
30/07/2025
“พระพิฆเนศ จากองค์เทพ สู่งานศิลปะที่คุณหลงรัก”
ในตอนนี้ เราก็ยังคงอยู่กับจักรวาลของ อาร์ตทอย “สายมู” ที่เหล่าศิลปินไทยรุ่นใหม่รังสรรค์ขึ้นมา และแน่นอนว่า หนึ่งในรูปเคารพที่ได้รับความนิยม และถูกตีความใหม่ในรูปแบบของ “อาร์ตทอย” ก็คือ องค์เทพฮินดูที่มีพระเศียรเป็นช้าง “พระพิฆเนศ” หรือที่ในสากลเรียกท่านว่า “กาเนชา” (Ganesha) นั่นเอง
สำหรับคนไทยแล้ว องค์พระพิฆเนศ นั้นถือเป็นเทพแห่งศิลปะ และภูมิปัญญา อีกทั้งยังเป็นเทพแห่งการเริ่มต้น และความสำเร็จ โดยทางศาสนาฮินดูนั้น องค์พระพิฆเนศ จะถูกบูชาก่อนเริ่มงานมงคลต่างๆ เพื่อให้การเริ่มต้นนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ ดังนั้นท่านจึงเป็นเทพที่เหล่าคนที่ทำงานสร้างสรรค์ งานดนตรี และการแสดง ให้ความเคารพนับถือ
แน่นอนว่าความเคารพนับถือพระพิฆเนศ ในบ้านเรานั้นจะมีความแตกต่างไปต้นฉบับในอินเดียไม่น้อย เพราะในทางอินเดียแล้ว เขามองว่าองค์พระพิฆเนศ คือ “เทพแห่งอุปสรรค” ใช่ครับเขียนไม่ผิด ท่านคือ เทพแห่งอุปสรรค ดังนั้นการบูชาท่านคือ ขอให้ท่านอย่านำอุปสรรคมาให้ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คือ เพี้ยนมาเป็น “ความสำเร็จ” นั่นเอง เรียกได้ว่าเรื่องราวของท่านนั้นมีสีสัน มีความสนุกสนานไม่น้อย
ด้วยความมีเอกลักษณ์ในด้านรูปลักษณ์ของท่าน แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เป็นคนสายมู แต่คนไทยจำนวนไม่น้อย รวมถึงตัวผู้เขียนเองก็มีความรู้สึกถึงความผูกพันกับรูปลักษณ์ของช้าง อาจจะเป็นเพราะว่าคนไทยเรานับถือช้างมาตั้งแต่ครั้งโบร่ำโบราณ การมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หรืองานศิลปะรูปช้างในบ้าน หรือในที่ทำงาน ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้อบอุ่นจิตใจ
ส่วนคนที่สงสัยว่า การนำรูปลักษณ์ขององค์เทพมาทำเป็น อาร์ตทอย ที่มีความร่วมสมัยแล้ว จะสามารถมีความศักดิ์สิทธิ์ได้เหมือนกับที่อยู่ในเทวสถานหรือไม่ ในความคิดของผู้เขียนนั้น มองงานอาร์ตทอยเหล่านี้ว่าเป็น ประติมากรรม ที่ช่วยให้เราสามารถสัมผัสหรือใกล้ชิดกับองค์เทพได้ไม่ต่างกัน แต่หากจะให้มี “ความขลัง” ก็คงจะต้องนำไปผ่านพิธีปลุกเสกเสียก่อน ซึ่งถ้าจะเปรียบกับคอมพิวเตอร์ก็คือ ต้องมีการลงโปรแกรม OS (Operating System) เสียก่อน ถึงจะทำงานได้ และถ้าปลุกเสกแล้ว ก็ต้องไม่มองท่านเป็นอาร์ตทอยอีกต่อไปแล้วนั่นเอง
ส่วนที่อาจจะมีคนถามว่า การนำองค์ท่านมาทำเป็นอาร์ตทอย จะเป็นการลบหลู่หรือไม่ก็อยากจะขอยกความคิดเห็นของ ผศ.คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์และคอลัมนิสต์ด้านศาสนา และปรัชญา ผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ถึงเรื่องนี้เมื่อปี 2567 ว่า “ในความคิดเห็นของอาจารย์แล้ว จะเห็นได้ว่าในประเทศไทย จะไม่มีอาร์ตทอย “พระพุทธเจ้า” หรือ “พระพุทธรูป” เพราะคนไทยมอง พระพิฆเนศเป็นเทพที่สร้างสรรค์ เป็นมิตร ปราศจากความโกรธ และองค์เทพนั้นก็เป็น เทพในศาสนาฮินดู ที่คนเพียงส่วนน้อยนับถือ อีกทั้งในตำราเองก็มีหลายปาง เปิดโอกาสให้มีการตีความได้หลากหลาย ศิลปินสามารถตีความได้ง่ายในรูปแบบศิลปะมากกว่าเทพองค์อื่นๆ”
สำหรับท่านที่อยากจะปลุกเสกและบูชา เค้าว่ากันว่า วันที่เหมาะสมสำหรับการบูชาก็คือ วันอังคาร และวันพฤหัสบดี โดยวันอังคารคือวันที่พระองค์เสด็จมายังโลกมนุษย์ ส่วนวันพฤหัสบดี คือวันครู เพื่อที่ได้รับพรในด้านการเรียนรู้และสติปัญญา โดยช่วงเวลาของการบูชาควรจะเป็นเวลาที่เงียบสงบ เช่นตอนเช้าตรู่ หรือก่อนนอน โดยของบูชานั้น ก็คือ น้ำสะอาด น้ำมะพร้าว นม กล้วยสุก ขนมหวาน โดยเฉพาะขนมโมทกะ ขนมอินเดียที่รูปลักษณ์สีสันสวยงาม นอกจากนั้นยังมี เครื่องเทศ ธัญพืช และเกลือ อีกด้วย
ดังนั้นในสัปดาห์นี้ ผู้เขียนก็ได้รวบรวมผลงานของศิลปินไทยบางส่วนที่ได้ สร้างสรรค์งาน “พระพิฆเนศ” เอาไว้ มาแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านได้ชื่นชม ส่วนใครชื่นชอบผลงานของศิลปินท่านใดก็ไปเสาะหามาสะสม ไม่ว่าจะในฐานะงานศิลปะสไตล์ป๊อปอาร์ต (Pop ART) หรือ จะนำมาบูชาก็ได้นะครับ
เรื่อง: ป๋าป้อง ประชายนตร์