MCOT ESG Insight Facebook.com/MCOTESGInsight The Trusted Edutainer : คอนเทนต์ขับเคลื่อนสังคม สำหรับคน GEN Y

ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน)

16/07/2025

น้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ นวัตกรรมใหม่ช่วยฟื้นฟูดิน บำรุงพืช และเพิ่มผลผลิตยางพาราแก่เกษตรกรชาวสวนยาง อีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ภาคเกษตรกรเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
#โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง #น้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำ

“สิ่งที่เรากังวลเกิดขึ้นแล้ว” … คงเป็นคำพูดของ “อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง” ผู้คิดค้นยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก อย่างที่ทุกคนทราบก...
16/07/2025

“สิ่งที่เรากังวลเกิดขึ้นแล้ว” … คงเป็นคำพูดของ “อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง” ผู้คิดค้นยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ยาฆ่าเชื้อ” หรือ ยาปฏิชีวนะ (AMR) หากกินไม่ครบโดส หรือ หยุดยาเอง จะเพิ่มปัญหาในการดื้อยา เช่น เชื้อแบคทีเรียอาจถูกกำจัดไม่หมด ไปจนถึงการติดเชื้ออาจกลับมาเป็นซ้ำ แล้วผู้คิดค้นล่ะ ! รู้หรือไม่ ? หรือไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
คำตอบคือ แน่นอนอยู่แล้วว่าความเป็นนักวิทยาศาสตร์ จะมีความช่างสังเกต และตั้งข้อสันนิษฐานก่อนเสมอ ดังนั้น อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง จึงกังวลใจอยู่เสมอเกี่ยวกับการดื้อยา และ Dr Bill Frankland ก็เคยเผยแพร่คำเตือนจาก อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง ว่า “Fleming said there would be a revolution, but doctors will overuse it, and because bacteria have to survive...they will become resistant to it” ซึ่งสรุปง่าย ๆ ว่า จะเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ในวงการแพทย์ เพราะแบคทีเรียจะพัฒนาความสามารถในการดื้อยานั่นเอง
ทราบหรือไม่ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ยกให้การดื้อยานี้เป็นหนึ่งใน “วิกฤตสุขภาพระดับโลก” โดยเรียกปัญหานี้ว่า “เชื้อดื้อยา” ที่สามารถยับยั้งการทำงานของยาปฏิชีวนะ ทำให้การรักษาผู้ป่วยไม่ได้ผลดีดังเดิมและมีโอกาสเสียชีวิตจากการติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งสาหตุเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกต้อง หรือได้รับยาปฏิชีวนะเกินขนาดและเกินความจำเป็น โดยในปี 2022 มีเด็กมากกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก เสียชีวิตจากการติดเชื้อที่เกิดจากการดื้อยาปฏิชีวนะ และผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ผ่านวารสาร Lancet ระบุว่าโลกจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากการติดเชื้อดื้อยาสูงถึง 39 ล้านคน ตั้งแต่ปี 2025-2050
ลองจินตนาการถึงความน่ากลัว หากหลังจากนี้ เรากำลังจะเข้าสู่ยุคที่ยาฆ่าเชื้อจะ “ไม่ได้ผลอีกต่อไป” การผ่าตัด เคมีบำบัด หรือแม้กระทั่งการคลอดเด็กคนนึงให้ออกมาลืมตาดูโลก จะไม่สามารถใช้ยาฆ่าเชื้อได้อีก แล้วต่อไปเราจะยังมีมนุษย์อยู่บนโลกนี้อีกหรือไม่
ปัญหาที่เกิดจากการซื้อยาฆ่าเชื้อมาทานเอง หรือการทานยาไม่ครบโดส อาจจะไม่แสดงอาการวันนี้ แต่ในวันข้างหน้า นี่คือปัญหาใหญ่เกินที่เราจะแก้ไขได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ การดื้อยาปฏิชีวนะสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้เช่นเดียวกับโรคทางพันธุกรรมอื่น ๆ
ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เราที่ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่นักจุลชีววิทยา ไม่ใช่คนในวงการการแพทย์ จะต้องทำอย่างไรเพื่อลดโอกาสการดื้อยาให้แก่ตัวเรา และครอบครัว
เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่
- ใช้ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ เมื่อจำเป็นเท่านั้น
- ใช้ยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและครบตามจำนวน
- ไม่ซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานด้วยตนเอง
- และหากมีอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสในการดื้อยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ ด้วยตนเองได้

#การดื้อยาปฏิชีวนะ #ยาฆ่าเชื้อ
บทความ : ภัทรานิษฐ์ ไชยยุทธนันท์
กราฟิก : พีรดา วงศ์เจริญ และ วิชญาดา แก้วตรีวงษ์

แหล่งอ้างอิง
https://shorturl.asia/ot6MD
https://shorturl.asia/cze1p
https://shorturl.asia/dNrvO
https://www.bbc.com/thai/articles/cp8vmj95y36o

ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
YouTube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

🌍 ถ้าขวดน้ำกระดาษหนึ่งใบ… ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ทั้งโลกได้แล้วบรรจุภัณฑ์ของคุณล่ะ?ฟัง Podcast ที่จะเปลี่ยนมุมมองเรื่...
15/07/2025

🌍 ถ้าขวดน้ำกระดาษหนึ่งใบ… ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ทั้งโลกได้
แล้วบรรจุภัณฑ์ของคุณล่ะ?

ฟัง Podcast ที่จะเปลี่ยนมุมมองเรื่อง Circular Economy ไปตลอดกาล

♻️ “Blackpink Water” ไม่ใช่แค่การลดพลาสติก แต่คือการเชื่อมโยง Pop Culture กับแนวคิด ESG ที่จับต้องได้ และเปลี่ยนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

📦 มาร่วมสำรวจว่าแพ็กเกจจิ้งแบบยั่งยืนไม่ใช่แค่ห่อของ แต่คือ “ตัวแทนความคิดของโลกใบใหม่”

🎧 ติดตามรับฟังได้แล้ววันนี้ บน YouTube : https://youtu.be/YXejJ_GphIE

#ขวดเดียวเปลี่ยนโลก #คลื่นความคิด965 #ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/PbPuxOiXhvo“การถาม ChatGPT 1 ครั้ง เท่ากับการเปิดไฟ LED 1 ชั่วโมง 20 นาที และการสร้...
04/07/2025

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/PbPuxOiXhvo

“การถาม ChatGPT 1 ครั้ง เท่ากับการเปิดไฟ LED 1 ชั่วโมง 20 นาที และการสร้างภาพด้วย ChatGPT 1 ครั้ง เท่ากับการชาร์จแบตโทรศัพท์เครื่องหนึ่งจนเต็ม”
หลายคนอาจไม่รู้ว่าเบื้องหลังความสะดวกสบายที่เราได้รับจาก ChatGPT ! คือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดยักษ์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลเพื่อระบายความร้อน แถมยังทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ไว้เต็มโลก
ในยุคที่ทุกคนเริ่มหันมาใช้ AI เพื่อเป็นตัวช่วยในการทำงานมากขึ้น จะมีกี่คนที่เริ่มตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่อาจกำลังตามมาแบบเงียบ ๆ เบื้องหลังความสะดวกสบาย รู้หรือไม่ว่า ในทุกๆ 4 ครั้งที่เราตั้งคำถามผ่าน ChatGPT เรากำลังเผาผลาญน้ำทีละครึ่งลิตร อาจจะฟังดูน้อยแต่หากนึกถึงจำนวนคนหลายล้านคนที่กำลังทำในสิ่งเดียวกัน จะเป็นปริมาณน้ำจำนวนไม่น้อย ในขณะที่การค้นหาด้วย Google ใช้น้ำเพียงครึ่งมิลลิลิตร เพราะการตอบคำถามต่างๆ ของ AI จำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลในการประมวลผลมหาศาล จึงต้องมี Data Center หรือ ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากในการให้พลังงานอุปกรณ์ต่างๆ และจำเป็นต้องใช้น้ำเพื่อระบายความร้อนในระบบไฟฟ้า
ที่มากไปกว่านั้น เทคโนโลยี AI ยังทำให้ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์พุ่งสูงขึ้น และการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ยังสร้างมลพิษสู่ดิน น้ำ อากาศ อีกด้วย แม้ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ แต่ขยะ
อิเล็กทรอนิกส์จากโลกตะวันตกมักถูกส่งออกไปยังประเทศกำลังพัฒนาเพื่อแยกส่วนด้วยมือ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายทั้งต่อผู้ใช้แรงงานและชุมชน
แล้วเราจะทำอย่างไรดี ? เมื่อเราเป็นคนตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถเปลี่ยนและจัดการระบบฮาร์ดแวร์ได้ด้วยตนเอง หนทางที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน คือ “การใช้เท่าที่จำเป็น” และปรับปรุงคำสั่ง (Prompt) ให้ตรงเป้าที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้คำถามซ้ำ ๆ ลงรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อให้ได้คำตอบที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการ
AI ทำให้โลกฉลาดขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับราคา “ที่ต้องจ่าย” ให้กับความสะดวกสบายของเรา ถึงเวลาที่เราจะไม่ใช่แค่ใช้ AI ให้เป็น แต่ต้องใช้ให้ฉลาดและมีความ “รับผิดชอบ” มากขึ้นด้วย


บทความ : พีระวิชญ์ ถิรพัฒนาพร และ ภัทรานิษฐ์ ไชยยุทธนันท์
กราฟิก : พีรดา วงศ์เจริญ
อ้างอิง :
https://www.tnnthailand.com/earth/185054/
https://thaipublica.org/2024/11/sunisa31-e-waste-from-ai/

ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
Youtube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/Pe38N7HehV8🌏 เปิดโพย Thai Pavilion ที่งาน World Expo 2025 “แลนด์มาร์คที่นักเดินทางห...
01/07/2025

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/Pe38N7HehV8

🌏 เปิดโพย Thai Pavilion ที่งาน World Expo 2025 “แลนด์มาร์คที่นักเดินทางห้ามพลาด” ✨
ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ชอบเดินทาง อินกับนวัตกรรมการเปลี่ยนโลก Thai Pavilion ที่งาน World Expo 2025 คืออีกจุดหมายที่ควร “ปักหมุด” ตั้งแต่ตอนนี้ ภายใต้แนวคิด ภูมิพิมาน (Land of Immunity) ประเทศไทยได้นำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะศูนย์กลางสุขภาพโลก ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาไทย นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ และแนวคิดความยั่งยืน
พบกับการจัดแสดง 3 โซนหลักที่ไม่ควรพลาด!
📍Thai Wisdom (ภูมิวิถี) เริ่มต้นทริปด้วยประสบการณ์ Immersive Theatre ขนาดใหญ่ที่ถ่ายทอดเสน่ห์วิถีไทย การแพทย์แผนไทย และพลังของ “รอยยิ้ม” ที่มีมากกว่าความใจดี
📍Thai Medical & Wellness Hub (ภูมิคุ้มกัน) ไฮไลท์ของพาวิลเลียนไทย ที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์ และนวัตกรรมด้านสาธารณะสุขแบบขั้นสุด ไม่ว่าจะทั้งฟองน้ำห้ามเลือดจากข้าวเจ้า หุ่นยนต์ช่วยผู้สูงวัย ไปจนถึงโต๊ะ interactive ที่ให้ทุกคนออกแบบเมนูไทยเพื่อสุขภาพด้วยตนเอง
📍Thai Living Lap (ภูมิสยาม) ปิดท้ายด้วยการโชว์สินค้านวัตกรรมไทยที่ Eco-friendly เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย workshop การทำถุงหอม และธรรมชาติไทยบำบัด ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้ทุกคนหลงไหลในความเป็นไทย
Thai Pavilion ไม่เพียงแต่พูดเรื่องสุขภาพแต่ยังแฝงแนวคิด sustainable living ในทุกมิติตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไม่ทำลายธรรมชาติ สำหรับนักเดินทางงาน World Expo 2025 คือเวทีระดับโลกที่คุณห้ามพลาดที่จะได้ทั้งความสนุก ไอเดียใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจกลับไปอย่างแน่นอน
งาน World Expo 2025 จัดระหว่างวันที่ 13 เม.ย. - 13 ต.ค. 2025 ณ เกาะยูเมะชิมะ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดบัตรเข้าชมได้ทั้งแบบรายวันและแบบตลอดระยะเวลาจัดงานได้ที่ https://www.expo2025.or.jp/en/tickets-index/
📸อย่าลืมแวะมาเซลฟี่กับมาสคอต “น้องภูมิใจ” และแชร์รอยยิ้มชาวไทยให้โลกได้เห็นกัน



บทความ : พีระวิชญ์ ถิรพัฒนาพร
กราฟิก : วิชญาดา แก้วตรีวงษ์
ที่มาของภาพ : https://thailandpavilionworldexpo2025.com/
แหล่งอ้างอิง
https://thailandpavilionworldexpo2025.com/
https://a49.com/Projects/view/1052
https://www.thailandnow.in.th/innovation-sustainability/thailand-pavilion-at-osaka-expo-2025-showcases-wellness-innovation-and-cultural-harmony/
https://room.baanlaesuan.com/335496/design/focus/thailand-pavilion-expo-2025-a49
https://www.expo2025.or.jp/en/overview/sustainability/
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2853148

ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
Youtube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

“เสียใจด้วยนะครับ” …ผู้ชายอายุราว 45 ปี กำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกล่องที่มีแพ็คเกจเป็นร...
26/06/2025

“เสียใจด้วยนะครับ” …
ผู้ชายอายุราว 45 ปี กำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกล่องที่มีแพ็คเกจเป็นรูปปอดที่กำลังโดนทำลาย มือที่ว่างอีกข้าง จุดไฟแช็คให้ร้อน และค่อย ๆ เผาปลายกระดาษ
ทุก ๆ ครั้งที่เขาเครียด ท้อ กดดันจากสิ่งรอบข้าง เขาก็จะทำแบบนี้เป็นประจำ วันละ 8 - 10 ครั้ง ที่บ้านบ้าง ที่ออฟฟิศบ้าง ที่ป้ายรถเมล์บ้าง จนมีชายสูงวัยที่อยู่ใกล้เคียงกับเขาไม่พอใจ ทุกวันเขาก็จะได้ยินชายแก่คนนี้ด่าเป็นประจำ สูบบุหรี่ไม่กลัวตายหรือไง ? กะจะให้พ่อเผาผี ไม่เผาผีพ่อสินะ ? แต่คำพูดพวกนั้นก็เหมือน… “ควัน” ที่ลอยออกจากปากเขานั่นแหละ
จนถึงวันที่เขามีธุระบางอย่างในชีวิต “เสียใจด้วยนะครับ พ่อของคุณเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อยู่ได้ไม่ถึง 6 เดือนครับ” เสียงเบา ๆ ของหมอแผนกอายุรแพทย์ “ได้เผาผีพ่อแล้วสินะ” ชายแก่ที่บ่นเขาอยู่ทุกวันกล่าว ทั้งหมดเป็นเพราะพ่อของเขาได้รับควันบุหรี่มือ 2 จากเขา วันแล้ววันเล่า การสะสมของนิโคติน และสารเคมีอื่น ๆ จากบุหรี่ก่อเกิดเป็นโรคมะเร็งปอด จนไม่มีสิ่งไหน รักษาชีวิตพ่อของเขาไว้ได้อีกแล้ว …
นอกจากบุหรี่ที่เป็นยาเสพติดยอดฮิตแล้ว ยังมีสารเสพติดอื่น ๆ ที่สามารถทำลายร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา เฮโรอีน มอร์ฟีน ยาม้า หรือยาไอซ์ มันจะค่อย ๆ กล่อมประสาทเราอย่างช้า ๆ ในทุกครั้งที่เรารับพวกมันเข้าไปในร่างกาย
นอกจากที่พวกมันจะทำให้สมาธิสั้น ขาดสติ ความจำลดลง ทำลายระบบประสาท จนนำไปสู่พฤติกรรมที่รุนแรง หรืออาชญากรรมแล้ว โลกของเรา ก็ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดเช่นเดียวกัน ทั้งควันจากบุหรี่ชนิดต่าง ๆ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา หรือการที่จะได้มาซึ่งกัญชาแต่ละใบ ที่เราต้องเสียพื้นที่ปลูกพันธุ์ไม้ชนิดอื่นไปตั้งเท่าไหร่ มากไปกว่านั้น ยังมีขยะจากแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้อีกด้วย โดยขยะที่พบมากที่สุดคือ “ฟิลเตอร์บุหรี่” ซึ่งย่อยสลายได้ยาก สร้างปัญหาไมโครพลาสติก อีกทั้งการผลิตบุหรี่ 1 มวน ก็จำเป็นต้องใช้น้ำถึง 3.7 ลิตร ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำที่ควรบริโภคต่อวันของใครหลายคนด้วยซ้ำไป
รักษาปอดของเรา และปอดของโลกไปด้วยกัน 🌎 ยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่จะช่วยบำบัดความเครียดได้ อีกมากมาย ไม่ใช่แค่ความสุขเพียงชั่วครู่ในการเสพติดพวกมัน
โลกรักคุณ แล้วคุณ… รักโลกหรือยัง ?
เลิกบุหรี่ โทร 1600

#26มิถุนายนวันต่อต้านยาเสพติดโลก #วันต่อต้านยาเสพติด

บทความ : พีระวิชญ์ ถิรพัฒนาพร ภัทรานิษฐ์ ไชยยุทธนันท์ และ วิชญาดา แก้วตรีวงษ์
กราฟิก : พีรดา วงศ์เจริญ
อ้างอิง : https://www.sdgmove.com/2021/05/20/recap-world-drugs-situation-and-implication-on-sdgs/

ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
Youtube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/HDLnAVKdXjgถ้าให้ทุกคนคิดชื่อเมนูน้ำพริกทานคู่กับผักต้ม ทุกคนจะคิดถึงน้ำพริกอะไร ?ห...
24/06/2025

ฟัง PodCast ได้ที่: https://youtu.be/HDLnAVKdXjg

ถ้าให้ทุกคนคิดชื่อเมนูน้ำพริกทานคู่กับผักต้ม ทุกคนจะคิดถึงน้ำพริกอะไร ?
หลายคนคงมีคำตอบในใจว่า “น้ำพริกปลาทู”
แล้วถ้าบนโลกนี้ไม่มีปลาทูแล้ว ยังจะหลงเหลือน้ำพริกอะไรที่ให้รสชาติหอม มัน นัว และเป็นเอกลักษณ์ที่หาจากอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากน้ำพริกปลาทูอีก
อาจยังมีบางท่านที่ไม่ทราบว่า ปลาทูที่เรากำลังกินอยู่ตอนนี้ ส่วนมากไม่ได้มาจากทะเลของไทยแล้ว แต่เป็นปลาทูที่รับเข้ามา เนื่องจากปลาทูไทยนั้น “ใกล้สูญพันธุ์” เข้าไปเต็มที ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจำนวนปลาทูไทยลดน้อยลงเรื่อย ๆ หากจะเรียกว่าน้อยลงอย่างรวดเร็วก็ไม่ผิด ปลาทูที่เจริญเต็มวัยก็ถูกจับไปเป็นอาหาร ส่วนปลาทูที่ยังเป็นลูกปลาก็ติดไปกับอวนตาข่าย ถ้าเปรียบเทียบกับปี 2554 ประเทศไทยสามารถจับปลาทูได้มากถึง 136,000 ตัน แต่ 11 ปีต่อมาหลังจากนั้น ประเทศไทยกลับสามารถจับปลาทูได้เพียงแค่ 32,000 ตัน เท่านั้น ซึ่งลดน้อยลงถึง 4.25 เท่า
ปัญหาหลัก ๆ มาจาก ร่างแก้ไข มาตรา 69 พ.ร.ก. ประมงปี พ.ศ. 2558 ที่อนุญาตให้ใช้อวนตาข่ายเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรทำการประมง ทำให้ขัดขวางการเจริญเติบโตของสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านั้น พวกมันไม่มีโอกาสในการเจริญเติบโตก่อนถึงวัยที่จะถูกนำมาเป็นอาหารมนุษย์ รวมถึงสัตว์ใหญ่ในน้ำก็ไม่มีปลาน้อยไว้ให้กินเป็นอาหาร ทำให้ความยั่งยืนของระบบนิเวศทางน้ำค่อย ๆ สั่นคลอน การไม่คำนึงถึงผลกระทบ และการปล่อยปะละเลยของมนุษย์ เป็นจุดเล็ก ๆ ที่กำลังทำลายระบบนิเวศขนาดใหญ่ และสุดท้ายแล้วมันจะส่งผลกระทบกลับมาหามนุษย์เอง
อีกประเด็นสำคัญของร่างแก้ไข มาตรา 69 พ.ร.ก. ประมงปี พ.ศ. 2558 คือการอนุญาตให้สามารถล้อมจับสัตว์น้ำในตอนกลางคืนในระยะมากกว่า 12 ไมล์ทะเลได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ปลามาอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ในช่วงเวลากลางคืน คล้ายกับการที่แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ประกอบกับการใช้อวนตาข่ายที่มีขนาดเล็ก จึงทำให้จับปลามาได้ในปริมาณที่เกินความจำเป็นทั้งปลาใหญ่และปลาเล็ก
จำนวนปลาทูที่ลดลงไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและระบบนิเวศในทะเลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงมนุษย์โดยตรง ไม่ว่าจะทั้งความเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีตกค้างจากปลาทูนำเข้าเพราะต้องมีการใช้สารเคมีเพื่อรักษาความสดใหม่ของปลาทู อาชีพประมงท้องถิ่นที่ค่อย ๆ หายไป การส่งต่ออาชีพรุ่นต่อรุ่นก็จะเป็นไปได้ยากมากขึ้น เสี่ยงต่อการหายไปของการทำประมงพื้นบ้านตามวิถีดั้งเดิม ในท้ายที่สุดแล้ว การกระทำของมนุษย์ก็จะส่งผลกลับมาทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง
ถ้าหากพูดถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร ปัญหานี้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลในการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์สูงสุดเพื่อการฟื้นฟูระบบนิเวศในท้องทะเล รวมถึงความร่วมมือจากชาวประมงทุกภาคส่วน และพวกเราทุกคนที่จะร่วมด้วยช่วยกันปกป้องสัตว์น้อยใหญ่ในทะเลได้ ผ่านการลงชื่อยกเลิกการแก้ไข “ร่างแก้ไข มาตรา 69 พ.ร.ก. ประมงปี พ.ศ. 2558” ได้ที่ลิงก์ : https://shorturl.asia/6UOuG หรือ www.change.org
เพราะทะเล คือแหล่งอาหารสำคัญที่ทุกคน ควรช่วยกัน “ใส่ใจ”

#คัดค้านมาตรา69

บทความและกราฟิก : พีระวิชญ์ ถิรพัฒนาพร ภัทรานิษฐ์ ไชยยุทธนันท์ และ วิชญาดา แก้วตรีวงษ์
แหล่งอ้างอิง
https://shorturl.asia/WuRNf
https://www.springnews.co.th/keep-the-world/sustainable/856423
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/judprakai/1161142
https://www.seub.or.th/bloging/news/2024-192/
ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
Youtube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายทางเศรษฐกิจ 📉 หลาย ๆ ธุรกิจจึงต่างพากันขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองเพื่อหวังผลกำไ...
23/06/2025

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายทางเศรษฐกิจ 📉 หลาย ๆ ธุรกิจจึงต่างพากันขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองเพื่อหวังผลกำไร แล้วชาวบ้านอย่างพวกเราหล่ะ … จะอยู่อย่างไร ? 👩🏻‍🌾

🎙️ ไปรู้จักกับ ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ หรือ ด็อกเตอร์นัท ผู้จุดประกายความหวังให้กับ “วิสาหกิจชุมชน” และสร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกรไทย 🌱 จะเป็นอย่างไร ? เมื่อธุรกิจไม่ใช่แค่แนวคิดที่หวังผลกำไรอย่างในตำรา แต่เป็นพื้นที่ตัวกลางเพื่อให้คนในชุมชนอยู่ได้ มีรายได้ และมีความมั่นคง 🌍 แต่เจ้าของธุรกิจกลับไม่รับเงินแม้แต่บาทเดียว …

ถ้าอยากรู้ ❗️ว่าแรงบันดาลใจในการสวมบทบาทเป็น “เจ้าของร้านขายชำ” ยุคใหม่ ที่ไม่ต้องการกำไรเพื่อตัวเองคืออะไร ? ⭐️ กลุ่มเจ้าของร้าน ร้านนี้มีโมเดลในการสร้างร้านยังไง ? 🔎 หรือ พวกเขาคิดว่าร้านนี้จะไปได้ไกลมากแค่ไหน 🛒

ติดตามพร้อมกันได้ในรายการ
🎞️ “CEO VISTION PLUS ช่วง MCOT ESG Inside คลื่นความคิด 96.5 F.M.
📍วันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2568
🕝 เวลา 09.10 น.

📣 ประกาศผลผู้โชคดี กิจกรรม 5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 🌍🌳จากการร่วมสนุกตอบคำถาม“Lifestyle คนไหน...
20/06/2025

📣 ประกาศผลผู้โชคดี
กิจกรรม 5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 🌍🌳
จากการร่วมสนุกตอบคำถาม
“Lifestyle คนไหน เป็นมิตรกับโลกมากที่สุด”

คำตอบที่ถูกต้องคือ ✅ Tun

รายชื่อผู้โชคดี
1. Noopaisanr Harnwee
2. Shanvidh Badeerattha
3. Vanikan Ladapab
4. Tik Nitsikarn
5. Mee Pivo

🎁 รับ 🎁
ที่รองแก้ว (Hexagon Coaster)
อัพไซเคิลจากพลาสติกเก็บกลับจากบ้านเรือน

📌ผู้โชคดีทั้ง 5 ท่านจะได้รับการติดต่อกลับจากทีมงาน MCOT ESG Insight เพื่อรับของรางวัล

🎊ยินดีกับผู้โชคดีด้วยน้า...

ช่วยโลก🌍เริ่มต้นง่ายๆ ที่ตัวเรา 🙋🏻‍♀️🙋🏻‍♂️



ในยุคที่การเมืองมีความไม่แน่นอนในหลายพื้นที่ทั่วโลก  การอพยพถิ่นและลี้ภัยจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึง  รวมถึงส่งผ...
20/06/2025

ในยุคที่การเมืองมีความไม่แน่นอนในหลายพื้นที่ทั่วโลก การอพยพถิ่นและลี้ภัยจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึง รวมถึงส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก ! แม้ใน “ประเทศไทย” จะเป็นที่รู้จักในฐานะของประเทศที่รองรับผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่แสวงหาพื้นที่ลี้ภัย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการเมือง สังคม หรือเศรษฐกิจก็ตาม
ดังนั้น!! ความเป็นอยู่ของพวกเขา จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของ “ผู้ลี้ภัย” เราจึงควรตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น “สิทธิ์ในความเป็นมนุษย์” “สิทธิ์ในการรักษาพยาบาล” “สิทธิ์ที่จะมีชีวิตรอด” “สิทธิ์ที่จะได้รับการคุ้มครอง” รวมถึงอีกหนึ่งสิทธิ์ที่สำคัญที่สุด คือ “สิทธิ์ในการเข้าถึงอาหารและยา” ที่ปลอดภัยและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต
หากขาดอาหารในวันที่โหย ขาดน้ำในวันที่กระหาย ขาดยาในวันที่ไม่สบาย เป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร ?
ทั้งหมดนี้ เป็นสิทธิมนุษย์ขั้นพื้นฐานที่พวกเราได้รับ แต่อาจไม่ใช่สำหรับผู้ลี้ภัยในบางกลุ่ม … ในท้ายที่สุดแล้ว การสร้างโลกที่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะทั้งพลเมืองหรือผู้ลี้ภัย ก็จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และได้รับการเคารพในสิทธิ์ของตัวเอง รวมถึงได้รับความคุ้มครองอย่างเท่าเทียม
ปัจจุบัน แม้ประเทศไทยจะยังไม่มีนโยบายที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ชัดเจน แต่ประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมการเคารพเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยจะให้ความช่วยเหลือ และให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยชั่วคราวในประเทศ นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลืออย่าง มูลนิธิโคเออร์ ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ลี้ภัย ตลอดจนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ผู้ลี้ภัยในประเทศไทย โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางอีเมล [email protected] หรือโทร. 02 681 3900 ต่อ 1607 - 1618

#สิทธิมนุษยชน #ผู้ลี้ภัย #วันผู้ลี้ภัยโลก

บทความและกราฟิกโดย : พีระวิชญ์ ถิรพัฒนาพร ภัทรานิษฐ์ ไชยยุทธนันท์ และ วิชญาดา แก้วตรีวงษ์
อ้างอิง : https://www.punboon.org/foundation/01209
ที่มาของภาพ : Getty Images/bymuratdeniz

ติดตาม Content ดี ๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ทาง
Youtube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight

เปิดสูตรลับ "หงส์ไทย" จากยาดมสมุนไพร สู่แบรนด์ไทยที่รับประกาศนียบัตร Climate Action Leaders Recognition บนเวทีสากล ตอกย้...
15/06/2025

เปิดสูตรลับ "หงส์ไทย"
จากยาดมสมุนไพร สู่แบรนด์ไทยที่รับประกาศนียบัตร Climate Action Leaders Recognition บนเวทีสากล
ตอกย้ำ ความสำเร็จด้านความยั่งยืนจากการดูแล Planet People และ Profit อย่างสมดุล

📍ติดตามบทสัมภาษณ์เต็มได้เร็วๆ นี้ ในรายการ "คุยอย่างเสือ" Productivity Talk โดย เสือ สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ทาง https://m.youtube.com/ -sheet

ติดตาม Content ดีๆ ด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมได้ที่
YouTube : http://www.youtube.com/
Instagram : https://www.instagram.com/mcotesginsight?igsh=MW9ib2x2czd0Znlmcw==
TikTok : https://www.tiktok.com/.esg.insight?_t=ZS-8tKXlCN1D2v&_r=1

#สร้างคุณค่าสู่ความยั่งยืน #คุยอย่างเสือ #หงส์ไทย

5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 🌍🌳MCOT ESG Insight ชวนร่วมสนุกใต้โพสต์นี้ เพียงตอบคำถาม “Lifestyle ...
05/06/2025

5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 🌍🌳

MCOT ESG Insight ชวนร่วมสนุกใต้โพสต์นี้ เพียงตอบคำถาม
“Lifestyle คนไหน เป็นมิตรกับโลกมากที่สุด”

✅ Molly
✅ Tun
✅ Ken

ผู้ที่ตอบคำถามถูกต้อง
🎁ลุ้นรับ🎁
ที่รองแก้ว (Hexagon Coaster)
อัพไซเคิลจากพลาสติกเก็บกลับจากบ้านเรือน
📌จำนวน 5 รางวัล (โดยวิธีการสุ่ม)

📆ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ - 16 มิ.ย.68
🎊ประกาศผลผู้โชคดี 20 มิ.ย. 68

มาร่วมกันปรับการใช้ชีวิตให้ “ปลอดพลาสติก” และเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น

ช่วยโลก🌍เริ่มต้นง่ายๆ ที่ตัวเรา 🙋🏻‍♀️🙋🏻‍♂️



ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ MCOT ESG Insightผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง MCOT ESG Insight:

แชร์