01/08/2025
มุขตลกหยาบโลน กลับสู่เซฟโซนอีกครั้ง เมื่อหนัง Non-PC คืนชีพ สะท้อนการต่อต้าน PC สุดโต่ง
ไม่นานนี้บ้านเรามีการเปิดตัวหนังล้อเลียนจาก 13 Studio เรื่อง ‘สแควรั่วเดอะมูฟวี่’ ซึ่งเป็นแนวหนังที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนับตั้งแต่หลังยุค 2010 เป็นต้นมา เพราะกระแสความเท่าเทียม การต่อต้านการบุลลี่ การล้อเลียนและเหยียดหยามผู้อื่น
จากการสำรวจข้อมูลระหว่างปี 2010-2014 สัดส่วนหนังตลกจากค่ายอย่าง 20th Century Fox ลดลงจาก 44% เหลือเพียง 8% ของจำนวนหนังทั้งหมดที่ออกฉาย ส่วนหนังตลกจาก Warner Bros. ก็ลดลงจาก 37% เหลือ 25% นี่คือผลกระทบที่เห็นได้ชัดจากแนวคิดที่เรียกว่า PC (Political Correctness)
PC คือแนวคิดส่งเสริมให้เกิดความระมัดระวัง การใช้ภาษา การแสดงพฤติกรรมและทัศนคติ ที่ไม่เคารพต่อผู้อื่นในสังคม โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มอ่อนไหว ถูกกดทับ และเลือกปฏิบัติมาอย่างยาวนาน เช่น กลุ่มชาติพันธุ์, กลุ่มความหลากหลายทางเพศ, ผู้พิการ, ผู้มีความเชื่อทางด้านศาสนา ฯลฯ
พอตลกสังขาร, มุขล้อเลียน, เย้ยหยัน, ด้อยค่า, หยาบคาย, สัปดน ไม่เป็นที่ต้องการในตลาด คนทำก็ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ดราม่า ผู้สร้างจึงเลือกไม่ลงทุนกันหนังที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหา และฝังกลบหนังตลกหยาบโลนให้อยู่ในหลุมปิดตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
แต่ปี 2025 เหมือน ‘ผีความฮา’ จะลืมหลุม เมื่อกระแสตอบรับที่ดีเกิดคาดของหนังตลกสุดเรื้อนอย่าง The Naked Gun ฉบับรีบู๊ตของ เลียม นีสัน ที่รับบทเป็น แฟรงก์ เดรบิน จูเนียร์ ลูกของ แฟรงก์ เดรบิน บทตำรวจสุดคลาสสิกของตำนานผู้ล่วงลับอย่าง เลสลี นีลเซน ได้คืนชีพทั้งแฟรนไชส์ ปืนเปลือย และกระแสหนังตลก Non-PC (Non-Political Correctness) ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังห่างหายจากภาคสุดท้ายอย่าง Naked Gun 33 1/3: The Final Insult ไปนานถึง 31 ปี
เฉกเช่นเดียวกับราชาหนังตลกยุค 90 ถึง 2000 อย่าง อดัม แซนด์เลอร์ ที่กลับมาสานต่อหนังสร้างชื่อในปี 1996 เรื่อง Happy Gilmore ซึ่งในภาค 2 นี้ เล่าเรื่องหลังจากภาคแรก 29 ปี ที่ตัวละคร นักกอล์ฟขี้ยั้วคว้าเสื้อสามารถสีทอง และประสบความสำเร็จมากมายในเมเจอร์ทัวร์นาเมนต์ แต่ชีวิตของเขากลับติดหล่มเมื่อก่ออุบัติเหตุร้ายแรงทำให้ภรรยาเสียชีวิต เขาจึงกลายเป็นคนติดเหล้าอย่างหนัก และตอนที่กำลังจะสูญเสียทุกอย่างไป โอกาสในการกลับเข้าสู่วงการกอล์ฟก็ยื่นมือเข้ามาอีกครั้ง แต่เป็นมือพิการ (!?) ผู้ร้ายปากเหม็น (!?) และสารพัดความรุนแรง มุขตลกเรี่ยราดที่เป็นจิตวิญญาณของหนังภาคแรกกลับมาครบถ้วน ระเบิดความ Non-PC อย่างไม่บันยะบันยัง
แนวคิด Non-PC สวนทางกับ PC โดยสิ้นเชิง หลักคิดนี้ไม่สนใจ หรือให้ความสำคัญกับความอ่อนไหวของผู้อื่นจนเกินไป และมองว่าความเซนซีทีฟ หรือการกวดขันที่เข้มข้นนั้น ริดรอนเสรีภาพในการแสดงออก และความตลกขบขันไม่ควรมีกรอบหรือขอบเขตมาจำกัด
การกลับมามีอิทธิพลของแนวคิด Non-PC ในสื่อมีหลายปัจจัยประกอบกัน ส่วนหนึ่งคือการเติบโตของแนวคิดอนุรักษ์นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Conservative) กลุ่มที่ต่อต้านความ Woke หรือกลุ่ม Anit-Woke และผู้คนส่วนหนึ่งเริ่มมองว่า “วัฒนธรรม PC นั้นเข้มงวดจนเกินไป” จำกัดอิสระในการสร้างสรรค์ตามอย่างที่มันควรจะเป็น
รายได้และกระแสตอบรับที่ดีของหนังตลกเหล่านี้ อาจไม่ได้สะท้อนว่าผู้คน “หย่อนยานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม” แต่กลับชี้ให้เห็นว่า ในยุคที่ผู้คนระมัดระวังเรื่องความอ่อนไหว ผู้คนส่วนใหญ่ก็พร้อมใช้วิจารณญาณในการแยกแยะ ‘ความตลก’ ออกจากการใช้ ‘ความเกลียดชัง’ ทิ่มแทงผู้อื่นเพื่อความขบขัน
เรื่อง กิตติพัฒน์ กนกนาค