
11/07/2025
'พับพวงยาว แฟมิลี' ละครเวทีเนื้อเรื่องสุดซับซ้อน
เหตุการณ์ที่หลากหลาย แต่กลับรวมกันได้กลมกล่อม
เปิดแสดง 12 - 13 กรกฎาคม รอบ 1 ทุ่มตรง
หากจะนับจากละครเวทีเรื่องที่แล้วอย่าง 'KIN-PIE' ก็เป็นเวลา 2 ปีนิด ๆ ที่ 'บูม ซี แอนด์ เอ็ม' และ 'โซเชียลแอ็ก' ห่างหายจากการถ่ายทอดเรื่องราวเพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมและซึมซับความรู้สึกต่าง ๆ ไปกับตัวละครบนพื้นแสดงที่แตกต่างกันไป จนมาถึงศักราชนี้น่าจะเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีที่พวกเขาได้กลับมาทำสิ่งนี้อีกครั้ง ด้วยท่าทาง เงื่อนไข และความท้าทายที่มีมากกว่าเดิม กับผลงานละครเวทีเรื่องใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า 'พับพวงยาว แฟมิลี'
ซึ่งเชื่อแน่ว่าหากใครที่ซื้อตั๋วเข้ามาชมในรอบการแสดงจริง นั่นก็คือวันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 ที่กำลังจะถึงนี้ต้องประทับใจ และการันตีได้เลยว่า ละครเวทีเรื่องนี้มาพร้อมกับวิธีการนำเสนอที่ให้ความรู้สึกใหม่ ๆ และหาชมไม่ได้จากพื้นที่หรือโรงละครไหน ๆ ในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
📍 พับพวงยาว แฟมิลี จากละครเวที 'ดราม่า' สู่ 'คอเมดี' สุดพลัง
พับพวงยาว แฟมิลี เป็นละครเวทีโรงเล็ก เป็นลักษณะของละครเวทีเร่ในสไตล์ 'Whodunit' แนว Suspect / Comedy ที่จะพาผู้ชมมาสัมผัสกับความใกล้ชิดของเหล่าตัวละครขณะที่เส้นเรื่องและเหตุการณ์กำลังดำเนินไป และตามหากันว่าใครที่เป็น 'ผู้ร้ายตัวจริง' เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ มิกกี้-วรลภย์ พิทยุทัยวรรณ ผู้เคยฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ในละครเวทีเรื่องก่อนหน้า อย่าง BETWEEN US ระหว่างเรา..ตอนนั้น และ KIN-PIE นำแสดงโดย ต้น-นิพนธ์ วิทยาวินัย, โบ๊ท-ธนชัย ซุย, ญาญ่า-พีรธัช บุญมา, มิกกี้-วรลภย์ พิทยุทัยวรรณ, มิว-พัชรพฤกษ์ วัฒนา, เก่ง-ฐิติพร สัตตะเจริญ, ทอง-พิทยาทร แก้วทอง, ไอซ์-พาขวัญ อาภาภิรม, กร-รตน ภาพันธ์ุ, ไนท์-นนทชัย ม่วงปัด, พี-พีรวัฒน์ หาใหญ่ และ ซัน-ร้อยพินิจ ควนสิริ
พับพวงยาว แฟมิลี บอกเล่าเรื่องราวของ "ท่านหญิงย่า" แห่ง "ตระกูลพับพวงยาว" ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา ทนายหนุ่มผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการมรดกต้องกลายมาเป็น "นักสืบจำเป็น" เพื่อค้นหาความจริงซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งว่าใครเป็น "ฆาตกร" ผู้พรากชีวิตหญิงสูงศักดิ์ผู้เป็นที่เทิดทูนไปจากตระกูลนี้ แม้ตระกูลพับพวงยาวจะเป็นครอบครัวใหญ่ที่เพียบพร้อมไปด้วยข้อดีในหลายด้าน แต่ใครจะรู้ว่าการต้องอยู่ในบ้านหลังโตโอ่อ่าและมีกฎระเบียบเคร่งครัดเช่นนี้จะทำให้ผู้คนซ่อนเร้นเงามืดเอาไว้ในจุดที่มองไม่เห็น
ทนายหนุ่มจึงต้องรับหน้าที่คลี่คลายความลับและปริศนาที่ซ่อนอยู่ในครอบครัวผู้ดีเก่าแก่แห่งดินแดน "โยนีเซีย" เพื่อส่งต่อความต้องการของท่านหญิงย่าไปสู่ทายาทที่เหมาะสมและคู่ควร โดยละครเวทีเรื่องนี้จะพาผู้ชมดำดิ่งลงไปสู่ความลับของตระกูลพับพวงยาว และพร้อมเปิดเผยความจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่คุณเคยรู้มาจากเรื่องราวก่อนหน้าไปตลอดกาล …
อย่างที่ มิกกี้ ผู้กำกับเรื่องนี้ได้เคยบอกเอาไว้ในงานละครเวทีเรื่องก่อน ๆ ว่า เขาจะหยุดทำละครเวทีดราม่า โดยจะทิ้งทวนดราม่าเอาไว้อีก 1 เรื่องส่งท้าย แล้วหันมาทำละครเวทีแนวอื่น ๆ ดูบ้าง ซึ่งพับพวงยาวก็อยู่ในลิสต์นั้น และเป็นละครเวทีคอเมดีเรื่องแรกที่ได้ลองทำ เหตุเพราะมีหลายเสียงจากผู้ชมที่เชียร์ให้ทำคอเมดีเสียที เห็นในชีวิตจริงเป็นคนที่ตลกโปกฮากันมาก ๆ แต่อยากจะบอกว่า ตลกในชีวิตจริงกับตลกในละครเวทีนั้นไม่เหมือนกัน มันมีความยากตรงที่จะทำยังไงให้ความตลกนี้มันกลายเป็น 'สากล' ที่คนดูทุกคนเข้าใจตรงกันและหัวเราะไปด้วยกันได้ เลยเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะผู้กำกับเอง นักแสดง และทีมงานทุกคนก็หวั่น ๆ กันมาตลอด เลยยังไม่มีใครเริ่มต้นลงมือทำสักที แต่ก็ด้วยอีกหนึ่งเงื่อนไขที่มี ละครเวทีดราม่าที่ตั้งใจจะทำส่งท้ายนั้นช่างยากและต้องใช้เวลามากซะเหลือเกิน ทั้งในแง่ของเส้นเรื่องและข้อมูลมหาศาลที่ต้องทำการค้นคว้า หากใจร้อนและรีบทำออกไป เรื่องราวก็จะขาดความถูกต้องและไม่น่าเชื่อถือ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ ทำให้ พับพวงยาว แฟมิลี ถูกขยับขึ้นมาดำเนินการผลิตก่อนนั่นเอง
📍 จาก 'ละครโรง' สู่ 'ละครเร่' ที่ให้สัมผัสแปลกใหม่และเข้าถึงได้มากกว่าเดิม
หากใครที่มีโอกาสได้ติดตามละครเวทีจาก บูม ซี แอนด์ เอ็ม และ โซเชียลแอ็ก มาตั้งแต่แรก จะเห็นได้ว่าพวกเขานั้นทำละครเวทีโรง โดยเฉพาะ 'โรงเล็ก' มาตลอด ลักษณะของมันก็จะเป็นพื้นที่ที่มีเวทีตั้งอยู่ด้านหนึ่ง ที่นั่งของคนดูก็จะหันหน้าตรงเข้าไปยังด้านหน้าของเวที เป็นลักษณะมาตรฐานของละครเวทีตามขนบปกติ ตัวอย่างก็เช่น โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ หรือจะเป็น โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ โดยพื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนแยกจากกันอย่างชัดเจน บนเวทีก็จะทำการแสดงโดยนักแสดงร่วมกับฉาก ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้และนำส่งสารที่เรื่องราวต้องการจะสื่อไปยังประสาทสัมผัสของผู้ชมได้โดยที่ไม่ต้องตีความให้มากมาย และเมื่อทุกอย่างบานลานซ์กันได้ดี มีเทคนิคที่ถูกพัฒนามาอย่างพิถีพิถันก็จะยิ่งเสริมให้ละครเวทีเรื่องนั้นมีความตื่นตา มีมิติมากพอที่จะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับเรื่องราว จนสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างฝังแน่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่มหาศาล และยังขาดความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างนักแสดงและผู้ชม
มาคราวนี้ บูม ซี แอนด์ เอ็ม และ โซเชียลแอ็ก ได้เลือกที่จะใช้การนำเสนอในแบบละครเร่ ที่จะเน้นหนักไปยังเรื่องของการแสดงมากกว่าองค์ประกอบที่จำเป็นต้องมีอย่าง "ฉาก" แน่นอนว่างบประมาณที่ใช้ในการผลิตไม่ได้ลดลงไปมาก แต่ก็เป็นการดึงเอาศักยภาพที่มีในตัวนักแสดงออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อเชื่อมต่อเข้าไปกับคนดูให้ได้ยิ่งกว่าเดิม อย่างน้อย ๆ ผู้ชมก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูอย่างเดียว แต่ยังได้มาเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมทางความรู้สึกไปกับตัวละคร ระหว่างที่ดูไปหรือดูจนจบ ผู้ชมจะไม่ได้แค่รู้สึกประทับใจหรือรู้สึกสะเทือนใจไปกับบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาได้เห็นมันจะฝังเข้าไปในหัวผ่านดวงตาที่มองอย่างใกล้ชิด ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างตลอด 1 ชั่วโมงกว่า ๆ นี้ เพราะด้วยพื้นที่แสดงและพื้นที่ของคนดูจะอยู่ติดกันกว่าที่เคย จนแทบจะตอบโต้ไปมาระหว่างนักแสดงและผู้ชมได้เลยทีเดียว
ที่สำคัญ แม้ละครเวทีเรื่องนี้จะไม่มีฉากเป็นส่วนประกอบ แต่ก็ถูกสอดแทรกไปด้วยเทคนิคและจังหวะทางการแสดงมากมาย ซึ่งจะช่วยกระตุกกระตุ้นให้ผู้ชมตื่นตัวและเกิดความอยากรู้อยากเห็นไปด้วยกันตลอดทั้งเรื่อง บอกเลยว่าถ้าขึ้นรถไฟมาด้วยกันตั้งแต่ต้น เมื่อเดินทางมาจนถึงกลางเรื่องไปจนถึงจบเรื่อง คนดูจะไม่ตกขบวน แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะซับซ้อนสุด ๆ และย้อนไปย้อนมาจนเกินจินตนาการได้ ถือเป็นอีกหนึ่งงานหินของทีมผู้ผลิตที่แสนจะท้าทาย แต่ด้วยความตั้งใจและทำการบ้านอย่างหนัก เชื่อว่าผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้จะออกมาดีอย่างแน่นอน
📍 'PLAY SPACE' คาเฟ่ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและมนต์ขลัง
ละครเวทีประจำปีนี้จัดแสดงในบริเวณพื้นที่ของคาเฟ่แห่งหนึ่งย่านหัวลำโพง บนเส้นถนนเจริญเมือง ตั้งอยู่ด้านหลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีชื่อว่า 'PLAY SPACE CAFE' เป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจที่ประดับตกแต่งไปด้วยข้าวของร่วมสมัย แต่ก็ยังไม่ทิ้งความคลาสสิกที่จะทำให้ย้อนนึกถึงการเป็นโรงงานกระดาษดั้งเดิมอายุกว่า 80 ปีในชื่อ 'ใช่กี่' หรือ 'โรงงานกระดาษชัยกิจ' เชื่อว่าหากใครเป็นสายถ่ายรูป หรือชื่นชอบการท่องเที่ยวเมืองเก่า น่าจะต้องโน๊ตชื่อร้านนี้เอาไว้ในลิสต์ที่จะมีโอกาสมาซ้ำอย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ย่านหัวลำโพงถือเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการคมนาคมที่สำคัญของประเทศ การเกิดขึ้นของโรงงานกระดาษใช่กี่จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนทางวัฒนธรรมและการประกอบธุรกิจของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนและเมืองหลวง ในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน จากข้อมูลที่ได้ไปสืบค้นมาระบุว่า โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานกระดาษเพียงแห่งเดียวในย่านนี้ มี 'กระดาษสีน้ำเงิน' เป็นสินค้าเรือธง และถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น กระดาษห่อสำลี หรือแม้แต่ถูกใช้ในกล่องไม้ขีดไฟ 'ตราพญานาค' ด้วยคุณสมบัติที่แน่นแต่บาง ทนทานต่อไขมันและความชื้นได้ดี อีกทั้งสีน้ำเงินที่มีก็ไม่มีจางหาย เพราะเป็นสีที่ถูกผสมลงไปในเนื้อกระดาษ ทำให้ในตอนนั้นกระดาษชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขนาดที่แบรนด์สำลีทุกแบรนด์จะต้องสั่งซื้อกระดาษจากโรงงานชัยกิจเลยทีเดียว แต่จนแล้วจนรอด โรงงานกระดาษแห่งนี้ก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ประกอบกับเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้โรงงานแห่งนี้ต้องปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2540
ในที่สุด โรงงานแห่งนี้ก็ถูกส่งต่อมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 พวกเขาได้ชุบชีวิตพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยความตั้งใจอยากจะให้เป็นสถานที่ที่นำเอา 'ความทรงจำ' มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน ประกอบกับความผูกพันในเรื่องราวของครอบครัวและความเชี่ยวชาญในการทำกระดาษก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการปลุกพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้งในชื่อ PLAY SPACE CAFE โดยยังคงเสน่ห์ของสถานที่เดิมเอาไว้ ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ มีการนำเอากระดาษสีน้ำเงินมาใช้เป็น 'Cup Sleeve' เพื่อห่อแก้วเครื่องดื่มในคาเฟ่ ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของโรงงานกระดาษแห่งนี้ในอดีตที่เชื่อมโยงมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ พื้นที่แห่งนี้ยังถูกจัดวางให้เป็น 'Community' ของผู้ที่ชื่นชอบในกาแฟและงานศิลป์ มีการจัดแสดงผลงานศิลปะหมุนเวียนอยู่เสมอ เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมเวิร์กช็อปและวาดรูป ทำให้คาเฟ่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม เป็นกันเอง และเป็นจุดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ ๆ ของกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน และด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่เล่ามา ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่โรงงานกระดาษเก่าแก่แห่งนี้ถูกเลือกให้เป็นพื้นที่จัดแสดงละครเวทีเรื่องล่าสุดอย่าง 'พับพวงยาว แฟมิลี' ที่ไม่จำเป็นจะต้องปรุงแต่งฉากและสีสันอะไรเข้าไปเพิ่มเติม เพราะของที่มีก็ช่วยสร้างบรรยากาศอันสมจริงให้กับละครเรื่องนี้ได้เลยทันที
📍 เสียงจากผู้ชม 'รอบสื่อ' ที่บอกว่าสนุกเกินคาด จนอยากให้เพิ่มรอบ
พับพวงยาว แฟมิลี ได้เปิดให้ชมรอบสื่อกันไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมี Guest จากทั้งแวดวงละครเวทีและแวดวงต่าง ๆ เดินทางมาชมกันอย่างคึกคักจนแน่นพื้นที่ ฟีดแบกแรกที่ผู้ชมสะท้อนมา เขาบอกว่าถึงแม้ตลอดทั้งเรื่องจะมีแพตเทิร์นของการเล่าที่เหมือนเดิม แต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปทุกครั้ง ไม่น่าเบื่อเลย แถมยังรู้สึกประทับใจกับวิธีการเล่าแบบนี้ ซึ่งการแสดงแบบโรงเล็กบนพื้นที่ในคาเฟ่ บ่อยครั้งมักจะทำให้มุมมองการดูเป็นอุปสรรค แต่สำหรับเรื่องนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เหมือนเราได้มาแอบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ และไม่มีสักครั้งที่จะทำให้รู้สึกว่ากำลังโดนทิ้ง แล้วก็ชอบการแต่งหน้าที่ดูเซอร์เรียลมาก การใช้เสียง จังหวะ และการขยี้มุขมันเหมาะเจาะ เลยไม่ทำให้สับสน ไม่ว่าจะเล่าเรื่องซับซ้อนกี่ทีก็ตาม
ในขณะที่ผู้ชมอีกคนบอกว่านี่เป็นละคร 'ฆาตกรรมหฤหรรษ์' นักแสดงปลดปล่อยพลังทางการแสดงแบบสุด ๆ ตลกธรรมชาติมาก บรรยากาศดีมาก ส่วนผู้ชมอีกคนที่เป็นสายละครเผยว่า รู้สึกคิดถูกจริง ๆ ที่ทิ้งการไปดูภาพยนตร์แล้วมาดูละครเวที ถึงพื้นที่จะเล็ก แต่ความกะเทยของนักแสดงมันใหญ่เสียจนอยากให้เล่นในเดือน Pride Month รวมถึงประทับใจในมวลของนักแสดงแต่ละคนมาก เห็นภาพซ้อนทับของวิธีการแสดงหลายอย่างจนรู้สึก Amazing ต้องบอกว่า พับพวงยาว แฟมิลี ไม่ได้เป็นแค่แฟมิลี แต่มันเป็นโชว์ Community ของคนละครด้วยว่า ละคร LGBTQ ก็ไม่ตาย เทียบเท่ากับละครเวทีในทำนองนี้ของต่างประเทศได้เลย
จริง ๆ ว่าจะหยุดคุยแล้ว แต่มันอดไม่ได้เลยต้องไปถามผู้ชมอีกคนปิดท้าย เขาบอกว่าทึ่งในการแสดง ๆ ของนักแสดงและการทำงานของทีมงานทุกคน เพราะว่าสามารถทำให้ลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในคาเฟ่ ทั้งการเข้าถึงตัวละคร เสียงเอกเฟ็กต์ การเล่นมุก และการ Jump Scare ที่ทำให้รู้สึกไปกับสิ่งที่สื่อสารออกมาจริง ๆ แม้จะมี 'Breaking the Fourth Wall' ที่เป็นการสื่อสารกับคนดูตรง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร จากใจคนที่ไม่เคยดู Performative Art แบบนี้มาก่อน ขอบอกว่าทุกคนทำได้เยี่ยมมาก ๆ ชื่นชมในความทุ่มเทของแต่ละฝ่ายจริง ๆ
📍 พับพวงยาว แฟมิลี เปิดแสดง เสาร์ 12 และ อาทิตย์ 13 กรกฎาคมนี้
นี่เป็นเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกร้อยเรียงจาก 'เบื้องหลัง' มาสู่ 'เบื้องหน้า' แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานทุกฝ่าย จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ได้จาก 'ผู้ชม' อันเป็นรูปธรรม ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำละครเวทีกันจนเป็นอาชีพ แต่การได้ทำสิ่งนี้บ้างก็เป็นพื้นที่ให้คนทำงานสร้างสรรค์ได้ลับคมฝีมือและได้พบเจอกับผู้คนในโลกใบใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดความฝันและสิ่งที่พวกเขาสนใจให้พัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ และความตั้งใจที่มีในละครเวทีเรื่องล่าสุดอย่าง พับพวงยาว แฟมิลี นี้ กำลังจะเปิดม่านให้ผู้ชมได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์และความรู้สึกหลากหลายสุดกลมกล่อมแล้ว
เปิดแสดง 2 วัน วันละ 1 รอบ
วันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 รอบ 19:00 น.
ณ PLAY SPACE CAFE ถนนเจริญเมือง หลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ทาง FB : BOOM C&M จองบัตรได้ที่ https://m.me/boomcnm/
ใครดูแล้วมีความคิดเห็นยังไง อย่าลืมเอามาแชร์กันหน่อย ติด Hashtag ว่า #พับพวงยาวแฟมิลี
อ่านเรื่องนี้บนเว็บไซต์
https://www.boomchannelnow.com/happening/pub-puang-yaow-family-stageplay/
----
#ละครเวที
#ละครเร่
#บูมแชนแนล