
22/05/2025
การเลือกทิศสร้างบ้านในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ แสงแดด ลม และฝน เพื่อให้บ้านอยู่สบาย ประหยัดพลังงาน และถูกสุขลักษณะ โดยทั่วไปแล้วทิศที่แนะนำมีดังนี้ครับ
ทิศที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับการหันหน้าบ้านหรือส่วนที่ใช้งานบ่อย:
ทิศเหนือ:
ข้อดี: เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดน้อยที่สุดตลอดทั้งปี ทำให้ผนังบ้านด้านนี้ไม่ร้อนอบอ้าว เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการความเย็นสบาย แสงที่ได้จะเป็นแสงธรรมชาติที่นุ่มนวล ไม่จ้าจนเกินไป
ข้อควรระวัง: อาจจะอับลมในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน (ประมาณเดือนมีนาคม - ตุลาคม) เพราะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดมาจากทางทิศใต้ แต่ในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) จะได้รับลมหนาวที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือได้บ้าง
ทิศใต้:
ข้อดี: เป็นทิศที่รับลมได้ดีมาก โดยเฉพาะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมประจำฤดูฝนและฤดูร้อน) ทำให้บ้านมีการระบายอากาศที่ดี ไม่ร้อนอบอ้าว แม้จะได้รับแดดค่อนข้างมากในช่วงกลางวัน แต่เป็นแดดที่เข้ามาในลักษณะเฉียงๆ ไม่ใช่แดดตรงๆ เหมือนทิศตะวันตก
ข้อควรระวัง: ต้องออกแบบให้มีชายคาหรือกันสาดยื่นยาวเพียงพอเพื่อป้องกันแดดและฝนสาดเข้ามาโดยตรง อาจต้องระวังเรื่องความชื้นและฝนในช่วงฤดูฝน
ทิศอื่นๆ และการจัดการพื้นที่:
ทิศตะวันออก:
ข้อดี: ได้รับแสงแดดยามเช้า ซึ่งเป็นแสงแดดที่ไม่ร้อนจัด ดีต่อสุขภาพ ช่วยฆ่าเชื้อโรคอ่อนๆ เหมาะสำหรับห้องนอน (ช่วยให้ตื่นเช้าอย่างสดชื่น) หรือห้องทานอาหาร
ข้อควรระวัง: ตั้งแต่ช่วงสายๆ ไปจนถึงเที่ยง แดดจะค่อนข้างแรง อาจต้องมีร่มเงาจากต้นไม้หรือการออกแบบที่ช่วยลดความร้อน
ทิศตะวันตก:
ข้อดี: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องการใช้งานในช่วงบ่ายบ่อยนัก เช่น ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ลานซักล้าง หรือครัวไทย (ที่ต้องการแสงแดดช่วยลดความอับชื้นและฆ่าเชื้อ)
ข้อควรระวัง: เป็นทิศที่รับแดดบ่ายเต็มๆ ซึ่งร้อนจัดที่สุด ทำให้ผนังด้านนี้สะสมความร้อนสูง ส่งผลให้บ้านร้อนอบอ้าวในช่วงเย็นและกลางคืน ควรหลีกเลี่ยงการวางห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นในทิศนี้ หากเลี่ยงไม่ได้ ควรออกแบบผนังให้หนา มีฉนวนกันความร้อน ใช้กระจกตัดแสง ติดตั้งกันสาด ระแนงบังแดด หรือปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา
สรุปคำแนะนำการวางตำแหน่งห้องต่างๆ ตามทิศ:
ห้องนอน: ทิศตะวันออก (รับแดดเช้า) หรือทิศเหนือ (เย็นสบาย)
ห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก: ทิศเหนือ (เย็นสบาย) หรือทิศใต้ (รับลมดี) หากเป็นทิศใต้ควรมีชายคากว้าง
ห้องทำงาน: ทิศเหนือหรือทิศตะวันออก เพื่อแสงสว่างที่เพียงพอแต่ไม่ร้อน
ห้องครัว/ห้องน้ำ/ส่วนซักล้าง: ทิศตะวันตกหรือทิศใต้ เพื่อให้แสงแดดช่วยลดความชื้นและฆ่าเชื้อโรค (แต่ทิศตะวันตกจะร้อนมาก ควรมีการระบายอากาศที่ดี)
ที่จอดรถ: สามารถอยู่ทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้เพื่อเป็นเกราะกำบังความร้อนให้ตัวบ้านได้
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
ลักษณะที่ดินและสิ่งแวดล้อม: เช่น รูปทรงที่ดิน ความลาดเอียง ทิศทางถนน อาคารข้างเคียง ต้นไม้ใหญ่ หรือแหล่งน้ำ ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางลมและแสงแดดที่เข้ามายังตัวบ้าน
การออกแบบสถาปัตยกรรม: สถาปนิกสามารถออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับทุกทิศได้ เช่น การใช้ชายคายื่นยาว การทำผนังสองชั้น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่กันความร้อน การออกแบบช่องเปิดรับลมและแสงอย่างเหมาะสม การจัดวางภูมิทัศน์เพื่อช่วยบังแดดและนำลม
ความเชื่อส่วนบุคคล: บางท่านอาจพิจารณาเรื่องฮวงจุ้ยร่วมด้วย ซึ่งเป็นอีกศาสตร์หนึ่งในการเลือกทิศ