26/09/2025
ผมเริ่มพบเจอเด็กไม่อ่านข้อสอบและไม่ใส่ใจในการเรียนมากขึ้น จากการสังเกตปีหลังๆการสอนในห้องเรียนทำได้ยากมาก เชื่อว่าไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่พบเจอปัญหานี้
ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดเช่นการเขียนตอบคำถาม เด็กจะตอบสั้นและตอบไม่ครบ มีการขาดหายไปของคำตอบเหมือนไม่อยากตอบและไม่ใส่ใจกับการเรียนเท่าที่ควร หากถามว่าน้ำมีประโยชน์หรือไม่เพราะอะไร ? เด็กก็จะตอบแค่ว่า"มี"โดยไม่ให้เหตุผลประกอบซึ่งผมพบเจอเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ
เด็กที่เดาคำตอบทำเพียงเพื่อผ่านพ้นไป ได้คะแนนเท่าไหร่เอาเท่านั้น ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นจากการที่แม้จะเอาข้อสอบชุดเดิมมาสอบเด็กก็ทำคะแนนได้น้อยลง
หากเป็นเพียงครั้งเดียวก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้ แต่หลายๆครั้งคะแนนผันผวน โดยปกติแล้วการนำข้อสอบชุดเดิมมาสอบควรจะได้คะแนนมากขึ้นเว้นแต่กรณีเดียวคือ "เด็กไม่อ่านข้อสอบเลย" จึงจำคำถามไม่ได้
นั่นคือคะแนนเกิดจากการสุ่มไม่ใช่เกิดจากความพยายาม
เดิมช่วงที่เป็นครูแรกๆ ผมจะออกข้อสอบชุดคู่ขนานนำมาฝึกนักเรียนก่อนเพื่อ pre-test เช่นคำถามพ่อไปตลาดก็จะเปลี่ยนเป็นน้าไปตลาด เพื่อหลบนักเรียน มีการสลับช้อย
ไม่ให้เด็กจำคำตอบแต่ปีหลังๆแทบไม่ต้องออกข้อสอบใหม่เลยใช้ข้อสอบชุดเดิม(เฉลยให้ด้วย)เด็กก็เหมือนเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
ในภาพข้อสอบที่ผมโพส คนเป็นครูด้วยกันจะเข้าใจถึงความเจ็บปวดว่ามันเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ต้องอธิบาย สอบปลายภาคเก็บ 30 ข้อ แล้วดูสิ่งที่เด็กกาข้อสอบมา ดูภาพแล้วคุณเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่า ?
หากเรายังคิดว่านี่เป็นเรื่องเล่นๆการศึกษาไทยจะดิ่งลงเหวจนไม่อาจวกกลับไม่ได้
"เล่นโทรศัพท์ได้ไหมครับ" คือสิ่งที่ได้ยินซ้ำๆเมื่อเด็กได้พัก
สิ่งเหล่านี้เข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตของพวกเขาจนยากที่จะขาดหาย สื่อที่มีความสนใจมากกว่าในห้องเรียน ทำให้เด็กแทบจะมีชีวิตกับโลกใบจำลองนั้นมากกว่าที่จะสนโลกจริงๆ
ลำบากก่อนสบายทีหลัง ไม่มีอยู่อีกต่อไปเด็กบางคนเลือกที่จะสบายก่อนลำบากนั่นคือเสพสื่อหรือติดเกมในมือถืออย่างมีความสุขมากกว่าที่จะอดทนเรียนแล้วค่อยไปเล่นในภายหลัง
การศึกษาไทยน่าห่วงมากเพราะปัญหาที่ครูและผู้ปกครองเผชิญต่อไปนี้ไม่ใช่แค่"ความไม่รู้" แต่ยังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและก้าวกระโดดจนทำลายวงการศึกษาไปด้วยและปัญหานี้ไม่อาจแก้ได้ด้วยครูเพียงคนเดียวและผมมองว่ามันยิ่งใหญ่ถึงระดับชาติ
เจอปัญหาอะไรบ้างมาแบ่งปันกันพร้อมวิธีหน่อยครับ
หรือเจออยู่คนเดียว