราควรเลือกหุ้นที่มีความมั่นคง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเงินของเราจะได้เติบโตไปด้วย เหมือนเป็นเจ้าของร่วม บริษัทเค้าโตเงินเราก็โตไปด้วย
วันนี้เรามี Top 7 หุ้นมั่นคง ที่เหมาะกับการออมลงทุนระยะยาว จากคำแนะนำของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ จะมีหุ้นตัวไหนน่าสะสมบ้างมาดูกัน...
อ้างอิงข้อมูลจาก SET ออมหมื่นพันสร้างฝันเงินล้าน
#หุ้นดีน่าสะสม

บางคน...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหน ให้ลูกไปโรงเรียนบางคน...ไม่เคยรู้เลยว่ารสชาติการนอนหลับบนเตียงนุ่มๆในห้...
16/10/2018

บางคน...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
พรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหน ให้ลูกไปโรงเรียน
บางคน...ไม่เคยรู้เลยว่า
รสชาติการนอนหลับบนเตียงนุ่มๆในห้องแอร์มันเป็นยังไง
บางคน...ลูกร้องอยากกินไก่KFC ยังติดลูกมาเป็นปีๆ
ส่วนบางคน...ไม่ต้องทำอะไร
มีหน้าทีเรียนอย่างเดียว พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้
กลับโพสต์ลงเฟสบุ๊คว่า....เรียนเหนื่อยจัง
บางคน...พ่อแม่ปูทางประเคนให้ทุกอย่าง
กลับบ่นว่าชีวิตทำไมมันยากเย็นขนาดนี้
บางคน...นั่งทำงานในห้องแอร์แท้ๆ แต่บ่นทุกครั้งที่เจอว่า....งานหนักฉิบหาย
เด็กบางคนสมัยนี้ แค่แบตโทรศัพท์จะหมดก็เหมือนจะขาดใจตาย
ไม่มีwifi.....ชีวิตเหมือนตายไปแล้วครึ่งตัว!
ลองหันไปรอบตัวคุณดูครับ
มีคนที่เขาลำบากกว่าเราเยอะ มีคนที่เขาทุกข์กว่าเราเยอะ
มีคนที่เขาต้นทุนต่ำจนติดลบกว่าเราอีกมากมาย
ขับรถเก๋งไปมหาลัย นอนห้องแอร์เรียนห้องแอร์
แล้วโพสต์ลงเฟสบุ๊คว่าเรียนเหนื่อย
มันฟ้องว่าน้อง...กระจอกขนาดไหน
ทำงานในห้องแอร์แล้วบ่นว่าชีวิตแสนแย่
มันคือการดูถูกตัวเองอย่างรุนแรง
เราบ่นว่าชีวิตเราไม่ดี...แล้วคนเหล่านี้ จะมีอะไรให้บ่น?
จงจำไว้ว่าในขณะที่คุณไม่พอใจชีวิตตัวเอง
มีคนอีกไม่น้อย อยากมีชีวิตแบบคุณ!
สุขได้ ถ้ารู้ว่า อันไหนควรถืออันไหนควรวาง
อันไหนควรคิด อันไหนไม่ควรคิด
#ขอบคุณบทความดีๆด้วยครับ

ที่อยู่

เขตป้อปราบศัตรูพ่าย
Bangkok
10100

เบอร์โทรศัพท์

0626536978

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Cash Flow 4.0 Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์