Followonline News

  • Home
  • Followonline News

Followonline News เกาะติดทุกกระแสข่าวสาร

เป็นวารสารรายเดือน เพื่อคนที่สนใจหรือต้องการความรู้ในเรื่องของธุรกิจเครือข่าย ประกันภัยและการตลาดแฟนไซส์ ของคนรุ่นใหม่ วางแผงหนังสือชั้นนำ ทุกวันที่ 5 ของเดือน

กรุงไทย ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าและประชาชนในจังหวัดน่านและแพร่ธนาคารกรุงไทย ...
28/07/2025

กรุงไทย ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าและประชาชนในจังหวัดน่านและแพร่

ธนาคารกรุงไทย ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ จากอิทธิพลของพายุวิภา ส่งผลให้ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เกิดสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน และมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านและแพร่ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย และการดำรงชีพของประชาชน จึงเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยผู้บริหารและพนักงานธนาคาร ได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด ประกอบด้วย ข้าวสารและอาหารแห้ง รวมทั้งน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ พร้อมรับฟังปัญหาของลูกค้า เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด และให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ธนาคาร ร่วมกับ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ด้วยการสแกน QR Code E-Donation ผ่านแอปพลิเคชันของทุกธนาคาร ซึ่งข้อมูลการบริจาคจะส่งเข้าระบบลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากรอัตโนมัติ หรือบริจาคผ่านบัญชี ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี มูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ธนาคารกรุงไทย สาขานานาเหนือ เลขที่ 000-0-601-28-4 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/link/edonation-flood2025

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทั้งบุคคลรายย่อยและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน ครอบคลุมการลดดอกเบี้ย และลดค่างวดชำระหนี้ พร้อมเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพ ตลอดจนการซ่อมแซมทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย ลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการความช่วยเหลือของธนาคารสามารถติดต่อที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นปี 2568 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111

https://followonlinenews.com/v/5283

กรุงไทย ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าและประชาชนในจังหวัดน่านแล....

ออมสิน ช่วยไม่พัก! ส่งทีมจิตอาสาฟื้นฟูน้ำท่วมวัด - รพ. ใน จ.น่านนายพรชัย ไชยโย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตน่าน เป็นผู้แทน...
28/07/2025

ออมสิน ช่วยไม่พัก! ส่งทีมจิตอาสาฟื้นฟูน้ำท่วมวัด - รพ. ใน จ.น่าน

นายพรชัย ไชยโย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตน่าน เป็นผู้แทนส่งมอบเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงและอุปกรณ์ทำความสะอาดให้แก่วัดภูมินทร์ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูบริเวณวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้จัดส่งทีมเจ้าหน้าที่และพนักงานธนาคารออมสินจิตอาสา ลงพื้นที่ช่วยฟื้นฟูโรงพยาบาลน่าน โดยร่วมทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารศิริเวชรักษ์ ชั้น 1 บริเวณห้องเวชระเบียน ห้องตรวจโรค ห้องตรวจเลือด ห้องแยกโรค ห้องตรวจคลื่นหัวใจ และห้องฉีดยาทำแผล เพื่อเร่งช่วยเหลือฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนหลังน้ำลด เนื่องจากมีดินโคลนทับถมหนาแน่นจำนวนมาก ธนาคารออมสินพร้อมเดินหน้าบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อสังคม เคียงข้างประชาชนคนไทยในทุกสถานการณ์ เพื่อร่วมฝ่าวิกฤตและฟื้นคืนสู่ภาวะปกติไปด้วยกัน

ออมสิน ช่วยไม่พัก! ส่งทีมจิตอาสาฟื้นฟูน้ำท่วมวัด - รพ. ใน จ.น่าน

กสิกรไทยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนและอุทกภัยภาคเหนือกสิกรไทยออกมาตรการช่วยเหลื...
27/07/2025

กสิกรไทยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนและอุทกภัยภาคเหนือ

กสิกรไทยออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยในภาคเหนือที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ด้วยมาตรการพักชำระเงินต้น ผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยนานสูงสุด 3 เดือน วงเงินสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้เพื่อซ่อมแซมบ้านและสถานประกอบการ และสินเชื่ออื่น ๆ หวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้ลูกค้าฟื้นตัวและเดินหน้าต่อได้อย่างรวดเร็ว

นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ได้ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายพื้นที่ ธนาคารกสิกรไทยตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงรีบดำเนินการเร่งด่วนออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและช่วยให้ลูกค้าสามารถพลิกฟื้นกลับสู่สถานการณ์ปกติได้ในเร็ววัน โดยมีรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือดังนี้

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคล
1. สินเชื่อบ้านกสิกรไทย พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน
2. สินเชื่อบ้านกู้เพิ่มได้เพื่อซ่อมแซมบ้าน อัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือน ฟรีค่าประเมินหลักประกัน
3. บัตรเครดิตกสิกรไทย สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan และบัตรเงินด่วน Xpress Cash พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน
4. สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% ระยะเวลา 3 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระ 3 เดือน

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจ
1. วงเงินสินเชื่อเดิม พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน
2. สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมสถานประกอบการ ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี ดอกเบี้ย 3.5% ใน 2 ปีแรก โดยให้พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน

สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อเพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568 โดยลูกค้าบุคคลติดต่อได้ที่ K-Contact Center 02-8888888 ลูกค้าธุรกิจติดต่อที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ K-BIZ Contact Center 02-8888822 และลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ติดต่อที่ KLeasing Call Center 02-6969999

กสิกรไทยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนและอุทกภัยภาคเหนือ

วิริยะประกันภัย นำวิริยะจิตอาสาร่วมส่งกำลังใจผู้ประสบภัย กรณีเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชานายธีราทร แสงเงิน ผู้...
26/07/2025

วิริยะประกันภัย นำวิริยะจิตอาสาร่วมส่งกำลังใจผู้ประสบภัย กรณีเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา

นายธีราทร แสงเงิน ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนศรีสะเกษ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำกลุ่มวิริยะจิตอาสา มอบถุงยังชีพและเครื่องอุปโภค – บริโภค แก่ศูนย์รับบริจาคที่ว่าการอำเภอโนนคูณ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และอำนวยความสะดวกด้านการดำรงชีวิตให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกภาคส่วน ในการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ณ ที่ว่าการอำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

นอกจากนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสา และตัวแทนสาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน ในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ยังได้ร่วมสนับสนุนเครื่องอุปโภค – บริโภค และจัดเตรียมอาหารปรุงสุก แก่ผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัด สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะกลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติได้โดยเร็วที่สุด

วิริยะประกันภัย นำวิริยะจิตอาสาร่วมส่งกำลังใจผู้ประสบภัยกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา

”คังเซน” ร่วมยินดีกับนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลนักขายตรงดีเด่นในงาน TDSA Awards ประจำปี 2568เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม...
26/07/2025

”คังเซน” ร่วมยินดีกับนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลนักขายตรงดีเด่นในงาน TDSA Awards ประจำปี 2568

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฐพัชร์ อำพันธ์ยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมด้วย ดร.ขวัญโดม อำพันยุทธ์ และ ดร.กรรณิกา แช่ทอง รองประธานกรรมการบริหาร ร่วมแสดงความยินดีพร้อมมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกกับ 3 นักธุรกิจดีเด่น…

• Royal Crown Star Director คุณเพ็ญประภา เอี่ยมรัตนโยธิน
• Crown Star Director คุณลำพร ชัยยะราช - คุณจิตรกร อนันทะ
• Diamond Star Director คุณวีรวรรณ - คุณชิษณุพงศ์ หิรัญรัฐธานนท์

โดยทั้งสามท่านได้รับโล่รางวัลนักธุรกิจขายตรงดีเด่นในงาน “TDSA Awards” จาก ท่านรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ประธานในพิธี โอกาสนี้ บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังได้รับ โล่รางวัล WFDSA Code of Ethics ระดับ Gold ในฐานะองค์กรที่มุ่งเน้นเผยแพร่จรรยาบรรณธุรกิจขายตรงอย่างเคร่งครัด สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความยั่งยืน

ซึ่งงานนี้ จัดโดยสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) สมาชิกสมาพันธ์การขายตรงโลก (WFDSA) เพื่อเชิดชูเกียรติแก่บริษัท และนักธุรกิจขายตรงที่เป็นแบบอย่างความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้จรรยาบรรณขายตรงไทย อันจะเป็นการยกระดับนักขาย และสร้างขวัญกำลังใจแก่นักธุรกิจขายตรง MLM เพื่อสร้างความเชื่อมันให้กับธุรกิจในอนาคตต่อไป ท่ามกลางสมาชิกพันธมิตรทางธุรกิจ และสมาชิกคังเซนร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง…

#สมาคมการขายตรงไทย #สมาพันธ์การขายตรงโลก #สร้างรายได้ #คังเซน #คังเซน32ปี #คังเซน3ทศวรรษ

”คังเซน” ร่วมยินดีกับนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลนักขายตรงดีเด่นในงาน TDSA Awards ประจำปี 2568

ไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาและอุทกภัยภาคเหนือธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร...
26/07/2025

ไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาและอุทกภัยภาคเหนือ

ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา และอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยให้ความช่วยเหลือทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME ทั้งมาตรการพักชำระและสินเชื่อพิเศษเพื่อซ่อมแซมบ้านและกิจการอย่างเต็มที่

จากสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาและสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า และพร้อมอยู่เคียงข้างเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ผ่านมาตรการเร่งด่วนที่ครอบคลุม ทั้งลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME โดยให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ทั้งในรูปแบบการพักชำระหนี้ และการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบ โดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ ประกอบด้วย

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับลูกค้าปัจจุบัน - สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash) พักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน
สำหรับลูกค้าใหม่ - สินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน (สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน (Home Loan Top Up) หรือ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash Top Up)) ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และ อาคารพาณิชย์

สินเชื่อรถยนต์ สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ สามารถพักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน (รวมอายุผู้กู้ไม่เกิน 65 ปี)
สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ (SSME)

สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการปัจจุบัน พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี

สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อใหม่ (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) สามารถขอสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้:
อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี ในช่วง 24 เดือนแรก ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ (Front-End Fee) 1%
ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี
วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย (รวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ)
ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

ลูกค้าต้องนำเงินกู้ไปใช้เพื่อฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปชำระหนี้เดิม หรือ Refinance
ต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหายหรือผลกระทบจากสถานการณ์ประกอบการพิจารณา
ลูกค้าสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร SCB Customer Call Center โทร 02-777-7777 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568

ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ธนาคารมีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย 1) พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน 2) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 3 เดือน 3) เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว วงเงินสูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท 4) วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ สูงสุด 20% ของวงเงินเดิม ไม่เกิน 10 ล้านบาท

ลูกค้าผู้ประกอบการ SME สามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่เจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ และ SCB Business Call Center โทร 02-722-2222 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568

ธนาคารไทยพาณิชย์ขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการพิจารณาคำร้องของลูกค้าทุกท่านเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกลับมาฟื้นตัวได้อย่างทันท่วงที

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

สำหรับสินเชื่อบ้านได้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.906%- 13.879% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR ) ปัจจุบันเท่ากับ 7.025%ต่อปี มีผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่ เว็บไซต์ www.scb.co.th

https://followonlinenews.com/v/5274

ไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาและอุทกภัยภาคเหนือ

กรุงศรีออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน กรุงเทพฯ (26 ...
26/07/2025

กรุงศรีออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน

กรุงเทพฯ (26 กรกฎาคม 2568) - กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ)
ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้ากรุงศรี ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน

รายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน ประกอบด้วย

ลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME รายย่อย ประกอบด้วย
• ลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือ
• พักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 3 เดือน

แจ้งความประสงค์ขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่สาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ หรือ Krungsri Call Center 1572 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2568 โดยเงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด

ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME ประกอบด้วย
• ลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือ
• พักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน

แจ้งความประสงค์ขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ (Relationship Manager) หรือ สอบถามโทร. 02-296-6262 หรือ 02-626-2626 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2568

ลูกค้าสินเชื่อกรุงศรี ออโต้
• พักชำระค่างวด เป็นระยะเวลา 3 เดือน
แจ้งความประสงค์ขอรับมาตรการช่วยเหลือ สอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติม ได้ที่ กรุงศรี ออโต้
โทร. 02-740-7400 กด 3 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2568

ลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีรายละเอียดดังนี้
มาตรการที่ 1: พักชำระหนี้ นานสูงสุด 2 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยพักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 2 รอบบัญชี ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2568 โดยระหว่างเข้าร่วมมาตรการพักชำระดังกล่าว ดอกเบี้ยยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก

ทั้งนี้ ลูกค้าซึ่งประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าว สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อลงทะเบียนแจ้งความจำนงภายใน 31 สิงหาคม 2568 ผ่านทางศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ (ทุกวัน ตลอด 24 ชม.) หรือ Helpline : 02-714-5155 (ในเวลาทำการ จันทร์ถึงศุกร์ 8.30 –
17.30 น.) และจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี (การพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัท)

มาตรการที่ 2: ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้) (ทั้งนี้ ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว) โดยลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อลงทะเบียนแจ้งความจำนง ผ่านทางศูนย์บริการสมาชิกบัตรฯ (ทุกวัน ตลอด 24 ชม.) หรือ Helpline: 02-714-5155 (ในเวลาทำการ จันทร์ถึงศุกร์ 8.30 – 17.30 น.) และจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี (การพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัท)

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ www.krungsriconsumer.com หรือ
ติดต่อศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิต กรุงศรี ​​​02-646-3555 ​
ศูนย์บริการสมาชิกบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ​​​02-345-6789​
ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ​​02-627-8111 ​
ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตโลตัส​​​​1712​​

https://followonlinenews.com/v/5272

กรุงศรีออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณ.....

ไทยประกันชีวิต พร้อมดูแลผู้เอาประกันภัย จากเหตุการณ์ความขัดแย้ง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชานางวัชรา สถาพรพิริยะเดช ผู้ช่วยผู...
26/07/2025

ไทยประกันชีวิต พร้อมดูแลผู้เอาประกันภัย จากเหตุการณ์ความขัดแย้ง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

นางวัชรา สถาพรพิริยะเดช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมถึงครอบครัว และขอส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจทุกหน่วยงาน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้ปลอดภัย

ไทยประกันชีวิตพร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เบื้องต้นบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายสินไหมกรุณา (Ex-gratia Payment) แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือตรวจสอบความคุ้มครองของท่านได้ที่ โทร. 1124

ไทยประกันชีวิต พร้อมดูแลผู้เอาประกันภัย จากเหตุการณ์ความขัดแย้ง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

SME D Bank ห่วงใยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการเร่งด่วน ‘พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม’ บรรเทาความเดือดร้อน ป...
25/07/2025

SME D Bank ห่วงใยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการเร่งด่วน ‘พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม’ บรรเทาความเดือดร้อน ประคองธุรกิจ ก้าวข้ามวิกฤตมั่นคง

SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย ห่วงใยประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน “พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ตัดเงินต้นสูงสุด 30% คู่เติมทุนฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมถึง กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น SME D Bank สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน “พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม” ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถปรับตัวและประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้

สำหรับมาตรการ “พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม” ประกอบด้วย “พัก” พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน “ตัด” ตัดเงินต้นสูงสุด 30% “ลด” ลดค่างวดผ่อนชำระ และ “ขยาย” ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ พิจารณาตามความสามารถของลูกค้า ช่วยคลายความกังวลใจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากการปรับเงื่อนไขให้ยืดหยุ่น ลดภาระทางการเงิน สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น

และ “เติม” เติมทุนฟื้นฟูกิจการ ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการของเอสเอ็มอี วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ได้แก่ 1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท 2.สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท และ 3.สินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป อีกทั้งยังมี สินเชื่อ “SME Refinance (2568)” อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี ช่วยลดภาระการเงิน ผ่อนหนักเป็นเบา วางแผนบริหารจัดการธุรกิจได้ล่วงหน้า เพิ่มความคล่องตัวในกิจการได้อย่างเหมาะสม ควบคู่ “การพัฒนา” เสริมแกร่งธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ที่พร้อมปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยกระดับเพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ เติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank และ www.smebank.co.th เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

https://followonlinenews.com/v/5269

SME D Bank ห่วงใยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการเร่งด่วน ‘พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม’ บรรเทาความเดื.....

ลีสซิ่งกสิกรไทยคว้ารางวัล Best Automobile Financing 2 ปีซ้อน จาก The Asian Banker เดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมสินเชื่อรถยนต์...
25/07/2025

ลีสซิ่งกสิกรไทยคว้ารางวัล Best Automobile Financing 2 ปีซ้อน จาก The Asian Banker เดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมสินเชื่อรถยนต์ ยกระดับประสบการณ์สมัครสินเชื่อสะดวกรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม K OK

บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด รับรางวัล Best Automobile Financing ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 (2024 - 2025) จาก The Asian Banker สื่อชั้นนำด้านการเงินการธนาคารระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันการเงินที่มีความโดดเด่นด้านผลการดำเนินงานและมีนวัตกรรมสินเชื่อรถยนต์ที่ยอดเยี่ยม โดยบริษัทมี 4 กลยุทธ์หลักในการเพิ่มผลการดำเนินงานและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้แก่ การควบคุมต้นทุนทั้งด้านการดำเนินการและด้านคุณภาพหนีั การเพิ่มรายได้ผ่านกลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันของธนาคารและลีสซิ่งกสิกรไทย การเพิ่ม Productivity ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเดินหน้ามุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครอบคลุมตลอดเส้นทางบริการลูกค้า พร้อมชู “K OK” แพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อด้วยตนเอง รู้ผลวงเงินเพื่อออกรถได้จริง

นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า “ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงการปรับตัวท่ามกลางภาวะที่ท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นยอดขายรถยนต์ใหม่ที่หดตัวต่ำสุดในรอบ 20 ปี ราคารถยนต์ใช้แล้วที่อยู่ในช่วงขาลง ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่กระทบต่อคุณภาพหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อ รวมถึงต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และผลต่อเนื่องด้านกฎเกณฑ์การทำธุรกิจเช่าซื้อ ส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทยังคงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานร่วมกันกับพนักงานทุกคนในองค์กร ด้วยกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก ได้แก่ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การควบคุมความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) การเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Operational Excellence) ให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ยังรวมถึงการสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น ด้วยการชูจุดแข็งมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธนาคารกสิกรไทย (KBank) ที่มีลูกค้าหลายสิบล้านราย หลากหลายกลุ่มเซกเมนต์ ทั้งลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงรายใหญ่ เพื่อเสนอบริการทางการเงินที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตอบทุกโจทย์การให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิต ดีลเลอร์ ไปจนถึงลูกค้ารายย่อย โดยมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมต่อประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่การรับรู้แคมเปญสินเชื่อรถยนต์ผ่าน K PLUS และ KBank Live เชื่อมมายัง K EV Shop เพื่อการเลือกรถยนต์และโปรโมชันที่โดนใจ และสามารถสมัครขอสินเชื่อได้ทันที ผ่าน Digital Self- Apply อีกทั้งยังสมัครได้ง่ายกว่าเดิมด้วย “K OK Platform” ที่ให้ลูกค้าได้สมัครสินเชื่อด้วยตนเอง รู้ผลวงเงินรองรับการซื้อรถยนต์ที่กำลังมองหา ช่วยให้วางแผนเลือกรถคันที่ใช่ได้ง่ายขึ้น ด้วยข้อมูลวงเงินที่รู้ล่วงหน้า และหลังจากการรับรถ ลูกค้าจะได้รับบริการสะดวกยิ่งขึ้นผ่าน KLeasing LINE Servicing ที่รองรับบริการเช็กค่างวดคงเหลือ แจ้งเตือนค่างวด และจ่ายค่างวดผ่าน K PLUS ได้ทันที รวมถึงเมื่อต้องการใช้วงเงินฉุกเฉิน ก็มีบริการ “สินเชื่อรถช่วยได้ (Top Up)” กลับมาช่วยลูกค้า KLeasing ผ่าน LINE Servicing อีกด้วย”

หมายเหตุ:
สินเชื่อรถใหม่ กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 3.82%-10% ต่อปี
สินเชื่อรถช่วยได้ (Top Up) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 7.65%-15% ต่อปี

อ้างอิง ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกช. 7/2566 เรื่อง การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) กำหนดให้ผู้ให้บริการต้องจัดทำและควบคุมโฆษณาให้มีเนื้อหาที่ "ถูกต้องและชัดเจน" "ครบถ้วนและเปรียบเทียบเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้" และ "ไม่กระตุ้นให้ก่อหนี้เกินควร" เพื่อให้ลูกค้าได้รับและเข้าใจข้อมูลที่จำเป็นอย่างเพียงพอต่อการตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการมีวินัยทางการเงิน

ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีการอ้างถึงการจ่ายชำระ/การใช้บริการสินเชื่อ สินเชื่อบัตรเครดิต และการผ่อนชำระสินค้า โดยระบุคำเตือนในข่าวให้ถูกต้องตามที่หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้

ลีสซิ่งกสิกรไทยคว้ารางวัล Best Automobile Financing 2 ปีซ้อน จาก The Asian Banker เดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมสินเชื่อรถยนต์ ยกระดับประส.....

ธอส. จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์พายุวิภา พักชำระหนี้ - ลดเงินงวด – ลดอัตราดอกเบี้ย – เคลมสินไ...
25/07/2025

ธอส. จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์พายุวิภา พักชำระหนี้ - ลดเงินงวด – ลดอัตราดอกเบี้ย – เคลมสินไหมเร่งด่วน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์พายุวิภา
จัดทำมาตรการช่วยเหลือดูแลลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤต ประกอบด้วย “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือ
ที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” และ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ปี 2568” ลูกค้าผู้ประสบภัยสามารถติดต่อสาขาธนาคารอาคารสงเคราะห์ทั่วประเทศเพื่อรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะ
สถาบันการเงินของรัฐร่วมเป็นกำลังใจให้แก่ลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มส่งผลให้ที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ธอส. จึงจัดทำ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” และ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2568” โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย ประกอบด้วย
1. สำหรับลูกค้าปัจจุบัน : ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 - 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน เมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป

2. สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ : กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 - 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 - 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (3.195% ต่อปี) ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (4.095% ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.495% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3100 บาท เท่านั้น ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน (1900 – 2800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2568 ประกอบด้วย

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลา ประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 5 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)

นอกจากนี้ ธอส. ยังส่งมอบถุงยังชีพ พร้อมเครื่อง อุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์พายุวิภาด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
หรือ LINE Official Account : GHB Buddy และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

https://followonlinenews.com/v/5266

ธอส. จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์พายุวิภา พักชำระหนี้ - ลดเงินงวด – ลดอัตราดอกเบี....

ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมส...
25/07/2025

ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคล ถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ดีและพลังของแผ่นดิน และลงนามถวายพระพร เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Followonline News posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Followonline News:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share