BOOMCHANNEL 'Culture that Muvs You'
Creative Entertainment & Pop Culture
ติดต่อโฆษณา: [email protected]

'บูมแชนแนล' คือ สื่อบันเทิงออนไลน์ ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ชม มีครบทุกเนื้อหาเพื่อเติมเต็มความสนุก แรงบันดาลใจ และไลฟ์สไตล์ ด้วย 4 ประเภทเนื้อหา ได้แก่ วิดีโอ , รายการออนไลน์ , ออริจินัล คอนเทนต์ , บทความบนเว็บไซต์ และพอดแคสต์ โดยสามารถติดตามได้จากทุกช่องทางออนไลน์ ทุกที่ ทุกเวลา

ติดต่อเราโดยตรงได้ที่ อีเมล : [email protected]

'ผีใช้ได้ค่ะ A Useful Ghost' ได้รับเลือกเป็นตัวแทน 'หนังไทย' เข้าชิง 'ออสการ์ ครั้งที่ 98'นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน ...
04/09/2025

'ผีใช้ได้ค่ะ A Useful Ghost' ได้รับเลือก
เป็นตัวแทน 'หนังไทย' เข้าชิง 'ออสการ์ ครั้งที่ 98'
นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน 2568 ที่แฟนหนังชาวไทยได้รู้จักกับภาพยนตร์เรื่อง 'ผีใช้ได้ค่ะ' หรือ 'A Useful Ghost' ผลงานของผู้กำกับชาวไทยอย่าง อุ้ย-รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค ที่ได้รับเลือกให้เข้าประกวดในสาย 'Critics' Week' ของ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 78 ซึ่งเป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบ 10 ปีที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วม จนต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2568 ก็สามารถคว้ารางวัล 'AMI Paris Grand Prize' มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นรางวัลสูงสุดของสายการประกวดนี้ก็ว่าได้ ถือเป็นอีกก้าวความสำเร็จหนึ่งของหนังไทยในสายตาผู้ชมชาวโลก
พฤษภาคม ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาที่ ผีใช้ได้ค่ะ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ แต่ยังเป็นช่วงเวลาครั้งแรกในโลกที่หนังเรื่องนี้ได้ฉายรอบปฐมทัศน์โลก (World Premiere) ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 78 ประเทศฝรั่งเศสด้วย โดยทันทีที่หนังฉายจบลงก็ได้เสียงปรบมือจากผู้ชม (Standing Ovation) อย่างต่อเนื่องยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นการการันตีถึงคุณภาพให้ผู้ชมชาวไทยรอคอย ก่อนที่จะมีการเข้ามาฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนสิงหาคม
📍 เรื่องย่อ ผีใช้ได้ค่ะ A Useful Ghost
ในช่วงที่ภาวะฝุ่นควันเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้คน ทำให้เกิดมลภาวะที่เป็นพิษ ส่งผลให้ 'แนท' (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน) ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้จนทำให้เธอต้องเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ 'มาร์ช' (โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์) เศร้าโศกเสียใจกับการต้องสูญเสียคนรักอย่างแนทไป แต่แล้ววันหนึ่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อวิญญาณของแนทกลับคืนมา และเข้าไปสิงยังเครื่องดูดฝุ่น มาร์ชดีใจมาก ถึงแม้ภรรยาจะกลับมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิมก็ตาม ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันแบบมนุษย์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าครอบครัวของมาร์ชรับไม่ได้ที่คนกับผีจะรักกัน แถมยังเป็นผีเครื่องดูดฝุ่นด้วย ซึ่งในระหว่างนั้นเองก็มีวิญญาณของผีร้ายเข้ามาวนเวียนอยู่ในโรงงานที่บ้านของมาร์ช แนทจึงเสนอตัวรับหน้าที่เป็นผู้กำจัดผีร้ายเอง เพื่อหวังว่าหากทำสำเร็จ จะได้การยอมรับจากครอบครัวในฐานะ 'ผีใช้ได้ค่ะ' และเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ความรักของแนทที่มีต่อมาร์ชนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
📍 ผีใช้ได้ค่ะ เป็นตัวแทน 'หนังไทย' เข้าชิง 'ออสการ์'
ช่วงก่อนที่ผีใช้ได้ค่ะจะเข้าฉายในบ้านเรา ทาง 'สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ' ได้ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมว่า ทางสมาพันธ์ฯ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคัดเลือกภาพยนตร์ไทยเป็นตัวแทนเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 98 ในสาขา ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (Best Internation Feature Film) โดยได้ทำการคัดเลือกจากกว่า 57 เรื่อง จนในที่สุด ผีใช้ได้ค่ะ ก็ได้เป็นตัวแทนหนังไทยประจำปีนี้เข้าไปชิงรางวัลในระดับนานาชาติ
สำหรับคุณสมบัติของหนังที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงในสาขานี้นั้น จะต้องเป็นหนังที่ผลิตนอกสหรัฐอเมริกา มีความยาวมากกว่า 40 นาที โดยจัดฉายในโรงภาพยนตร์เชิงพานิชย์ติดต่อกันอย่างน้อย 7 วัน ต้องเป็นหนังที่ออกฉายครั้งแรกระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 30 กันยายน 2568 และต้องมีบทสนทนาที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก หรือมากกว่า 50% อีกทั้ง ผลงานแอนิเมชันและสารคดีก็สามารถส่งเข้าชิงในสาขานี้ได้เช่นกัน ซึ่งผีใช้ได้ค่ะก็เป็นหนังทีมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน มีความเป็นเอกลักษณ์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความแปลกใหม่ เนื้อหาที่สร้างสรรค์และลึกซึ้ง สร้างความประทับใจกับนักวิจารณ์และผู้ชมในระดับนานาชาติ จากการที่ได้ปรากฏต่อสายตาผู้ชมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 78 ที่ผ่านมา จึงถือเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถเป็นตัวแทนของหนังไทยบนเวทีประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกได้เป็นอย่างดี
📍 เสียงจากผู้ชมสะท้อน แม้เป็นหนังเฉพาะกลุ่มแต่ยังดูง่าย
ณ ตอนที่กำลังเขียนโพสต์นี้อยู่ ต้องยอมรับว่ายังไม่มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แบบเต็ม ๆ ในโรงฯ แต่ก็ได้แวบไปอ่านความเห็นและรีวิวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควร ซึ่งความเห็นจากผู้ชมบางส่วนบอกว่า แม้จะเป็นอะไรใหม่ ๆ เป็นความบันเทิงขนบใหม่ ๆ ในแบบที่แวดวงภาพยนตร์ไทยไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ดูจะเป็นหนังที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม มีความจัดจ้าน มีความเป็นศิลปะ แต่ก็แปลกที่หนังเรื่องนี้ยังดูง่ายเสพง่ายอยู่
ส่วนผู้ชมที่เขียนรีวิวถึงเรื่องนี้ไว้ในกระทู้ได้เตือนว่า หากใครที่ชอบการดำเนินเรื่องแบบหวือหวาน่าจะไม่ปลื้มผีใช้ได้ค่ะสักเท่าไหร่ เพราะเส้นเรื่องจะดำเนินไปแบบช้า ๆ เนิบ ๆ ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาที่รีวิวไว้โดยสื่อต่าง ๆ ว่า สไตล์ของหนังก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก มีการวางเทียบเอาไว้ว่าอยู่กึ่งกลางระหว่างงานของ 'เต๋อ นวพล' ในแง่ของความร่วมสมัยและบทสนทนา และ 'เจ้ย อภิชาติพงศ์' ในแง่ของความเป็นศิลปะและความเหนือจริง โดยถ้าใครที่ดูจนจบก็จะพบว่ามีการดำเนินเรื่องที่ผสมผสานอยู่ค่อนข้างหลายมิติ ตั้งแต่ความตลกร้าย, ดราม่า, โรแมนติกแปลกประหลาด ไปจนถึงฉากที่มีอารมณ์รุนแรง ทำให้ผู้ชมเหมือนถูกกระชากอารมณ์ไปมาและคาดเดาไม่ได้ ว่ากันว่าในหนังเรื่องเดียวนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 เส้นเรื่องอย่างชัดเจนทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง
ผีใช้ได้ค่ะไม่ได้เล่าแค่เรื่องราวความรักที่ค่อนข้างจะโรแมนติกแต่แปลกเท่านั้น แต่ประเด็นที่อยู่รายล้อมตัวละครทั้งแนทและมาร์ชนี้ก็มีแก่นของการเสียดสีสังคมและการเมืองอย่างเข้มข้นอยู่ มีการสอดแทรกสัญญะและอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์การเมืองไทยในช่วงเวลาหนึ่งเข้ากับเส้นเรื่องด้วย ซึ่งหลายเสียงของคนดูต่างชื่นชมถึงความกล้าหาญที่กล้าเล่ากล้าเล่น แถมยังทำงานได้ดีกับคนดูที่ต่างถกเถียงและตีความสัญญะต่าง ๆ ในหนังกันอย่างมากมาย บ้างก็ว่า บางส่วนของหนังมีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์เรื่อง 'Poor Things' ในมุมของการใช้ศิลปะและสัญญะมาสะท้อนประเด็นหนัก ๆ ทางสังคม
ในพาร์ตของนักแสดงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพราะการมารับบทแนทของใหม่ ดาวิกาในครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องท้าทายและได้รับเสียงชื่นชมจากแฟน ๆ ไปไม่น้อย ส่วนนักแสดงสมทบอย่าง อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน ก็ถูก Mention ถึงด้วยเช่นกัน ว่าการแสดงของเธอได้เพิ่มมิติให้กับตัวละครได้แบบน่าสนใจ
หลังจากที่ ผีใช้ได้ค่ะ A Useful Ghost เข้าฉายไปแล้ว 8 วัน ความคิดเห็นและการรีวิวเหล่านี้ก็เป็นเครื่องการันตีได้ดีถึงคุณภาพ ที่อาจถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่งในแง่ของการสร้างบทสนทนาและกระตุ้นความคิดของผู้ชม แล้วอะไรถึงจะไม่เหมาะล่ะ ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกรับเลือกให้เป็นตัวแทนหนังไทยไปชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 98 ต่อจากนี้ก็ต้องมาร่วมด้วยช่วยกันเชียร์และสนับสนุนหนังไทยให้เดินทางออกไปไกลยิ่งกว่าเดิมเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเป็นพลังให้ในอนาคตเรามีโอกาสได้เห็นและอาจได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาอุตสาหกรรมหนังไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกต่อไป
ส่วนผีใช้ได้ค่ะ ก็ไปติดตามชมกันได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
อ่านเรื่องนี้บนเว็บไซต์
https://www.boomchannelnow.com/cine/a-useful-ghost-has-been-selected-as-thailands-official-submission-for-the-98th-academy-awards/
เรื่อง : วีรศักดิ์ พันพยัคฆ์

----
#ผีใช้ได้ค่ะ

#หนังรักในโลกฟัคอัพ




#บูมแชนแนล

ย้อนรอย 'Swing Dance'การเดินทางของความสุขและความทรงจำที่เชื่อมโยงคนทุกยุคเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ได...
28/08/2025

ย้อนรอย 'Swing Dance'
การเดินทางของความสุขและความทรงจำที่เชื่อมโยงคนทุกยุค
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน 'STEP INTO SWING 2' ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลําโพง) โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ Jelly Roll Jazz Club เปลี่ยนสถานีรถไฟให้เป็นฟลอร์เต้นสวิงในธีม Step into Swing ซึ่งภายในงานมีการเเสดงดนตรีสดจากวงแจ๊ซชั้นนำระดับโลก พร้อมกับโชว์สุดพิเศษอีกมากมายที่ชวนให้ทุกคนได้มาสนุกเพลิดเพลินไปกับความร่วมสมัย และความงดงามของสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่มีประวัติคู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
การเต้นสวิงไม่ได้เป็นเพียงศิลปะการเต้นรำย้อนยุคที่สวยงาม แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังจังหวะที่สนุกสนานนั้น ซ่อนเรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่านั้นเอาไว้มาก โดย Swing Dance ไม่ได้เป็นแค่การเต้นรำ แต่มันคือการเดินทางข้ามกาลเวลาที่เชื่อมโยงผู้คนต่างวัยและต่างยุคเข้าไว้ด้วยกันอย่างน่าอัศจรรย์
ย้อนกลับไปในยุค 1920s ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Swing Dance ในยุคที่ดนตรีแจ๊ซ คือเครื่องมือสำคัญที่ใช้ปลดปล่อยอารมณ์และแสดงออกถึงอิสรภาพในสังคมที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด มาผสานกับการเต้นหลากหลายสไตล์ กิจกรรมนี้ได้สร้างพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาเต้นรำด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน คนผิวขาวหรือผิวสี มาเป็นคู่หรือมาคนเดียว ฟลอร์เต้นรำแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่หลอมรวมผู้คนเข้าไว้ด้วยกันผ่านภาษาสากล อย่าง ดนตรี และ จังหวะ
เมื่อความนิยมของ Swing Dance ซบเซาลงไปตามกาลเวลา หลายคนคิดว่ามันจะเลือนหายไป แต่ในช่วงปลายยุค 80s และ 90s ได้เกิดปรากฏการณ์ "Swing Revival" ที่น่าสนใจ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในดนตรีแจ๊ซและวัฒนธรรมวินเทจได้ฟื้นฟูการเต้นนี้ขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาไม่เพียงแค่เรียนรู้ท่าเต้น แต่ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และคุณค่าที่แท้จริงที่สวิงแดนซ์เคยมี
ในวันนี้ เราจะเห็นคนรุ่นคุณตาคุณยายที่เคยเต้นสวิงในอดีต มาเต้นกับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Swing Dance ไม่ใช่แค่การเต้นตามจังหวะ แต่คือการสื่อสารข้ามรุ่น ไม่ว่าจะเป็นจังหวะไหน ๆ ทุกก้าว ทุกการสัมผัส ล้วนเป็นบทสนทนาที่ไม่มีคำพูด เป็นการแลกเปลี่ยนความสุขและประสบการณ์ที่งดงาม
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน การเต้นสวิงยังคงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมผู้คนเข้าหากัน ไม่ใช่แค่การสร้างมิตรภาพระหว่างนักเต้น แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงตัวเราเข้ากับประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความสุขที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม Swing Dance จึงเป็นมากกว่าแค่การเต้นรำ เพราะมันคือการเดินทางของความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุด
อ่านเรื่องนี้บนเว็บไซต์
https://www.boomchannelnow.com/happening/swing-dance-tracing-the-journey-of-joy-and-memories-that-unites-generations/
เรื่อง/ภาพ : ศุภกฤต โพธิ์วรสุนทร

----

#สวิงแดนซ์
#ดนตรีแจ๊ซ

#หัวลำโพง
#สถานีรถไฟกรุงเทพ
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#กรุงเทพมหานคร


#บูมแชนแนล

ลองจินตนาการดูว่า บ้านของคุณไม่ได้เป็นที่พักใจ แต่เป็นเวทีแห่งเกมอำนาจ การหักหลัง และความสัมพันธ์ที่ต้องห้าม อ่าน ๆ แล้ว...
13/07/2025

ลองจินตนาการดูว่า บ้านของคุณไม่ได้เป็นที่พักใจ แต่เป็นเวทีแห่งเกมอำนาจ การหักหลัง และความสัมพันธ์ที่ต้องห้าม อ่าน ๆ แล้วก็ดูเหมือนซีรีส์ดาร์ก ๆ ใน Netflix ใช่ไหม? แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์
ยินดีต้อนรับสู่โลกของ 'ตระกูลบอร์เจีย' ครอบครัวที่คนยุโรปในยุคเรอเนสซองส์ขนานนามว่า "บ้านแห่งพิษ ความตาย และบาป" และเชื่อไหม… เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แต่มันยังพาเราไปเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ 'จิตใจคน' ได้ลึกกว่าที่คิด ...

เมื่อครอบครัวไม่ใช่ Safe Zone
ส่องจิตวิทยาในเงามืดของ 'ตระกูลบอร์เจีย'
เมื่อความรักที่เกินขอบเขตอาจกลายเป็นกับดัก
ลองจินตนาการดูว่า บ้านของคุณไม่ได้เป็นที่พักใจ แต่เป็นเวทีแห่งเกมอำนาจ การหักหลัง และความสัมพันธ์ที่ต้องห้าม อ่าน ๆ แล้วก็ดูเหมือนซีรีส์ดาร์ก ๆ ใน Netflix ใช่ไหม? แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์
ยินดีต้อนรับสู่โลกของ 'ตระกูลบอร์เจีย' ครอบครัวที่คนยุโรปในยุคเรอเนสซองส์ขนานนามว่า "บ้านแห่งพิษ ความตาย และบาป" และเชื่อไหม… เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แต่มันยังพาเราไปเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ 'จิตใจคน' ได้ลึกกว่าที่คิด
◼️ อำนาจเปลี่ยนคนได้จริงหรือ ?
หนึ่งในตัวละครหลักของตระกูลนี้คือ Cesare Borgia (เซซาเรย์ บอร์เจีย) ลูกชายของสมเด็จพระสันตะปาปา เขาเป็นคนที่ฉลาด มีเสน่ห์ และโหดเหี้ยมแบบเลือดเย็น หลายคนมองว่าเขาคือ "ผู้นำที่โลกต้องจำ" แต่อีกหลายคนก็บอกว่าเขา "น่ากลัวเหมือนปีศาจที่ใส่หน้ากากมนุษย์"
นักจิตวิทยาบอกว่า คนที่หมกมุ่นกับอำนาจแบบสุดขั้วมักมีแนวโน้มพัฒนาไปในทาง บุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคม (ASPD) โดยจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน เช่น มองคนอื่นเป็นแค่หมากในกระดาน, รู้สึกเฉย ๆ กับการฆ่าหรือหักหลัง, ไม่รู้จักคำว่า "สำนึกผิด"
เซซาเรย์ อาจไม่ต่างจากตัวละครในเกมที่ต้องชนะ ไม่ว่าจะต้องเหยียบหัวหรือเหยียบย่ำใครก็ตาม และนั่นแหละคือ "พลังของอำนาจ" เมื่อมันอยู่ในมือคนที่ไม่มีเบรก
◼️ ครอบครัวแบบนี้ก็มีด้วย
ในขณะที่หลายคนมองว่าครอบครัวควรเป็นที่พึ่ง แต่ตระกูลบอร์เจียกลับถูกเล่าว่า "ฆ่ากันเอง" และมีข่าวลือว่า พ่อกับลูกสาวอาจมีความสัมพันธ์ลึกเกินพ่อ-ลูก
นักจิตวิทยาครอบครัวเรียกสิ่งนี้ว่า "Enmeshed Family" คือครอบครัวที่ พรมแดนอารมณ์เลือนราง จนแยกไม่ออกว่าใครคือพ่อ ใครคือลูก ใครเป็นตัวของตัวเองกันแน่ ในเคสของบอร์เจีย ทุกคนถูกพ่อแม่ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น ยกลูกสาวให้แต่งงานกับคนโน้นคนนี้เพื่อแลกกับอำนาจ และสั่งฆ่าลูกชายอีกคนเพราะ "เป็นภัยต่อเกมใหญ่"
นี่ไม่ใช่เรื่องของ "ความรัก" แล้ว แต่มันคือ "ความควบคุม" ในรูปแบบที่แฝงไปด้วยอารมณ์ สลับกับคำว่า "ทำเพื่อครอบครัว" ที่บิดเบี้ยวสุด ๆ
◼️ ความสัมพันธ์ที่ไร้เบรก = ปัญหาที่ไม่มีใครบอก
ถ้าเอาเรื่องที่กำลังเล่ามาเทียบกับโลกสมัยนี้ เราอาจไม่ได้เห็นการฆ่ากันหรือการแต่งงานทางการเมือง แต่เรากลับเห็นอยู่บ่อย ๆ ว่า พ่อแม่บางคนควบคุมลูกทุกอย่าง, ความรักบางความสัมพันธ์นั้นแฝงความเป็นเจ้าของแบบสุดโต่ง หรือแม้แต่ในโลกโซเชียล บางคน "เล่นบทเหยื่อ" เพื่อให้ได้ในสิ่งที่อยากได้ ทั้งหมดนี้คือผลจากความสัมพันธ์ที่ไม่ Healthy และการขาดขอบเขตในจิตใจ (Boundaries)
◼️ แล้วเราควรเรียนรู้อะไรจากบอร์เจีย?
แม้ว่าเรื่องราวของตระกูลนี้จะผ่านมาหลายร้อยปี แต่สิ่งที่ยังมีอยู่ในโลกใบนี้คือ "จิตใจของมนุษย์" ที่เปราะบางได้เสมอ เมื่ออำนาจ ความรัก หรือความกลัว เข้ามาครอบงำ สิ่งที่เราควรได้จากเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ความดราม่า แต่มันคือบทเรียนว่า "ความรักที่ไม่มีขอบเขต อาจไม่ใช่ความรัก แต่เป็นกับดัก"
◼️ และเมื่อม่านในบ้านถูกเปิดออก...
บางที เรื่องของ ตระกูลบอร์เจีย ก็ไม่ได้ห่างจากเราขนาดนั้น เพราะ "ครอบครัว" ที่ควรเป็นที่ปลอดภัยที่สุดในชีวิต บางครั้ง... ก็กลับกลายเป็นสนามประลองที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ความเงียบ การควบคุม และคำว่า "รัก" ที่แปลไม่ออก และนี่คือสิ่งที่ "พับพวงยาว แฟมิลี" ละครเวทีเรื่องใหม่จาก บูม ซี แอนด์ เอ็ม กำลังจะฉายภาพให้ทุกคนได้เห็น
ในโลกของบอร์เจีย เราเห็นพ่อแม่ที่ใช้ลูกเป็นเครื่องมือ ในโลกของเรา เราอาจเคยเป็นลูกที่รู้สึกว่า ชีวิตตัวเองไม่ได้อยู่ในมือเราเลย ไม่ว่าคุณจะเคยแสดงบทลูกคนดี พี่คนรับผิดชอบ หรือคนที่เงียบเพราะไม่มีใครฟัง ละครเวทีเรื่องนี้จึงอยากชวนคุณมาถามตัวเองว่า
"ครอบครัวเราเป็นเวทีแบบไหน?"
"และเรายังอยากเล่นบทเดิมไปตลอดชีวิตจริงไหม?"
◼️ จากบอร์เจีย... สู่ พับพวงยาว แฟมิลี
เราหยิบเอาความโหดร้ายของบอร์เจียมาเป็นกระจกสะท้อน เพื่อให้เห็นว่า "เกมอำนาจในครอบครัว" มันอาจไม่ได้อยู่แค่ในพระราชวัง หรือในวาติกัน แต่อยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่คุณกำลังอยู่ด้วยตอนนี้
พับพวงยาว แฟมิลี ไม่ได้แค่เล่าเรื่องครอบครัว แต่เรากำลังพับความรู้สึกที่เคยถูกเก็บซ่อนไว้ให้กลายเป็นคำพูด ท่าทาง และการแสดง… ที่ไม่ใช่แค่ให้ใครดู แต่ให้ตัวเราเองเข้าใจมันด้วย
ละครเวทีเรื่อง พับพวงยาว แฟมิลี เป็นละครเวทีแนวสืบสวน สอบสวน เนื้อเรื่องเข้มข้น ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งลงไปในจุดที่มืดที่สุดของตระกูลเก่าแก่แห่งนี้ ที่มีคุณหญิงย่าและหลาน ๆ สุดแสนจะน่ารัก พร้อมทั้งยังมีคุณหญิงแม่ที่คอยดูแลลูก ๆ อยู่ไม่ห่าง
📍 ยังเหลืออีก 1 รอบการแสดง
13 กรกฎาคม 2568 รอบ 19.00 น.
ณ Play Spce Cafe ถนนเจริญเมือง หลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม FB : BOOM C&M
ซื้อบัตรเข้าชมได้ทาง https://m.me/boomcnm/
เรื่อง : ฐิติพร สัตตะเจริญ

----

#เซซาเรย์บอร์เจีย
#พรมแดนอารมณ์เลือนราง

#ครอบครัวบอร์เจีย
#ตระกูลบอร์เจีย


#ครอบครัว
#ความรัก
#จิตวิทยาครอบครัว
#จิตวิทยา
#พับพวงยาวแฟมิลี






'พับพวงยาว แฟมิลี' ละครเวทีเนื้อเรื่องสุดซับซ้อน เหตุการณ์ที่หลากหลาย แต่กลับรวมกันได้กลมกล่อมเปิดแสดง 12 - 13 กรกฎาคม ร...
11/07/2025

'พับพวงยาว แฟมิลี' ละครเวทีเนื้อเรื่องสุดซับซ้อน
เหตุการณ์ที่หลากหลาย แต่กลับรวมกันได้กลมกล่อม
เปิดแสดง 12 - 13 กรกฎาคม รอบ 1 ทุ่มตรง
หากจะนับจากละครเวทีเรื่องที่แล้วอย่าง 'KIN-PIE' ก็เป็นเวลา 2 ปีนิด ๆ ที่ 'บูม ซี แอนด์ เอ็ม' และ 'โซเชียลแอ็ก' ห่างหายจากการถ่ายทอดเรื่องราวเพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมและซึมซับความรู้สึกต่าง ๆ ไปกับตัวละครบนพื้นแสดงที่แตกต่างกันไป จนมาถึงศักราชนี้น่าจะเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีที่พวกเขาได้กลับมาทำสิ่งนี้อีกครั้ง ด้วยท่าทาง เงื่อนไข และความท้าทายที่มีมากกว่าเดิม กับผลงานละครเวทีเรื่องใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า 'พับพวงยาว แฟมิลี'
ซึ่งเชื่อแน่ว่าหากใครที่ซื้อตั๋วเข้ามาชมในรอบการแสดงจริง นั่นก็คือวันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 ที่กำลังจะถึงนี้ต้องประทับใจ และการันตีได้เลยว่า ละครเวทีเรื่องนี้มาพร้อมกับวิธีการนำเสนอที่ให้ความรู้สึกใหม่ ๆ และหาชมไม่ได้จากพื้นที่หรือโรงละครไหน ๆ ในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
📍 พับพวงยาว แฟมิลี จากละครเวที 'ดราม่า' สู่ 'คอเมดี' สุดพลัง
พับพวงยาว แฟมิลี เป็นละครเวทีโรงเล็ก เป็นลักษณะของละครเวทีเร่ในสไตล์ 'Whodunit' แนว Suspect / Comedy ที่จะพาผู้ชมมาสัมผัสกับความใกล้ชิดของเหล่าตัวละครขณะที่เส้นเรื่องและเหตุการณ์กำลังดำเนินไป และตามหากันว่าใครที่เป็น 'ผู้ร้ายตัวจริง' เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ มิกกี้-วรลภย์ พิทยุทัยวรรณ ผู้เคยฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ในละครเวทีเรื่องก่อนหน้า อย่าง BETWEEN US ระหว่างเรา..ตอนนั้น และ KIN-PIE นำแสดงโดย ต้น-นิพนธ์ วิทยาวินัย, โบ๊ท-ธนชัย ซุย, ญาญ่า-พีรธัช บุญมา, มิกกี้-วรลภย์ พิทยุทัยวรรณ, มิว-พัชรพฤกษ์ วัฒนา, เก่ง-ฐิติพร สัตตะเจริญ, ทอง-พิทยาทร แก้วทอง, ไอซ์-พาขวัญ อาภาภิรม, กร-รตน ภาพันธ์ุ, ไนท์-นนทชัย ม่วงปัด, พี-พีรวัฒน์ หาใหญ่ และ ซัน-ร้อยพินิจ ควนสิริ
พับพวงยาว แฟมิลี บอกเล่าเรื่องราวของ "ท่านหญิงย่า" แห่ง "ตระกูลพับพวงยาว" ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา ทนายหนุ่มผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการมรดกต้องกลายมาเป็น "นักสืบจำเป็น" เพื่อค้นหาความจริงซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งว่าใครเป็น "ฆาตกร" ผู้พรากชีวิตหญิงสูงศักดิ์ผู้เป็นที่เทิดทูนไปจากตระกูลนี้ แม้ตระกูลพับพวงยาวจะเป็นครอบครัวใหญ่ที่เพียบพร้อมไปด้วยข้อดีในหลายด้าน แต่ใครจะรู้ว่าการต้องอยู่ในบ้านหลังโตโอ่อ่าและมีกฎระเบียบเคร่งครัดเช่นนี้จะทำให้ผู้คนซ่อนเร้นเงามืดเอาไว้ในจุดที่มองไม่เห็น
ทนายหนุ่มจึงต้องรับหน้าที่คลี่คลายความลับและปริศนาที่ซ่อนอยู่ในครอบครัวผู้ดีเก่าแก่แห่งดินแดน "โยนีเซีย" เพื่อส่งต่อความต้องการของท่านหญิงย่าไปสู่ทายาทที่เหมาะสมและคู่ควร โดยละครเวทีเรื่องนี้จะพาผู้ชมดำดิ่งลงไปสู่ความลับของตระกูลพับพวงยาว และพร้อมเปิดเผยความจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่คุณเคยรู้มาจากเรื่องราวก่อนหน้าไปตลอดกาล …
อย่างที่ มิกกี้ ผู้กำกับเรื่องนี้ได้เคยบอกเอาไว้ในงานละครเวทีเรื่องก่อน ๆ ว่า เขาจะหยุดทำละครเวทีดราม่า โดยจะทิ้งทวนดราม่าเอาไว้อีก 1 เรื่องส่งท้าย แล้วหันมาทำละครเวทีแนวอื่น ๆ ดูบ้าง ซึ่งพับพวงยาวก็อยู่ในลิสต์นั้น และเป็นละครเวทีคอเมดีเรื่องแรกที่ได้ลองทำ เหตุเพราะมีหลายเสียงจากผู้ชมที่เชียร์ให้ทำคอเมดีเสียที เห็นในชีวิตจริงเป็นคนที่ตลกโปกฮากันมาก ๆ แต่อยากจะบอกว่า ตลกในชีวิตจริงกับตลกในละครเวทีนั้นไม่เหมือนกัน มันมีความยากตรงที่จะทำยังไงให้ความตลกนี้มันกลายเป็น 'สากล' ที่คนดูทุกคนเข้าใจตรงกันและหัวเราะไปด้วยกันได้ เลยเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะผู้กำกับเอง นักแสดง และทีมงานทุกคนก็หวั่น ๆ กันมาตลอด เลยยังไม่มีใครเริ่มต้นลงมือทำสักที แต่ก็ด้วยอีกหนึ่งเงื่อนไขที่มี ละครเวทีดราม่าที่ตั้งใจจะทำส่งท้ายนั้นช่างยากและต้องใช้เวลามากซะเหลือเกิน ทั้งในแง่ของเส้นเรื่องและข้อมูลมหาศาลที่ต้องทำการค้นคว้า หากใจร้อนและรีบทำออกไป เรื่องราวก็จะขาดความถูกต้องและไม่น่าเชื่อถือ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ ทำให้ พับพวงยาว แฟมิลี ถูกขยับขึ้นมาดำเนินการผลิตก่อนนั่นเอง
📍 จาก 'ละครโรง' สู่ 'ละครเร่' ที่ให้สัมผัสแปลกใหม่และเข้าถึงได้มากกว่าเดิม
หากใครที่มีโอกาสได้ติดตามละครเวทีจาก บูม ซี แอนด์ เอ็ม และ โซเชียลแอ็ก มาตั้งแต่แรก จะเห็นได้ว่าพวกเขานั้นทำละครเวทีโรง โดยเฉพาะ 'โรงเล็ก' มาตลอด ลักษณะของมันก็จะเป็นพื้นที่ที่มีเวทีตั้งอยู่ด้านหนึ่ง ที่นั่งของคนดูก็จะหันหน้าตรงเข้าไปยังด้านหน้าของเวที เป็นลักษณะมาตรฐานของละครเวทีตามขนบปกติ ตัวอย่างก็เช่น โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ หรือจะเป็น โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ โดยพื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนแยกจากกันอย่างชัดเจน บนเวทีก็จะทำการแสดงโดยนักแสดงร่วมกับฉาก ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้และนำส่งสารที่เรื่องราวต้องการจะสื่อไปยังประสาทสัมผัสของผู้ชมได้โดยที่ไม่ต้องตีความให้มากมาย และเมื่อทุกอย่างบานลานซ์กันได้ดี มีเทคนิคที่ถูกพัฒนามาอย่างพิถีพิถันก็จะยิ่งเสริมให้ละครเวทีเรื่องนั้นมีความตื่นตา มีมิติมากพอที่จะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับเรื่องราว จนสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างฝังแน่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่มหาศาล และยังขาดความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างนักแสดงและผู้ชม
มาคราวนี้ บูม ซี แอนด์ เอ็ม และ โซเชียลแอ็ก ได้เลือกที่จะใช้การนำเสนอในแบบละครเร่ ที่จะเน้นหนักไปยังเรื่องของการแสดงมากกว่าองค์ประกอบที่จำเป็นต้องมีอย่าง "ฉาก" แน่นอนว่างบประมาณที่ใช้ในการผลิตไม่ได้ลดลงไปมาก แต่ก็เป็นการดึงเอาศักยภาพที่มีในตัวนักแสดงออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อเชื่อมต่อเข้าไปกับคนดูให้ได้ยิ่งกว่าเดิม อย่างน้อย ๆ ผู้ชมก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูอย่างเดียว แต่ยังได้มาเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมทางความรู้สึกไปกับตัวละคร ระหว่างที่ดูไปหรือดูจนจบ ผู้ชมจะไม่ได้แค่รู้สึกประทับใจหรือรู้สึกสะเทือนใจไปกับบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาได้เห็นมันจะฝังเข้าไปในหัวผ่านดวงตาที่มองอย่างใกล้ชิด ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างตลอด 1 ชั่วโมงกว่า ๆ นี้ เพราะด้วยพื้นที่แสดงและพื้นที่ของคนดูจะอยู่ติดกันกว่าที่เคย จนแทบจะตอบโต้ไปมาระหว่างนักแสดงและผู้ชมได้เลยทีเดียว
ที่สำคัญ แม้ละครเวทีเรื่องนี้จะไม่มีฉากเป็นส่วนประกอบ แต่ก็ถูกสอดแทรกไปด้วยเทคนิคและจังหวะทางการแสดงมากมาย ซึ่งจะช่วยกระตุกกระตุ้นให้ผู้ชมตื่นตัวและเกิดความอยากรู้อยากเห็นไปด้วยกันตลอดทั้งเรื่อง บอกเลยว่าถ้าขึ้นรถไฟมาด้วยกันตั้งแต่ต้น เมื่อเดินทางมาจนถึงกลางเรื่องไปจนถึงจบเรื่อง คนดูจะไม่ตกขบวน แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะซับซ้อนสุด ๆ และย้อนไปย้อนมาจนเกินจินตนาการได้ ถือเป็นอีกหนึ่งงานหินของทีมผู้ผลิตที่แสนจะท้าทาย แต่ด้วยความตั้งใจและทำการบ้านอย่างหนัก เชื่อว่าผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้จะออกมาดีอย่างแน่นอน
📍 'PLAY SPACE' คาเฟ่ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและมนต์ขลัง
ละครเวทีประจำปีนี้จัดแสดงในบริเวณพื้นที่ของคาเฟ่แห่งหนึ่งย่านหัวลำโพง บนเส้นถนนเจริญเมือง ตั้งอยู่ด้านหลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีชื่อว่า 'PLAY SPACE CAFE' เป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจที่ประดับตกแต่งไปด้วยข้าวของร่วมสมัย แต่ก็ยังไม่ทิ้งความคลาสสิกที่จะทำให้ย้อนนึกถึงการเป็นโรงงานกระดาษดั้งเดิมอายุกว่า 80 ปีในชื่อ 'ใช่กี่' หรือ 'โรงงานกระดาษชัยกิจ' เชื่อว่าหากใครเป็นสายถ่ายรูป หรือชื่นชอบการท่องเที่ยวเมืองเก่า น่าจะต้องโน๊ตชื่อร้านนี้เอาไว้ในลิสต์ที่จะมีโอกาสมาซ้ำอย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ย่านหัวลำโพงถือเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการคมนาคมที่สำคัญของประเทศ การเกิดขึ้นของโรงงานกระดาษใช่กี่จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนทางวัฒนธรรมและการประกอบธุรกิจของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนและเมืองหลวง ในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน จากข้อมูลที่ได้ไปสืบค้นมาระบุว่า โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานกระดาษเพียงแห่งเดียวในย่านนี้ มี 'กระดาษสีน้ำเงิน' เป็นสินค้าเรือธง และถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น กระดาษห่อสำลี หรือแม้แต่ถูกใช้ในกล่องไม้ขีดไฟ 'ตราพญานาค' ด้วยคุณสมบัติที่แน่นแต่บาง ทนทานต่อไขมันและความชื้นได้ดี อีกทั้งสีน้ำเงินที่มีก็ไม่มีจางหาย เพราะเป็นสีที่ถูกผสมลงไปในเนื้อกระดาษ ทำให้ในตอนนั้นกระดาษชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขนาดที่แบรนด์สำลีทุกแบรนด์จะต้องสั่งซื้อกระดาษจากโรงงานชัยกิจเลยทีเดียว แต่จนแล้วจนรอด โรงงานกระดาษแห่งนี้ก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ประกอบกับเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้โรงงานแห่งนี้ต้องปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2540
ในที่สุด โรงงานแห่งนี้ก็ถูกส่งต่อมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 พวกเขาได้ชุบชีวิตพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยความตั้งใจอยากจะให้เป็นสถานที่ที่นำเอา 'ความทรงจำ' มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน ประกอบกับความผูกพันในเรื่องราวของครอบครัวและความเชี่ยวชาญในการทำกระดาษก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการปลุกพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้งในชื่อ PLAY SPACE CAFE โดยยังคงเสน่ห์ของสถานที่เดิมเอาไว้ ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ มีการนำเอากระดาษสีน้ำเงินมาใช้เป็น 'Cup Sleeve' เพื่อห่อแก้วเครื่องดื่มในคาเฟ่ ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของโรงงานกระดาษแห่งนี้ในอดีตที่เชื่อมโยงมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ พื้นที่แห่งนี้ยังถูกจัดวางให้เป็น 'Community' ของผู้ที่ชื่นชอบในกาแฟและงานศิลป์ มีการจัดแสดงผลงานศิลปะหมุนเวียนอยู่เสมอ เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมเวิร์กช็อปและวาดรูป ทำให้คาเฟ่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม เป็นกันเอง และเป็นจุดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ ๆ ของกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน และด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่เล่ามา ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่โรงงานกระดาษเก่าแก่แห่งนี้ถูกเลือกให้เป็นพื้นที่จัดแสดงละครเวทีเรื่องล่าสุดอย่าง 'พับพวงยาว แฟมิลี' ที่ไม่จำเป็นจะต้องปรุงแต่งฉากและสีสันอะไรเข้าไปเพิ่มเติม เพราะของที่มีก็ช่วยสร้างบรรยากาศอันสมจริงให้กับละครเรื่องนี้ได้เลยทันที
📍 เสียงจากผู้ชม 'รอบสื่อ' ที่บอกว่าสนุกเกินคาด จนอยากให้เพิ่มรอบ
พับพวงยาว แฟมิลี ได้เปิดให้ชมรอบสื่อกันไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมี Guest จากทั้งแวดวงละครเวทีและแวดวงต่าง ๆ เดินทางมาชมกันอย่างคึกคักจนแน่นพื้นที่ ฟีดแบกแรกที่ผู้ชมสะท้อนมา เขาบอกว่าถึงแม้ตลอดทั้งเรื่องจะมีแพตเทิร์นของการเล่าที่เหมือนเดิม แต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปทุกครั้ง ไม่น่าเบื่อเลย แถมยังรู้สึกประทับใจกับวิธีการเล่าแบบนี้ ซึ่งการแสดงแบบโรงเล็กบนพื้นที่ในคาเฟ่ บ่อยครั้งมักจะทำให้มุมมองการดูเป็นอุปสรรค แต่สำหรับเรื่องนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เหมือนเราได้มาแอบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ และไม่มีสักครั้งที่จะทำให้รู้สึกว่ากำลังโดนทิ้ง แล้วก็ชอบการแต่งหน้าที่ดูเซอร์เรียลมาก การใช้เสียง จังหวะ และการขยี้มุขมันเหมาะเจาะ เลยไม่ทำให้สับสน ไม่ว่าจะเล่าเรื่องซับซ้อนกี่ทีก็ตาม
ในขณะที่ผู้ชมอีกคนบอกว่านี่เป็นละคร 'ฆาตกรรมหฤหรรษ์' นักแสดงปลดปล่อยพลังทางการแสดงแบบสุด ๆ ตลกธรรมชาติมาก บรรยากาศดีมาก ส่วนผู้ชมอีกคนที่เป็นสายละครเผยว่า รู้สึกคิดถูกจริง ๆ ที่ทิ้งการไปดูภาพยนตร์แล้วมาดูละครเวที ถึงพื้นที่จะเล็ก แต่ความกะเทยของนักแสดงมันใหญ่เสียจนอยากให้เล่นในเดือน Pride Month รวมถึงประทับใจในมวลของนักแสดงแต่ละคนมาก เห็นภาพซ้อนทับของวิธีการแสดงหลายอย่างจนรู้สึก Amazing ต้องบอกว่า พับพวงยาว แฟมิลี ไม่ได้เป็นแค่แฟมิลี แต่มันเป็นโชว์ Community ของคนละครด้วยว่า ละคร LGBTQ ก็ไม่ตาย เทียบเท่ากับละครเวทีในทำนองนี้ของต่างประเทศได้เลย
จริง ๆ ว่าจะหยุดคุยแล้ว แต่มันอดไม่ได้เลยต้องไปถามผู้ชมอีกคนปิดท้าย เขาบอกว่าทึ่งในการแสดง ๆ ของนักแสดงและการทำงานของทีมงานทุกคน เพราะว่าสามารถทำให้ลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในคาเฟ่ ทั้งการเข้าถึงตัวละคร เสียงเอกเฟ็กต์ การเล่นมุก และการ Jump Scare ที่ทำให้รู้สึกไปกับสิ่งที่สื่อสารออกมาจริง ๆ แม้จะมี 'Breaking the Fourth Wall' ที่เป็นการสื่อสารกับคนดูตรง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร จากใจคนที่ไม่เคยดู Performative Art แบบนี้มาก่อน ขอบอกว่าทุกคนทำได้เยี่ยมมาก ๆ ชื่นชมในความทุ่มเทของแต่ละฝ่ายจริง ๆ
📍 พับพวงยาว แฟมิลี เปิดแสดง เสาร์ 12 และ อาทิตย์ 13 กรกฎาคมนี้
นี่เป็นเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกร้อยเรียงจาก 'เบื้องหลัง' มาสู่ 'เบื้องหน้า' แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานทุกฝ่าย จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ได้จาก 'ผู้ชม' อันเป็นรูปธรรม ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำละครเวทีกันจนเป็นอาชีพ แต่การได้ทำสิ่งนี้บ้างก็เป็นพื้นที่ให้คนทำงานสร้างสรรค์ได้ลับคมฝีมือและได้พบเจอกับผู้คนในโลกใบใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดความฝันและสิ่งที่พวกเขาสนใจให้พัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ และความตั้งใจที่มีในละครเวทีเรื่องล่าสุดอย่าง พับพวงยาว แฟมิลี นี้ กำลังจะเปิดม่านให้ผู้ชมได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์และความรู้สึกหลากหลายสุดกลมกล่อมแล้ว
เปิดแสดง 2 วัน วันละ 1 รอบ
วันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 รอบ 19:00 น.
ณ PLAY SPACE CAFE ถนนเจริญเมือง หลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ทาง FB : BOOM C&M จองบัตรได้ที่ https://m.me/boomcnm/
ใครดูแล้วมีความคิดเห็นยังไง อย่าลืมเอามาแชร์กันหน่อย ติด Hashtag ว่า #พับพวงยาวแฟมิลี
อ่านเรื่องนี้บนเว็บไซต์
https://www.boomchannelnow.com/happening/pub-puang-yaow-family-stageplay/

----
#ละครเวที
#ละครเร่







#บูมแชนแนล

มาลองทายกันซิ ว่าละครเวทีเรื่องใหม่จะเป็นประมาณไหน   #บูมแชนแนล
10/06/2025

มาลองทายกันซิ ว่าละครเวทีเรื่องใหม่จะเป็นประมาณไหน


#บูมแชนแนล

แน่นอนว่า VLOG ตอนใหม่ที่จะได้ดูกันในวันนี้ จะต้องเกี่ยวกับซีรีส์ที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้อย่าง 'สงคราม ส่งด่วน...
06/06/2025

แน่นอนว่า VLOG ตอนใหม่ที่จะได้ดูกันในวันนี้ จะต้องเกี่ยวกับซีรีส์ที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้อย่าง 'สงคราม ส่งด่วน' เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ทำให้คุนดูติดงอมแงมจนดูจบครบ 7 ตอนได้ในวันเดียว คืนเดียว หรือเพียงข้ามคืนได้แบบไม่ลังเล ถือเป็นงานซีรีส์ Fiction เรื่องแรกของ 'ไก่ ณฐพล' ที่ทำได้ดีจนไม่รู้จะพูดว่ายังไง เพราะมันชวนติดตามตั้งแต่เส้นเรื่องชีวิตไปจนถึงการไล่ล่าแบบเอาเป็นเอาตายของการทำธุรกิจขนส่ง ซึ่งพอดูจบแล้วมันได้ทั้งความบันเทิง และยังได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ส่วนจะมีประเด็นไหนที่ชวนให้คิดเพิ่มเติมอีกบ้าง มารอพูดคุยไปพร้อมกันค่ำวันนี้นะ
ดูพร้อมกัน วันนี้ (06.06.2025) เวลา 2 ทุ่ม
ทาง YouTube : BOOMCHANNELVDO
กด Subscribe รอไว้เลยนะ : https://bit.ly/BoomChannelVDO
#สงครามส่งด่วน

#ไก่ณฐพล

#ทีไทยทีมันส์




#บูมแชนแนล

05/06/2025

ROAD TO STAGE 2 EP.06 - FINALE
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการซักซ้อมและเตรียมงานทุกอย่างให้เข้าที่ ก่อนที่ละครเวที 'KIN-PIE' จะเปิดรอบการแสดงจริงอย่างเป็นทางการ ระยะเวลากว่า 1 เดือน ดูเหมือนว่าจะมากพอให้ทีมได้ซ่อมแซมและแก้ไขในส่วนที่ยังผิดพลาดอยู่ แล้วก็อาจจะมากพอกับการเพิ่มเติมในส่วนที่จะทำให้การแสดงละครเวทีครั้งนี้สมบูรณ์มากที่สุด แต่เมื่อมองมาที่ความเป็นจริง ช่วงเวลาที่มีมันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องทำอีกเป็นจำนวนมาก ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องหยิบจับปรับแต่ง เพื่อให้พร้อมกับการต้อนรับผู้ชมเข้ามายังโรงละคร สถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้พวกเขาจะผ่านไปได้ไหม มาดูในตอนสุดท้ายของ ROAD TO STAGE 2 กันได้เลย
กด Subscribe ให้ด้วยนะ : http://bit.ly/BoomChannelVDO
ดูคลิปนี้เต็ม ๆ : https://youtu.be/fzh-If743VQ

----







#บูมแชนแนล

'BOYdPOD' ชวน 'Billkin' มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของความคิดถึงในเพลง 'I'm ok // not ok' นี่เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ 2 ...
05/06/2025

'BOYdPOD' ชวน 'Billkin' มาร่วมถ่ายทอด
เรื่องราวของความคิดถึงในเพลง 'I'm ok // not ok'
นี่เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ 2 ศิลปินที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน อย่าง ป๊อด-ธนชัย อุชชิน และ 'Billkin' บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล โดยเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกในซิงเกิลใหม่ล่าสุดจากอัลบั้ม 'BOYdPOD//OST Side B' และแน่นอนว่า 'บอย โกสิยพงษ์' ยังคงรับหน้าที่จรดปากกาถ่ายทอดเรื่องราวซึ้ง ๆ ผ่านท่วงทำนองช้า ๆ เพราะ ๆ ให้เราได้ฟังกันอีกเช่นเคย ซึ่งซิงเกิลนี้มีชื่อว่า 'I'm ok // not ok' เป็นเรื่องราวการบอกเล่าความคิดถึงของใครบางคนที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ แต่ยังไม่มีโอกาสได้เอ่ยบอกความรู้สึกนี้ออกไป สำหรับใครที่ความคิดถึงกำลังทำงานอยู่ เชื่อว่าพอฟังเพลงนี้มันจะตอบถึงความรู้สึกในทุกห้วงอารมณ์ขณะที่คิดถึงได้อย่างแน่นอน
I'm ok // not ok ยังคงเป็นเพลงที่มาในสไตล์ที่แฟนเพลง 'BOYdPOD' คุ้นเคย ถ้อยคำเรียบง่ายแต่ความหมายนุ่มลึก ท่วงทำนองที่ใช้เครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้น อย่างในเพลงนี้ใช้แค่เปียโน ประกอบเข้ากับเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของป๊อดและบิวกิ้น ก็ทำให้สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นอารมณ์และความรู้สึกในเรื่องราวที่อยากสื่อสารได้อย่างครบถ้วน แม้อาจจะฟังดูแปลก ๆ เมื่อฟังครั้งแรก แต่พอได้ฟังครั้งต่อไปจะติดหูและจำเนื้อได้ขึ้นใจแบบไม่ยาก
ในพาร์ตของมิวสิควิดีโอได้ 2 นักแสดงมากความสามารถ อย่าง นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซึ่งเป็น 2 นักแสดงนำในภาพยนตร์ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน อย่าง 'เพื่อนสนิท' และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเมื่อ 20 ปีก่อน มาถ่ายทอดความคิดถึง ความผูกพัน และความห่วงใยที่ยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ใน MV เพลงนี้ นับเป็นพาร์ตเส้นเรื่องที่ช่วยเสริมให้เนื้อหาและท่วงทำนองของเพลงเพลงนี้ให้มีมิติ ส่งต่ออารมณ์และความรู้สึกมายังคนฟังได้ดียิ่งขึ้นเลยทีเดียว
บอย เล่าถึงที่มาที่ไปของเพลง I'm ok // not ok ว่า ตอนที่แต่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งดันไปสอดคล้องกับการตีความจากประสบการณ์ในชีวิตจริงของป๊อด ฉะนั้นเวลาที่ป๊อดร้องเพลงนี้ในห้องอัด ความรู้สึกมันเลยจะออกมาจากส่วนลึกของหัวใจจนต้องหยุดบันทึกเสียงในบางครั้ง เพราะมีความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาใส่ป๊อดและบอย และเมื่อผสานกับเสียงร้องของบิวกิ้นที่ถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้งก็ยิ่งทำให้รู้สึกอินเข้าไปถึงข้างในหัวใจ
ในแง่ของการผลิต ตัวเพลงถูกออกแบบให้เหมือนกับการสนทนาของคนสองคนที่อยู่คนละมิติ บวกกับการเรียงร้อยเสียงของเปียโนที่เป็นการเล่นแบบ 4 มือ ซึ่ง 'เปียโนต่ำ' จะแทนเสียงของป๊อด 'เปียโนสูง' จะแทนเสียงของบิวกิ้น บอยเลยตั้งใจปล่อยให้เพลงนี้นำพาความรู้สึกของคนฟังไปสัมผัสถึงความคิดถึงที่พาดผ่านไปมากันได้อย่างสวยงามลงตัว
ในพาร์ตของมิวสิควิดีโอ บอยเล่าว่า ซันนี่และนุ่นเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่จะทำให้คนฟังอินไปกับเรื่องราวผ่านเพลง โดยทั้งคู่สามารถถ่ายอารมณ์ของความรู้สึกคิดถึงและห่วงใยผ่านตัวละครไข่ย้อยและดากานดาจากภาพยนตร์เรื่องเพื่อนสนิท ที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปีได้แบบอิ่มเอม ครบถ้วนทุกความรู้สึกมากจริง ๆ และที่สำคัญ เพลง I'm ok // not ok ไม่ได้เป็นเพียงแค่บทเพลงแห่งความคิดถึง แต่ยังเป็นบทบันทึกของความทรงจำที่ยังคงงดงามอยู่ในใจเสมอ
สามารถฟังเพลง I'm ok // not ok ได้แล้ววันนี้ผ่านทาง Music Streaming ทุกช่องทาง และชม Music Video ได้แล้วตอนนี้ทาง YouTube : BOYd KOSIYABONG Official
อ่านเรื่องนี้บนเว็บไซต์
https://www.boomchannelnow.com/pop/im-ok-not-ok-boydpod-and-billkin/

----





#ดากานดา
#ไข่ย้อย
#เพื่อนสนิท



#บูมแชนแนล

ROAD TO STAGE 2FINAL EPISODE (EP.06)ดูพร้อมกัน วันนี้ (05.06.2025) เวลา 4 โมงเย็นทาง YouTube : BOOMCHANNELVDOกด Subscrib...
05/06/2025

ROAD TO STAGE 2
FINAL EPISODE (EP.06)
ดูพร้อมกัน วันนี้ (05.06.2025) เวลา 4 โมงเย็น
ทาง YouTube : BOOMCHANNELVDO
กด Subscribe รอไว้เลยนะ
👆 https://bit.ly/BoomChannelVDO





#บูมแชนแนล

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66930066164

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ BOOMCHANNELผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง BOOMCHANNEL:

แชร์

Our Story

'บูมแชนแนล' คือ 'ออนไลน์คอนเทนต์ ครีเอเตอร์' ผลิตเนื้อหาเพื่อความบันเทิงและข่าวสารในรูปแบบออนไลน์ ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อเสิร์ฟรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สาระ และเติมเต็มแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม อีกทั้งยังเป็นช่องทางสำหรับเผยแพร่คอนเทนต์ที่ผลิตโดย BOOM C&M และยูนิตในเครืออีกด้วย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2555 จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว

ปัจจุบัน บูมแชนแนล มีคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ชมมีทางเลือกในการติดตามและรับชมมากยิ่งขึ้น ได้แก่ วิดีโอคลิป , รายการ , พอดแคสต์ , บทความ , เว็บดราม่า , ซีรีส์ และภาพยนตร์สั้น โดยสามารถเลือกติดตามได้จากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ , ดิจิทัล แชนแนล (YouTube , SoundClound) และโซเชียลมีเดีย (Facebook - Twitter - Instagram - Blockdit)


  • ติดต่องาน-ส่งข่าวประชาสัมพันธ์-ส่งหมายเชิญสื่อ-โปรโมตงาน(รายการ/เพลง/ละคร/ภาพยนตร์)-ให้สัมภาษณ์ : [email protected]

  • ติดต่องานพิธีกร-ศิลปิน (BOOM C&M) : [email protected]