DNA Agency ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก DNA Agency, บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร, Digital New Age Agency Co. , Ltd. (Head Office), Bangkok.

📺 ซิตคอมไม่ได้มีไว้แค่ขายขำ แต่ขายของได้ด้วย!Sitcom Model การทดลองแนวใหม่ที่ผสมผสาน “ความบันเทิง + การขาย” ในยุควิดีโอสั...
03/10/2025

📺 ซิตคอมไม่ได้มีไว้แค่ขายขำ แต่ขายของได้ด้วย!
Sitcom Model การทดลองแนวใหม่ที่ผสมผสาน “ความบันเทิง + การขาย” ในยุควิดีโอสั้น 🎬 ดึงคนดูอยู่นานขึ้น พร้อมชวนช้อปแบบเนียน ๆ ✨🛒
.

“Sitcom Model” วิธีเล่าเรื่องยาว ให้คนดูจบ ในยุคคนติดวิดีโอสั้น ไอเดียจาก คุณวิชัย Salmon House | BrandCase
-คุณวิชัย มาตกุล จาก Salmon House มาแชร์เรื่องนี้ในงาน MARKETING CONFERENCE 2025

Sitcom Model ที่คุณวิชัยเล่าให้ฟัง เป็นแบบไหน ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

สมัยนี้คนนิยมดูคลิปสั้นกันเป็นปกติ สั้นคือหมายถึง 15 วินาที หรือไม่เกิน 1 นาที ซึ่งกลายเป็นรูปแบบใหม่ที่โฆษณาของหลาย ๆ แบรนด์ ก็พยายามทำออกมากัน

คุณวิชัย แชร์ว่า ปัญหาสำคัญของโฆษณาแบบคลิปสั้น คือข้อจำกัดด้านเวลา

อย่างหนังโฆษณา 15 วินาที ที่มักมีข้อมูลจำนวนมากเกินกว่าจะสื่อสารได้ครบ

คุณวิชัย จึงเกิดการทดลองรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Sitcom Model”

แนวคิดคือการนำ ซิตคอม ซึ่งปกติถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิง มาปรับใช้เป็น แพลตฟอร์มการขาย และดึงให้คนอยู่กับคอนเทนต์ได้นาน

โดยสร้างเนื้อเรื่องที่สนุก มีตัวละครน่าสนใจ แต่แทรกสินค้าจริงเข้าไปเป็นเส้นเรื่องหลัก

ตัวอย่างเช่น การทำซิตคอมที่เล่าเรื่องบริษัทโฆษณา ในเรื่องมีการพูดถึงสินค้าสมมติชื่อ “มามะ” แต่จริง ๆ แล้วคือการขายสินค้าจริงอย่าง “มาม่า”

การเล่าเรื่องในรูปแบบนี้ช่วยให้ผู้ชมอินกับเนื้อหา โดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกบังคับให้ดูโฆษณามากไป

ผลลัพธ์ที่ได้คือ บางวิดีโอ คนดูสามารถอยู่กับคอนเทนต์ได้นานถึง 17 นาที และยังรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราว

นี่คือจุดที่แตกต่างจากโฆษณาสั้น ที่ยัดข้อมูลเยอะ ๆ ไม่เหลือเรื่องราวตรงอื่นให้ใส่ จนผู้ชมปิดหนี

คุณวิชัยมองว่า ซิตคอม จะเป็นทางออกสำหรับแบรนด์ที่ต้องการพื้นที่เล่าเรื่อง

โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการการอธิบายรายละเอียด ต้องเล่าเรื่องราว ซึ่งโฆษณาสั้น ๆ แบบ Single Mind Message หรือใช้คำเดียวอธิบายสินค้า ไม่สามารถตอบโจทย์ได้

อีกเรื่องที่สำคัญคือ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์มหาศาล การทำเพียงแค่เรียกร้องความสนใจ (Attention) หรือสร้างการรับรู้ (Awareness) อาจไม่เพียงพอ

แบรนด์ต้องสร้าง Engagement คือทำให้คนดูอินกับแบรนด์ มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และต่อยอดเรื่องราวไปจนถึงจุดขายได้จริงด้วย

พูดง่าย ๆ คือ สื่อสารให้มีมิติมากขึ้นกว่าขายตรง ๆ

แล้วเทคนิคการทำคอนเทนต์ แบรนด์ หรือคนทำคอนเทนต์ ต้องพูดอะไร ทำอย่างไรให้ลูกค้าอิน ?

คำตอบตรง ๆ ก็คือ เข้าใจผู้บริโภค หรือคนดู “ในเชิงลึก”

เรื่องนี้มี คุณดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนา จาก Sour Bangkok มาร่วมแชร์กับ คุณวิชัย Salmon House ด้วยว่า

หากเข้าใจสิ่งที่อยู่ใจลึก ๆ ของกลุ่มคนดู ผู้บริโภคมากพอ จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เขาอิน ได้อย่างถูกจังหวะและมีประสิทธิภาพ

ในทางกลับกัน ถ้าไม่ได้เข้าใจลึกจริง การพยายามเล่นกับกระแส เช่น การใช้มีมหรือวัฒนธรรม มีมในอินเทอร์เน็ต มาเล่นแบบไม่รู้บริบท อาจกลายเป็นความเด๋อ ไม่เข้าที่เข้าทาง จนทำให้เสียโอกาสมากกว่าจะได้ใจคนดูหรือลูกค้า

ตัวอย่างวิธีสร้างความเข้าใจที่ว่าคือ เข้าไปดูโลกที่พวกเขาอยู่จริง ๆ

เช่น หากอยากเล่นมีม ก็ควรเข้าไปอยู่ในพื้นที่มีม เห็นรูปแบบการเล่าเรื่อง เข้าใจอารมณ์ขัน และวิธีที่ผู้คนสื่อสารกันในนั้น

หรือหากอยากสื่อสารกับกลุ่มคนชอบแอนิเมชัน ก็ต้องเข้าไปเสพ เข้าไปอยู่ในคอมมิวนิตี เข้าไปดูสื่อแอนิเมชันที่ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจ ไม่ใช่อ่านเอาแค่ผิว ๆ พอให้เข้าใจเรื่อง

อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ คือการพึ่งพาคนรุ่นใหม่ในทีมการตลาด ที่เข้าใจพฤติกรรมและวัฒนธรรมดิจิทัล เพราะพวกเขาใกล้ชิดกับสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้เสพจริง ๆ

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าอยากสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มไหน ก็ต้องเข้าไปดูสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนั้นเสพ ให้เข้าใจลึกจริง

เพื่อจะได้พูดกับคนดู กับลูกค้า ในภาษาที่ถูกใจ และตรงใจมากที่สุด

🧐 ลูกค้าหาข้อมูลและตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางไหนบ้าง?นี่คือ 7 ช่องทางยอดฮิตที่มีบทบาทต่อการค้นหาข้อมูลแบรนด์ของผู้บริโภค 🛒 ...
02/10/2025

🧐 ลูกค้าหาข้อมูลและตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางไหนบ้าง?

นี่คือ 7 ช่องทางยอดฮิต
ที่มีบทบาทต่อการค้นหาข้อมูลแบรนด์ของผู้บริโภค 🛒
ใช้โอกาสนี้จับใจลูกค้า 💥 เปลี่ยนจากแค่ “สนใจ” → เป็น “ซื้อจริง” ✅

ไฮ ฮายยย 👋🏻 ปกติเราอ่านออกเสียงคำนี้ “Heinz” ว่าอะไรกันบ้าง?Case Study จาก Heinz 🍅 ที่ใช้ Inclusive Marketing เปิดกว้างใ...
01/10/2025

ไฮ ฮายยย 👋🏻 ปกติเราอ่านออกเสียงคำนี้ “Heinz” ว่าอะไรกันบ้าง?

Case Study จาก Heinz 🍅 ที่ใช้ Inclusive Marketing เปิดกว้างให้ทุกสำเนียง ทุกการออกเสียง ในการเรียกชื่อแบรนด์แบบไทย ๆ

เขามีวิธีการปรับใช้กลยุทธ์อย่างไร อ่านบทความน่ารู้เต็ม ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
▶️ https://shorturl.at/Y6nns

#การตลาดวันละตอน ปกติแล้วเวลาเห็นขวดซอส Heinz ทุกคนอ่านว่าอะไรครับ? “ไห้” “ฮายน์ซ” “เห้นซ์” หรือ “ฮีอิน”?

คำตอบของแต่ละบ้านไม่เหมือนกันเลย แต่แทนที่ Heinz จะออกมาแก้ว่า “ต้องอ่านแบบนี้สิ!” เขากลับเลือกพลิกความต่างนี้ให้กลายเป็นพลังของแบรนด์ 💡

เพราะสำหรับ Heinz แล้ว ความหลากหลายไม่ใช่ปัญหา แต่มันคือเรื่องเล่าที่เชื่อมใจคนไทยได้จริง ๆ จากคำถามง่าย ๆ “คุณเรียก Heinz ว่าอะไร?” ต่อยอดสู่ “ขวดฉลากไทยไทย” ที่พิมพ์หลากหลายชื่อเรียกลงบนขวดจริง กลายเป็น Limited Collection 57 ขวดในโลก!

🍅 จุดเด่นของแคมเปญนี้คือ Heinz ใช้ Inclusive Marketing ในการยอมรับความต่างของทุกสำเนียงจนแบรนด์ดูใกล้ชิดและอบอุ่นขึ้น พร้อมทั้งหยิบ Local Insight อย่างเสียงเรียกแบบไทย ๆ มาต่อยอดเป็นหัวใจสร้างสรรค์ แถมยังทำให้บทสนทนาง่าย ๆ กลายเป็นเส้นทาง From Conversation to Conversion จากไวรัลบนโซเชียลไปสู่ของจริงที่คนอยากสะสม และปิดท้ายด้วยกลยุทธ์ Scarcity & Exclusivity ที่ทำให้ทุกขวดหายากและมี “เรื่องเล่า” ของตัวเอง

สิ่งที่น่ารักมาก ๆ คือ Heinz ไม่ได้พยายาม “สั่งสอนให้ถูกต้อง” แต่บอกกับผู้บริโภคว่า “ไม่ว่าคุณจะเรียกยังไง คุณก็คือส่วนหนึ่งของแบรนด์นี้ได้เหมือนกัน”

เพราะวันหนึ่งคนอาจลืมว่าขวดนี้ราคาเท่าไหร่ แต่เขาจะยังจำได้เสมอว่า เคยหัวเราะ เคยแชร์ และเคยสนุกกับการเรียกชื่อมันยังไงครับ 🕺🏻

อ่านบทความเต็มได้ที่นี่ >> https://everydaymarketing.co/pr/heinz-marketing-uses-inclusive-marketing-to-use-thai-accents-as-a-branding-power/

📣 อัปเดต Social Media Size กันหน่อย!การเลือกขนาดรูปและวิดีโอให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม สำคัญต่อ Experience มากกว่าที่คิด ...
30/09/2025

📣 อัปเดต Social Media Size กันหน่อย!
การเลือกขนาดรูปและวิดีโอให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม สำคัญต่อ Experience มากกว่าที่คิด 💡

ไม่แน่ว่าอาจมี Template อะไรมาให้ชาวกราฟิกและแบรนด์ได้สนุกไปกับการดีไซน์สุดสร้างสรรค์บน Gimmick ใหม่ ๆ อีกก็ได้ 🎨✨
คอยติดตามแล้วปรับตัวกันต่อ! 🔄

✨ เทรนด์ใหม่กำลังมา! 👀 ลองเล่นกันรึยัง?Instagram ปล่อย Ratio ใหม่ “5120 x 1080px” แนวยาววววววว~ แบบสะใจดูตัวอย่างคลิปของ...
29/09/2025

✨ เทรนด์ใหม่กำลังมา! 👀 ลองเล่นกันรึยัง?
Instagram ปล่อย Ratio ใหม่ “5120 x 1080px” แนวยาววววววว~ แบบสะใจ

ดูตัวอย่างคลิปของ KitKat สิ! 🍫 👉 เก๋ ไม่เหมือนใคร ดึงสายตาสุด ๆ
ตอนนี้หลายแบรนด์ก็กระโดดมาร่วมแจมกันแล้วนะ 😉

ไม่อยากตกเทรนด์ 🔥 ลองเข้ามาดูเพิ่มเติมกันเลย ⬇️
https://www.facebook.com/share/p/1DAZFVHZuj/

📱 แบรนด์ใช้ TikTok แต่คิดว่าจะเข้าใจ Gen Z แล้วจริงเหรอ? 🤔อยากทัชใจ Gen Z ให้ตรงจุด 💥 ลองมาดูแนวทางที่น่าสนใจนี้กัน 👀
26/09/2025

📱 แบรนด์ใช้ TikTok แต่คิดว่าจะเข้าใจ Gen Z แล้วจริงเหรอ? 🤔
อยากทัชใจ Gen Z ให้ตรงจุด 💥 ลองมาดูแนวทางที่น่าสนใจนี้กัน 👀

กลยุทธ์ TikTok ที่ใช้ได้จริงกับ Gen Z
อย่าหวังชนะใจพวกเขา ถ้าคุณยังไม่เข้าใจ
Gen Z ไม่ได้เชื่อเพราะเห็นโฆษณา
แต่เชื่อเพราะมี "ใครบางคน" ที่พูดเรื่องนั้นเหมือนเขา
และแบรนด์ที่เข้าใจสิ่งนี้ก่อน คือแบรนด์ที่จะได้ทั้งใจและยอดขาย
พฤติกรรมใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่แบรนด์ต้องรู้
✨ คนแยกออกได้ว่าอะไร ‘เรียล’ อะไร ‘จัดฉาก’
พูดเว่อร์ ขายจ๋า หรือดูปลอม ปัดผ่านทันที
✨ ไม่ได้เลือกเพราะแบรนด์ดัง
แต่เลือกเชื่อ Creator ที่ "เข้าใจเขา" จริงๆ
✨ ชอบคอนเทนต์ เร็ว เข้าใจง่าย ใช้ได้เลย
ไม่ต้องอลังการ แต่ต้องตรงจุดภายในไม่กี่วินาที
✨ เวลาจะแชร์อะไรไม่ใช่แค่เพราะแบรนด์
ไม่ใช่เพราะแบรนด์ดีอย่างเดียว แต่เพราะมันใช่สำหรับเขา
ในตอนนั้น
แล้วแบรนด์ควรทำอะไร
✅ ใช้ Creator ที่ดูเป็นคนธรรมดา
พูดแบบของเขาเอง ไม่ต้องเป๊ะ แต่ต้องจริงใจ
✅ พูดเรื่องเดียวกับเขา ไม่ใช่แค่เรื่องของเรา
เช่น ความเครียดในงาน การเงิน ความไม่มั่นคง ฯลฯ
✅ เปิดบทสนทนา ไม่ใช่แค่พูดอยู่ฝ่ายเดียว
คอนเทนต์ที่มีคำถาม ชวนคอมเมนต์ หรือเล่าเรื่องที่
กระตุกใจ - มีโอกาสถูกตอบกลับมากกว่า
✅ ให้เสียงของลูกค้า พูดแทนแบรนด์
สร้างพื้นที่ให้คนเล่าเอง แชร์เอง แทนการยัดเยียดขาย
Gen Z ไม่อยากเป็นผู้ชม แต่เขาอยากมีส่วนร่วมกับเรื่องของแบรนด์
ถ้าแบรนด์ยังพูดคนเดียว อย่าแปลกใจที่เขาจะเลื่อนผ่าน
แต่ถ้าอยากอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ เริ่มจากฟังให้มากกว่าที่เคย
📌 อยากเข้าใจ Gen Z บน TikTok แบบใช้ได้จริง
เรียนรู้กลยุทธ์ TikTok 2025 ที่แบรนด์ต้องรู้ พร้อม Case Study
กับคอร์ส Content Marketing Strategy on TikTok รุ่น 19
อ่านรายละเอียดต่อใต้คอมเมนต์

🔥 ยุค AI Search มาแรง!เทคโนโลยีเปลี่ยน ⚡ พฤติกรรมเปลี่ยน 👥 นักการตลาดก็ต้องเปลี่ยน!Customer Journey ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไ...
25/09/2025

🔥 ยุค AI Search มาแรง!
เทคโนโลยีเปลี่ยน ⚡ พฤติกรรมเปลี่ยน 👥 นักการตลาดก็ต้องเปลี่ยน!

Customer Journey ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เมื่อ User ถาม → Generative AI 🤖 ดึงข้อมูลจาก Search Engine → ประมวลผล → สรุปคำตอบทันที

การค้นหาแบบเดิม ๆ ถูกสั่นคลอน 🌐 แบรนด์ของคุณพร้อมแค่ไหน? ช้าไม่ได้! ต้องปรับตัวให้ไว รับมือให้ทัน 🚀

“นักการตลาดควรปรับตัวอย่างไร เมื่อโลกการ Search มี AI มาคั่นกลาง” สรุป Session Age of AI Search โดยคุณไอซ์ ศิริพงษ์ กลิ่นขจร, CEO & Co-Founder, Nerd Optimize เซียน SEO ของวงการ จากงาน TDA Next 2025

ใครพลาดไม่ได้ไปฟังที่งานสัมมนาดีๆที่จัดขึ้นโดย True Digital Academy เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา Marketing Oops! สรุปมาให้อ่านเต็มๆในโพสต์นี้แล้ว
___________________________

คุณไอซ์ ศิริพงษ์ เริ่มต้นด้วยการชวนให้ทุกคนสังเกตพฤติกรรมการค้นหา (Search) ของตัวเองที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน จากเดิมที่เคยค้นหาเป็นคำๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นการค้นหาเชิงบทสนทนา (Conversational Search) มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ในอดีตถ้าเราเสี่ยงจะเป็นโรคเกาต์ เราอาจจะค้นหาว่า “โรคเกาต์ อาการ”

แต่ปัจจุบันพฤติกรรมได้เปลี่ยนไป คุณไอซ์ยกตัวอย่างล่าสุดของตัวเองที่ไปทานเกาเหลาหมูตุ๋นมา แล้วเกิดเจ็บที่ขา จึงค้นหาใน Google ว่า “เกาเหลาหมูตุ๋น กระตุ้นยูริกไหม” ซึ่ง Google ก็ให้คำตอบผ่าน AI Overview สรุปข้อมูลทั้งหมดมาให้ได้ทันที

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเมื่อพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป ในฐานะนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจ เราจะปรับตัวอย่างไร

เพราะเว็บไซต์ของเราที่เคยอยู่อันดับต้นๆของผลการค้นหา อาจถูกลดความสำคัญลงไปอยู่ข้างล่าง ถัดจากคำตอบของ AI Overview ส่งผลให้คนเข้าเว็บไซต์น้อยลง

ในเซสชันนี้ คุณไอซ์ได้สรุปแนวทางการปรับตัวออกเป็น 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่
_________________________
1. Technology Shift: ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของ AI Search
2. People Change: พฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป
3. Marketer Adapt: นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจควรปรับตัวอย่างไร
________________________

[ 1️⃣Technology Shift: เมื่อ AI คั่นกลางระหว่าง User และ Search Engine]

ปัจจุบัน Customer Journey ในการค้นหาเปลี่ยนไปมากที่สุดเพราะการมาถึงของ Generative AI อย่าง ChatGPT, Perplexity หรือ Claude ทำให้คนเปลี่ยนจากการค้นหาเป็นคำสั้นๆ มาเป็นการถามคำถามที่ยาวและซับซ้อนขึ้น

Google เองก็ได้นำ AI เข้ามาผสานกับการค้นหาใน 2 รูปแบบหลักคือ

👉 AI Overview:สรุปคำตอบมาให้ผู้ใช้เลย
👉 Google AI mode: แทปคุ้นหาใหม่ที่แชทคุยกับ Gemini ได้เลย

สิ่งนี้ทำให้กลไกการทำงานของ Search จึงเปลี่ยนไปจากการค้นหาแล้วได้ผลลัพธ์เป็น Link

กลายเป็น User ถาม, Generative AI → AI ดึงข้อมูลจาก Search Engine →ประมวลผล → สรุปเป็นคำตอบให้ผู้ใช้
_______________________
การที่เราจะรู้ว่าต้องปรับตัวอย่างไร คุณไอซ์ ลงลึกไปถึงเทคนิกของ AI ในการค้นหาข้อมูลมาตอบเรา โดยทีมงาน Nerd Optimize ได้ไปค้นคว้าและพบสิทธิบัตรของ Google ที่อธิบายหลักการทำงานที่เรียกว่า

👉 “Query Fan-Out”

หลักการคือ เมื่อ AI ได้รับคำค้นหาที่ซับซ้อนจากผู้ใช้มันจะทำการ "แตกแขนง" (Fan-out) คำค้นหานั้นออกเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้วผู้ใช้ต้องการอะไรกันแน่

จากนั้นจึงจะวิ่งไปหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ (Sources) ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อย่อยเหล่านั้นเพื่อนำมาคิดเป็นคำตอบ

เช่น ถ้าผู้ใช้ค้นหาว่า “อยากได้บัตรกดเงินสดที่ใช้รูดซื้อของได้ด้วย เลือกของที่ไหนดี”

AI จะแตก Query ออกเป็น

Fan-out 1: บัตรกดเงินสด ที่ใช้รูดซื้อของได้ 2025
Fan-out 2: บัตรกดเงินสด รูดซื้อ SCB Speedy Cash
Fan-out 3: KTC บัตรกดเงินสด ที่รูดได้

แล้วจึงไปดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหัวข้อ มาสร้างเป็นคำตอบสรุปให้ผู้ใช้ สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งให้ให้เราต้องปรับตัวตามให้ทันเช่นกัน
____________________________
[2️⃣ People Change: พฤติกรรม Super Long-tail Keyword]

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีส่งผลให้พฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้เปลี่ยนจาก
Short-tail ไปสู่ Long-tail และกำลังจะกลายเป็น Super Long-tail Keyword คือการค้นหาที่เฉพาะเจาะจงและกระจัดกระจายมากๆ

ยกตัวอย่างเช่น

Short-tail: ที่เที่ยวโตเกียว (ปริมาณค้นหา 4,400)
Mid-tail: ที่เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง (ปริมาณค้นหา 2,000)
Long-tail: ที่เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง 1 วัน (ปริมาณค้นหา 1,000)
Super Long-tail: ที่เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง 1 วัน สำหรับครอบครัวที่มีเด็กผู้ชายอายุ 3 ขวบ

ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงนี้ ทำให้ Google เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถแสดงโฆษณา (Google Ads) ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย
_____________________________

แล้วอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก AI มากที่สุด จากข้อมูลของ BrightEdge (พ.ค. 2024 - พ.ค. 2025) พบว่าอุตสาหกรรมที่ AI Overview เข้ามาแสดงผลมากที่สุดคือ

👉 Healthcare
👉 Education
👉 B2B Tech
👉 Insurance
👉 Travel
👉 Entertainment

หมายความว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้มีโอกาสที่ทราฟฟิกเข้าชมเว็บไซต์จะลดลงมากที่สุด จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้ด้วย
_________________________

[3️⃣ Marketer Adapt: 3 ขั้นตอนการปรับตัวสู่ยุค AI Search]

คุณไอซ์ได้สรุปแนวทางการปรับตัวสำหรับนักการตลาดออกมาเป็น 3 ขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสถูก AI เลือกไปแสดงผลมากขึ้นนั่นก็คือ
_________________________
ขั้นตอนที่ 1 Website : ทำ AI-Ready Fondation
ขั้นตอนที่ 2 Content : ทำ Structured Data และ Personalized Content
ขั้นตอนที่ 3 Brand : สร้างตัวตนให้แบรนด์ในโลกออนไลน์
_________________________

[ขั้นตอนที่ 1: Website]

สิ่งแรกที่คุณไอซ์บอว่าต้องทำคือ ทำให้ AI Bot สามารถเข้ามาอ่านและเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของเราได้อย่างสะดวก สิ่งนี้เรียกว่าการทำ AI-Ready Foundation ซึ่งในเชิงเทคนิคมี 3 อย่างที่ต้องทำก็คือ

👉Robots.txt: เป็นไฟล์ที่ใช้บอก Bot ว่าหน้าไหนเข้ามาเก็บข้อมูลได้ หรือหน้าไหนห้ามเข้า ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราไม่ได้บล็อก Bot ที่มีประโยชน์ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

👉 LLMs.txt / LLMs Bot Coding: เป็นมาตรฐานใหม่ที่กำลังจะมา ใช้สำหรับบอก AI หรือ LLM โดยเฉพาะว่าเนื้อหาส่วนไหนในเว็บเราที่สำคัญ หรือส่วนไหนที่ไม่ต้องสนใจ

👉 AI Card: จากการรีเสิร์ชพบว่า ChatGPT มีสิทธิบัตรที่เอื้อให้เราสามารถเชื่อมต่อกับ AI ได้โดยตรง ผ่านการติดตั้ง Script ที่เรียกว่า AI Card ในเว็บไซต์ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ ChatGPT ดึงข้อมูลจากเว็บของเราไปใช้ตอบคำถามมากขึ้น

ทั้งหมดนี้อาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือ IT ให้ช่วยปรับปรุงเว็บไซตของเราดู
___________________________

[ขั้นตอนที่ 2: Content]

การทำคอนเทนต์ในยุค AI Search กำลังเติบโตก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยคุณไอซ์แนะนำว่าจำเป็นจะต้องทำคอนเทนต์ให้มีโครงสร้างที่ AI ชอบ Structured Data และทำเนื้อหาให้หลากหลายและเฉพาะเจาะจงหรือ Hyper-Personalized Contentให้มากขึ้น

👉 Structured Data (Schema Markup): คือการใส่โค้ดชุดหนึ่งเข้าไปในหน้าเว็บ เพื่อ "สรุป" ให้ AI เข้าใจว่าเนื้อหาในหน้านั้นเกี่ยวกับอะไร เช่น นี่คือสูตรทำอาหาร, นี่คือรีวิวสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ AI ดึงข้อมูลไปแสดงผลได้ง่ายและถูกต้องมากขึ้น

👉 Hyper-Personalized Content: เราจำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายและเฉพาะเจาะจง (Specific) มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การค้นหาแบบ Super Long-tail

ตัวอย่างเช่น → แทนที่จะทำคอนเทนต์กว้างๆ อย่าง "โปรแกรม HRM สำหรับ SME" เราควรทำคอนเทนต์ที่เจาะจงลงไปเลย เช่น "โปรแกรม HRM สำหรับ SME พนักงาน 5 คน" หรือ "โปรแกรม HRM สำหรับ SME พนักงาน 30 คน" เพราะ AI จะแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตามความต้องการของผู้ใช้

เครื่องมือช่วย: คุณไอซ์ได้แนะนำเครื่องมือ Query Fanout Analysis Tool บนเว็บไซต์ NerdOptimize ที่ช่วยจำลองการทำงานของ AI ในการแตกแขนง Query เพื่อให้เราเห็นไอเดียว่าควรจะสร้างคอนเทนต์ใหม่ หรืออัปเดตบทความเดิมในหัวข้อย่อยใดบ้าง

หรือถ้าไม่ใช้ก็ลองใช้ Chat GPT หรือ Gemini ของแตกแขนงคอนเทนต์ของเราออกมาก็ยังได้
______________________________

[ขั้นตอนที่ 3: Brand ]

การทำแบรนด์ดิ้งในยุค AI Search จะเปลี่ยนไป เพราะเราต้องสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ให้มากขึ้นด้วย โดยคุณไอซ์บอกว่า 3 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของเราถูก AI กล่าวถึงใน AI Overviews

👉 Branded Web Mentions: คือการที่แบรนด์ของเราถูกพูดถึงบนเว็บไซต์อื่นๆ ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ยิ่งมีการทำ PR หรือมีเว็บจัดอันดับต่างๆ พูดถึงเรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ AI รู้จักและพูดถึงแบรนด์เรามากขึ้น

👉 Branded Anchors: คือการทำ Link Building ที่มีคนลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา โดยใช้ "ชื่อแบรนด์" เป็นข้อความในลิงก์ (Anchor Text) ให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เว็บไซต์ Marketing Oops! เขียนบทความวิเคราะห์เทรนด์ SEO และมีการอ้างอิงถึงบริษัทของคุณไอซ์ (Nerd Optimize)

ในเนื้อหาบทความอาจจะเขียนว่า "หนึ่งในเอเจนซี่ที่น่าจับตามองและมีเครื่องมือที่เป็นประโยชน์คือ Nerd Optimize ซึ่งได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้"

โดย Marketing Oops! ทำให้ข้อความที่เป็นชื่อแบรนด์ "Nerd Optimize" ในประโยคนั้น เป็นลิงก์ที่สามารถคลิกได้ และเมื่อคลิกแล้วจะนำผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์ nerdoptimize.com

ทำแบบนี้ก็จะเพิ่มโอกาสให้ AI เลือกเนื้อหาจากเว็บ Nerd Optimize ไปตอบคำถามคนที่สงสัยเรื่องเทรนด์ SEO ได้นั่นเอง

👉 Branded Search Volume: คือปริมาณการค้นหา "ชื่อแบรนด์" ของเราโดยตรง เราต้องทำให้คนอยากค้นหาแบรนด์ของเรามากขึ้น เช่น การสร้างเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ หรือสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจจนคนต้องเข้ามาใช้งานที่เว็บไซต์ของเราบ่อยๆ
______________________________

สุดท้าย คุณไอซ์สรุปว่า การปรับตัวในยุค AI Search ต้องทำทั้ง 3 ส่วนควบคู่กันไป ตั้งแต่การเตรียม Website ให้พร้อม, การสร้าง Content ที่เฉพาะเจาะจงและมีโครงสร้าง และสุดท้ายคือการสร้าง Brand ให้แข็งแกร่งผ่าน Omnichannel Presence, Brand Mention, Link และ Search Volume นั่นเอง

!

24/09/2025

แบรนด์ต้องรู้! 💄✨ สรุป 10 เทรนด์ Beauty & Wellness 2025 จาก Nielsen ที่กำลังมาแรงสุด ๆ

เข้าใจเทรนด์ = เข้าใจตลาด 💡
ธุรกิจก็พร้อมต่อยอดให้ไปได้ไกลกว่าเดิมได้แน่นอน ✅

📢 DNA AGENCY เปิดรับ Content Editor ✨ใครที่ถนัดเขียนแคปชั่น ทำโพสต์ให้อ่านง่าย ดึงดูดใจ งานนี้ใช่เลย! 🖊️✅ งานหลักคือเขีย...
23/09/2025

📢 DNA AGENCY เปิดรับ Content Editor ✨

ใครที่ถนัดเขียนแคปชั่น ทำโพสต์ให้อ่านง่าย ดึงดูดใจ งานนี้ใช่เลย! 🖊️

✅ งานหลักคือเขียน + จัดทำคอนเทนต์ลงโซเชียล พร้อมใส่ลิงก์สินค้า
✅ ช่วยอัปเดตเทรนด์/หาไอเดียใหม่ ๆ ให้ทีม
✅ ทำงานเป็นทีมให้คอนเทนต์ออกไว ตรงเวลา
📸 ถ่ายรูปได้ จะพิจารณาเป็นพิเศษ

🕘 เวลางาน : จันทร์–ศุกร์ 9.30–18.30 น.
💵 เงินเดือน 18K–20K (สัญญาจ้าง 3 เดือน)
📍 ลาดพร้าว 71

สนใจส่งโปรไฟล์มาที่ 👉 [email protected]

คนเรายังมี Character ไม่เหมือนกัน… แบรนด์เองก็เช่นกัน! 💭 มาดูการวิเคราะห์บุคลิกแบรนด์ผ่าน Case Study ของ UNO! Coffee กัน...
23/09/2025

คนเรายังมี Character ไม่เหมือนกัน… แบรนด์เองก็เช่นกัน!
💭 มาดูการวิเคราะห์บุคลิกแบรนด์ผ่าน Case Study ของ UNO! Coffee กัน ☕
แล้วแบรนด์ของคุณล่ะ เป็นแบบไหน? 🤔

ทำความรู้จัก Brand Archetypes ให้ลึกขึ้น ผ่านกรณีศึกษาแบรนด์ระดับโลกเพิ่มเติมได้ที่นี่ 👇
▶️ https://blog.mandalasystem.com/th/brand-archetype
▶️ https://youtu.be/pq1VME60J-g?si=NneOinm40Cu2NUyk

📺 YouTube Shopping มากกว่าแค่ดูสนุกวิดีโอกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ เส้นทางการซื้อ 🛒ค้นหา 🔍 รีวิว ⭐ สั่งซื้อ 💳โดยเฉพาะการจับ...
22/09/2025

📺 YouTube Shopping มากกว่าแค่ดูสนุก
วิดีโอกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ เส้นทางการซื้อ 🛒
ค้นหา 🔍 รีวิว ⭐ สั่งซื้อ 💳

โดยเฉพาะการจับมือกับโปรแกรมแอฟฟิลิเอต Shopee
โอกาสใหม่ของพลัง Video Commerce ไทย เกิดขึ้นแล้ว!

เปิดอินไซต์ 1 ปี ‘YouTube Shopping’ การเติบโต และพลังของวิดีโอคอมเมิร์ซไทย
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา YouTube Shopping แสดงให้เห็นถึงบทบาทใหม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอ จากพื้นที่เพื่อความบันเทิง สู่โอกาสด้านอีคอมเมิร์ซ ด้วยการเติบโตของเวลารับชมคอนเทนต์ช้อปปิ้งกว่า 400% สะท้อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ออนไลน์ ที่เริ่มใช้วิดีโอเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการซื้อ ตั้งแต่ค้นหาสินค้า รีวิว จนถึงการตัดสินใจสั่งซื้อจริง
การเข้ามาของโปรแกรมแอฟฟิลิเอตที่จับมือกับ Shopee เป็นตัวเร่งสำคัญ ตัวเลขการเข้าชมเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ผู้ซื้อเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า และยอดขายพุ่งถึง 3.3 เท่าในครึ่งปีแรกของ 2568 ชี้ให้เห็นศักยภาพด้านธุรกิจผ่านการเล่าเรื่องของเหล่า ‘ครีเอเตอร์’ สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกที่คอนเทนต์ไม่เพียงทำหน้าที่สื่อสาร แต่กลายเป็นกลไกหลักของการค้าดิจิทัล
อีกปัจจัยสำคัญคือความน่าเชื่อถือ ครีเอเตอร์ YouTube ถูกมองว่าเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ผู้บริโภคเชื่อถือมากที่สุด งานวิจัยชี้ชัดว่ากว่า 98% ของผู้ชมมีแนวโน้มเชื่อคำแนะนำจาก YouTube มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ขณะที่ YouTube เองเข้าถึงผู้ใช้ออนไลน์ไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปได้กว่า 83% ซึ่งทำให้ฐานผู้บริโภคกว้างและมีน้ำหนักต่อการเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อ
ฟีเจอร์ใหม่ เช่น Shopping Stickers, Timestamps และ Chrome Extension ถูกออกแบบเพื่อเชื่อม ‘คอนเทนต์–สินค้า–การซื้อ’ เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ แทนที่จะเป็นเพียงการโฆษณา ฟีเจอร์เหล่านี้ผลักดันให้วิดีโอกลายเป็น ‘จุดขาย’ โดยตรง และอาจเป็นสัญญาณของทิศทางการตลาดในอนาคตที่ผู้บริโภคจะคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านคอนเทนต์แทบจะทันทีที่เห็น และบทบาทของครีเอเตอร์ไทยอาจเปลี่ยนจากการเป็นเพียง ‘ผู้เล่าเรื่อง’ ไปสู่ ‘ผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล’ อย่างเต็มรูปแบบ

!

🌍 น้อยแต่มาก เงียบแต่ดัง ลึกแต่กว้าง...3 กลยุทธ์จาก Earthquake Marketing 🌐ที่แบรนด์ต้องรู้ เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่พฤติกรร...
19/09/2025

🌍 น้อยแต่มาก เงียบแต่ดัง ลึกแต่กว้าง...
3 กลยุทธ์จาก Earthquake Marketing 🌐
ที่แบรนด์ต้องรู้ เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไว กฎเกณฑ์ก็เปลี่ยนเร็ว ⚡️

ใครตามทันก่อน คนนั้นได้เปรียบ!

ที่อยู่

Digital New Age Agency Co. , Ltd. (Head Office)
Bangkok
10230

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ DNA Agencyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์