17/10/2025
Perfect Days: ความงามของวันที่ (เหมือนจะ) น่าเบื่อ
เรื่องโดย วิม โมราห์วง
ผมกำลังพูดถึงหนังเรื่อง Perfect Day ที่ออกฉายปี 2023 ที่หลายๆคนคงได้ดูบน Netflix กันไปบ้างแล้ว
หลายๆสื่อพูดถึงหนังเรื่องนี้ หลายๆคนก็คงได้อ่านได้ดูรีวิวกันไปพอสมควร ผมเองก็ได้ดูแล้วครับแล้วก็รู้สึกเลยว่า บางครั้งหนังดี ๆ ไม่ได้พาเราไปผจญภัยในอวกาศหรือหักมุมอลังการ แต่กลับพาเราไปนั่งนิ่ง ๆ ดูใครสักคนทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน ไม่ทะเยอทะยาน ไม่ต้องตามหาความฝัน แล้วผมก็พบว่า…ผมไม่เบื่อ ไม่เหนื่อย ไม่มีการตัดภาพฉึบฉับ เร็วจนดูไม่ทัน ทุกซีนทุกเฟรมดูอ้อยอิ่ง สโลว์ไลฟ์ ชิลล์มากและผมก็นั่งดูต่อไปเรื่อยๆ…จนจบ
เรื่องนี้ได้สุดยอดผู้กำกับชาวเยอรมัน Wim Wenders (ชื่อเดียวกับผมเลยครับ!) มาเล่าเรื่องราวชีวิตของฮิรายามะ คนทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะในโตเกียว ช่างซ้ำซากและธรรมดาสุดๆ เขามีตารางชีวิตที่แทบไม่เปลี่ยน ตื่นเช้า รดน้ำต้นไม้ ฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ทเก่า ๆ ตอนขับรถไปทำงาน ก้มลงเช็ดโถสุขภัณฑ์ให้สะอาดที่สุด กลับบ้าน อ่านหนังสือ นอน แล้วก็เริ่มใหม่ในวันรุ่งขึ้น ทำแบบนี้เป็นกิจวัตรวนไปทุกๆวัน ถึงแม้ในแต่ละวันจะมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ มาเสริมมาเติมมาเซอร์ไพร้ส์บ้าง แต่ก็ดูเล็กน้อยและไม่กระทบกับระเบียบชีวิตของเขาสักเท่าไหร่ หรืออย่างน้อย เขาก็พยายามไม่ให้อะไรก็ตามมาป่วนระบบชีวิตของเขา ฮิรายามาะมีความสุขกับสิ่งธรรมดาๆนี้มาก น่าอิจฉานะครับ
Wim Wenders ชี้ให้เราเห็นว่า ความซ้ำซากนี่แหละคือความหมาย—ความสุขอยู่ตรงวิธีที่เรามอง ไม่ใช่ว่าเราทำอะไรพิเศษแค่ไหน เป็นแนวคิดที่สวนกระแสคลั่ง productivity ของชาติตะวันตกอย่างสุดโต่ง
(จนรู้สึกผิดเมื่อเราอยากจะอยู่เฉยๆบ้าง) หนังทั้งเรื่องคือการชวนให้เราลดสปีดลง ไม่ต้องเล่นใหญ่ ไม่ต้องตะโกน ถึงจะมีตัวตน เหมือนจงใจให้เรารู้สึกถึง “ลมหายใจ” ของวันปกติ ผ่านภาพต้นไม้ยามเช้า หนังสือที่อ่าน ความเงียบเวลานั่งกินข้าวคนเดียว ถ่ายรูปแสงเงาใต้ต้นไม้ไปพลางๆ เพลงที่ฟังตอนเช้าในแต่ละวัน ทั้งหมดคือการเฉลิมฉลองสิ่งเล็ก ๆ ที่เรามักมองข้าม แล้วก็เข้ามาสะกิดคนดูให้ถามตัวเองว่า Perfect Day ของเราล่ะคืออะไร
Perfect Days ไม่ใช่หนังที่เล่าแบบ “plot-driven” แต่เป็นหนังที่ใช้ ภาพ + เพลง + จังหวะการเล่าเรื่อง เป็นตัวแทนชีวิตแทบทั้งหมด ทางด้านภาพ Wim Wenders ใช้ภาพนิ่ง ๆ ยาว ๆ (long takes) มุมกล้องเรียบง่าย เน้นความงามของสิ่งธรรมดา เช่น แสงแดดยามเช้าส่องผ่านต้นไม้ เงาสะท้อนบนผิวน้ำ เส้นทางถนนที่ซ้ำทุกวัน เหมือนอยากให้คนดูได้มอง มองให้เห็นสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวเรา มันคือ visual poetry ในสไตล์ Wenders เลยครับ จับความเงียบ ความว่าง ความฝัน ที่อยู่ในชีวิต
เพลงใน mixtape ของฮิรายามะที่เขาฟังในรถระหว่างไปทำงานทุกๆเช้าครับที่ผมถูกใจเป็นพิเศษ เป็นเพลงในช่วงยุค 60s–80s ที่ตัว Wim Wenders เองเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ที่ตัวละครเอกฮิรายามะเลือกฟังเพลงเหล่านี้คงเป็นเพราะยังติดอยู่กับอดีต ยังนึกถึงชีวิตช่วงวัยรุ่นและความรักในเสียงดนตรี เพลงที่เขาเลือกในแต่ละเช้าคงมีเหตุผลซ่อนอยู่ลึกๆ ทีนี้เรามาดูกันครับว่า playlist ของฮิรายามะ มีอะไรบ้าง
The Animal - ‘The House of the Rising Sun’
The Velvet Underground - ‘Pale Blue Eyes’
Otis Redding - ‘(Sittin’ On) The Dock of the Bay’
Patti Smith - ‘Redondo Beach’
The Rolling Stones - ‘(Walkin’ Thru The) Sleepy City’
Lou Reed - ‘Pefect Day’
Sanchiko Kanenobu - ‘Aoi Sakana’
The Kinks - ‘Sunny Afternoon’
Maki Asakawa -‘The House of the Rising Sun’
Van Morrison - ‘Brown Eyed Girl’
Nina Simone - ‘Feeling Good’
Patrick Watson - ‘Perfect Day’ (Piano komorebi version)
ผมรู้สึกว่าเพลงในเรื่องนี้เหมือนเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เล่นคู่กันไปกับตัวเอก เพลงที่เขานั่งฟังทุกๆเช้าเป็นเหมือนเสียงในหัวที่จะบอกคนดูว่าวันนี้เขาตื่นมาด้วยความรู้สึกแบบไหน เพลงเหล่านี้มี sound ที่ให้ความรู้สึก nostalgia หรือ”การหวนนึกถึง” เสียงร้องที่เป็นธรรมชาติ ฟังสบายๆ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบแต่เป็นมนุษย์ เหล่านี้ผู้กำกับตั้งใจใส่ลงไปแบบไม่มั่วนะครับ
ในความเป็นจริง ชีวิตเราไม่ได้เป็นหนังอินดี้ที่สวยงาม ส่วนใหญ่เรามักอยากไล่ตามสิ่งใหญ่โตมากเกินไปอยากได้วันหยุดหรู ๆ ริมทะเล อยากให้ทุกวันตื่นเต้นใหม่ตลอดเวลา ทั้งที่จริง ๆ แล้วความสุขอาจจะซ่อนอยู่ใน routine ที่เรามีทุกวัน เช่น กาแฟตอนเช้าที่ทำเอง เพลงโปรดที่เปิดวนจนจำได้ทุกโน้ต เดินเล่นใต้เงาต้นไม้แถวบ้าน หรือแม้แต่การได้กลับมานั่งเงียบ ๆ กับตัวเอง มีความสุขกับสิ่งที่เราเลือกเอง เราจะเห็นได้ว่าฮิรายามะเป็นตัวละครที่มีภูมิหลังเป็นคนมีความรู้ มีการศึกษา และมีรสนิยมทางศิลปะ ดูจากชื่อหนังสือที่เขาอ่าน ดนตรีที่เขาฟัง บุคลิกภาพที่ถูกบ่มเพาะมาอย่างดี และด้วยอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวต เขาเลือกท่ีจะใช้ชีวิตในแบบนี้ ด้วยอาชีพนี้ เลือกจะทำทุกอย่างด้วยความใส่ใจ แม้จะเป็นการเช็ดโถส้วมก็ตาม
สุดท้ายแล้ว “perfect day” อาจไม่ใช่วันที่มีเหตุการณ์วิเศษ แต่คือวันที่เราสามารถอยู่กับมันได้อย่างเต็มใจ แล้วตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าพรุ่งนี้ผมจะเลือกฟังเพลงอะไรเป็นเพลงเริ่มต้นวันอันแสนธรรมดาๆ เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันครับ
#ความสุขในความธรรมดา #หยุดโลกเหงาไว้ตรงนี้