29/10/2025
มั่นใจแพ็กคู่! “ซุปเปอร์บอน-น้องโอ๋” โชว์ฟิต พร้อมออกล่าชัยไฟต์สำคัญศึก ONE 173 ที่ญี่ปุ่น
“ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) และ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) 2 นักสู้คนดังจากค่ายมวยซุปเปอร์บอน เทรนนิงแคมป์ อ้าแขนต้อนรับทีมงานสื่อมวลชน ร่วมอัปเดตความพร้อมล่าสุดผ่านกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ก่อนร่วมโชว์ผลงานในศึกยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ONE 173 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มคู่แรกเวลา 11.00 น.
เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนจับมือกันมาซ้อมโชว์ความฟิตให้สื่อมวลชนร่วมเก็บภาพอย่างจุใจ และให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนขึ้นสังเวียนในศึกเดียวกันนี้
โดย “ซุปเปอร์บอน” เตรียมบุกไปป้องกันแชมป์นอกบ้านครั้งที่ 3 ใน ONE ดวลกับผู้ท้าชิง “มาซาอากิ โนอิริ” แชมป์โลกเฉพาะกาลขวัญใจเจ้าถิ่น เพื่อหาผู้ชนะขึ้นครองบัลลังก์เพียงหนึ่งเดียว และ “น้องโอ๋” ท้าชนเดือดกับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ว่างอยู่
ด้าน “ซุปเปอร์บอน” เผยว่าตอนนี้ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนชกทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี พร้อมเตรียมนำข้อมูลจากไฟต์ที่ “มาซาอากิ” เอาชนะ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ในศึก ONE 172 มาปรับใช้ เพื่อทำผลงานให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด
“ตอนนี้ร่างกายผมพร้อมอยู่ในช่วงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนเรื่องปรับตัวชกที่ญี่ปุ่นไม่มีปัญหา เพราะก่อนมา ONE ผมชกต่างประเทศบ่อยอยู่แล้ว ทำให้ปรับตัวได้ดีทั้งเรื่องสภาพอากาศและอาหารการกิน”
“ผมมองว่าที่ ตะวันฉาย แพ้เกิดจากความผิดพลาดบางอย่างของตัวเอง ไม่ได้เกิดจากทาง มาซาอากิ ที่เก่งขึ้น ผมมองว่าเขาชกมา 3-4 ไฟต์ก็ฟอร์มเดิมตลอด ไฟต์นี้ผมแค่ต้องเตรียมตัวไปให้พร้อม ไม่สร้างความผิดพลาด หรือประมาทเขาเท่านั้น ส่วนที่เขาบอกว่าจะชนะผมเป็นรายต่อไป ผมคิดว่าเขาคงแค่ฝันไปครับ”
นอกจากนี้ “ซุปเปอร์บอน” ยังได้ย้ำว่าไฟต์นี้มีความหมายกับตนอย่างมาก เพราะหากพลาดเสียเข็มขัดเส้นนี้ให้กับ “มาซาอากิ” คงยากที่จะกลับไปยืนในจุดสูงสุดได้อีก โดยเตรียมวางแผนเปิดเกมบุกเต็มที่เพื่อกุมความได้เปรียบเหนือผู้ท้าชิงจอมแสบ
“จุดเด่นของ มาซาอากิ คือความอดทน เขาชนะ ตะวันฉาย มาได้ก็ด้วยสิ่งนี้ ซึ่งในวันนั้น 2 ยกแรกเขาค่อนข้างรับอาวุธเยอะมาก แล้วรอแค่จังหวะเดียวที่จะปิดเกมได้ ดังนั้นผมต้องออกอาวุธเรื่อย ๆ ตลอดทั้ง 5 ยก ไม่ปล่อยให้เขาได้ตอบโต้ และถ้ามีจังหวะปิดเกมก็จะทำให้ได้”
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากชนะน็อก ยิ่งช่วงหลังผมฟอร์มไม่ค่อยดี จึงอยากปิดเกมสวย ๆ คิดว่ายังไงต้องเอาชนะแบบไม่ครบยกให้ได้ เพราะไฟต์นี้แทบจะสำคัญมากที่สุดแล้ว ถ้าเกิดผมเสียแชมป์ไป คงยากที่จะกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกครั้งครับ”
ขณะที่ “น้องโอ๋” ยืนยันตอนนี้สภาพร่างกายสมบูรณ์พร้อมขึ้นสังเวียนไปแลกเดือดกับ “รถถัง” แบบสุดความสามารถชนิดไม่สนเสียงวิจารณ์ที่ถูกมองว่าเป็นรอง เพื่อนำเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย กลับมาพาดบ่าอีกครั้ง
“ไฟต์นี้ผมเก็บตัวฟิตซ้อมนาน 2 เดือน ร่างกายฟิตเต็มร้อย เหลือแค่รอวันชกเท่านั้น ตอนนี้น้ำหนักเกินอยู่ราว 5 กก. ซึ่งถือว่าไม่เยอะ เพราะไฟต์นี้ชกเวตนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ทำให้ร่างกายเริ่มอยู่ตัว ไม่มีอะไรน่ากังวล”
“ผมนำเอาเสียงวิจารณ์ที่บอกว่าไม่สดเหมือนตอนเด็ก ๆ มาใช้เป็นแรงผลักดัน ปรับตัวซ้อมให้หนัก แก้ทางคู่ชกให้ดีขึ้น ตอนทำร่างกายแรก ๆ เหนื่อยมากจนเกือบซ้อมไม่ไหว แต่เมื่อปรับตัวได้ก็ดีขึ้น ร่างกายดีขึ้นกว่าเดิมมากครับ”
“ผมรู้จัก รถถัง มานานหลายปี ศึกษาการชกมาตลอด เขาเป็นมวยที่เก่งทุกด้าน จุดอ่อนของเขาแทบไม่มี ผมต้องเตรียมแผนไปสู้บนเวทีให้ดี คอยดูว่าเขาจะมาสู้ในรูปแบบไหน ถ้าเขาบุกผมพร้อมสวนกลับอยู่แล้ว”
“ผมกับ รถถัง ความเป็นพี่เป็นน้องเรายังเหมือนเดิม แต่ขอพักเรื่องนี้ไว้ทีหลัง เมื่อขึ้นไปบนเวทีต้องสู้กันเต็มที่ หลังจากรู้ผลแพ้ชนะ ค่อยกลับมาเป็นพี่น้องกัน ผมจะทำหน้าที่ให้เต็มที่เพื่อคว้าเข็มขัดแชมป์มาครองให้ได้ครับ”
แฟนกีฬาสามารถซื้อบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง ONEFC.com/one173/ และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH