PPTV Wealth ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก PPTV Wealth, บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร, 5 Soi Song-saart Vibhavadhi-Rangsit Road, Jompol, Bangkok, Bangkok.

สำนักข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงลึก วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด และเจาะประเด็นร้อนในโลกการเงิน พร้อมบทวิเคราะห์หุ้น สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสสร้างความมั่งคั่ง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเสนอโครงการ “คนละครึ่งพ...
25/09/2025

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเสนอโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือครม. ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและใช้สิทธิได้ทันทีหลัง ครม. เห็นชอบ
โดย “คนละครึ่งพลัส” มีแนวคิดหลัก 2 ด้าน คือ จะเน้นวินัยการคลังและการเข้าสู่ระบบภาษี ซึ่งสิทธิที่ได้รับจะพิเศษกว่าสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี เพื่อจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบการเสียภาษี และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย ที่จะมีการรีสกิลและอัพสกิลพ่อค้าแม่ค้า ให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำบัญชีและขายสินค้าออนไลน์ ขยายตลาดจากขายเฉพาะในพื้นที่ไปสู่ระดับอำเภอหรือทั้งประเทศ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลบัญชีให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้การกำหนดวงเงินงบประมาณและจำนวนผู้มีสิทธิ์ จะต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้เรียบร้อยก่อน
"เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็ว แต่ไม่ทำให้การขาดดุลเพิ่มขึ้น ใช้งบเดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มาตรการนี้ไม่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ยังวางรากฐานระยะยาว ด้วยการยกระดับทักษะผู้ค้าให้บริหารจัดการธุรกิจได้ดีขึ้น และสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน" นายเอกนิติ กล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังจะมีการเสนอโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในสัปดาห์ที่สองของการประชุม ซึ่งหลังจากที่ครม. เห็นชอบโครงการดังกล่าวแล้ว จะเริ่มให้ลงทะเบียนทันที ทั้งร้านค้าและประชาชน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้เลยภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ และ มีระยะเวลาใช้จ่ายสองเดือน คือต้องใช้จ่ายภายในเดือนพฤศจิกาถึงเดือนธันวาคม 68
ส่วนรูปแบบโครงการจะเป็นการช่วยเหลือ แบบ 50/50 หรือไม่ นายลวรณ ระบุว่า รายละเอียดจะต้องรอให้นายเอกนิติ ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงนโยบายเรียบร้อยก่อน แต่รายละเอียดคร่าวๆ ณ ขณะนี้คือ คนที่เสียภาษีจะได้วงเงินมากกว่าคนที่ไม่ได้เสียภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนไทยเสียภาษีมากขึ้น
#คนละครึ่ง #โครงการคนละครึ่งพลัส #เสียภาษี #คนละครึ่ง2568 #คนละครึ่งพลัส

25/09/2025

ช่วงนี้มีประเด็นเรื่อง "เงินลึกลับ" เงินปริศนาที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่เงินบาทเราแข็งค่านั้นมาจากตรงนี้ด้วยหรือเปล่า
ซึ่งเรียกเงินนี้ว่า "Net Errors and Omissions" นักเศรษฐศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจ เพราะเงินลึกลับนี้เข้ามาในไทยจำนวนมากขึ้นในช่วง 2-3 ปี ถึงไตรมาสละ 3–4 พันล้านดอลลาร์
พร้อมไปฟังคำตอบจากแบงก์ชาติ ว่าทำไม NEO 5 แสนล้านบาทช่วงมีนาคม 2568 ลดลงมาเหลือ 2.3 แสนล้านบาท ในเดือน กันยายน แล้วที่สำคัญท่าทีของรัฐบาลเตรียมแอคชั่นต่อเรื่องนี้อย่างไร ติดตามใน "MoneyDigest"
#เงินทุนสีเทา #ธนาคารแห่งประเทศไทย

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง วันพฤหัสบดี ที่ 25 ก.ย. 2568 ปิดตลาดราคาบวก 100 บาท จากวันก่อนหน้า ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 57,0...
25/09/2025

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง วันพฤหัสบดี ที่ 25 ก.ย. 2568 ปิดตลาดราคาบวก 100 บาท จากวันก่อนหน้า
ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 57,000.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 57,100.00 บาท/บาททองคำ
ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 55,864.60 บาท/บาททองคำ และขายออก 57,900.00 บาท/บาททองคำ
ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 15,075 บาท
ทอง 2 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 29,350 บาท
ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 7,938 บาท
ทอง 2 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 115,800 บาท
ทอง 5 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 289,500 บาท
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 3,757.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 32.13 บาท/ดอลลาร์
#ทองคำ #ราคาทองวันนี้ #ราคาทองล่าสุด #ออมทอง

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX)  ประเมินภาพรวมการลงทุนไตรมาส 4/2568 ว่า ทิศทางตลาดเริ่มมีความชัดเจนม...
25/09/2025

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินภาพรวมการลงทุนไตรมาส 4/2568 ว่า ทิศทางตลาดเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มสดใสขึ้นหลังจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีน้อยและช้ากว่าที่เคยประกาศไว้ ณ เดือน เมษายน
ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แต่ต้องจับตาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัว กดดันจากการส่งออกและภาคเศรษฐกิจในประเทศที่จะชะลอลง แต่เสถียรภาพการเมืองรวมถึงทีมเศรษฐกิจใหม่และนโยบายที่จะออกมาเป็นความหวังของเศรษฐกิจไทย
โดย InnovestX ประเมินกรอบเป้าหมายดัชนี SET ปี 2568 ที่ 1,350–1,400 จุด โดยมองว่าระดับต่ำกว่า 1,200 จุดเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ กลยุทธ์หลักคือการคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น AP, CENTEL, DIF, HMPRO และ MTC ควบคู่กับการจัดพอร์ตอย่างสมดุลในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ และ REITs เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและการลดความผันผวนในระยะยาว
#เศรษฐกิจ #เศรษฐกิจสหรัฐฯ #คนละครึ่ง #รัฐบาลอนุทิน #ลดดอกเบี้ย #เงินบาทแข็ง #หุ้นขึ้น #อินโนเวสท์เอกซ์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกทองคำข...
25/09/2025

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกทองคำของไทย เดือนสิงหาคม 2568 มีมูลค่า 1,111.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 144%
ส่งผลให้ 8 เดือน ตั้งแต่ มกราคม-สิงหาคม ปี 2568 มีการส่งออกทองคำมูลค่ารวม 8,733.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 87.7% ซึ่งถือเป็นสัดส่วน 3.9% ของมูลค่าส่งออกไทยทั้งหมดในช่วง 8 เดือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า การส่งออกทองคำไปกัมพูชาจำนวนมากมาจากปัจจัยใด นายพูนพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด แต่หากมองตัวเลขส่งออกตามพื้นฐานทั่วไป ก็มองว่า เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และคนกัมพูชามักให้ทองคำในช่วงเทศกาล ส่วนเรื่องๆ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์หรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงข้อมูล
#พาณิชย์ #ส่งออก #นำเข้า #ทองคำ #กัมพูชา #มูลค่า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประ...
25/09/2025

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ,นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ,นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายลวรณ แสงสนิทปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมคณะฯ
ประชุมหารือร่วมกับ นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยนายอนุทิน​ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​
ส่วนกรณีที่ Fitch Ratings บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกเป็นเจ้าถัดมาได้ประกาศปรับ Outlook ของประเทศไทยจาก "มีเสถียรภาพ" ไปเป็น "เชิงลบ" จากปัจจัยการเมือง รายจ่าย ในขณะที่รัฐบาลก็มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจลดค่าครองชีพและใช้เครื่องมือทางการคลังนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า การปรับลด Outlook เป็นการปรับลดจากพื้นฐานในอดีต วันนี้เป็นรัฐบาลใหม่ ซึ่งเราได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และจะพยายามดำเนินการ ให้ Outlook ปรับเพิ่มขึ้นโดยการสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดนโยบายต่างๆ
ส่วนกรณีที่ เงินทุนปริศนาไหลเข้าประเทศไทยจนส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทแข็งนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องเงินปริศนา นายเอกนิติ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือป้องกันให้ไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้
ซึ่งเงินดังกล่าวที่ไหลเข้ามา แล้วมีข้อสงสัยก็ต้องใช้การประสานงานติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เงินเหล่านี้เข้ามา ซึ่งการไหลเข้ามาแต่ละครั้งนั้นก็ส่งผลให้เงินบาทแข็ง กระทบผู้ประกอบการ ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องเร่งดำเนินการ พร้อมกับย้ำว่าเรื่องที่ผิดกฎหมาย ยังไงรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ
#ตลาดทุน #ครมเศรษฐกิจ #ครมอนุทิน #ตลาดหุ้น #นโยบายเศรษฐกิจ #กระตุ้นเศรษฐกิจ

25/09/2025

"เอกนิติ" เผย เตรียมชง "โครงการคนละครึ่งพลัส" เข้าที่ประชุม ครม. คาดเริ่มได้เร็วสุดสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เผย คนเสียภาษีได้สัดส่วนเยอะกว่า ลั่น! หวังกระตุ้นคนเข้าระบบภาษี ยกระดับร้านค้าสู่ระบบการคลังดิจิทัล

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารองค์กรสมาช...
25/09/2025

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารองค์กรสมาชิก ให้การต้อนรับ นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้แก่ ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
นางศุกจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเสนอข้อเสนอมาตรการ Quick - Big Win เสริมพลังความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและ ผู้ร่วมตลาด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตอกย้ำบทบาทตลาดทุนในการเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยในฐานะผู้แทนภาคเอกชนในตลาดทุนไทย พร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนตลาดทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น พื้นฟูเศรษฐกิจ และวางอนาคตระยะยาวให้กับประเทศไทย ผ่าน 4 ข้อเสนอหลัก ดังนี้
1. เสริมสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายภาครัฐ โดยจัดตั้งทีมงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคตลาดทุนเพื่อสื่อสาร Thailand Story แก่นักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ และเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด Country Roadshow
2. พัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economic Driver) ด้วยกลไกตลาดทุน ผ่านการจูงใจบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
3. เพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดทุนไทย ยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับการลงทุนระยะยาว สนับสนุนการลงทุนใน Thai ESG Scheme แบบถาวร และเพิ่มแรงจูงใจในการดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ
4. สู่อนาคตไทยที่ยั่งยืน Upskil-Reskill แรงงานไทย ผ่าน e-Learning ขับเคลื่อนโดยตลาดหลักทรัพย์ฯและบริษัทจดทะเบียน ปราบปรามการหลอกลวงการลงทุน เพื่อสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน และแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นภาระ อุปสรรค (Regulatory guilotine)
การได้นำเสนอข้อเสนอมาตรการ Quick - Big Win แก่ท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น และผลักดันให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ สอดรับกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านการดึงดูดการลงทุน การสร้างธุรกิจใหม่ และการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
ซึ่งมาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณามาตรการปฏิรูปตลาดทุนไทย (Taskforce) ซึ่งมาจากความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.ล.ต. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับในขั้นต่อไป สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะนัดเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม อันจะช่วยยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยโดยรวม
#สภาธุรกิจตลาดทุนไทย #มาตรการ #ลงทุน #ตลาดทุน #เศรษฐกิจ

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) โพสต์เฟซบุ๊ก Pipat Luengnaruemi...
25/09/2025

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) โพสต์เฟซบุ๊ก Pipat Luengnaruemitchai กล่าวถึง การที่ประเทศไทยถูก Fitch Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ปรับลด Outlook เครดิตเรตติ้งของไทยจาก Stable เป็น Negative ซึ่งส่งสัญญาณว่า ไทยมีโอกาสถูก Downgrade มากกว่า Upgrade ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ Moody’s ก็เพิ่งปรับมุมมองของไทยเป็น “Negative” และคาดว่า S&P Global Ratings ก็อาจจะมีแนวโน้มปรับเช่นกัน
ดร.พิพัฒน์ มองว่า การถูกปรับลด Outlook เครดิตเรตติ้งของไทยจาก Stable เป็น Negative สะท้อนภาพความเสี่ยงทางการคลังที่ก่อตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดย Fitch Ratings ให้ Moody’s ว่าความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจระยะยาว การ “เลื่อน” การลดหนี้ โดยเฉพาะการขาดดุลให้ต่ำกว่า 3% ของ GDP แต่ไม่เคยทำได้เลย และเลื่อนไปเรื่อยๆ และความไม่แน่นอนด้านการคลัง ทำให้ความเสี่ยงด้านการคลังมีสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางออกจึงอาจจะไม่ใช่การอัดฉีดแบบเดิม ๆ แต่รัฐบาลจำเป็นต้องมีแผนฟื้นฟูความน่าเชื่อถือการคลัง คือ

- ฝั่งรายได้ ต้องหาทางเพิ่มรายได้โดยไม่บั่นทอนการเติบโต เช่น การดึงคนและธุรกิจเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ทบทวนสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บให้มี Tax buoyancy ที่สูงขึ้น

- ฝั่งรายจ่าย ต้องกล้าลดการรั่วไหลและคอร์รัปชัน พร้อมกับเลือกลงทุนในสิ่งที่มีผลคูณต่อเศรษฐกิจสูง ลงทุนที่ทำให้ Productivity ของประเทศเติบโตมากกว่าการใช้จ่ายแบบที่สิ้นเปลืองไปโดยไม่เหลืออะไร และต้องการควบคุมวินัยทางการคลังอย่างจริงจัง ไม่ใช่หาที่ซ่อนภาระทางการคลังไว้ที่ต่างๆ รวมถึงการปฏิรูปประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจด้วย
#พิพัฒน์เหลืองนฤมิตชัย #ความเสี่ยงการคลัง #เครดิตประเทศ #เครดิตเรตติ้งไทย #ความไม่แน่นอนทางการเมือง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่...
25/09/2025

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ถือฤกษ์ดี เดินทางเข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก ในเวลา 08.19 น. และได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม โดยมีคณะผู้บริหาร และคณะทำงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมให้การต้อนรับและมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีจำนวนมาก
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ การดูแลมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพในการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงการเดินทางและการขนส่งของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียม
ที่สำคัญมีความตั้งใจทำงาน ร่วมกับรัฐมนตรีช่วยฯ และรัฐวิสาหกิจ รวมถึงคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม เพื่อผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าจะมีระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่เพียง 4 เดือน
แม้ว่าจะมีระยะเวลาการทำงาน 4 เดือน ก่อนจะมีการยุบสภา ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นภารกิจในการผ่านงบประมาณในปี 2569 แล้ว ก็จะช่วยกันทำงานอย่างเต็มความสามารถ โดยในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไปก็จะใช้งบประมาณได้
นอกจากนี้ หากลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามการทำงาน อยากขอให้เฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้รับผิดชอบลงพื้นที่ ส่วนหน่วยงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ปฏิบัติงานตามปกติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทำงานอย่างเต็มที่
ส่วนความชัดเจนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี​มีมติดำเนินการสิ้นสุดมาตรการ​ในเดือนกันยายน 2569 แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ต้องดูว่าสิ้นสุดตามรัฐบาลหรือไม่ และจะต้องมีการทำความเข้าใจ ข้อมูลรายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้ง เพราะโครงการนี้รัฐต้องมาชดเชยทุกปีเกือบ 20,000 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนก็พอใจกับโครงการนี้และมีบางส่วนที่อาจไม่พอใจ คาดว่า จะมีความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์​ข้างหน้า หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบาย แต่ยืนยันว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม​นี้จะกลับไปใช้ราคาเดิม
ในเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ตัวผมเองก็จะขอนำเข้าหารือใน ครม. อีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้รอบคอบ จากเดิม 20 บาทเฉพาะรถไฟฟ้าสองสี เราจะทำอะไรได้มากกว่านั้นหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอเวลา อาจจะเว้นช่องว่าง 1-2 สัปดาห์ เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้ที่รับผิดชอบก่อน
นอกจากนี้ ในส่วนประเด็นเรื่องเขากระโดง นายพิพัฒน์​ระบุว่า ได้หารือกับผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย​ ล่าสุด กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงแล้วว่า เป็นหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย​ เป็นผู้ที่จะดำเนินคดีฟ้องร้องครอบครอง
ซึ่งก่อนรับตำแหน่ง เคยให้สัมภาษ​ณ์ยืนยันว่า การรถไฟฯ จะดำเนินคดีกับผู้ครอบครอง 995 แปลงทุกราย พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่ว่ามาจากพรรคภูมิใจไทย นายกฯ เป็นหัวหน้าพรรค ดูแลมหาดไทย ดูแลกรมที่ดินได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี​ จะเอื้อกันหรือไม่ ยืนยันว่า ทำตามกฎหมาย
สำหรับนโยบายอื่นๆ จะแถลงหลังจากนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น การเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ / รถไฟทางคู่ / และบ้านเพื่อคนไทย
ด้านนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รู้สึกดีใจ โดยตนพร้อมทำงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและยกระดับสภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
#กระทรวงคมนาคม #รถไฟฟ้า #รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย #โครงการแลนด์บริดจ์

25/09/2025

Exclusive Talk ธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มองผลกระทบจากภาษีตอบโต้กำลังทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ภาคการส่งออกในช่วงที่เหลือ 4 เดือน แม้ว่าจะยังโตได้ แต่การโตจะแผ่วลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐที่ล่าสุดเติบโตลดลงไประดับครึ่งหนึ่ง

ส่วนของภาครัฐ ต้องการให้มีส่วนในการบริหารจัดการส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย โดยดอกเบี้ยนโยบายไม่สูงแล้ว แต่ส่วนต่างของดอกเบี้ยการกู้แบงก์พาณิชย์ยังสูง อยากให้ช่วยบริหารจัดการ รวมถึงต้นทุนอื่นๆ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ถ้ายังไม่ขึ้นจะช่วยได้มาก ขณะที่ภาค SMEs ที่ยังต้องช่วยดูแลโดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรนในส่วนผู้ประกอบการส่งออก

#บาทแข็ง #เศรษฐกิจ #ส่งออก #ภาษี่ทรัมป์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เดินหน้าโครงการทดสอบการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบา...
25/09/2025

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เดินหน้าโครงการทดสอบการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบาท เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศ
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ TouristDigiPay โดยออกหลักเกณฑ์รองรับและเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2568
ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการเกี่ยวกับโครงการทดสอบ (sandbox) การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบาท เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (TouristDigiPay)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมและสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตลอดจนออกหลักเกณฑ์รองรับโครงการดังกล่าว และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาโดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
หลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ TouristDigiPay มีดังนี้
(1) ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งมีความพร้อมในการดำเนินการตามรูปแบบ ขอบเขต และหลักเกณฑ์ของโครงการ TouristDigiPay และมีการเชื่อมต่อกับผู้ประกอบธุรกิจ e-money เพื่อให้สามารถนำเงินบาทที่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ไปซื้อสินค้าหรือบริการผ่านการสแกน Thai QR code ทั่วประเทศ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ก่อนให้บริการ
.
(2) ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ สามารถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยและพำนักอยู่ในประเทศไทยชั่วคราว โดยต้องทำความรู้จักตัวตนของผู้ใช้บริการ (KYC/CDD) ตามเกณฑ์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตามประเภทใบอนุญาตที่ได้รับ
(3) ผู้เข้าร่วมต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การรวบรวมและประเมินข้อมูลผู้ใช้บริการการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท การรายงานข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และมีแผนรองรับการยุติการให้บริการ ตลอดจนแผนประเมินประสิทธิภาพการให้บริการ
ทั้งนี้ โครงการ TouristDigiPay เปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่สนใจสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 – วันที่ 26 ธันวาคม 2568 โดยสามารถดูรายละเอียดการขอรับความเห็นชอบได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/Shortcut/Touristdigipay หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2263-6477 หรืออีเมล [email protected]
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวถึง TouristDigiPay ว่า เป็นโครงการทดสอบ (Sandbox) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง โดย ก.ล.ต. สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
และเชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านการสแกน Thai QR Code ซึ่งจะส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ตลอดจนกระจายรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
#สินทรัพย์ดิจิทัล #แลกเงินบาท #นักท่องเที่ยวต่างชาติ #ท่องเที่ยว

ที่อยู่

5 Soi Song-saart Vibhavadhi-Rangsit Road, Jompol, Bangkok
Bangkok
10900

เบอร์โทรศัพท์

+6621180080

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ PPTV Wealthผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง PPTV Wealth:

แชร์