29/08/2025
ชีซี กับตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวสาวทอผ้า
ตำนานเรื่องหนุ่มเลี้ยงวัวและสาวทอผ้า เป็นตำนานพื้นบ้านที่ภูกเล่าขานมากว่าหลายพันปี ต้นกำเนิดเรื่องเล่าและเทศกาลชีซีนี้ย้อนกลับกลับไปถึงการบูชา ดาวหนุ่มเลี้ยงวัว (ดาวอัลแทร์ Altair ) และ ดาวสาวทอผ้า (ดาวเวก้า Vega) ในภายหลังได้กลายมาเป็นตำนานเรื่องเล่าและเทศกาลเฉลิมฉลอง
เพื่อระลึกถึงความรักของหนุ่มเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าที่ได้มาพบกันอีกครั้งในวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดตามปฏิทินจันทรคติ ในยุคราชวงศ์ซ่ง กำหนดให้เทศกาลชีซีเป็นวันหยุด นอกเหนือจากการขอพรเรื่องความรักกับดาวสาวทอผ้า ชีซีได้กลายเป็นเทศกาลรื่นเริงของประชาชนทั่วไป
ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวและสาวทอผ้า
ครั้งหนึ่งมีเด็กหนุ่มกำพร้าอาศัยอยู่กับครอบครัวพี่ชายพี่สะใภ้ เขามักถูกกลั่นแกล้งให้เป็นอยู่อย่างลำบาก ไล่ให้ออกไปเลี้ยงวัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง กระนั้นหนุ่มเลี้ยงวัวก็ดูแลวัวของเขาเป็นอย่างดี วันหนึ่งวัวที่เขาเลี้ยงก็เดินเข้ามาพูดกับเขาว่า “พรุ่งนี้ยามย่ำค่ำ ท่านจงไปยังภูเขา ณ ภูเขาแห่งนั้น มีทะเลสาบแห่งหนึ่ง ข้างทะเลสาบจะมีป่า ในป่าแห่งนั้นท่านจะได้พบกับเทพธิดา”
ย่ำค่ำของวันถัดมา หนุ่มเลี้ยงวัวขึ้นเขาไปตามที่เจ้าวัวบอกแล้วก็ได้พบกับทะเลสาบและเทพธิดาจริงๆ สาวเทพธิดาคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยกับหนุ่มเลี้ยงวัว ทำให้เขาได้ทราบว่า นางคือหลานสาวคนเล็กของพระแม่ซีหวังมู่ มีหน้าที่ทักถอผ้าเป็นริ้วเมฆประดับฟ้า วันนี้อาศัยโอกาสที่พระแม่ซีหวังมู่หลับหนีลงมาเที่ยวเล่นในแดนมนุษย์ หนุ่มเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าเกิดชอบพบกัน จึงตกลงปลงใจสร้างครอบครัวอยู่ที่โลกมนุษย์ ผ่านไปสามปีทั้งคู่ก็มีบุตรชายบุตรสาวอย่างละหนึ่ง
วันหนึ่งหนุ่มเลี้ยงวัวเดินเข้าไปในคอก เห็นเจ้าวัวน้ำตาอาบหน้า พูดกับเขาว่า วันนี้มันไม่สามารถช่วยเขาได้อีกแล้ว หลังจากมันตายให้เก็บหนังของมันไว้ เอามาสวมเมื่อยามคับขัน
ฝั่งพระแม่ซีหวังมู่เมื่อทราบว่าสาวทอผ้าหนีลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ก็สั่งให้ขุนพลสวรรค์ไปพาสาวทอผ้ากลับไปรับโทษ อาศัยช่วงเวลาที่หนุ่มเลี้ยงวัวออกไปทำไร่มาพาตัวสาวทอผ้ากลับไป หนุ่มเลี้ยงวัวรู้ก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก แล้วก็คิดถึงคำพูดของเจ้าวัวที่เคยกล่าวกับเขาไว้ จึงไปนำหนังของมันมาสวม (*บางตำนานเล่าว่า เอาหนังวัวมาตัดเป็นรองเท้า) หอบลูกทั้งสองใส่ตะกร้า เมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน ด้วยอิทธิฤทธิ์ของหนังวัววิเศษ ก็พาเขาเหาะขึ้นฟ้าไป
หนุ่มเลี้ยงวัวตามไปจนเจอสาวทอผ้า พระแม่ซีหวังมู่จึงโยนปิ่นลงมาขวางทั้งสองไว้ ปิ่นหยกกลายเป็นแม่น้ำสวรรค์ นับแต่นั้นหนุ่มเลี้ยงวัวก็ยืนรอคอยสาวทอผ้าอยู่ที่อีกฝากฝั่ง วันแล้ววันเล่าฝูกนกกางเขนมาพบ ก็รู้สึกเห็นใจ ทุกปีจึงพากันต่อตัวเป็นสะพานให้ทั้งสองได้พบหน้ากันหนึ่งวัน
--------
สุขสันต์วันชีซีค่ะ! ถือโอกาสวันนี้ลงข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับเทศกาลชีซีในเชิงประวัติศาสตร์บ้าง เรื่องนี้จะมีกล่าวถึงนิดหน่อยในหนังสือ #ส่องศาล ที่กำลังเขียนอยู่ด้วยค่ะะ พยายามจะปั่นให้เสร็จในปีนี้เผื่อทันลงงานนส.ต้นปีหน้า ส่วนภาพถ่ายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2566 ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลืองค่ะ